เผื่อวันพรุ่งนี้
9.1
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเผื่อวันพรุ่งนี้ (one wish)
~เผื่อวันพรุ่งนี้เธอจะกลับมา เผื่อวันพรุ่งนี้เธอจะเปลี่ยนใจ เผื่อวันพรุ่งนี้เธอไม่เหลือใครและนึกขึ้นได้ว่ามีชั้น~
"เหนื่อยชะมัดเลย"บ่นก่อนจะนั่งลงไม่ใช่ไม่เคยเจอการซ้อมร้องเต้นที่หนักแต่งานดันประดังเข้ามาพร้อมกันหมดเวลานั่งเคลียคิวงานตัวเองแทบตาลายหาเวลาว่างแทบไม่มี
"ว่างั้น"นั่งหลังพิงกระจกห้องซ้อมเปิดฝาขวดน้ำเย็นกระดกเข้าปากไปครึ่งขวดนั่งปาดเหงื่อที่หน้าผากและคอมไปมา
"ซ้อมอย่างนี้ทุกวันตายแน่ๆงานก็เยอะเรียนก็หนัก"ใช่ว่าจะพูดไทยไม่ชัดแล้วจะบ่นไม่ได้หนุ่มเกาหลีบ่นออกมาเป็นคำไทยแล้วนั่งลงข้างเพื่อนๆ
"ร้อนชะมัดใครปิดแอร์วะ"เดินหงุดหงิดกระพือเสื้อมือนึงแล้วอีกมือนึงก็พัดหน้าตัวเองเหมือนคนไปตกน้ำจนตัวเปียกชุ่มไปหมด
"ไม่มีใครปิดแกร้อนเองเคนตะ"บอสใหญ่หันไปมองกับอาการเพื่อนรักนิดๆไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะเคยเห็นลิงบ้าพลังเป็นแบบนี้อยู่บ่อยๆ
"แล้วไอ้โมะมันไม่เหนื่อยหรอวะเห็นนั่งดูอยู่ได้เนื้อเพลงน่ะมันจำได้แล้วไม่ใช่หรอ"มองไปที่ผีดิบของวงนั่งอ่านเนื้อเพลงสายตาและตัวไม่ยอมละออกจากกระดาษสักที
"ตรงกับชีวิตมันมั้งถึงได้มองจนแทบจะทะลุกระดาษขนาดนั้น"มองไปทางผีดิบแล้วเดินผลิวปากสบายอารมณ์ไปนอกห้องซ้อมโดยไม่รู้ว่าบอสใหญ่ขี้สงสัยจะอยากรู้แค่ไหน
"จงเบเขื่อนมันพูดอะไรของมันวะ"สะกิดเพื่อนเกาหลีคนโดนสะกิดหันมาแว่นแทบหลุดออกจากใบหน้า
"ไม่รู้ดิ่อยากรู้สงสัยต้องถามผีดิบ"ชี้ไปหาเพื่อนในวงที่ยังคงนั่งท่าเดิมดูเนื้อเพลงแผ่นเดิม
"หรอแล้วแกอ่ะเคนตะรู้มั้ย"หันไปถามไอ้ลิงยักษ์ที่นั่งกระพือเสื้อจนแทบขาดติดมือ
"ไม่รู้เว้ยแต่ตอนนี้ร้อน"เดินอารมณืเสียออกไปข้างนอกในห้องร้อนเหมือนตับจะแตกเหงื่อไหลผลั่กกะจะลงไปรับลมข้างล่างตึกลมหนาวเย็นๆจะได้ไม่หงุดหงิด
"เฮ้อเหนื่อยว่ะ"วางกระดาษละสายตาเดินมาหาเพื่อนที่ทั้งวงเหลือกันอยู่แค่สองคน
"เพลงนี้ตรงกับชีวิตแกยังไงวะไอ้โมะ"รีบถามตรงเข้าประเด็นที่กบเขื่อนทำปริศนาไว้ให้หนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่นหันมามองก่อนทำหน้าเหมือนคำถามนั้นไร้สาระ
"ตรงยังไงเพ้อเจ้อใหญ่แล้ว"ส่ายหัวแล้วหันหน้าหนี
"เออๆไม่ตรงก็ไม่ตรงไปเหอะว่ะไอ้เบคนคุยกับผียังไงก็คุยไม่รู้เรื่อง"เดินกอดคอเพื่อนชาวเกาหลีออกไปคนที่อยู่ในห้องเดินตามแล้วยิ้มนิดๆ
"ผีดิบ"ตะโกนทักบุคคลที่อยู่ในห้องซ้อมเต้นคนเดียทอดน่องเรียวสวยพร้อมกางเกงยีนส์เดินมานั่งข้างๆ
"มาห้องซ้อมคนอื่นแบบนี้ซ้อมเสร็จแล้วรึไง"หันมามองเพื่อนรักที่ยังอยู่ในสถานะคงเดิมมาตลอดสี่ปีไม่ว่าจะมีข่าวมากแค่ไหนทั้งคู่ก็ยังเป็น'เพื่อน'รักกันเหมือนเดิมแต่จะมีใครสักกี่คนที่รู้ว่าผีดิบเป็น'เพื่อนรัก'ที่'รักเพื่อน'
"ยังเหลืออีกนิดนึงเหนื่อยแล้วครูให้พักแล้วผีดิบทำอะไรอยู่"ชะโงกหน้าอยากรู้อยากเห็นแต่พอจะดูผีดิบก็เอี้ยวตัวหลบ
"ไม่ให้ดูอย่ามามั่ว"ซ้อนไว้ด้านหลังห้ามเด็กน้อยที่ชั่งสงสัยเห็น
"ขี้งกนักหรอหะผีดิบ"ทำหน้างอก่อนจะทำเป็นหันหน้าหนีพอเห็นผีดิบเอาใบออกมาดูอีกครั้งก็จับล๊อคคอดึงใบมาอ่าน
"นี่แก้วเอาคืนมาเลยขั้นยังต้องอ่านอีกนะ"จะแย่งคืนแต่ก็ถูกยึดเอาไว้ดูท่าทางเด็กดื้อเพื่อนรักจะไม่ยอมเอาคืนง่ายๆซะด้วย 'ดื้อจริงแม่คุณ'
"ไม่เอาไม่ให้ขออ่านก่อนอย่าขี้หวงดิ่ผีดิบ"หันหลังให้ผีดิบแรงเยอะนั่งอ่านตัวหนังสือในแผ่นกระดาษที่ถูกเรียบเรียงเป็นเนื้อเพลง
~เนื่องจากตอนนี้มีคนคนนึงกำลังว้าวุ่นในใจ~เสียงเรียกเข้าที่ดูจากท่าเด็กดื้อจะชอบเป็นพิเศษก็ใช่สิ่เป็นคนร้องเองแล้วก็เป็นคนเล่นเองในเรื่องที่ต้องประกบคู่ด้วยกันพอได้รู้ว่าตัวเองจะได้เล่นหนังกับเด็กดื้อก็ดีใจสุดๆจนแทบไม่เป็นอันกินอันนอนอยากให้ถึงวันถ่ายจริงๆหวังจะมีโดนเนื้อโดนตัวได้โอบได้กอดถึงในหนังจะไม่มีชีวิตก็คอยหาจังหวะเนียนโอบไหล่บ้างแหละจับมือบ้างแหละโอบเอวบ้างจนบางคนถึงกับอิจฉาที่ได้สัมผัสมือบางเอวคอดสวยและไหล่มนของสาวห้าวขวัญใจของใครหลายๆคน
"เดี๋ยวมารับโทรศัพท์ก่อนนะผีดิบ"พอมองหน้าจอก็ยิ้มหันมาบอกเพื่อนรักเดินไปนั่งอีกมุมนึงของห้องสายตาเหยี่ยวนั่งมองนั่งฟังรู้ตั้งแต่คำแรกที่ทักทายกันว่านั่นไม่ใช่แค่เพื่อนแต่เป็นคนสำคัญของเพื่อนรักตอนนี้เลยก็ว่าได้อยากลุกออกไปก็กลัวว่าเพื่อนสาวห้าวจะคิดว่าทิ้งก็เลยนั่งฟังนิ่งๆทำเป็นแอ๊บไว้ว่าไม่ได้ฟัง
"ค่ะพี่ป้องตั้งใจทำงานนะบายค่ะ"ระบายยิ้มออกมาจากใบหน้าสวยหันมามองผีดิบที่นั่งทำหน้าไม่พอใจอยู่ฝั่งตรงข้าม
"ไปแล้วนะผีดิบตั้งใจซ้อมล่ะอย่ามาแต่นั่งทำหน้านักษ์ใส่คนอื่น :P"แลบลิ้นสีชมพูใส่ผีดิบที่นั่งหน้าบึ้งไม่รู้เป็นเพราะอะไรอาจเป็นเพราะตัวเองที่มากวนหรือเปล่าไม่ได้ติดใจถามเรื่องหน้าตาที่แสดงอารมณ์เลยเดินกลับไปที่ห้องซ้อมของตัวเอง
"เฮ้เมื่อกี้ว่าไงเจ้าของเค้าโทรมาหยอกคำหวานให้แกได้ยินหรอวะ"เดินเข้ามาเห็นหมดแหล่ะเพราะแอบมองช่องกระจกใสหน้าประตูพอเพื่อนสาวอีกวงเดินออกไปก็แทรกตัวเข้ามาหาเพื่อนในวงอย่างผีดิบทันทีนั่งลงฝั่งตรงข้ามเอ่ยคำแซวเล่นเอาผีดิบหันขวับ
"อย่ายุ่งให้มากไอ้กบไปเรียกมาซ้อมไปจะได้กลับบ้านมันง่วง"ไม่อยากฟังยิ่งฟังยิ่งโมโหเห็นข่าวแทบบ้าคิดว่าเป้นกระแสเหมือนTKแต่ที่ไหนได้มันกลับเป็นไปตามหัวข่าวก็เล่นมานั่งสวีทกันอย่างนี้ใครดูไม่ออกก็บ้าแล้วถ้าไม่รู้ว่าเค้าคบกันเกินพี่น้อง
"เผื่อวันพรุ่งนี้เธอจะกลับมากลับมาเป็นเหมือนเดิมใช่เปล่าวะ"ตะโกนแหกปากลั่นห้องเอ่ยคำที่แทงใจผีดิบได้ไม่น้อย
โครม เสียงขวดน้ำถูกปาจากอีกฝั่งหนึ่งมาหาชายหน้ายาวขี้เล่นอย่างเขื่อนผ่านเฉียดใบหน้าไปนิดเดียวทำท่าทางทะเล้นคิดในใจถ้ายังล้อต่อไป'กบจะรอดมั้ยเนี่ย'
"โหเล่นแรงว่ะ"หยิบขวดน้ำที่มีน้ำขึ้นมาดูแรงกระแทกทำให้น้ำข้างในมีฟองจับมันวางกับพื้นแล้วหมุนเล่น
"พูดมากไอ้กบ"ว่าเพื่อนแล้วเดินบ่นพึมพำออกไปคนเดียวออกจากห้องซ้อมเต้นตัวเองไปห้องซ้อมข้างๆมองผ่านกระจกใสหน้าห้องเห็นเพื่อนรักและสองสาวพี่น้องที่นั่งกินขนมกันไปคุยกันไปอย่างสนุก
~เผื่อวันพรุ่งนี้เธอจะกลับมา เผื่อวันพรุ่งนี้เธอจะเปลี่ยนใจ เผื่อวันพรุ่งนี้เธอไม่เหลือใครและนึกขึ้นได้ว่ามีชั้น~
"เหนื่อยชะมัดเลย"บ่นก่อนจะนั่งลงไม่ใช่ไม่เคยเจอการซ้อมร้องเต้นที่หนักแต่งานดันประดังเข้ามาพร้อมกันหมดเวลานั่งเคลียคิวงานตัวเองแทบตาลายหาเวลาว่างแทบไม่มี
"ว่างั้น"นั่งหลังพิงกระจกห้องซ้อมเปิดฝาขวดน้ำเย็นกระดกเข้าปากไปครึ่งขวดนั่งปาดเหงื่อที่หน้าผากและคอมไปมา
"ซ้อมอย่างนี้ทุกวันตายแน่ๆงานก็เยอะเรียนก็หนัก"ใช่ว่าจะพูดไทยไม่ชัดแล้วจะบ่นไม่ได้หนุ่มเกาหลีบ่นออกมาเป็นคำไทยแล้วนั่งลงข้างเพื่อนๆ
"ร้อนชะมัดใครปิดแอร์วะ"เดินหงุดหงิดกระพือเสื้อมือนึงแล้วอีกมือนึงก็พัดหน้าตัวเองเหมือนคนไปตกน้ำจนตัวเปียกชุ่มไปหมด
"ไม่มีใครปิดแกร้อนเองเคนตะ"บอสใหญ่หันไปมองกับอาการเพื่อนรักนิดๆไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะเคยเห็นลิงบ้าพลังเป็นแบบนี้อยู่บ่อยๆ
"แล้วไอ้โมะมันไม่เหนื่อยหรอวะเห็นนั่งดูอยู่ได้เนื้อเพลงน่ะมันจำได้แล้วไม่ใช่หรอ"มองไปที่ผีดิบของวงนั่งอ่านเนื้อเพลงสายตาและตัวไม่ยอมละออกจากกระดาษสักที
"ตรงกับชีวิตมันมั้งถึงได้มองจนแทบจะทะลุกระดาษขนาดนั้น"มองไปทางผีดิบแล้วเดินผลิวปากสบายอารมณ์ไปนอกห้องซ้อมโดยไม่รู้ว่าบอสใหญ่ขี้สงสัยจะอยากรู้แค่ไหน
"จงเบเขื่อนมันพูดอะไรของมันวะ"สะกิดเพื่อนเกาหลีคนโดนสะกิดหันมาแว่นแทบหลุดออกจากใบหน้า
"ไม่รู้ดิ่อยากรู้สงสัยต้องถามผีดิบ"ชี้ไปหาเพื่อนในวงที่ยังคงนั่งท่าเดิมดูเนื้อเพลงแผ่นเดิม
"หรอแล้วแกอ่ะเคนตะรู้มั้ย"หันไปถามไอ้ลิงยักษ์ที่นั่งกระพือเสื้อจนแทบขาดติดมือ
"ไม่รู้เว้ยแต่ตอนนี้ร้อน"เดินอารมณืเสียออกไปข้างนอกในห้องร้อนเหมือนตับจะแตกเหงื่อไหลผลั่กกะจะลงไปรับลมข้างล่างตึกลมหนาวเย็นๆจะได้ไม่หงุดหงิด
"เฮ้อเหนื่อยว่ะ"วางกระดาษละสายตาเดินมาหาเพื่อนที่ทั้งวงเหลือกันอยู่แค่สองคน
"เพลงนี้ตรงกับชีวิตแกยังไงวะไอ้โมะ"รีบถามตรงเข้าประเด็นที่กบเขื่อนทำปริศนาไว้ให้หนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่นหันมามองก่อนทำหน้าเหมือนคำถามนั้นไร้สาระ
"ตรงยังไงเพ้อเจ้อใหญ่แล้ว"ส่ายหัวแล้วหันหน้าหนี
"เออๆไม่ตรงก็ไม่ตรงไปเหอะว่ะไอ้เบคนคุยกับผียังไงก็คุยไม่รู้เรื่อง"เดินกอดคอเพื่อนชาวเกาหลีออกไปคนที่อยู่ในห้องเดินตามแล้วยิ้มนิดๆ
"ผีดิบ"ตะโกนทักบุคคลที่อยู่ในห้องซ้อมเต้นคนเดียทอดน่องเรียวสวยพร้อมกางเกงยีนส์เดินมานั่งข้างๆ
"มาห้องซ้อมคนอื่นแบบนี้ซ้อมเสร็จแล้วรึไง"หันมามองเพื่อนรักที่ยังอยู่ในสถานะคงเดิมมาตลอดสี่ปีไม่ว่าจะมีข่าวมากแค่ไหนทั้งคู่ก็ยังเป็น'เพื่อน'รักกันเหมือนเดิมแต่จะมีใครสักกี่คนที่รู้ว่าผีดิบเป็น'เพื่อนรัก'ที่'รักเพื่อน'
"ยังเหลืออีกนิดนึงเหนื่อยแล้วครูให้พักแล้วผีดิบทำอะไรอยู่"ชะโงกหน้าอยากรู้อยากเห็นแต่พอจะดูผีดิบก็เอี้ยวตัวหลบ
"ไม่ให้ดูอย่ามามั่ว"ซ้อนไว้ด้านหลังห้ามเด็กน้อยที่ชั่งสงสัยเห็น
"ขี้งกนักหรอหะผีดิบ"ทำหน้างอก่อนจะทำเป็นหันหน้าหนีพอเห็นผีดิบเอาใบออกมาดูอีกครั้งก็จับล๊อคคอดึงใบมาอ่าน
"นี่แก้วเอาคืนมาเลยขั้นยังต้องอ่านอีกนะ"จะแย่งคืนแต่ก็ถูกยึดเอาไว้ดูท่าทางเด็กดื้อเพื่อนรักจะไม่ยอมเอาคืนง่ายๆซะด้วย 'ดื้อจริงแม่คุณ'
"ไม่เอาไม่ให้ขออ่านก่อนอย่าขี้หวงดิ่ผีดิบ"หันหลังให้ผีดิบแรงเยอะนั่งอ่านตัวหนังสือในแผ่นกระดาษที่ถูกเรียบเรียงเป็นเนื้อเพลง
~เนื่องจากตอนนี้มีคนคนนึงกำลังว้าวุ่นในใจ~เสียงเรียกเข้าที่ดูจากท่าเด็กดื้อจะชอบเป็นพิเศษก็ใช่สิ่เป็นคนร้องเองแล้วก็เป็นคนเล่นเองในเรื่องที่ต้องประกบคู่ด้วยกันพอได้รู้ว่าตัวเองจะได้เล่นหนังกับเด็กดื้อก็ดีใจสุดๆจนแทบไม่เป็นอันกินอันนอนอยากให้ถึงวันถ่ายจริงๆหวังจะมีโดนเนื้อโดนตัวได้โอบได้กอดถึงในหนังจะไม่มีชีวิตก็คอยหาจังหวะเนียนโอบไหล่บ้างแหละจับมือบ้างแหละโอบเอวบ้างจนบางคนถึงกับอิจฉาที่ได้สัมผัสมือบางเอวคอดสวยและไหล่มนของสาวห้าวขวัญใจของใครหลายๆคน
"เดี๋ยวมารับโทรศัพท์ก่อนนะผีดิบ"พอมองหน้าจอก็ยิ้มหันมาบอกเพื่อนรักเดินไปนั่งอีกมุมนึงของห้องสายตาเหยี่ยวนั่งมองนั่งฟังรู้ตั้งแต่คำแรกที่ทักทายกันว่านั่นไม่ใช่แค่เพื่อนแต่เป็นคนสำคัญของเพื่อนรักตอนนี้เลยก็ว่าได้อยากลุกออกไปก็กลัวว่าเพื่อนสาวห้าวจะคิดว่าทิ้งก็เลยนั่งฟังนิ่งๆทำเป็นแอ๊บไว้ว่าไม่ได้ฟัง
"ค่ะพี่ป้องตั้งใจทำงานนะบายค่ะ"ระบายยิ้มออกมาจากใบหน้าสวยหันมามองผีดิบที่นั่งทำหน้าไม่พอใจอยู่ฝั่งตรงข้าม
"ไปแล้วนะผีดิบตั้งใจซ้อมล่ะอย่ามาแต่นั่งทำหน้านักษ์ใส่คนอื่น :P"แลบลิ้นสีชมพูใส่ผีดิบที่นั่งหน้าบึ้งไม่รู้เป็นเพราะอะไรอาจเป็นเพราะตัวเองที่มากวนหรือเปล่าไม่ได้ติดใจถามเรื่องหน้าตาที่แสดงอารมณ์เลยเดินกลับไปที่ห้องซ้อมของตัวเอง
"เฮ้เมื่อกี้ว่าไงเจ้าของเค้าโทรมาหยอกคำหวานให้แกได้ยินหรอวะ"เดินเข้ามาเห็นหมดแหล่ะเพราะแอบมองช่องกระจกใสหน้าประตูพอเพื่อนสาวอีกวงเดินออกไปก็แทรกตัวเข้ามาหาเพื่อนในวงอย่างผีดิบทันทีนั่งลงฝั่งตรงข้ามเอ่ยคำแซวเล่นเอาผีดิบหันขวับ
"อย่ายุ่งให้มากไอ้กบไปเรียกมาซ้อมไปจะได้กลับบ้านมันง่วง"ไม่อยากฟังยิ่งฟังยิ่งโมโหเห็นข่าวแทบบ้าคิดว่าเป้นกระแสเหมือนTKแต่ที่ไหนได้มันกลับเป็นไปตามหัวข่าวก็เล่นมานั่งสวีทกันอย่างนี้ใครดูไม่ออกก็บ้าแล้วถ้าไม่รู้ว่าเค้าคบกันเกินพี่น้อง
"เผื่อวันพรุ่งนี้เธอจะกลับมากลับมาเป็นเหมือนเดิมใช่เปล่าวะ"ตะโกนแหกปากลั่นห้องเอ่ยคำที่แทงใจผีดิบได้ไม่น้อย
โครม เสียงขวดน้ำถูกปาจากอีกฝั่งหนึ่งมาหาชายหน้ายาวขี้เล่นอย่างเขื่อนผ่านเฉียดใบหน้าไปนิดเดียวทำท่าทางทะเล้นคิดในใจถ้ายังล้อต่อไป'กบจะรอดมั้ยเนี่ย'
"โหเล่นแรงว่ะ"หยิบขวดน้ำที่มีน้ำขึ้นมาดูแรงกระแทกทำให้น้ำข้างในมีฟองจับมันวางกับพื้นแล้วหมุนเล่น
"พูดมากไอ้กบ"ว่าเพื่อนแล้วเดินบ่นพึมพำออกไปคนเดียวออกจากห้องซ้อมเต้นตัวเองไปห้องซ้อมข้างๆมองผ่านกระจกใสหน้าห้องเห็นเพื่อนรักและสองสาวพี่น้องที่นั่งกินขนมกันไปคุยกันไปอย่างสนุก
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ