The Kid , No kid.

9.7

เขียนโดย ปรัสรา

วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 13.01 น.

  11 chapter
  3 วิจารณ์
  15.46K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) บทที่2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

        "อืม ก็แค่ดูการ์ตูนแล้วทำตามนะ"

        คาโอรุอธิบายเรื่องที่เขาหากุญแจเข้าบ้านของเซโตะพบใต้กระถางต้นไม้แถวๆนั้น  เด็กน้อยซึ่งหากุญแจไม่เจอเพราะเรื่องวุ่นวายเมื่อวานโวยวายไม่หยุดที่กุญแจถูกหาพบ  ทั้งที่คิดว่าจะลองแกล้งคนที่สละผ้าพันคอให้เขาแต่โดยดี  ด้วยการหลอกให้ตามหากุญแจในที่แปลกๆของบ้านท่ามกลางความเย็นเยือกแล้วแท้ๆ

        อย่างไรก็ดี เซโตะหน้ามุ่ยด้วยความโมโหเพราะถูกอุ้มแนบอกเดินเข้าบ้าน  สภาพน่าอายแบบนี้ช่างเป็นอะไรที่เขาต้องลืมให้ได้เลย!

        "จะดีเหรอ"  คาโอรุพูดระหว่างที่ช่วยเซโตะเบบี้โกยเสื้อผ้าวัยเยาว์เข้ากระเป๋า  "เซโตะเวอร์ชั่นแย่สุดๆไม่ว่าเอาจริงๆนะหรือ"

        ใครแย่สุดๆกัน!  เด็กน้อยผมแดงค้อนขวับ  เสื้อผ้าสมัยเด็กของเขายังพอใส่ได้  ถึงแม้จะหลวมนิดๆก็ตาม  ดังนั้น จะไปซื้อใหม่ทำไมให้เปลืองเงิน

        เสียงท้องร้องเบาๆของเซโตะเรียกความสนใจจากผู้มีนัยย์ตาสีราตรีได้เป็นอย่างดี  เขาหอมแก้มเด็กน้อยด้วยความเอ็นดูหนึ่งครั้งแล้วบอกว่าจะเข้าไปดูในครัวสักหน่อย  เผื่อว่าจะมีอะไรมารองท้องกันได้พลางมองเวลาที่บอกว่าเลยเวลาอาหารเย็นมาพักใหญ่แล้ว

        อย่างไรก็ตาม เซโตะรู้สึกขาดทุนนิดๆ  เขาได้จุ๊บอีกฝ่ายไปทีเดียวเอง  แต่ว่าตลอดเย็นมานี้เขาโดนหยิกโดนหอมแก้มมากี่ครั้งแล้ว!  คงไม่ใช่ว่าผู้มีนัยย์ตาสีราตรีคนนี้จะเป็นพวกชอบ...ลวนลามเด็ก?

        ยะ...แย่แล้วสิ  ดันมาอยู่กับคนประหลาดซะแล้ว

        เสียงเปาะแปะบางอย่างทำให้เซโตะสะดุ้งจากความคิดมากของตนเอง  ท่าทางจะมีลูกเห็บตก  แน่ล่ะ ฝนอะไรจะมาตกในวันที่อากาศหนาวขนาดนี้

        หลังจากฟังเสียงก้อนน้ำแข็งตกได้พักใหญ่  ประตูก็ถูกเปิดออกมาพร้อมกับคนที่มีถาดอาหาร  "หาอะไรที่เป็นของสดไม่เจอเลย  ในบ้านนี้มีแต่พวกของกึ่งสำเร็จรูป...หะ หา?"

        เซโตะมองอาการของคาโอรุซึ่งยืนอ้าปากค้างอย่างงุนงงปนหนาวนิดๆ  ก่อนจะร้องลั่นเมื่อโดนถาดอาหารทุบเอาๆอย่างไร้ความปรานี  นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นมา  หรือว่านอกจากชอบลวนลามเด็กแล้วยังเป็นพวกซาดิืสท์  ชอบทำร้ายเด็กด้วยงั้นเรอะ!?

        ตอนที่ปัดป้องถาดซึ่งกระหน่ำซัดมาไม่หยุดนี้เอง  เซโตะถึงสังเกตว่าตนอยู่ในสภาพเปลืิอยเปล่า  ตัวเขาโตเท่าเดิมแล้ว?

        "นายจะทำบ้าอะไรกับเซโตะคุง!"

        เสื้อผ้าที่คาโอรุจำได้ว่าเซโตะเบบี้ใส่อยู่ขาดวิ่นกองอยู่พื้นชวนให้เข้าใจผิด  ผู้มีนัยย์ตาสีราตรีนี้กำลังนึกถึงภาพทารุณกรรมเด็กแบบร้ายกาจด้วยการเฆี่ยนราวกับเป็นสัตว์ในตลาดทาสของการ์ตูนที่เคยดู  ที่สำคัญ ตอนนี้เด็กน้อยผู้น่าสงสารคนนั้นหายไปไหนแล้ว?  คงไม่ได้ถูกขังไว้ที่ไหนหรอกนะ

        "เฮ้!"  เซโตะดึงถาดมาไว้เป็นฝ่ายตนได้แล้วพูดอย่างเหลืออด  "ก็ฉันนี่แหละ เซโตะ  หมายถึงเซโตะที่เป็นเด็กนะ!"

        ความรู้สึกแปลกๆอัดเข้าใบหน้ามาหนึ่งครั้ง  ก่อนที่เด็กหนุ่มเส้นผมสีชาดจะสลบเหมือด  กองอยู่กับพื้นในห้องนอนตัวเองโดยที่ไม่รู้จะยืนยันความบริสุทธิ์อย่างไรดี...

 

        ท้องก็หิว หน้าก็ปวด  เด็กน้อยค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างยากเย็น  ภาวนาให้ตนเองเลิกเจอเรื่องโชคร้ายสักที  สายตาที่มองมาด้วยความห่วงใยปรากฏอยู่ใกล้  หากเป็นคนอื่นคงชวนให้รู้สึกดี  แต่สำหรับคนถูกเอาถาดอาหารกระหน่ำฟาดแล้วมันช่างเป็นอะไรที่ซึ้งไม่ลงจริงๆ

        คาโอรุซึ่งเอาลูกประคบสมุนไพรมากดๆบริเวณแผลเขียวช้ำบนใบหน้าเด็กน้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงเสียใจว่า  "ฉันขอโทษจริงๆนะ"

        ความสำนึกผิดที่ปรากฏผ่านทางแววตานั้นทำให้จิตใจของเซโตะคลายความโกรธลงมาได้บ้าง  ถึงอย่างไร เจ็บจนมึนขนาดนี้ไม่มีแรงไปต่อยแก้แค้นหรอก  เขาพยักหน้านิดๆ  "ช่างมันเถอะ  เรื่องมันแล้วไปแล้ว"

        ผู้มีนัยย์ตาสีราตรีจุมพิตบริเวณบาดแผลนั้นเบาๆเพราะจำที่ครูพี่เลี้ยงเคยทำได้  มันไม่เจ็บมากซ้ำยังปลอบโยนได้อีกต่างหาก  อย่างไรก็ตาม คาโอรุกำหมัดแน่น  พูดเสียงลอดไรฟัน  "ต้องขอโทษจริงๆที่ฉันไม่ได้อยู่ด้วยตอนนายโดนทำร้าย  แต่นี่มันเหตุทำร้ายร่างกาย  ฉันจะแจ้งความ!"

        เซโตะเบบี้งุนงงในข้อความเหล่านั้น  ยังไงที่บอกว่าไม่ได้อยู่ตอนโดนทำร้าย  แล้วจะแจ้งความจับใคร  หรือว่าคาโอรุจะสำนึกผิดหนักขนาดเดินเข้าไปมอบตัว?  คงไม่ใจเด็ดขนาดนั้นมั้ง

        "ฉันจะแจ้งความจับเซโตะซาดิสท์นั่น!"

        เด็กน้อยอ้าปากค้าง  รีบจับตัวคาโอรุไว้ทันที  ปากพร่ำห้ามอย่างร้อนรน  ถูกทุบฟรีไม่ว่า ถูกต่อยฟรีไม่บ่น  แต่เรื่องจะโดนยัดข้อหาแถมจับฟรีนี่มันยอมไม่ได้  ประวัติเขาไม่ได้งดงามอะไรนัก  แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เขาเองล้วนๆ  เรื่องจะมาโดนป้ายโคลนนั้นไม่เอาหรอก!

        เซโตะมองมือเล็กๆของตนอย่างเข้าใจ  เขากลับเป็นเด็กอีกแล้ว  ตอนนั้นทำไมจู่ๆเขาสูงขึ้นมาเท่าเดิมได้นะ?

        เสียงเคาะประตูก๊อกๆดังขึ้นมาพร้อมกับสาวน้อยตาคมผมทองคนหนึ่งยื่นหน้าเข้ามาพร้อมรอยยิ้มและเสียงญี่ปุ่นชัดแจ๋ว  "มาเยี่ยมเซโตะคุงค่ะ"

        คาโอรุอดแปลกใจไม่ได้ที่เด็กสาวคนนี้รู้ว่าเด็กน้อยผมแดงอยู่ที่ไหน  หรือว่าเป็นคนที่เซโตะงี่เง่าส่งมา!  เขาที่คิดมากสุดๆรีบยกตัวเด็กน้อยขึ้นแนบอก  เรียกเสียงหัวเราะรื่นเริงจากเธอคนนั้นได้

        "คิกๆๆ  ถ้าความสัมพันธ์พัฒนาไปดีขนาดนี้ล่ะก็  คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง  คาโอรุคุง  ยังไงต้องฝากเจ้าเด็กแก่แดดคนนั้นด้วยนะจ๊ะ!  ส่วนเซโตะคุงเองก็มีของฝากมาเยี่ยมนะ"  โรซารี่หยิบหุ่นยนต์ของเล่นมาจากด้านหลัง  "นี่เลย! ไมเบิลเสท กังด้ามรุ่นใหม่ล่าสุด  ของเล่นนำโชคจากร้านสายฝนและลูกเห็บ"

        ชื่อร้านพิลึกพิลั่น!  เซโตะคิดในใจแล้วส่ายหน้าสุดขีด  เขาไม่ยอมรับอะไรจากยัยผู้หญิงน่าหมั่นไส้คนนี้เด็ดขาด  แค่คุยไปนิดเดียวยังตัวหดเลย  ถ้ารับของเล่นมาเขาจะ้เป็นยังไง  กลายเป็นมนุษย์ต่างดาวไปเลยรึเปล่า

        "ของเล่นนำโชค"  โรซารี่ย้ำ  "จากร้านสายฝนและลูกเห็บ"

        เซโตะรู้สึกตงิดๆกับสายตาจริงจังนั่น  เขาย้อนนึกถึงตอนที่กำลังเหม่อฟังเสียงน้ำแข็งกระทบหลังคา  หลังจากนั้นเขาก็กลายเป็นเด็กมัธยมขึ้นมา  นี่คือสิ่งต้องการจะบอกงั้นเหรอ?

        "ใช่ๆ"  เด็กสาวผมทองพยักหน้า  "นั่นแหละที่อยากจะบอก"

        เด็กน้อยผมแดงสะดุ้งเฮือก  ยัยสาวต่างชาติคนนี้อ่านใจคนได้ด้วย  จะว่าไป ถ้าเสกให้กลายเป็นเด็กได้  แล้วทำไมถึงทำเรื่องพื้นๆอย่างการอ่านจิตใจคนไม่ได้!  เซโตะถอยกรูดทันที  มองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เหมือนมองแม่มดก็ไม่ปาน

        โรซารี่ทักทายคาโอรุอีกสองสามคำแล้วปิดประตูเดินจากไป  ราวกับว่ามาเพื่อส่งของเล่นให้เซโตะเบบี้โดยเฉพาะ

        "เฮ้อ ตอนแรกนึกว่าจะเป็นพวกของเซโตะงี่เง่าซะอีก"  คาโอรุพึมพำแล้วเอากำปั้นทุบมืออย่างนึกอะไรออก  "จริงสิ ฉันเองก็มีของเล่นจำพวกหุ่นยนต์อยู่นี่นา"

        หลังค้นในตู้เก่าๆในห้องสักพัก  คาโอรุก็ชูหุ่นยนต์รุ่นเก่าตัวหนึ่งขึ้นมา  มีรอยสีถลอกบางส่วน  แต่ในขณะเดียวกันก็เหมือนจะถูกดัดแปลงต่อเติมอะไรเข้าไปในดูเท่ยิ่งขึ้น

        "คาโอริเคยดัดแปลงหุ่นยนต์ให้ล่ะ  ตรงนี้มีไฟขึ้นด้วยนะ!"  ดวงตาและส่วนปีกของหุ่นยนต์กังด้่ามมีแสงไฟกระพริบขึ้นมาตามจังหวะการกดสวิสท์ของคาโอรุ  "เอาล่ะ ตัวแทนกองทัพดาวอังคารจะบุกล่ะนะ"

        เซโตะโยนกังด้ามที่ถูกโรซารี่ยัดใส่มือก่อนกลับทิ้งอย่างไม่ไยดี  เขาหาวปากกว้างแล้วปีนขึ้นเตียง  พูดอย่างเบื่อหน่ายว่า  "ฉันเจ็บขนาดนี้จะไปเล่นได้ไงกัน  ไปเอาข้าวเย็นมาได้แล้วน่า"

        เฮอะ!  ฉันไม่งี่เง่าพอจะเล่นของบ้าบอพรรค์นั้นหรอก

        ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมเชื่อ  เซโตะจึงสวมบทเด็กผู้เอาแต่ใจราวกับคุณชายที่มีคนรับใช้ส่วนตัว  โดยเฉพาะเมื่อคาโอรุไปเตรียมอาหารมาอย่างไม่เถียงอะไร  เขาก็ยิ่งได้ใจ  คิดสิ่งที่อยากได้และสิ่งต้องทำแต่ขี้เกียจ  งานบ้านดีไหมนะ  การบ้านที่โรงเรียนก็ด้วย

        หลังจากนอนฝันหวานอยู่บนเตียงได้สักพัก  กลิ่นข้าวต้มหอมฉุยก็ลอยอยู่ในอากาศ  เรียกน้ำย่อยที่มีอยู่เป็นทุนเดิมให้เพิ่มขึ้นอีก

        "อ้าม"  

        เซโตะมองคาโอรุทำเสียงยานคางอย่างรู้สึกพิลึกแล้วจะฉวยช้อนมากินเอง  แต่แขนที่เล็กและสั้นจะเร็วสู้อีกฝ่ายได้อย่างไร  คาโอรุยืนยันเจตนารมภ์ชัดเจนในการป้อนเด็กน้อยให้ได้  ก็เขาอยากไถ่โทษที่ปล่อยปละละเลยเซโตะเบบี้จนโดนเซโตะงี่เง่าทำร้ายเอานี่นา  ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงมาจดหมายฝากเลี้ยงส่งมาหาเขา!

        เด็กน้อยผมแดงได้แต่คิดว่าพวกผู้มีีอำนาจที่สบายจนโดนป้อนข้าวทุกมื้อๆนี่คงจะเพี้ยน  โดนป้อนทีละคำจะมันส์เท่าตักเอาๆได้ไงกัน!

        "โรงเรียนของเซโตะคุงอยู่ที่ไหนเหรอ  พรุ่งนี้ฉันจะได้ไปส่งถึงที่  จะปล่อยให้โดนทำร้ายอีกไม่ได้หรอกเนอะ  พอเลิกเรียนก็จะไปรับเร็วๆเลย..."

        "คาโอรุ  นายเลิกยุ่งกับฉันสักทีได้ไหม"  เด็กน้อยหน้าตาบูดบึ้งแล้วฉวยช้อนจากมืออีกฝ่ายได้สำเร็จ  "เอาเป็นว่านายคอยส่งข้าวส่งน้ำให้ฉันก็พอ  ส่วนเรื่องอื่นไม่ต้องมายุ่ง"

        "แต่เซโตะงี่เง่า..."

        "เลิกเรียกแบบนั้นได้แล้วน่า"  เด็กน้อยผมแดงทำเสียงรำคาญ  "ความจริงฉันเบื่อนายออก  เลิกทำท่าประหลาดๆเพี้ยนๆกับฉันสักที  แต่ไหนแต่ไรก็เป็นคนยุ่งไม่เข้าเรื่องอยู่แล้วนี่นะื  ทำอะไรน่ารำคาญอยู่ได้  แล้วก็นะ ฉันเกลียดคนป้อนข้าวด้วย...ว้าก!"

        เซโตะโดนหิ้วขึ้นมากลางอากาศแล้วทุ่มลงกับพื้นห้อง  โชคดีที่ตรงนั้นมีเบาะรองนั่งวางอยู่จึงไม่มีอันตรายอะไร  แต่สภาพของคาโอรุตอนนี้เหมือนกับไร้อารมณ์ ความคิดและความรู้สึก

        "นาย...นายทำบ้าอะไรนะ  เหวอ!"

        พื้นห้องที่น่าสงสารเป็นที่รับหมัดของคาโอรุแทน  โชคดีที่ไม่ใช่เซโตะเพราะมันร้าวกระจายเป็นรูปวงกลม  ถ้าหากโดนเข้าไปถ้าไม่น็อกก็คงดูไม่จืดแน่นอน  เด็กน้อยมองซ้ายมองขวา  ก่อนจะพุ่งตัวไปหยิบไม้เบสบอลมาได้  แต่เซดตะทำได้แค่เพียงใช้มันป้องกันครั้งเดียว  คาโอรุที่ฟาดมือลงมาทำไม้เบสบอสแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ

        ประตูถูกเปิดผางออกมาเพราะเสียงดังตึงตัง  ผู้เข้ามาคือเด็กสาวผมแดงผู้เป็นน้องสาวนามว่าคาโอรินั่นเอง  เธอขวางระหว่างเซโตะและคาโอรุเอาไว้  "เด็กแสบ  นายไปทำอะไรเขานะ!"

        "ก็..."  เด็กน้อมอ้ำอึ้ง  "ก็แค่พูดความจริงอะไีรนิดหน่อยๆเอง  แต่เจ้านั่นเป็นอะไรนะ  ทำไมอยู่ดีๆอยากไล่ทำร้ายคนขึ้นมาล่ะ"

        "นายเห็นฉันก็คงจะรู้สินะว่าเป็นพวกชอบใช้ความรุนแรงนะ"  

        คาโอริอดเจ็บใจไม่ได้ที่ต้องเรียกตัวเองแบบนั้น  เธอหมุนตัวรวดเร็วทุบต้นคอของพี่ชายจนสลบแล้วสะบัดมือเป็นการใหญ่  ลักษณะคือทุบเต็มแรง  

        "ตั้งแต่เด็กแล้วที่พวกเราเป็นพวกชอบใช้กำลัง  มันอยู่ในสายเลือด  ฉันที่โตมาในสภาวะโดนพี่ชายตามใจตลอดจึงได้ปลดปล่อยอารมณ์รุนแรงออกมาจนควบคุมให้อยู่ในสภาวะสาวห้าวได้"

        เซโตะพยักหน้าให้อีกฝ่ายเล่าต่อ  ไม่กล้าเข้าไปใกล้คาโอรุผู้อ่อนโยนจนแน่ใจว่าสลบแล้วจริงๆ  คาโอริมองภาพนั้นแล้วถอนหายใจเืฮือกใหญ่

        "คาโอรุนั้นผิดกัน  เขาเกลียดตัวเองที่ต้องใช้กำลังหรืออะไรทำนองนั้น  จึงพยามปิดสภาวะการปลดปล่อยอารมณ์  สิ่งทีู่ถูกสุมรวมกันในตอนปกติจะถูกระเบิดออกมาตอนโมโหหรือเสียใจสุดๆ  มันมากมายจนทำให้เจ้าตัวไร้สติการแยกแยะมิตรศัตรู  ประมาณหุ่นยนต์นักฆ่าในการ์ตูนนั่นไง"

        คาโอริอุ้มพี่ชายขึ้นไปวางบนเตียงโดยไม่ต้องทำหน้าออกแรงสุดฤทธิ์  เพราะตัวคาโอรุก็บอบบางไม่หนักและสำหรับคนที่ยกน้ำหนักร้อยกิโลฯต่อวันแบบเด็กสาวแล้ว  ยกคนสามคนในคราวเดียวยังไหวเลย!

        เซโตะมองอย่างงุนงง  ลังเลที่จะพูดนิดๆ  "นี่เธอ...เธอกับพี่ชายเป็นโรคจิต...งั้นเหรอ?"

        คาโอริคิ้วกระตุก  เอามือเท้าสะเอวอย่างโมโหแต่ไม่ได้ทำอะไรรุนแรง  "ก็บอกแล้วว่ามันอยู่ในสายเลือดนะ!  พวกเราที่โดนฉีดยาประหลาดตั้งแต่แรกเกิดก็ชินกับมัน  บอกตามตรงว่าขี้เกียจหาทางแก้พิษแล้วล่ะ  ไปนะ"

        เซโตะมองร่างที่นอนสลบอยู่บนเตียงอย่างลังเล  แต่ครั้นจะรั้งไว้ก็ไม่เอา  เขายอมโดนชกดีกว่าหลบอยู่ใต้กระโปรงของผู้หญิง  ต่อให้ผู้หญิงที่ว่าจะัใส่กางเกงก็ตามทีเถอะ!  แถมเครื่องจักรนักฆ่าเมื่อครู่ก็ดูจะสงบลงแล้ว  คงไม่เกิดปัญหาประหลาดๆอีกหรอก

        อย่างไรก็ดี เขาค่อยๆปีนขึ้นเตียงไปซุกอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกับคาโอรุ  ก็ไม่มีใครปูฟูกนอนกับให้ผ้าห่มเขามานี่นา!

        เสียงครางอือเบาๆเหมือนผู้อยู่ในห้วงนิทราจะรู้สึกถึงบางอย่างที่เบียดเข้ามา  เขาพลิกตัวเล็กน้อยแล้วถีบเซโตะซึ่งซุกอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกันเต็มแรงโดยไม่รู้สึกตัวจนเด็กน้อยกลิ้งหลุนๆตกไปที่พื้น  ทำเอาเซโตะอย่างจะโวยวายสักตั้ง  แต่เมื่อคิดการเจ้าเล่ห์ได้  เขาก็ดึงผ้าห่มของคาโอรุออกมาห่อตัวเองเหมือนถุงนอนแล้วหลับปุ๋ยไป

        เหอๆๆ  นอนหนาวไปเถอะ

        ใครจะรู้เล่า  สุดท้ายตัวเซโตะที่นอนดิ้นไม่แพ้กันก็พลิกไปมาจนผ้าห่มไปกองอยู่สุดขอบห้อง  สงครามขนาดย่อมยามกลางคืนที่ไม่มีผู้ชนะได้ดำเนินไปอย่างเงียบงัน  ทั้งที่มีผ้าห่มสำรองอยู่ในตู้ในห้องนั้นแท้ๆ...

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา