รอยแค้น หัวใจรัก
-
1) ปะทะกัน!!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความกริ๊ง!! กริ๊ง !! เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในตอนเช้าตรู่ของวันเสาร์เจ้าของรีบเดินไปที่ต้นเสียงทันที ก่อนที่เจ้าของโทรศัพท์เสียงหวานจะลุกขึ้นมากดรับ ก่อนจะพูดกับเจ้าของปลายสายว่า
" ดีจ้าอิน อ๋อ เดี๋ยวมนจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลยจะ พอดีทำอาหารเช้าข้างล่างนะเลยรีบมารับช้าหน่อย ยังไงก็ขอโทษนะจ๊ะ"
"จ๊ะ รีบมานะจ๊ะมน อินรออยู่นะ" เสียงเจ้าของปลายสายเล็ดลอดออกมาจนคนรับได้ยินเต็มสองหู
"แน่นอนอยู่แล้วจ๊ะ ถ้าอย่างนั้น เจอกันตอน 9.00 น. นะจ๊ะเดี๋ยวเจอกันจ๊ะบายจร้า" สิ้นสุดเสียงหวานใสแล้ว มนชยารีบเดินลงไปทำอาหารต่อข้างล่างทันที เพื่อให้ทันนัดกับเพื่อนสาวอินทิราวันนี้ให้ได้..
"อื๊ม! เสร็จแล้ว เราเอาไปฝากอินดีกว่าเผื่อหิว" มนชยาสบถกับตัวเองเบาๆว่าจะนำอาหารที่ทำในวันนี้ไปฝากอินทิราเพื่อนสาวที่คบกันมานานกว่า 10 ปี เพราะ ทั้งสองเข้าเรียนในโรงเรียนที่เดียวกัน ทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ชอบช่วยเหลือกัน อีกอย่างสวยเหมือนกันด้วย!! ^^
..................................................
หลังจากที่มนชยาทำอาหารเสร็จแล้ว จึงรีบขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวทันทีเพราะเกรงว่าเพื่อนสาวจะรอนานเกินนัดภายในไม่ถึงชั่วโมงนี้อีกอย่างหนึ่งวันนี้ก็เป็นวันหยุดอีก.
ณ ร้านกาแฟ
"อ้าว มนมาแล้วเหรอจ๊ะ มาทางนี้เลยจร้า" อินทิราเห็นเพื่อนรีบวิ่งกระหืดกระหอบมาอย่างเร็วก่อนจะรีบโบกมือเพื่อแสดงว่าเธออยู่ตรงนี้
"จร้า" มนชยาตอบเสียงสั้นพร้อมปิ่นโตกับข้าวที่เตรียมมาให้เพื่อนสาวเมื่อเช้านี้เธอรีบถือเข้ามาจนลืมดูไปว่ามีคนๆหนึ่งกำลังเดินสวนทางกับเธอมาเหมือนกัน
"ผลั๊ก!!!" "โอ๊ย!!" อินทิราตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า ทำให้อาหารในปิ่นโตหกลงกับพื้นกระจัดกระจายไปหมด มนชยาร้องเสียงหลงเมื่อแรงที่เธอชนเป็นแรงของคนที่มีพละกำลังมหาศาลและเป็นผู้ชายอีกด้วย เธอจึงรีบลุกขึ้นมาก่อนจะกล่าวขอโทษผู้ชายคนนั้น
" เอ่อ ขอโทษค่ะ คือ ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ ขอโทษจริงๆค่ะ ขอโทษค่ะ.." ยังไม่ทันที่มนชยาจะพูดจบ เขาพูดกลับสวนขึ้นมาทันที
" นี่!! คุณ ดูให้มันดีๆหน่อยสิ ซุ่มซ่ามโดนคนอื่นเขาหมด ดูสิเสื้อผมเลอะหมดเลย" เขาอุทานกับตัวเอง ก่อนที่เงยหน้าไปมองหญิงสาวผู้เป็นต้นเหตุ....
"ขอโทษจริงๆค่ะ เอ่อ ขอโทษจริงๆนะคะ" เธอเงยหน้าขึ้นไปมองเขา ทั้งสองสบสายตาพร้อมๆกัน...
" นี่ เธอ ยัยมนชยา!!" เสียงเขาต่ำลงจนดูน่ากลัว
"คะ..คุณปรเมธเหรอคะ" มนชยาทำเสียงสั่นด้วยความกลัว ...ก่อนที่เขาจะเงื้อมมือมาหาเธอ อินทิราก็เข้ามาได้ทันเวลาพอดี
"นี่! เป็นอะไรมากไหมจ๊ะ แล้วผู้ชายคนนั้นเจ็บมากไหม " ก่อนจะหันไปขอโทษเขาแทนเพื่อนสาวอีกครั้ง
"ขอโทษนะคะเพื่อนดิฉันรีบไปนิดค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ" อินทิราไหว้อย่างนบน้อมเพื่อให้เขายอมสงบลงบ้าง
"ไม่เป็นไรครับ ทีหลังบอกเพื่อนคุณด้วยนะว่าให้ระวังมากกว่านี้" พร้อมรอยยิ้มที่มุมปากจนทำให้มนชยาดูตื่นตระหนกกลัวมากขึ้น อันที่จริงเขาจงใจจะขู่ให้เธอกลัวตั้งแต่แรกแล้ว อินทิรายิ้มรับ และก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากตรงนั้น ปล่อยให้ทั้งสองยืนเก็บปิ่นโตอยู่แค่สองคน
...............................................
หลังจากที่เรื่องราวผ่านไปแล้ว ทั้งสองจึงเข้าไปคุยกันในร้านกาแฟ
"นี่ มนเป็นอะไรหรือเปล่าเห็นหน้าซีดๆยังไงไม่รู้กลัวอะไรเหรอ" คำถามของอินทราเหมือนเป็นเข็มแทงใจดำของเธอก็ไม่ปาน ก่อนที่จะหันมาตอบอย่างใจดีสู้เสือ
"อ๋อ ..เปล่าจ๊ะ คือมนทำอาหารเลอะใส่เสื้อเขาน่ะแต่เขาบอกไม่เป็นไร มนเลยกลัวไง" มนชยาต้องจำใจโกหกอินทิราไปก่อนเผื่อเพื่อนสาวจะลืมเรื่องปรเมธไปได้บ้าง แต่คำตอบของเธอก็ไม่ได้ทำให้อินทิราลืมเลย เธอจึงถามต่อไปว่า
"ดูเหมือนว่ามนกับเค้ารู้จักกันเลยนะ และนานมากด้วย" เพื่อนสาวขี้สงสัยขมวดคิ้วไปหามนชยาทันที
มนชยารู้สึกกลัวและตกใจเล็กน้อยกับคำถาม จนทำให้เพื่อนอีกคนรู้ทันทีว่ามนชยากำลังมีอะไรปกปิดปิดบังอยู่แน่ๆเลย
"มน เป็นอะไรไปน่ะหน้าซีดอีกแล้ว ไม่สบายหรือเปล่าจ๊ะ?" อินทิราถามเพื่อนด้วยความห่วงใยก่อนจะพยุงไปนั่งโซฟายาวทางด้านหนึ่งของร้าน
"อ๋อ เปล่าจ๊ะ สงสัยแดดร้อนเกินไป มนเลยเวียนหัวน่ะ เดี๋ยวก็หายจ๊ะ อินไม่ต้องห่วงนะ" มนชยาตอบเพื่อนสาวอย่างละเอียดก่อนที่อินทิราจะหยิบยาดมจากในกระเป๋ามาให้มนชยา
"นี่ จ๊ะ ยาดม เดี๋ยวก็หายนะ ไม่ต้องห่วง อินอยู่ทั้งคน" พลางเข้ากอดเพื่อนสาวอย่างอ่อนโยน มนชยาเห็นความเป็นห่วงของอินทิรา ก็อดนึกถึงวันวานไม่ได้
(ซึ่งตอนที่มนชยาและอินทิรากำลังเรียนอยู่ในประถม 5 มีเด็กผู้ชายมารังแกมนชยาก็มีแต่
อินทิรานี่ล่ะที่คอยช่วยเหลือ..
"นี่อย่าทำอะไรมนนะ นี่แน่ะ นี่แนะ" อินทิราขว้างก้อนหินใส่พวกนักเลงผู้ชายพวกนั้น ก่อนที่จะเข้าไปพยุงตัวของมนชยาไว้
"ขอบใจนะที่ช่วยเราไว้" มนชยา กล่าวขอบคุณ
"อืมจร้า ไม่เป็นไร เราเป็นเพื่อนกันนี่นา เพื่อนรักด้วยนะ " ว่าแล้วทั้งสองก็หัวเราะด้วยกันอย่างมีความสุข) ..^^(ขอบอกนิดนึงกลัวคุณผู้อ่านงงคือตัวอักษรสีแดงคือความคิดของมนชยานะคะ!!)
"อิน จ๊ะ ขอบคุณมากๆเลยนะที่ยังอยู่เป็นเพื่อนมน ไม่ว่ามนจะทุกข์จะสุขหรืออะไรก็แล้วแต่มนก็ยังอุ่นใจที่มีอินอยู่เคียงข้างเสมอมา" และแล้วน้ำใสๆก็เริ่มไหลออกจากตาของหญิงสาวจนเพื่อนเกือบจะรั้งห้ามไว้ไม่ทันจนร้องไห้กันทั้งคู่ ... อินทิรายิ้มตอบว่า
"จร้า ไม่เป็นไรจร้า ก็เราเป็นเพื่อนกันนิ เพื่อนรักกันซะด้วย" อินทิราหัวเราะทั้งน้ำตาพลางกอดเพื่อนมนจำคำพูดของอินทิราตอนเด็กได้ชัดทุกคำ เธอยิ้มอย่างมีความสุขที่มีเพื่อนดีๆอย่างอินทิรา
...................................................
หลังจากที่มนชยาแยกกับอินทิราแล้ว เธอกำลังจะเดินขึ้น taxi กลับบ้าน แต่มีมือใครคนหนึ่งดึงไว้ซะก่อน
"จะไปไหนล่ะครับ คุณมนชยา" เสียงต่ำจนน่ากลัวจนทำให้เธอหันกลับไปดูทันทีว่าเป็นเสียงของปรเมธ
" คุณปรเมธ! ปล่อยฉันเถอะค่ะ ฉันเจ็บนะ!" มนชยารู้สึกถึงแรงที่เขากำลังบีบข้อมือเธอแรงขึ้นไปเรื่อยๆ
"ทำไมฉันจึงต้องปล่อยคนอย่างเธอด้วย นังแพศยา!! " สิ้นเสียงคำด่าของเขาแล้วจึงกระชากเธอขึ้นรถอย่างแรง มนชยาพยายามต่อต้านปรเมธ แต่ด้วยแรงอันมหาศาลผลักเธอให้ขึ้นไปในรถอย่างเร็ว ก่อนที่รถจะเคลื่อนที่ออกไป.....
ภายในรถปรเมธกำลังคุยโทรศัพท์กับใครคนหนึ่งซึ่งมนชยาแอบได้ยิน
"ผมได้ตัวเธอมาแล้วครับ เดี๋ยวทางนี้ผมจัดการเอง" สิ้นเสียงเจ้าของปลายสายพูดเขาจึงกดปิดโทรศัพท์ทันที มนชยาร้องตะโกนให้คนอื่นช่วย
"ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย!! ปล่อยฉันนะคุณปรเมธ ปล่อยนะคะ!!" มนชยาพยายามขัดขืน
"ร้องเข้าไป ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอก ต่อให้ตะโกนแหกปากออกไปก็ไม่มี เพราะฉันจะพาเธอที่วังกิตติวรรณะ รับรองเธอได้สุขสบายไปทั้งชาติแน่ๆ หึหึ" เขาหัวเราะในลำคอ ทำให้มนชยารู้สึกกลัวขึ้นมาพร้อมกับบอกเขาอย่างเงียบๆว่า
"คุณเมธ ปล่อยมนไปเถอะค่ะ มนไม่รู้เรื่องว่าคุณจับมนมาทำไม ไม่รู้จริงๆค่ะ มนจะไม่บอกใคร" เธอพยายามขอร้องชายหนุ่มทั้งน้ำตา แต่น้ำตาของเธอเขาก็ไม่สะเทือนอะไรทั้งนั้นก่อนจะตอบมนชยาไปว่า
"น้ำตาของผู้หญิงอย่างเธอ ทำอะไรฉันไม่ได้หรอกนะยัยมนชยา" ปรเมธบอกพลางขับออกไปและในที่สุดก็ถึง....
เขากระชากตัวเธอออกจากรถอย่างรวดเร็ว ก่อนจะนำเธอเดินออกไปป่าช้าข้างหน้า
"นี่คุณเมธ! จะพามนมาที่นี่ทำไมคะ?"
"ก็พามาเคารพศพของพ่อฉันยังไงล่ะ เพราะครอบครัวเธอทำให้ครอบครัวฉันต้องล่มจมก็เพราะเธอ" เขาชี้หน้าด่ามนชยาอย่างแรง
"ไม่จริง ฉันไม่รู้เรื่อง คุณเมธมีหลักฐานอะไรคะมาปรักปรำครอบครัวของมน!!" เธอตะโกนบอก
"ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐาน เพราะครอบครัวเธอทำให้พ่อฉันต้องตาย มานี่!!!" สิ้นเสียงซาตาน เขาก็พาเธอมาที่ห้องเล็กหลังหนึ่งข้างหลังวัง และผลักเธอไปผูกกับเสากลางไว้
"ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะคะ มนไม่ได้ทำ ปล่อยนะ ปล่อยนะคะ!!!" มนชยาพยายามตะโกนเรียกให้คนช่วย
"หึ ร้องเข้าไป ร้องให้ตายยังไงก็ไม่มีใครเขามาช่วยเธอหรอก แต่จะตายก็ดีนะฉันจะได้มีความสุขถ้าแก้แค้นให้กับครอบครัวสำเร็จ" ระหว่างที่เขากำลังจะเดินออกไป มนชยาจึงตะโกนไล่หลังมา
"ถึงฉันตายคุณก็จะติดคุก คุณจะไม่มีความสุข การแก้แค้นไม่ได้ทำให้ใครมีความสุขหรอกนะคะ เพราะฉะนั้นคุณเมธต้องตั้งสติให้ดีสิคะ" มนชยาพยายามเกลี้ยกล่อมให้ปรเมธใจอ่อนแต่เปล่าเลยเขาเดินเข้ามาบอกว่า
"ฉันไม่จำเป็นต้องเสียใจกับคนอย่างเธอ เพราะฉันเห็นเธอเป็นแค่ของที่ตายด้าน ไม่มีค่า ไม่มีความหมาย และอย่าหวังว่าชาตินี้ฉันจะทำดีกับเธอนะ จำเอาไว้"
เสียงประตูที่ปิดดัง ทำให้มนชยาต้องอยู่ในห้องมืดๆ เพียงลำพัง น้ำตาที่หยดเป็นสายไหลรินอาบแก้ม จนทำให้คนข้างนอกได้ยินเสียงสะอื้นจากภายใน โดยไม่รู้ว่าคนข้างนอกเค้ารู้สึกยังไงก่อนจะเดินจากไปโดยไม่มีความสงสารเลยสักนิด....
ทางด้านมนชยา ภายในห้องที่มนชยาถูกจับขังแทบจะไม่มีอากาศและยังมืดมิด ทำให้เธอแทบจะเป็นลมเมื่อมีฝุ่นหนาจับลอยไปลอยมาอยู่ทางอากาศ เธอพยายามจะร้องให้คนช่วย แต่ก็ไม่มีแรงที่จะตะโกนออกไป เธอกำลังจตายหรือนี่ ?? ที่นี่ไม่มีอากาศเลย เสียงลมหายใจของมนชยากำลังแผ่วเบาลง เธอหลับตานึกถึงมารดาของเธอ พลางสบถคนเดียวว่า
"แม่คะ มารับมนไปอยู่ด้วยเถอะค่ะ ทรมานเหลือเกิน มนไม่อาจอยู่ต่อไปได้อีกแล้ว" ก่อนที่เธอจะหลับตาลง เธอก็ได้ยินเสียงผลักประตูอย่างแรงก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลงไป
................................................
มนชยาลืมตาขึ้นมาก่อนจะพบว่าชุดของเธอถูกเปลี่ยนและตอนนี้เธอกำลังอยู่ในห้องกว้างห้องหนึ่งซึ่งประดับด้วยเพชรล้วนๆ เธอนอนอยู่บนเตียงที่หมอนเรียงรายอยู่เป็นระเบียบ เธอสังเกตมองไปรอบๆ ก่อนจะพบว่าในห้องนี้ไม่ใช่บ้านของเธอ แต่เป็นบ้านของใครกันนะ
"จริงด้วยสิ!!" เธอคิดได้จะพยายามหนี
ยังไม่ทันที่เธอจะพยายามคิดหนี ใครคนหนึ่งก็เดินเข้ามาขวางประตู
"คิดจะหนีเหรอ " ปรเมธพูดเสียงต่ำ
"คุณเมธ คุณจับฉันมาทำไมคะ !! ทำไมคุณทำแบบนี้ ฉันไม่รู้เรื่องอะไรด้วยจริงๆ" มือร่างใหญ่ขยุ้มมือร่างบางอย่างรวดเร็วก่อนจะตอบเธอไปว่า
"ก็เพราะเธอทำให้ครอบครัวฉันล่มสลายน่ะสิ ถามโง่ๆ เหตุผลเดียวของฉัน"
"ฉันเกลียดคุณ!!!"บัดนี้มนชยาเสียงต่ำลงบ้าง จนร่างใหญ่หันไปมองหน้าเธอ
"ก็ดีนิ เพราะฉันก็เกลียดเธอเหมือนกัน รวมถึงพ่อแม่ ครอบครัวเธอทั้งหมด ฉันเกลียดมันพวกมันทั้งตระกูลเลย!!" คำพูดนี้เสียดสีเข้าไปถึงขั้วหัวใจของเธอ ทำให้เธอกลั้นอารมณ์ไว้ไม่อยู่ เข้าไปตบหน้าปรเมธเข้าอย่างแรง!!
"เพี๊ยะ!!!" รอยหน้าของเขาบัดนี้มีรอยแดงของมือของเธอ และมันทำให้เขาเริ่มโกรธ
"มนชยา!! เธอกล้าตบหน้าฉันเหรอ" เขาเริ่มโกรธขึ้นมา
"ฉันเกลียดคุณ คุณจะทำอะไรฉันก็ได้ แต่อย่าเอาครอบครัวฉันมายุ่งเกี่ยวกับพวกสวะอย่างคุณ!!! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ" มนชยาพยายามผลักเขาออก แต่ก็ไม่เป็นผล มือหนา ผลักเธอให้ล้มลงไปบนเตียง
"คุณจะทำอะไรฉัน ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ปล่อยสิ!!!" ปรเมธค่อยๆปลดกระดุม ถอดเสื้อทีละน้อยๆออก
มนชยาเริ่มกลัว
"ไง กลัวขึ้นมาล่ะสิ โทษฐานที่กล้าทำกับฉันได้ขนาดนี้ มันต้องอย่างนี้ล่ะ" เขาเริ่มขยับเข้าใกล้เธอชั่วขณะ
"ช่วยด้วยอย่านะ ปล่อยนะ!!!!!" มนชยาพยายามทุบตี ผลักเขาแต่ก็ไม่เป็นผล
"ดูสิ ถ้าเธอเจอมลทินนี้เข้าไปล่ะก็ ผู้ชายที่ไหนเค้าจะเอาเธอ"
"ผู้ชายเลวๆอย่างคุณ ไม่ตายดีหรอกค่ะ" มนชยากล้าโต้ตอบ
"นี่เธอ ด่าฉันเหรอ ฮะ!!!!!"
แย่แล้วล่ะ!! ปรเมธจะทำอะไรกับมนชยาของเราเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปคงต้องโปรดติดตามครั้งต่อไปนะคะ ขอบคุณที่ร่วมวิจารณ์นะคะ!!^^
" ดีจ้าอิน อ๋อ เดี๋ยวมนจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลยจะ พอดีทำอาหารเช้าข้างล่างนะเลยรีบมารับช้าหน่อย ยังไงก็ขอโทษนะจ๊ะ"
"จ๊ะ รีบมานะจ๊ะมน อินรออยู่นะ" เสียงเจ้าของปลายสายเล็ดลอดออกมาจนคนรับได้ยินเต็มสองหู
"แน่นอนอยู่แล้วจ๊ะ ถ้าอย่างนั้น เจอกันตอน 9.00 น. นะจ๊ะเดี๋ยวเจอกันจ๊ะบายจร้า" สิ้นสุดเสียงหวานใสแล้ว มนชยารีบเดินลงไปทำอาหารต่อข้างล่างทันที เพื่อให้ทันนัดกับเพื่อนสาวอินทิราวันนี้ให้ได้..
"อื๊ม! เสร็จแล้ว เราเอาไปฝากอินดีกว่าเผื่อหิว" มนชยาสบถกับตัวเองเบาๆว่าจะนำอาหารที่ทำในวันนี้ไปฝากอินทิราเพื่อนสาวที่คบกันมานานกว่า 10 ปี เพราะ ทั้งสองเข้าเรียนในโรงเรียนที่เดียวกัน ทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ชอบช่วยเหลือกัน อีกอย่างสวยเหมือนกันด้วย!! ^^
..................................................
หลังจากที่มนชยาทำอาหารเสร็จแล้ว จึงรีบขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวทันทีเพราะเกรงว่าเพื่อนสาวจะรอนานเกินนัดภายในไม่ถึงชั่วโมงนี้อีกอย่างหนึ่งวันนี้ก็เป็นวันหยุดอีก.
ณ ร้านกาแฟ
"อ้าว มนมาแล้วเหรอจ๊ะ มาทางนี้เลยจร้า" อินทิราเห็นเพื่อนรีบวิ่งกระหืดกระหอบมาอย่างเร็วก่อนจะรีบโบกมือเพื่อแสดงว่าเธออยู่ตรงนี้
"จร้า" มนชยาตอบเสียงสั้นพร้อมปิ่นโตกับข้าวที่เตรียมมาให้เพื่อนสาวเมื่อเช้านี้เธอรีบถือเข้ามาจนลืมดูไปว่ามีคนๆหนึ่งกำลังเดินสวนทางกับเธอมาเหมือนกัน
"ผลั๊ก!!!" "โอ๊ย!!" อินทิราตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า ทำให้อาหารในปิ่นโตหกลงกับพื้นกระจัดกระจายไปหมด มนชยาร้องเสียงหลงเมื่อแรงที่เธอชนเป็นแรงของคนที่มีพละกำลังมหาศาลและเป็นผู้ชายอีกด้วย เธอจึงรีบลุกขึ้นมาก่อนจะกล่าวขอโทษผู้ชายคนนั้น
" เอ่อ ขอโทษค่ะ คือ ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ ขอโทษจริงๆค่ะ ขอโทษค่ะ.." ยังไม่ทันที่มนชยาจะพูดจบ เขาพูดกลับสวนขึ้นมาทันที
" นี่!! คุณ ดูให้มันดีๆหน่อยสิ ซุ่มซ่ามโดนคนอื่นเขาหมด ดูสิเสื้อผมเลอะหมดเลย" เขาอุทานกับตัวเอง ก่อนที่เงยหน้าไปมองหญิงสาวผู้เป็นต้นเหตุ....
"ขอโทษจริงๆค่ะ เอ่อ ขอโทษจริงๆนะคะ" เธอเงยหน้าขึ้นไปมองเขา ทั้งสองสบสายตาพร้อมๆกัน...
" นี่ เธอ ยัยมนชยา!!" เสียงเขาต่ำลงจนดูน่ากลัว
"คะ..คุณปรเมธเหรอคะ" มนชยาทำเสียงสั่นด้วยความกลัว ...ก่อนที่เขาจะเงื้อมมือมาหาเธอ อินทิราก็เข้ามาได้ทันเวลาพอดี
"นี่! เป็นอะไรมากไหมจ๊ะ แล้วผู้ชายคนนั้นเจ็บมากไหม " ก่อนจะหันไปขอโทษเขาแทนเพื่อนสาวอีกครั้ง
"ขอโทษนะคะเพื่อนดิฉันรีบไปนิดค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ" อินทิราไหว้อย่างนบน้อมเพื่อให้เขายอมสงบลงบ้าง
"ไม่เป็นไรครับ ทีหลังบอกเพื่อนคุณด้วยนะว่าให้ระวังมากกว่านี้" พร้อมรอยยิ้มที่มุมปากจนทำให้มนชยาดูตื่นตระหนกกลัวมากขึ้น อันที่จริงเขาจงใจจะขู่ให้เธอกลัวตั้งแต่แรกแล้ว อินทิรายิ้มรับ และก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากตรงนั้น ปล่อยให้ทั้งสองยืนเก็บปิ่นโตอยู่แค่สองคน
...............................................
หลังจากที่เรื่องราวผ่านไปแล้ว ทั้งสองจึงเข้าไปคุยกันในร้านกาแฟ
"นี่ มนเป็นอะไรหรือเปล่าเห็นหน้าซีดๆยังไงไม่รู้กลัวอะไรเหรอ" คำถามของอินทราเหมือนเป็นเข็มแทงใจดำของเธอก็ไม่ปาน ก่อนที่จะหันมาตอบอย่างใจดีสู้เสือ
"อ๋อ ..เปล่าจ๊ะ คือมนทำอาหารเลอะใส่เสื้อเขาน่ะแต่เขาบอกไม่เป็นไร มนเลยกลัวไง" มนชยาต้องจำใจโกหกอินทิราไปก่อนเผื่อเพื่อนสาวจะลืมเรื่องปรเมธไปได้บ้าง แต่คำตอบของเธอก็ไม่ได้ทำให้อินทิราลืมเลย เธอจึงถามต่อไปว่า
"ดูเหมือนว่ามนกับเค้ารู้จักกันเลยนะ และนานมากด้วย" เพื่อนสาวขี้สงสัยขมวดคิ้วไปหามนชยาทันที
มนชยารู้สึกกลัวและตกใจเล็กน้อยกับคำถาม จนทำให้เพื่อนอีกคนรู้ทันทีว่ามนชยากำลังมีอะไรปกปิดปิดบังอยู่แน่ๆเลย
"มน เป็นอะไรไปน่ะหน้าซีดอีกแล้ว ไม่สบายหรือเปล่าจ๊ะ?" อินทิราถามเพื่อนด้วยความห่วงใยก่อนจะพยุงไปนั่งโซฟายาวทางด้านหนึ่งของร้าน
"อ๋อ เปล่าจ๊ะ สงสัยแดดร้อนเกินไป มนเลยเวียนหัวน่ะ เดี๋ยวก็หายจ๊ะ อินไม่ต้องห่วงนะ" มนชยาตอบเพื่อนสาวอย่างละเอียดก่อนที่อินทิราจะหยิบยาดมจากในกระเป๋ามาให้มนชยา
"นี่ จ๊ะ ยาดม เดี๋ยวก็หายนะ ไม่ต้องห่วง อินอยู่ทั้งคน" พลางเข้ากอดเพื่อนสาวอย่างอ่อนโยน มนชยาเห็นความเป็นห่วงของอินทิรา ก็อดนึกถึงวันวานไม่ได้
(ซึ่งตอนที่มนชยาและอินทิรากำลังเรียนอยู่ในประถม 5 มีเด็กผู้ชายมารังแกมนชยาก็มีแต่
อินทิรานี่ล่ะที่คอยช่วยเหลือ..
"นี่อย่าทำอะไรมนนะ นี่แน่ะ นี่แนะ" อินทิราขว้างก้อนหินใส่พวกนักเลงผู้ชายพวกนั้น ก่อนที่จะเข้าไปพยุงตัวของมนชยาไว้
"ขอบใจนะที่ช่วยเราไว้" มนชยา กล่าวขอบคุณ
"อืมจร้า ไม่เป็นไร เราเป็นเพื่อนกันนี่นา เพื่อนรักด้วยนะ " ว่าแล้วทั้งสองก็หัวเราะด้วยกันอย่างมีความสุข) ..^^(ขอบอกนิดนึงกลัวคุณผู้อ่านงงคือตัวอักษรสีแดงคือความคิดของมนชยานะคะ!!)
"อิน จ๊ะ ขอบคุณมากๆเลยนะที่ยังอยู่เป็นเพื่อนมน ไม่ว่ามนจะทุกข์จะสุขหรืออะไรก็แล้วแต่มนก็ยังอุ่นใจที่มีอินอยู่เคียงข้างเสมอมา" และแล้วน้ำใสๆก็เริ่มไหลออกจากตาของหญิงสาวจนเพื่อนเกือบจะรั้งห้ามไว้ไม่ทันจนร้องไห้กันทั้งคู่ ... อินทิรายิ้มตอบว่า
"จร้า ไม่เป็นไรจร้า ก็เราเป็นเพื่อนกันนิ เพื่อนรักกันซะด้วย" อินทิราหัวเราะทั้งน้ำตาพลางกอดเพื่อนมนจำคำพูดของอินทิราตอนเด็กได้ชัดทุกคำ เธอยิ้มอย่างมีความสุขที่มีเพื่อนดีๆอย่างอินทิรา
...................................................
หลังจากที่มนชยาแยกกับอินทิราแล้ว เธอกำลังจะเดินขึ้น taxi กลับบ้าน แต่มีมือใครคนหนึ่งดึงไว้ซะก่อน
"จะไปไหนล่ะครับ คุณมนชยา" เสียงต่ำจนน่ากลัวจนทำให้เธอหันกลับไปดูทันทีว่าเป็นเสียงของปรเมธ
" คุณปรเมธ! ปล่อยฉันเถอะค่ะ ฉันเจ็บนะ!" มนชยารู้สึกถึงแรงที่เขากำลังบีบข้อมือเธอแรงขึ้นไปเรื่อยๆ
"ทำไมฉันจึงต้องปล่อยคนอย่างเธอด้วย นังแพศยา!! " สิ้นเสียงคำด่าของเขาแล้วจึงกระชากเธอขึ้นรถอย่างแรง มนชยาพยายามต่อต้านปรเมธ แต่ด้วยแรงอันมหาศาลผลักเธอให้ขึ้นไปในรถอย่างเร็ว ก่อนที่รถจะเคลื่อนที่ออกไป.....
ภายในรถปรเมธกำลังคุยโทรศัพท์กับใครคนหนึ่งซึ่งมนชยาแอบได้ยิน
"ผมได้ตัวเธอมาแล้วครับ เดี๋ยวทางนี้ผมจัดการเอง" สิ้นเสียงเจ้าของปลายสายพูดเขาจึงกดปิดโทรศัพท์ทันที มนชยาร้องตะโกนให้คนอื่นช่วย
"ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย!! ปล่อยฉันนะคุณปรเมธ ปล่อยนะคะ!!" มนชยาพยายามขัดขืน
"ร้องเข้าไป ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอก ต่อให้ตะโกนแหกปากออกไปก็ไม่มี เพราะฉันจะพาเธอที่วังกิตติวรรณะ รับรองเธอได้สุขสบายไปทั้งชาติแน่ๆ หึหึ" เขาหัวเราะในลำคอ ทำให้มนชยารู้สึกกลัวขึ้นมาพร้อมกับบอกเขาอย่างเงียบๆว่า
"คุณเมธ ปล่อยมนไปเถอะค่ะ มนไม่รู้เรื่องว่าคุณจับมนมาทำไม ไม่รู้จริงๆค่ะ มนจะไม่บอกใคร" เธอพยายามขอร้องชายหนุ่มทั้งน้ำตา แต่น้ำตาของเธอเขาก็ไม่สะเทือนอะไรทั้งนั้นก่อนจะตอบมนชยาไปว่า
"น้ำตาของผู้หญิงอย่างเธอ ทำอะไรฉันไม่ได้หรอกนะยัยมนชยา" ปรเมธบอกพลางขับออกไปและในที่สุดก็ถึง....
เขากระชากตัวเธอออกจากรถอย่างรวดเร็ว ก่อนจะนำเธอเดินออกไปป่าช้าข้างหน้า
"นี่คุณเมธ! จะพามนมาที่นี่ทำไมคะ?"
"ก็พามาเคารพศพของพ่อฉันยังไงล่ะ เพราะครอบครัวเธอทำให้ครอบครัวฉันต้องล่มจมก็เพราะเธอ" เขาชี้หน้าด่ามนชยาอย่างแรง
"ไม่จริง ฉันไม่รู้เรื่อง คุณเมธมีหลักฐานอะไรคะมาปรักปรำครอบครัวของมน!!" เธอตะโกนบอก
"ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐาน เพราะครอบครัวเธอทำให้พ่อฉันต้องตาย มานี่!!!" สิ้นเสียงซาตาน เขาก็พาเธอมาที่ห้องเล็กหลังหนึ่งข้างหลังวัง และผลักเธอไปผูกกับเสากลางไว้
"ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะคะ มนไม่ได้ทำ ปล่อยนะ ปล่อยนะคะ!!!" มนชยาพยายามตะโกนเรียกให้คนช่วย
"หึ ร้องเข้าไป ร้องให้ตายยังไงก็ไม่มีใครเขามาช่วยเธอหรอก แต่จะตายก็ดีนะฉันจะได้มีความสุขถ้าแก้แค้นให้กับครอบครัวสำเร็จ" ระหว่างที่เขากำลังจะเดินออกไป มนชยาจึงตะโกนไล่หลังมา
"ถึงฉันตายคุณก็จะติดคุก คุณจะไม่มีความสุข การแก้แค้นไม่ได้ทำให้ใครมีความสุขหรอกนะคะ เพราะฉะนั้นคุณเมธต้องตั้งสติให้ดีสิคะ" มนชยาพยายามเกลี้ยกล่อมให้ปรเมธใจอ่อนแต่เปล่าเลยเขาเดินเข้ามาบอกว่า
"ฉันไม่จำเป็นต้องเสียใจกับคนอย่างเธอ เพราะฉันเห็นเธอเป็นแค่ของที่ตายด้าน ไม่มีค่า ไม่มีความหมาย และอย่าหวังว่าชาตินี้ฉันจะทำดีกับเธอนะ จำเอาไว้"
เสียงประตูที่ปิดดัง ทำให้มนชยาต้องอยู่ในห้องมืดๆ เพียงลำพัง น้ำตาที่หยดเป็นสายไหลรินอาบแก้ม จนทำให้คนข้างนอกได้ยินเสียงสะอื้นจากภายใน โดยไม่รู้ว่าคนข้างนอกเค้ารู้สึกยังไงก่อนจะเดินจากไปโดยไม่มีความสงสารเลยสักนิด....
ทางด้านมนชยา ภายในห้องที่มนชยาถูกจับขังแทบจะไม่มีอากาศและยังมืดมิด ทำให้เธอแทบจะเป็นลมเมื่อมีฝุ่นหนาจับลอยไปลอยมาอยู่ทางอากาศ เธอพยายามจะร้องให้คนช่วย แต่ก็ไม่มีแรงที่จะตะโกนออกไป เธอกำลังจตายหรือนี่ ?? ที่นี่ไม่มีอากาศเลย เสียงลมหายใจของมนชยากำลังแผ่วเบาลง เธอหลับตานึกถึงมารดาของเธอ พลางสบถคนเดียวว่า
"แม่คะ มารับมนไปอยู่ด้วยเถอะค่ะ ทรมานเหลือเกิน มนไม่อาจอยู่ต่อไปได้อีกแล้ว" ก่อนที่เธอจะหลับตาลง เธอก็ได้ยินเสียงผลักประตูอย่างแรงก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลงไป
................................................
มนชยาลืมตาขึ้นมาก่อนจะพบว่าชุดของเธอถูกเปลี่ยนและตอนนี้เธอกำลังอยู่ในห้องกว้างห้องหนึ่งซึ่งประดับด้วยเพชรล้วนๆ เธอนอนอยู่บนเตียงที่หมอนเรียงรายอยู่เป็นระเบียบ เธอสังเกตมองไปรอบๆ ก่อนจะพบว่าในห้องนี้ไม่ใช่บ้านของเธอ แต่เป็นบ้านของใครกันนะ
"จริงด้วยสิ!!" เธอคิดได้จะพยายามหนี
ยังไม่ทันที่เธอจะพยายามคิดหนี ใครคนหนึ่งก็เดินเข้ามาขวางประตู
"คิดจะหนีเหรอ " ปรเมธพูดเสียงต่ำ
"คุณเมธ คุณจับฉันมาทำไมคะ !! ทำไมคุณทำแบบนี้ ฉันไม่รู้เรื่องอะไรด้วยจริงๆ" มือร่างใหญ่ขยุ้มมือร่างบางอย่างรวดเร็วก่อนจะตอบเธอไปว่า
"ก็เพราะเธอทำให้ครอบครัวฉันล่มสลายน่ะสิ ถามโง่ๆ เหตุผลเดียวของฉัน"
"ฉันเกลียดคุณ!!!"บัดนี้มนชยาเสียงต่ำลงบ้าง จนร่างใหญ่หันไปมองหน้าเธอ
"ก็ดีนิ เพราะฉันก็เกลียดเธอเหมือนกัน รวมถึงพ่อแม่ ครอบครัวเธอทั้งหมด ฉันเกลียดมันพวกมันทั้งตระกูลเลย!!" คำพูดนี้เสียดสีเข้าไปถึงขั้วหัวใจของเธอ ทำให้เธอกลั้นอารมณ์ไว้ไม่อยู่ เข้าไปตบหน้าปรเมธเข้าอย่างแรง!!
"เพี๊ยะ!!!" รอยหน้าของเขาบัดนี้มีรอยแดงของมือของเธอ และมันทำให้เขาเริ่มโกรธ
"มนชยา!! เธอกล้าตบหน้าฉันเหรอ" เขาเริ่มโกรธขึ้นมา
"ฉันเกลียดคุณ คุณจะทำอะไรฉันก็ได้ แต่อย่าเอาครอบครัวฉันมายุ่งเกี่ยวกับพวกสวะอย่างคุณ!!! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ" มนชยาพยายามผลักเขาออก แต่ก็ไม่เป็นผล มือหนา ผลักเธอให้ล้มลงไปบนเตียง
"คุณจะทำอะไรฉัน ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ปล่อยสิ!!!" ปรเมธค่อยๆปลดกระดุม ถอดเสื้อทีละน้อยๆออก
มนชยาเริ่มกลัว
"ไง กลัวขึ้นมาล่ะสิ โทษฐานที่กล้าทำกับฉันได้ขนาดนี้ มันต้องอย่างนี้ล่ะ" เขาเริ่มขยับเข้าใกล้เธอชั่วขณะ
"ช่วยด้วยอย่านะ ปล่อยนะ!!!!!" มนชยาพยายามทุบตี ผลักเขาแต่ก็ไม่เป็นผล
"ดูสิ ถ้าเธอเจอมลทินนี้เข้าไปล่ะก็ ผู้ชายที่ไหนเค้าจะเอาเธอ"
"ผู้ชายเลวๆอย่างคุณ ไม่ตายดีหรอกค่ะ" มนชยากล้าโต้ตอบ
"นี่เธอ ด่าฉันเหรอ ฮะ!!!!!"
แย่แล้วล่ะ!! ปรเมธจะทำอะไรกับมนชยาของเราเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปคงต้องโปรดติดตามครั้งต่อไปนะคะ ขอบคุณที่ร่วมวิจารณ์นะคะ!!^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ