Bloody Diary ไดอารี่สีเลือด
10.0
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 1
Bloody Diary ไดอารี่สีเลือด.
“บรึนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน……” เสียงมอเตอร์ไซค์ดังไปกระหึ่มทั่วหมู่บ้าน
“ ภาคภูมิ ” ชายหนุ่มที่อายุย่างจะเข้าสู่วัยชราสะดุ้งตื่นขึ้น ตาของเขายังไม่ลืมดีนัก บนหน้าปัดนาฬิกาแสดงว่าเป็นเวลา ตี 3 แล้ว ชายหนุ่มค่อยๆลุกไปเปิดไฟหัวเตียงแล้วลุกไปที่ระเบียง บนถนนว่างเปล่า ไม่มีร่องรอยอะไรที่บ่งบอกว่ามีมอเตอร์ไซค์ผ่านมาแม้แต่คันเดียว
“ อีกแล้วใช่ไหม ”
ชายหนุ่มค่อยๆละสายตาออกจากกระจกตรงนั้นและล้มตัวลงนอนที่เตียง น้ำใสๆไหลออกมาจากดวงตาของเขา นึกถึงวันนั้น วันที่ “ ภัทร ” ลูกชายคนเดียวของเขา ได้เสียชีวิตไป
................................................................
“ ภัทร!!! ”
ภาคภูมิวิ่งหาภัทรจ้าละหวั่นในบ้าน แต่ไม่มีร่องรอยหรือเสียงของภัทรแม้แต่นิดเดียว ชายหนุ่มร้องไห้ รีบวิ่งไปหาภัทรที่สวนหลังบ้าน สนามเด็กเล่นหน้าบ้านที่ภัทรชอบไปเล่นอยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่มีร่องรอยของเขาเลย ภาคภูมิตัดสินใจวิ่งออกไปนอกบ้านเผื่อว่าเพื่อนบ้านที่ไม่ค่อยเป็นมิตรกับเขาจะเห็นภัทรบ้าง แต่เขาก็ต้องสะดุดกึกเมื่อเขาเห็นอะไรบางอย่าง!
ร่างของภัทรนอนแผ่อยู่บนถนน ดวงตาเบิกโพลง ตัวเต็มไปด้วยเลือด ร่างกายหักเป็นสองท่อนแบบไม่ค่อยน่าดูนัก ภาคภูมิเรียกตะโกนให้คนช่วยจนสุดเสียง แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าใครจะมาช่วยเขาได้ ภาคภูมิจึงหาต้นเหตุที่ภัทรต้องกลายเป็นแบบนี้ เขามองไปรอบๆตัว ทุกอย่างมืดมิดไปหมด บนถนนเส้นเดียวกับที่ภัทรตาย มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งวิ่งไปด้วยความเร็วสูง ภาคภูมิร้องไห้โฮและพยายามวิ่งตามไป ภาคภูมิรีบจดจำทะเบียนรถและโทรแจ้งตำรวจทันที และขณะนี้ เขาก็ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้
................................................................
“ ภาคภูมิ ” นอนสะอึกสะอึ้นอยู่บนเตียง ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังนั้น เขาลุกขึ้นไปรับโทรศัพท์ บนหน้าจอแสดงชื่อ “ รานี ” ภรรยาของเขา เขารีบลุกจากที่นอนไปรับโทรศัพท์ทันที
“ ยังไม่นอนอีกเหรอ ” รานีถามด้วยเสียงไม่ค่อยสบายใจนัก
“ นอนแล้ว แต่ยังคิดถึงลูก ” ภาคภูมิตอบ
“ งั้นเอาอย่างนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราไปปรึกษาที่วัดกัน ว่าเราควรจะทำยังไงกันดี ”
“ ได้ๆ ”
เช้ารุ่งขึ้น ภาคภูมินัดรานีที่วัดแห่งหนึ่ง ทั้งสองคนยืนรออยู่หน้ากุฎิวัดยังไม่กล้าเข้าไป เพราะกลัวพระกำลังทำกิจวัตรหรือทำอะไรที่สำคัญอยู่ ทั้งสองนั่งรอที่ม้าหินอ่อนตัวหนึ่งหน้ากุฎิวัด รานีนั่งคุยโทรศัพท์และส่งข้อความไปพลางๆ ส่วนภาคภูมิกำลังมองวัดไปรอบๆ ภาคภูมิสังเกตเห็นเงาดำๆเงาหนึ่งวิ่งผ่านต้นไม้ไปในตึกนอนของสามเณรจากนั้นเงานั้นก็หายไปกับตึกนั้น ภาคภูมิใจหายวาบ กำลังจะบอกรานีให้ขับรถกลับบ้านแต่เขาได้ยินเสียงแปลกๆ เสียงนั้นมาจากข้างๆเขา เขาไม่อยากหันไป แต่เพราะความอยากรู้เขาจึงหันไป เขาไม่ใช่ใครที่ไหน หลวงพี่ที่เขากำลังรอนั่นเอง
“ นมัสการครับหลวงพ่อ ”
“ โยมมารอกันนานหรือยังเนี่ย ”
“ ก็ไม่นานมากครับ เพิ่งมาได้ไม่นาน ”
“ มาๆมานั่งคุยกันที่ศาลาก่อนสิ ”
ภาคภูมิเดินเข้าไปในศาลาพร้อมกับรานี ภาคภูมิยิ้มกริ่ม น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่ได้ตั้งตัว
“ ภัทร …. พ่อช่วยลูกได้แล้ว …… ”
Bloody Diary ไดอารี่สีเลือด.
“บรึนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน……” เสียงมอเตอร์ไซค์ดังไปกระหึ่มทั่วหมู่บ้าน
“ ภาคภูมิ ” ชายหนุ่มที่อายุย่างจะเข้าสู่วัยชราสะดุ้งตื่นขึ้น ตาของเขายังไม่ลืมดีนัก บนหน้าปัดนาฬิกาแสดงว่าเป็นเวลา ตี 3 แล้ว ชายหนุ่มค่อยๆลุกไปเปิดไฟหัวเตียงแล้วลุกไปที่ระเบียง บนถนนว่างเปล่า ไม่มีร่องรอยอะไรที่บ่งบอกว่ามีมอเตอร์ไซค์ผ่านมาแม้แต่คันเดียว
“ อีกแล้วใช่ไหม ”
ชายหนุ่มค่อยๆละสายตาออกจากกระจกตรงนั้นและล้มตัวลงนอนที่เตียง น้ำใสๆไหลออกมาจากดวงตาของเขา นึกถึงวันนั้น วันที่ “ ภัทร ” ลูกชายคนเดียวของเขา ได้เสียชีวิตไป
................................................................
“ ภัทร!!! ”
ภาคภูมิวิ่งหาภัทรจ้าละหวั่นในบ้าน แต่ไม่มีร่องรอยหรือเสียงของภัทรแม้แต่นิดเดียว ชายหนุ่มร้องไห้ รีบวิ่งไปหาภัทรที่สวนหลังบ้าน สนามเด็กเล่นหน้าบ้านที่ภัทรชอบไปเล่นอยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่มีร่องรอยของเขาเลย ภาคภูมิตัดสินใจวิ่งออกไปนอกบ้านเผื่อว่าเพื่อนบ้านที่ไม่ค่อยเป็นมิตรกับเขาจะเห็นภัทรบ้าง แต่เขาก็ต้องสะดุดกึกเมื่อเขาเห็นอะไรบางอย่าง!
ร่างของภัทรนอนแผ่อยู่บนถนน ดวงตาเบิกโพลง ตัวเต็มไปด้วยเลือด ร่างกายหักเป็นสองท่อนแบบไม่ค่อยน่าดูนัก ภาคภูมิเรียกตะโกนให้คนช่วยจนสุดเสียง แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าใครจะมาช่วยเขาได้ ภาคภูมิจึงหาต้นเหตุที่ภัทรต้องกลายเป็นแบบนี้ เขามองไปรอบๆตัว ทุกอย่างมืดมิดไปหมด บนถนนเส้นเดียวกับที่ภัทรตาย มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งวิ่งไปด้วยความเร็วสูง ภาคภูมิร้องไห้โฮและพยายามวิ่งตามไป ภาคภูมิรีบจดจำทะเบียนรถและโทรแจ้งตำรวจทันที และขณะนี้ เขาก็ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้
................................................................
“ ภาคภูมิ ” นอนสะอึกสะอึ้นอยู่บนเตียง ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังนั้น เขาลุกขึ้นไปรับโทรศัพท์ บนหน้าจอแสดงชื่อ “ รานี ” ภรรยาของเขา เขารีบลุกจากที่นอนไปรับโทรศัพท์ทันที
“ ยังไม่นอนอีกเหรอ ” รานีถามด้วยเสียงไม่ค่อยสบายใจนัก
“ นอนแล้ว แต่ยังคิดถึงลูก ” ภาคภูมิตอบ
“ งั้นเอาอย่างนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราไปปรึกษาที่วัดกัน ว่าเราควรจะทำยังไงกันดี ”
“ ได้ๆ ”
เช้ารุ่งขึ้น ภาคภูมินัดรานีที่วัดแห่งหนึ่ง ทั้งสองคนยืนรออยู่หน้ากุฎิวัดยังไม่กล้าเข้าไป เพราะกลัวพระกำลังทำกิจวัตรหรือทำอะไรที่สำคัญอยู่ ทั้งสองนั่งรอที่ม้าหินอ่อนตัวหนึ่งหน้ากุฎิวัด รานีนั่งคุยโทรศัพท์และส่งข้อความไปพลางๆ ส่วนภาคภูมิกำลังมองวัดไปรอบๆ ภาคภูมิสังเกตเห็นเงาดำๆเงาหนึ่งวิ่งผ่านต้นไม้ไปในตึกนอนของสามเณรจากนั้นเงานั้นก็หายไปกับตึกนั้น ภาคภูมิใจหายวาบ กำลังจะบอกรานีให้ขับรถกลับบ้านแต่เขาได้ยินเสียงแปลกๆ เสียงนั้นมาจากข้างๆเขา เขาไม่อยากหันไป แต่เพราะความอยากรู้เขาจึงหันไป เขาไม่ใช่ใครที่ไหน หลวงพี่ที่เขากำลังรอนั่นเอง
“ นมัสการครับหลวงพ่อ ”
“ โยมมารอกันนานหรือยังเนี่ย ”
“ ก็ไม่นานมากครับ เพิ่งมาได้ไม่นาน ”
“ มาๆมานั่งคุยกันที่ศาลาก่อนสิ ”
ภาคภูมิเดินเข้าไปในศาลาพร้อมกับรานี ภาคภูมิยิ้มกริ่ม น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่ได้ตั้งตัว
“ ภัทร …. พ่อช่วยลูกได้แล้ว …… ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ