Sugar Love หลุมรักร้าย ของนายหน้าหวาน

10.0

เขียนโดย evan

วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 19.04 น.

  14 chapter
  89 วิจารณ์
  22.09K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

14)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

    เธอไหวไหมเนี่ย




      โทโมะถามฉันในขณะที่เรากำลังอยู่ในห้องเรียน ฉันเงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะและหันไปมองหน้าเขาด้วยสีหน้ามึนๆ จะให้ไหวก็ไหวไม่ให้ไหวก็ได้อ่ะ - -




       “มันแค่มึนๆ เท่านั้นเอง




       “แต่ฉันว่าเธอเหมือนคนเมาค้างมากกว่านะ




       ฉันมองค้อนป๊อปปี้ทันที เมื่อคืนฉันไม่ได้ไปกินเหล้ามาสักหน่อยจะเมาค้างได้ยังไงยะถ้าจะเมานะเมายาพาราดีกว่าเยอะเพราะรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้ฉันกินมันบ่อยเหลือเกิน




       “บ้า ฉันไม่ได้เมานะ




       “โอเค ไม่เมาก็ไม่เมา ไปกินข้าวกันดีกว่า




       พอได้ยินแบบนั้นฉันจึงหยุดมองค้อนใส่ป๊อปปี้และเดินออกจากห้องไปพร้อมกับเพื่อนๆ เพื่อจะไปกินข้าวกลางวัน วันนี้ฉันก็ไม่เห็นยัยพิมอีกแล้วล่ะไม่รู้เหมือนกันว่าฉันจะไปเจอเธอนอกห้องเรียนเหมือนเมื่อวานหรือเปล่า แต่ถ้าให้ฉันเจอเหมือนเมื่อวานฉันไม่เอาแล้วนะทรมานมากๆ เลย - - ถ้าเธออยากจะฆ่าฉันก็โปรดฆ่าฉันให้ตายคาที่ไม่ต้องเสียเวลาหามฉันส่งโรงพยาบาลให้หมอยื้อชีวิตฉันได้เอาให้พอถึงโรงพยาบาลเสร็จเข็นเข้าห้องดับจิตเลยอ่ะ - -



โทโมะฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ




       “ฉันไม่ว่างอ่ะ




       เขาตอบฉันทั้งๆ ที่มือก็ยังนั่งเขียนหนังสือยิกๆ เอ่อ...ไม่ทราบว่านายฟังคำพูดของฉันผิดหรือเปล่า - -? ฉันจะไปเข้าห้องน้ำแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายไม่ว่างด้วยล่ะ แต่ก็นะเดี๋ยวนี้เวลาฉันจะไปไหนหมอนี่ก็ต้องตามฉันไปด้วยตลอด สงสัยว่าจะกลัวฉันโดนยัยพิมมี่รังแกอีกใครเนี่ยทำไมน่ารักจัง >_<




       “แต่ฉันจะไปอ่ะ




       “ไอ้ป๊อปแกว่างหรือเปล่า




       “ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับแกเนี่ยคิดว่าฉันว่างไหมล่ะ




       สองคนนี่คุยกันโดยที่มือก็ยังเขียนหนังสืออยู่ทั้งคู่ ฮ่าๆๆ ก็อย่างนี้แหละตอนที่อาจารย์ให้จดไม่ยอมจดกันเองสุดท้ายพวกนายก็ต้องมานั่งลอกยัยฟาง แต่ตอนนี้ฉันปวดปัสสาวะค่ะไม่ไหวแล้วนะ




       “โทโมะนายจะให้ฉันนั่งรอนายเขียนเสร็จหรอ มันอีกเยอะเลยนะ




       “งั้นเธอไปเองก็ได้ แต่...ต้องระวังตัวให้ดีนะ




       “รับทราบค่ะ เดี๋ยวมานะ




       ฉันรับคำและรีบวิ่งออกมาจากห้องเรียนตรงไปที่ห้องน้ำทันที ไม่นานฉันก็เดินออกมาด้วยความรู้สึกโล่งสบาย - - แต่ในระหว่างที่ฉันกำลังจะเดินขึ้นห้องจู่ๆ ก็มีใครก็ไม่รู้เอาผ้ากลิ่นแปลกๆ เปียกๆ มาโปะที่จมูกของฉัน ฉันพยายามที่จะแกะออกแต่ก็ดันสติหลุดไปซะก่อน แก้วใจสลบค่ะ _ _z z Z


       Tomo talks




       ผมวางปากกาปิดสมุดทันทีที่เขียนงานเสร็จ เมื่อยมือไปหมดเลยกว่าจะเขียนเสร็จเล่นใช้เวลาไปตั้งเกือบชั่วโมง ผมมองไปทางไอ้ป๊อปปปี้ที่กำลังนั่งบิดขี้เกียจเหวี่ยงแขนตัวเองไปมา ฮ่าๆๆ เมื่อยเหมือนกันล่ะสิเพื่อนรัก




       “งานเสร็จแล้วกลับบ้านกันเถอะว่ะห้าโมงแล้วด้วย

        " อืมๆ ไปกันเถอะฟาง"

     

     ว่าแล้วไอ้ป๊อป มันก็เดินไปโอบไหล่แฟนสาวของมัน

   

      ฟางเดินเองได้น่า ปล่อยได้แล้ว -//-”

 

   

        "ฟางอ่า กอดนิดกอดหน่อยก็ไม่ได่้- - "

       ผมหัวเราะเบาๆ ก่อนที่เราสองคนนั่งเก็บของเข้ากระเป๋าจนเสร็จเรียบร้อยและกำลังจะเดินออกจากห้อง แต่ผมก็ต้องหยุดฝีเท้าลงเพราะเหมือนรู้สึกว่าผมลืมอะไรบางอย่าง?




       ผมหันกลับไปมองที่โต๊ะอีกครั้งก็เห็นกระเป๋านักเรียนของแก้วใจยังวางอยู่ที่เก้าอี้ มันจึงทำให้ผมคิดได้ว่าแก้วยังไม่กลับมาจากการไปเข้าห้องน้ำนี่นา หลังจากที่เธอบอกจะไปเข้าห้องน้ำมันก็เกือบจะหนึ่งชั่วโมงอยู่แล้วนะจะว่าท้องเสียก็ไม่น่านานขนาดนี้ หรือว่า! เธอจะตกส้วมตายไปแล้ว O_O!!!




       “มีไรวะโทโมะ




       “แก้วยังไม่กลับมาใช่ไหม




       “เออว่ะ ลืมเลย - -




       นั่นไง ยังไม่กลับจริงๆ ด้วยผมลองกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องก็เห็นแต่เพื่อนไม่เห็นเงาของแก้วเลย ยัยนั่นไปไหนเนี่ยหรือว่าจะหลงทางในโรงเรียนหาทางขึ้นตึกไม่ถูก - -




       “ฉันว่าท่าไม่ดีแล้วนะไอ้โมะ ยัยนั่นจะถูกยัยพิมทำร้ายหรือเปล่า




       “ฟางว่ารีบไปตามหาเถอะค่ะ




       ว่าแล้วผมก็รีบวิ่งออกจากห้องไปทันทีและแยกทางกับไอ้ป๊อปปี้และน้องฟางเพื่อตามหาแก้ว หวังว่าผมจะคิดมากกันไปเองหรอกนะ แต่ถ้ามันไม่ใช่อย่างงั้นล่ะจะทำไง? โอ๊ย! ฉันขอให้เธอเดินเอ้อระเหยอยู่ข้างล่างนะแก้วใจ



       “นั่งแก้วตื่นสิ...!




       ฉันค่อยๆ ขยับเปลือกตาที่แสนจะหนักอึ้งของตัวเองขึ้นมามองโลกอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงเรียกของใครคนหนึ่งที่ดังรบกวนประสาทหูฉันเป็นอย่างมาก เธอจะมาตะโกนใส่หูฉันทำไมเนี่ยกลัวแก้วหูฉันไม่แตกรึไง




       “หึ ไง...ตื่นแล้วหรอ




       เฮ้ย...ทำไมเสียงของมันแปลกๆ คุ้นๆหู อ่ะ - -?  เสียงฟังดูน่ากลัวยังไงชอบกล เมื่อคิดได้อย่างนั้นฉันจึงหันหน้าไปมองตามเสียงแล้วก็ต้องตกใจ! ที่เห็นยัยพิมยืนอยู่กับผู้ที่คิดว่าน่าจะเป็นขี้ข้า (ใช้คำซะต่ำต้อยเลย) ของเธอเป็นผู้ชายตัวเท่าช้างขึ้นอืดสามสี่คน ตอนเด็กๆ พ่อแม่เลี้ยงพวกนายด้วยอะไรน่ะทำไมตัวถึงได้ใหญ่ผิดมนุษย์ขนาดนี้ - -




       “เธอจับฉันมาทำไมน่ะ




       ฉันถามขึ้นเมื่อรู้ว่าตัวเองถูกจับให้นั่งและมัดติดกับเก้าอี้ ยัยพิมแสยะยิ้มก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ฉัน วันนี้ฉันอุตส่าห์ไม่เห็นหน้าเธอทั้งวันก็ยังจะได้มาเห็นตอนก่อนกลับบ้านอีกนะ - - ตายยากจริงๆ




       “จับมาทำไมน่ะหรอ...แกไม่จำเป็นต้องรู้หรอก




       ทำท่าเหมือนจะบอกว่าจับมาทำไม - - ฉันเป็นคนถูกจับตัวมาฉันก็ต้องรู้สิว่าเธอจับฉันมาทำไม ถ้าเธอคิดจะเรียกค่าไถ่ฉันล่ะก็เสียใจด้วยนะพ่อฉันคงจะไม่มีเงินให้เธอหรอกเพราะงั้นปล่อยฉันไปเถอะนั่งอยู่แบบนี้นานๆ ฉันเจ็บนะ




       “เธอปล่อยฉันได้ไหมล่ะ ฉันเจ็บ




       “หึ เจ็บหรอ...




       เพียะ




       “แล้วแบบนี้ล่ะเจ็บกว่าไหม




       เธอตบฉันจนหน้าหันขนาดนี้ไม่เจ็บก็แย่แล้ว สงสัยเธอนี่คงจะสติไม่ดีจริงๆ นะเนี่ย เธอปล่อยฉันแล้วกลับบ้านศรีธัญญาของเธอไปนอนดีกว่าไหม




       “เธอมาตบฉันทำไมเนี่ย




       “มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ สำหรับที่แกแย่งโทโมะไปจากฉัน




       “ฉันไม่ได้แย่งสักหน่อย...




       เพียะ




       “แกไม่ต้องมาเถียงฉัน โมะเขาประกาศลั่นซะขนาดนั้นว่าเขารักแก แกยังจะมาปฏิเสธอีกหรอ




       พิมมี่ตบหน้าฉันอีกครั้งเมื่อฉันพูดขัดขึ้นมา ถ้าเธอได้ยินแบบนั้นเธอก็น่าจะยอมรับความจริงสิ เธอจะมานั่งหลอกตัวเองว่าโทโมะไม่ได้รักเธออยู่ทำไมเสียสุขภาพจิต จิตเธอก็ยิ่งแย่ๆ อยู่ไม่ใช่รึไงเอาเวลาที่เธอมาตบฉันเนี่ยไปหาผู้ชายคนใหม่ยังจะเข้าท่ากว่าอีกมั้ง แค่นี้ต้องให้สอนด้วยหรอ




       “ทำไม...ทำไมผู้ชายที่ฉันรักเขาถึงได้ไปรักคนอื่น แกแย่งความรักไปจากฉัน! นังมารร้าย!!!




       เพียะ




       ยัยนั่นพูดทั้งน้ำตาก่อนจะตะโกนเสียดังและหวดฝ่ามือลงมาที่ใบหน้าของฉันอีกครั้งจนฉันรู้สึกว่าหน้ามันชาไปหมดทั้งแถบ มันเจ็บนะเฟ้ยคนที่เป็นนางมารร้ายน่ะคือเธอมากกว่ามั้งที่มานั่งตบคนอื่นอย่างมันมืออยู่แบบนี้น่ะ อย่าให้ฉันหลุดออกไปได้นะแม่จะเตะก้านคอให้หักเลย -*-




       “โอ๊ยนี่! หยุดสักทีได้ไหมฉันก็เจ็บเป็นเหมือนกันนะ




       “แกเจ็บแต่ฉันไม่ได้เจ็บด้วยหนิ




       อ้าวนังนี่ - - สงสัยคงอยากจะก้านคอหักจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย เดี๋ยวรอคนเขียนเขียนให้ฉันหลุดออกไปได้ก่อนเถอะ เธอได้เจอก้านคอแน่ยัยพิม-_-+++




       “แก้มัดให้มันซิ




       พิมมี่หันไปสั่งขี้ข้า (ลูกน้อง) ขึ้นอืดของมันให้มาแก้มัดให้ฉัน ฉันงงๆ อยู่สักพักก็ต้องสะดุ้งเมื่อจู่ๆ ไอ้ขี้ข้าของยัยพิมมาลูบไล้บริเวณต้นแขนของฉันที่ถูกมัดอยู่ด้านหลังจนถึงข้อมือ ไอ้บ้า! แกทำอะไรของแกเนี่ยเดี๋ยวได้เจอศอก เดี๋ยวก่อนๆ




       “แกรู้ไหมว่านี่คืออะไร




       หลังจากที่ขี้ข้าของยัยพิมมี่แก้มัดให้ฉันเสร็จแต่ก็จับแขนฉันไว้ทั้งสองข้าง เธอก็หยิบมีดเล่มหนึ่งขึ้นมาพลางถามฉันว่ามันคืออะไร ยัยโง่เอ๊ย เธอเห็นเป็นที่ตะไบเล็บหรือไงล่ะ - -*




       “มีด




       “ใช่ แล้วแกรู้ไหมว่าฉันจะเอามันมาทำอะไร




       “ฉันจะไปรู้หรอ




       “หึ โง่จังนะ ฉันก็จะเอามาฆ่าแกยังไงล่ะ!!!




       ยัยพิมพูดท่าทางเหมือนคนโรคจิตแล้วชูมีดขึ้นมาให้ฉันเห็นชัดๆ มีสนิมหรือเปล่าน่ะ - -? ถ้ามีโปรดกรุณาเปลี่ยนเล่มใหม่เพราะฉันไม่อยากเป็นบาดทะยักตายแทนการถูกแทง




       “โอ๊ย! พ่อจะโทรมาทำไมตอนนี้เนี่ย พวกแกดูนังนี่ไว้ให้ดีๆ นะอย่าให้มันหนีไปได้จะทำอะไรก็ทำไป




       ยัยพิมพูดออกมาอย่างหัวเสียก่อนจะหันมาสั่งกับขี้ข้าของเธอและเดินออกจากที่นี้ไปคุยโทรศัพท์กับพ่อ ทำไมเธอถึงปล่อยให้ฉันอยู่กับขี้ข้าของเธอคนเดียวล่ะนาเดีย กลับมาก๊อน!




 

     ฉันหันมองไปรอบตัวก็เห็นไอ้พวกขี้ข้านี่มองฉันด้วยสายตาหื่นๆ แกลองทำอะไรฉันดูสิหัวจะได้หลุดออกจากบ่าโดยไม่รู้ตัว




       “ไงคนสวย เธอไปแย่งแฟนของนายฉันหรอ




       ช้างขึ้นอืดตัวหนึ่งเดินเข้ามาถามฉันด้วยเสียงที่กะล่อนสุดๆ ฉันไม่ได้แย่งสักหน่อย ฉันอยู่เฉยๆ ของฉันโทโมะก็มารักฉันเอง ฉันไม่รู้เรื่อง




       “ฉันว่าเธอคืนผู้ชายคนนั้นให้นายฉันไปเถอะแล้วก็มาเป็นแฟนฉันแทน




       ขึ้นอืดตัวที่สองเดินมา กรี๊ด!!! หยาบคาย ฉันไม่คิดสั้นถึงขนาดปล่อยโทโมะสุดหล่อไปแล้วมารักกับผู้ชายหน้าตาปลากระโห้เรียกทวดอย่างแกหรอกย่ะ เอาแกสิบคนมารวมกันเนี่ยยังหล่อไม่เท่าครึ่งของโทโมะเลย - -




       “ไม่เอาหรอก ฉันอยากมีอนาคตที่ดีกว่านี้




       “โหย แรงว่ะ แกยอมหรอ




       “หึ ผู้หญิงดุๆ แบบนี้สิฉันชอบ




       อืดหนึ่งกับอืดสองคุยกันก่อนที่ไอ้อืดสองจะยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ฉัน อี๋ นี่ถ้าไม่ติดมีไอ้อืดจับแขนฉันไว้นะ แกโดนฉันศอกเข้าหน้าดั้งหักไปแล้ว




       “หึ จะว่าไปเธอก็หน้าตาน่ารักดีนะสาวน้อย




       ไอ้อืดหนึ่งเดินเข้ามาเชิยคางฉันขึ้นไปสบตา แต่ตอนนี้น่ะรีบเอามือสกปรกๆ ของแกออกไปจากใบหน้าของฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ เสนียดชีวิต!!! แล้วอีกอย่างฉันใช้ นางสาว แล้วนะไม่ได้ใช้ เด็กหญิง อยู่ยังจะมาเรียกฉันว่าสาวน้อยอีกเดี๋ยวได้สูญพันธุ์ -*-




       “ไม่น่าล่ะนายเราถึงได้อิจฉา




       “เพราะยัยนี่สวยกว่านี่เอง




       “ฮ่าๆๆๆ




       อ้าว แบบนี้เหมือนจะแอบนินทาเจ้านายนะเนี่ย ถ้ายัยนั่นมาได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่นะพวกแกได้ตายแทนฉันแน่ ฮ่าๆๆๆ




       “เฮ้ย ทำไมนายเราไปนานจังเลยวะฉันเริ่มทนไม่ไหวแล้วนะ




       “นั่นดิ ไปคุยกับนายใหญ่ถึงไหนก็ไม่รู้




       ฉันยืนฟังไอ้สองคนนี่คุยกันแล้วก็งงๆ ที่แกบอกว่าทนไม่ไหวเนี่ยแกปวดขี้หรอ ถ้าปวดจริงก็รีบๆ ไปเลยนะอย่ามาเรี่ยราดแถวนี้เดี๋ยวฉันได้สลบอีกรอบ - -




       “เจ็บอ่ะ




       “เป็นอะไร




       “นายจับแขนฉันไขว้หลังอยู่แบบนี้น่ะเส้นจะยึดแล้ว




       “อ้าวหรอ




       ฉันบ่นออกมาเมื่อรู้สึกเจ็บบริเวณข้อพับแขนเนื่องจากแขนมันถูกรั้งไปด้านหลังเป็นเวลานาน ไอ้อืดที่จับแขนฉันอยู่จึงปล่อยแขนฉันออก ฉันเจ็บมาตั้งนานแล้วล่ะแต่ไม่กล้าพูดกลัวว่ามันจะด่าเอาว่าเรื่องมาก - -




       “อย่าจับได้ไหม ฉันรับรองว่าฉันจะไม่หนีถ้าฉันหนีนะพวกนายหักคอฉันได้เลย




       “จริงอ่ะ




       “เกียรติของลูกผู้หญิงเป็นประกันเลยอ่ะ




       “ฮ่าๆๆ ก็ได้นั่งอยู่เฉยๆ ก็แล้วกัน




       ไอ้อืดจับฉันให้นั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิมโดยไม่มัดและไม่จับแขนฉันไว้เพียงแต่ยืนเฝ้าอยู่ข้างๆ ใครมันจะกล้าหนีถึงฉันหนีก็คงจะไม่พ้นตัวมันใหญ่อย่างกับฝาบ้านฉันก็ตัวเล็กอย่างกับปลวกคงจะไปสู้แรงมันไหวหรอก ฉันขอเป็นวานรสอนง่ายไปก่อนดีกว่า




       “นี่ แล้วเมื่อไหร่นายของพวกนายจะมาฆ่าฉันสักทีเนี่ย เสียเวลา




       “เธออยากตายหรอ




       “เปล่า แต่ในเมื่อยัยนั่นอยากจะฆ่าฉัน ฉันก็คงจะหนีไม่พ้นตายเลยดีกว่า




       “ฮ่าๆๆ เธอนี่ตลกดีนะ




       ทั้งสามอืดระเบิดหัวเราะออกมาพร้อมกัน อะไรของมันเนี่ยฉันไม่ได้พูดให้พวกแกขำสักหน่อยดูหน้าฉันซิ...ฉันจริงจังนะ -_-




       “ขำอะไร ฉันไม่ได้เป็นตลกคาเฟ่สักหน่อย




       “อะไรกัน! นี่พวกแกยังไม่จัดการมันอีกหรอ!!”




       ในขณะที่ฉันกำลังมึนเสียงแปดหลอดของยัยพิมก็ดังขึ้นเป็นจุดสนใจให้ทุกคนหันไปมอง เธอจะให้ไอ้พวกนี้จัดการอะไรฉันเล่าทำไมเธอไม่มาจัดการเอง อยากจะฆ่าฉันมากไม่ใช่หรือไง




       “ฉันให้เวลาพวกแกอีกห้านาทีนะจัดการมันซะ




       พิมมี่ชี้หน้าพวกขี้ข้าของเธอก่อนจะเดินออกไปคุยโทรศัพท์ต่อ (มั้ง) ทั้งสามอืดมองหน้ากันและหันมามองหน้าฉันเป็นตาเดียว อะไรกันล่ะฉันมีอะไรงั้นหรอ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา