สัญญามันใจ..ยายตัวแสบ
6.2
3) บ้านใหม่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหมดชั่วโมงเรียน อาจารย์เดินออกจากห้องเรียน พร้อมๆ กับเพื่อนร่วมชั้นอีกบางส่วน มีนายังคงนั่งเขียนรายงานท้ายชั่วโมงอยู่ โดยมีสายธารและมินทร์ตานั่งรอ แต่แล้วเธอต้องหยุดเมื่อมีเงาของใครมาอยู่ตรงหน้า
“เจน! เธอจะทำอะไร เธออย่ายุ่งกับมีนาเลยนะเราขอร้อง”สายธารพูดและเดินมาขวางเจนจิตร
“เธออย่ายุ่งยายน้อง ในเมื่อเพื่อนใหม่ของเธอดูจะก่ากั่นกับฉัน ฉันก็จะสั่งสอนให้รู้สำนึก”เจนจิตรผลักสายธาร
“ว่าไงสาวเมืองกรุง เธอกล้าดีอย่างไงถึงได้ยิ้มเยาะฉัน”เจนจิตรตบโต๊ะและจ้องมองมีนาที่ยังคงไม่สนใจ... เจ้าหล่อนปัดสมุดที่อยู่ตรงหน้ามีนาไปกองอยู่กับพื้น มีนาเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาบ้าง เธอยืนขึ้นจองหน้าเจนจิตรสายตานิ่งสงบ
“เธอคิดสู้เหรอ..”เจนจิตรถามเมื่อเห็นมีนาสบตา สายธารและมินทร์ตาถูกพวกเจนจิตรจับตัวเอาไว้เมื่อคิดช่วยมีนา เจนจิตรง้างมือหมายจะตบ แต่มีนาหลบทัน มีนาผลักหลังของเจนจิตร ที่มุ้งไปตามแรงเหวี่ยงของมือและล้มลง
“เธอนี่ไม่เคยเข็ดนะ... คราวก่อนฉันไม่ได้บอกเธอเหรอ ว่าเป็นยูโดสายดำ ถ้าไม่อยากแขนขาหัก หรือไปนอนกองกับพื้นก็อย่างมายุ้งกับฉัน และรีบปล่อยเพื่อนของฉันด้วย”มีนาพูด ดาวล้อมเดินเข้ามาหมายจะตบเธออีกคน
“สงสัยว่าอยากให้แสดงให้ดูใช่ไหม”มีนาเชิดหน้าให้ดาวล้อมตบ แต่หล่อนลังเล เพราะกลัวว่ามีนาจะเอาจริง
“ทำไมไม่ตบหละ อุตสาห์ยื่นหน้าให้ แต่ขอบอกก่อนนะคนอย่างฉันไม่ทำใครก่อน แต่ถ้าถูกกระทำหละก็ไม่แน่”มีนายิ้ม เมื่อเห็นดาวล้อมวิ่งไปหลบข้างหลังของเจนจิตร
“พวกเธอเนี่ย ไม่ได้เรื่องสักคน”เจนจิตรโมโหหันไม่ต่อว่ากลุ่มเพื่อนสาว สายธารและมินทร์ตาสลับตัวเองออกมาได้ ทั้งสามจึงเก็บของก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“ฝากไว้ก่อนเถอะยายมีนา ฉันต้องเอาคืนแน่ แกต้องเจ็บปวดที่สุด” เจนจิตรพูดขึ้นด้วยความโกรธแค้น
“ดูท่าทางมันก็ไม่เบาเลยนะเจน เราจะเอามันอยู่หรือ”ดาวล้อมมองตาม เจนจิตรหันกลับมามองด้วยสายตาไม่พอใจ ดาวล้อม สร้อยทอง และนิตยา ต่างพากันหลบสายตากันเป็นแถว ๆ
สายธารและมินทร์ตากำลังค้นหาหนังสือเพื่อทำรายงานทั้งสองหอบหนังสือมาวางที่โต๊ะ แต่มีนากำลังแอบหลับ เธอหลับจนสนิท สายธารมองดูถึงกับยิ้มและส่ายหน้า
“มีนาเขาอดนอนขนาดนั้นเชียวหรือ” มินทร์ตาพูดขึ้นด้วยท่างทางสงสัย
“ไม่รู้สิ ฉันว่าปล่อยให้มีนานอนสักพักแล้วกันนะ” สายธารปล่อยให้มีนานอนหลับไปได้พักใหญ่ เธอจึงได้ตื่นขึ้นมา เห็นเพื่อนทั้งสองกำลังวุ่นอยู่กับการทำรายงาน
“ตาหละ!! ทำไมพวกเธอไม่ปลุกฉัน นี่ฉันแอบหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่”มีนาบ่นๆ และรีบทำงานตามเพื่อนทำให้เพื่อนสาวทั้งสองหัวเราะ
“เธอนี่จริงๆ เลยไปอดนอนมาจากไหนกัน”สายธารถาม
“ฉันนอนไม่ค่อยหลับ มันยังรู้สึกแปลกๆ ฉันไม่เคยอยู่แต่ในห้องแคบๆ แบบนี้” มีนาตอบ
“เอาเถอะทนอีกหน่อย เดี๋ยวเธอต้องไปอยู่บ้านฉันแล้ว” สายธารบอกมีนา แต่เธอกับทำหน้าแปลกใจ
“อะไรกัน ฉันยังไม่ได้ตกลงอะไรเลยนะ” มีนาพูดขึ้น แต่สายธารยิ้ม และไม่สนใจ
“เธอมีสิทธิ์ปฏิเสธด้วยหรือ อาทิตย์หน้าเก็บของให้เรียบร้อย” สายธารพูด
“เผด็จการชะมัด” มีนาบ่นไปทำงานไป สายธารหันมายิ้มกับมินทร์ตา
มีนาเดินขึ้นเข้ามาถึงห้องโถงของคอนโด แต่พนักงานต้อนรับเรียกเธอไว้ก่อน
“คุณมีนาค่ะ มีคุณผู้ชายคนหนึ่งรอคุณอยู่ที่ห้องโถงค่ะ” คำพูดที่แสนจะอ่อนหวาน และไพเราะ
“ค่ะ.. ใครหรือค่ะ” มีนาสงสัย พนังงานต้อนรับนำทางเธอเดินไปจึงได้รู้ว่าเป็นคุณหมอสุธี
“ขอบคุณนะค่ะ” มีนาหันไปของคุณพนักงาน และยิ้มทักทายคุณหมอสุธีที่ดูจะดีใจมากเป็นพิเศษ
“คุณมีนา พึ่งกลับจากเรียนหรือครับ” สุธีถามเมื่อสั่งอาหารเรียบร้อยแล้ว
“ค่ะ ฉันมัวแต่ทำรายงานกับเพื่อน คุณหมอรออยู่นานไหมค่ะ” มีนาถาม
“เปล่าครับ เปล่าเลย ผมพึ่งมาถึง”สุธีรีบแก้ตัวจนเป็นพิรุธทำให้มีนาหัวเราะขึ้นมา เพราะความจริงเข้ามารอนานแล้ว
“น่าขำหรือครับ ผมนึกว่าชาตินี้จะไม่มีวันทำให้ใครหัวเราะได้ซะอีก ทุกคนที่เจอผม บ้างก็ป่วยหน้าเศร้า บ้างก็เจ็บร้องไห้ มีแต่คุณที่ยังหัวเราะได้”สุธีพูดขึ้นยิ่งทำให้มีนาขัน เป็นการใหญ่
“ก็คุณเป็นหมอนี่ค่ะ ถ้าไม่เจ็บ ไม่ป่วยใครอย่าจะไปหาคุณกันหละค่ะ” มีนาพูด
“นั้นนะสิ ครับผมไม่น่าจะถามโง่ๆ เลย” สุธีมีท่าทางเขินเล็กน้อย
“อื่อ... แล้วค่าใช้จ่ายสักเท่าไหร่ค่ะ” มีนาถามขึ้น หลังจากที่เงียบไปพักใหญ่
“ค่าใช้จ่ายอะไรครับ อ้อ..ค่ารถใช่ไหม ไม่เป็นไหร่หรอกครับไม่กี่ตังค์เอง”สุธีพูด
“ไม่ได้หรอกค่ะ ดิฉันลำบากใจ”มีนาควักกระเป๋าสตังค์ขึ้นมา
“อย่าเลยครับ เอางี้ถ้างั้นคุณเลี้ยงข้าวผมเป็นการตอบแทบถือว่าหายกัน” สุธีพยายามหาทางออก
“แต่ฉันว่า..มันก็ยังไม่เท่าที่คุณช่วยฉันหรอก”มีนายังคงมีท่าทางเกรงใจ
“ดูท่าทางคุณมีนา คงไม่เคยขอความช่วยเหลือจากใครเลยสินะครับ”สุธีถาม ทำให้มีนาถึงกับมองแปลก ๆ
“ก็ถ้าเรายังช่วยตัวเองได้อยู่ จะต้องไปพึ่งพาคนอื่นให้เขาลำบากทำไมกันหละค่ะ ฉันเชื่อว่าทุกคนต่างต้องใช้ชีวิตที่ลำบากบ้าง สุขบ้างและถ้าทุกคนรับผิดชอบตัวเองให้ดีๆ แล้วหละก็ โลกของเราต้องน่าอยู่กว่านี้อีกเยอะนะค่ะ ฉันไม่อยากเป็นภาระของใครหรอกค่ะ” มีนาตอบใบหน้านิ่งเรียบ จนคนฟังตกตะลึงไปในทันที
“ดีจังครับ ถ้าทุกคนคิดได้อย่างคุณมีนา โลกเราคงน่าอยู่จริงๆ นั้นแหละครับ”สุธีออกความเห็น ทั้งคู่ดูจะเข้ากันได้เป็นอย่างดี มันยิ่งทำให้สุธีประทับใจในตัวของมีนามากกว่าเดิม เขาตกหลุมรักเธอเข้าเสียแล้ว
สายธารเดินออกมาสูดอากาศ นอกระเบียงในชุดนอน เธอเหลือบไปเห็นธนาที่ดูเหมือนใจลอยกำลังมองอะไรบางอย่างที่อยู่ในมือ ใบหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ สายธารค่อยๆ ย่อยเข้าไปใกล้ๆ และใกล้จนกระโดนเข้าใส่พี่ชาย...
“จ๊ะเอ๋ ดูอะไรอยู่น่า...พี่ชายถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว” สายธารกระโดนเข้าใส่จนธนาตกใจ รีบเก็บเข้ากระเป๋า
“เล่นอะไรของเรา พี่ตกใจหมด ดึกดื่นป่านนี้ทำไมไม่เข้านอน พรุ่งนี้ไม่ไปเรียนหรือไง” ธนาพลักหัวน้องสาว
“บ่นเป็นตาแก่ไปได้ พรุ่งนี้ไม่มีเรียนค่ะ อื่อน้องบอกพี่หรือยังค่ะว่าอาทิตย์หน้าบ้านเราจะมีสมาชิกใหม่”สายธารพูด
“สมาชิกใหม่เหรอ ใครเหรอ... ญาติคนไหนหละ”ธนาพยายามคิดอยู่นาน
“ไม่ต้องเดาเหรอค่ะ เพื่อนน้องเอง คุณพ่อกับคุณแม่อนุญาติให้เพื่อนน้องมาอยู่ที่นี่ เธอน่ารักมากเลยนะค่ะ พี่คงชอบเธอแน่นอน สวยจนยายเจนต้องคอยหาเรื่องประจำเลยหละ พี่ชายจำแม่เจนตัวแสบได้ใช่ไหม” สายธารบรรยายจนเห็นภาพ
“อื่อ.. จำได้สิ เจนเพื่อนของเราสมัยมัธยมคนนั้นใช่ไหม” ธนาคิดและถาม
“ค่ะก็คนเดียวที่ตามจีบพี่นั้นแหละ คอยหาเรื่องเพื่อนน้องอยู่เรื่อย แต่ก็สู้ยายมีนาไม่ได้”สายธารพูดไปยิ้มไป
“ตกลงเพื่อนเราจะน่ารัก หรือแก่นแก้วกันแน่ ฮื้อ...ยายน้อง”ธนาสงสัยในพฤติกรรมที่ต่างกันจากที่สายธารเล่า
“ก็ต้องน่ารักสิค่ะ เธอแค่อยู่ชมรมยูโด เท่านั้นเอง ก็แค่ได้สายดำมาด้วยนะ” สายธารพูดหน้าทะเล้น
“ผู้หญิงสวยๆ ที่ไหนเขาเล่นกีฬาแบบนั้นกันหละ”ธนาพูด ก่อนจะยิ้มเมื่อน้องสาวทำท่าทางจริงจังเพื่อยืนยัน
“คงน่ารักมากสินะ พี่ชักอยากจะรู้จักแล้วหละสิ” ธนาพูดขึ้น ทำให้สายธารมองด้วยสายตาหมั่นไส้
“ซิ...อย่าเลย ตัวมีแฟนแล้ว อย่าคิดจะมายุ่งกับเพื่อนน้อง ห้ามโดยเด็ดขาด” สายธารยกมือทำเครื่องหมายกากบาท
“เอ้อ อะไรของเราเมื่อกี้ยังบอกจะแนะนำอยู่เลย” ธนาแปลกใจ
“พี่ก็ต้องไปเลิกกับแม่นิษาอะไรนั้นเสียก่อน ไม่เห็นจะน่ารักตรงไป” สายธารพูดจบก็ทำงอนเดินกลับห้องไป
“นี่..ยายน้องตัวแสบ กลับมาพูดกันให้รู้เรื่องก่อนนะ”สายธารปล่อยให้ธนาฉงนใจกับอามรณ์แปรปวนของน้องสาว เธอไม่ชอบนิษา มาตั้งแต่ครั้งที่เคยทิ้งพี่ชายสุดที่รักของเธอไปมีแฟนใหม่ แล้วไม่นาน เจ้าหล่อนก็กลับมาขอคืนดีกับเขา และธนาก็มักใจอ่อนเสมอ ทั้งสองคบกันนานกว่า 3 ปีแล้ว
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา มีนาขับรถมาจอดที่หน้าบ้านโดยมีสายธาร และพ่อกับแม่ของเธอยืนยิ้มต้อนรับอยู่
“สวัสดีค่ะ คุณลุงคุณป้า สบายดีนะค่ะ” มีนายกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยความอ่อนน้อม ทั้งสองรับไหว้
“ตามสบายนะหนู ไม่ต้องเกรงใจ แต่เดี๋ยวลุงกับป้าต้องเข้าเมือง สายธารดูแลเพื่อนด้วยนะลูก”ผู้เป็นพ่อสั่ง
“อยู่แล้วค่ะ เดี๋ยวสายธารจะพาคนสวนคนใหม่ไปแนะนำกับต้นส้มของเราทุกต้นเลยค่ะ” สายธารพูดทุกคนหัวเราะ
“อื่อ แล้วพี่ชายเรา เขาหายไปไหนซะหละ แม่ไม่เห็นแต่เช้าแล้ว” สายธารมองดูรอบๆ ก่อนจะส่ายหน้า
“ไม่รู้สิค่ะ สงสัยเข้าไปในไร่”สายธารตอบ แต่คนที่ดูจะมีสีหน้าผิดปกติคือมีนา เธอรอจนท่านทั้งสองออกไปแล้ว มีนามองตาเพื่อนสาว เมื่อเดินตามมาถึงห้องพักของเธอ สายธารรู้สึกแปลกๆ
“น้อง เธอเคยบอกฉันไหมว่าเธอมีพี่ชาย” มีนาถาม ก่อนจะเดินไปนั่งที่เตียง
“เอ๋!..ฉัน...ไม่เคยบอกเธองั้นหรือ” สายธารก็ดูจะแปลกใจไม่เบา เธอคิดดูอีกครั้งก่อนจะตอบมีนาอีกที
“คิดๆ แล้ว...รู้สึกว่ายังไม่เคยพูดถึงพี่ชายให้เธอฟัง หิหิ” สายธารทำท่าเขินอายเล็กน้อย
“เธอน่าจะบอกฉันก่อนนะ ถ้าแม่ฉันรู้คงไม่ยอมให้ฉันอยู่ที่นี่แน่”มีนาต่อว่าเพื่อนสาว
“เอาเถอะน่า ฉันรับรองได้ว่าพี่ชายฉันเป็นคนดี ถึงดีมากล้านเปอร์เซ็นเลยอะ”สายธารรับประกันเสียงแข็ง
“อื่อ...ถ้าเธอรับรองขนาดนี้ฉันชื่อใจเธอก็ได้ แต่...ฉันขอไปเดินเล่นได้ไหม”มีนา เปลี่ยนท่าทีทันควัน
“ได้สิ ไร่ของเรายาวไปถึงเนินเขาโน้น ถ้าเธออย่าเดินเล่นฉันจะไปเป็นเพื่อน” สายธารตอบ
“ไม่เป็นไรหรอก เธอมีอะไรต้องทำอีกเยอะไม่ใช่เหรอ ฉันไม่หลงทางหรอกน่า รับรองได้”มีนายืนยังว่าเธอจะไปตามลำพัง
“ก็ได้..รีบกลับมาก่อนอาหารเย็นนะ”สายธารตอบ มีนาดีใจเธอหยิบได้กล้องตัวโปรด แล้วรีบออกจากห้องไป
ธนา สวมชุดคนทำสวนกำลังทำงานในไร่ เดินตรวจตาการทำงานของคนงานด้วยท่าทางที่เอาจริงเอาจัง
“คุณธนา จะกลับมาอยู่ที่ไร่แล้วหรือครับ” เด็กหนุ่มลูกคนงานที่ติดธนา ตั้งแต่เด็กถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“แล้วนายปี่จะมาช่วยเป็นลูกมือฉันหรือหรือเปล่าหละ” ธนาย้อนถามก่อนจะยิ้ม
“แน่นอนครับ ผมนายปี่ จะช่วยงานคุณธนาทุกอย่าง สั่งมาได้เลยครับ” นายปี่ ดีอกดีใจใหญ่
“ถ้างั้นช่วยเรียนจบสูงๆ แล้วกลับมาช่วยงานในไร่ของเรา ตกลงไหม” ธนากุมหัวเด็กหนุ่มอย่างเอ็นดู
ในขณะนั้นมีนา กำลังหามุมดีๆ เก็บเอาภาพสวยๆ เธอเดินถ่ายรูปภาพที่น่าสนใจไปเรื่อยๆ ด้วยความเพลิดเพลิน ใบหน้าของเธอเต็บไปด้วยความสุขสดใส คนงานต่างพากันมองคนแปลกหน้าที่สวยน่ารักจนสะดุดตา
“แม่หนู...จะถ่ายรูปหรือจ๊ะ ทางโน้นมีสวนกุหลาบ และเรือนดอกไม้นะ” ป้าคนหนึ่งชี้บอกทางเธอ
“จริงหรือค่ะ...ขอบคุณคุณป้ามากค่ะ”มีนายิ้มและขอบคุณก่อนจะเดินไปตามทางนั้น
ไม่ไกลนักเธอเดินมาถึงสวนกุหลาบ มีดอกกุหลาบหลากสีสันสวยงามตา ทอดยาวหลายไร่ และข้างๆ เป็นบ้านเรือนกระจกด้านในมีดอกไม้นานาพันธุ์ มันสวยเสียจน อดที่จะถ่ายภาพเก็บไว้ไม่ได้ มีนาเดินถ่ายรูปอย่างเพลิดเพลินมาตลอดทางจนอยู่กลางสวนกุหลาบ มีนาหลับตาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด และจินตนาการความสุขของเธอที่ได้อยู่ท่ามกลางความสวยงามของดอกไม้.. แต่ทันใดนั้นเองน้ำก็สาดกระจายทั่วสวนดอกไม้มีนาลืมตา...
“ว้าย..!! อะไรกันนี่”มีนาถึงกับร้องด้วยความตกใจ หลับหูหลับตาวิ่งออกมาจากสวน จนไม่ได้มองทาง เธอก็เกิดลื่นและกำลังจะล้มโดยไม่ได้ตั้งหลัก เธอตกใจหลับตาสนิทและเตรียมใจที่จะเจ็บตัวแน่ๆ...
...แต่แล้วก็มีมือของใครบางคนมารับเธอไว้ แต่ก็เสียหลักล้มทั้งคู่ เขาดึงเธอไว้ยอมเป็นฝ่ายเจ็บตัวกระแทบกับพื้นแทน
“โอ้ย..!” เสียงของผู้ชายที่มาช่วยเธอไว้ ถูกมีนาล้มทับอยู่บนตัว...ทั้งคู่เปียกพอๆ กัน มีนาหันมองอย่างตกใจอยู่ครู่หนึ่ง...เธอก็พบว่าคนที่ช่วยเธอ กำลังกอดเธอไว้ และสวมชุดคนงานในสวนยังไม่ทันที่จะได้มองหน้าของผู้หวังดี...
“ฮะ!!.. ปล่อยฉันนะ”มีนารีบผลักตัวเองออกจากอ้อมกอดของชายหนุ่มและวิ่งออกมานอกสวน
“นี่คุณ...เดี๋ยวก่อน”ชายหนุ่มยังไม่ทันได้เห็นหน้าว่าเป็นใคร เพราะมัวแต่หลับตา เมื่อลุกขึ้นได้เขาก็วิ่งผ่านกระแสน้ำที่กระจ่ายทั่วสวนตามออกมา
“เจน! เธอจะทำอะไร เธออย่ายุ่งกับมีนาเลยนะเราขอร้อง”สายธารพูดและเดินมาขวางเจนจิตร
“เธออย่ายุ่งยายน้อง ในเมื่อเพื่อนใหม่ของเธอดูจะก่ากั่นกับฉัน ฉันก็จะสั่งสอนให้รู้สำนึก”เจนจิตรผลักสายธาร
“ว่าไงสาวเมืองกรุง เธอกล้าดีอย่างไงถึงได้ยิ้มเยาะฉัน”เจนจิตรตบโต๊ะและจ้องมองมีนาที่ยังคงไม่สนใจ... เจ้าหล่อนปัดสมุดที่อยู่ตรงหน้ามีนาไปกองอยู่กับพื้น มีนาเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาบ้าง เธอยืนขึ้นจองหน้าเจนจิตรสายตานิ่งสงบ
“เธอคิดสู้เหรอ..”เจนจิตรถามเมื่อเห็นมีนาสบตา สายธารและมินทร์ตาถูกพวกเจนจิตรจับตัวเอาไว้เมื่อคิดช่วยมีนา เจนจิตรง้างมือหมายจะตบ แต่มีนาหลบทัน มีนาผลักหลังของเจนจิตร ที่มุ้งไปตามแรงเหวี่ยงของมือและล้มลง
“เธอนี่ไม่เคยเข็ดนะ... คราวก่อนฉันไม่ได้บอกเธอเหรอ ว่าเป็นยูโดสายดำ ถ้าไม่อยากแขนขาหัก หรือไปนอนกองกับพื้นก็อย่างมายุ้งกับฉัน และรีบปล่อยเพื่อนของฉันด้วย”มีนาพูด ดาวล้อมเดินเข้ามาหมายจะตบเธออีกคน
“สงสัยว่าอยากให้แสดงให้ดูใช่ไหม”มีนาเชิดหน้าให้ดาวล้อมตบ แต่หล่อนลังเล เพราะกลัวว่ามีนาจะเอาจริง
“ทำไมไม่ตบหละ อุตสาห์ยื่นหน้าให้ แต่ขอบอกก่อนนะคนอย่างฉันไม่ทำใครก่อน แต่ถ้าถูกกระทำหละก็ไม่แน่”มีนายิ้ม เมื่อเห็นดาวล้อมวิ่งไปหลบข้างหลังของเจนจิตร
“พวกเธอเนี่ย ไม่ได้เรื่องสักคน”เจนจิตรโมโหหันไม่ต่อว่ากลุ่มเพื่อนสาว สายธารและมินทร์ตาสลับตัวเองออกมาได้ ทั้งสามจึงเก็บของก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“ฝากไว้ก่อนเถอะยายมีนา ฉันต้องเอาคืนแน่ แกต้องเจ็บปวดที่สุด” เจนจิตรพูดขึ้นด้วยความโกรธแค้น
“ดูท่าทางมันก็ไม่เบาเลยนะเจน เราจะเอามันอยู่หรือ”ดาวล้อมมองตาม เจนจิตรหันกลับมามองด้วยสายตาไม่พอใจ ดาวล้อม สร้อยทอง และนิตยา ต่างพากันหลบสายตากันเป็นแถว ๆ
สายธารและมินทร์ตากำลังค้นหาหนังสือเพื่อทำรายงานทั้งสองหอบหนังสือมาวางที่โต๊ะ แต่มีนากำลังแอบหลับ เธอหลับจนสนิท สายธารมองดูถึงกับยิ้มและส่ายหน้า
“มีนาเขาอดนอนขนาดนั้นเชียวหรือ” มินทร์ตาพูดขึ้นด้วยท่างทางสงสัย
“ไม่รู้สิ ฉันว่าปล่อยให้มีนานอนสักพักแล้วกันนะ” สายธารปล่อยให้มีนานอนหลับไปได้พักใหญ่ เธอจึงได้ตื่นขึ้นมา เห็นเพื่อนทั้งสองกำลังวุ่นอยู่กับการทำรายงาน
“ตาหละ!! ทำไมพวกเธอไม่ปลุกฉัน นี่ฉันแอบหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่”มีนาบ่นๆ และรีบทำงานตามเพื่อนทำให้เพื่อนสาวทั้งสองหัวเราะ
“เธอนี่จริงๆ เลยไปอดนอนมาจากไหนกัน”สายธารถาม
“ฉันนอนไม่ค่อยหลับ มันยังรู้สึกแปลกๆ ฉันไม่เคยอยู่แต่ในห้องแคบๆ แบบนี้” มีนาตอบ
“เอาเถอะทนอีกหน่อย เดี๋ยวเธอต้องไปอยู่บ้านฉันแล้ว” สายธารบอกมีนา แต่เธอกับทำหน้าแปลกใจ
“อะไรกัน ฉันยังไม่ได้ตกลงอะไรเลยนะ” มีนาพูดขึ้น แต่สายธารยิ้ม และไม่สนใจ
“เธอมีสิทธิ์ปฏิเสธด้วยหรือ อาทิตย์หน้าเก็บของให้เรียบร้อย” สายธารพูด
“เผด็จการชะมัด” มีนาบ่นไปทำงานไป สายธารหันมายิ้มกับมินทร์ตา
มีนาเดินขึ้นเข้ามาถึงห้องโถงของคอนโด แต่พนักงานต้อนรับเรียกเธอไว้ก่อน
“คุณมีนาค่ะ มีคุณผู้ชายคนหนึ่งรอคุณอยู่ที่ห้องโถงค่ะ” คำพูดที่แสนจะอ่อนหวาน และไพเราะ
“ค่ะ.. ใครหรือค่ะ” มีนาสงสัย พนังงานต้อนรับนำทางเธอเดินไปจึงได้รู้ว่าเป็นคุณหมอสุธี
“ขอบคุณนะค่ะ” มีนาหันไปของคุณพนักงาน และยิ้มทักทายคุณหมอสุธีที่ดูจะดีใจมากเป็นพิเศษ
“คุณมีนา พึ่งกลับจากเรียนหรือครับ” สุธีถามเมื่อสั่งอาหารเรียบร้อยแล้ว
“ค่ะ ฉันมัวแต่ทำรายงานกับเพื่อน คุณหมอรออยู่นานไหมค่ะ” มีนาถาม
“เปล่าครับ เปล่าเลย ผมพึ่งมาถึง”สุธีรีบแก้ตัวจนเป็นพิรุธทำให้มีนาหัวเราะขึ้นมา เพราะความจริงเข้ามารอนานแล้ว
“น่าขำหรือครับ ผมนึกว่าชาตินี้จะไม่มีวันทำให้ใครหัวเราะได้ซะอีก ทุกคนที่เจอผม บ้างก็ป่วยหน้าเศร้า บ้างก็เจ็บร้องไห้ มีแต่คุณที่ยังหัวเราะได้”สุธีพูดขึ้นยิ่งทำให้มีนาขัน เป็นการใหญ่
“ก็คุณเป็นหมอนี่ค่ะ ถ้าไม่เจ็บ ไม่ป่วยใครอย่าจะไปหาคุณกันหละค่ะ” มีนาพูด
“นั้นนะสิ ครับผมไม่น่าจะถามโง่ๆ เลย” สุธีมีท่าทางเขินเล็กน้อย
“อื่อ... แล้วค่าใช้จ่ายสักเท่าไหร่ค่ะ” มีนาถามขึ้น หลังจากที่เงียบไปพักใหญ่
“ค่าใช้จ่ายอะไรครับ อ้อ..ค่ารถใช่ไหม ไม่เป็นไหร่หรอกครับไม่กี่ตังค์เอง”สุธีพูด
“ไม่ได้หรอกค่ะ ดิฉันลำบากใจ”มีนาควักกระเป๋าสตังค์ขึ้นมา
“อย่าเลยครับ เอางี้ถ้างั้นคุณเลี้ยงข้าวผมเป็นการตอบแทบถือว่าหายกัน” สุธีพยายามหาทางออก
“แต่ฉันว่า..มันก็ยังไม่เท่าที่คุณช่วยฉันหรอก”มีนายังคงมีท่าทางเกรงใจ
“ดูท่าทางคุณมีนา คงไม่เคยขอความช่วยเหลือจากใครเลยสินะครับ”สุธีถาม ทำให้มีนาถึงกับมองแปลก ๆ
“ก็ถ้าเรายังช่วยตัวเองได้อยู่ จะต้องไปพึ่งพาคนอื่นให้เขาลำบากทำไมกันหละค่ะ ฉันเชื่อว่าทุกคนต่างต้องใช้ชีวิตที่ลำบากบ้าง สุขบ้างและถ้าทุกคนรับผิดชอบตัวเองให้ดีๆ แล้วหละก็ โลกของเราต้องน่าอยู่กว่านี้อีกเยอะนะค่ะ ฉันไม่อยากเป็นภาระของใครหรอกค่ะ” มีนาตอบใบหน้านิ่งเรียบ จนคนฟังตกตะลึงไปในทันที
“ดีจังครับ ถ้าทุกคนคิดได้อย่างคุณมีนา โลกเราคงน่าอยู่จริงๆ นั้นแหละครับ”สุธีออกความเห็น ทั้งคู่ดูจะเข้ากันได้เป็นอย่างดี มันยิ่งทำให้สุธีประทับใจในตัวของมีนามากกว่าเดิม เขาตกหลุมรักเธอเข้าเสียแล้ว
สายธารเดินออกมาสูดอากาศ นอกระเบียงในชุดนอน เธอเหลือบไปเห็นธนาที่ดูเหมือนใจลอยกำลังมองอะไรบางอย่างที่อยู่ในมือ ใบหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ สายธารค่อยๆ ย่อยเข้าไปใกล้ๆ และใกล้จนกระโดนเข้าใส่พี่ชาย...
“จ๊ะเอ๋ ดูอะไรอยู่น่า...พี่ชายถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว” สายธารกระโดนเข้าใส่จนธนาตกใจ รีบเก็บเข้ากระเป๋า
“เล่นอะไรของเรา พี่ตกใจหมด ดึกดื่นป่านนี้ทำไมไม่เข้านอน พรุ่งนี้ไม่ไปเรียนหรือไง” ธนาพลักหัวน้องสาว
“บ่นเป็นตาแก่ไปได้ พรุ่งนี้ไม่มีเรียนค่ะ อื่อน้องบอกพี่หรือยังค่ะว่าอาทิตย์หน้าบ้านเราจะมีสมาชิกใหม่”สายธารพูด
“สมาชิกใหม่เหรอ ใครเหรอ... ญาติคนไหนหละ”ธนาพยายามคิดอยู่นาน
“ไม่ต้องเดาเหรอค่ะ เพื่อนน้องเอง คุณพ่อกับคุณแม่อนุญาติให้เพื่อนน้องมาอยู่ที่นี่ เธอน่ารักมากเลยนะค่ะ พี่คงชอบเธอแน่นอน สวยจนยายเจนต้องคอยหาเรื่องประจำเลยหละ พี่ชายจำแม่เจนตัวแสบได้ใช่ไหม” สายธารบรรยายจนเห็นภาพ
“อื่อ.. จำได้สิ เจนเพื่อนของเราสมัยมัธยมคนนั้นใช่ไหม” ธนาคิดและถาม
“ค่ะก็คนเดียวที่ตามจีบพี่นั้นแหละ คอยหาเรื่องเพื่อนน้องอยู่เรื่อย แต่ก็สู้ยายมีนาไม่ได้”สายธารพูดไปยิ้มไป
“ตกลงเพื่อนเราจะน่ารัก หรือแก่นแก้วกันแน่ ฮื้อ...ยายน้อง”ธนาสงสัยในพฤติกรรมที่ต่างกันจากที่สายธารเล่า
“ก็ต้องน่ารักสิค่ะ เธอแค่อยู่ชมรมยูโด เท่านั้นเอง ก็แค่ได้สายดำมาด้วยนะ” สายธารพูดหน้าทะเล้น
“ผู้หญิงสวยๆ ที่ไหนเขาเล่นกีฬาแบบนั้นกันหละ”ธนาพูด ก่อนจะยิ้มเมื่อน้องสาวทำท่าทางจริงจังเพื่อยืนยัน
“คงน่ารักมากสินะ พี่ชักอยากจะรู้จักแล้วหละสิ” ธนาพูดขึ้น ทำให้สายธารมองด้วยสายตาหมั่นไส้
“ซิ...อย่าเลย ตัวมีแฟนแล้ว อย่าคิดจะมายุ่งกับเพื่อนน้อง ห้ามโดยเด็ดขาด” สายธารยกมือทำเครื่องหมายกากบาท
“เอ้อ อะไรของเราเมื่อกี้ยังบอกจะแนะนำอยู่เลย” ธนาแปลกใจ
“พี่ก็ต้องไปเลิกกับแม่นิษาอะไรนั้นเสียก่อน ไม่เห็นจะน่ารักตรงไป” สายธารพูดจบก็ทำงอนเดินกลับห้องไป
“นี่..ยายน้องตัวแสบ กลับมาพูดกันให้รู้เรื่องก่อนนะ”สายธารปล่อยให้ธนาฉงนใจกับอามรณ์แปรปวนของน้องสาว เธอไม่ชอบนิษา มาตั้งแต่ครั้งที่เคยทิ้งพี่ชายสุดที่รักของเธอไปมีแฟนใหม่ แล้วไม่นาน เจ้าหล่อนก็กลับมาขอคืนดีกับเขา และธนาก็มักใจอ่อนเสมอ ทั้งสองคบกันนานกว่า 3 ปีแล้ว
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา มีนาขับรถมาจอดที่หน้าบ้านโดยมีสายธาร และพ่อกับแม่ของเธอยืนยิ้มต้อนรับอยู่
“สวัสดีค่ะ คุณลุงคุณป้า สบายดีนะค่ะ” มีนายกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยความอ่อนน้อม ทั้งสองรับไหว้
“ตามสบายนะหนู ไม่ต้องเกรงใจ แต่เดี๋ยวลุงกับป้าต้องเข้าเมือง สายธารดูแลเพื่อนด้วยนะลูก”ผู้เป็นพ่อสั่ง
“อยู่แล้วค่ะ เดี๋ยวสายธารจะพาคนสวนคนใหม่ไปแนะนำกับต้นส้มของเราทุกต้นเลยค่ะ” สายธารพูดทุกคนหัวเราะ
“อื่อ แล้วพี่ชายเรา เขาหายไปไหนซะหละ แม่ไม่เห็นแต่เช้าแล้ว” สายธารมองดูรอบๆ ก่อนจะส่ายหน้า
“ไม่รู้สิค่ะ สงสัยเข้าไปในไร่”สายธารตอบ แต่คนที่ดูจะมีสีหน้าผิดปกติคือมีนา เธอรอจนท่านทั้งสองออกไปแล้ว มีนามองตาเพื่อนสาว เมื่อเดินตามมาถึงห้องพักของเธอ สายธารรู้สึกแปลกๆ
“น้อง เธอเคยบอกฉันไหมว่าเธอมีพี่ชาย” มีนาถาม ก่อนจะเดินไปนั่งที่เตียง
“เอ๋!..ฉัน...ไม่เคยบอกเธองั้นหรือ” สายธารก็ดูจะแปลกใจไม่เบา เธอคิดดูอีกครั้งก่อนจะตอบมีนาอีกที
“คิดๆ แล้ว...รู้สึกว่ายังไม่เคยพูดถึงพี่ชายให้เธอฟัง หิหิ” สายธารทำท่าเขินอายเล็กน้อย
“เธอน่าจะบอกฉันก่อนนะ ถ้าแม่ฉันรู้คงไม่ยอมให้ฉันอยู่ที่นี่แน่”มีนาต่อว่าเพื่อนสาว
“เอาเถอะน่า ฉันรับรองได้ว่าพี่ชายฉันเป็นคนดี ถึงดีมากล้านเปอร์เซ็นเลยอะ”สายธารรับประกันเสียงแข็ง
“อื่อ...ถ้าเธอรับรองขนาดนี้ฉันชื่อใจเธอก็ได้ แต่...ฉันขอไปเดินเล่นได้ไหม”มีนา เปลี่ยนท่าทีทันควัน
“ได้สิ ไร่ของเรายาวไปถึงเนินเขาโน้น ถ้าเธออย่าเดินเล่นฉันจะไปเป็นเพื่อน” สายธารตอบ
“ไม่เป็นไรหรอก เธอมีอะไรต้องทำอีกเยอะไม่ใช่เหรอ ฉันไม่หลงทางหรอกน่า รับรองได้”มีนายืนยังว่าเธอจะไปตามลำพัง
“ก็ได้..รีบกลับมาก่อนอาหารเย็นนะ”สายธารตอบ มีนาดีใจเธอหยิบได้กล้องตัวโปรด แล้วรีบออกจากห้องไป
ธนา สวมชุดคนทำสวนกำลังทำงานในไร่ เดินตรวจตาการทำงานของคนงานด้วยท่าทางที่เอาจริงเอาจัง
“คุณธนา จะกลับมาอยู่ที่ไร่แล้วหรือครับ” เด็กหนุ่มลูกคนงานที่ติดธนา ตั้งแต่เด็กถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“แล้วนายปี่จะมาช่วยเป็นลูกมือฉันหรือหรือเปล่าหละ” ธนาย้อนถามก่อนจะยิ้ม
“แน่นอนครับ ผมนายปี่ จะช่วยงานคุณธนาทุกอย่าง สั่งมาได้เลยครับ” นายปี่ ดีอกดีใจใหญ่
“ถ้างั้นช่วยเรียนจบสูงๆ แล้วกลับมาช่วยงานในไร่ของเรา ตกลงไหม” ธนากุมหัวเด็กหนุ่มอย่างเอ็นดู
ในขณะนั้นมีนา กำลังหามุมดีๆ เก็บเอาภาพสวยๆ เธอเดินถ่ายรูปภาพที่น่าสนใจไปเรื่อยๆ ด้วยความเพลิดเพลิน ใบหน้าของเธอเต็บไปด้วยความสุขสดใส คนงานต่างพากันมองคนแปลกหน้าที่สวยน่ารักจนสะดุดตา
“แม่หนู...จะถ่ายรูปหรือจ๊ะ ทางโน้นมีสวนกุหลาบ และเรือนดอกไม้นะ” ป้าคนหนึ่งชี้บอกทางเธอ
“จริงหรือค่ะ...ขอบคุณคุณป้ามากค่ะ”มีนายิ้มและขอบคุณก่อนจะเดินไปตามทางนั้น
ไม่ไกลนักเธอเดินมาถึงสวนกุหลาบ มีดอกกุหลาบหลากสีสันสวยงามตา ทอดยาวหลายไร่ และข้างๆ เป็นบ้านเรือนกระจกด้านในมีดอกไม้นานาพันธุ์ มันสวยเสียจน อดที่จะถ่ายภาพเก็บไว้ไม่ได้ มีนาเดินถ่ายรูปอย่างเพลิดเพลินมาตลอดทางจนอยู่กลางสวนกุหลาบ มีนาหลับตาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด และจินตนาการความสุขของเธอที่ได้อยู่ท่ามกลางความสวยงามของดอกไม้.. แต่ทันใดนั้นเองน้ำก็สาดกระจายทั่วสวนดอกไม้มีนาลืมตา...
“ว้าย..!! อะไรกันนี่”มีนาถึงกับร้องด้วยความตกใจ หลับหูหลับตาวิ่งออกมาจากสวน จนไม่ได้มองทาง เธอก็เกิดลื่นและกำลังจะล้มโดยไม่ได้ตั้งหลัก เธอตกใจหลับตาสนิทและเตรียมใจที่จะเจ็บตัวแน่ๆ...
...แต่แล้วก็มีมือของใครบางคนมารับเธอไว้ แต่ก็เสียหลักล้มทั้งคู่ เขาดึงเธอไว้ยอมเป็นฝ่ายเจ็บตัวกระแทบกับพื้นแทน
“โอ้ย..!” เสียงของผู้ชายที่มาช่วยเธอไว้ ถูกมีนาล้มทับอยู่บนตัว...ทั้งคู่เปียกพอๆ กัน มีนาหันมองอย่างตกใจอยู่ครู่หนึ่ง...เธอก็พบว่าคนที่ช่วยเธอ กำลังกอดเธอไว้ และสวมชุดคนงานในสวนยังไม่ทันที่จะได้มองหน้าของผู้หวังดี...
“ฮะ!!.. ปล่อยฉันนะ”มีนารีบผลักตัวเองออกจากอ้อมกอดของชายหนุ่มและวิ่งออกมานอกสวน
“นี่คุณ...เดี๋ยวก่อน”ชายหนุ่มยังไม่ทันได้เห็นหน้าว่าเป็นใคร เพราะมัวแต่หลับตา เมื่อลุกขึ้นได้เขาก็วิ่งผ่านกระแสน้ำที่กระจ่ายทั่วสวนตามออกมา
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ