Whirligig : #1 อาถรรพ์ผีคุณไสย(The sorcery)
-
7) ฝันร้ายที่ไม่ยอมจบ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฝันร้ายที่ไม่ยอมจบ
โดยทั่วไปเข็มนาฬิกาจะบอกถึงกาลเวลาที่ผ่านพ้น
แต่เข็มนาฬิกาของที่นี้จะบอกถึงชีวิตที่ต้องดับสูญ
รุ่งอรุณมองหอนาฬิกาใหญ่ของโรงเรียนอีกครั้ง เขาระลึกถึงภาพเมื่อ 10 นาทีก่อน
ซึ่งเข็มยาวของนาฬิกาเคลื่อนมาที่เลขหนึ่ง อีกทั้งตำนานต้องสาปของหอนาฬิกาที่เพียงฤทัยเล่าฟัง มันไม่ได้ทำให้เขากลัวเลยสักนิด แต่กลับเพิ่มความสนุกตื่นเต้นแก่เขาเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่
“บ้าจริง!! ไอ้นายเพทายไม่รับสายฉัน” นันทภามองโทรศัพท์อย่างหัวเสีย
“ลองกลับเข้าไปดูในโรงเรียนสิ ถ้าหมอนั่นไม่อยู่ห้องพยาบาล เราก็กลับบ้าน แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง” เจียระไนกลอกตาอย่างเอือมระอา
ซวบ!!? เหวอ!?
แว๊ววว~~~
“โธ่เอ้ย!! นึกว่าอะไร” กรเลิศมองสีดำที่พุ่งตัดหน้ากลุ่มพวกเขาด้วยความหงุดหงิด
“นี่มันก็เย็นมากแล้ว ฉันขอกลับบ้านก่อนนะ” เพียงฤทัยมองนาฬิกาข้อมือ
“จ๊ะ ขอโทษด้วยนะที่รั้งให้อยู่ด้วยกันตั้งนานแน่ะ” นาฏจันทร์ยิ้มอย่างเกรงใจ
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันว่ารีบไปดูเพทายเถอะ” เพียงฤทัยส่ายหน้ายิ้ม แล้วหันหลังเพื่อเดินกลับบ้านของตน
ลับตาไปหลังจากเพื่อนของเธอเดินทยอยเข้าไปในโรงเรียนจนหมด เพียงฤทัยหันกลับด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง
“แมวดำเป็นสัญลักษณ์ของลางร้าย รีบไปให้ทันนะ”
ตอนนี้เพทายรู้สึกว่าหัวใจของตนเหมือนกำลังถูกบีบเอาไว้ เขาหอบหายใจเร็วและแรงขึ้น ขาทั้งสองแทบไม่เหลือแรงที่จะลุกขึ้นยืน เมื่อเห็นสภาพที่ตัวเองอยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า หญิงสาวผมยาวที่ยุ่งเหยิงจนปิดใบหน้า จะเห็นก็เพียงแค่คราบน้ำลายที่ไหลออกจากปากของเธอเท่านั้น
“นี่ฉันฝันอยู่ใช่มั้ย” เพทายกุมขมับตัวเองไว้แน่น ดวงตาของเขานั้นเบิกกว้างจนไม่อาจจะกว้างได้อีก เสียงฝีเท้าที่เหมือนกับดังอยู่ในสมองของเขา มันใกล้เข้ามา...ใกล้เข้ามา.... จนฝีเท้านั้นหยุดยืนตรงหน้าเขา เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้น
“พี่ไม่ได้ฝันหรอกครับ จะเรียกพี่ก็ไม่ถูกสินะ เพราะฉันแก่กว่านายอีก ถ้าฉันยังมีชีวิตอยู่ล่ะก็นะ” เลือดที่ไหลออกจากหูของโจ กระทบลงพื้น มันเป็นเสียงที่ทำให้ผู้ฟังที่นั่งลงกองกับพื้นสยองประสาทอย่างมาก
เมื่อตั้งสติได้เพทายก็เห็นเด็กสาวจูออนที่ใส่นักเรียนกำลังคลานเข้ามาหาเขา ด้วยความสยองเกล้าเด็กหนุ่มถอยกรูตั้งหลักวิ่งไปที่ประตู แต่....
“บ้าเอ๊ย!!? ทำไมเปิดไม่ออกว่ะ เปิดสิ ช่วยด้วยยยยย” มือของเพทายบิดกรประตูไปมาอย่างร้อนรน
“ฉันไปทำอะไรให้แกว่ะ ไอ้ดำ!!!!”เพทายหันกลับมามองโจด้วยความระแวง ในขณะที่มือก็บิดกรประตูด้วยหวังว่าตนเองจะออกจากที่นี่ได้
ไอ้ดำ!!? ไอ้นี่ท่าจะกลัวจนสติแตก
กล้าด่าผีอย่างเราได้ ทำไมว่ะถึงดำแต่ก็หล่อนะโว้ย
เพทายบิดกรประตูอย่างหนัก เพื่อที่จะเปิดประตูหนีออกจากห้องพยาบาลหลอนแห่งนี้ ทันใดนั้นเองเขาก็ระลึกได้ว่าประตูห้องพยาบาลต้องเปิดเข้าหาเมื่ออยู่ภายในห้อง
ประตูถูกดันจากด้านใน ถ้างั้น.......
เด็กหนุ่มละสายตาลงมองพื้นหน้าประตูอย่างช้าๆ เขาสะดุ้งถอยหลังออกจากประตู ยามนี้ใบหน้าของเพทายเหมือนคนอยากร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก เส้นเสียงตีบตันเหมือนใครมาบีบไว้ ดวงตาเบิกค้างกับภาพที่เห็นคือ ‘ศพ’ ไร้ซึ่งศีรษะมีเลือดเน่าไหลออกจากคอกลวงๆนั้น กลิ่นของมันเริ่มฟุ้งกระจายทั่วห้อง นั่นคือ สาเหตุคือ ที่เพทายเปิดประตูไม่ออก
“ฉันว่า นายคงหนีไม่พ้นแล้วล่ะ” โจยิ้มอย่างเย็นยะเยือก
“ใครจะยอมตายว่ะ” เพทายมองโจอย่างหัวเสีย
ตอนนี้เพทายกำลังฝืนตัวเองอย่างมาก เพื่อเอาชนะความกลัวที่มีอยู่ ตัวของเขาสั่นเทาด้วยความตึงเครียดที่ได้พบเจอ
“ทำไม ถึงอยากฆ่าฉัน” เพทายจ้องคน(??) ตรงหน้าไม่วางตา ดูเหมือนเป็นประโยคถ่วงเวลาเพื่อให้เขาคิดหาทางหนีออกจากที่นี่
“ฉันแค่ทำตามคำสั่งของเจ้านาย” โจจ้องเพทายนิ่ง
“นายจำเรื่อง 3 ปีก่อน ไม่ได้เลยเหรอ” ประโยคต่อมาทำให้เพทายถึงกับงง
“3 ปีก่อน มันทำไมเหรอ” เพทายขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด
“ช่างเถอะ ไหนๆนายก็จะตายแล้วนี่ รู้ไปก็มากเรื่อง” โจกลอกตาเสมองไปทางอื่น
ฉับพลันนั้นผีจูออนสาวก็กระโดดขึ้นมาบีบคอเพทายทำให้เขาเสียหลักล้มไปกับพื้น เผยให้เห็นหน้าของผีภายใต้เส้นผมสีดำที่ยุ่งเหยิง มันเป็นอะไรที่สุดจะบรรยายมาก ผิวหน้าขาวซีดจนเห็นเส้นเลือดฝอยเขียวคล้ำคล้ายรากไม้ทัวผิวหน้า ดวงตาขาวโพลน ตัดกับผมที่ดำสนิทโปะอยู่บนหน้าเขา เพทายรู้สึกสะอิดสะเอียนมากขึ้น เมื่อน้ำลายจากปากของผีสาวหยดลงบนหน้า
ไม่!!!? ผีสาวเริ่มบีบคอแน่นขึ้น...แน่นขึ้นจนเขาหายใจไม่ออก นิ้วมือที่เย็นเฉียบไร้ชีวิตแต่กลับมีแรงมหาศาลมุ่งหมายเอาชีวิตเขาอย่างอำมหิต เพทายอยู่สภาวะขาดอากาศหายใจ ตาเริ่มพร่ามัว เรี่ยวแรงที่ขัดขืนเกือบจะหมดสิ้น เขาอยากให้สิ่งที่เจอนี้เป็นความฝัน ฝันร้ายที่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีผี ไม่ต้องตายโดยไร้เหตุผล
3 ปีก่อน ฉันทำอะไรเหรอ
ฉันทำอะไรไว้
โดม นายคงแค้นฉันมากสินะ
สติของเพทายเริ่มเลือนลาง หวนให้เขานึกถึงชื่อใครคนหนึ่งขึ้นมาได้ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาลืมคนๆนั้นไปอย่างง่ายดาย ลืมจนเหมือนกับว่าเจ้าของชื่อนี้ไม่เคยมีตัวตนมาก่อน
หยุดนะ!?
โจหันมองต้นตอของเสียง ซึ่งเขาเจอได้แสงที่สว่างจ้า
“อ๊าก!!? ร้อน!! อะไรว่ะเนี่ย” ร่างของโจได้สลายหายไป
อึก~~ ฮือ~~~ อ๊า~~~~~
“นี่!! หยุดนะนายเพทาย” ศิริวรรณพยายามแกะมือเพทายออกเนื่องจากว่าเขากำลังบีบคอตัวเอง
“โอ๊ย!? อยากจะบ้า!!! เกิดมายังพึ่งเคยเจอ คนละเมอบีบคอตัวเอง” ด้วยความที่ว่าขืนปล่อยไว้ มีหวังลูกศิษย์ของเธอได้บีบคอตัวเองตายแน่ ศิริวรรณจึงตะโกนสุดเสียง
เพทายสะดุ้งตื่นขึ้นมา เขามองไปรอบๆอย่างหวาอระแวง ทุกอย่างปกติดี ไม่มีผีรึว่าศพ จะเห็นก็แต่อาจารย์ศิริวรรณยืนทำหน้าเหวอๆอยู่ข้างเตียงเขา ทำให้ผู้ตื่นจากฝันร้ายอย่างเขาโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก
ดีจังที่เป็นแค่ฝัน
“ฝันร้ายเหรอ นายเพทาย” ศิริวรรณมองเพทายเหมือนเห็นเขาเป็นตัวประหลาด เธอคิดว่าถ้ามาช้ากว่ามีหวังได้ข่าวหน้าหนึ่งแน่
พาดหัวข่าว นักเรียนโรงเรียนชื่อดัง
ละเมอบีบคอตัวเองตายคาห้องพยาบาลของโรงเรียน
สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด
ตำรวจยังคงรอหลักฐานจากหน่วยพิสูจน์หลักฐานต่อไป
“ประมาณนั้นครับ งั้นผมขอกลับก่อนนะครับ” เพทายรีบเก็บของแล้วเดินออกจากห้อง ถ้าเกิดว่ามีอะไรหลอนๆอีก เขาคงทำใจรับมันไม่ไหวอีกแน่ๆ ทันทีที่เพทายเดินออกจากห้องพยาบาลไป........
อ๊าก!!?
ว๊าก!!!?
“เว้ย!! อยู่ดีๆก็โผล่มา ตกใจหมด ไอ้บ้า” เจียระไนรีบตั้งสติ บรรยากาศรอบๆโรงเรียนที่มีแต่ต้นไม้ปกคลุมพลอยทำให้คนตัวใหญ่เกิดอาการขวัญผวา
“แกสิบ้า โผล่มาไม่ให้สุ่มให้เสียง” เพทายนึกโล่งใจที่เจอเจียระไนและเพื่อนๆของเขามาตามที่ห้องพยาบาล โดยมีเสียงของนันทภาดังแว๊ดๆ ว่าทำไมไม่รับโทรศัพท์ของเธอ ปล่อยให้เธอกับเพื่อนๆรอเขาจนตะวันแทบจะตกดิน ถึงแม้จะรำคาญบ้างแต่เพทายก็นึกถึงขอบคุณเพราะก็อุ่นใจกว่ากลับบ้านคนเดียว
“อาจารย์ ผมกลับก่อน......อ้าว!?” เพทายมองหาอาจารย์ศิริวรรณที่หายไปจากห้อง ทั้งที่เขาอยู่หน้าประตูห้องแท้ๆ
“อาจารย์อะไร อยู่ในห้องเหรอ” พวกเจียระไนชะเง้อเข้าไปดูในห้องพยาบาล มีเพียงแต่รุ่งอรุณที่เหล่ตามองเพทายแล้วกระตุกยิ้ม
เพทาย นายเจอดีเข้าแล้ว
“ก็อาจารย์ศิริวรรณน่ะสิ” คำพูดของเพทายทำให้ทุกคนหน้าถอดสี นันทภาผวากอดนาฎจันทร์ เธอเลิ่กลั่กมองซ้ายมองขวา
“แล้วเมื่อกี้ นายเจออาจารย์มั้ย” กรเลิศจ้องเพทายนิ่ง
“อย่าบอกนะว่านายเจอ”มือที่สั่นของนันทภาชี้หน้าเขา
“ก็เจอน่ะสิ ฉันกำลังจะลาเขากลับ แต่อาจารย์หายไปไหนก็ไม่รู้อ่ะ” คำพูดของเพทายเหมือนระเบิดลูกใหญ่ที่ตอกย้ำอะไรบางอย่างให้กับเพื่อนๆของเขา
จะว่าไปห้องพยาบาลก็มีทางข้าออกอยู่ทางเดียว
แล้วอาจารย์ศิริวรรณหายไปไหนได้
นอกจากอาจารย์จะเป็น........
“นายตั้งสติ แล้วที่พวกฉันพูดนะ” อมรเวทยื่นมือจับไหล่ทั้งสองของเพทายให้หันเข้าหาตัวเองด้วยสีหน้าจริงจัง
เกิดอะไรขึ้นกันแน่!? อาจารย์ศิริวรรณ
ทำไมทุกคนดูกลัว เมื่อเอยชื่อนี้
“นายแกล้งอำพวกเรารึป่าว ที่บอกว่าเจออาจารย์ศิริวรรณน่ะ” หลังจากที่ยืนเงียบอยู่นาน นาฎจันทร์เริ่มเอ่ยปากพูด
แกล้งอำอะไร ฉันงงนะเนี่ย
“ก็อาจารย์ศิริวรรณน่ะ” อมรเวทมองเพทายแล้วหลบตาลงพื้น
“อาจารย์ศิริวรรณรถคว่ำเสียชีวิต ตอนออกไปสัมนาน่ะสิ” รุ่งอรุณถอนหายใจแล้วเสมองไปทางอื่น ในเวลานี้แววตาของเขายากจะหยั่งถึงว่าคิดอะไรอยู่
“ฉันไม่เชื่อ!!!!!” คำพูดที่กระจ่างแจ้งของรุ่งอรุณเหมือนฟ้าผ่ากลางหัว เพทายแทบรับไม่ได้กับสิ่งที่ได้ฟัง
ตอนนั้นเอง เพทายก็เห็นอาจารย์ศิริวรรณยืนหลังกลุ่มเพื่อนๆ ซึ่งเป็นระเบียบทางเดิน เธอกำลังยิ้มให้เพทาย จากนั้นก็หายวับไปกับตา
ไม่จริง!!! เป็นไปไม่ได้!!!!?
มันไม่ใช่ฝัน!!!???
เพทายตาเหลือก.....โลกหมุนเคว้ง
“อ๊ากกกกกกกกกกกกก”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ