สัญญามันใจ..ยายตัวแสบ
6.2
22)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ธนาจับกระถ่างต้นกุหลาบไปวางไว้ที่เดิม ก่อนที่มีนาจะทำมันตกแตกเสียก่อน เขายิ้มให้กับท่าทางของเธอ
“มีนาไม่ต้องพูดแล้วหละ พี่เข้าใจทุกอย่างแล้ว”ธนาแกล้งทำท่าทางผิดหวัง และเดินออกห่างมีนาไปยังห้องโถง
“พี่..เอ่อนายเข้าใจอะไร ฉันยังไม่ได้พูดอะไรสักอย่าง”มีนาตาขึ้นเสียงและเดินตามมาติดๆ ธนานึกขำ
“ทำไม ไม่เรียกพี่เหมือนเคยหละ”ธนาจ้องมอง มีนาที่กำลังเหล่ตามองมาที่เขา
“ก็สัญญาของเราเป็นโมฆะ เมื่อฉันย้ายออกจากบ้านไร่ นายจำไม่ได้เหรอ”มีนาพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง
“อื่อ..มีนาคงลืมแล้วสินะว่าเรายกเลิกสัญญาฉบับนั้นและทำสัญญาฉบับใหม่ไปก่อนที่มีนาจะหนีไป”ธนาพูด มีนาขมวดคิ้วคิดไตร่ตรองดูอีกครั้งเธอก็นึกขึ้นได้ พวกเราทำสัญญาฉบับใหม่ไปแล้วจริง ๆ
“นั้นสินะ...ลืมไปเลย”มีนาเสียงอ่อนลง เมื่อนึกถึงข้อสัญญาฉบับใหม่ของพวกเขา ในวันที่ทำสัญญาวันนั้น...
“เรามาทำสัญญากันใหม่เถอะ”เสียงของธนาดังอยู่ในความคิดของมีนา
“สัญญาเรื่องอะไรค่ะ”เธอถามด้วยท่าทางสงสัย ธนาไม่มีคำตอบนอกจากรอยยิ้มก่อนจะลงมือเขียนข้อที่หนึ่ง
ข้อที่ 1. ยกเลิกสัญญาสงบศึกเพราะเราจะเป็นมิตรที่ดีต่อกันตลอดไป
ข้อที่ 2. ต่างฝ่ายจะดูแล เอาใจใส่อีกฝ่ายด้วยความจริงใจ
ข้อที่ 3. ห้ามมีความลับระหว่างกันและกัน เราจะเปิดเผยให้อีกฝ่ายรู้ทุกเรื่อง
“โฮ้ สัญญาทาสหรือเปล่านี่ทำไมมันถึงได้โหดแบบนี้ มีนาจะทำได้อย่างไง”เสียงแหลมๆ คัดค้านขึ้นมา
“ขี้โกงชะมัดเลย งั้นเพิ่มข้อที่ 4. ห้ามอีกฝ่ายแต่งงานก่อน จนกว่ามีนาจะมีแฟนและแต่งงานก่อน”
“เอาอย่างนั้นเหรอ พี่ว่าคงพากันขึ้นคานทองแน่นอน ถ้างั้นข้อสุดท้าย”
“ข้อ 5. แฟนของอีกฝ่ายจะต้องผ่านการยอมรับ จากอีกฝ่ายเสียก่อนถึงจะคบกันได้”
ธนาจับมือของมีนาเมื่อเห็นว่าเธอเงียบไปนาน มีนาถึงได้สติ และเห็นรอยยิ้มของธนากับสายตาคู่นั้น
“ฉันทำสัญญาฉบันนั้นไปได้อย่างไงนะ สัญญาแบบนั้นมันเป็นคำผูกมัดแท้ๆ”มีนาพูดขึ้นก่อนจะทำหน้าสลด
“พี่ขอโทษนะ มีนาให้อภัยพี่นะ เพราะพี่ตั้งใจที่จะให้มันเป็นสัญญาผูกมัดใจของมีนาเอง พี่ไม่คิดว่า มันจะทำร้ายให้มีนาต้องเจ็บปวด หรือเสียใจขนาดนี้”ธนามองตาของเธอ ด้วยคนสำนึกผิด ทำให้มีนาใจอ่อน
“ใครจะทำอะไรมันไม่สำคัญหรอกค่ะ ถ้าเขาไม่มีอิทธิพลกับความรู้สึกของคนๆ นั้น”มีนาพูดขึ้น ทำเอาธนาปล่อยมือของเธอ เพราะคำพูดนั้นทำให้เขาคิดว่า เธอกำลังจะยืนยันคำพูดเดิม เขาทำหน้าเศร้าและลุกยืนหมายจะเดินหนี
“แต่..เพราะมีนา ดึงพี่เข้ามาในความรู้สึกมากเกินไป มันถึงทำให้มีนาเจ็บปวดเอง ทั้งๆ ที่รู้ว่าพี่มีคนรักอยู่แล้ว”
“มีนา!..”ธนาพูดขึ้นด้วยความดีใจ และโผเข้ากอดเธออย่างลืมตัว จนมีนาตกใจ อ้อมกอดของเขาอบอุ่นจนเธอรู้สึกดี มือที่ลูบเส้นผมของเธอเบาๆ มันทำให้เธออุ่นใจมาก จนไม่อยากปล่อยมือจากอ้อมแขนของเขา
เหลือสองวันสุดท้ายที่พวกเขาทั้งหลายดำเนินโครงการจนสำเร็จทุกคนต่างทำงานด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข สุธีและสายธารช่วยกันท่าสีด้านนอก เจนจิตรและเพื่อนช่วยกันเร่งเพื่อนผู้ชายทำงานดูจะสนุกสนาน
“มีนา พี่ขอหนังสือกองนั้นหน่อยสิ”ธนาตะโกนบอกมีนา ไม่นานเธอก็ถือหนังสือกองโตเดินเข้ามา
“เอ้า!!” ธนาตกใจรีบวิ่งเข้าไปช่วยยกและทำหน้าดุ มีนาฉีกยิ้มทำหน้าสำนึกผิด เพราะกลัวว่าจะถูกธนาตำหนิเข้า
“ทำไมถือมาเยอะขนาดนี้หละ ทะยอยถือมาก็ได้นี่”ธนาบ่นสีหน้าดุ ด้วยความเป็นห่วงเธอทำหน้ายักษ์ใส่ธนาเมื่อเขาหันหลังให้ และรีบฝืนยิ้มแทบไม่ทันเมื่อธนาหันกลับมา เพราะเขารู้ทัน เธอต้องกำลังทำท่าลิงหลอกเจ้าอยู่แน่นอน
“ทำท่าเป็นลิงไปได้ ไปนั่งดูพี่อยู่ตรงโน้นดีกว่า”ธนายิ้มเมื่อมีนาทำหน้าจ๋อยที่ถูกจับได้เธอถูกลากให้มานั่งที่โต๊ะ มีนานึกสนุก เธอชี้นิ้วสั่งธนาทำโน้น ทำนี่ เปลี่ยนตรงโน้น ย้ายไปตรงนี้ จนธนานั่งหอบไม่เป็นท่า มีนาแอบยิ้ม
“ว้า... หมดแรงซะแล้ว ฮิฮิ” มีนาพูดและแอบหัวเราะเบาๆ
“อ้อ...นี่แกล้งกันอีกแล้วใช่ไหม” กว่าเขาจะรู้ว่าถูกเธอแกล้งก็เหนื่อยแทบแย่ ธนาวิ่งไล่จับมีนาทั้งสองจึงแกล้งกันไปมาเสียงหัวเราะดังรั้นจนเป็นที่สนใจ ทุกคนที่มองต่างอมยิ้มด้วยความดีใจกับทั้งคู่ที่เข้าใจกันซะที
วันที่ 7 ตามแผนของโครงการทุกอย่างดำเนินการเสร็จเรียบร้อยพอดี เวลา 08:00 น.ของวันนั้นนักศึกษาหญิงนำโดยเจนจิตร แต่งเป็นซุ้มที่ทางเข้า โดยใช้ลิปปิ้นสีแดงกั้นประตูเอาไว้ และชาวบ้านนำดอกไม้มาช่วยประดับสถานที่เพื่อให้สวยงามเป็นพิธีเปิดงานส่งมอบห้องสมุดแก่ครูใหญ่และนักเรียนในเวลา 09:45 น.
“ทุกอย่าง โอเค ไหม”มีนาเดินเข้ามาถามเจนจิตรที่ดูจะตั้งใจทำเป็นพิเศษ เมื่อเทียบกับ 6 วันที่ผ่านมา
“ถึงฉันจะไม่เก่งด้านแบกหาม แต่เรื่องตกแต่งนี่ฉันไม่เคยแพ้ใครอยู่แล้ว”ได้ทีทั้งคุยทั้งโม ทำให้มีนานึกขัน
“ก็ยังดีนะ ที่เธอเอาดีสักเรื่อง นึกว่าจะไม่ได้เรื่องสักอย่าง”มีนาพูดจบ ก็เดินหัวเราะเมื่อเห็นเจนจิตรทำตาเขียวใส่
“ถ้าสองคนนั้นตบกันจริงๆ เธอจะช่วยใครเหรอ”มินทร์ตาถามสายธาร ทั้งสองยืนมองอยู่นานแล้ว
“ไม่หรอก สองคนนั้นเขาก็แกล้งแย่กันไปมาอย่างนั้นเองแหละ ลับหลังพวกเราเขาช่วยเหลือกันตลอดแหละ”
“ใช่ๆ ฉันก็เคยเห็นนะ”ดาวล้อมเข้ามาร่วมเม้าด้วยคน ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก่อนจะมีพิธีเปิด
เจนจิตรถือพานที่มีกรรไกร วันนี้เป็นวันที่เธอได้แต่งตัวสวยๆ สักที เธอยืนยิ้มอยู่ที่หน้าประตู คนอื่น แยกกันไปทำตามหน้าที่ มีนาขออาสาเป็นช่างถ่ายภาพ และทุกคนก็เห็นว่าเป็นเรื่องจริง เมื่อลับหลังพวกเพื่อนๆ ไปแล้วมีนา และเจนจิตรออกจะเข้ากันได้ดี มีนาถ่ายรูปส่วนเจนจิตรก็เอาแต่แอ็คท่าทาง สลับกันถ่ายอยู่อย่างนั้น
“ฉันเชื่อที่เธอพูดแล้วหละ”มินทร์ตาอมยิ้มเมื่อมองไปที่เจนจิตรและมีนา
“เชื่อเรื่องอะไรกันอยู่จ๊ะสาวๆ”สุธีและธนาเดินเข้ามา และมองตามสายตาของทั้งสองก็พอใจเข้าใจแล้ว
“ดูสองคนนั้นน่ารักดีนะ”ธนาพูดและยิ้มสายตาไม่ห่างไปจากมีนาเลยสักครั้ง สายธารเดินมาขวางเอาไว้
“พี่ชาย คิดหรือว่าแม่เขาจะยอมให้ลูกสาวคนเดียวมาอยู่กับพี่ที่นี”สายธารพูดขึ้นทำให้ธนาคิดถึงข้อนี้ขึ้นมา
“ฮื้อนั้นสินะ พี่ก็ลืมไปเลย แต่เรื่องนี่เอาไว้ก่อนเถอะเวลายังอีกยาวไกล”ธนาถอนหายใจใหญ่ ก่อนจะรีบเปลี่ยนความสนใจไปยังครูใหญ่ ชาวบ้าน และนักเรียน ที่เดินมาถึงหน้าประตูห้องสมุด ธนาชี้แจงรายละเอียดให้ครูใหญ่
“ขอบคุณมานะครูธนา ผมดีใจที่ได้ร่วมงานกับคุณ”ครูใหญ่จับมือกับธนาแสดงความยินดีต่อกัน ก่อนที่ครูใหญ่จะขึ้นไปกล่าวโอวาสและขอบคุณผู้ที่มีส่วนร่วมในความสำเร็จ ครั้งนี้
“มันอาจจะดูว่าไม่ใหญ่โตมากมานนัก แต่เท่านี้ก็นับว่าดีที่สุดแล้ว พวกเราชาวดอยตุงจะได้มีห้องสมุด เพื่อความรู้ และการพัฒนาที่ดี เพื่อสร้างสรรสังคมที่ดีในอนาคต ลูกหลานของเราคืออนาคตของชาติ คือผ้าขาวที่เราจะช่วยกันสร้างสรรแต่สิ่งดีๆ ให้กับพวกเขา ผมในฐานะตัวแทน ขอขอบพระคุณทุกท่านที่มีส่วนในครั้งนี้” ครูใหญ่กล่าวจบ เสียงตบมือและสีหน้าแห่งความยินดีแสดงออกเป็นรอยยิ้มที่สดใส มีนามองผ่านเลนกล้องก็รู้สึกประทับใจ
เจนจิตรยืนรออยู่ที่หน้าประตูทางเข้า ครูใหญ่เดินมาถึงหล่อนจึงยื่นพานที่ถือกรรไกรให้ด้วยรอยยิ้ม ครูใหญ่หยิบขึ้นมาและตัดเข้าที่ลิปปิ้น เสียงปรบมือและเสียงร้องดั่งขึ้นเฮฮาใหญ่ นักศึกษาทั้ง 20 ชีวิตต่างกอดคอกันด้วยความยินดี
“จบลงด้วยดีว่าไหม”สุธีกระซิบข้างหูสายธาร เธอยิ้มและพยักหน้าเพราะคำตอบอยู่ตรงหน้าของเธอ ความเหนื่อยล้าที่พวกเราสร้างมันก็จบสิ้นสักที ต่อไปนี้ที่ตรงนี้จะมีแต่ความสุข ความรู้ และอีกหลายๆ อย่าง
“ถ่ายรูปให้พี่บ้างสิ”ธนาพูดอยู่ข้างหูของมีนาที่กำลังยืนยิ้มอยู่ด้วยท่าทางที่มีความสุข
“ไม่หละ จะถ่ายไปทำไม”มีนาแกล้งพูดแก้อาการเขินของเธอ ธนาทำหน้าผิดหวัง มีนากดชัดเตอร์และหัวเราะขึ้น
“โอ้ ไหนบอกจะไม่ถ่ายหละ ขอดูหน่อยสิ”ธนาวิ่งเข้าไปขอดูรูป เพราะท่าทางเมื่อกี้เขากำลังทำหน้าเศร้า และไม่ทันตั้งตัว แต่มีนาวิ่งหนีและหัวเราะชอบใจไม่ยอมให้เขาดู
ถึงนาที ที่ต้องจากลา เมื่อภาระกิจของกลุ่มนักศึกษาได้จบสิ้นลง ครู ชาวบ้านแห่งดอยตุง รวมทั้งเด็กนักเรียนต่างพากันมาส่ง พวกเขา ทุกคนจากกันด้วยสีหน้ายินดี ยกเว้นแต่มีนา และธนา ทั้งสองสลับกันแอบมอง อีกฝ่ายอยู่บ่อยๆ โดยที่ไม่มีใครคิดที่จะพูดอะไรก่อน
“เอ่อ...”ทั้งสองพูดขึ้นพร้อมกัน มีนายิ้มและให้ธนาพูดก่อน ธนาก็เกี่ยงให้มีนาพูดก่อน
“นี่..จะกลับไหมยายมีนา เดี๋ยวก็ทิ้งไว้ให้อยู่ด้วยกันซะที่นี่เลย”แต่คนที่พูดขึ้นกับไม่ใช่ทั้งคู่ เจนจิตรตะโกนมา
“มีนาไปก่อนน่ะ ถ้าไม่อยากให้มีนากับไปเรียกนายอีก ก็อย่าปล่อยให้รอเก้อหละ”มีนาพูดก่อนจะเดินไป
“มีนา เดี๋ยวก่อน”ธนาเรียก มีนาหันมามองทำหน้าฉงน อะไรอยู่ในมือข้างหลังของธนา มีนายิ้มให้เขา
“อื่อ...เอาเจ้านี้กลับไปด้วยสิ มันคงคิดถึงมีนา”ธนายื่นกระถ่างกุหลาบ อันที่เธอหามันแทบรื้อห้อง
“ขอบคุณค่ะ มีนาสัญญาจะไม่ทำมันหายไปไหนอีก”มีนายิ้มขึ้นด้วยท่าทางดีใจ เธอสบตาเขานัยตาแห่งความเศร้า มีนารู้สึกใจหาย แต่เธอจำต้องเดินจากเขาไปด้วยรอยยิ้ม เพราะเสียงของเจนจิตรทำเอาบรรยกาศซึ้งๆ หายไป
“หุบปากสัก 5 นาที จะลงแดงตายหรือเปล่ายะ”มีนาทำค้อนใส่เจนจิตร หล่อนหัวเราะชอบใจ มันกลายเป็นเรื่องตลกของทุกคนไปทันทีเมื่อสองเสือประชัดหน้ากันที่ไหร่เป็นต้องมีกัดกันทุกครั้ง รถออกตัวไป ธนายืนมองจนรถทัวร์ขับหายไปลับตา มีนาเอาแต่มองกุหลาบด้วยท่าทางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จนมินทร์ตาสงสัย
“พี่ธนาให้มาเหรอ” มีนามองสบตาเพื่อนสาวก่อนจะส่ายหน้า และยิ้มต่อไป
“ไม่หรอก มันเป็นของฉันที่หายไป”มีนาตอบ สายธารได้ยินก็หันกลับมามอง และทำให้เธอนึกถึงวันนั้น
“ใช่ของที่เธอไปหาวันนั้นหรือเปล่า”สายธารถามขึ้น ภาพที่มีนาแทบจะร้องไห้เมื่อหามันไม่เจอ ก็คือต้นนี่หรือ
“อื้อ.. เธอยังจำได้ด้วยเหรอ”มีนาพยักหน้า และเมื่อเธอนึกถึงมันขึ้นมาก็รู้สึกขายหน้าสายธารนัก
“เราก็นึกว่าของมีค่าอะไร หลังจากที่เธอไปฉันก็ให้แม่บ้านเข้ามาหาถึง 2-3 รอบ”สายธารยิ้ม
“อ้อ..ขอบใจมากนะ” มีนาพูดก่อนจะหันไปมองต้นไม้นั้น มันเป็นตัวแทนของธนา เมื่อมีมันอยู่เธอก็อุ่นใจ
“มีนาไม่ต้องพูดแล้วหละ พี่เข้าใจทุกอย่างแล้ว”ธนาแกล้งทำท่าทางผิดหวัง และเดินออกห่างมีนาไปยังห้องโถง
“พี่..เอ่อนายเข้าใจอะไร ฉันยังไม่ได้พูดอะไรสักอย่าง”มีนาตาขึ้นเสียงและเดินตามมาติดๆ ธนานึกขำ
“ทำไม ไม่เรียกพี่เหมือนเคยหละ”ธนาจ้องมอง มีนาที่กำลังเหล่ตามองมาที่เขา
“ก็สัญญาของเราเป็นโมฆะ เมื่อฉันย้ายออกจากบ้านไร่ นายจำไม่ได้เหรอ”มีนาพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง
“อื่อ..มีนาคงลืมแล้วสินะว่าเรายกเลิกสัญญาฉบับนั้นและทำสัญญาฉบับใหม่ไปก่อนที่มีนาจะหนีไป”ธนาพูด มีนาขมวดคิ้วคิดไตร่ตรองดูอีกครั้งเธอก็นึกขึ้นได้ พวกเราทำสัญญาฉบับใหม่ไปแล้วจริง ๆ
“นั้นสินะ...ลืมไปเลย”มีนาเสียงอ่อนลง เมื่อนึกถึงข้อสัญญาฉบับใหม่ของพวกเขา ในวันที่ทำสัญญาวันนั้น...
“เรามาทำสัญญากันใหม่เถอะ”เสียงของธนาดังอยู่ในความคิดของมีนา
“สัญญาเรื่องอะไรค่ะ”เธอถามด้วยท่าทางสงสัย ธนาไม่มีคำตอบนอกจากรอยยิ้มก่อนจะลงมือเขียนข้อที่หนึ่ง
ข้อที่ 1. ยกเลิกสัญญาสงบศึกเพราะเราจะเป็นมิตรที่ดีต่อกันตลอดไป
ข้อที่ 2. ต่างฝ่ายจะดูแล เอาใจใส่อีกฝ่ายด้วยความจริงใจ
ข้อที่ 3. ห้ามมีความลับระหว่างกันและกัน เราจะเปิดเผยให้อีกฝ่ายรู้ทุกเรื่อง
“โฮ้ สัญญาทาสหรือเปล่านี่ทำไมมันถึงได้โหดแบบนี้ มีนาจะทำได้อย่างไง”เสียงแหลมๆ คัดค้านขึ้นมา
“ขี้โกงชะมัดเลย งั้นเพิ่มข้อที่ 4. ห้ามอีกฝ่ายแต่งงานก่อน จนกว่ามีนาจะมีแฟนและแต่งงานก่อน”
“เอาอย่างนั้นเหรอ พี่ว่าคงพากันขึ้นคานทองแน่นอน ถ้างั้นข้อสุดท้าย”
“ข้อ 5. แฟนของอีกฝ่ายจะต้องผ่านการยอมรับ จากอีกฝ่ายเสียก่อนถึงจะคบกันได้”
ธนาจับมือของมีนาเมื่อเห็นว่าเธอเงียบไปนาน มีนาถึงได้สติ และเห็นรอยยิ้มของธนากับสายตาคู่นั้น
“ฉันทำสัญญาฉบันนั้นไปได้อย่างไงนะ สัญญาแบบนั้นมันเป็นคำผูกมัดแท้ๆ”มีนาพูดขึ้นก่อนจะทำหน้าสลด
“พี่ขอโทษนะ มีนาให้อภัยพี่นะ เพราะพี่ตั้งใจที่จะให้มันเป็นสัญญาผูกมัดใจของมีนาเอง พี่ไม่คิดว่า มันจะทำร้ายให้มีนาต้องเจ็บปวด หรือเสียใจขนาดนี้”ธนามองตาของเธอ ด้วยคนสำนึกผิด ทำให้มีนาใจอ่อน
“ใครจะทำอะไรมันไม่สำคัญหรอกค่ะ ถ้าเขาไม่มีอิทธิพลกับความรู้สึกของคนๆ นั้น”มีนาพูดขึ้น ทำเอาธนาปล่อยมือของเธอ เพราะคำพูดนั้นทำให้เขาคิดว่า เธอกำลังจะยืนยันคำพูดเดิม เขาทำหน้าเศร้าและลุกยืนหมายจะเดินหนี
“แต่..เพราะมีนา ดึงพี่เข้ามาในความรู้สึกมากเกินไป มันถึงทำให้มีนาเจ็บปวดเอง ทั้งๆ ที่รู้ว่าพี่มีคนรักอยู่แล้ว”
“มีนา!..”ธนาพูดขึ้นด้วยความดีใจ และโผเข้ากอดเธออย่างลืมตัว จนมีนาตกใจ อ้อมกอดของเขาอบอุ่นจนเธอรู้สึกดี มือที่ลูบเส้นผมของเธอเบาๆ มันทำให้เธออุ่นใจมาก จนไม่อยากปล่อยมือจากอ้อมแขนของเขา
เหลือสองวันสุดท้ายที่พวกเขาทั้งหลายดำเนินโครงการจนสำเร็จทุกคนต่างทำงานด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข สุธีและสายธารช่วยกันท่าสีด้านนอก เจนจิตรและเพื่อนช่วยกันเร่งเพื่อนผู้ชายทำงานดูจะสนุกสนาน
“มีนา พี่ขอหนังสือกองนั้นหน่อยสิ”ธนาตะโกนบอกมีนา ไม่นานเธอก็ถือหนังสือกองโตเดินเข้ามา
“เอ้า!!” ธนาตกใจรีบวิ่งเข้าไปช่วยยกและทำหน้าดุ มีนาฉีกยิ้มทำหน้าสำนึกผิด เพราะกลัวว่าจะถูกธนาตำหนิเข้า
“ทำไมถือมาเยอะขนาดนี้หละ ทะยอยถือมาก็ได้นี่”ธนาบ่นสีหน้าดุ ด้วยความเป็นห่วงเธอทำหน้ายักษ์ใส่ธนาเมื่อเขาหันหลังให้ และรีบฝืนยิ้มแทบไม่ทันเมื่อธนาหันกลับมา เพราะเขารู้ทัน เธอต้องกำลังทำท่าลิงหลอกเจ้าอยู่แน่นอน
“ทำท่าเป็นลิงไปได้ ไปนั่งดูพี่อยู่ตรงโน้นดีกว่า”ธนายิ้มเมื่อมีนาทำหน้าจ๋อยที่ถูกจับได้เธอถูกลากให้มานั่งที่โต๊ะ มีนานึกสนุก เธอชี้นิ้วสั่งธนาทำโน้น ทำนี่ เปลี่ยนตรงโน้น ย้ายไปตรงนี้ จนธนานั่งหอบไม่เป็นท่า มีนาแอบยิ้ม
“ว้า... หมดแรงซะแล้ว ฮิฮิ” มีนาพูดและแอบหัวเราะเบาๆ
“อ้อ...นี่แกล้งกันอีกแล้วใช่ไหม” กว่าเขาจะรู้ว่าถูกเธอแกล้งก็เหนื่อยแทบแย่ ธนาวิ่งไล่จับมีนาทั้งสองจึงแกล้งกันไปมาเสียงหัวเราะดังรั้นจนเป็นที่สนใจ ทุกคนที่มองต่างอมยิ้มด้วยความดีใจกับทั้งคู่ที่เข้าใจกันซะที
วันที่ 7 ตามแผนของโครงการทุกอย่างดำเนินการเสร็จเรียบร้อยพอดี เวลา 08:00 น.ของวันนั้นนักศึกษาหญิงนำโดยเจนจิตร แต่งเป็นซุ้มที่ทางเข้า โดยใช้ลิปปิ้นสีแดงกั้นประตูเอาไว้ และชาวบ้านนำดอกไม้มาช่วยประดับสถานที่เพื่อให้สวยงามเป็นพิธีเปิดงานส่งมอบห้องสมุดแก่ครูใหญ่และนักเรียนในเวลา 09:45 น.
“ทุกอย่าง โอเค ไหม”มีนาเดินเข้ามาถามเจนจิตรที่ดูจะตั้งใจทำเป็นพิเศษ เมื่อเทียบกับ 6 วันที่ผ่านมา
“ถึงฉันจะไม่เก่งด้านแบกหาม แต่เรื่องตกแต่งนี่ฉันไม่เคยแพ้ใครอยู่แล้ว”ได้ทีทั้งคุยทั้งโม ทำให้มีนานึกขัน
“ก็ยังดีนะ ที่เธอเอาดีสักเรื่อง นึกว่าจะไม่ได้เรื่องสักอย่าง”มีนาพูดจบ ก็เดินหัวเราะเมื่อเห็นเจนจิตรทำตาเขียวใส่
“ถ้าสองคนนั้นตบกันจริงๆ เธอจะช่วยใครเหรอ”มินทร์ตาถามสายธาร ทั้งสองยืนมองอยู่นานแล้ว
“ไม่หรอก สองคนนั้นเขาก็แกล้งแย่กันไปมาอย่างนั้นเองแหละ ลับหลังพวกเราเขาช่วยเหลือกันตลอดแหละ”
“ใช่ๆ ฉันก็เคยเห็นนะ”ดาวล้อมเข้ามาร่วมเม้าด้วยคน ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก่อนจะมีพิธีเปิด
เจนจิตรถือพานที่มีกรรไกร วันนี้เป็นวันที่เธอได้แต่งตัวสวยๆ สักที เธอยืนยิ้มอยู่ที่หน้าประตู คนอื่น แยกกันไปทำตามหน้าที่ มีนาขออาสาเป็นช่างถ่ายภาพ และทุกคนก็เห็นว่าเป็นเรื่องจริง เมื่อลับหลังพวกเพื่อนๆ ไปแล้วมีนา และเจนจิตรออกจะเข้ากันได้ดี มีนาถ่ายรูปส่วนเจนจิตรก็เอาแต่แอ็คท่าทาง สลับกันถ่ายอยู่อย่างนั้น
“ฉันเชื่อที่เธอพูดแล้วหละ”มินทร์ตาอมยิ้มเมื่อมองไปที่เจนจิตรและมีนา
“เชื่อเรื่องอะไรกันอยู่จ๊ะสาวๆ”สุธีและธนาเดินเข้ามา และมองตามสายตาของทั้งสองก็พอใจเข้าใจแล้ว
“ดูสองคนนั้นน่ารักดีนะ”ธนาพูดและยิ้มสายตาไม่ห่างไปจากมีนาเลยสักครั้ง สายธารเดินมาขวางเอาไว้
“พี่ชาย คิดหรือว่าแม่เขาจะยอมให้ลูกสาวคนเดียวมาอยู่กับพี่ที่นี”สายธารพูดขึ้นทำให้ธนาคิดถึงข้อนี้ขึ้นมา
“ฮื้อนั้นสินะ พี่ก็ลืมไปเลย แต่เรื่องนี่เอาไว้ก่อนเถอะเวลายังอีกยาวไกล”ธนาถอนหายใจใหญ่ ก่อนจะรีบเปลี่ยนความสนใจไปยังครูใหญ่ ชาวบ้าน และนักเรียน ที่เดินมาถึงหน้าประตูห้องสมุด ธนาชี้แจงรายละเอียดให้ครูใหญ่
“ขอบคุณมานะครูธนา ผมดีใจที่ได้ร่วมงานกับคุณ”ครูใหญ่จับมือกับธนาแสดงความยินดีต่อกัน ก่อนที่ครูใหญ่จะขึ้นไปกล่าวโอวาสและขอบคุณผู้ที่มีส่วนร่วมในความสำเร็จ ครั้งนี้
“มันอาจจะดูว่าไม่ใหญ่โตมากมานนัก แต่เท่านี้ก็นับว่าดีที่สุดแล้ว พวกเราชาวดอยตุงจะได้มีห้องสมุด เพื่อความรู้ และการพัฒนาที่ดี เพื่อสร้างสรรสังคมที่ดีในอนาคต ลูกหลานของเราคืออนาคตของชาติ คือผ้าขาวที่เราจะช่วยกันสร้างสรรแต่สิ่งดีๆ ให้กับพวกเขา ผมในฐานะตัวแทน ขอขอบพระคุณทุกท่านที่มีส่วนในครั้งนี้” ครูใหญ่กล่าวจบ เสียงตบมือและสีหน้าแห่งความยินดีแสดงออกเป็นรอยยิ้มที่สดใส มีนามองผ่านเลนกล้องก็รู้สึกประทับใจ
เจนจิตรยืนรออยู่ที่หน้าประตูทางเข้า ครูใหญ่เดินมาถึงหล่อนจึงยื่นพานที่ถือกรรไกรให้ด้วยรอยยิ้ม ครูใหญ่หยิบขึ้นมาและตัดเข้าที่ลิปปิ้น เสียงปรบมือและเสียงร้องดั่งขึ้นเฮฮาใหญ่ นักศึกษาทั้ง 20 ชีวิตต่างกอดคอกันด้วยความยินดี
“จบลงด้วยดีว่าไหม”สุธีกระซิบข้างหูสายธาร เธอยิ้มและพยักหน้าเพราะคำตอบอยู่ตรงหน้าของเธอ ความเหนื่อยล้าที่พวกเราสร้างมันก็จบสิ้นสักที ต่อไปนี้ที่ตรงนี้จะมีแต่ความสุข ความรู้ และอีกหลายๆ อย่าง
“ถ่ายรูปให้พี่บ้างสิ”ธนาพูดอยู่ข้างหูของมีนาที่กำลังยืนยิ้มอยู่ด้วยท่าทางที่มีความสุข
“ไม่หละ จะถ่ายไปทำไม”มีนาแกล้งพูดแก้อาการเขินของเธอ ธนาทำหน้าผิดหวัง มีนากดชัดเตอร์และหัวเราะขึ้น
“โอ้ ไหนบอกจะไม่ถ่ายหละ ขอดูหน่อยสิ”ธนาวิ่งเข้าไปขอดูรูป เพราะท่าทางเมื่อกี้เขากำลังทำหน้าเศร้า และไม่ทันตั้งตัว แต่มีนาวิ่งหนีและหัวเราะชอบใจไม่ยอมให้เขาดู
ถึงนาที ที่ต้องจากลา เมื่อภาระกิจของกลุ่มนักศึกษาได้จบสิ้นลง ครู ชาวบ้านแห่งดอยตุง รวมทั้งเด็กนักเรียนต่างพากันมาส่ง พวกเขา ทุกคนจากกันด้วยสีหน้ายินดี ยกเว้นแต่มีนา และธนา ทั้งสองสลับกันแอบมอง อีกฝ่ายอยู่บ่อยๆ โดยที่ไม่มีใครคิดที่จะพูดอะไรก่อน
“เอ่อ...”ทั้งสองพูดขึ้นพร้อมกัน มีนายิ้มและให้ธนาพูดก่อน ธนาก็เกี่ยงให้มีนาพูดก่อน
“นี่..จะกลับไหมยายมีนา เดี๋ยวก็ทิ้งไว้ให้อยู่ด้วยกันซะที่นี่เลย”แต่คนที่พูดขึ้นกับไม่ใช่ทั้งคู่ เจนจิตรตะโกนมา
“มีนาไปก่อนน่ะ ถ้าไม่อยากให้มีนากับไปเรียกนายอีก ก็อย่าปล่อยให้รอเก้อหละ”มีนาพูดก่อนจะเดินไป
“มีนา เดี๋ยวก่อน”ธนาเรียก มีนาหันมามองทำหน้าฉงน อะไรอยู่ในมือข้างหลังของธนา มีนายิ้มให้เขา
“อื่อ...เอาเจ้านี้กลับไปด้วยสิ มันคงคิดถึงมีนา”ธนายื่นกระถ่างกุหลาบ อันที่เธอหามันแทบรื้อห้อง
“ขอบคุณค่ะ มีนาสัญญาจะไม่ทำมันหายไปไหนอีก”มีนายิ้มขึ้นด้วยท่าทางดีใจ เธอสบตาเขานัยตาแห่งความเศร้า มีนารู้สึกใจหาย แต่เธอจำต้องเดินจากเขาไปด้วยรอยยิ้ม เพราะเสียงของเจนจิตรทำเอาบรรยกาศซึ้งๆ หายไป
“หุบปากสัก 5 นาที จะลงแดงตายหรือเปล่ายะ”มีนาทำค้อนใส่เจนจิตร หล่อนหัวเราะชอบใจ มันกลายเป็นเรื่องตลกของทุกคนไปทันทีเมื่อสองเสือประชัดหน้ากันที่ไหร่เป็นต้องมีกัดกันทุกครั้ง รถออกตัวไป ธนายืนมองจนรถทัวร์ขับหายไปลับตา มีนาเอาแต่มองกุหลาบด้วยท่าทางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จนมินทร์ตาสงสัย
“พี่ธนาให้มาเหรอ” มีนามองสบตาเพื่อนสาวก่อนจะส่ายหน้า และยิ้มต่อไป
“ไม่หรอก มันเป็นของฉันที่หายไป”มีนาตอบ สายธารได้ยินก็หันกลับมามอง และทำให้เธอนึกถึงวันนั้น
“ใช่ของที่เธอไปหาวันนั้นหรือเปล่า”สายธารถามขึ้น ภาพที่มีนาแทบจะร้องไห้เมื่อหามันไม่เจอ ก็คือต้นนี่หรือ
“อื้อ.. เธอยังจำได้ด้วยเหรอ”มีนาพยักหน้า และเมื่อเธอนึกถึงมันขึ้นมาก็รู้สึกขายหน้าสายธารนัก
“เราก็นึกว่าของมีค่าอะไร หลังจากที่เธอไปฉันก็ให้แม่บ้านเข้ามาหาถึง 2-3 รอบ”สายธารยิ้ม
“อ้อ..ขอบใจมากนะ” มีนาพูดก่อนจะหันไปมองต้นไม้นั้น มันเป็นตัวแทนของธนา เมื่อมีมันอยู่เธอก็อุ่นใจ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ