The Kid , No kid.
2) บทที่2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"อืม ก็แค่ดูการ์ตูนแล้วทำตามนะ"
คาโอรุอธิบายเรื่องที่เขาหากุญแจเข้าบ้านของเซโตะพบใต้กระถางต้นไม้แถวๆนั้น เด็กน้อยซึ่งหากุญแจไม่เจอเพราะเรื่องวุ่นวายเมื่อวานโวยวายไม่หยุดที่กุญแจถูกหาพบ ทั้งที่คิดว่าจะลองแกล้งคนที่สละผ้าพันคอให้เขาแต่โดยดี ด้วยการหลอกให้ตามหากุญแจในที่แปลกๆของบ้านท่ามกลางความเย็นเยือกแล้วแท้ๆ
อย่างไรก็ดี เซโตะหน้ามุ่ยด้วยความโมโหเพราะถูกอุ้มแนบอกเดินเข้าบ้าน สภาพน่าอายแบบนี้ช่างเป็นอะไรที่เขาต้องลืมให้ได้เลย!
"จะดีเหรอ" คาโอรุพูดระหว่างที่ช่วยเซโตะเบบี้โกยเสื้อผ้าวัยเยาว์เข้ากระเป๋า "เซโตะเวอร์ชั่นแย่สุดๆไม่ว่าเอาจริงๆนะหรือ"
ใครแย่สุดๆกัน! เด็กน้อยผมแดงค้อนขวับ เสื้อผ้าสมัยเด็กของเขายังพอใส่ได้ ถึงแม้จะหลวมนิดๆก็ตาม ดังนั้น จะไปซื้อใหม่ทำไมให้เปลืองเงิน
เสียงท้องร้องเบาๆของเซโตะเรียกความสนใจจากผู้มีนัยย์ตาสีราตรีได้เป็นอย่างดี เขาหอมแก้มเด็กน้อยด้วยความเอ็นดูหนึ่งครั้งแล้วบอกว่าจะเข้าไปดูในครัวสักหน่อย เผื่อว่าจะมีอะไรมารองท้องกันได้พลางมองเวลาที่บอกว่าเลยเวลาอาหารเย็นมาพักใหญ่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เซโตะรู้สึกขาดทุนนิดๆ เขาได้จุ๊บอีกฝ่ายไปทีเดียวเอง แต่ว่าตลอดเย็นมานี้เขาโดนหยิกโดนหอมแก้มมากี่ครั้งแล้ว! คงไม่ใช่ว่าผู้มีนัยย์ตาสีราตรีคนนี้จะเป็นพวกชอบ...ลวนลามเด็ก?
ยะ...แย่แล้วสิ ดันมาอยู่กับคนประหลาดซะแล้ว
เสียงเปาะแปะบางอย่างทำให้เซโตะสะดุ้งจากความคิดมากของตนเอง ท่าทางจะมีลูกเห็บตก แน่ล่ะ ฝนอะไรจะมาตกในวันที่อากาศหนาวขนาดนี้
หลังจากฟังเสียงก้อนน้ำแข็งตกได้พักใหญ่ ประตูก็ถูกเปิดออกมาพร้อมกับคนที่มีถาดอาหาร "หาอะไรที่เป็นของสดไม่เจอเลย ในบ้านนี้มีแต่พวกของกึ่งสำเร็จรูป...หะ หา?"
เซโตะมองอาการของคาโอรุซึ่งยืนอ้าปากค้างอย่างงุนงงปนหนาวนิดๆ ก่อนจะร้องลั่นเมื่อโดนถาดอาหารทุบเอาๆอย่างไร้ความปรานี นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นมา หรือว่านอกจากชอบลวนลามเด็กแล้วยังเป็นพวกซาดิืสท์ ชอบทำร้ายเด็กด้วยงั้นเรอะ!?
ตอนที่ปัดป้องถาดซึ่งกระหน่ำซัดมาไม่หยุดนี้เอง เซโตะถึงสังเกตว่าตนอยู่ในสภาพเปลืิอยเปล่า ตัวเขาโตเท่าเดิมแล้ว?
"นายจะทำบ้าอะไรกับเซโตะคุง!"
เสื้อผ้าที่คาโอรุจำได้ว่าเซโตะเบบี้ใส่อยู่ขาดวิ่นกองอยู่พื้นชวนให้เข้าใจผิด ผู้มีนัยย์ตาสีราตรีนี้กำลังนึกถึงภาพทารุณกรรมเด็กแบบร้ายกาจด้วยการเฆี่ยนราวกับเป็นสัตว์ในตลาดทาสของการ์ตูนที่เคยดู ที่สำคัญ ตอนนี้เด็กน้อยผู้น่าสงสารคนนั้นหายไปไหนแล้ว? คงไม่ได้ถูกขังไว้ที่ไหนหรอกนะ
"เฮ้!" เซโตะดึงถาดมาไว้เป็นฝ่ายตนได้แล้วพูดอย่างเหลืออด "ก็ฉันนี่แหละ เซโตะ หมายถึงเซโตะที่เป็นเด็กนะ!"
ความรู้สึกแปลกๆอัดเข้าใบหน้ามาหนึ่งครั้ง ก่อนที่เด็กหนุ่มเส้นผมสีชาดจะสลบเหมือด กองอยู่กับพื้นในห้องนอนตัวเองโดยที่ไม่รู้จะยืนยันความบริสุทธิ์อย่างไรดี...
ท้องก็หิว หน้าก็ปวด เด็กน้อยค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างยากเย็น ภาวนาให้ตนเองเลิกเจอเรื่องโชคร้ายสักที สายตาที่มองมาด้วยความห่วงใยปรากฏอยู่ใกล้ หากเป็นคนอื่นคงชวนให้รู้สึกดี แต่สำหรับคนถูกเอาถาดอาหารกระหน่ำฟาดแล้วมันช่างเป็นอะไรที่ซึ้งไม่ลงจริงๆ
คาโอรุซึ่งเอาลูกประคบสมุนไพรมากดๆบริเวณแผลเขียวช้ำบนใบหน้าเด็กน้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงเสียใจว่า "ฉันขอโทษจริงๆนะ"
ความสำนึกผิดที่ปรากฏผ่านทางแววตานั้นทำให้จิตใจของเซโตะคลายความโกรธลงมาได้บ้าง ถึงอย่างไร เจ็บจนมึนขนาดนี้ไม่มีแรงไปต่อยแก้แค้นหรอก เขาพยักหน้านิดๆ "ช่างมันเถอะ เรื่องมันแล้วไปแล้ว"
ผู้มีนัยย์ตาสีราตรีจุมพิตบริเวณบาดแผลนั้นเบาๆเพราะจำที่ครูพี่เลี้ยงเคยทำได้ มันไม่เจ็บมากซ้ำยังปลอบโยนได้อีกต่างหาก อย่างไรก็ตาม คาโอรุกำหมัดแน่น พูดเสียงลอดไรฟัน "ต้องขอโทษจริงๆที่ฉันไม่ได้อยู่ด้วยตอนนายโดนทำร้าย แต่นี่มันเหตุทำร้ายร่างกาย ฉันจะแจ้งความ!"
เซโตะเบบี้งุนงงในข้อความเหล่านั้น ยังไงที่บอกว่าไม่ได้อยู่ตอนโดนทำร้าย แล้วจะแจ้งความจับใคร หรือว่าคาโอรุจะสำนึกผิดหนักขนาดเดินเข้าไปมอบตัว? คงไม่ใจเด็ดขนาดนั้นมั้ง
"ฉันจะแจ้งความจับเซโตะซาดิสท์นั่น!"
เด็กน้อยอ้าปากค้าง รีบจับตัวคาโอรุไว้ทันที ปากพร่ำห้ามอย่างร้อนรน ถูกทุบฟรีไม่ว่า ถูกต่อยฟรีไม่บ่น แต่เรื่องจะโดนยัดข้อหาแถมจับฟรีนี่มันยอมไม่ได้ ประวัติเขาไม่ได้งดงามอะไรนัก แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เขาเองล้วนๆ เรื่องจะมาโดนป้ายโคลนนั้นไม่เอาหรอก!
เซโตะมองมือเล็กๆของตนอย่างเข้าใจ เขากลับเป็นเด็กอีกแล้ว ตอนนั้นทำไมจู่ๆเขาสูงขึ้นมาเท่าเดิมได้นะ?
เสียงเคาะประตูก๊อกๆดังขึ้นมาพร้อมกับสาวน้อยตาคมผมทองคนหนึ่งยื่นหน้าเข้ามาพร้อมรอยยิ้มและเสียงญี่ปุ่นชัดแจ๋ว "มาเยี่ยมเซโตะคุงค่ะ"
คาโอรุอดแปลกใจไม่ได้ที่เด็กสาวคนนี้รู้ว่าเด็กน้อยผมแดงอยู่ที่ไหน หรือว่าเป็นคนที่เซโตะงี่เง่าส่งมา! เขาที่คิดมากสุดๆรีบยกตัวเด็กน้อยขึ้นแนบอก เรียกเสียงหัวเราะรื่นเริงจากเธอคนนั้นได้
"คิกๆๆ ถ้าความสัมพันธ์พัฒนาไปดีขนาดนี้ล่ะก็ คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง คาโอรุคุง ยังไงต้องฝากเจ้าเด็กแก่แดดคนนั้นด้วยนะจ๊ะ! ส่วนเซโตะคุงเองก็มีของฝากมาเยี่ยมนะ" โรซารี่หยิบหุ่นยนต์ของเล่นมาจากด้านหลัง "นี่เลย! ไมเบิลเสท กังด้ามรุ่นใหม่ล่าสุด ของเล่นนำโชคจากร้านสายฝนและลูกเห็บ"
ชื่อร้านพิลึกพิลั่น! เซโตะคิดในใจแล้วส่ายหน้าสุดขีด เขาไม่ยอมรับอะไรจากยัยผู้หญิงน่าหมั่นไส้คนนี้เด็ดขาด แค่คุยไปนิดเดียวยังตัวหดเลย ถ้ารับของเล่นมาเขาจะ้เป็นยังไง กลายเป็นมนุษย์ต่างดาวไปเลยรึเปล่า
"ของเล่นนำโชค" โรซารี่ย้ำ "จากร้านสายฝนและลูกเห็บ"
เซโตะรู้สึกตงิดๆกับสายตาจริงจังนั่น เขาย้อนนึกถึงตอนที่กำลังเหม่อฟังเสียงน้ำแข็งกระทบหลังคา หลังจากนั้นเขาก็กลายเป็นเด็กมัธยมขึ้นมา นี่คือสิ่งต้องการจะบอกงั้นเหรอ?
"ใช่ๆ" เด็กสาวผมทองพยักหน้า "นั่นแหละที่อยากจะบอก"
เด็กน้อยผมแดงสะดุ้งเฮือก ยัยสาวต่างชาติคนนี้อ่านใจคนได้ด้วย จะว่าไป ถ้าเสกให้กลายเป็นเด็กได้ แล้วทำไมถึงทำเรื่องพื้นๆอย่างการอ่านจิตใจคนไม่ได้! เซโตะถอยกรูดทันที มองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เหมือนมองแม่มดก็ไม่ปาน
โรซารี่ทักทายคาโอรุอีกสองสามคำแล้วปิดประตูเดินจากไป ราวกับว่ามาเพื่อส่งของเล่นให้เซโตะเบบี้โดยเฉพาะ
"เฮ้อ ตอนแรกนึกว่าจะเป็นพวกของเซโตะงี่เง่าซะอีก" คาโอรุพึมพำแล้วเอากำปั้นทุบมืออย่างนึกอะไรออก "จริงสิ ฉันเองก็มีของเล่นจำพวกหุ่นยนต์อยู่นี่นา"
หลังค้นในตู้เก่าๆในห้องสักพัก คาโอรุก็ชูหุ่นยนต์รุ่นเก่าตัวหนึ่งขึ้นมา มีรอยสีถลอกบางส่วน แต่ในขณะเดียวกันก็เหมือนจะถูกดัดแปลงต่อเติมอะไรเข้าไปในดูเท่ยิ่งขึ้น
"คาโอริเคยดัดแปลงหุ่นยนต์ให้ล่ะ ตรงนี้มีไฟขึ้นด้วยนะ!" ดวงตาและส่วนปีกของหุ่นยนต์กังด้่ามมีแสงไฟกระพริบขึ้นมาตามจังหวะการกดสวิสท์ของคาโอรุ "เอาล่ะ ตัวแทนกองทัพดาวอังคารจะบุกล่ะนะ"
เซโตะโยนกังด้ามที่ถูกโรซารี่ยัดใส่มือก่อนกลับทิ้งอย่างไม่ไยดี เขาหาวปากกว้างแล้วปีนขึ้นเตียง พูดอย่างเบื่อหน่ายว่า "ฉันเจ็บขนาดนี้จะไปเล่นได้ไงกัน ไปเอาข้าวเย็นมาได้แล้วน่า"
เฮอะ! ฉันไม่งี่เง่าพอจะเล่นของบ้าบอพรรค์นั้นหรอก
ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมเชื่อ เซโตะจึงสวมบทเด็กผู้เอาแต่ใจราวกับคุณชายที่มีคนรับใช้ส่วนตัว โดยเฉพาะเมื่อคาโอรุไปเตรียมอาหารมาอย่างไม่เถียงอะไร เขาก็ยิ่งได้ใจ คิดสิ่งที่อยากได้และสิ่งต้องทำแต่ขี้เกียจ งานบ้านดีไหมนะ การบ้านที่โรงเรียนก็ด้วย
หลังจากนอนฝันหวานอยู่บนเตียงได้สักพัก กลิ่นข้าวต้มหอมฉุยก็ลอยอยู่ในอากาศ เรียกน้ำย่อยที่มีอยู่เป็นทุนเดิมให้เพิ่มขึ้นอีก
"อ้าม"
เซโตะมองคาโอรุทำเสียงยานคางอย่างรู้สึกพิลึกแล้วจะฉวยช้อนมากินเอง แต่แขนที่เล็กและสั้นจะเร็วสู้อีกฝ่ายได้อย่างไร คาโอรุยืนยันเจตนารมภ์ชัดเจนในการป้อนเด็กน้อยให้ได้ ก็เขาอยากไถ่โทษที่ปล่อยปละละเลยเซโตะเบบี้จนโดนเซโตะงี่เง่าทำร้ายเอานี่นา ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงมาจดหมายฝากเลี้ยงส่งมาหาเขา!
เด็กน้อยผมแดงได้แต่คิดว่าพวกผู้มีีอำนาจที่สบายจนโดนป้อนข้าวทุกมื้อๆนี่คงจะเพี้ยน โดนป้อนทีละคำจะมันส์เท่าตักเอาๆได้ไงกัน!
"โรงเรียนของเซโตะคุงอยู่ที่ไหนเหรอ พรุ่งนี้ฉันจะได้ไปส่งถึงที่ จะปล่อยให้โดนทำร้ายอีกไม่ได้หรอกเนอะ พอเลิกเรียนก็จะไปรับเร็วๆเลย..."
"คาโอรุ นายเลิกยุ่งกับฉันสักทีได้ไหม" เด็กน้อยหน้าตาบูดบึ้งแล้วฉวยช้อนจากมืออีกฝ่ายได้สำเร็จ "เอาเป็นว่านายคอยส่งข้าวส่งน้ำให้ฉันก็พอ ส่วนเรื่องอื่นไม่ต้องมายุ่ง"
"แต่เซโตะงี่เง่า..."
"เลิกเรียกแบบนั้นได้แล้วน่า" เด็กน้อยผมแดงทำเสียงรำคาญ "ความจริงฉันเบื่อนายออก เลิกทำท่าประหลาดๆเพี้ยนๆกับฉันสักที แต่ไหนแต่ไรก็เป็นคนยุ่งไม่เข้าเรื่องอยู่แล้วนี่นะื ทำอะไรน่ารำคาญอยู่ได้ แล้วก็นะ ฉันเกลียดคนป้อนข้าวด้วย...ว้าก!"
เซโตะโดนหิ้วขึ้นมากลางอากาศแล้วทุ่มลงกับพื้นห้อง โชคดีที่ตรงนั้นมีเบาะรองนั่งวางอยู่จึงไม่มีอันตรายอะไร แต่สภาพของคาโอรุตอนนี้เหมือนกับไร้อารมณ์ ความคิดและความรู้สึก
"นาย...นายทำบ้าอะไรนะ เหวอ!"
พื้นห้องที่น่าสงสารเป็นที่รับหมัดของคาโอรุแทน โชคดีที่ไม่ใช่เซโตะเพราะมันร้าวกระจายเป็นรูปวงกลม ถ้าหากโดนเข้าไปถ้าไม่น็อกก็คงดูไม่จืดแน่นอน เด็กน้อยมองซ้ายมองขวา ก่อนจะพุ่งตัวไปหยิบไม้เบสบอลมาได้ แต่เซดตะทำได้แค่เพียงใช้มันป้องกันครั้งเดียว คาโอรุที่ฟาดมือลงมาทำไม้เบสบอสแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ
ประตูถูกเปิดผางออกมาเพราะเสียงดังตึงตัง ผู้เข้ามาคือเด็กสาวผมแดงผู้เป็นน้องสาวนามว่าคาโอรินั่นเอง เธอขวางระหว่างเซโตะและคาโอรุเอาไว้ "เด็กแสบ นายไปทำอะไรเขานะ!"
"ก็..." เด็กน้อมอ้ำอึ้ง "ก็แค่พูดความจริงอะไีรนิดหน่อยๆเอง แต่เจ้านั่นเป็นอะไรนะ ทำไมอยู่ดีๆอยากไล่ทำร้ายคนขึ้นมาล่ะ"
"นายเห็นฉันก็คงจะรู้สินะว่าเป็นพวกชอบใช้ความรุนแรงนะ"
คาโอริอดเจ็บใจไม่ได้ที่ต้องเรียกตัวเองแบบนั้น เธอหมุนตัวรวดเร็วทุบต้นคอของพี่ชายจนสลบแล้วสะบัดมือเป็นการใหญ่ ลักษณะคือทุบเต็มแรง
"ตั้งแต่เด็กแล้วที่พวกเราเป็นพวกชอบใช้กำลัง มันอยู่ในสายเลือด ฉันที่โตมาในสภาวะโดนพี่ชายตามใจตลอดจึงได้ปลดปล่อยอารมณ์รุนแรงออกมาจนควบคุมให้อยู่ในสภาวะสาวห้าวได้"
เซโตะพยักหน้าให้อีกฝ่ายเล่าต่อ ไม่กล้าเข้าไปใกล้คาโอรุผู้อ่อนโยนจนแน่ใจว่าสลบแล้วจริงๆ คาโอริมองภาพนั้นแล้วถอนหายใจเืฮือกใหญ่
"คาโอรุนั้นผิดกัน เขาเกลียดตัวเองที่ต้องใช้กำลังหรืออะไรทำนองนั้น จึงพยามปิดสภาวะการปลดปล่อยอารมณ์ สิ่งทีู่ถูกสุมรวมกันในตอนปกติจะถูกระเบิดออกมาตอนโมโหหรือเสียใจสุดๆ มันมากมายจนทำให้เจ้าตัวไร้สติการแยกแยะมิตรศัตรู ประมาณหุ่นยนต์นักฆ่าในการ์ตูนนั่นไง"
คาโอริอุ้มพี่ชายขึ้นไปวางบนเตียงโดยไม่ต้องทำหน้าออกแรงสุดฤทธิ์ เพราะตัวคาโอรุก็บอบบางไม่หนักและสำหรับคนที่ยกน้ำหนักร้อยกิโลฯต่อวันแบบเด็กสาวแล้ว ยกคนสามคนในคราวเดียวยังไหวเลย!
เซโตะมองอย่างงุนงง ลังเลที่จะพูดนิดๆ "นี่เธอ...เธอกับพี่ชายเป็นโรคจิต...งั้นเหรอ?"
คาโอริคิ้วกระตุก เอามือเท้าสะเอวอย่างโมโหแต่ไม่ได้ทำอะไรรุนแรง "ก็บอกแล้วว่ามันอยู่ในสายเลือดนะ! พวกเราที่โดนฉีดยาประหลาดตั้งแต่แรกเกิดก็ชินกับมัน บอกตามตรงว่าขี้เกียจหาทางแก้พิษแล้วล่ะ ไปนะ"
เซโตะมองร่างที่นอนสลบอยู่บนเตียงอย่างลังเล แต่ครั้นจะรั้งไว้ก็ไม่เอา เขายอมโดนชกดีกว่าหลบอยู่ใต้กระโปรงของผู้หญิง ต่อให้ผู้หญิงที่ว่าจะัใส่กางเกงก็ตามทีเถอะ! แถมเครื่องจักรนักฆ่าเมื่อครู่ก็ดูจะสงบลงแล้ว คงไม่เกิดปัญหาประหลาดๆอีกหรอก
อย่างไรก็ดี เขาค่อยๆปีนขึ้นเตียงไปซุกอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกับคาโอรุ ก็ไม่มีใครปูฟูกนอนกับให้ผ้าห่มเขามานี่นา!
เสียงครางอือเบาๆเหมือนผู้อยู่ในห้วงนิทราจะรู้สึกถึงบางอย่างที่เบียดเข้ามา เขาพลิกตัวเล็กน้อยแล้วถีบเซโตะซึ่งซุกอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกันเต็มแรงโดยไม่รู้สึกตัวจนเด็กน้อยกลิ้งหลุนๆตกไปที่พื้น ทำเอาเซโตะอย่างจะโวยวายสักตั้ง แต่เมื่อคิดการเจ้าเล่ห์ได้ เขาก็ดึงผ้าห่มของคาโอรุออกมาห่อตัวเองเหมือนถุงนอนแล้วหลับปุ๋ยไป
เหอๆๆ นอนหนาวไปเถอะ
ใครจะรู้เล่า สุดท้ายตัวเซโตะที่นอนดิ้นไม่แพ้กันก็พลิกไปมาจนผ้าห่มไปกองอยู่สุดขอบห้อง สงครามขนาดย่อมยามกลางคืนที่ไม่มีผู้ชนะได้ดำเนินไปอย่างเงียบงัน ทั้งที่มีผ้าห่มสำรองอยู่ในตู้ในห้องนั้นแท้ๆ...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ