ลิขิตรักซาตาล
7.7
1) สถานะการไม่คาดฝัน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ดึกมากแล้ว ใยบัวยังคงนอนไม่หลับ เธอได้แต่นึกถึงเรื่องราวเมื่อบ่ายของ วันนี้ เธอไม่อยากจะเชื่อว่าตอนนี้ครอบครัวของเธอจะอยู่ในสถานะล้มละลาย แล้วเธอกับแม่จะไปอยู่ที่ไหน หลังจากนี้จะทำอะไรกัน แล้วแม่จะอยู่ได้ไม๊ เด็กที่ร้านจะเป็นอย่างไร ถ้ารู้ว่าพรุ่งนี้พวกเค้าจะต้องถูกเลิกจ้าง เธอห่วงแม่ ห่วงเด็กที่ร้าน เมื่อนึกหาหนทางก็มืด แปดด้านไปหมด เธอไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี คิดมากจน เผลอหลับไปเองด้วยความเหนื่อยล้า
แสงแดดในตอนเช้าปลุกเธอให้ตื่นอีกตามเคย แต่เธอไม่รู้สึกว่ามันมีความสุขเหมือนทุกวัน แสงแดดในยามเช้าไม่ได้ช่วยให้เธอรู้สึกสดชื่น มันกลับทำให้เธอรู้สึกเศร้าใจที่คิดว่า ถ้าเธอออกจากที่นี่ไปแล้ว เธอจะไม่ได้มีโอกาศสูดอากาศยามเช้า แบบนี้อีก เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วน้ำตาของเธอก้ไหลขึ้นมาอีกครั้ง หญิงสาวใช้มือปาดน้ำตาที่อยู่ตรงแก้ม แล้วลุงขึ้นเดินเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเหมือนเช่นทุกวัน แล้วรีบแต่งตัวลงไปข้างล่าง
" แม่คะใครมาเหรอ บัวเห็นรถจอดอยู่หน้าบ้าน "
" รถคุณไมค์หน่ะจ๊ะลูก เค้ามาหาหนู เค้าบอกว่ามีเรื่องที่จะคุยกับหนูหน่ะจ่ะ " แม่ยังดูเป็นปกติเหมือนไม่รู้สึกทุกข์ร้อน ร้อนใจอะไรเลย
"เรื่องอะไรคะแม่ หรือว่า เค้าต้องการจะมาไล่ที่เรา ให้เร็วขึ้นกว่าเดิม " ใยบัว พูดแบบฉุนเฉียว
" คงไม่หรอกจ้ะลูก ถ้าเค้าจะทำเค้าคงทำไปนานแล้ว เค้ารอหนู อยู่ที่ศาลาท่าน้ำตรงทะเลสาบนั้นไงลูก เดียวแม่จะให้เด็กยกของตามไปนะ พูดกับเค้าดีๆหล่ะ " ทำไมต้องพูดกับคนที่กวนประสาทเธอด้วยนะ ใยบัวแอบบ่นเบาๆๆ
ไมค์กำลังยืนหันหลัง มองดูทัศนียภาพเบื้องหน้าด้วยความสบายใจ บรรยากาศดีๆแบบนี้ หาใน กรุงเทพไม่ได้เลย คิดๆดูแล้วเค้าหลงเสน่ห์เมืองเชียงใหม่เข้าซะแล้วสิ เค้าคิดเลยเถิดถึงขนาดที่อยากจะลงลักปักฐานอยู่ที่นี่เลยด้วยซ้ำ ขณะที่ยื่นคิดอะไรไปเผลินพร้อมกับยืนจิบกาแฟห้อมกรุ่นอยู่นั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น เสียงที่เค้าอยากได้ยิน มากที่สุด คนที่เค้าคิดถึงตลอดทั้งคืน ใบหน้ารูปไข่ที่ได้รูป ริมฝีปากที่แดงธรรมชาติไม่ต้องแต่งเติม ดวงตาที่ดูเศร้าๆคู่นั้น เค้าหันหน้ามาตามเสียงเรียก พร้อมกับยิ้มแช่งเมื่อเค้าเห็นหน้าเธอ ดวงตาของเธอยังคงแดงกล่ำ บ่งบอกว่าเธอยังคงร้องให้อยู่ ใบหน้าขาวซีด ผมยาวๆสีดำคลับนั้นตอนนี้ถูกปล่อยให้สยายเต็มแผ่นหลัง ผมของใยบัวยาวมากเกือบถึงเอว และมีสุขภาพดี จนทำให้ชายหนุ่มจินตนาการว่ากำลังลูบไล้ เรื่อนผมของเธออยู่ แต่ก็คิดได้แค่นั้น เมื่อใยบัว พูดแทรกขึ้น
" คุณมาหาฉัน มีธุระอะไรเหรอคะ " น้ำเสียงที่ดูเย็นชา บ่งบอกว่ากำลังโกรธอยู่ แต่ก็ไม่ลืมที่จะรักษามารยาทเอาไว้ ชายหนุ่มขยับตัวเดินเข้ามาหาใยบัว พร้อมกับจ้องเธอไม่ตากระพริบ ใยบัวรู้สึกประหม่าเล็กน้อยกับสายตาคู่นั้น แต่เธอก็พยายามที่จะหลบตาไม่ยอมสบตากับเค้า ดวงตาสีฟ้าคู่นั้น ช่างเหมาะกับเค้าเสียเหลือเกิน จมูกที่โด่งเป็นสัน คิ้วหนาๆ หนวดเคราที่ผ่านการโกนนั้นมันช่างเหมาะกับใบหน้าของเค้าอะไรเช่นนี้ ผิวสีแทน รูปร่างที่สูง สมส่วน มีกล้ามเนื้อ นั้นช่างดูดีเหลือเกิน เธอเพิ่งจะตั้งใจมองเค้าและพินิจรูปร่างของเค้าก็วันนี้นี่เอง
" ผมมี ข้อเสนอมาให้คุณพิจารณา " หญิงสาวงง งวยกับสิ่งที่ชายหนุ่มพูด
" ข้อเสนอ ข้อเสนออะไรคะ " เธอถามตอบ
" ขอเสนอของผมง่ายมากๆ มันอยู่ที่ว่าคุณจะยอมทำรึเปล่า เท่านั้นเอง " ชายหนุ่มยังคงจ้องมองดวงหน้าของใยบัวต่อไปเพื่อหาคำตอบจากดวงตาคู่นั้น
" แล้วข้อเสนอของคุณ มันคืออะไรหล่ะคะ ถ้ามันมากเกินไปชันคงทำไม่ได้หรอก " ใยบัวยังคงหาข้อต่อรองต่อไป เพราะตอนนี้เธออยู่ในสถานะการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่แล้ว
" ข้อเสนอ ของผมก็คือ คุณต้องแต่งงานกับผม " ใยบัวแทบจะไม่เชื่อหูของตัวเอง ผู้ชายที่เธอเพิ่งเจอกันมาเมื่อวาน คนที่ขับรถชนกันแล้วเมื่อวานนี้ตอนบ่ายอีกเช่นกัน เธอก็เพิ่งรู้ว่าเค้าคือเจ้าหนี้ของครอบครัวเธอ พอมาวันนี้ เค้ากลับมีข้อเสนอให้เธอแต่งงานกับเค้า เธอสับสนไปหมดแล้ว แต่ก็พยายามตั้งสติถามออกไป
" แต่งงานกับคุณ แต่งกับคุณเหรอ ไม่มีทาง ฉันไม่ยอมแต่งแน่นอน " ชายหนุ่มคิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้
" แต่งแค่ในนามเท่านั้นแหล่ะน่า ผมแค่อยากจะช่วยคุณกับคุณแม่คุณก็เท่านั้น "
" ช่วยเหรอ ด้วยการที่ยื่นขอเสนอบ้าๆบอๆแบบนี้เนี้ยนะ นั้นมันทั้งชีวิตของชั้นเลยนะคุณไมค์ " ไมค์ยิ้มออกมากอย่างขันๆอดยิ้มออกมาไม่ได้ที่เค้าเพิ่งใด้ยินใยบัวเรียกชื่อเค้า
"และนั้นมันก็ทั้งชีวิตของผมเหมือนกันนะ คุณ นี่ผมหวังดีนะ ผมอยากจะช่วยคุณจริงๆ "
" ฉันไม่เชื่อคุณหรอก คุณต้องการอะไรกันแน่ คุณอยากจะแกล้งชั้นใช่ไม๊ "ใยบัวยังคงต่อล้อต่อเถียงกับเค้าต่อไป
" คุณไม่เชื่อผมก็ตามใจ วันนี้ผมรีบมาที่นี่แต่เช้า ผมคุยกันคุณน้าแล้วเรื่องแต่งงาน และผมก็สัญญากับคุณน้าเอาไว้แล้ว ว่า เราจะแต่งงานกันแค่ในนามเท่านั้น ผมก็แค่อยากจะช่วย "
"แล้วคุณอยากจะมาช่วยทำไม คุณเพิ่งรู้จัก พวกเราเมื่อวานนี้เองนะ "
"ผมจะบอกคุณตามตรงนะ ที่จริง ผมก็เบื่อกับธุรกิจ ของพ่อที่มีแต่การแก่งแย่งชิงดีกัน ผมแค่อยาก จะ ช่วยคุณจริงๆ มันอาจจะไม่ใช่เหตุผลที่ดีพอแต่ผมอยากจะช่วยจริงๆนะ"
" ชั้นไม่เข้าใจ ทำไมคุณถึงยอมลงทุนตั้งเงื่อนไข ข้อตกลง อะไรแบบนี้ด้วยหล่ะ "
" ผมจะไม่พยายามที่จะอธิบายอะไรอีกแล้ว เรื่องนี้คุณตัดสินใจเองแล้วกันว่าจะ ให้ผมช่วยเหรือว่าจะยอมให้ กิจการของครอบครัว กิจการที่คุณรักและหวงแหน ถูกเอาไปปู้ยี่ปู้ยำเพราะน้ำมือ ผม ก็ตามใจคุณ " ชายหนุ่มพูดแกมขู่ และต้อนให้ใยบัวจนมุม
" และถ้าคุณยอมตกลง วันนี้ผมจะโทรไปบอกคุณพ่อของผมเรื่องแต่งงาน ทันที "
" ชั้นไม่เข้าใจ ว่าทำไมคุณต้องทำแบบนี้ด้วย ทำไม เพราะอะไร "ใยบัวยังคงพยายามหาคำตอบต่อไป
" ผมบอกแล้วไงว่า ผมแค่อยากจะช่วย แต่ถ้าคุณไม่อยากรับมันก็ตามใจ เพราะผมไม่เห็นว่าจะมีวิธีไหน ดีกว่าวีธีนี้อีกแล้ว "
" ดีที่สุดแล้วเหรอ นี่คุณคิดว่ามันดีที่สุดแล้วใช่ไม๊ ฉวยโอกาศหล่ะสิไม่ว่า " ใยบัว อดคิดไม่ได้ว่า สิ่งที่เค้าพูดมาทั้งหมดเป็นเพราะเรื่องอื่นนอกเหนือจากการที่อยากจะช่วย เพราะใยบัวเอง ก็เป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะเดาพฤติกรรมของชายหนุ่มออกว่าต้องการอะไรกันแม่ ไม่ใช่แค่อยากจะช่วยหรอก แต่เค้าหวังในตัวเธอมากกว่า แต่เธอก็หาทางออกไม่เจอแล้วเหมือนกัน ถ้าเธอไม่ตอบรับข้อตกลงกิจการของตระกูลก็จะพังทลายไปด้วยน้ำมือเธอ ชายหนุ่มหัวเราะ พลางทำสายตาเจ้าชู้มาให้เธอ
" นี่คุณรู้ด้วยเหรอ ว่าผมต้องการอะไร ผมนี่หื่นมากเลยเหรอในสายตาคุณอะ " ชายหนุ่มอดขำไม่ได้
" กูดูสายตาที่คุณจ้องชั้นตอนนี้สิ....." พอพูดถึงประโยคนี้ ใยบัวก็หน้าแดงแล้วหยุดพูด ในใจคิดว่าถ้าแต่งงานกับเค้าจริง เธอจะปกป้องตัวเองให้อยู่รอดยังไงนะ แค่คิดก็หนักใจแล้ว แต่เค้าบอกเองว่าแต่งงานกันในนามเท่านั้นคงไม่มีอะไรไปมากกว่านี้แน่นอน เมื่อเธอตัดสินใจได้แล้วเธอจึงบอกเค้าไป
" โอเค คุณ ไมค์ ชั้นจะยอมให้คุณช่วย แต่ชั้นมีข้อแม้ " ไมค์ยิ้มอย่างพอใจเพราะแผนแรกของเค้าทำสำเร็จแล้ว แผนที่จะพิชิดใจของใยบัวแผนแรกสำเร็จแล้ว ซึ่งมันดูเหมือนอาจจะเป็นการคลุมถุงชนไปหน่อยก็ตามแต่ วิธีนี้ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่เค้าจะช่วยได้ เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัวยังไงยังงั้นเลย
" ข้อแม้ ข้อแม้อะไรครับ " ใยบัวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากก่อนที่จะรวบรวมความกล้าออกไป
"ที่คุณบอกว่า การแต่งงานของเราเป็นเพียงการแต่งงานหลอก ไม่มีจุดประสงค์อื่น ถ้างั้น เรื่อง เ่อ่อ คือ เรื่อง อย่างว่า....คุณจะไม่ล่วงเกินชั้นใช่ไม๊ " ชายหนุ่มหัวเราะออกมาอีกครั้งกับความไร้เดียงสาของเธอ
" ผมก็บอกคุณไปแล้วไงว่า แต่งกันในนามเท่านั้น เอาเป็นว่าุคุณอย่าเพิ่งกังวลกับสิ่งนั้นเลย ผมว่าเรามาแก้ปัญหานี้ก่อนเถอะ ตกลงคุณยอมทำตามข้อเสนอของผมใช่ไม๊ งั้นเย็นนี้ ผมจะโทรบอกที่บ้านผม คุณยอมตกลงแล้วนะ ห้ามเปลี่ยนใจหล่ะ 555+" ชายหนุ่มพูดแล้ว เดินจากไป ปล่อยให้หญิงสาวนั่งมองดูทะเลสาบครุ่นคิดต่อไปถึงเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเธอ วันข้างหน้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอจะทำเพื่อ แม่ และเพื่อ กอบกู้กิจการของตระกูลเธอ ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม เธอจะทำให้ดีที่สุด
***************************************
แสงแดดในตอนเช้าปลุกเธอให้ตื่นอีกตามเคย แต่เธอไม่รู้สึกว่ามันมีความสุขเหมือนทุกวัน แสงแดดในยามเช้าไม่ได้ช่วยให้เธอรู้สึกสดชื่น มันกลับทำให้เธอรู้สึกเศร้าใจที่คิดว่า ถ้าเธอออกจากที่นี่ไปแล้ว เธอจะไม่ได้มีโอกาศสูดอากาศยามเช้า แบบนี้อีก เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วน้ำตาของเธอก้ไหลขึ้นมาอีกครั้ง หญิงสาวใช้มือปาดน้ำตาที่อยู่ตรงแก้ม แล้วลุงขึ้นเดินเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเหมือนเช่นทุกวัน แล้วรีบแต่งตัวลงไปข้างล่าง
" แม่คะใครมาเหรอ บัวเห็นรถจอดอยู่หน้าบ้าน "
" รถคุณไมค์หน่ะจ๊ะลูก เค้ามาหาหนู เค้าบอกว่ามีเรื่องที่จะคุยกับหนูหน่ะจ่ะ " แม่ยังดูเป็นปกติเหมือนไม่รู้สึกทุกข์ร้อน ร้อนใจอะไรเลย
"เรื่องอะไรคะแม่ หรือว่า เค้าต้องการจะมาไล่ที่เรา ให้เร็วขึ้นกว่าเดิม " ใยบัว พูดแบบฉุนเฉียว
" คงไม่หรอกจ้ะลูก ถ้าเค้าจะทำเค้าคงทำไปนานแล้ว เค้ารอหนู อยู่ที่ศาลาท่าน้ำตรงทะเลสาบนั้นไงลูก เดียวแม่จะให้เด็กยกของตามไปนะ พูดกับเค้าดีๆหล่ะ " ทำไมต้องพูดกับคนที่กวนประสาทเธอด้วยนะ ใยบัวแอบบ่นเบาๆๆ
ไมค์กำลังยืนหันหลัง มองดูทัศนียภาพเบื้องหน้าด้วยความสบายใจ บรรยากาศดีๆแบบนี้ หาใน กรุงเทพไม่ได้เลย คิดๆดูแล้วเค้าหลงเสน่ห์เมืองเชียงใหม่เข้าซะแล้วสิ เค้าคิดเลยเถิดถึงขนาดที่อยากจะลงลักปักฐานอยู่ที่นี่เลยด้วยซ้ำ ขณะที่ยื่นคิดอะไรไปเผลินพร้อมกับยืนจิบกาแฟห้อมกรุ่นอยู่นั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น เสียงที่เค้าอยากได้ยิน มากที่สุด คนที่เค้าคิดถึงตลอดทั้งคืน ใบหน้ารูปไข่ที่ได้รูป ริมฝีปากที่แดงธรรมชาติไม่ต้องแต่งเติม ดวงตาที่ดูเศร้าๆคู่นั้น เค้าหันหน้ามาตามเสียงเรียก พร้อมกับยิ้มแช่งเมื่อเค้าเห็นหน้าเธอ ดวงตาของเธอยังคงแดงกล่ำ บ่งบอกว่าเธอยังคงร้องให้อยู่ ใบหน้าขาวซีด ผมยาวๆสีดำคลับนั้นตอนนี้ถูกปล่อยให้สยายเต็มแผ่นหลัง ผมของใยบัวยาวมากเกือบถึงเอว และมีสุขภาพดี จนทำให้ชายหนุ่มจินตนาการว่ากำลังลูบไล้ เรื่อนผมของเธออยู่ แต่ก็คิดได้แค่นั้น เมื่อใยบัว พูดแทรกขึ้น
" คุณมาหาฉัน มีธุระอะไรเหรอคะ " น้ำเสียงที่ดูเย็นชา บ่งบอกว่ากำลังโกรธอยู่ แต่ก็ไม่ลืมที่จะรักษามารยาทเอาไว้ ชายหนุ่มขยับตัวเดินเข้ามาหาใยบัว พร้อมกับจ้องเธอไม่ตากระพริบ ใยบัวรู้สึกประหม่าเล็กน้อยกับสายตาคู่นั้น แต่เธอก็พยายามที่จะหลบตาไม่ยอมสบตากับเค้า ดวงตาสีฟ้าคู่นั้น ช่างเหมาะกับเค้าเสียเหลือเกิน จมูกที่โด่งเป็นสัน คิ้วหนาๆ หนวดเคราที่ผ่านการโกนนั้นมันช่างเหมาะกับใบหน้าของเค้าอะไรเช่นนี้ ผิวสีแทน รูปร่างที่สูง สมส่วน มีกล้ามเนื้อ นั้นช่างดูดีเหลือเกิน เธอเพิ่งจะตั้งใจมองเค้าและพินิจรูปร่างของเค้าก็วันนี้นี่เอง
" ผมมี ข้อเสนอมาให้คุณพิจารณา " หญิงสาวงง งวยกับสิ่งที่ชายหนุ่มพูด
" ข้อเสนอ ข้อเสนออะไรคะ " เธอถามตอบ
" ขอเสนอของผมง่ายมากๆ มันอยู่ที่ว่าคุณจะยอมทำรึเปล่า เท่านั้นเอง " ชายหนุ่มยังคงจ้องมองดวงหน้าของใยบัวต่อไปเพื่อหาคำตอบจากดวงตาคู่นั้น
" แล้วข้อเสนอของคุณ มันคืออะไรหล่ะคะ ถ้ามันมากเกินไปชันคงทำไม่ได้หรอก " ใยบัวยังคงหาข้อต่อรองต่อไป เพราะตอนนี้เธออยู่ในสถานะการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่แล้ว
" ข้อเสนอ ของผมก็คือ คุณต้องแต่งงานกับผม " ใยบัวแทบจะไม่เชื่อหูของตัวเอง ผู้ชายที่เธอเพิ่งเจอกันมาเมื่อวาน คนที่ขับรถชนกันแล้วเมื่อวานนี้ตอนบ่ายอีกเช่นกัน เธอก็เพิ่งรู้ว่าเค้าคือเจ้าหนี้ของครอบครัวเธอ พอมาวันนี้ เค้ากลับมีข้อเสนอให้เธอแต่งงานกับเค้า เธอสับสนไปหมดแล้ว แต่ก็พยายามตั้งสติถามออกไป
" แต่งงานกับคุณ แต่งกับคุณเหรอ ไม่มีทาง ฉันไม่ยอมแต่งแน่นอน " ชายหนุ่มคิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้
" แต่งแค่ในนามเท่านั้นแหล่ะน่า ผมแค่อยากจะช่วยคุณกับคุณแม่คุณก็เท่านั้น "
" ช่วยเหรอ ด้วยการที่ยื่นขอเสนอบ้าๆบอๆแบบนี้เนี้ยนะ นั้นมันทั้งชีวิตของชั้นเลยนะคุณไมค์ " ไมค์ยิ้มออกมากอย่างขันๆอดยิ้มออกมาไม่ได้ที่เค้าเพิ่งใด้ยินใยบัวเรียกชื่อเค้า
"และนั้นมันก็ทั้งชีวิตของผมเหมือนกันนะ คุณ นี่ผมหวังดีนะ ผมอยากจะช่วยคุณจริงๆ "
" ฉันไม่เชื่อคุณหรอก คุณต้องการอะไรกันแน่ คุณอยากจะแกล้งชั้นใช่ไม๊ "ใยบัวยังคงต่อล้อต่อเถียงกับเค้าต่อไป
" คุณไม่เชื่อผมก็ตามใจ วันนี้ผมรีบมาที่นี่แต่เช้า ผมคุยกันคุณน้าแล้วเรื่องแต่งงาน และผมก็สัญญากับคุณน้าเอาไว้แล้ว ว่า เราจะแต่งงานกันแค่ในนามเท่านั้น ผมก็แค่อยากจะช่วย "
"แล้วคุณอยากจะมาช่วยทำไม คุณเพิ่งรู้จัก พวกเราเมื่อวานนี้เองนะ "
"ผมจะบอกคุณตามตรงนะ ที่จริง ผมก็เบื่อกับธุรกิจ ของพ่อที่มีแต่การแก่งแย่งชิงดีกัน ผมแค่อยาก จะ ช่วยคุณจริงๆ มันอาจจะไม่ใช่เหตุผลที่ดีพอแต่ผมอยากจะช่วยจริงๆนะ"
" ชั้นไม่เข้าใจ ทำไมคุณถึงยอมลงทุนตั้งเงื่อนไข ข้อตกลง อะไรแบบนี้ด้วยหล่ะ "
" ผมจะไม่พยายามที่จะอธิบายอะไรอีกแล้ว เรื่องนี้คุณตัดสินใจเองแล้วกันว่าจะ ให้ผมช่วยเหรือว่าจะยอมให้ กิจการของครอบครัว กิจการที่คุณรักและหวงแหน ถูกเอาไปปู้ยี่ปู้ยำเพราะน้ำมือ ผม ก็ตามใจคุณ " ชายหนุ่มพูดแกมขู่ และต้อนให้ใยบัวจนมุม
" และถ้าคุณยอมตกลง วันนี้ผมจะโทรไปบอกคุณพ่อของผมเรื่องแต่งงาน ทันที "
" ชั้นไม่เข้าใจ ว่าทำไมคุณต้องทำแบบนี้ด้วย ทำไม เพราะอะไร "ใยบัวยังคงพยายามหาคำตอบต่อไป
" ผมบอกแล้วไงว่า ผมแค่อยากจะช่วย แต่ถ้าคุณไม่อยากรับมันก็ตามใจ เพราะผมไม่เห็นว่าจะมีวิธีไหน ดีกว่าวีธีนี้อีกแล้ว "
" ดีที่สุดแล้วเหรอ นี่คุณคิดว่ามันดีที่สุดแล้วใช่ไม๊ ฉวยโอกาศหล่ะสิไม่ว่า " ใยบัว อดคิดไม่ได้ว่า สิ่งที่เค้าพูดมาทั้งหมดเป็นเพราะเรื่องอื่นนอกเหนือจากการที่อยากจะช่วย เพราะใยบัวเอง ก็เป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะเดาพฤติกรรมของชายหนุ่มออกว่าต้องการอะไรกันแม่ ไม่ใช่แค่อยากจะช่วยหรอก แต่เค้าหวังในตัวเธอมากกว่า แต่เธอก็หาทางออกไม่เจอแล้วเหมือนกัน ถ้าเธอไม่ตอบรับข้อตกลงกิจการของตระกูลก็จะพังทลายไปด้วยน้ำมือเธอ ชายหนุ่มหัวเราะ พลางทำสายตาเจ้าชู้มาให้เธอ
" นี่คุณรู้ด้วยเหรอ ว่าผมต้องการอะไร ผมนี่หื่นมากเลยเหรอในสายตาคุณอะ " ชายหนุ่มอดขำไม่ได้
" กูดูสายตาที่คุณจ้องชั้นตอนนี้สิ....." พอพูดถึงประโยคนี้ ใยบัวก็หน้าแดงแล้วหยุดพูด ในใจคิดว่าถ้าแต่งงานกับเค้าจริง เธอจะปกป้องตัวเองให้อยู่รอดยังไงนะ แค่คิดก็หนักใจแล้ว แต่เค้าบอกเองว่าแต่งงานกันในนามเท่านั้นคงไม่มีอะไรไปมากกว่านี้แน่นอน เมื่อเธอตัดสินใจได้แล้วเธอจึงบอกเค้าไป
" โอเค คุณ ไมค์ ชั้นจะยอมให้คุณช่วย แต่ชั้นมีข้อแม้ " ไมค์ยิ้มอย่างพอใจเพราะแผนแรกของเค้าทำสำเร็จแล้ว แผนที่จะพิชิดใจของใยบัวแผนแรกสำเร็จแล้ว ซึ่งมันดูเหมือนอาจจะเป็นการคลุมถุงชนไปหน่อยก็ตามแต่ วิธีนี้ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่เค้าจะช่วยได้ เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัวยังไงยังงั้นเลย
" ข้อแม้ ข้อแม้อะไรครับ " ใยบัวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากก่อนที่จะรวบรวมความกล้าออกไป
"ที่คุณบอกว่า การแต่งงานของเราเป็นเพียงการแต่งงานหลอก ไม่มีจุดประสงค์อื่น ถ้างั้น เรื่อง เ่อ่อ คือ เรื่อง อย่างว่า....คุณจะไม่ล่วงเกินชั้นใช่ไม๊ " ชายหนุ่มหัวเราะออกมาอีกครั้งกับความไร้เดียงสาของเธอ
" ผมก็บอกคุณไปแล้วไงว่า แต่งกันในนามเท่านั้น เอาเป็นว่าุคุณอย่าเพิ่งกังวลกับสิ่งนั้นเลย ผมว่าเรามาแก้ปัญหานี้ก่อนเถอะ ตกลงคุณยอมทำตามข้อเสนอของผมใช่ไม๊ งั้นเย็นนี้ ผมจะโทรบอกที่บ้านผม คุณยอมตกลงแล้วนะ ห้ามเปลี่ยนใจหล่ะ 555+" ชายหนุ่มพูดแล้ว เดินจากไป ปล่อยให้หญิงสาวนั่งมองดูทะเลสาบครุ่นคิดต่อไปถึงเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเธอ วันข้างหน้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอจะทำเพื่อ แม่ และเพื่อ กอบกู้กิจการของตระกูลเธอ ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม เธอจะทำให้ดีที่สุด
***************************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ