Celebrity Corny
-
1) Destination : Los Angeles
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ แสงแดดอ่อนๆลอดผ่านช่องหน้าต่างเครื่องบินเข้ามา มันค่อนข้างรบกวนฉันไม่น้อย แต่ใครสน? การเดินทางออกจากเชเยน เมืองสุดแสนน่ารักที่เปรียบเสมือนบ้านของฉัน มันทำให้รู้สึกประหม่าจนเกือบถึงขั้นสติแตกได้ จนถึงตอนนี้ฉันยังคงไม่เลิกคิดถึงเชเยน เมืองเล็กๆท่ามกลางหุบเขาหิมะในมลรัฐไวโอมิ่ง แม้จะไม่ใช่บ้านเกิด แต่การเติบโตที่นั่นจนอายุเข้า 16 คงทำให้พูดได้เต็มปากว่า ฉันเป็นคนเชเยน! ฉันคิดถึงลุงกับป้า เพื่อนๆ และมากไปกว่านั้น ชีสเบอร์เกอร์ฝีมือของลุงผู้เป็นเจ้าของร้าน Rise's ร้านอาหารจานด่วนที่สาวๆซึ่งห่วงจะหนาวตายเพราะขาดไขมันมากกว่ากังวลว่าจะต้องใส่เสื้อผ้าไม่ต่ำกว่าไซส์ 4 เลือกเป็นที่นัดหมายและสังสรรค์หลังโรงเรียนเลิก ฉันเข้าใจความรู้สึกของสาวๆพวกนั้นนะ ฉันเองก็คงหนาวตายอยู่ในเมืองกลางหุบเขาหิมะแบบนั้นเช่นกัน ถ้าไร้ชีสเบอร์เกอร์ของโปรด! และที่ๆเครื่องบินลำนี้กำลังมุ่งหน้าไปนั้น ฉันก็ไม่แน่ใจว่าจะมีชีสที่อร่อยสู้ฝีมือของลุงได้มั้ย (หวังว่าฉันจะไม่เป็นไรนะ!) ฉันกำลังไปไหนน่ะหรอ???.....
"ประกาศจากกัปตัน ขณะนี้พวกเรากำลังบินอยู่เหนือน่านฟ้ามลรัฐแคลิฟอร์เนีย อีก 20 นาทีจะเข้าสู่ท่าอากาศยาน LAX สภาพอากาศ แจ่มใส........"
ใช่แล้วค่ะ ฉันกับเจค ลูกพี่ลูกน้องจอมกะล่อนกำลังมุ่งหน้าสู่ลอส แองเจิลลิส นครแห่งนางฟ้า!!
มันค่อนข้างกระตุกหัวใจฉัน เมื่อตอนที่ลุงกับป้าบอกเราว่าจะส่งเราไปอยู่กับป้าเบ็ธจอมโหด เพราะพวกเขาเชื่อว่า ป้าเบ็ธจะเป็นทางเดียวที่ทำให้เจคเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น อันที่จริงลุงกับป้าก็ทำใจรับพฤติกรรมสุดแสนจะเหลือทนของลูกชายได้อยู่หรอก แต่พอจับได้ว่า เขาแอบข้ามฝั่งไปแคนาดาเพื่อไปหายัยบาร์บี้ผมบลอนด์ที่เจอกันทางเน็ต ลุงก็ไม่ลังเลเลยที่จะส่งเขาไปเข้าเครื่องประหาร ป้าเบ็ธเป็นคนเดียวที่เจคกลัว ถึงกับเคยประกาศว่าต่อให้แคลิฟอร์เนียมีสาวสวยเป็นล้านเท่าไหร่ก็จะไม่ไปเหยียบเด็ดขาด คงเป็นเพราะความทรงจำฝังใจที่เคยถูกป้าเบ็ธมัดกับต้นไม้เพื่อเป็นการกักบริเวณตอนจับได้ว่าเขาข้ามไปขโมยไข่จากชุมชนอื่นล่ะมั้ง เหตุการณ์นั้นคงทำให้เจคผู้ครองโลกเสียความมั่นใจไปไม่น้อย แต่เชื่อเถอะเรื่องนี้หยิบมาพูดเมื่อไหร่ ทำให้หัวเราะท้องแข็งทั้งวันเสมอ!! และไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมแฮนนาคนนี้ถึงต้องมาด้วย ลุงกับป้าคงคิดว่าอย่างน้อยหลานสาวคนนี้คงช่วยไม่ให้เจคถูกจับยัดเข้ากรงเหมือนเกรเทลในนิทานบ้านขนมหวาน และอย่างน้อยเจคก็จะมีชีวิตอยู่จนกระทั่งจบไฮสคูล! เพราะเชื่อหรือไม่ ฉันเป็นคนโปรดของป้าเบ็ธล่ะ
"สุดยอดดดดดด เมืองสวรรค์ ฉันรักลอส แองเจิลลิส วู้ฮู!!!!!" เจคส่งเสียงตะโกนผ่านกระจกรถแท๊กซี่ออกไป สาวสวยกระโปรงสั้นทั้งหลายเป็นเหมือนขนมหวาานล่อใจเขา
"ฉันสงสัยว่า นี่คงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้ตะโกนอย่างอิ่มเอมใจแบบนี้นะ"
"ถึงฉันจะกลัวป้าเบ็ธ แต่ฉันก็ไม่ใช่คนเก็บกดแบบนั้นหรอกน่า เฮ้ เราไม่ได้ไปคุกแดน 8 นะ แฮนนา เธออย่าทำให้ฉันกลัวไปมากกว่านี้สิ" เจคหันกลับมานั่งพิงพนักเหมือนเดิม
"ฉันก็แค่จะบอกว่า อยากทำอะไรก็ให้รีบทำซะ ก่อนจะเข้าแดนประหารจริงๆ"
"แล้วเธอจะยอมให้เราจอดรถตรงนี้มั้ยล่ะ? ฉันอยากได้ทวิตเตอร์ของแม่ไก่สะโพกเด้งคนนั้น"
"ยกเว้นเรื่องพรรค์นั้น ฉันให้เธอทำได้ทุกอย่างแหละน่า"
"โถ่....เธอก็รู้ ฉันมันเป็นฉลามนักรัก ถ้าหยุดล่าเหยื่อ ชีวิตฉันก็จบน่ะสิ!"
ฉันอมยิ้มกับมุขของเขา แต่ก็สงสัยว่าคงจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ ตั้งแต่อยู่ประถมมา ฉันเห็นเจคควงผู้หญิง (หมายถึงสาวๆล่ะนะ) ไม่ต่ำกว่า 10 คน! พระเจ้าช่างส่งมาเกิดจริงๆ!
"โห้!!!! สุด......ยอด!!!!!"เป็นเวลาเดียวกับที่รถแท๊กซี่มาจอดหน้าบ้านหลังหนึ่งพอดีที่เจคตะโกนออกมาพร้อมกับกระโจนลงจากรถไป ฉันรีบคลี่กระดาษเล็กๆดูบ้านเลขที่และถนนหน้าบ้านเพื่อให้แน่ใจว่าคนขับพาเรามาส่งไม่ผิด
"89/34 Beverly Hills....พระเจ้า..."ฉันเองก็อดอุทานไม่ได้เช่นกัน บ้านของป้าเบ๊ธหลังใหญ่กว่าบ้านของลุงที่เชเยนเป็นสิบเท่า สนามหญ้าหน้าบ้านกว้างพอจะสร้างบ้านได้อีกหลังนึงเลยล่ะ! ฉันควักเงินจ่ายคนขับก่อนไปช่วยเจคขนกระเป๋าและสัมภาระออกจากที่เก็บของท้ายรถ พระเจ้า บ้านหลังนี้มันคือความฝันของฉันชัดๆ บ้านสีชมพูสองชั้น พร้อมห้องใต้หลังคา และโรงจอดรถขนาดใหญ่ และหากมองไปไกลๆก็จะเห็นเหมือนอะไรสีฟ้าๆซึ่งฉันสันนิษฐานว่ามันอาจจะเป็นสระว่ายน้ำ! คุณจะจินตนาการถึงบ้านของดาราฮอลลีวู้ดก็ได้ เพราะมันก็คงใกล้เคียงกับบ้านป้าเบ็ธของฉัน
"แล้ว...จะทำยังไงต่อล่ะ?"เป็นคำถามที่โง่มากเจค ฉันคิดพลางจะกดออด แต่ทว่าประตูรั้วที่เป็นระบบไฟฟ้าทำงานขึ้นพอดี ฉันหลบประตูรั้วที่กำลังเปิดออกเองได้มายืนข้างๆกำแพงอีกด้านหนึ่ง รถวอลโว่สีดำเคลื่อนตัวออกมาจากบ้านและชะลอลงเมื่อกำลังจะผ่านหน้าพวกเรา
"ตายแล้ว!!!ฉันลืมเสียสนิทเลยว่าหลานๆจะมาจากบ้านนอกน่ะ"ป้าเบ็ธนั่นเองที่เลื่อนกระจกจากเบาะที่นั่งหลังคนขับ หล่อนทำท่ารีบร้อน ผมเผ้ายังคงไม่ได้หวีด้วยซ้ำ
"เอ่อ ค่ะ สวัสดีค่ะ"และฉันก็ดูโง่เง่ากว่าเจคอีกที่ทักทายแบบนั้น ทั้งๆที่ป้าเบ็ธไม่ได้สนใจจะทักทายพวกเราเลยด้วยซ้ำ
"สามีฉันต้องเข้าโรงพยาบาล และไม่มีใครดูแลงานที่ไมอามี่ ทำยังไงดีนะ...."ป้าเบ็ธทำท่าใช้ความคิด
"ป้าก็ไปไมอามี่สิครับ"เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีที่เจคพูดกับป้าเบ็ธ!
"แล้วพวกเธอจะอยู่กันได้หรอ?? เอ๊ะ ฉันนี่ก็ถามอะไรแปลกๆ ฉันควรจะถามว่า บ้านของฉันจะมีสภาพเหมือนเดิมตอนฉันกลับมารึเปล่าสิ"
"โธ่....ป้าครับ พวกเราต้องดูแลบ้านให้ป้าอยู่แล้วล่ะครับ ไม่ต้องห่วงหรอก"
"แน่ใจนะ? เอาล่ะ ก็ได้ แต่พวกเธอต้องช่วยกันดูแลนะ แฮนนา ป้าไว้ใจเธอนะ ดูแลบ้านจนกว่าป้าจะกลับมา เอ้อ จะมีคนสวยกับแม่บ้านมาทำความสะอาดทุกๆวันพุธกับวันเสาร์ อย่าลืมเปิดประตูให้เขาเข้ามาล่ะ รหัสประตูรั้วก็วันเกิดฉันนะ จำได้ใช่มั้ย?"ป้าเบ็ธว่าพลางส่งกุญแจเป็นพวงๆให้ฉัน
"อะ อ้อ ค่ะ"จำได้สิ วันเกิดป้านั่นแหละที่เจคถูกจับมัดน่ะ
"โอเค หมดธุระแล้ว ฉันต้องรีบไปแล้วล่ะ เดี๋ยวตกเครื่อง อยู่กันดีๆล่ะ ทั้งสองคน โดยเฉพาะเธอ เจค ห้ามก่อเรื่องเด็ดขาด!"
"ครับผม!"เจคยิ้มกริ่มเหมือนมีแผนอะไรบางอย่าง ทว่าป้าเบ็ธไม่ได้สนใจ หล่อนปิดกระจกในขณะที่รถเคลื่อนผ่านหน้าพวกเราไป
"เอาล่ะน้องสาว ได้เวลา rock en roll แล้ว!!! วู้ฮู!!!!!!!"เจคหยิบสัมภาระชิ้นหนักๆ ก่อนวิ่งเข้าไปในบ้าน ฉันเองก็รีบตามเขาเข้าไปก่อนที่ประตูรั้วไฮเทคนี้กำลังปิดลงเองอัตโนมัติ
ยิ่งเดินเข้ามาใกล้ บ้านหลังนี้ก็ดูเหมือนจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา ทั้งพื้นพรมน้ำมัน พื้นปาร์เก้ชั้นดี รูปปั้นและภาพเขียนต่างๆ รวมๆกันแล้วน่าจะสร้างบ้านได้อีก 2 หลัง เราเดินผ่านห้องโถงขึ้นบันไดไปชั้นสองเพื่อจับจองห้องนอนและเก็บข้าวของให้เรียบร้อย ที่พักดีๆอย่างนี้มันคุ้มเหลือเกินกับการเดินทางไม่ต่ำกว่า 7 ชั่วโมง ฉันเลือกห้องหนึ่งที่อยู่ใกล้กับบันได ไม่รู้เหมือนกันว่าป้ามีห้องพักแขกกี่ห้อง แต่ว่าห้องนี้ถูกตกแต่งธีมสีฟ้าแบบที่ฉันชอบ แถมยังมีม่านระบายน่ารักๆด้วย ฉันวางกระเป๋าลงบนเตียงขนาดควีนไซส์ ก่อนล้มตัวลงบนเตียงนุ่มๆ พระเจ้า เรียนจบเมื่อไหร่ ฉันจะต้องซื้อเตียงแบบนี้ให้ได้! ฉันกลิ้งเกลือกอยู่บนเตียงซักพักก่อนลุกเดินไปที่หน้าต่าง อยากดูวิวซักหน่อย เพราะบ้านแถวนี้ก็หลังใหญ่ราคาแพงทั้งนั้น
ฉันเซ็งนิดหน่อยที่วิวจากห้องกลายเป็นหน้าต่างของใครก็ไม่รู้ ถึงแม้บ้านนนั้นจะค่อนข้างห่างออกไป แต่ก็พอเห็นอยู่ ฉันคงทำอะไรๆเป็นส่วนตัวอย่างสบายใจไม่ได้น่ะสิ วินาทีต่อมา ชายหญิงคู่หนึ่งก็เข้ามาในห้องนั้น พวกเขากอดกันกลม ฝ่ายหญิงซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดก่อนโผล่หน้าออกมาแล้วเริ่มจูบกันอย่างเร่าร้อน พระเจ้า!!! ฉันอยู่ที่ไหนในโลกนี่ เอ๊ะ ที่จริงฉันควรจะรีบปิดม่านนะ แต่....ทำไมฉันทำอะไรไม่ถูกเลยล่ะ แฮนนา!เธอมันยัยคนวิตถาร! พลันที่ฉันกำลังพยายามจะเอื้อมมือไปปิดม่าน สายตาคู่หนึ่งก็หันมาสบตากับฉันพอดี ดวงตาที่แม้จะมองไกลๆก็ยังเห็นเป็นสีฟ้า ดวงดาสุดแสนจะน่าหลงใหลนั้นกำลังมองฉันอยู่ ฉันสะดุ้งนิดหน่อยที่ชายเจ้าของตาสีฟ้าคู่นั้นทำท่าเหมือนจะส่งยิ้มให้ฉันผ่านดวงตาอันน่าหลงใหลของเขา นี่เขาเห็นเราแล้วสินะ!!! แฮนนาเธอมันโรคจิตจริงๆ! ทว่าช่วงเวลาแบบนี้ก็หมดลง เมื่อหญิงสาวในออมกอดของเขาสังเกตุเห็นสิ่งผิดปกติ หล่อนหันมาจ้องฉันตาเขียวก่อนเดินมาปิดหน้าต่างเพื่อทวงสิทธิความเป็นส่วนตัวคืนกลับไป
"แฮนนา ยัยบ้าๆๆๆ!"ฉันเขกหัวตัวเองสองสามทีกับความเซ่อซ่าของตัวเองและเพื่อลบภาพฉากเร่าร้อนนั้นออกไปจากหัว
แต่รู้อะไรมั้ย? สิ่งที่ยังคงอยู่ในหัวของฉันเสมอก็คือดวงตาสีฟ้าคู่นั้น.....
.................................to be continued
"ประกาศจากกัปตัน ขณะนี้พวกเรากำลังบินอยู่เหนือน่านฟ้ามลรัฐแคลิฟอร์เนีย อีก 20 นาทีจะเข้าสู่ท่าอากาศยาน LAX สภาพอากาศ แจ่มใส........"
ใช่แล้วค่ะ ฉันกับเจค ลูกพี่ลูกน้องจอมกะล่อนกำลังมุ่งหน้าสู่ลอส แองเจิลลิส นครแห่งนางฟ้า!!
มันค่อนข้างกระตุกหัวใจฉัน เมื่อตอนที่ลุงกับป้าบอกเราว่าจะส่งเราไปอยู่กับป้าเบ็ธจอมโหด เพราะพวกเขาเชื่อว่า ป้าเบ็ธจะเป็นทางเดียวที่ทำให้เจคเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น อันที่จริงลุงกับป้าก็ทำใจรับพฤติกรรมสุดแสนจะเหลือทนของลูกชายได้อยู่หรอก แต่พอจับได้ว่า เขาแอบข้ามฝั่งไปแคนาดาเพื่อไปหายัยบาร์บี้ผมบลอนด์ที่เจอกันทางเน็ต ลุงก็ไม่ลังเลเลยที่จะส่งเขาไปเข้าเครื่องประหาร ป้าเบ็ธเป็นคนเดียวที่เจคกลัว ถึงกับเคยประกาศว่าต่อให้แคลิฟอร์เนียมีสาวสวยเป็นล้านเท่าไหร่ก็จะไม่ไปเหยียบเด็ดขาด คงเป็นเพราะความทรงจำฝังใจที่เคยถูกป้าเบ็ธมัดกับต้นไม้เพื่อเป็นการกักบริเวณตอนจับได้ว่าเขาข้ามไปขโมยไข่จากชุมชนอื่นล่ะมั้ง เหตุการณ์นั้นคงทำให้เจคผู้ครองโลกเสียความมั่นใจไปไม่น้อย แต่เชื่อเถอะเรื่องนี้หยิบมาพูดเมื่อไหร่ ทำให้หัวเราะท้องแข็งทั้งวันเสมอ!! และไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมแฮนนาคนนี้ถึงต้องมาด้วย ลุงกับป้าคงคิดว่าอย่างน้อยหลานสาวคนนี้คงช่วยไม่ให้เจคถูกจับยัดเข้ากรงเหมือนเกรเทลในนิทานบ้านขนมหวาน และอย่างน้อยเจคก็จะมีชีวิตอยู่จนกระทั่งจบไฮสคูล! เพราะเชื่อหรือไม่ ฉันเป็นคนโปรดของป้าเบ็ธล่ะ
"สุดยอดดดดดด เมืองสวรรค์ ฉันรักลอส แองเจิลลิส วู้ฮู!!!!!" เจคส่งเสียงตะโกนผ่านกระจกรถแท๊กซี่ออกไป สาวสวยกระโปรงสั้นทั้งหลายเป็นเหมือนขนมหวาานล่อใจเขา
"ฉันสงสัยว่า นี่คงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้ตะโกนอย่างอิ่มเอมใจแบบนี้นะ"
"ถึงฉันจะกลัวป้าเบ็ธ แต่ฉันก็ไม่ใช่คนเก็บกดแบบนั้นหรอกน่า เฮ้ เราไม่ได้ไปคุกแดน 8 นะ แฮนนา เธออย่าทำให้ฉันกลัวไปมากกว่านี้สิ" เจคหันกลับมานั่งพิงพนักเหมือนเดิม
"ฉันก็แค่จะบอกว่า อยากทำอะไรก็ให้รีบทำซะ ก่อนจะเข้าแดนประหารจริงๆ"
"แล้วเธอจะยอมให้เราจอดรถตรงนี้มั้ยล่ะ? ฉันอยากได้ทวิตเตอร์ของแม่ไก่สะโพกเด้งคนนั้น"
"ยกเว้นเรื่องพรรค์นั้น ฉันให้เธอทำได้ทุกอย่างแหละน่า"
"โถ่....เธอก็รู้ ฉันมันเป็นฉลามนักรัก ถ้าหยุดล่าเหยื่อ ชีวิตฉันก็จบน่ะสิ!"
ฉันอมยิ้มกับมุขของเขา แต่ก็สงสัยว่าคงจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ ตั้งแต่อยู่ประถมมา ฉันเห็นเจคควงผู้หญิง (หมายถึงสาวๆล่ะนะ) ไม่ต่ำกว่า 10 คน! พระเจ้าช่างส่งมาเกิดจริงๆ!
"โห้!!!! สุด......ยอด!!!!!"เป็นเวลาเดียวกับที่รถแท๊กซี่มาจอดหน้าบ้านหลังหนึ่งพอดีที่เจคตะโกนออกมาพร้อมกับกระโจนลงจากรถไป ฉันรีบคลี่กระดาษเล็กๆดูบ้านเลขที่และถนนหน้าบ้านเพื่อให้แน่ใจว่าคนขับพาเรามาส่งไม่ผิด
"89/34 Beverly Hills....พระเจ้า..."ฉันเองก็อดอุทานไม่ได้เช่นกัน บ้านของป้าเบ๊ธหลังใหญ่กว่าบ้านของลุงที่เชเยนเป็นสิบเท่า สนามหญ้าหน้าบ้านกว้างพอจะสร้างบ้านได้อีกหลังนึงเลยล่ะ! ฉันควักเงินจ่ายคนขับก่อนไปช่วยเจคขนกระเป๋าและสัมภาระออกจากที่เก็บของท้ายรถ พระเจ้า บ้านหลังนี้มันคือความฝันของฉันชัดๆ บ้านสีชมพูสองชั้น พร้อมห้องใต้หลังคา และโรงจอดรถขนาดใหญ่ และหากมองไปไกลๆก็จะเห็นเหมือนอะไรสีฟ้าๆซึ่งฉันสันนิษฐานว่ามันอาจจะเป็นสระว่ายน้ำ! คุณจะจินตนาการถึงบ้านของดาราฮอลลีวู้ดก็ได้ เพราะมันก็คงใกล้เคียงกับบ้านป้าเบ็ธของฉัน
"แล้ว...จะทำยังไงต่อล่ะ?"เป็นคำถามที่โง่มากเจค ฉันคิดพลางจะกดออด แต่ทว่าประตูรั้วที่เป็นระบบไฟฟ้าทำงานขึ้นพอดี ฉันหลบประตูรั้วที่กำลังเปิดออกเองได้มายืนข้างๆกำแพงอีกด้านหนึ่ง รถวอลโว่สีดำเคลื่อนตัวออกมาจากบ้านและชะลอลงเมื่อกำลังจะผ่านหน้าพวกเรา
"ตายแล้ว!!!ฉันลืมเสียสนิทเลยว่าหลานๆจะมาจากบ้านนอกน่ะ"ป้าเบ็ธนั่นเองที่เลื่อนกระจกจากเบาะที่นั่งหลังคนขับ หล่อนทำท่ารีบร้อน ผมเผ้ายังคงไม่ได้หวีด้วยซ้ำ
"เอ่อ ค่ะ สวัสดีค่ะ"และฉันก็ดูโง่เง่ากว่าเจคอีกที่ทักทายแบบนั้น ทั้งๆที่ป้าเบ็ธไม่ได้สนใจจะทักทายพวกเราเลยด้วยซ้ำ
"สามีฉันต้องเข้าโรงพยาบาล และไม่มีใครดูแลงานที่ไมอามี่ ทำยังไงดีนะ...."ป้าเบ็ธทำท่าใช้ความคิด
"ป้าก็ไปไมอามี่สิครับ"เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีที่เจคพูดกับป้าเบ็ธ!
"แล้วพวกเธอจะอยู่กันได้หรอ?? เอ๊ะ ฉันนี่ก็ถามอะไรแปลกๆ ฉันควรจะถามว่า บ้านของฉันจะมีสภาพเหมือนเดิมตอนฉันกลับมารึเปล่าสิ"
"โธ่....ป้าครับ พวกเราต้องดูแลบ้านให้ป้าอยู่แล้วล่ะครับ ไม่ต้องห่วงหรอก"
"แน่ใจนะ? เอาล่ะ ก็ได้ แต่พวกเธอต้องช่วยกันดูแลนะ แฮนนา ป้าไว้ใจเธอนะ ดูแลบ้านจนกว่าป้าจะกลับมา เอ้อ จะมีคนสวยกับแม่บ้านมาทำความสะอาดทุกๆวันพุธกับวันเสาร์ อย่าลืมเปิดประตูให้เขาเข้ามาล่ะ รหัสประตูรั้วก็วันเกิดฉันนะ จำได้ใช่มั้ย?"ป้าเบ็ธว่าพลางส่งกุญแจเป็นพวงๆให้ฉัน
"อะ อ้อ ค่ะ"จำได้สิ วันเกิดป้านั่นแหละที่เจคถูกจับมัดน่ะ
"โอเค หมดธุระแล้ว ฉันต้องรีบไปแล้วล่ะ เดี๋ยวตกเครื่อง อยู่กันดีๆล่ะ ทั้งสองคน โดยเฉพาะเธอ เจค ห้ามก่อเรื่องเด็ดขาด!"
"ครับผม!"เจคยิ้มกริ่มเหมือนมีแผนอะไรบางอย่าง ทว่าป้าเบ็ธไม่ได้สนใจ หล่อนปิดกระจกในขณะที่รถเคลื่อนผ่านหน้าพวกเราไป
"เอาล่ะน้องสาว ได้เวลา rock en roll แล้ว!!! วู้ฮู!!!!!!!"เจคหยิบสัมภาระชิ้นหนักๆ ก่อนวิ่งเข้าไปในบ้าน ฉันเองก็รีบตามเขาเข้าไปก่อนที่ประตูรั้วไฮเทคนี้กำลังปิดลงเองอัตโนมัติ
ยิ่งเดินเข้ามาใกล้ บ้านหลังนี้ก็ดูเหมือนจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา ทั้งพื้นพรมน้ำมัน พื้นปาร์เก้ชั้นดี รูปปั้นและภาพเขียนต่างๆ รวมๆกันแล้วน่าจะสร้างบ้านได้อีก 2 หลัง เราเดินผ่านห้องโถงขึ้นบันไดไปชั้นสองเพื่อจับจองห้องนอนและเก็บข้าวของให้เรียบร้อย ที่พักดีๆอย่างนี้มันคุ้มเหลือเกินกับการเดินทางไม่ต่ำกว่า 7 ชั่วโมง ฉันเลือกห้องหนึ่งที่อยู่ใกล้กับบันได ไม่รู้เหมือนกันว่าป้ามีห้องพักแขกกี่ห้อง แต่ว่าห้องนี้ถูกตกแต่งธีมสีฟ้าแบบที่ฉันชอบ แถมยังมีม่านระบายน่ารักๆด้วย ฉันวางกระเป๋าลงบนเตียงขนาดควีนไซส์ ก่อนล้มตัวลงบนเตียงนุ่มๆ พระเจ้า เรียนจบเมื่อไหร่ ฉันจะต้องซื้อเตียงแบบนี้ให้ได้! ฉันกลิ้งเกลือกอยู่บนเตียงซักพักก่อนลุกเดินไปที่หน้าต่าง อยากดูวิวซักหน่อย เพราะบ้านแถวนี้ก็หลังใหญ่ราคาแพงทั้งนั้น
ฉันเซ็งนิดหน่อยที่วิวจากห้องกลายเป็นหน้าต่างของใครก็ไม่รู้ ถึงแม้บ้านนนั้นจะค่อนข้างห่างออกไป แต่ก็พอเห็นอยู่ ฉันคงทำอะไรๆเป็นส่วนตัวอย่างสบายใจไม่ได้น่ะสิ วินาทีต่อมา ชายหญิงคู่หนึ่งก็เข้ามาในห้องนั้น พวกเขากอดกันกลม ฝ่ายหญิงซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดก่อนโผล่หน้าออกมาแล้วเริ่มจูบกันอย่างเร่าร้อน พระเจ้า!!! ฉันอยู่ที่ไหนในโลกนี่ เอ๊ะ ที่จริงฉันควรจะรีบปิดม่านนะ แต่....ทำไมฉันทำอะไรไม่ถูกเลยล่ะ แฮนนา!เธอมันยัยคนวิตถาร! พลันที่ฉันกำลังพยายามจะเอื้อมมือไปปิดม่าน สายตาคู่หนึ่งก็หันมาสบตากับฉันพอดี ดวงตาที่แม้จะมองไกลๆก็ยังเห็นเป็นสีฟ้า ดวงดาสุดแสนจะน่าหลงใหลนั้นกำลังมองฉันอยู่ ฉันสะดุ้งนิดหน่อยที่ชายเจ้าของตาสีฟ้าคู่นั้นทำท่าเหมือนจะส่งยิ้มให้ฉันผ่านดวงตาอันน่าหลงใหลของเขา นี่เขาเห็นเราแล้วสินะ!!! แฮนนาเธอมันโรคจิตจริงๆ! ทว่าช่วงเวลาแบบนี้ก็หมดลง เมื่อหญิงสาวในออมกอดของเขาสังเกตุเห็นสิ่งผิดปกติ หล่อนหันมาจ้องฉันตาเขียวก่อนเดินมาปิดหน้าต่างเพื่อทวงสิทธิความเป็นส่วนตัวคืนกลับไป
"แฮนนา ยัยบ้าๆๆๆ!"ฉันเขกหัวตัวเองสองสามทีกับความเซ่อซ่าของตัวเองและเพื่อลบภาพฉากเร่าร้อนนั้นออกไปจากหัว
แต่รู้อะไรมั้ย? สิ่งที่ยังคงอยู่ในหัวของฉันเสมอก็คือดวงตาสีฟ้าคู่นั้น.....
.................................to be continued
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ