Perform ปฏิบัติการให้หัวใจได้ปิ้งรัก
8.7
9)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ9
หลังจากผมช่วยคารุแล้วผมเหมือนจะไม่เหมือนตัวของตัวเองเลย บางครั้งผมก็เผลอยิ้มขึ้น บางครั้งก็มีภาพที่มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคารุหลุดออกมาจากสมอง
“นี้แกเป็นอะไรว่าเรียว ไม่สบายเหรอเปล่า” ชินจิพูดเมื่อเรากำลังออกจาห้องหลังจากที่เพื่อนๆออกกันไปหมด
“ไม่นิ”
“ก็ฉันเห็นแกชอบยิ้มอยู่คนเดียวตลอดเลย มันแปลกอยู่นะปกติแกน่ะยิ้มยากจะตายไป” ชินจิร่ายยาว ใช่เป็นอย่างที่ชินจิพูดผมเป็นคนยิ้มยากแต่พอคารุเข้ามาผมกลับยิ้มง่ายเหมือนสอนเลย“เอ๊ะ!!! เดี๋ยวก่อนนะแกไม่เคยยิ้มให้ใครแม้กระทั่งฉันแต่แกยิ้มให้กับ...” ชินจิพูดหยุดไว้แค่นั้นและหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผม อะไรของมันฟ่ะเนี่ย!!!
“อะไร ฉันยิ้มให้ใคร”
“คารากิสาว่า คารุ”
“อะไรฉันไม่เคยยิ้มให้ยัยนั้นสักหน่อย” ผมรีบแก้ตัวทันที ทำไมใจมันต้องเต้นด้วยว่ะ
“ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย ฉันรู้หรอกน่า”
“จะหยุดไหม ถ้าไม่หยุดรับรองหน้านายมีเลือดแน่”
“เออๆ หยุดก็ได้ แหม่แกล้งนิดเดียวเองทำเป็นเขินไปได้” แล้วผมก็หันหน้าไปแหย่เขี้ยวใส่ก่อนและเดินนำหน้าชินจิไป
ผมและชินจิเดินมาที่หน้าโรงเรียนและผมสะดุดตาบางอย่างประตูหน้าโรงเรียน ผมหยุดเดินทันที
“โอ๊ย!!! เพื่อนถ้าหยุดกันก็น่าจะบอกกันบ้างนะ”
“นั้นมันคารุนี้ ไปทักพวกเธอเถอะ”
“อืม” และเราก็เดินไปหาพวกผู้หญิง แต่มีบางอย่างที่ทำให้ผมหยุดเดินอีกครั้งด้วยคำพูดของพวกเธอ
“เธอรักเรียวแบบไหน”
“ฉะ ฉัน ฉันก็รักเรียวแบบเพื่อนคนหนึ่งนะสิ”
กึก!!!
ทำไมใจถึงเหมือนหยุดเต้นทันทีละ ผมไม่รู้ยืนอยู่ตรงนี้นานเท่าไรผมไม่รู้ว่าพวกเธอไปกันนานเท่าไร แต่ที่รู้ๆผมเจ็บไปหมด
“นี้เรียวเรามายืนอยู่ตรงนี้นานแล้วนะ และคารุก็ไปแล้วด้วย” ชินจิพูด แต่ผมเหมือนจะไม่ได้ยินที่ชินจิพูดเลยไม่เลยสักนิด
“ขอโทษ นะแกกลับไปก่อนได้ไหม”
“แกเป็นไรว่ะ ไม่สบายตรงไหน”
ผมสายหน้า
เหมือนชินจิจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็เก็บมันเอาไว้ ผมอยากขอบคุณมันจริงๆที่จะไม่พูดอะไรเพราะตอนนี้ผมไม่สามารถจะพูดอะไรเลย
และไม่นานชินจิก็เดินมาตบไหล่ผมและเดินออกไป ชินจิเดินออกไปนานแล้วผมก็น่าจะไปได้แล้วเหมือนกัน คารุ แค่คำพูดของเธอทำไมมันมีผลต่อหัวใจฉันมากนักนะ
หลังจากที่ผมนอนคิดมาทั้งคืนว่าผมมีอาการแบบนี้มันเป็นอาการอะไร ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมมีความรู้สึกนี้มาตั้งแต่เมื่อไรแต่ที่รู้ผมไม่กล้าที่จะพบหน้าเธอแม้จะสบตากับเธอผมก็ไม่กล้าเลย
“แกเป็นไรว่ะ ซึมตั้งแต่เช้าเลย” ชินจิหันหน้ามาถามผม
“แกเคยมีความรักไหม” ผมตัดสินใจที่จะถาม
“ไม่มีอ่ะ เฮ้ย!!! อย่าบอกนะแกมีความรัก” ชินจิดูเหมือนจะตกใจมากกับสิ่งที่ได้ยิน ก็เล่นเดินถอยหลังไปสามก้าวเลยนิ
“ตอนไหนว่ะ และแกมีความรักให้กับใคร” ชินจิเดินเข้ามาถามผม
“ตอนไหนฉันก็ไม่รู้หรอก แต่ที่รู้ฉัน...” ผมเลยเล่าอาการทุกอย่างให้ชินจิฟังรวมทั้งเรื่องเมื่อวานด้วย
พอผมเล่าเสร็จชินจิที่ตอนแรกมีสีหน้าที่ไม่เชื่อแต่พอเล่าเรื่องเมื่อวานสีหน้ากลับเปลี่ยนไป
“เฮอ เอาเถอะว่ะแกรักเขา แต่เขารักแกแบบเพื่อน ทำใจว่ะ” ชินจิพูดพร้อมตบไหล่
“ไงชินจิ อรุณสวัสดิ์” คารุมาตอนไหนไม่รู้ แต่ที่รู้ผมจะอยู่ตรงนี้ไม่ได้
“อือ อรุณสวัสดิ์”
“อรุณสวัสดิ์ระ” คารุพูดได้แค่นั้น ผมก็ลุกขึ้นและเดินออกมาจากที่ตรงนั้นให้เร็วที่สุด คุโรสูเกะ เรียว แกอ่อนแอตั้งแต่เมื่อไรกัน
*****************************************************************************
เม้น & เม้นโหวตกันเยอะๆนะค่ะ
หลังจากผมช่วยคารุแล้วผมเหมือนจะไม่เหมือนตัวของตัวเองเลย บางครั้งผมก็เผลอยิ้มขึ้น บางครั้งก็มีภาพที่มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคารุหลุดออกมาจากสมอง
“นี้แกเป็นอะไรว่าเรียว ไม่สบายเหรอเปล่า” ชินจิพูดเมื่อเรากำลังออกจาห้องหลังจากที่เพื่อนๆออกกันไปหมด
“ไม่นิ”
“ก็ฉันเห็นแกชอบยิ้มอยู่คนเดียวตลอดเลย มันแปลกอยู่นะปกติแกน่ะยิ้มยากจะตายไป” ชินจิร่ายยาว ใช่เป็นอย่างที่ชินจิพูดผมเป็นคนยิ้มยากแต่พอคารุเข้ามาผมกลับยิ้มง่ายเหมือนสอนเลย“เอ๊ะ!!! เดี๋ยวก่อนนะแกไม่เคยยิ้มให้ใครแม้กระทั่งฉันแต่แกยิ้มให้กับ...” ชินจิพูดหยุดไว้แค่นั้นและหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผม อะไรของมันฟ่ะเนี่ย!!!
“อะไร ฉันยิ้มให้ใคร”
“คารากิสาว่า คารุ”
“อะไรฉันไม่เคยยิ้มให้ยัยนั้นสักหน่อย” ผมรีบแก้ตัวทันที ทำไมใจมันต้องเต้นด้วยว่ะ
“ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย ฉันรู้หรอกน่า”
“จะหยุดไหม ถ้าไม่หยุดรับรองหน้านายมีเลือดแน่”
“เออๆ หยุดก็ได้ แหม่แกล้งนิดเดียวเองทำเป็นเขินไปได้” แล้วผมก็หันหน้าไปแหย่เขี้ยวใส่ก่อนและเดินนำหน้าชินจิไป
ผมและชินจิเดินมาที่หน้าโรงเรียนและผมสะดุดตาบางอย่างประตูหน้าโรงเรียน ผมหยุดเดินทันที
“โอ๊ย!!! เพื่อนถ้าหยุดกันก็น่าจะบอกกันบ้างนะ”
“นั้นมันคารุนี้ ไปทักพวกเธอเถอะ”
“อืม” และเราก็เดินไปหาพวกผู้หญิง แต่มีบางอย่างที่ทำให้ผมหยุดเดินอีกครั้งด้วยคำพูดของพวกเธอ
“เธอรักเรียวแบบไหน”
“ฉะ ฉัน ฉันก็รักเรียวแบบเพื่อนคนหนึ่งนะสิ”
กึก!!!
ทำไมใจถึงเหมือนหยุดเต้นทันทีละ ผมไม่รู้ยืนอยู่ตรงนี้นานเท่าไรผมไม่รู้ว่าพวกเธอไปกันนานเท่าไร แต่ที่รู้ๆผมเจ็บไปหมด
“นี้เรียวเรามายืนอยู่ตรงนี้นานแล้วนะ และคารุก็ไปแล้วด้วย” ชินจิพูด แต่ผมเหมือนจะไม่ได้ยินที่ชินจิพูดเลยไม่เลยสักนิด
“ขอโทษ นะแกกลับไปก่อนได้ไหม”
“แกเป็นไรว่ะ ไม่สบายตรงไหน”
ผมสายหน้า
เหมือนชินจิจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็เก็บมันเอาไว้ ผมอยากขอบคุณมันจริงๆที่จะไม่พูดอะไรเพราะตอนนี้ผมไม่สามารถจะพูดอะไรเลย
และไม่นานชินจิก็เดินมาตบไหล่ผมและเดินออกไป ชินจิเดินออกไปนานแล้วผมก็น่าจะไปได้แล้วเหมือนกัน คารุ แค่คำพูดของเธอทำไมมันมีผลต่อหัวใจฉันมากนักนะ
หลังจากที่ผมนอนคิดมาทั้งคืนว่าผมมีอาการแบบนี้มันเป็นอาการอะไร ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมมีความรู้สึกนี้มาตั้งแต่เมื่อไรแต่ที่รู้ผมไม่กล้าที่จะพบหน้าเธอแม้จะสบตากับเธอผมก็ไม่กล้าเลย
“แกเป็นไรว่ะ ซึมตั้งแต่เช้าเลย” ชินจิหันหน้ามาถามผม
“แกเคยมีความรักไหม” ผมตัดสินใจที่จะถาม
“ไม่มีอ่ะ เฮ้ย!!! อย่าบอกนะแกมีความรัก” ชินจิดูเหมือนจะตกใจมากกับสิ่งที่ได้ยิน ก็เล่นเดินถอยหลังไปสามก้าวเลยนิ
“ตอนไหนว่ะ และแกมีความรักให้กับใคร” ชินจิเดินเข้ามาถามผม
“ตอนไหนฉันก็ไม่รู้หรอก แต่ที่รู้ฉัน...” ผมเลยเล่าอาการทุกอย่างให้ชินจิฟังรวมทั้งเรื่องเมื่อวานด้วย
พอผมเล่าเสร็จชินจิที่ตอนแรกมีสีหน้าที่ไม่เชื่อแต่พอเล่าเรื่องเมื่อวานสีหน้ากลับเปลี่ยนไป
“เฮอ เอาเถอะว่ะแกรักเขา แต่เขารักแกแบบเพื่อน ทำใจว่ะ” ชินจิพูดพร้อมตบไหล่
“ไงชินจิ อรุณสวัสดิ์” คารุมาตอนไหนไม่รู้ แต่ที่รู้ผมจะอยู่ตรงนี้ไม่ได้
“อือ อรุณสวัสดิ์”
“อรุณสวัสดิ์ระ” คารุพูดได้แค่นั้น ผมก็ลุกขึ้นและเดินออกมาจากที่ตรงนั้นให้เร็วที่สุด คุโรสูเกะ เรียว แกอ่อนแอตั้งแต่เมื่อไรกัน
*****************************************************************************
เม้น & เม้นโหวตกันเยอะๆนะค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ