สองคน ใจ ดวงเดียว
9.6
9)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 9 สารภาพ
“คุณ! คุณอานนท์ค่ะ”
เธอกระซิบข้างหูอานนท์เบาๆ
เขาอยู่ในชุดคนไข้เต็มยศ พร้อมสายระโยงระยางเต็มพิกัด
เธอลูบมือเขาเบาๆ อานนท์ลืมตา เธอยื่นหน้าให้เขาเห็น อานนท์ยิ้ม
“คุณปลอดภัยมั้ยครับ?”
โถ! ยังเป็นห่วงเราอีก เธอตื้นตันใจน้ำตาไหลอีกครั้ง
เสียงเขาแหบเบาแต่เธอจับความได้ เธอยิ้มทั้งน้ำตา
“พิมพ์ปลอดภัย คุณเจ็บมากไหม?”
อานนท์มองหน้าเธอ และเริ่มทำตาเจ้าชู้
“ยังไม่ต้องพูดนะคะ พิมพ์จะอยู่กับคุณที่นี่ตลอดเวลา
เราอยู่ในโรงพยาบาลกับตำรวจปลอดภัยค่ะ”
“โชคดีที่คุณไม่เป็นอะไร” เสียงเขาค่อยดีขึ้นนิดหนึ่ง
เธอจับมือเขาตลอด หันมองสบตาคุณพยาบาลพูดขึ้น
“ฉันอยู่นานหน่อยได้มั้ยค่ะ?” พยาบาลยิ้มหวาน
“สำหรับคุณพิมพ์ให้อีกสิบนาทีนะคะ นานกว่านี้ถูกคุณหมอดุแน่”
คุณพยาบาลคนสวยทำหน้าทะเล้น พิมพ์ยิ้มให้
“ขอบคุณมากค่ะ ทำไงถึงจะได้ห้องพิเศษค่ะ”
“ดิฉันจะเรียนคุณหมอว่าคนไข้ต้องการห้องพิเศษให้ค่ะ”
“ขอรบกวนด้วย ขอบคุณค่ะ” พยาบาลยิ้มเต็มใจ
พยาบาลอีกคนเข้าประตูมา หน้าตาตื่นเต้น
“คุณพิมพ์ค่ะ นักข่าวอยู่หน้าห้องฉุกเฉินเต็มไปหมด ทำไงดีค่ะ?”
“ช่วยเรียนถามคุณหมอ ขอความกรุณาย้ายคนไข้ขึ้นไปห้องพิเศษตอนนี้เลย
ดิฉันจะตามขึ้นไป ไม่อยากพบกับพวกนักข่าว ช่วยหน่อยนะคะ”
คุณพยาบาลยิ้ม หายไปพักใหญ่กลับมา
“คุณหมอดิเรกอนุญาติให้เป็นกรณีพิเศษ พอดีมีห้องว่างชั้นห้า
เดี๋ยวดิฉันจะให้พนักงานมาจัดการย้าย คุณเดินตามไปได้เลยไม่พบนักข่าวแน่”
พิมพ์มายาเข้ากอดและหอมแก้มคุณพยาบาลขอบคุณ เธอดีใจหน้าแดง
“รบกวนช่วยบอกพวกนักข่าว อีกสองวันพิมพ์จะให้สัมภาษณ์นะคะ”
“ค่ะ” พิมพ์มายาหอมแก้มอีกข้างก่อนจาก...
อานนท์พักฟื้น
อยู่ในห้องพิเศษบนชั้นห้าของโรงพยาบาล
พิมพ์มายาอยู่ด้วยแทบจะตลอดทุกวัน จวนจะสี่วัน
คุณไพจิตร นั่งโซฟามองดูลูกสาวกับไอ้หนุ่ม หน้านิ่วคิ้วขมวด
อำนวยนั่งข้างยิ้มระรื่น
ส่วนคุณแม่ปรียานุชนั่งติดกับสามีเก่าหน้าตาสดใสขึ้น
อานนท์เหลือสองอย่าง สายอ็อกซิเจนแปะใต้จมูกกับสายน้ำเกลือ
พิมพ์มายากำลังอธิบายอาการของเขาให้คุณแม่ฟัง
“คุณหมอบอกคุณอานนท์เสียเลือดมาก กระเพาะอาหารแตก
แผลที่มือเส้นเอ็นเกือบขาด เคลื่อนไหวได้ ซี่โครงเดาะสามซี่ ฟังแล้วรู้สึกยังไงค่ะ?”
“ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ คงติดอยู่ในนี้อีกนาน” อานนท์ตอบแทน เสียงเขาดีขึ้นมาก
“พักให้มากๆ พิมพ์อยู่กับคุณทุกวัน” เธอยิ้มหวาน เขามองเธอ
“จริงเหรอ? ไม่ต้องทำงาน?”
“ค่ะ” เขามองเธอ ยิ้ม
“กลับบ้านไปพักผ่อนบ้างเถอะ ที่นี่หมอพยาบาลเยอะ ผมยังอยู่อีกหลายวัน
เจ้าอำนวยก็อยู่ กลับไปพักให้เต็มอิ่ม เข้าทำสปาให้สบายใจ ค่อยมาก็ได้”
“พิมพ์จะอยู่” เธอทำเสียงสูงอีกคีย์ปากล่างยื่น เขายิ้ม
“อย่าดื้อ! ทำตามที่ผมบอก ไม่งั้นผมจะไม่มอง ไม่พูดกับพิมพ์” อานนท์ทำหน้าตายพูด
ปากเธอยื่นอีกหน่อย แล้วหดกลับ พยักหน้าหงอยๆ อานนท์ยิ้มเพลียๆ
คุณพยาบาลเข้าประตูมา
“พวกนักข่าวมาทวงสัญญาให้สัมภาษณ์ค่ะคุณพิมพ์” พยาบาลคนสวยคนเดิมบอก
“รบกวนบอกพรุ่งนี้เก้าโมงเช้าพบดิฉันที่บ้านคุณแม่
จะให้เข้าสัมภาษณ์ครั้งละห้าคน ช่วยหน่อยนะคะ”
“ได๋ค่ะ ฮิ ฮิ” ทุกคนในห้องอมยิ้มกับคุณพยาบาล
เธอหมุนตัวออกจากห้องไป พิมพ์หันมากระซิบข้างหูอานนท์
“คุณรักพิมพ์หรือเปล่าค่ะ?” เขาตาเหลือกมองเธอ
“ผมรักคุณ พิมพ์” อานน์ตอบกลับทันทีเสียงเบา
ด้วยความไม่แน่ใจ ทำไมถึงถาม?
“จะแต่งงานกับพิมพ์ไหม?” เธอกุมมือเขา
สมองเขาหมุน โลกมันกลับหัวกลับขั้วหรือไงตั้งแต่โดนยำ
ผู้หญิงขอผู้ชายแต่งงาน รู้สึกผะอืดผะอม แต่ต้องไว้เชิงหน่อย
เขาพูดเสียงเบา แต่ทุกคนพอได้ยิน
“ผมจะแต่งกับพิมพ์ ไม่เกี่ยวกับฐานะหรืออะไรทั้งนั้น ที่ผมจะแต่งเพราะผมรักพิมพ์
ผมเลี้ยงพิมพ์ได้ถ้าพิมพ์ไม่ทำงาน ผมสัญญา” เธอจูบแก้มเขา
“พิมพ์รักคุณ ขอกลับบ้านก่อนนะคะ”
“ผมรักพิมพ์” อานนท์ตอบสาวเจ้า
สามผู้เยี่ยมคนไข้นั่งบนโซฟาตะลึงพูดไม่ออกซักคน
อำนวยยิ้มร่า กำมือชูกำปั้นขึ้นกลางอากาศ ส่งเสียง
“โย้!”
“เดี๋ยวลูกพิมพ์อย่าพึ่งกลับ พ่อมีเรื่องสำคัญจะคุยกับทุกคน”
คุณไพจิตรขยับตัวท่าทางจริงจัง ทุกคนพากันมองคุณพ่อเป็นจุดเดียว
“ก่อนอื่นผมต้องขอโทษทุกคน ที่สำคัญคุณอานนท์
ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องเจ็บตัวเข้าโรงพยาบาล” ทุกคนตะลึง
“อะไรค่ะคุณพ่อ?” พิมพ์ทรุดนั่งลงที่เดินข้างเตียง จับมืออานนท์ไว้
“เรื่องการลักพาตัวหนู เป็นพ่อบงการเอง”
“คุณพ่อ! คุณ!”
คุณลูกสาว คุณแม่อุทานพร้อมกันเสียงสูง
“อย่าพึ่งขัดผม ฟังพ่อพูดให้จบก่อนได้มั้ย?” ทุกคนเงียบ
“พ่อเป็นหนี้มากมายกับการทำหนังเรื่องที่แล้ว พ่อกับเสี่ยสมบูรณ์คิดเสี่ยงครั้งสุดท้าย
เพื่อแก้สถานการณ์ เราวางแผนถ่ายทำหนังเรื่องใหม่ วางแผนกันสองเดือนกว่า
กู้และเป็นหนี้เพิ่มขึ้นอีกเพื่อเช่า และซื้ออุปกรณ์สำหรับถ่ายทำหนังเรียลิตี้
ไม่มีสคริป ไม่มีบท ใช้กล้อง ใช้คนเยอะมาก ค่าเช่าสัญญาณดาวเที่ยม
ค่าใช้จ่ายสูงเกือบสองเท่าของการสร้างหนังทั่วไป
เริ่มเดินกล้องถ่ายทำตั้งแต่ลูกพิมพ์ขึ้นเวทีเพื่อรับรางวัล จากนั้นถ่ายติดตามลูกตลอด
จนกระทั้งเดี๋ยวนี้ ยังเดินกล้องถ่ายทอดสัญญารผ่านดาวเทียมบันทึกเทปไว้”
คุณไพจิตรดึงปากกาที่เหน็บในกระเสื้อออกมาถือไว้ในมือ
หันส่วนที่เป็นที่หนีบไปทางเตียงคนไข้
“นี่เป็นกล้องขนาดจิ๋ว และไมค์กำลังสูงชิ้นหนึ่ง มันกำลังถ่ายทำอยู่
ช่วงนี้ พ่อทำหน้าที่เป็นตากล้อง” เขานำมันเสียบที่เดิม
“เราใช้ทั้งกล้องติดตั้งในห้องโรงแรม บ้าน และรถลุงแถม ตามต้นไม้ ข้างทาง
ในรถ ติดบนตัวคน เพื่อถ่ายทำให้ได้ตลอด พวกที่ลักพาตัวหนูก็เป็นสตั๊นท์แมน
ลุงแถม และลูกชายก็เป็นนักแสดงอาชีพ
แต่ปัญหา และเคราะห์ร้ายอยู่ที่คุณอานนท์
ซึ่งไม่อยู่ในแผน ต้องตกกระไดพลอยโจนเป็นพระเอกของเรื่องโดยไม่ตั้งใจ
ผมและทีมงานต้องขอโทษอย่างมาก
หากคุณอานนท์ไม่เป็นลูกผู้ชาย ไม่สู้คน เรื่องต้องดำเนินไปตามแผนได้ไม่ยาก
คุณอานนท์สู้ไม่ถอย ทำให้พวกสตั๊นท์แมนเจ็บจริง จนเกิดอารมณ์ระงับไม่อยู่ผิดคิว
ซึ่งพวกเขาพร้อมจะมาขอโทษคุณด้วยตัวเอง
หนังชีวิตจริงเรื่องนี้แทนที่จะยาวกลับสั้น และจบแบบมีความสุข
ผมในฐานะพ่อของฝ่ายหญิง
ผมตกลงยกลูกสาวให้คุณอานนท์ดูแล ต่อจากผมด้วยความเต็มใจ คุณนุชคุณจะว่าไง?”
คุณไพจิตรหันตัวถามคุณปรียานุชเมียเก่าแม่ของพิมพ์มายา
เธอมองเขาอย่างแค้นเคือง
“คุณทำอะไรไม่เคยปรึกษาฉัน ทำกับลูกสาวฉันได้ไง?
คุณรู้มั้ย? ฉันทุกข์ใจ ร้องไห้จนไม่มีน้ำตา เป็นลมวันละหลายหน
เป็นห่วงลูกไม่เป็นอันกินอันนอน คุณเป็นผู้ชายที่ใจดำมาก เห็นแก่ตัว
นั่นว่าที่ลูกเขยฉัน ตามที่ลูกพิมพ์เล่าให้ฉันฟัง เขาดูแลลูกสาวฉันดีกว่าคุณร้อยเท่าพันเท่า
ลูกพิมพ์รักเขา ฉันก็ต้องยอมรับเขามากกว่าจะอภัยให้คุณเสียอีก คนใจร้ายใจดำ!”
คุณแม่พูดไปน้ำตาไหลไป คุณลูกสาวต้องเข้ามากอดไว้
คุณไพจิตรทำหน้าเศร้า ถอนใจเสียงดัง
“อ้า! คุณอาครับ ขอโทษครับ!
เรื่องการลักพาตัวเป็นคดีอาญายอมความไม่ได้
และเราแจ้งความลงบันทึกประจำเอาไว้แล้ว คุณอาจะแก้ไขยังไงครับ?”
อำนวยส่งเสียงขอมีส่วนในหนังบ้าง
“เรื่องนี้ต้องแล้วแต่ความเห็นใจของศาลท่าน โทษหนักอาจลดเป็นเบาถ้าความจริงเปิดเผย
ผมอาจติดคุกในคดีแจ้งความเท็จ ซึ่งผมคงต้องยอมรับสภาพ เพราะผมผิดจริงๆ”
“ผมไม่เอาความครับ ไม่เป็นเจ้าทุกข์” อานนท์พูดเสียงแหบดัง
“หนูก็ไม่แจ้งความค่ะ” พิมพ์พูดบ้าง สายตาทุกคนมองคุณแม่
“เฮอะ!”
เธอค้อนสามีเก่า ไม่ออกความเห็นก็เป็นการยอมรับ
“คุณอำนวย คุณไปถอนแจ้งความกับผม คุณไม่มีข้อหาส่วนผมมีแน่
ถึงไม่มีเจ้าทุกข์แจ้งความผมก็เถอะ ตำรวจเอาแน่ วันนี้ถ้าว่างไปด้วยกันที่ สน.”
“ครับคุณอา” อำนวยยิ้มกริ่ม เขาดังแน่งานนี้ หันไปมองเพื่อน พูดในใจ
ขอบใจเจ้านนท์!
“ลูกพิมพ์พรุ่งนี้ให้สัมภาษณ์นักข่าว ไม่ต้องบอกรายละเอียด
เพียงบอกเรื่องนี้เป็นการถ่ายทำหนังแบบเรียลลิตี้ ของพ่อ
ซึ่งหนูไม่รู้เรื่องด้วยก่อนหน้านี้ พึ่งมารู้เมื่อพ่อสารภาพวันนี้
อยากรู้รายละเอียด คอยชมภาพยนต์เอา นั้นเป็นเรื่องจริงล้วนๆ”
“ค่ะ! หนู และคุณอานนท์ต้องได้สามสิบเปอร์เซนต์จากกำไรที่หักค่าใช้จ่ายแล้ว
จากรายได้ที่เกี่ยวข้องของหนังเรื่องนี้ทุกอย่าง
คุณพ่อให้ทนายทำหนังสือสัญญาให้หนูกับอานนท์คืนนี้
ไม่งั้น หนูให้สัมภาษณ์ว่าเป็นการโกหก เป็นการแสดงทั้งหมด”
คุณไพจิตรตาเหลือก คุณแม่ยิ้มสะใจ อานนท์กับอำนวยขำ
“พ่อกับเสี่ยสมบูรณ์มีหนี้สินเยอะ ยี่สิบก็พอนะพิมพ์”
“ยี่สิบห้าขาดตัวค่ะ”
“ตกลงลูก เฮ้อ!” ทุกคนหัวเราะ
โดยเฉพาะคุณแม่ปรียานุชสะใจกว่าทุกคน...
นักข่าวได้ข่าว
ตามที่พิมพ์มายาให้ข่าว และแถมด้วยการแถลงข่าวกำหนดการหมั่นของ
นางเอกและพระเอกจำเป็นในเรื่องเร็วๆ นี้
ส่วนการรับแสดงรับงาน ต้องถามความเห็นว่าที่สามีอีกครั้ง
ยิ่งทำให้ทุกคนดูหนัง อยากรู้อะไรที่ทำให้ทั้งคู่รัก และตัดสินใจแต่งงานกัน
เป็นข่าวครึกโครมมาก เม้าส์ไปทุกวงการ...
ภาพยนต์ถ่ายทำชีวิตจริง
เรื่องนี้ทำเงินถล่มทลาย ถึงความยาวของเรื่องจะไม่เท่าไหร่
แต่ ไอเดียแปลก ฮิตติดลมบน ครองอันดับหนึ่งหนังทำเงิน
ติดชาร์ทนานติดต่อกันห้าสัปดาห์ ขายได้หลายประเทศ ได้ทั้งกล่องได้ทั้งเงิน
นางเอกและพระเอกจำเป็นดัง มีบทหนังส่งให้ดูมากมาย
เป็นมิติใหม่ของวงการภาพยนต์ไทย...
(ขอเชิญชวนให้อ่าน ติ ชม ครับเพื่อนๆ)
“คุณ! คุณอานนท์ค่ะ”
เธอกระซิบข้างหูอานนท์เบาๆ
เขาอยู่ในชุดคนไข้เต็มยศ พร้อมสายระโยงระยางเต็มพิกัด
เธอลูบมือเขาเบาๆ อานนท์ลืมตา เธอยื่นหน้าให้เขาเห็น อานนท์ยิ้ม
“คุณปลอดภัยมั้ยครับ?”
โถ! ยังเป็นห่วงเราอีก เธอตื้นตันใจน้ำตาไหลอีกครั้ง
เสียงเขาแหบเบาแต่เธอจับความได้ เธอยิ้มทั้งน้ำตา
“พิมพ์ปลอดภัย คุณเจ็บมากไหม?”
อานนท์มองหน้าเธอ และเริ่มทำตาเจ้าชู้
“ยังไม่ต้องพูดนะคะ พิมพ์จะอยู่กับคุณที่นี่ตลอดเวลา
เราอยู่ในโรงพยาบาลกับตำรวจปลอดภัยค่ะ”
“โชคดีที่คุณไม่เป็นอะไร” เสียงเขาค่อยดีขึ้นนิดหนึ่ง
เธอจับมือเขาตลอด หันมองสบตาคุณพยาบาลพูดขึ้น
“ฉันอยู่นานหน่อยได้มั้ยค่ะ?” พยาบาลยิ้มหวาน
“สำหรับคุณพิมพ์ให้อีกสิบนาทีนะคะ นานกว่านี้ถูกคุณหมอดุแน่”
คุณพยาบาลคนสวยทำหน้าทะเล้น พิมพ์ยิ้มให้
“ขอบคุณมากค่ะ ทำไงถึงจะได้ห้องพิเศษค่ะ”
“ดิฉันจะเรียนคุณหมอว่าคนไข้ต้องการห้องพิเศษให้ค่ะ”
“ขอรบกวนด้วย ขอบคุณค่ะ” พยาบาลยิ้มเต็มใจ
พยาบาลอีกคนเข้าประตูมา หน้าตาตื่นเต้น
“คุณพิมพ์ค่ะ นักข่าวอยู่หน้าห้องฉุกเฉินเต็มไปหมด ทำไงดีค่ะ?”
“ช่วยเรียนถามคุณหมอ ขอความกรุณาย้ายคนไข้ขึ้นไปห้องพิเศษตอนนี้เลย
ดิฉันจะตามขึ้นไป ไม่อยากพบกับพวกนักข่าว ช่วยหน่อยนะคะ”
คุณพยาบาลยิ้ม หายไปพักใหญ่กลับมา
“คุณหมอดิเรกอนุญาติให้เป็นกรณีพิเศษ พอดีมีห้องว่างชั้นห้า
เดี๋ยวดิฉันจะให้พนักงานมาจัดการย้าย คุณเดินตามไปได้เลยไม่พบนักข่าวแน่”
พิมพ์มายาเข้ากอดและหอมแก้มคุณพยาบาลขอบคุณ เธอดีใจหน้าแดง
“รบกวนช่วยบอกพวกนักข่าว อีกสองวันพิมพ์จะให้สัมภาษณ์นะคะ”
“ค่ะ” พิมพ์มายาหอมแก้มอีกข้างก่อนจาก...
อานนท์พักฟื้น
อยู่ในห้องพิเศษบนชั้นห้าของโรงพยาบาล
พิมพ์มายาอยู่ด้วยแทบจะตลอดทุกวัน จวนจะสี่วัน
คุณไพจิตร นั่งโซฟามองดูลูกสาวกับไอ้หนุ่ม หน้านิ่วคิ้วขมวด
อำนวยนั่งข้างยิ้มระรื่น
ส่วนคุณแม่ปรียานุชนั่งติดกับสามีเก่าหน้าตาสดใสขึ้น
อานนท์เหลือสองอย่าง สายอ็อกซิเจนแปะใต้จมูกกับสายน้ำเกลือ
พิมพ์มายากำลังอธิบายอาการของเขาให้คุณแม่ฟัง
“คุณหมอบอกคุณอานนท์เสียเลือดมาก กระเพาะอาหารแตก
แผลที่มือเส้นเอ็นเกือบขาด เคลื่อนไหวได้ ซี่โครงเดาะสามซี่ ฟังแล้วรู้สึกยังไงค่ะ?”
“ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ คงติดอยู่ในนี้อีกนาน” อานนท์ตอบแทน เสียงเขาดีขึ้นมาก
“พักให้มากๆ พิมพ์อยู่กับคุณทุกวัน” เธอยิ้มหวาน เขามองเธอ
“จริงเหรอ? ไม่ต้องทำงาน?”
“ค่ะ” เขามองเธอ ยิ้ม
“กลับบ้านไปพักผ่อนบ้างเถอะ ที่นี่หมอพยาบาลเยอะ ผมยังอยู่อีกหลายวัน
เจ้าอำนวยก็อยู่ กลับไปพักให้เต็มอิ่ม เข้าทำสปาให้สบายใจ ค่อยมาก็ได้”
“พิมพ์จะอยู่” เธอทำเสียงสูงอีกคีย์ปากล่างยื่น เขายิ้ม
“อย่าดื้อ! ทำตามที่ผมบอก ไม่งั้นผมจะไม่มอง ไม่พูดกับพิมพ์” อานนท์ทำหน้าตายพูด
ปากเธอยื่นอีกหน่อย แล้วหดกลับ พยักหน้าหงอยๆ อานนท์ยิ้มเพลียๆ
คุณพยาบาลเข้าประตูมา
“พวกนักข่าวมาทวงสัญญาให้สัมภาษณ์ค่ะคุณพิมพ์” พยาบาลคนสวยคนเดิมบอก
“รบกวนบอกพรุ่งนี้เก้าโมงเช้าพบดิฉันที่บ้านคุณแม่
จะให้เข้าสัมภาษณ์ครั้งละห้าคน ช่วยหน่อยนะคะ”
“ได๋ค่ะ ฮิ ฮิ” ทุกคนในห้องอมยิ้มกับคุณพยาบาล
เธอหมุนตัวออกจากห้องไป พิมพ์หันมากระซิบข้างหูอานนท์
“คุณรักพิมพ์หรือเปล่าค่ะ?” เขาตาเหลือกมองเธอ
“ผมรักคุณ พิมพ์” อานน์ตอบกลับทันทีเสียงเบา
ด้วยความไม่แน่ใจ ทำไมถึงถาม?
“จะแต่งงานกับพิมพ์ไหม?” เธอกุมมือเขา
สมองเขาหมุน โลกมันกลับหัวกลับขั้วหรือไงตั้งแต่โดนยำ
ผู้หญิงขอผู้ชายแต่งงาน รู้สึกผะอืดผะอม แต่ต้องไว้เชิงหน่อย
เขาพูดเสียงเบา แต่ทุกคนพอได้ยิน
“ผมจะแต่งกับพิมพ์ ไม่เกี่ยวกับฐานะหรืออะไรทั้งนั้น ที่ผมจะแต่งเพราะผมรักพิมพ์
ผมเลี้ยงพิมพ์ได้ถ้าพิมพ์ไม่ทำงาน ผมสัญญา” เธอจูบแก้มเขา
“พิมพ์รักคุณ ขอกลับบ้านก่อนนะคะ”
“ผมรักพิมพ์” อานนท์ตอบสาวเจ้า
สามผู้เยี่ยมคนไข้นั่งบนโซฟาตะลึงพูดไม่ออกซักคน
อำนวยยิ้มร่า กำมือชูกำปั้นขึ้นกลางอากาศ ส่งเสียง
“โย้!”
“เดี๋ยวลูกพิมพ์อย่าพึ่งกลับ พ่อมีเรื่องสำคัญจะคุยกับทุกคน”
คุณไพจิตรขยับตัวท่าทางจริงจัง ทุกคนพากันมองคุณพ่อเป็นจุดเดียว
“ก่อนอื่นผมต้องขอโทษทุกคน ที่สำคัญคุณอานนท์
ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องเจ็บตัวเข้าโรงพยาบาล” ทุกคนตะลึง
“อะไรค่ะคุณพ่อ?” พิมพ์ทรุดนั่งลงที่เดินข้างเตียง จับมืออานนท์ไว้
“เรื่องการลักพาตัวหนู เป็นพ่อบงการเอง”
“คุณพ่อ! คุณ!”
คุณลูกสาว คุณแม่อุทานพร้อมกันเสียงสูง
“อย่าพึ่งขัดผม ฟังพ่อพูดให้จบก่อนได้มั้ย?” ทุกคนเงียบ
“พ่อเป็นหนี้มากมายกับการทำหนังเรื่องที่แล้ว พ่อกับเสี่ยสมบูรณ์คิดเสี่ยงครั้งสุดท้าย
เพื่อแก้สถานการณ์ เราวางแผนถ่ายทำหนังเรื่องใหม่ วางแผนกันสองเดือนกว่า
กู้และเป็นหนี้เพิ่มขึ้นอีกเพื่อเช่า และซื้ออุปกรณ์สำหรับถ่ายทำหนังเรียลิตี้
ไม่มีสคริป ไม่มีบท ใช้กล้อง ใช้คนเยอะมาก ค่าเช่าสัญญาณดาวเที่ยม
ค่าใช้จ่ายสูงเกือบสองเท่าของการสร้างหนังทั่วไป
เริ่มเดินกล้องถ่ายทำตั้งแต่ลูกพิมพ์ขึ้นเวทีเพื่อรับรางวัล จากนั้นถ่ายติดตามลูกตลอด
จนกระทั้งเดี๋ยวนี้ ยังเดินกล้องถ่ายทอดสัญญารผ่านดาวเทียมบันทึกเทปไว้”
คุณไพจิตรดึงปากกาที่เหน็บในกระเสื้อออกมาถือไว้ในมือ
หันส่วนที่เป็นที่หนีบไปทางเตียงคนไข้
“นี่เป็นกล้องขนาดจิ๋ว และไมค์กำลังสูงชิ้นหนึ่ง มันกำลังถ่ายทำอยู่
ช่วงนี้ พ่อทำหน้าที่เป็นตากล้อง” เขานำมันเสียบที่เดิม
“เราใช้ทั้งกล้องติดตั้งในห้องโรงแรม บ้าน และรถลุงแถม ตามต้นไม้ ข้างทาง
ในรถ ติดบนตัวคน เพื่อถ่ายทำให้ได้ตลอด พวกที่ลักพาตัวหนูก็เป็นสตั๊นท์แมน
ลุงแถม และลูกชายก็เป็นนักแสดงอาชีพ
แต่ปัญหา และเคราะห์ร้ายอยู่ที่คุณอานนท์
ซึ่งไม่อยู่ในแผน ต้องตกกระไดพลอยโจนเป็นพระเอกของเรื่องโดยไม่ตั้งใจ
ผมและทีมงานต้องขอโทษอย่างมาก
หากคุณอานนท์ไม่เป็นลูกผู้ชาย ไม่สู้คน เรื่องต้องดำเนินไปตามแผนได้ไม่ยาก
คุณอานนท์สู้ไม่ถอย ทำให้พวกสตั๊นท์แมนเจ็บจริง จนเกิดอารมณ์ระงับไม่อยู่ผิดคิว
ซึ่งพวกเขาพร้อมจะมาขอโทษคุณด้วยตัวเอง
หนังชีวิตจริงเรื่องนี้แทนที่จะยาวกลับสั้น และจบแบบมีความสุข
ผมในฐานะพ่อของฝ่ายหญิง
ผมตกลงยกลูกสาวให้คุณอานนท์ดูแล ต่อจากผมด้วยความเต็มใจ คุณนุชคุณจะว่าไง?”
คุณไพจิตรหันตัวถามคุณปรียานุชเมียเก่าแม่ของพิมพ์มายา
เธอมองเขาอย่างแค้นเคือง
“คุณทำอะไรไม่เคยปรึกษาฉัน ทำกับลูกสาวฉันได้ไง?
คุณรู้มั้ย? ฉันทุกข์ใจ ร้องไห้จนไม่มีน้ำตา เป็นลมวันละหลายหน
เป็นห่วงลูกไม่เป็นอันกินอันนอน คุณเป็นผู้ชายที่ใจดำมาก เห็นแก่ตัว
นั่นว่าที่ลูกเขยฉัน ตามที่ลูกพิมพ์เล่าให้ฉันฟัง เขาดูแลลูกสาวฉันดีกว่าคุณร้อยเท่าพันเท่า
ลูกพิมพ์รักเขา ฉันก็ต้องยอมรับเขามากกว่าจะอภัยให้คุณเสียอีก คนใจร้ายใจดำ!”
คุณแม่พูดไปน้ำตาไหลไป คุณลูกสาวต้องเข้ามากอดไว้
คุณไพจิตรทำหน้าเศร้า ถอนใจเสียงดัง
“อ้า! คุณอาครับ ขอโทษครับ!
เรื่องการลักพาตัวเป็นคดีอาญายอมความไม่ได้
และเราแจ้งความลงบันทึกประจำเอาไว้แล้ว คุณอาจะแก้ไขยังไงครับ?”
อำนวยส่งเสียงขอมีส่วนในหนังบ้าง
“เรื่องนี้ต้องแล้วแต่ความเห็นใจของศาลท่าน โทษหนักอาจลดเป็นเบาถ้าความจริงเปิดเผย
ผมอาจติดคุกในคดีแจ้งความเท็จ ซึ่งผมคงต้องยอมรับสภาพ เพราะผมผิดจริงๆ”
“ผมไม่เอาความครับ ไม่เป็นเจ้าทุกข์” อานนท์พูดเสียงแหบดัง
“หนูก็ไม่แจ้งความค่ะ” พิมพ์พูดบ้าง สายตาทุกคนมองคุณแม่
“เฮอะ!”
เธอค้อนสามีเก่า ไม่ออกความเห็นก็เป็นการยอมรับ
“คุณอำนวย คุณไปถอนแจ้งความกับผม คุณไม่มีข้อหาส่วนผมมีแน่
ถึงไม่มีเจ้าทุกข์แจ้งความผมก็เถอะ ตำรวจเอาแน่ วันนี้ถ้าว่างไปด้วยกันที่ สน.”
“ครับคุณอา” อำนวยยิ้มกริ่ม เขาดังแน่งานนี้ หันไปมองเพื่อน พูดในใจ
ขอบใจเจ้านนท์!
“ลูกพิมพ์พรุ่งนี้ให้สัมภาษณ์นักข่าว ไม่ต้องบอกรายละเอียด
เพียงบอกเรื่องนี้เป็นการถ่ายทำหนังแบบเรียลลิตี้ ของพ่อ
ซึ่งหนูไม่รู้เรื่องด้วยก่อนหน้านี้ พึ่งมารู้เมื่อพ่อสารภาพวันนี้
อยากรู้รายละเอียด คอยชมภาพยนต์เอา นั้นเป็นเรื่องจริงล้วนๆ”
“ค่ะ! หนู และคุณอานนท์ต้องได้สามสิบเปอร์เซนต์จากกำไรที่หักค่าใช้จ่ายแล้ว
จากรายได้ที่เกี่ยวข้องของหนังเรื่องนี้ทุกอย่าง
คุณพ่อให้ทนายทำหนังสือสัญญาให้หนูกับอานนท์คืนนี้
ไม่งั้น หนูให้สัมภาษณ์ว่าเป็นการโกหก เป็นการแสดงทั้งหมด”
คุณไพจิตรตาเหลือก คุณแม่ยิ้มสะใจ อานนท์กับอำนวยขำ
“พ่อกับเสี่ยสมบูรณ์มีหนี้สินเยอะ ยี่สิบก็พอนะพิมพ์”
“ยี่สิบห้าขาดตัวค่ะ”
“ตกลงลูก เฮ้อ!” ทุกคนหัวเราะ
โดยเฉพาะคุณแม่ปรียานุชสะใจกว่าทุกคน...
นักข่าวได้ข่าว
ตามที่พิมพ์มายาให้ข่าว และแถมด้วยการแถลงข่าวกำหนดการหมั่นของ
นางเอกและพระเอกจำเป็นในเรื่องเร็วๆ นี้
ส่วนการรับแสดงรับงาน ต้องถามความเห็นว่าที่สามีอีกครั้ง
ยิ่งทำให้ทุกคนดูหนัง อยากรู้อะไรที่ทำให้ทั้งคู่รัก และตัดสินใจแต่งงานกัน
เป็นข่าวครึกโครมมาก เม้าส์ไปทุกวงการ...
ภาพยนต์ถ่ายทำชีวิตจริง
เรื่องนี้ทำเงินถล่มทลาย ถึงความยาวของเรื่องจะไม่เท่าไหร่
แต่ ไอเดียแปลก ฮิตติดลมบน ครองอันดับหนึ่งหนังทำเงิน
ติดชาร์ทนานติดต่อกันห้าสัปดาห์ ขายได้หลายประเทศ ได้ทั้งกล่องได้ทั้งเงิน
นางเอกและพระเอกจำเป็นดัง มีบทหนังส่งให้ดูมากมาย
เป็นมิติใหม่ของวงการภาพยนต์ไทย...
(ขอเชิญชวนให้อ่าน ติ ชม ครับเพื่อนๆ)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ