My Love ปฏิบัติการรักพิชิตใจยัยจอมจุ้นและนายแบดบอย
6) ต้องช่วยให้ได้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ6
ผ่านมาสองวันแล้วที่ผมคอยจะลบความทรงจำของยัยนั้นโดยที่ผมไม่รู้เลยว่าความทรงจำนั้นมันคืออะไรกันแน่ และวันนี้ผมเห็นยัยนั้นมองผมนานแล้วซึ่งผมเองก็รู้ เพราะผมมองยัยนั้นทางหางตา
กรี๊ด!!!
และนี้อีกผมละรำคาญเสียงกรี๊ดพวกนี้จัง ยัยพวกนี้กินนกหวีดเป็นอาหารหรือไง
“หุบปาก!!!” ผมตะโกนแค่ครั้งเดียวเสียงกรี๊ดก็เงียบไป
ชิบ! ต้องให้ตะโกนอยู่เรื่อย
“นี้ฉันถามอะไรแกหน่อยสิ” ชินจิถามผมขณะยังซดราเมะ ผมหันไปด้วยสายตาที่บงบอกว่าอารมภ์เสียสุดๆ
“มีอะไรว่ะ”
“ทำไมแกถึงเย็นชากับพวกผู้หญิง แต่พอกับคารุแล้วนายกลับทำไม่เหมือนกันละ”
“...”
“ถึงมีบางครั้งที่แกเย็นชาใส่คารุแต่น้อยมากกว่ายัยพวกนี้อีกละ” นั้นสิเป็นอย่างที่ชินจิพูด ผมเองก็ยังงงตัวเองอยู่เลย
“มันก็ดีไม่ใช่เหรอไงว่ะ ถ้าทำแบบยัยพวกนี้ละก็มีหวังฉันต้องทำปฏิการอีกนาน” ชินจิเงยหน้าขึ้นจากราเมะก่อนจะจับคางเป็นเชิงคิด
“มันก็จริงของแกว่ะ แต่อีกอย่างหนึ่งที่ฉันอยากถามแกว่ะ” ชินจิดื่มน้ำไปอึกหนึ่งก่อนถามขึ้น และคำถามทำให้ผมแทบจะฆ่ามันเลย
“แกรักคารุหรือเปล่าว่ะ”
ผลัวะ!!!
ผมตบหัวชินจิไปทีหนึ่ง
“โอ๊ย!!! เพื่อนตบแรงเป็นบ้าเลยว่ะ” ชินจิพูดพรางลูบหัวตัวเอง
“แกถามอะไรบ้าๆว่ะ แกอยากให้ฉันฆ่าแกนักหรือไง”
“ก็แค่ถามไม่เห็นต้องโกรธเลยนี้ เหรอว่าจะรักเขาเข้าแล้ว”
“หึ!!! คนอย่างฉันไม่รักใครก่อน”
“เออๆ ให้ได้อย่างที่พูดเถอะ” และผมและชินจิก็ตั้งหน้าตั้งตากินข้าวของตนเอง
พอผมและชินจิกินข้าวก็เดินออกมาจากโรงอาหารเพื่อไปนั่งที่ประจำ แต่ผมเหลือบไปเห็นคนที่ผมคุ้นเคยสองคนกำลังเดินไปทางหลังอาคารเรียน คารุ!!!
ผมล็อกคอชินจิและออกแรงลาก ส่วนปากมันก็โวยอยู่นั้นแหละ พอผมมาถึงหลังอาคารเรียนผมเห็นผู้หญิงสองคนพูดหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน
“นี้แกลากฉันมาที่นี้ทำไมว่ะ ปล่อยฉันสักทีสิเว้ย” ผมลืมคนที่ผมล็อกคอมาด้วยสนิทเลย ผมปล่อยชินจิทันที
“เฮ้ย!!! ล็อกมาได้ฉันเจ็บนะเว้ย” ชินจิโวยทันทีที่ผมปล่อย
“ชู~” ผมรีบหันไปชูชินจิทันทีและมันก็รีบปิดปากตัวเองทันที
“ฉันจะเข้าไปหายัยพวกนั้นแกจะไปไหนตามใจแก”
“เฮ้ย!!! ทิ้งเพื่อนเลยนะนั้น แต่เอาเถอะรีบๆลบทรงจำได้ละกัน” พูดแล้วชินจิตบไหล่ผมก่อนจะเดินขึ้นไปอาคารเรียน
พอผมเห็นชินจิไปแล้วทีนี้ผมต้องไปบ้าง ผมเดินเข้าไปอย่างช้าๆ แต่ดูเหมือนว่ายัยพวกนี้ไม่รู้สึกเลยแหะ
“ไง” ผมทักขึ้นและยืนยิ้ม คารุและเพื่อนของเธอหันมาพร้อมเพรียงกัน
“ของนั่งด้วยคนได้ไหม” ผมถาม เพื่อนซี้ของยัยนี้พยักหน้านิดนึงก่อน ผมกำลังพูดแต่คารุจับแขนยัยเพื่อนซี้และมองตากันผมเองก็งงอยู่นะว่ายัยนี้ทำอะไรทำไมต้องจ้องตาเพื่อนอย่างนั้นละ แต่ไม่นานนัก เพื่อนซี้ของยัยนี้ก็ลุกขึ้น
“ได้สิ เชิญนั่งเลย” เพื่อนซี้ของยัยนี้หันมาพูดกับผมทันทีและยื่นมือไปทางคารุ
“ขอบใจ” ผมพูดก่อนมานั่งข้างคารุ
“นี้ ยูมิจะไปไหนเหรอ” คารุถลาเขามาถามผม ผมไม่ตอบแต่คลี่ตาพอมองเห็นยัยนี้
คารุเหมือนจะเดินหนี ผมจับมือของคารุก่อนจะออกแรงกระชากให้มานั่งใต้ร่มไม้ข้าง
“นี้ปล่อยฉันนะ” คารุหันมาตวาดใส่ผมและดึงมือตัวเองออกจากมือผม แต่ผมกลับยึดไว้
ผมลืมตาขึ้นมาและมองคารุ แต่พอยัยนี้เงยหน้าขึ้นมาจมูกเราก็ชนกันแล้ว ผมและคารุต่างคนต่างไม่กล้าขยับดวงตาสองเราเปิดกว้างจนผมเห็นเงาของผมอยู่ในดวงตากลมโตของเธอ ผมมองดวงตานั้นไม่รู้นานเท่าไรแต่ที่รู้ดวงตาของยัยนี้สวยชะมัด
ตึก
อะไรความรู้สึกนี่
“สวยจัง”
ผลัก!!!
“นี้!!! เธอว่าใครสวย ห๊ะ” ผมผลักคารุให้ไปจมกองอยู่กับพื้น
ยัยนี้ว่าใครสวยฟะ!!!
“จะบอกให้นะ ฉันเป็นผู้ชาย ผู้ชายทั้งแท่ง” ผมก็สบถออกมาอีกจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์
“นี้!!! พอได้แล้วที่ฉันว่าสวยนะตานายต่างหาดละที่สวย” คารุตะโกนออกมา และนั้นทำให้ผมหยุดสบถไปทันทีเลย และผมรู้สึกหน้ามันร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
“นี้อย่าบอกว่านายเขินน่ะ” คารุพูดขึ้นมาอีกและนั้นทำให้หน้าผมร้อนขึ้นอีก
“ยะ ยัยบ้า คะ ใครเขิน” ผมพูดตะกุกตะกะฟังไม่รู้เรื่องและผมก็เดิน
คารุแกล้งผมไปตลอดทางจนถึงทางขึ้นห้องเรียน ผมกะว่าจะหันไปด่ายัยคารุแต่พอผมหยุดคารุก็ชนหลังผม
ตุ้บ!!!
“อ๊ะ!!!” คคารุออกเสียงไดแค่นั้นและตอนเธอก็กำลังเอนไปผิดทาง
ผมรีบคว้ามือไปจับมือคารุและออกแรงกระชากให้กลับมา
หมับ
สมองผมว่างแต่มีสิ่งเดียวที่ผมสามารถบรรยายได้
ต้องช่วยยัยยนี้ให้ได้!!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ