เผื่อวันพรุ่งนี้
9.1
2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความห้องซ้อม FFK
"อ้าวโทโมะซ้อมเสร็จแล้วหรอ"สาวตัวเล็กที่ดูจะตัวเล็กที่สุดในวงถามเพื่อนชายอีกวงที่เดินเข้ามาในห้องซ้อมทั้งที่ไม่ใช่ห้องซ้อมของตัวเอง
"ยังหรอกแต่ห้องนู้นมีแต่คนกวนประสาทเลยมาห้องนี้"ยิ้มนิดๆมองร่างบางที่นั่งกินขนมไม่สนใจเดินเข้าไปหาเพื่อนรักแล้วนั่งลงข้างๆ
"กินมั้ย"ยื่นขนมให้เพื่อนรักคนสนิทชายหนุ่มส่ายหน้าแล้วดันออกไม่ใช่ไม่อยากกินแต่ตอนนี้มันจุกไปหมดพึ่งซ้อมเต้นพักไม่ถึงครึ่งชั่วโมงยัดขนมเข้าไปอ้วกแน่
"ชิอุตส่าห์เอาให้แล้วไม่กินมันเสียน้ำใจคนให้นะ"สะบัดหน้าหนีแอบงอนอยู่ลึกๆก็อุตส่าห์ยื่นขนมให้แต่กลับมาดันออก'งั้นทีหลังผีดิบก็ไม่ต้องกิน'
"ไม่ไหวแล้วมันจุกเพิ่งซ้อมเต้น"บอกเพื่อนรักที่นั่งหน้างอคอหักเป็นปลาทูแม่กลองตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะง้อใครก็เพิ่งได้ยินเสียงบาดใจกับรอยยิ้มบาดตาที่เพื่อนรักหยอดให้กับคนปลายสาย
"เออๆกลับห้องซ้อมไปได้แล้วไปห้องซ้อมนะไม่ใช่สวนสาธารณะเดินเข้าเดินออกอ่ะ"สาวแก้มบุ๋มไล่เพื่อนชายอีกวงเอื้อมมือหยิบขนมมาแกะแล้วโบกมือไล่
"ไม่เอาห้องนู้นมีแต่ผู้ชายมองแล้วไม่เจริญตาผู้หญิงน่ามองกว่าเยอะ"ยิ้มละลายให้สามสาวแต่ถ้าว่าทั้งสามคนไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับรอยยิ้มตัวเองเลยสักนิด'นี่มันเป็นรอยยิ้มที่หลายๆคนใฝ่ฝันนะพวกเธอไม่ชอบหรอ'
"ผู้หญิงนะไม่ใช่ดอกไม้ที่เห็นแล้วก็หยุดมองมองเบื่อแล้วก็ไปอ่ะ"หันมาประชดใส่เพื่อนรัก
"ก็ตัวเองนั่นแหละที่กำลังเป็นดอกไม้ของเค้า"พูดเบาๆก่อนจะเดินออกไปสาวๆในห้องได้แต่นั่งมองหน้ากันก็ผีดิบอยากเข้ามาก็เข้าอยากออกก็ออกโดยไม่ลา
ห้องซ้อม k-otic
"ไปไหนมาครับคุณชายผีดิบไปดูภาพบาดตาคำพูดบาดใจหรอครับ"เดินเข้าไปกอดคอยังไม่เข็ดกับบทเรียนขวดน้ำเฉียดหัวไปเมื่อกี้
"ถ้าแกยังไม่เลิกกวนประสาทชั้นล่ะก็ชั้นจะเอารองเท้าปาหัวแกแทนขวดน้ำ"ปัดมือกบออกเดินไปนั่งกับเพื่อนอีกสามคน
"อะไรกันวะไอ้สองคนภาพบาดตาคำพูดบาดใจหมายความว่าไง"โวยวายถามสองคนที่ดูจะรู้เรื่องกันและกันเยอะที่สุดแต่ก็ไม่มีใครสนใจเลย
"ไอ้หมีแกอยู่เฉยๆถ้าไม่อยากโดนปาหัวด้วยรองเท้า"ทำหน้ายักษ์ใส่แววตาคมและใบหน้านิ่งเรียบทำให้ดูดุดันพอบอสหน้าหมีเห็นก็เงียบเห็นบอสดูเคร่งขรึมก็พูดมากพอกับกบนั่นแหละ
"เฮ้อชั้นไม่เข้าใจพวกแกหรอกนะว่าเป็นอะไรแต่ชั้นว่าไปซ้อมเต้นกันดีกว่ามั้ย"ไปรับลมหนาวตอนกลางคืนมาอารมณ์ก็เย็นขึ้นแต่ดันมาเจอไอ้บอสขี้สงสัยกับไอ้ผีดิบที่ขี้เกียจพูดที่สุดในโลกเล่นเอาซะปวดหัวไปหมด'รู้งี้ตากลมข้างล่างดีกว่า'
"เออจะได้กลับบ้านเมื่อยไปหมดแล้ว"ชาวเกาหลีบิดตัวสองสามทีหักนิ้สดังกร๊อบแกร๊บคลายเมื่อยให้ตัวเองถ้ากลับบ้านไปแล้วมีใครนวดให้ก็ดีสิ่แต่นี่กลับไปก็ไม่มีใครนวดแถมไม่มีใครให้นอนกอดด้วยคิดแล้วหนักใจไล่ความคิดบ้าๆออกจากสมองแล้วหันมาสนใจเพื่อนในวงต่อ
"นั่นแหละที่ต้องทำ...งั้นก็ไปซ้อมเต้นกัน"สั่งหน้าเคร่งขรึมพอจะกลับมาบทบอสใหญ่ที่ดูน่านับถือก็เปลี่ยนโหมดไวเกินแต่พอปัญญาอ่อนพูดมากขี้สงสับก็ไม่มีใครตามไอ้หน้าหมีทันเหมือนกัน
~ไม่มีใครอยากลืม เรื่องที่เราอยากจำ~เสียงเพลงเปิดตามด้วยจังหวะเต้นไม่ว่าจะกี่เพลงk-oticก็จะมีท่าประกอบไม่ว่าช้าเร็วทั้งห้าคนตั้งใจซ้อมกันอีกครั้งจนทุกคนเริ่มเหนื่อยและดูจะอ่อนเพลียกับวันนี้ก็แทบจะนอนที่บริษัทแต่มีลิงเจ้าปัญหาที่เริ่มกลับมาร้อนอีกครั้ง
"กลับบ้านดีกว่าว่ะ"หยิบกระเป๋าสะพายคู่ใจไปไหนไปกันไม่ว่าจะไปต่างประเทศในประเทศกระเป๋าสุดเก๋ก็ติดตัวกบแห่งk-oticเสมอ
"เออเมื่อย"ยืนหน้ากระจกเซ็ตหน้าม้าที่เพิ่งตัดทรงใหม่มาหมาดๆให้เข้าที่สวมหมวกรูปตัวทีแล้วหยิบกระเป๋าสะพายสีดำมาสะพายไว้ข้างตัว
"งั้นแยกย้ายนะใครไปกับชั้น"บอสใหญ่ทำท่าทีอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด
"ชั้นขอกลับด้วยไม่ได้เอารถมาน้ำมันหมด"หนุ่มแว่นยกมือแล้วเดินออกจากห้องซ้อมไป
"งั้นกลับก่อนนะเว้ยจะไปแช่น้ำที่บ้านมันร้อน"เหงื่อแต่ผลั่กมือเช็ดแล้วเช็ดอีกถ้าบอกว่าเพิ่งอาบน้ำมาก็จะเชื่อเลยเล่นชุ่มไปทั้งตัว
"ไปแล้วนะไอ้โมะกลับด้วยกันมั้ยหะ"ชวนผีดิบที่ยังเปลี่ยนการใส่หมวกอยู่หลายทีเซ็ตผมแล้วเซ็ตอีก
"เออๆเสร็จแล้วไป"เดินออกไปจากห้องซ้อมพอเดินออกไปก็เจอสามสาวอีกวงเพื่อนสนิท
"กลับแล้วหรอหัวหอม เป็ดน้อย ที่รัก"หยอกล้อกับสาวห้าวตลอดแค่อยากให้คนที่อยู่ข้างๆมันลองแสดงอาการหวงออกมาให้ดู
"กลับแล้วที่รัก555"หัวเราะร่วนเดินเข้าไปกอดคอดกันอย่างสนิทสนมหนุ่มญี่ปุ่นเบือนหน้าหนีเล็กน้อย
"พอแล้วยัยแก้วแม่มานู่นแล้ว"ชี้ไปที่รถที่จอดรอหน้าบริษัท
"เออไปแล้วนะเขื่อน เฟย์ ฟาง เฮ้ผีดิบบ๊ายบายจุ๊บ"ท่าส่งจูบทำเอาเพื่อนรักใจเต้นไม่เป็นจังหวะแต่พอมานึกได้เค้าไม่ได้ส่งจูบลาเราคนเดียวเค้าส่งจูบให้ทุกคนคิดแล้วก็ขำตัวเองเล็กๆ
"เฟย์ฟางคุณแม่มารับแล้วนะครับองค์หญิงน้อย"ผายมือเชิญสองพี่น้องที่ยังคงหาขนมเข้าปาก
"หรองั้นบ๊ายบายนะไปพี่ฟาง"พากันวิ่งออกไปทั้งสองหนุ่มขำให้กับท่าทีของทั้งสามสาวที่รั่วกันจนแทบไม่มีใครสมประกอบ
"ไปเถอะว่ะเค้ากลับบ้านกันหมดแล้ว"กอดคอเพื่อนหนุ่มออกไปหน้าบริษัทกดปลดล๊อกรถสีแดงคู่ใจคันมินิที่ดูจะสะดวกกว่ารถคันยาวๆอย่างซูซี่ของบอสใหญ่
"ไอ้เขื่อนปิดเพลงดิฟังอะไรนักหนาวะแกอยู่เงียบๆเป็นบ้างมั้ย"กดปิดปุ่มเครื่องเสียงที่ดังกระหึ่มส่วนไอ้เจ้าของรถก็ลิปซิ้งตามเพลงส่ายหัวโยกหัวไปมาจนผมสีทองสะบัดไปมา'ถ้าวันนี้ชั้นไม่ถึงบ้านนะไอ้กบแกตาย'ส่งสายตาพิฆาตเงียบๆไปให้
"โห่กำลังมันเลย"หันมาหาคนข้างๆไม่มองรถข้างหน้าแทบเอาคนนั่งมาด้วยแทบอยากบ้าตาย
"ไม่ต้องมามองหน้าชั้นขับรถไปแล้วไม่ต้องเปิดเพลงชั้นไม่ชอบ"ไม่ตะคอกไม่โวยวายแต่ทำเสียงนิ่งคนได้ยินก็นั่งเฉยๆเพราะแสดงว่าผีดิบไม่ชอบจริงๆ
"บายผีดิบพรุ่งนี้มีงานนะเว้ยอย่านอนฝันถึงจริญญาเพลินนะ555"หัวเราะจนหัวแทบกระแทกพวงมาลัยส่วนผีดิบก็ตีหน้านิ่งธรรมดา
"กลับไปได้แล้วไปเสียงแกรบกวนชาวบ้านเค้า"ปิดประตูรถให้แล้วเดินเข้าไปในบ้านส่วนกบก็นั่งหัวเราะอยู่ในรถก่อนจะเคลื่อนตัวรถกลับไปบ้านตัวเอง
"อ้าวโทโมะซ้อมเสร็จแล้วหรอ"สาวตัวเล็กที่ดูจะตัวเล็กที่สุดในวงถามเพื่อนชายอีกวงที่เดินเข้ามาในห้องซ้อมทั้งที่ไม่ใช่ห้องซ้อมของตัวเอง
"ยังหรอกแต่ห้องนู้นมีแต่คนกวนประสาทเลยมาห้องนี้"ยิ้มนิดๆมองร่างบางที่นั่งกินขนมไม่สนใจเดินเข้าไปหาเพื่อนรักแล้วนั่งลงข้างๆ
"กินมั้ย"ยื่นขนมให้เพื่อนรักคนสนิทชายหนุ่มส่ายหน้าแล้วดันออกไม่ใช่ไม่อยากกินแต่ตอนนี้มันจุกไปหมดพึ่งซ้อมเต้นพักไม่ถึงครึ่งชั่วโมงยัดขนมเข้าไปอ้วกแน่
"ชิอุตส่าห์เอาให้แล้วไม่กินมันเสียน้ำใจคนให้นะ"สะบัดหน้าหนีแอบงอนอยู่ลึกๆก็อุตส่าห์ยื่นขนมให้แต่กลับมาดันออก'งั้นทีหลังผีดิบก็ไม่ต้องกิน'
"ไม่ไหวแล้วมันจุกเพิ่งซ้อมเต้น"บอกเพื่อนรักที่นั่งหน้างอคอหักเป็นปลาทูแม่กลองตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะง้อใครก็เพิ่งได้ยินเสียงบาดใจกับรอยยิ้มบาดตาที่เพื่อนรักหยอดให้กับคนปลายสาย
"เออๆกลับห้องซ้อมไปได้แล้วไปห้องซ้อมนะไม่ใช่สวนสาธารณะเดินเข้าเดินออกอ่ะ"สาวแก้มบุ๋มไล่เพื่อนชายอีกวงเอื้อมมือหยิบขนมมาแกะแล้วโบกมือไล่
"ไม่เอาห้องนู้นมีแต่ผู้ชายมองแล้วไม่เจริญตาผู้หญิงน่ามองกว่าเยอะ"ยิ้มละลายให้สามสาวแต่ถ้าว่าทั้งสามคนไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับรอยยิ้มตัวเองเลยสักนิด'นี่มันเป็นรอยยิ้มที่หลายๆคนใฝ่ฝันนะพวกเธอไม่ชอบหรอ'
"ผู้หญิงนะไม่ใช่ดอกไม้ที่เห็นแล้วก็หยุดมองมองเบื่อแล้วก็ไปอ่ะ"หันมาประชดใส่เพื่อนรัก
"ก็ตัวเองนั่นแหละที่กำลังเป็นดอกไม้ของเค้า"พูดเบาๆก่อนจะเดินออกไปสาวๆในห้องได้แต่นั่งมองหน้ากันก็ผีดิบอยากเข้ามาก็เข้าอยากออกก็ออกโดยไม่ลา
ห้องซ้อม k-otic
"ไปไหนมาครับคุณชายผีดิบไปดูภาพบาดตาคำพูดบาดใจหรอครับ"เดินเข้าไปกอดคอยังไม่เข็ดกับบทเรียนขวดน้ำเฉียดหัวไปเมื่อกี้
"ถ้าแกยังไม่เลิกกวนประสาทชั้นล่ะก็ชั้นจะเอารองเท้าปาหัวแกแทนขวดน้ำ"ปัดมือกบออกเดินไปนั่งกับเพื่อนอีกสามคน
"อะไรกันวะไอ้สองคนภาพบาดตาคำพูดบาดใจหมายความว่าไง"โวยวายถามสองคนที่ดูจะรู้เรื่องกันและกันเยอะที่สุดแต่ก็ไม่มีใครสนใจเลย
"ไอ้หมีแกอยู่เฉยๆถ้าไม่อยากโดนปาหัวด้วยรองเท้า"ทำหน้ายักษ์ใส่แววตาคมและใบหน้านิ่งเรียบทำให้ดูดุดันพอบอสหน้าหมีเห็นก็เงียบเห็นบอสดูเคร่งขรึมก็พูดมากพอกับกบนั่นแหละ
"เฮ้อชั้นไม่เข้าใจพวกแกหรอกนะว่าเป็นอะไรแต่ชั้นว่าไปซ้อมเต้นกันดีกว่ามั้ย"ไปรับลมหนาวตอนกลางคืนมาอารมณ์ก็เย็นขึ้นแต่ดันมาเจอไอ้บอสขี้สงสัยกับไอ้ผีดิบที่ขี้เกียจพูดที่สุดในโลกเล่นเอาซะปวดหัวไปหมด'รู้งี้ตากลมข้างล่างดีกว่า'
"เออจะได้กลับบ้านเมื่อยไปหมดแล้ว"ชาวเกาหลีบิดตัวสองสามทีหักนิ้สดังกร๊อบแกร๊บคลายเมื่อยให้ตัวเองถ้ากลับบ้านไปแล้วมีใครนวดให้ก็ดีสิ่แต่นี่กลับไปก็ไม่มีใครนวดแถมไม่มีใครให้นอนกอดด้วยคิดแล้วหนักใจไล่ความคิดบ้าๆออกจากสมองแล้วหันมาสนใจเพื่อนในวงต่อ
"นั่นแหละที่ต้องทำ...งั้นก็ไปซ้อมเต้นกัน"สั่งหน้าเคร่งขรึมพอจะกลับมาบทบอสใหญ่ที่ดูน่านับถือก็เปลี่ยนโหมดไวเกินแต่พอปัญญาอ่อนพูดมากขี้สงสับก็ไม่มีใครตามไอ้หน้าหมีทันเหมือนกัน
~ไม่มีใครอยากลืม เรื่องที่เราอยากจำ~เสียงเพลงเปิดตามด้วยจังหวะเต้นไม่ว่าจะกี่เพลงk-oticก็จะมีท่าประกอบไม่ว่าช้าเร็วทั้งห้าคนตั้งใจซ้อมกันอีกครั้งจนทุกคนเริ่มเหนื่อยและดูจะอ่อนเพลียกับวันนี้ก็แทบจะนอนที่บริษัทแต่มีลิงเจ้าปัญหาที่เริ่มกลับมาร้อนอีกครั้ง
"กลับบ้านดีกว่าว่ะ"หยิบกระเป๋าสะพายคู่ใจไปไหนไปกันไม่ว่าจะไปต่างประเทศในประเทศกระเป๋าสุดเก๋ก็ติดตัวกบแห่งk-oticเสมอ
"เออเมื่อย"ยืนหน้ากระจกเซ็ตหน้าม้าที่เพิ่งตัดทรงใหม่มาหมาดๆให้เข้าที่สวมหมวกรูปตัวทีแล้วหยิบกระเป๋าสะพายสีดำมาสะพายไว้ข้างตัว
"งั้นแยกย้ายนะใครไปกับชั้น"บอสใหญ่ทำท่าทีอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด
"ชั้นขอกลับด้วยไม่ได้เอารถมาน้ำมันหมด"หนุ่มแว่นยกมือแล้วเดินออกจากห้องซ้อมไป
"งั้นกลับก่อนนะเว้ยจะไปแช่น้ำที่บ้านมันร้อน"เหงื่อแต่ผลั่กมือเช็ดแล้วเช็ดอีกถ้าบอกว่าเพิ่งอาบน้ำมาก็จะเชื่อเลยเล่นชุ่มไปทั้งตัว
"ไปแล้วนะไอ้โมะกลับด้วยกันมั้ยหะ"ชวนผีดิบที่ยังเปลี่ยนการใส่หมวกอยู่หลายทีเซ็ตผมแล้วเซ็ตอีก
"เออๆเสร็จแล้วไป"เดินออกไปจากห้องซ้อมพอเดินออกไปก็เจอสามสาวอีกวงเพื่อนสนิท
"กลับแล้วหรอหัวหอม เป็ดน้อย ที่รัก"หยอกล้อกับสาวห้าวตลอดแค่อยากให้คนที่อยู่ข้างๆมันลองแสดงอาการหวงออกมาให้ดู
"กลับแล้วที่รัก555"หัวเราะร่วนเดินเข้าไปกอดคอดกันอย่างสนิทสนมหนุ่มญี่ปุ่นเบือนหน้าหนีเล็กน้อย
"พอแล้วยัยแก้วแม่มานู่นแล้ว"ชี้ไปที่รถที่จอดรอหน้าบริษัท
"เออไปแล้วนะเขื่อน เฟย์ ฟาง เฮ้ผีดิบบ๊ายบายจุ๊บ"ท่าส่งจูบทำเอาเพื่อนรักใจเต้นไม่เป็นจังหวะแต่พอมานึกได้เค้าไม่ได้ส่งจูบลาเราคนเดียวเค้าส่งจูบให้ทุกคนคิดแล้วก็ขำตัวเองเล็กๆ
"เฟย์ฟางคุณแม่มารับแล้วนะครับองค์หญิงน้อย"ผายมือเชิญสองพี่น้องที่ยังคงหาขนมเข้าปาก
"หรองั้นบ๊ายบายนะไปพี่ฟาง"พากันวิ่งออกไปทั้งสองหนุ่มขำให้กับท่าทีของทั้งสามสาวที่รั่วกันจนแทบไม่มีใครสมประกอบ
"ไปเถอะว่ะเค้ากลับบ้านกันหมดแล้ว"กอดคอเพื่อนหนุ่มออกไปหน้าบริษัทกดปลดล๊อกรถสีแดงคู่ใจคันมินิที่ดูจะสะดวกกว่ารถคันยาวๆอย่างซูซี่ของบอสใหญ่
"ไอ้เขื่อนปิดเพลงดิฟังอะไรนักหนาวะแกอยู่เงียบๆเป็นบ้างมั้ย"กดปิดปุ่มเครื่องเสียงที่ดังกระหึ่มส่วนไอ้เจ้าของรถก็ลิปซิ้งตามเพลงส่ายหัวโยกหัวไปมาจนผมสีทองสะบัดไปมา'ถ้าวันนี้ชั้นไม่ถึงบ้านนะไอ้กบแกตาย'ส่งสายตาพิฆาตเงียบๆไปให้
"โห่กำลังมันเลย"หันมาหาคนข้างๆไม่มองรถข้างหน้าแทบเอาคนนั่งมาด้วยแทบอยากบ้าตาย
"ไม่ต้องมามองหน้าชั้นขับรถไปแล้วไม่ต้องเปิดเพลงชั้นไม่ชอบ"ไม่ตะคอกไม่โวยวายแต่ทำเสียงนิ่งคนได้ยินก็นั่งเฉยๆเพราะแสดงว่าผีดิบไม่ชอบจริงๆ
"บายผีดิบพรุ่งนี้มีงานนะเว้ยอย่านอนฝันถึงจริญญาเพลินนะ555"หัวเราะจนหัวแทบกระแทกพวงมาลัยส่วนผีดิบก็ตีหน้านิ่งธรรมดา
"กลับไปได้แล้วไปเสียงแกรบกวนชาวบ้านเค้า"ปิดประตูรถให้แล้วเดินเข้าไปในบ้านส่วนกบก็นั่งหัวเราะอยู่ในรถก่อนจะเคลื่อนตัวรถกลับไปบ้านตัวเอง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ