พี่ชายจำเป็น!
7.7
3)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เราสามคนกลับเข้าบ้านด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน ฉันรู้สึกเสียววูบๆ ในขณะที่สองมือกำลังเข็นรถเข็นของแม่แทนโทโมะที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นพี่กล้า ก่อนหน้านี้ ผู้ชายคนนั้นเข็นรถและเลี้ยวซอยบ้านของเราผิด เพราะเขาไม่รู้ว่าบ้านเราอยู่ที่ไหน ดังนั้นฉันจึงรับอาสามาเข็นแทน ส่วนแม่ ถึงแม้ท่านจะรู้สึกแปลกๆ กับการที่พี่กล้า (โทโมะ) จำบ้านตัวเองไม่ได้ เสียงหัวเราะและรอยยิ้มของแม่ทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขไปด้วย นานเท่าไหร่แล้วนะที่ฉันไม่ได้เห็นแม่ยิ้มแบบนี้
“แก้วเหม่ออะไรอยู่ลูก” เสียงของแม่ฉุดให้ฉันหลุดจากภวังค์ ก่อนจะรีบเข็นรถเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว โทโมะยืนละล้าละลังอยู่หน้าบ้านเล็กน้อย ก่อนที่เขาขะเดินตามเข้ามาเมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกของแม่
“กลับมากันแล้วเหรอคะ” พี่ฟ้าโผล่เข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม สายตาของเธอสะดุดอยู่กับชายแปลกหน้า
“ฟ้า วันนี้เตรียมกับข้าวเพิ่มอีกที่นึงนะจ๊ะ” พี่ฟ้าพยักหน้าหงึกหงัก ทั้งๆ ที่ยังไม่ละสายตาไปจากโทโมะ
“งงอะไรกันจ๊ะฟ้า อ๋อ ฉันลืมไปว่าเธอยังไม่เคยเห็นลูกชายของฉัน เขาชื่อกล้าจ้ะเป็นพี่ชายของแก้ว”
พี่ฟ้าทำท่าจะแย้งอะไร แต่ก็เงียบไว้ จนกระทั่งร่างบนรถเข็นของแม่เคลื่อนผ่านไปมือบางแต่ค่อนข้างสากกระตุกชายเสื้อฉันถี่รัว
“มีอะไรเหรอคะพี่ฟ้า”
“ผู้ชายคนนี้คือพี่ชายของคุณหนูจริงๆ เหรอคะ ทำไม...หน้าตาไม่เห็นเหมือนในรูปเลย” พี่ฟ้าเหลือบสายตามองใบหน้าค่อนข้างขาวจัดของโทโมะด้วยความสงสัย ฉันแอบหัวเราะน้อยๆ
“ไม่ใช่เหรอค่ะพี่ฟ้า คนนี้เป็น...เพื่อนของแก้วเองค่ะ แต่พอดีแม่เข้าใจผิดว่าเป็นพี่กล้า แก้วเลยปล่อยเลยตามเลย”
“แบบนี้จะดีเหรอคะคุณหนู ถ้าคุณผู้หญิงรู้เข้าล่ะก็ คุณผู้หญิงต้องอาละวาดอีกแน่เลย” คำพูดของพี่ฟ้าทำเอาฉันรู้สึกลังเลเล็กน้อย แต่ฉันก็ตัดสินใจไปแล้ว
“เข้ามาเถอะ แล้วก็ช่วย...ทำตัวเป็นพี่กล้าด้วยนะ”
โทโมะพยักหน้าน้อยๆ ก่อนที่เขาจะก้าวเข้ามาและกวาดสายตามองไปรอบๆ บ้านราวกับต้องการทำความคุ้นเคย ร่างสูงปราดเข้ามาประชิดตัวฉัน
“แล้วนี่เมื่อไหร่ฉันจะได้กลับบ้าน” เขาเอ่ยนิ่งๆ ด้วยน้ำเสียงไม่บ่งบอกอารมณ์ฉันมองร่างบนรถเข็นของแม่ที่เคลื่อนไหวไปมาภายในบ้านอย่างมีความสุข
“รอแม่ฉันขึ้นไปนอนก่อน แล้วนายค่อยแวบออกไปแล้วกัน” ฉันหันไปกระซิบโทโมะพยักหน้ารับรู้ ก่อนที่เราสองคนจะเดินเข้าบ้านไปพร้อมๆ กัน ฉันพยักพเยิดให้หนุ่มน้อยคนนั้นเข้าไปนั่งที่โซฟาข้างๆ แม่ของฉัน เมื่อเขาเข้าไปใกล้ แม่ก็โพล่งออกมาโดยไม่มีใครคาดคิด
“โอ๊ะ จริงสิ ไหนๆ ลูกกล้าก็กลับมาแล้ว แม่คิดภึงข้าวผัดฝีมือลูกกล้าจัง ช่วยผัดให้แม่ทานหน่อยได้มั้ยจ๊ะ”
“เอ๋? ผมผัด...”
“ค่ะ ถ้าอย่างงั้นแก้วขอตัวไปช่วยพี่กล้าทำข้าวผัดนะคะ” ฉันรี่เข้าไปกระทุ้งเข้าที่“สีข้างของโทโมะโดยเร็ว หนุ่มน้อยหันมาค้อนใส่ฉัน ก่อนที่ฉันจะฉีกยิ้มและขยิบตาให้เขาจนหนังตาแทบจะหลุดออกมา
“อย่างนั้นก็ได้จ้ะ” แม่ยิ้มกว้างก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับดอกไม้ที่อยู่ในแจกันต่อไป ฉันลากโทโมะที่กำลังยืนงงไปที่ห้องครัวทันที
“พี่ฟ้าคะ ไปพักเถอะค่ะ เดี๋ยวกับข้าวมื้อนี้แก้วกับ...เพื่อนของแก้วจะเป็นคงลงมือทำเอง”
พี่ฟ้าพยักหน้ารับรู้ก่อนจะวางมือจากการล้างผักและขอตัวเดินออกจากห้องครัวไปเมื่อที่แห่งนี้เหลือเพียงแค่เราสองคน หนุ่มน้อยที่เงียบมาตลอดทางก็เอ่ยขึ้นมาทันที
“ฉันทำกับข้าวไม่เป็นนะ –O-!”
“ผัดข้าวผัด...ก็ไม่เป็นเหรอ”
“(-_- )( -_-)”
“สักนิดนึงก็ไม่เป็น?”
“อืม ตอนที่อยู่กับพี่สาว พี่สาวก็ทำให้ตลอด พอพี่สาวเสียไปแล้ว ฉันก็กินแต่ข้าวนอกบ้าน” ใบหน้าของเขาดูเศร้าหมองลงอย่างเห็นได้ชัด ฉันจึงไม่อยากซักอะไรต่อไป
“ถ้าอย่างนั้นนายก็มาเป็นลูกมือของฉันแทนแล้วกัน ข้าวผัดรสมือพี่กล้า ฉันก็พอทำได้อยู่ ถึงแม้จะไม่ค่อยเหมือนก็เถอะ ไปปิดประตูด้วย!” ฉันตะโกนสั่งเขาพร้อมกับเริ่มหันไปรื้อของในตู้เย็น โทโมะเดินไปปิดประตูอย่างว่าง่าย ที่ฉันให้เขาปิดประตูนั้นก็เพื่อที่จะกันไม่ให้แม่เข้ามาเห็นว่าเป็นฉันที่ทำกับข้าว ไม่ใช่ผู้ชายคนนั้น
ผ่านไปประมาณสิบนาที ข้าวผัดสูตรพี่กล้าที่ผัดโดยฝีมือของฉันก็สำเร็จออกมาด้วยดี กลิ่นหอมฉุยของมันลอยไปทั่วห้องครัวเล็กๆ แห่งนี้
“อืมมม หอมจัง ><” โทโมะทำจมูกฟุดฟิด ไปร้อนที่ลอยออกมาจากข้าวผัดจานใหญ่อบอวลอยู่รอบๆ ใบหน้าบาวใสยื่นเข้าไปใกล้จนแทบจะมุดเข้าไปในจาน
“นี่ กระเถิบออกมาหน่อยเหอะ น้ำลายนายไหลลงไปในจานข้าวหมดแล้วนะ -_-”
“มันน่ากินมากเลยอ่ะ ฉันว่ามันต้องอร่อยแน่ๆ” โทโมะทำท่าซู้ดปาก ก่อนที่เขาจะจมลงไปกับกลิ่นหอมของข้าวผัดอีกครั้ง คำพูดของเขาเล่นเอาฉันอมยิ้มแก้มแทบปริก่อนที่จะรีบเก๊กหน้าขรึมเมื่อโทโมะหันหน้ามา
ฉันบ้ายอ แต่ฉันไม่อยากให้รู้ว่าฉันบ้า เข้าใจ๊ -_-^
“นี่ๆ วันหลังสอนฉันผัดมั่งสิ ฉันอยากผัดเองเป็นมั่ง >O<” เขาพูดพร้อมกับเอียงคอทำท่าน่ารัก ฉันที่เป็นโรคแพ้คนหล่อยิ่งมาเจอทั้งหล่อทั้งน่ารักแบบนี้ เล่นเอาฉันละลายละปลิวหายไปกับสายลม~ อ๊างง รอยยิ้มของเขามันช่างน่าหยิกนัก ทำตัวน่ารักแบบนี้ระวังฉันจับขังไว้ในบ้านไม่ให้ออกไปไหนเลย หุหุ -.,-
“ลูกกล้า ลูกแก้ว! เสร็จกันหรือยังจ๊ะ แม่เริ่มหิวแล้วนะลูก”
“ไปเถอะ” เสียงตะโกนของคุณแม่ทำให้ฉันดึงตัวเองออกมาจากรอยยิ้มหวานนั่นได้แล้วฉันก็ส่งสัญญาณให้หนุ่มน้อยยอกข้าวผัดออกไปจากห้องครัว โดยไม่ลืมที่จะกำชับว่าตอนนี้เขาคือ 'พี่กล้า' ไม่ใช่ 'โทโมะ'
พี่ฟ้าจัดโต๊ะอาหารรอเราไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนคุณแม่ก็นั่งรออยู่ที่หัวโต๊ะ ฉันกับโทโมะขยับไปนั่งข้างคุณแม่กันคนละด้าน ข้างผัดกลิ่นหอมฉุยถูกวางบนโต๊ะกระจกที่คลุมด้วยผ้าสีครีมอีกชั้นหนึ่ง
“ข้าวผัดหอมๆ มาแล้วฮะแม่” โทโมะในคราบของพี่กล้าตักข้าวผัดหอมกรุ่นลงบนจานของแม่ ก่อนที่จะตักให้ฉัน และตักให้ตัวเอง
“ว้าวว กลิ่นหอมเหมือนเดิมเลยนะจ๊ะ”
“ฝีมือกล้าซะอย่างนี่ฮะ” โทโมะส่งยิ้มราวกับต้องการจะอวด ฉันแอบนึกค่นขอดในใจ เมื่อกี้ยังจะให้ฉันสอนทำอยู่เลย เฮอะ -_-+
“เออจริงสิ แม่ก็นึกอยู่ตั้งนานว่าทำไมรู้สึกแปลกๆ ไป ลูกกล้าไปทำอะไรกับตัวเองมาหรือเปล่าจ๊ะ”
“ทะ...ทำไมเหรอฮะ” เสียงของโทโมะสั่นน้อยๆ เขาหันมาสบตากับฉันราวกับต้องการความช่วยเหลือ
“แม่รู้สึกว่ากล้าดูผอมแล้วก็...เด็กลง” สายตาของผู้สูงวัยสำรวจทุกอณูบนใบหน้าของหนุ่มน้อย โทโมะสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยายามกลั้นหายใจเอาไว้
“เอ่อ...พี่กล้าเขาไปอยู่ที่นู่นอาหารคงไม่ถูกปากก็เลยผอมลงมั้งคะ ใช่มั้ยคะพี่กล้า”
ฉันเตะเข้าที่ขาของโทโมะผ่านทางใต้โต๊ะ เด็กน้อยสะดุ้งน้อยๆ ก่อนจะรีบเอ่ยต่อ
“ใช่ฮะๆ”
“แต่แม่ว่าลูกกล้าดูเด็กลงตริงๆ นะ”
“พอดีว่าผมใช้ครีมหน้าเด้ง หน้ามันก็เลยทำให้ดูเด็กลงมั้งฮะ แม่อยากลงฝช้บ้างมั้ยฮะ แต่ผมว่าอย่างแม่ ไม่ต้องใช้ หน้าก็ดูเด็กอยู่แล้วนี่ฮะ ^_^” โทโมะเอ่ยพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างเอาใจแม่ฉันสุดฤทธิ์ ส่วนฉันนี่รู้สึกอยากจะเอาหัวโขกกำแพงตายกับข้อแก้ตัวของเขา ใช้ครีมหน้าเด้งงั้นเหรอ เขาใช้สมองส่วนไหนคิดกันนะ T_T
“อุ้ยตาย! ไปอยู่ที่นู่นปากหวานขึ้นเยอะเลยนะเรา แม่ว่ากล้าดูเปลี่ยนเยอะเลยนะการพูดการจาก็ดูเปลี่ยนไปด้วย ปกติจะพูด 'คะ' 'ขา' กับแม่แล้วก็น้องแก้วตลอดเลย” แม่ยังคงซักไซ้ต่อไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ถึงแม้แม่จะพูดออกมาโดยไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ฉันกับโทโมะถึงกับเหงื่อตก จะไปรอดมั้ยเนี่ย TOT
“ก็ผมอยากเปลี่ยนบ้าง ไปพูด คะ ขา กับคนอื่นแล้วเขาว่าผมเป็นตุ๊ดบ้าง เป็นกะเทยบ้าง แม่อยากให้คนอื่นเข้าใจลูกชายสุดที่รักของแม่ผิดเหรอฮะ”
“จ้าๆ ตามใจลูกเถอะจ้ะ ลูกกล้าจะพูดยังไงแม่ก็ไม่ว่า แค่ลูกกล้าดลับมาแม่ก็ดีใจมากแล้ว” แม่ฉันเอ่ยพร้อมกับยิ้มอย่างมีความสุข ยิ่งทำให้โทโมะอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่ ฉันก็เริ่มรู้สึกหวั่นมากขึ้นเท่านั้น ถ้าอยู่ๆ แม่จำได้ขึ้นมาว่าโทโมะไม่ใช่พี่กล้า แม่ฉันจะทำยังไงกันนะ
การทานข้าวมื้อนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของแม่และโทโมะ ส่วนฉันได้แต่หัวเราะเฝื่อนๆ เพราะกลัวว่าเขาจะหลุดอะไรแปลกๆ ออกมาหรือเปล่า แต่ก็ไม่เลย โทโมะลื่นไหลไปตามบทบาทของพี่กล้าได้อย่างดีเยี่ยมราวกับว่าเขาเป็นนักแสดงรางวัลตุ๊กตาทองยังไงยังงั้น =_= ฉันเหลือบมองนาฬิกาที่บอกว่าเวลาสี่ทุ่มกว่าด้วยความกังวล ปกตินี่ก็ได้เวลานอนของแม่แล้ว แต่วันนี้ เพราะพี่กล้าเพิ่งกลับมา แม่จึงคึกคักเป็นพิเศษ
“แม่คะ แก้วว่าแม่ขึ้นไปนอนได้แล้วค่ะ นี่ก็ดึกแล้ว เดี๋ยวพี่กล้าเขาต้องกลับหออีกนะคะ” ฉันเข้าไปแทรกระหว่างบทสนทนาของพวกเขา แม่กำลังถามพี่กล้าถึงชีวิตตอนที่อยู่ที่นั่น โทโมะหันมามองฉันอย่างสนใจ
“เอ๋? แก้วพูดอะไรของลูก กลับหงกลับหออะไรกัน”
“แม่ลืมไปแล้วหรือคะว่าพี่กล้าเขาอยู่หอ” ฉันเอ่ยเตือนความทรงจำแม่อย่างรวดเร็วก่อนที่พี่กล้าจะจากไป พี่กล้าได้ไปเช่าหออยู่กับเพื่อนแถวๆ มหาวิทยาลัย และจะกลับมาเยี่ยมบ้านอาทิตย์ละครั้งถึงสองครั้ง
“แต่กล้าเพิ่งกลับมาเองนะลูก คืนนี้ค้างที่บ้านเราเถอะ” แม่ดึงมือโทโมะมากุมเอาไว้ สายตาอ้อนวอนของหญิงวัยกลางคนทำเอาเด็กหนุ่มใจอ่อน เขาพยักหน้าลงอย่างช้าๆ
“เฮ้ย!” ฉันตะโกนด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าโทโมะจะตอบตกลงง่ายดายขนาดนั้น
“พี่เขาก็โอเคแล้ว แก้วมีปัญหาอะไรเหรอจ๊ะ” แม่เบี่ยงความสนใจมายังฉันที่ยืนค้างอยู่ โทโมะหันมาส่งสายตาวิ้งๆ ราวกับว่าคืนนี้เขาต้องการจะค้างที่นี่จริงๆ ฉันลังเลเล็กน้อย แต่ถ้ามันเป็นความต้องการของแม่...เป็นไงเป็นกันวะ!
“แก้วเหม่ออะไรอยู่ลูก” เสียงของแม่ฉุดให้ฉันหลุดจากภวังค์ ก่อนจะรีบเข็นรถเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว โทโมะยืนละล้าละลังอยู่หน้าบ้านเล็กน้อย ก่อนที่เขาขะเดินตามเข้ามาเมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกของแม่
“กลับมากันแล้วเหรอคะ” พี่ฟ้าโผล่เข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม สายตาของเธอสะดุดอยู่กับชายแปลกหน้า
“ฟ้า วันนี้เตรียมกับข้าวเพิ่มอีกที่นึงนะจ๊ะ” พี่ฟ้าพยักหน้าหงึกหงัก ทั้งๆ ที่ยังไม่ละสายตาไปจากโทโมะ
“งงอะไรกันจ๊ะฟ้า อ๋อ ฉันลืมไปว่าเธอยังไม่เคยเห็นลูกชายของฉัน เขาชื่อกล้าจ้ะเป็นพี่ชายของแก้ว”
พี่ฟ้าทำท่าจะแย้งอะไร แต่ก็เงียบไว้ จนกระทั่งร่างบนรถเข็นของแม่เคลื่อนผ่านไปมือบางแต่ค่อนข้างสากกระตุกชายเสื้อฉันถี่รัว
“มีอะไรเหรอคะพี่ฟ้า”
“ผู้ชายคนนี้คือพี่ชายของคุณหนูจริงๆ เหรอคะ ทำไม...หน้าตาไม่เห็นเหมือนในรูปเลย” พี่ฟ้าเหลือบสายตามองใบหน้าค่อนข้างขาวจัดของโทโมะด้วยความสงสัย ฉันแอบหัวเราะน้อยๆ
“ไม่ใช่เหรอค่ะพี่ฟ้า คนนี้เป็น...เพื่อนของแก้วเองค่ะ แต่พอดีแม่เข้าใจผิดว่าเป็นพี่กล้า แก้วเลยปล่อยเลยตามเลย”
“แบบนี้จะดีเหรอคะคุณหนู ถ้าคุณผู้หญิงรู้เข้าล่ะก็ คุณผู้หญิงต้องอาละวาดอีกแน่เลย” คำพูดของพี่ฟ้าทำเอาฉันรู้สึกลังเลเล็กน้อย แต่ฉันก็ตัดสินใจไปแล้ว
“เข้ามาเถอะ แล้วก็ช่วย...ทำตัวเป็นพี่กล้าด้วยนะ”
โทโมะพยักหน้าน้อยๆ ก่อนที่เขาจะก้าวเข้ามาและกวาดสายตามองไปรอบๆ บ้านราวกับต้องการทำความคุ้นเคย ร่างสูงปราดเข้ามาประชิดตัวฉัน
“แล้วนี่เมื่อไหร่ฉันจะได้กลับบ้าน” เขาเอ่ยนิ่งๆ ด้วยน้ำเสียงไม่บ่งบอกอารมณ์ฉันมองร่างบนรถเข็นของแม่ที่เคลื่อนไหวไปมาภายในบ้านอย่างมีความสุข
“รอแม่ฉันขึ้นไปนอนก่อน แล้วนายค่อยแวบออกไปแล้วกัน” ฉันหันไปกระซิบโทโมะพยักหน้ารับรู้ ก่อนที่เราสองคนจะเดินเข้าบ้านไปพร้อมๆ กัน ฉันพยักพเยิดให้หนุ่มน้อยคนนั้นเข้าไปนั่งที่โซฟาข้างๆ แม่ของฉัน เมื่อเขาเข้าไปใกล้ แม่ก็โพล่งออกมาโดยไม่มีใครคาดคิด
“โอ๊ะ จริงสิ ไหนๆ ลูกกล้าก็กลับมาแล้ว แม่คิดภึงข้าวผัดฝีมือลูกกล้าจัง ช่วยผัดให้แม่ทานหน่อยได้มั้ยจ๊ะ”
“เอ๋? ผมผัด...”
“ค่ะ ถ้าอย่างงั้นแก้วขอตัวไปช่วยพี่กล้าทำข้าวผัดนะคะ” ฉันรี่เข้าไปกระทุ้งเข้าที่“สีข้างของโทโมะโดยเร็ว หนุ่มน้อยหันมาค้อนใส่ฉัน ก่อนที่ฉันจะฉีกยิ้มและขยิบตาให้เขาจนหนังตาแทบจะหลุดออกมา
“อย่างนั้นก็ได้จ้ะ” แม่ยิ้มกว้างก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับดอกไม้ที่อยู่ในแจกันต่อไป ฉันลากโทโมะที่กำลังยืนงงไปที่ห้องครัวทันที
“พี่ฟ้าคะ ไปพักเถอะค่ะ เดี๋ยวกับข้าวมื้อนี้แก้วกับ...เพื่อนของแก้วจะเป็นคงลงมือทำเอง”
พี่ฟ้าพยักหน้ารับรู้ก่อนจะวางมือจากการล้างผักและขอตัวเดินออกจากห้องครัวไปเมื่อที่แห่งนี้เหลือเพียงแค่เราสองคน หนุ่มน้อยที่เงียบมาตลอดทางก็เอ่ยขึ้นมาทันที
“ฉันทำกับข้าวไม่เป็นนะ –O-!”
“ผัดข้าวผัด...ก็ไม่เป็นเหรอ”
“(-_- )( -_-)”
“สักนิดนึงก็ไม่เป็น?”
“อืม ตอนที่อยู่กับพี่สาว พี่สาวก็ทำให้ตลอด พอพี่สาวเสียไปแล้ว ฉันก็กินแต่ข้าวนอกบ้าน” ใบหน้าของเขาดูเศร้าหมองลงอย่างเห็นได้ชัด ฉันจึงไม่อยากซักอะไรต่อไป
“ถ้าอย่างนั้นนายก็มาเป็นลูกมือของฉันแทนแล้วกัน ข้าวผัดรสมือพี่กล้า ฉันก็พอทำได้อยู่ ถึงแม้จะไม่ค่อยเหมือนก็เถอะ ไปปิดประตูด้วย!” ฉันตะโกนสั่งเขาพร้อมกับเริ่มหันไปรื้อของในตู้เย็น โทโมะเดินไปปิดประตูอย่างว่าง่าย ที่ฉันให้เขาปิดประตูนั้นก็เพื่อที่จะกันไม่ให้แม่เข้ามาเห็นว่าเป็นฉันที่ทำกับข้าว ไม่ใช่ผู้ชายคนนั้น
ผ่านไปประมาณสิบนาที ข้าวผัดสูตรพี่กล้าที่ผัดโดยฝีมือของฉันก็สำเร็จออกมาด้วยดี กลิ่นหอมฉุยของมันลอยไปทั่วห้องครัวเล็กๆ แห่งนี้
“อืมมม หอมจัง ><” โทโมะทำจมูกฟุดฟิด ไปร้อนที่ลอยออกมาจากข้าวผัดจานใหญ่อบอวลอยู่รอบๆ ใบหน้าบาวใสยื่นเข้าไปใกล้จนแทบจะมุดเข้าไปในจาน
“นี่ กระเถิบออกมาหน่อยเหอะ น้ำลายนายไหลลงไปในจานข้าวหมดแล้วนะ -_-”
“มันน่ากินมากเลยอ่ะ ฉันว่ามันต้องอร่อยแน่ๆ” โทโมะทำท่าซู้ดปาก ก่อนที่เขาจะจมลงไปกับกลิ่นหอมของข้าวผัดอีกครั้ง คำพูดของเขาเล่นเอาฉันอมยิ้มแก้มแทบปริก่อนที่จะรีบเก๊กหน้าขรึมเมื่อโทโมะหันหน้ามา
ฉันบ้ายอ แต่ฉันไม่อยากให้รู้ว่าฉันบ้า เข้าใจ๊ -_-^
“นี่ๆ วันหลังสอนฉันผัดมั่งสิ ฉันอยากผัดเองเป็นมั่ง >O<” เขาพูดพร้อมกับเอียงคอทำท่าน่ารัก ฉันที่เป็นโรคแพ้คนหล่อยิ่งมาเจอทั้งหล่อทั้งน่ารักแบบนี้ เล่นเอาฉันละลายละปลิวหายไปกับสายลม~ อ๊างง รอยยิ้มของเขามันช่างน่าหยิกนัก ทำตัวน่ารักแบบนี้ระวังฉันจับขังไว้ในบ้านไม่ให้ออกไปไหนเลย หุหุ -.,-
“ลูกกล้า ลูกแก้ว! เสร็จกันหรือยังจ๊ะ แม่เริ่มหิวแล้วนะลูก”
“ไปเถอะ” เสียงตะโกนของคุณแม่ทำให้ฉันดึงตัวเองออกมาจากรอยยิ้มหวานนั่นได้แล้วฉันก็ส่งสัญญาณให้หนุ่มน้อยยอกข้าวผัดออกไปจากห้องครัว โดยไม่ลืมที่จะกำชับว่าตอนนี้เขาคือ 'พี่กล้า' ไม่ใช่ 'โทโมะ'
พี่ฟ้าจัดโต๊ะอาหารรอเราไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนคุณแม่ก็นั่งรออยู่ที่หัวโต๊ะ ฉันกับโทโมะขยับไปนั่งข้างคุณแม่กันคนละด้าน ข้างผัดกลิ่นหอมฉุยถูกวางบนโต๊ะกระจกที่คลุมด้วยผ้าสีครีมอีกชั้นหนึ่ง
“ข้าวผัดหอมๆ มาแล้วฮะแม่” โทโมะในคราบของพี่กล้าตักข้าวผัดหอมกรุ่นลงบนจานของแม่ ก่อนที่จะตักให้ฉัน และตักให้ตัวเอง
“ว้าวว กลิ่นหอมเหมือนเดิมเลยนะจ๊ะ”
“ฝีมือกล้าซะอย่างนี่ฮะ” โทโมะส่งยิ้มราวกับต้องการจะอวด ฉันแอบนึกค่นขอดในใจ เมื่อกี้ยังจะให้ฉันสอนทำอยู่เลย เฮอะ -_-+
“เออจริงสิ แม่ก็นึกอยู่ตั้งนานว่าทำไมรู้สึกแปลกๆ ไป ลูกกล้าไปทำอะไรกับตัวเองมาหรือเปล่าจ๊ะ”
“ทะ...ทำไมเหรอฮะ” เสียงของโทโมะสั่นน้อยๆ เขาหันมาสบตากับฉันราวกับต้องการความช่วยเหลือ
“แม่รู้สึกว่ากล้าดูผอมแล้วก็...เด็กลง” สายตาของผู้สูงวัยสำรวจทุกอณูบนใบหน้าของหนุ่มน้อย โทโมะสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยายามกลั้นหายใจเอาไว้
“เอ่อ...พี่กล้าเขาไปอยู่ที่นู่นอาหารคงไม่ถูกปากก็เลยผอมลงมั้งคะ ใช่มั้ยคะพี่กล้า”
ฉันเตะเข้าที่ขาของโทโมะผ่านทางใต้โต๊ะ เด็กน้อยสะดุ้งน้อยๆ ก่อนจะรีบเอ่ยต่อ
“ใช่ฮะๆ”
“แต่แม่ว่าลูกกล้าดูเด็กลงตริงๆ นะ”
“พอดีว่าผมใช้ครีมหน้าเด้ง หน้ามันก็เลยทำให้ดูเด็กลงมั้งฮะ แม่อยากลงฝช้บ้างมั้ยฮะ แต่ผมว่าอย่างแม่ ไม่ต้องใช้ หน้าก็ดูเด็กอยู่แล้วนี่ฮะ ^_^” โทโมะเอ่ยพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างเอาใจแม่ฉันสุดฤทธิ์ ส่วนฉันนี่รู้สึกอยากจะเอาหัวโขกกำแพงตายกับข้อแก้ตัวของเขา ใช้ครีมหน้าเด้งงั้นเหรอ เขาใช้สมองส่วนไหนคิดกันนะ T_T
“อุ้ยตาย! ไปอยู่ที่นู่นปากหวานขึ้นเยอะเลยนะเรา แม่ว่ากล้าดูเปลี่ยนเยอะเลยนะการพูดการจาก็ดูเปลี่ยนไปด้วย ปกติจะพูด 'คะ' 'ขา' กับแม่แล้วก็น้องแก้วตลอดเลย” แม่ยังคงซักไซ้ต่อไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ถึงแม้แม่จะพูดออกมาโดยไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ฉันกับโทโมะถึงกับเหงื่อตก จะไปรอดมั้ยเนี่ย TOT
“ก็ผมอยากเปลี่ยนบ้าง ไปพูด คะ ขา กับคนอื่นแล้วเขาว่าผมเป็นตุ๊ดบ้าง เป็นกะเทยบ้าง แม่อยากให้คนอื่นเข้าใจลูกชายสุดที่รักของแม่ผิดเหรอฮะ”
“จ้าๆ ตามใจลูกเถอะจ้ะ ลูกกล้าจะพูดยังไงแม่ก็ไม่ว่า แค่ลูกกล้าดลับมาแม่ก็ดีใจมากแล้ว” แม่ฉันเอ่ยพร้อมกับยิ้มอย่างมีความสุข ยิ่งทำให้โทโมะอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่ ฉันก็เริ่มรู้สึกหวั่นมากขึ้นเท่านั้น ถ้าอยู่ๆ แม่จำได้ขึ้นมาว่าโทโมะไม่ใช่พี่กล้า แม่ฉันจะทำยังไงกันนะ
การทานข้าวมื้อนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของแม่และโทโมะ ส่วนฉันได้แต่หัวเราะเฝื่อนๆ เพราะกลัวว่าเขาจะหลุดอะไรแปลกๆ ออกมาหรือเปล่า แต่ก็ไม่เลย โทโมะลื่นไหลไปตามบทบาทของพี่กล้าได้อย่างดีเยี่ยมราวกับว่าเขาเป็นนักแสดงรางวัลตุ๊กตาทองยังไงยังงั้น =_= ฉันเหลือบมองนาฬิกาที่บอกว่าเวลาสี่ทุ่มกว่าด้วยความกังวล ปกตินี่ก็ได้เวลานอนของแม่แล้ว แต่วันนี้ เพราะพี่กล้าเพิ่งกลับมา แม่จึงคึกคักเป็นพิเศษ
“แม่คะ แก้วว่าแม่ขึ้นไปนอนได้แล้วค่ะ นี่ก็ดึกแล้ว เดี๋ยวพี่กล้าเขาต้องกลับหออีกนะคะ” ฉันเข้าไปแทรกระหว่างบทสนทนาของพวกเขา แม่กำลังถามพี่กล้าถึงชีวิตตอนที่อยู่ที่นั่น โทโมะหันมามองฉันอย่างสนใจ
“เอ๋? แก้วพูดอะไรของลูก กลับหงกลับหออะไรกัน”
“แม่ลืมไปแล้วหรือคะว่าพี่กล้าเขาอยู่หอ” ฉันเอ่ยเตือนความทรงจำแม่อย่างรวดเร็วก่อนที่พี่กล้าจะจากไป พี่กล้าได้ไปเช่าหออยู่กับเพื่อนแถวๆ มหาวิทยาลัย และจะกลับมาเยี่ยมบ้านอาทิตย์ละครั้งถึงสองครั้ง
“แต่กล้าเพิ่งกลับมาเองนะลูก คืนนี้ค้างที่บ้านเราเถอะ” แม่ดึงมือโทโมะมากุมเอาไว้ สายตาอ้อนวอนของหญิงวัยกลางคนทำเอาเด็กหนุ่มใจอ่อน เขาพยักหน้าลงอย่างช้าๆ
“เฮ้ย!” ฉันตะโกนด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าโทโมะจะตอบตกลงง่ายดายขนาดนั้น
“พี่เขาก็โอเคแล้ว แก้วมีปัญหาอะไรเหรอจ๊ะ” แม่เบี่ยงความสนใจมายังฉันที่ยืนค้างอยู่ โทโมะหันมาส่งสายตาวิ้งๆ ราวกับว่าคืนนี้เขาต้องการจะค้างที่นี่จริงๆ ฉันลังเลเล็กน้อย แต่ถ้ามันเป็นความต้องการของแม่...เป็นไงเป็นกันวะ!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ