Silent Melody ดนตรีรักสื่อวิญญาณ
8.8
3) เพื่อนเก่าที่กลับมา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความโทโมะพยุงร่างบางของคาเมะเข้าไปนอนพักในห้อง แล้วเขาก็จัดการต้อนรับฮิโรโตะด้วยขนมไดฟุกุกับน้ำชา เมื่อหนุ่มดวงตาสีฟ้าได้ลองชิมน้ำชาก็รู้สึกแปลกใจ “ชานี้ รสมันแปลกๆนะ มันคือชาอะไรหรอ” “อ๋อ เป็นชาที่ชงจากดอกกุหลาบน่ะครับ” “ดอกกุหลาบหรอ...เพิ่งรู้ว่าใช้ชงเป็นน้ำชาได้ด้วย มันผลิตยังไงน่ะ” “เอ่อ...เรื่องนี้คงต้องถามพี่สาวผมนะครับ เพราะเธอเป็นคนผลิตเอง” “อย่างนั้นหรอ...ถ้าเช่นนั้นคงต้องเอาไว้ถามทีหลังแล้วล่ะ แต่ว่าอร่อยมากเลยนะ” “ขอบคุณที่ชมนะครับ” ฮิโรโตะนั่งคุยกับโทโมะต่ออีกครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็กลับไป ระหว่างนั้นโทโมะได้เห็นร่างชายชุดขาวยืนอยู่ที่หน้าประตูแล้วหายไป เขาพยายามรวบรวมสติ และมองไปรอบๆห้อง เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติ เขาจึงเก็บสำรับชาและขนมเข้าไปในห้องครัว เขายังคงนึกถึงสิ่งที่เห็นเมื่อครู่นี้ “อีกแล้ว ผู้ชายชุดขาวคนนั้น......นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นแน่ๆ” ระหว่างนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น ทำเอาเขาสติกระเจิง “จ๊ากกกกก!!! ปัดโธ่ เสียงโทรศัพท์นี่หว่า ตกใจหมดเลย” โทโมะรับโทรศัพท์ แต่กลับได้ยินเสียงแปลกๆ คล้ายเสียงคนโวยวาย เขาตกใจเล็กน้อย ไม่นานสายก็ถูกตัดไป “อะไรกันเนี่ย...โทรมาโวยอะไรให้ฟังนิ เฮ้อ....!” บ่นเสร็จ โทรศัพท์ก็ดังอีกครั้ง “อีกแล้ว เบอร์เดิม เดี๋ยวพ่อจะเทศน์ให้......(กดรับ) ครับโอโตะสึกิครับ” “Hi นั่นเท็ตสึกะใช่มั้ย” “เอ่อ...ใครน่ะครับ” “เฮ้....ฉัน ฮิบาริไง เพื่อนนายสมัยเรียนประถมกับมัธยมไง” “ฮิบาริ? ซากุระอิ ฮิบาริน่ะหรอ!?” “แม่นแล้วเพื่อน” “Big Surprise!!!!” เมื่อรู้ว่าคนโทรมาเป็นใครงานนี้โทโมะก็เลยคุยกับเพื่อนเก่าอย่างสนุกปาก จนกระทั่งโทโมะเอ่ยปากชวนเพื่อนเก่าคนนี้ไปที่บ้านใหม่ของตนในสัปดาห์หน้า “ใช่แล้ว...อาทิตย์หน้าฉันกับพี่จะย้ายเข้าบ้านหลังใหม่แล้ว.....นายจะว่างเมื่อไหร่ล่ะ.....อย่างนั้นหรอ เจ๋งเป้งไปเลย ถ้างั้นตกลงตามนี้นะ ....เออ....คิดถึงนายเหมือนกัน....OK แล้วเจอกัน” คุยเสร็จโทโมะก็เดินเข้าไปหาคาเมะที่ห้อง และพบเธอยืนอยู่ที่ระเบียง “พี่ครับ ตื่นแล้วหรอ” “อืม....คุยโทรศัพท์กับใครน่ะ เสียงนี่ดังไป 8 บ้าน 10 บ้านเลย” “เอ่อ..ที่ตื่นนี่เพราะเสียงผมรึป่าวเนี่ย” “ไม่ใช่หรอก พี่ได้ยินตอนที่เธอบอกว่าคิดถึงอะไรสักอย่าง นี่เอง” “อ่าครับ คุยกับเพื่อนเก่าผมเองน่ะครับ” “ใครกัน?” “ก็เจ้าฮิบาริ ไงครับ พี่จำมันได้มั้ย” “ฮิบาริหรอ คุ้นชื่อนะ แต่นึกหน้าไม่ออก” “ก็คนที่เคยพาผมขับมอร์เตอร์ไซค์แล้วไปแหกโค้งที่บ้านสวนของเรา ที่เซนไดไงครับ” “เอ๋!?” “เอาง่ายๆนะ พี่รู้จักวง I Max รึป่าว” “รู้” “ก็คนที่ร้องนำแล้วก็เป็นมือกีต้าร์ด้วยไงครับ” คาเมะคิดอยู่สักพัก แล้วด็ถึงบางอ้อ “อ่อ....นึกออกแล้ว เด็กที่ขาไม่ค่อยจะสามัคคีกัน วิ่งทีไรขาขวิดกันเองล้มประจำน่ะ ใช่มั้ย” “นั่นแหละ ใช่เลย” “.......” “เดี๋ยวพอเราย้ายไปบ้านใหม่แล้ว ก็คงจะได้เจอมันล่ะพี่” “อืม....ก็ดีนะ ไม่รู้ว่าตัวจริงกับในทีวี จะน่ารักเหมือนกันรึป่าว” "เดี๋ยวเจอก็รู้เองล่ะครับ"
สัปดาห์ต่อมา บ้านใหม่ของสองพี่น้องก็แล้วเสร็จ และทั้งคู่ก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่ตามที่ตั้งใจไว้ คาเมะจัดห้องทุกห้องจนดูสวยงาม เมื่อมาถึงห้องนั่งเล่น ที่มุมห้องมีแท่นบูชาอยู่ เธอจัดแจงหยิบรูปภาพและป้ายวิญญาณของใครบางคนออกมาจากกล่องไม้ และวางไว้ที่แท่นบูชานั้น เป็นจังหวะที่โทโมะผ่านมาเห็นพอดี “นั่นมัน....รูปกับป้ายวิญญาณของพี่เซย์จินี่หน่า หมายความว่า พี่...ยังไงก็ไม่ลืมเค้าสินะ อย่างนี้ล่ะมั้งที่ว่ากันว่า รักแรกลืมยาก เราไม่อยากจะเป็นแบบนั้นเลย มันคงจะ...ทรมานสุดใจ” ชายหนุ่มคิดในใจ แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้ เขาจึงเดินเลี่ยงไปที่อื่น เช้าวันต่อมาโทโมะโทรหาฮิบาริอีกครั้ง “ไงเพื่อน พร้อมรึยัง.... ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปรับเดี๋ยวนี้ล่ะนะ...OK แล้วเจอกัน” คาเมะเปิดประตูออกมาจากห้องนอน และได้ยินโทโมะคุยโทรศัพท์เมื่อครู่นี้ “คุยอะไรกับใครแต่เช้าล่ะ แล้วนั่นจะไปไหน” “ก็จะไปรับฮิบาริคุงมาเที่ยวบ้านใหม่ของเราไงพี่” “อ้าว...หรอ” “ลืมไวจังเลยนะพี่ เอาเป็นว่าพี่ไปแต่งตัวนะ จะได้ไปรับฮิบาริคุงกับผม” “เอ๋!? พี่ต้องไปกับเธอด้วยหรอ” “ YES!!!” “เล่นแบบนี้เลยนะเจ้าตัวแสบ” “เหอะน่ะ เร็วๆเลย แต่งฟรีสไตล์นะคร้าบบบบบ” “งั้นหรอแป๊บ นะ” คาเมะเข้าไปแต่งตัวอยู่ในห้อง ไม่นานนักเธอก็ออกมาในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กระโปรงสีดำ โทโมะเห็นเช่นนั้นก็อมยิ้มในความน่ารักของพี่สาว “ว๊าว!! พี่ครับ น่ารักอ่ะ ถ้าไม่รู้อายุจริงๆนี่ นึกว่าเด็กวัยรุ่นเลยนิ” “โกหกน่ะ พี่ไม่เหมือนเด็กขนาดนั้นสักหน่อย” “พูดจริงๆนะ อิอิ...เอาล่ะไปกันเถอะครับ” ทั้งสองไปยังสถานีรถไฟโดยรถสปอร์ตของโทโมะเพื่อรอรับ ฮิบาริ แน่นอนว่าประชาชนที่อยู่บริเวณนั้นจำทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี จึงมีคนขอถ่ายรูปบ้าง ขอลายเซ็นบ้าง ซึ่งไอดอลทั้งสองก็ไม่ปฏิเสธ ไม่นานนักเด็กหนุ่มคนหนึ่งก็เดินเข้ามา “Hi เท็ตสึกะคุง” ชื่อนั้นเป็นชื่อเดิมของโทโมะ เขาหันมองผู้ที่เรียกชื่อนั้นทันที “เฮ้! ฮิบาริคุง” ทั้งสองสวมกอดกันด้วยความดีใจ “ขอบใจที่มานะเพื่อน” “แน่นอน เราไม่เจอกันตั้ง 3-4ปีเลยนะเนี่ย” “ใช่ นานมากเลย เอ่อ...นี่พี่สาวฉันเอง จำได้รึป่าว” “จำได้สิ พี่คาเมะ พี่สาวใจดี ไอดอลในฝันของฉันเลยล่ะ สวัสดีครับพี่” “สวัสดีจ้ะ” ยังไม่ทันที่ทั้ง 3 คนจะได้คุยอะไรกันต่อ ในเมื่อมีซุปเปอร์สตาร์ขวัญใจวัยรุ่นยืนอยู่ในที่แห่งเดียวกันถึง 3 คน งานนี้ก็เลยบรรลัยเกิด ประชาชนต่างกรูกันเข้าหาคาเมะ โทโมะและฮิบาริ ทำให้พวกเขาต้องรีบเผ่นอย่างเร็ว โทโมะคว้ากระเป๋าสัมภาระของเพื่อนวิ่งไปก่อนแบบไม่คิดชีวิต ส่วนฮิบาริก็ถือวิสาสะอุ้มคาเมะวิ่งหนีเหล่าฝูงชนไปซะอย่างนั้น จนกระทั่งมาถึงที่รถได้อย่างปลอดภัย “โอ๊ย!!เหนื่อยชะมัดเลย กระเป๋านายนี่ก็หนักด้วย....พี่ครับ?....เฮ้...ฮิบาริคุง?” โทโมะหันซ้ายหันขวามองหาคนทั้งสอง และเขาก็หันไปเห็นเพื่อนรักตัวแสบอุ้มพี่สาวของเขาชนิดไม่ยอมวาง แถมยังเห็นเพื่อนตัวดีทำท่าทีเจ้าชู้ใส่พี่สาวของเขาอีกด้วย “พี่คาเมะ ไม่เป็นไรใช่มั้ยครับ” “อ่า...ค่ะ” “ดีจังเลยนะครับ” “เอ่อ....เอ่อ....” ฮิบาริยังคงส่งสายตาเจ้าชู้ใส่คาเมะแถมยังอุ้มไม่ยอมวางอีก ทำเอาโทโมะออกอาการหวงพี่สาวอย่างชัดเจน “นี่.....” “อะไรเพื่อน” “หมายความว่าไง...ห๊ะ...ไอ้อะไรของแกน่ะ” “ก็แล้วอะไรล่ะ” “ที่แกอุ้มอยู่น่ะ พี่สาวของฉันนะเฟ้ย!!” “อืม...ก็พี่คาเมะไง แล้วทำไมอ่ะ” (ยังไม่รู้ตัวอีก) “ก็แล้วใจคอแกจะอุ้มอยู่อย่างนั้นรึไงฟระ!!! วางพี่ฉันลงได้เลยเฟ้ย!!!ไอ้เจ้าบ้า!!! ฉันรู้นะว่าแกคิดอะไรอยู่ ไอ้ทะลึ่ง!!!” “แหะๆ โทษที” “ขืนไม่รีบวางพี่ฉันลงล่ะก็ แกเจอดีแน่ หนอย!!ขนาดเพิ่งเจอกันนะเนี่ย”
สัปดาห์ต่อมา บ้านใหม่ของสองพี่น้องก็แล้วเสร็จ และทั้งคู่ก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่ตามที่ตั้งใจไว้ คาเมะจัดห้องทุกห้องจนดูสวยงาม เมื่อมาถึงห้องนั่งเล่น ที่มุมห้องมีแท่นบูชาอยู่ เธอจัดแจงหยิบรูปภาพและป้ายวิญญาณของใครบางคนออกมาจากกล่องไม้ และวางไว้ที่แท่นบูชานั้น เป็นจังหวะที่โทโมะผ่านมาเห็นพอดี “นั่นมัน....รูปกับป้ายวิญญาณของพี่เซย์จินี่หน่า หมายความว่า พี่...ยังไงก็ไม่ลืมเค้าสินะ อย่างนี้ล่ะมั้งที่ว่ากันว่า รักแรกลืมยาก เราไม่อยากจะเป็นแบบนั้นเลย มันคงจะ...ทรมานสุดใจ” ชายหนุ่มคิดในใจ แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้ เขาจึงเดินเลี่ยงไปที่อื่น เช้าวันต่อมาโทโมะโทรหาฮิบาริอีกครั้ง “ไงเพื่อน พร้อมรึยัง.... ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปรับเดี๋ยวนี้ล่ะนะ...OK แล้วเจอกัน” คาเมะเปิดประตูออกมาจากห้องนอน และได้ยินโทโมะคุยโทรศัพท์เมื่อครู่นี้ “คุยอะไรกับใครแต่เช้าล่ะ แล้วนั่นจะไปไหน” “ก็จะไปรับฮิบาริคุงมาเที่ยวบ้านใหม่ของเราไงพี่” “อ้าว...หรอ” “ลืมไวจังเลยนะพี่ เอาเป็นว่าพี่ไปแต่งตัวนะ จะได้ไปรับฮิบาริคุงกับผม” “เอ๋!? พี่ต้องไปกับเธอด้วยหรอ” “ YES!!!” “เล่นแบบนี้เลยนะเจ้าตัวแสบ” “เหอะน่ะ เร็วๆเลย แต่งฟรีสไตล์นะคร้าบบบบบ” “งั้นหรอแป๊บ นะ” คาเมะเข้าไปแต่งตัวอยู่ในห้อง ไม่นานนักเธอก็ออกมาในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กระโปรงสีดำ โทโมะเห็นเช่นนั้นก็อมยิ้มในความน่ารักของพี่สาว “ว๊าว!! พี่ครับ น่ารักอ่ะ ถ้าไม่รู้อายุจริงๆนี่ นึกว่าเด็กวัยรุ่นเลยนิ” “โกหกน่ะ พี่ไม่เหมือนเด็กขนาดนั้นสักหน่อย” “พูดจริงๆนะ อิอิ...เอาล่ะไปกันเถอะครับ” ทั้งสองไปยังสถานีรถไฟโดยรถสปอร์ตของโทโมะเพื่อรอรับ ฮิบาริ แน่นอนว่าประชาชนที่อยู่บริเวณนั้นจำทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี จึงมีคนขอถ่ายรูปบ้าง ขอลายเซ็นบ้าง ซึ่งไอดอลทั้งสองก็ไม่ปฏิเสธ ไม่นานนักเด็กหนุ่มคนหนึ่งก็เดินเข้ามา “Hi เท็ตสึกะคุง” ชื่อนั้นเป็นชื่อเดิมของโทโมะ เขาหันมองผู้ที่เรียกชื่อนั้นทันที “เฮ้! ฮิบาริคุง” ทั้งสองสวมกอดกันด้วยความดีใจ “ขอบใจที่มานะเพื่อน” “แน่นอน เราไม่เจอกันตั้ง 3-4ปีเลยนะเนี่ย” “ใช่ นานมากเลย เอ่อ...นี่พี่สาวฉันเอง จำได้รึป่าว” “จำได้สิ พี่คาเมะ พี่สาวใจดี ไอดอลในฝันของฉันเลยล่ะ สวัสดีครับพี่” “สวัสดีจ้ะ” ยังไม่ทันที่ทั้ง 3 คนจะได้คุยอะไรกันต่อ ในเมื่อมีซุปเปอร์สตาร์ขวัญใจวัยรุ่นยืนอยู่ในที่แห่งเดียวกันถึง 3 คน งานนี้ก็เลยบรรลัยเกิด ประชาชนต่างกรูกันเข้าหาคาเมะ โทโมะและฮิบาริ ทำให้พวกเขาต้องรีบเผ่นอย่างเร็ว โทโมะคว้ากระเป๋าสัมภาระของเพื่อนวิ่งไปก่อนแบบไม่คิดชีวิต ส่วนฮิบาริก็ถือวิสาสะอุ้มคาเมะวิ่งหนีเหล่าฝูงชนไปซะอย่างนั้น จนกระทั่งมาถึงที่รถได้อย่างปลอดภัย “โอ๊ย!!เหนื่อยชะมัดเลย กระเป๋านายนี่ก็หนักด้วย....พี่ครับ?....เฮ้...ฮิบาริคุง?” โทโมะหันซ้ายหันขวามองหาคนทั้งสอง และเขาก็หันไปเห็นเพื่อนรักตัวแสบอุ้มพี่สาวของเขาชนิดไม่ยอมวาง แถมยังเห็นเพื่อนตัวดีทำท่าทีเจ้าชู้ใส่พี่สาวของเขาอีกด้วย “พี่คาเมะ ไม่เป็นไรใช่มั้ยครับ” “อ่า...ค่ะ” “ดีจังเลยนะครับ” “เอ่อ....เอ่อ....” ฮิบาริยังคงส่งสายตาเจ้าชู้ใส่คาเมะแถมยังอุ้มไม่ยอมวางอีก ทำเอาโทโมะออกอาการหวงพี่สาวอย่างชัดเจน “นี่.....” “อะไรเพื่อน” “หมายความว่าไง...ห๊ะ...ไอ้อะไรของแกน่ะ” “ก็แล้วอะไรล่ะ” “ที่แกอุ้มอยู่น่ะ พี่สาวของฉันนะเฟ้ย!!” “อืม...ก็พี่คาเมะไง แล้วทำไมอ่ะ” (ยังไม่รู้ตัวอีก) “ก็แล้วใจคอแกจะอุ้มอยู่อย่างนั้นรึไงฟระ!!! วางพี่ฉันลงได้เลยเฟ้ย!!!ไอ้เจ้าบ้า!!! ฉันรู้นะว่าแกคิดอะไรอยู่ ไอ้ทะลึ่ง!!!” “แหะๆ โทษที” “ขืนไม่รีบวางพี่ฉันลงล่ะก็ แกเจอดีแน่ หนอย!!ขนาดเพิ่งเจอกันนะเนี่ย”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ