สัญญามันใจ..ยายตัวแสบ

6.2

เขียนโดย แสงจันทรา

วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 เวลา 13.50 น.

  24 ตอน
  1 วิจารณ์
  36.00K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

9)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
เมื่อทานข้าวเย็นเรียบร้อยมีนาถือกุญแจรถจะเดินไปหน้าบ้าน ธนาเดินตามมาห่างๆ ที่หน้าบ้านสายธาร และมินทร์ตากำลังยืนรออยู่
     “ค่ำมืดขนาดนี้จะออกไปส่งเพื่อนตามลำพังได้หรือน้อง”ธนาพูดขึ้นด้วยความรู้สึกเป็นหว่งลึกๆ เขามองมีนา
     “งั้นพี่ชายก็ไปเป็นเพื่อนมีนาหน่อยสิค่ะ น้องรู้สึกปวดท้อง”สายธารพูดจบก็โบมือลามินทร์ตาและวิ่งเข้าบ้านไป
     “เอ้ายายน้อง ทำแบบนี้ได้ไง”มีนา ตะโกนถามแต่ไม่ทันเสียแล้ว ธนาแอบอมยิ้มเมื่อมองท่าทางของมีนา
     “มานี่ เดี๋ยวพี่ขับเอง ขึ้นรถกันเถอะ”ธนาเปิดประตูรถให้มินทร์ตานั่งด้านหลังและตนเองไปนั่งแทนที่คนขับมีนา จำต้องนั่งด้านหน้ากับเขา ตลอดทางธนาชวนมินทร์ตาคุยจนถึงบ้าน แต่มีนานั่งเงียบมาตลอดทาง และหลังจากนั้นความเงียบสงบก็มาแทนที่ ธนาขับออกมาได้ระยะหนึ่ง เขาจอดรถลงข้างทาง มีนาดูจะตกใจและหันมองดูรอบ ๆ
     “นี่นาย..! จอดทำไมยังไม่ถึงบ้านเลยนะ”มีนาถามขึ้นท่าทางตื่นตกใจ
     “ยอมพูดแล้วเหรอ..พี่นึกว่าเราเป็นไบไปแล้วเสียอีก.. อ้ออย่างลืมสัญญาของเราสิห้ามเรียกพี่ว่านายอีก” ธนายิ้มให้มีนา ทั้งคู่สบสายตาประสานกัน เธอถูกเขาจ้องมองอยู่นาน เธอเริ่มไม่ไว้ใจและขยับตัวออกห่างธนา
     “ฉันยังไม่คุ้นนี่ นายเอ่อ..คุณจอดรถทำไม..ค่ะ”มีนาพูดตะกุกตะกัก ธนายิ้มเมื่อเห็นเธอดูจะกลัวจนตัวแข็งทื่อ
     “เมื่อไหร่มีนาจะยอมเรียกพี่หละ มันดูห่างเหินมากเลยนะ”ธนาพูดขึ้นและเขายังมองเธอด้วยรอยยิ้ม
     “ต้องด้วยเหรอ! ฉันว่าแค่นี้ก็มากพอแล้วนะ เรากลับกันเถอะออกมานานแล้ว”มีนาเปลี่ยนเรื่องพูด ธนานึกขำกับ หน้าตาอันแสนงอนของเธอเสมอ
     “นี่เรากลัวพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ก่อนออกจะเก่งกาด”ธนาอมยิ้มและออกรถไป มีนามองเขาด้วยสายตาที่ยังมีกังวล
     “นั่นสินะ เรากลัวเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เราไม่ได้กลัวเขาสักหน่อย”มีนาคิด และถามตัวเองกับคำพูดของเขา
                มีนาและเพื่อนๆ ต่างติวหนังสือกันอย่างเคร่งครัด ต่างจากลุ่มของเจนจิตร บังคับให้แอนนาเป็นคนทำรายงานให้กลุ่ม เมื่อการสอบมาถึงมีนาและเพื่อนๆ ผ่านไปได้ด้วยดี แอนนาก็เช่นกันส่วนกลุ่มเจนจิตรที่ดูจะหน้าตาเคร่งเครียดกันเป็นแถวๆ เจนจิตรและเพื่อนๆ เดินมานั่งข้างๆ แอนนาที่นั่งรออยู่นานแล้ว
     “นี่แอน เธอสอบได้ใช่ไหมถึงได้เสร็จก่อนคนอื่นๆ เขา”เจนจิตรถาม แอนนายิ้มและพยักหน้า
     “อ้าย!!.. เธอสอบได้ แต่พวกฉันทำข้อสอบแทบไม่ได้ นี่เธอมุบมิบไว้ใช่ไหม”ดาวล้อมพูดเสียงแหลม
     “เปล่า เปล่านะฉัน…”แอนนาพยายามแก้ตัวแต่เจนจิตรต่อว่าและผลักแอนนาไปชนกับมีนาและเพื่อนๆ ที่ประคองแอนนาไว้ ทั้งสามตกใจมอง และพบว่า สี่สาวที่กำลังยิ้มเยาะอยู่ตรงหน้าคือคู่อรินี่เอง
     “อุ้ย..! นี่ 4 ต่อ 1 แถวบ้านฉันเรียกว่า...หมาหมู่นะ”มีนาพยุงแอนนาลุกขึ้นเจ้าหล่อนดูกลัวจนตัวสั่น
     “นี่มันเรื่องของพวกฉัน เธอมาเกี่ยวอะไรด้วยไม่ทราบ”เจนจิตรดึงแอนนาไปให้ดาวล้อมและเดินมาประชันหน้ากับมีนา ตั้งสองดูจ้องตาข่มขู่ กันเหมือนโกรธแค้นกันมาเป็นชาติ
     “มีนาอย่ามีเรื่องเลยนะ วันนี้เธอต้องรีบเก็บของไม่ใช่เหรอ”สายธารพูด มินทร์ตาดึงตัวมีนาเดินออกจากตรงนั้น
     “ระวังตัวเธอให้ดีเถอะมีนา สักวันเธอต้องเจอกับฉันแน่”เจนจิตรตะโกนตามหลังมีนายิ้มอย่างท่าทาย
     “ยายตัวแสบ สักวันมันต้องรู้สำนึก”เจนจิตรสะสมความแค้นมากขึ้นเมื่อเพื่อนสาวยุยงส่งเสริมแรงแค้น
                มีนานั่งเก็บข้าวของที่จำเป็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอจึงเดินลงไปด้านล่าง ซึ่งสายธารกำลังนั่งคุยอยู่กับพ่อและแม่ของเธอ มีนาถูกเรียกให้เข้าไปร่วมวงสนทนา การสนทานเป็นไปอย่างสนุกสนานเหมือนๆ เคย มีนาเล่าถึงเรื่องสนุกที่เกิดขึ้นในคอบครัวของเธอ ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองยิ่งรักยิ่งเอ็นดูเธอมากขึ้น
     “หนูสัญญาแล้วนะเปิดเทอมหน้าก็ต้องมาอยู่ที่นี่”พ่ออาทรพูด มีนายิ้มแต่ยังไม่มีคำตอบ
     “เปิดเทอมตั้ง 3 เดือน พอเปิดเทอมมาคุณลุงคุณป้าอาจลืมหนูแล้วก็ได้นี่ค่ะ” มีนาพูดเล่นด้วยรอยยิ้ม ด้วยท่าทางเขินอายนั้นทำเอาผู้ใหญ่ทั้งสองหัวเราะชอบใจ
     “ความจริงหนูอยากชวนน้องไปเที่ยวกรุงเทพบ้างนะค่ะ”มีนาพูดขึ้น สายธารดูจะดีใจจนออกนอกหน้า
     “ดูท่าทางเจ้าตัวเขาคงอยากไปมากนะเนี่ย”ผู้แม่พูดเมื่อมองกิริยาของลูกสาว
     “ไว้ว่างๆ เราจะไปที่ยวให้เจ้าธนาไปส่ง หนูก็พาเที่ยวกรุงเทพหน่อยแล้วกันนะ” พ่ออาทรพูด
     “ได้สิค่ะ แต่ที่โน้นต้องเที่ยวในยามราตรี สวยงามตามากแต่ไม่ใช่ดาวหรอกนะค่ะ แต่เป็นแสงไฟมากกว่า”มีนาพูด
     “อื่อว่าแต่ธนาไปไหน พักนี้ไม่ค่อยเห็นหน้าเห็นตา”แม่ดาวเรืองมองหาลูกชายสุดที่รัก
     “น้องเห็นเดินไปแถวๆ สวนนะค่ะ”สายธารพูด
     “แอบหนีไปเข้าสวนงั้นเหรอ หวังว่าคงไม่ไปเรือนดอกไม้หรอกนะ”มีนาคิดอยู่ในใจ
เมื่อเวลาผ่านไปมีนาขอตัวออกมาเดินเล่นที่สวน เธอเดินมาเรื่อยๆ จนถึงเรือนดอกไม้
     “เงียบขนาดนี้หวังว่าพี่คงไม่มาที่นี่หรอกนะ”มีนาพูด เธออดที่จะอมยิ้มทุกครั้งเมื่อมาที่นี่ มีนาเดินชื่นชมดมดอกไม้มาเรื่อยๆ จนมาถึงต้นไม้ใหญ่ที่ฝังสัญญาสงบศึกของเธอและเขาไว้
     “ตรงนี้สินะ ที่เก็บสัญญาของเรา”มีนาหยุดนั่งลงที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างๆ กับจุดฝังสัญญามีก้อนหินสองก้อนเป็นสัญลักษณ์มีนามองดูมันด้วยรอยยิ้มเมื่อนึกถึงวันนั้น เธอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยจากการสอบ และกะว่าจะพักสายตาสักประเดี๋ยว...
ครู่ต่อมาธนากำลังเดินออกมาจากเรือนพักเขาต้องแปลงใจ เมื่อเห็นมีนากำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ ธนาเดินเข้ามาดูใกล้ๆ ก็พบว่าเธอกำลังหลับตาสนิท ธนาชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ๆ ใบหน้าของเธอยังคงเหลือรอยยิ้มอยู่
     “มีนา มานั่งทำไมตรงนี้”ธนาเรียกเธอด้วยรอยยิ้มหวังว่าเธอจะลืมตาขึ้นมาเห็นมัน แต่...
     “มีนา...หลับหรอกหรือ”เธอหลับและสนิทเสียด้วย ธนาอมยิ้มและส่ายหน้าท่าทางของเธอเหมือนกับเด็กน้อยไร้เดียงสา ช่างต่างกับเวลาตื่นมากเสียจริง ธนาอุ้มมีนาขึ้นและเดินเข้าไปในบ้านพักที่มีที่นอนและของใช้ที่จำเป็น เขาบรรจงว่างเธอลงอย่างอ่อนโยนและนิ่มนวล ปัดเส้นผมที่บังหน้าอันอ่อนละมุนของเธอออก ธนาจ้องมองด้วยรอยยิ้มอยู่เนินนานเขาแทบไม่รู้ตัวเลยว่าใบหน้าของเขาโน้มเข้าไปจนใกล้หน้าของเธอจนจะชิดกันอยู่แล้ว
     “ไม่ได้สิ...”ธนาห้ามใจตัวเอง ดึงเก้าอี้มานั่งมองพิจารณาใบหน้าของมีนา
     “เวลาหลับดูก็หน้ารักเหมือนกันนะเรา”ธนาพูดและนั่งจ้องหน้าเธออย่างหลงไหล
                สุธีเดินเข้ามาในบ้านของสายธาร เขารู้สึกแปลกเพราะบ้านดูเงียบผิดปกติ
     “ไปไหนกันหมดนะ คนบ้านนี้”สุธีมองหาใครสักคน และเขาก็ต้องยิ้มเมื่อมองไปที่สวนหลังบ้านเห็นสายธารกำลังนอนหลับอยู่บนเปล สุธีเดินย่องเข้ามาจนใกล้สายธาร แต่เธอยังหลับสนิทไม่รู้สึกตัว
     “คงเหนื่อยจากการสอบระมัง”สุธีจ้องหน้าของสายธารขนตายาวงอน ปกติสุธีเคยเห็นแต่ตาดวงโตทำค้อนใส่เขาประจำ พอเวลาหลับก็น่ารักไม่เบา สุธีจองมองจนสายธารขยับตัวบิดขี้เกียจและเมื่อเธอลืมตาขี้เท่านั้นเอง
     “ว้าย...พี่สุธีมาตั้งแต่เมื่อไหร่”สายธารยังอยู่ในท่าบิดขี้เกียจ เธอตกใจและรีบลุกขึ้นนั่ง สุธีเอาแต่หัวเราะ
     “ก็มา พอที่จะได้เห็นท่าน่าเกียจของใครบางคนนั้นหละ..หิหิ”สุธีพูดและยังหัวเราะไม่หยุด สายธารทำค้อนเชิดหน้าลุกเดินหนี สุธียิ่งหัวเราะเป็นการใหญ่ เขาต้องตามง้อสายธารด้วยวิธีที่เคยใช้ได้ผล อยู่นานกว่าเธอจะยอมยิ้มออก
     “โธ่..อย่าโกรธพี่เลยนะ ถ้าน้องไม่ให้อภัยพี่ พี่ต้องทุกข์ใจจนตายแน่”สุธีใช้วิธีอดอ้อน จนสายธารหันมา
     “อย่ามาทำเป็นพูดดี เมื่อกี้ยังว่าน้องอยู่เลย”สายธารค้อนใส่ แต่เธอต้องใจอ่อนทุกทีเมื่อสุธีง้องอนเธอ
                เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง มีนาขยับตัวตื่น เมื่อลืมตาขึ้น เธอสะดุ้งตกใจมองดูรอบๆ เธอนึกขึ้นได้ว่ากำลังนั่งเล่นที่ใต้ต้นไม้ แต่พอมองดูชัดๆ ก็รู้สึกแปลกๆ เมื่อมองไปด้านไหนก็เห็นแต่ฝาผนังเหมือนอยู่ในห้อง
     “ที่ไหนเนี่ย ฉันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไง”มีนาพยายามคิดๆ คิดเท่าไหร่เธอก็ไม่คลายสงสัยสักที
     “ไม่ต้องคิดแล้วพี่พาเธอมาเองหละ เป็นผู้หญิงไปนอนอยู่ใต้ต้นไม้แบบนั้นได้อย่างไง”ธนาตำหนิ เมื่อเดินมาถึง
     “พี่ธนา..!”มีนาตกใจจนหน้าตื่นมองสำรวจตัวเอง
     “ฉันแค่จะพักสายตาเท่านั้นไม่คิดว่าจะหลับจริงๆ ไม่เห็นต้องทำเสียงดุขนาดนั้นเลย”มีนาทำซุ่มเสียงน้อยใจ
     “ฮื้อ...ดูทำท่าทางเข้า พี่ยังไม่ทันได้ว่าอะไรเลย วันหลังอย่าไปนอนแบบนั้นอีกแล้วกัน ถ้าเกิดคนที่มาเจอไม่ใช่พี่หละก็...เราจะเป็นอย่างไง”ธนานั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้าของมีนา เธอยังคงนั่งนิ่งทำหน้าเหมือนเด็กที่ถูกตำหนิธนาบีบจมูกของเธอด้วยความหมั่นไส้
     “โอ้ย..เจ็บนะ”มีนาปัดมือของธนา และจ้องหน้าธนาคิ้วขมวดค้อนใส่ เมื่อเขายิ้มและมองสบตาของเธอ มันทำให้เธอและเขามีความรู้สึกแปลกๆ ทุกอย่างนิ่งสงบดั่งต้องมนต์สะกด หน้าของธนาห่างจากมีนาแค่คืบเท่านั้นหัวใจของเธอเต้นระรัวปั่นป่วนไปหมด มีนาขยับตัวออกห่าง และมองเขาด้วยอาการเขินอาย ธนาได้สติอีกครั้ง
     “เอ่อ..พี่ว่าเรากลับบ้านเถอะ”ธนายิ้มและลุกขึ้นยืน มีนาต้องตกใจอีกครั้งเมื่อธนาจับมือเธอให้ลุกเดินตาม เธอจำต้องเดินตามเขาไปโดยไม่กล้าที่จะพูดหรือดึงมือออกจากมือที่แสนจะอบอุ่นของเขา เธอรู้สึกอุ่นใจจนยิ้มออกมา
                สุธีกำลังนั่งคุยอยู่กับพ่อและแม่ของสายธารอย่างถูกคอ สายธารแอบมองดูอยู่บ่อยๆ
     “คุณอาทั้งสองภูมิใจนะครับ ที่มีลูกสาวเป็นแม่บ้านขนาดนี้”สุธีพูดเมื่อมองไปเห็นสารธารกำลังทำครัวอยู่
     “ยายน้องเขาชอบนะ อาเองก็ไม่ได้สอนอะไรหรอก”แม่ดาวเรืองพูด สุธียิ้มและมองดูสายธาร
     “อีกหน่อยถ้าน้องแต่งงานไปอาสองคนคงเหงาน่าดู”พ่ออาทรพูด สุธีดูจะฉงนใจและตกใจไม่น้อย
     “น้องมีแฟนแล้วหรือครับ ผมไม่ยักกะรู้มาก่อน”สุธีถาม ทั้งคู่ยิ้มเมื่อมองท่าทางของสุธี
     “คุยอะไรกันอยู่ค่ะ”สายธารเดินเข้ามาพอดี และรู้สึกแปลกใจเมื่อสุธีจ้องมองเธออยู่
     “พี่สงสัยว่า เรามีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่”สุธีถามหน้าตาจริงจัง สายธารต้องแปลกใจและคิดอยู่ครู่หนึ่ง
     “อ้อค่ะ น้องมีคนที่คนรักอยู่แล้วค่ะ”คำตอบนั้นทำเอาทั้งสามถึงกับอึ้งไปทันที ธนาเดินเข้ามากับมีนาพอดี ทั้งคู่มองหน้ากันด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นทุกคนเงียบและมองดูสายธารเป็นตาเดียว
     “เกิดอะไรขึ้นครับ พ่อ แม่ สุธีมีอะไรกันเหรอ”ธนาตบหลังเพื่อนรัก จนสุธีรู้ตัวอีกครั้ง
     “อ้อ..น้องเขาบอกว่ามีแฟนแล้วเท่านั้นเอง อื่อแล้วใครกันหละน้องพี่ไม่เห็นรู้มาก่อนเลย”สุธีหันไปตอบและกลับมาสนใจที่สายธาร เธอทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ และเก็บเงียบไม่ยอมพูดอะไรต่อ ฉุดมีนาเดินเข้าไปในครัวแทน
     “เธอมีแฟนแล้วจริงๆ นะเหรอน้อง”มีนาเองก็ยังอดสงสัยไม่ได้
     “ใช่..เธอไม่รู้จักเหรอน่า”สายธารตอบ และไม่ยอมปิปากพูดอะไรต่อ
                หลังจากร่วมรับประทานอาหารเย็นแล้วธนากับสุธีนั่งคุยกันอยู่หน้าบ้าน มีนาและสายธารถือของว่างออกมาร่วมวงสนทนาด้วย
     “อื่อ แล้วตอนบ่ายนายหายไปไหนมา ถึงได้กลับมากับคุณมีนาหละ”สุธีถามขึ้น ธนาหันไปมองมีนา
     “อ้อ...ฉันก็ออกไปข้างนอกมา พอดีมาเจอกันที่หน้าประตู ถามทำไหมเหรอ”ธนาโกหก ทำให้มีนารู้สึกผิดหวัง
     “งั้นเหรอ คุณมีนาไปไหนมาหละครับ”สุธีหันไปถามมีนา ที่กำลังมองธนาอยู่ เธอหันกลับมายิ้มให้สุธี
     “ไปเดินเล่นใกล้ๆ แถวนี้ค่ะ”มีนาตอบและทำเย็นชาใส่ธนา
     “พี่สุธีทราบหรือยังค่ะ พรุ่งนี้มีนาก็กลับกรุงเทพแล้วนะ”สายธารพูดขึ้นพลอยทำให้ทุกคนเงียบไปหมดไม่เว้นแม้แต่ธนาที่เขาเองก็พึ่งรู้เช่นกัน ทุกสายตาจดจ้องไปที่มีนา
     “ค่ะ ก็เปิดเทอมแล้วนี่ค่ะ”มีนาตอบสั้นๆ และยิ้มให้กับทุกสายตา
พวกเขาและเธอพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน มันเป็นครั้งแรกกับวงสนทนาที่เข้ากันได้ดีของธนา และมีนา เป็นที่ผิดสังเกตุของสุธี และสายธารยิ่งนัก เวลาผ่านไปกว่า 3 ทุ่มวงสนทนาจึงจบลงโดยสุธีล่ำลามีนาในวันนี้เพราะเขาติดงานและคงจะไม่ได้ไปส่ง แต่ธนากลับนิ่งและดูเหมือนจะไม่สนใจเสียด้วยซ้ำ
     “ค่ะคุณหมอ เปิดเทอมเจอกันใหม่ ขับรถดีๆ นะค่ะ”มีนาโบกมือลาพร้อมกับสายธารที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ ธนาเดินเข้าบ้านไปก่อน สายธารมองตามด้วยความแปลกใจ
     “อะไรกันพี่คนนี้ เมื่อกี้ก็ยังดีๆ อยู่เลย อย่าสนใจเลยนะเข้าบ้านกันเถอะ”สายธารโอบไหล่มีนาเดินเข้าบ้านไป
                วันรุ่งขึ้นพ่ออาทร แม่ดาวเรืองและสายธาร ยืนอยู่ที่หน้าบ้านเพื่อมาส่งมีนาเมื่อทุกคนล่ำลาเสร็จเรียบร้อย แต่มีนาชะเง้อมองดูรอบๆ เหมือนรอใครสักคน สายธารมองตาม
     “พี่ธนาออกไปตั้งแต่เช้าแล้วหละ สงสัยว่าคงมีนัดกับพี่นิษามั้ง”สายธารพูดขึ้น มีนาเปลี่ยนท่าทางทันที
     “เหรอ..บอกฉันทำไงไม่เห็นสนใจเลย ฉันไปแล้วนะ”มีนาพูดเสียงแข็งขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงธนา
     “แน่ใจนะว่าไม่ให้ไปส่ง อื่ออย่างไงก็โทรมาบ้างนะไม่เจอตั้ง 3 เดือนฉันต้องคิดถึงเธอแน่นนอน”สายธารโผเข้ากอดเพื่อนรัก มีนาลูบหลังอำลาเพื่อนรัก และหันไปยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองที่กำลังยิ้มอยู่ ก่อนนะขึ้นรถออกไป
     “พี่ของเราเขาไปไหนหละ ไม่คิดจะมาส่งน้องเลยหรือไง”แม่ดาวเรืองตำหนิถึงลูกชาย สายธารส่ายหน้าเธอเองก็ไม่ทราบ เมื่อรถแลนออกไปมีนามองดูรอบๆ ด้วยสายตาความอาลัย และรู้สึกผิดหวังในใจลึกๆ เมื่อคิดถึงธนา
     “ทำไมต้องรู้สึกเจ็บปวด เสียใจอย่างนี้ด้วยนะ ทำไมต้องเศร้า แค่เขาไม่สนใจแค่นี้เอง”มีนาหน้าเศร้าเมื่อคิดเช่นนั้น เธอกำลังหวังอะไรกันแน่ ตัวเธอเองยังหาคำตอบไม่ได้
     “มันเป็นไปไม่ได้ และไม่มีทางเป็นอย่างนั้น”มีนาลบอยู่กับความคิดของตนเองอยู่จนคนที่แอบมองอยู่เป็นห่วง
     “เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณผู้หญิง”เสียงคนขับรถที่ฟังดูค้นหู แต่เขาปิดหน้าปิดตาอย่างมิดชิดในชุดคนงาน
     “เอ่อ..ไม่มีอะไรหรอกค่ะฉันแค่หงุดหงินนิดหน่อย”มีนารีบตอบทันที
     “หงุดหงิดเรื่องอะไรครับ ผมช่วยได้ไหม”เขายังชวนเธอคุยต่อ มีนาดูจะไม่พอใจนัก แต่เธอสงสัยเสียงนั้น..
     “ไม่มีใครช่วยได้หรอกค่ะ เอ๋..!เมื่อกี้เสียงนั้น” มีนานึกเอ๋ใจทันที เธอพยายามที่จะมองดูหน้าคนขับ
     “มันเหมือนเสียงของใครหรือครับคุณผู้หญิง” เสียงของธนาชัดๆ ต้องใช่แน่นอน
     “พี่ธนา..ใช่ไหม”มีนาถึงกับยิ้มออกเมื่อคิดได้เช่นนั้น
     “หงุดหงิดพี่อยู่หรือเปล่า”ธนาพูดและหันมายิ้มให้มีนา
     “ที่แท้เขาก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดไม่คิดที่จะมาส่งสักหน่อย แต่เขาตั้งใจที่จะมาส่งเราจริงๆ ต่างหาก”มีนาคิดและรู้สึกดีใจจนหน้าบาน ธนาจอดรถและเปิดประตูรถให้มีนา เธอมองอย่างแปลกใจ เพราะยังไม่ถึงที่หมาย
     “รังเกียจที่จะนั่งข้างๆ คนขับรถไหมครับคุณผู้หญิง”ธนาพูดขึ้น เธอยิ้มและเดินลงจากรถไปนั่งข้างๆ ขันขับโดยมีธนาคอยบริการเป็นคนเปิดประตูรถให้เธอ
     “เป็นเกียรติอย่างสูค่ะ”มีนาเล่นตามบทที่เขาส่งให้เธอทั้งสองต่างยิ้มและหัวเราะอย่างมีความสุข

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา