สัญญามันใจ..ยายตัวแสบ
10)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความที่สนามบิน ธนาเดินถือกระเป๋าและมาหยุดที่ร้านเสื้อผ้าเขาหายไปครู่หนึ่งออกมาพร้อมชุดที่เป็นตัวตนของ ธนาจริงๆ เสียที มีนายิ้มไม่หยุดกับท่าทางทะเล้นของเขา
“ชอบเหรอ...ชอบแบบไหนหละ แต่พี่ว่าชุดคนงานคนไม่เหมาะกับหญิงสาวแสนสวยเหรอนะ”ธนาพูดขึ้น และถือกระเป๋าเดินต่อ มีนารู้สึกมีความสุขและสนุกมากเธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาเป็นคนเดียวกับผู้ชายที่เธอคิดว่าเฉยชา และนิสัยแย่ๆ คนนั้น ธนาหันกับมาส่งยิ้มให้เธอ และเสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น ธนายืนมองอยู่ครู่หนึ่ง
“ไม่รับหรือค่ะ” มีนาแปลกใจเมื่อเห็นธนากดสายทิ้ง เขาแอบเปิดโทรศัพท์เพราะกลัวว่าจะดังขึ้นมาอีก
“อ้อ..เดี๋ยวพี่ค่อยโทรกลับ ที่นี่เสียงดังสัญญาณก็ไม่ดีหรอกนะ”ธนาตอบ ตะกุกตะกักก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย
“แล้วกลับมาอยู่ที่บ้านอีกไหม”ธนาถามและเห็นว่ามีนาเงียบไปนาน เธอหันไปมองดวงตากลมที่เฝ้ารอคำตอบ
“คงต้องถามแม่ก่อน ที่บ้านมีนาสอนให้ช่วยตัวเองก่อน ที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นเสมอค่ะ”มีนายิ้ม
“เรือนดอกไม้คงคิดถึงมีนา ดอกไม้พวกนั้นมันคงจะรอให้มีนาไปพูดกับพวกมัน”ธนาพูดขึ้น มีนาแทบจะเห็นภาพดอกไม้เหล่านั้นเธอหลับตาและยิ้มขึ้นมา ธนาเดาได้ทันทีว่าเธอกำลังจิตนาการถึงเรือนดอกไม้
“ท่านผู้โดยสายที่จะเดินทางจากเชียงใหม่ไปกรุงเทพเชิญไปที่ห้องผู้โดยสารได้แล้วค่ะ”เสียงประกาดดังขึ้นนั้นหมายความว่ามีนาต้องไปแล้ว
“ว้า...หมดเวลาสนุกแล้วหละ”ธนาพูดก่อนจะลุกขึ้นและหยิบอะไรบางอย่างที่อยู่ในกระเป๋า
“อะไรค่ะ”มีนาสงสัย เมื่อธนาหยิบมันออกมาและปักเส้นผมที่ปิดหน้าเธออยู่ก่อนจะปักกิ๊บให้เธออย่างอ่อนโยน ธนายิ้มเมื่อสำรวจว่ามันน่ารักตามที่เขาคิดไว้แล้ว มีนาจับมันดู และมองธนาอย่างสงสัย
“พี่คืนให้ มันอยู่กับพี่นานแล้วหละ”ธนาพูด มีนายังคงไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร เธอหยิบกระจกขึ้นมามอง จึงได้รู้และดูเหมือนว่าเธอจะดีใจมากเป็นพิเศษ
“กิ๊บที่หายไปนี่ อยู่กับพี่เหรอหรือ...ขอบคุณมากค่ะ”มีนายิ้มและโบกมือลาธนาก่อนจะเดินจากไป
“เดี๋ยว..เดี๋ยวสิมีนา”ธนายังไม่ได้เอ่ยลาเธอสักคำ เขาชะเง้อมองจนเธอเดินไปลับตาจึงถอดใจเดินกลับ
“อื่อ..เธอคงไม่อยากฟังคำลาของเราละมัง นี่เราคิดอะไรอยู่เนี่ย”ธนาตั้งสติได้ก็ตำหนิตัวเอง เขาต้องคิดเสมอว่าเธอเป็นน้องสาวคนหนึ่ง เป็นเพื่อนของน้องสาว เมื่อเขากลับมาถึงบ้านก็พบว่านิษานั่งรออยู่แล้ว หล่อนซักถามจนเป็นเรื่องเป็นราว เพราะสายธารบอกว่าธนาออกไปหาหล่อน แต่พอหล่อนโทรไปกับตัดสายทิ้งเสียนั้น
3 เดือนต่อมาธนายกผลงานชิ้นเอกของเขาขึ้นมาชื่นชมอย่างภาคภูมิใจ สายธารยกแก้วน้ำส้มมาถึงพอดี
“นี่...น้องสาวในที่สุดพี่ชายก็ทำสำเร็จจนได้ มันใช้เวลาตั้ง...” ธนานับนิ้วอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ต้องตกใจ
“นี่มันใกล้จะครบ 3 เดือนแล้วใช่ไหมที่มีนาจากไป”ธนาพูดขึ้น สายธารมองพี่ชายตัวเองด้วยสีหน้าผิดปกติ
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับตัว ตอนเขาไปพี่ยังไม่เห็นสนใจมาส่ง เอ่อ..นึกขึ้นได้ ไหนวันนั้นพี่บอกว่าจะไปหาพี่นิษา แล้วทำไมพี่นิษาถึงตามหาพี่ชะแทบพิกแผ่นดิน ตกลงพี่ไปไหนกันแน่” สายธารบ่นซะยาวจนธนาเอามืออุดหูไว้
“เอาเถอะน่า พี่ลืมไปแล้วว่าไปไหน เอาเป็นว่าวันนี้เรามาฉลองผลงานชิ้นเอกกันดีกว่า เพื่ออนาคตครูดอยของพี่” ธนายกแก้วน้ำส้มขึ้นมายื่นให้สายธารและชนแก้ว เขาทำไม่รู้ไม่ชี้กับคำถามของน้องสาว แต่ความจริงแล้วธนา ก็นึกถึงและจดจำวันนั้นได้เป็นอย่างดี เพราะรอยยิ้มและแววตาบนใบหน้าของมีนา ที่เขาไม่อาจลืมมันลง มันทำให้รู้สึกอิ่มใจและทำให้เขารู้สึกดีทุกครั้งเมื่อนึกถึงดวงตาอันประกายคู่นั้น
ในค่ำคืนหนึ่งมีนาเดินออกมาที่สนามหน้าบ้าน เธอยิ้มและเดินไปจนถึงกลางสนาม ก่อนจะหลับตาและแหงนหน้าขึ้นฟ้า รอยยิ้มที่บอกถึงความสุขนั้นยังคงอยู่เนินนาน เพียงเธอจิตนาการถึงที่แห่งหนึ่งที่เธอกำลังคิดถึง
“ดาวไปไหนหมด ทำไมท้องฟ้าถึงไม่มีดาว” มีนาพูดขึ้นด้วยความรู้สึกผิดหวัง พลอยทำให้รอยยิ้มของเธอหายไปด้วย ท่าทางแบบนั้นมันเกิดขึ้นบ่อยๆ จนชินตาสำหลับคนที่เฝ้ามองดูอยู่อย่างแม่กาญดาของเธอ
“ดาว ก็อยู่บนฟ้านั้นหละลูก อยู่ที่เดินมของมันเสมอ”แม่กาญดาพูดขึ้นทำเอามีนาสะดุ้งด้วยความตกใจ
“แม่ มาตั้งแต่เมื่อไหร่ค่ะ” มีนาหันไปยิ้มให้ผู้เป็นแม่ แต่สายตายังคงเหลือล่องลอยของความผิดหวัง
“มานานพอที่จะได้เห็น ใครบางคนกำลังโวยวายเพราะมองหาดาวไม่เจอนั้นแหละ”แม่กาญดายิ้มให้ผู้เป็นลูก
“อ่อ...ก็ผิดหวังนิดหน่อยค่ะ ทำไมกรุงเทพถึงมีดาวน้อยจังหละค่ะ”มีนาถามอย่างสงสัย
“มันไม่ได้มากหรือน้อยไปหรอก ไม่ว่าจะอยู่ไหนก็ท้องฟ้าเดียวกัน แต่ที่นี่แสงไฟมันสว่างกว่า”ผู้เป็นแม่อธิบาย
“ที่เชียงใหม่ดาวสวยมากเลยนะแม่ ที่นั้นมีเรือนดอกไม้ มีสวนกุหลาบ มีไร่ส้มทอดยาวจนถึงตีนเขา หนูอยากให้แม่ได้เห็น”มีนาพูดด้วยท่าทางที่มีความสุข พลอยทำให้ผู้เป็นแม่มีความสุขไปด้วย
“ตอนแรกเห็นบอกไม่อยากอยู่ที่นั้น แต่พอตอนนี้หายใจเข้าหายใจออกก็เป็นเชียงใหม่เชียวนะ”แม่กาญดาพูด
“โธ่แม่จ๋า แม่ให้มีนากลับไปอยู่ที่บ้านยายน้องนะค่ะอาทิตย์หน้าแม่ก็จะได้เห็นว่าทุกคนที่นั้นน่ารักอย่างไงนะค่ะแม่” มีนาออดอ้อน ขอร้องให้ผู้เป็นแม่เห็นใจ และมันก็ได้ผลทุกครั้ง
“เกร่งใจคนบ้านนั้นนะลูก เราไปวุ่นวายกับเขาหรือเปล่าก็ไม่รู้”ผู้เป็นแม่พูดทำให้มีนารู้สึกผิดหวังลึกๆ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นสายธารรับสายและคุยได้ไม่นาน เธอก็กลับเข้ามาที่ห้องนั่งเล่นด้วยท่าทีดีอกดีใจ
“มีสักกี่อย่างกันที่ทำให้ยายน้องดีใจได้ขนาดนี้ครับแม่”ธนาแซวน้องสาว เธอยังคงเอาแต่ยิ้มดีใจ
“พ่อค่ะ แม่ค่ะพรุ่งนี้มีนาจะมาถึงแล้วค่ะเธอจะพาแม่ของเธอมาเที่ยวด้วยค่ะ”สายธารดูและหันไปทำหน้าทะเล้นใส่พี่ชาย ธนาแอบอมยิ้มเมื่อนึกถึงมีนา เพราะตั้งแต่คราวที่ไม่ได้พูดแม้แต่เอ่ยลากับเธอ เขาเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาทำวิทยานิพนธ์จนเสร็จ แม้แต่นิษาแฟนสาวที่เขาเองยังไม่มีเวลาเอาใจใส่ จนเจ้าหล่อนหนีหน้าไปหลายอาทิตย์
ตอนบ่ายของอีกวันรถตู้ขับมาจอดที่หน้าบ้านของธนา เมื่อประตูรถเปิดออกขาที่เรียวยาวนั้น ก้าวลงมาจากรถ มีนารู้สึกดีใจมากที่ได้กลับมาที่นี่อีกครั้งเธอหันกลับพยุงแม่ของเธอลงจากรถ
“มีนา เธอมาถึงแล้วเหรอ”เสียงของสายธารที่วิ่งออกมาต้อนรับเธอด้วยการโผเข้ากอดด้วยความดีใจ
“คิดถึงฉันมากขนาดนั้นเหรอ”มีนากอดกับเพื่อนสาวจนตัวกลมผู้เป็นแม่ยิ้ม สายธารหันไปยกมือไหว้ก่อนจะเชิญเข้าไปในบ้าน พ่ออาทรและแม่ดาวเรืองกำลังลงมาจากด้านบนพอดี
“แม่ค่ะดูสิว่าใครมาเอ่ย..”สายธารวิ่งไปพยุงแม่และพ่อของเธอเข้ามาร่วมวงสนทนากัน ดูท่าทางผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจะเข้ากันได้เป็นอย่างดี มีนาแอบมองซ้ายมองขาวอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่เธอเข้ามาในบ้าน
“หาพี่ชายฉันเหรอ อย่าไปสนใจเลยคราวก่อนเสียมารยาทไม่มาส่งเธอ คราวนี้พอรู้ว่าเธอมาก็หายหน้าไปตั้งแต่เช้า ฉันหละไม่เข้าใจพี่ชายคนนี้จริงเสียแรงอุตสาห์คุยไว้เสียดิบดี”สายธารกำลังนินทาพี่ชายให้มีนาฟัง
“บ่นอะไรถึงพี่อยู่เหรอ”เสียงดังอยู่ข้างหูของทั้งคู่ ธนาผลักหัวของสายธารเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้ แต่อีกมือหนึ่งถือดอกกุหลาบสีขาวสวยสดยื่นไว้ตรงหน้าของมีนา พร้อมด้วยรอยยิ้ม
“ยินดีต้อนรับกับสูไร่ภูอาทรครับผม”ธนาอมยิ้ม เขาต้องเก็บอาการที่แสนจะดีใจสุดๆ เอาไว้เพียงลำพัง
“ตัว..ชอบเล่นแรงๆ คอยดูนะน้องจะฟ้องแม่”สายธารหันไปค้อนใส่พี่ชาย
“โธ่ น้องสาวสุดที่รัก อย่างฟ้องแม่เลยนะ พี่สัญญาว่าจะไม่แกล้งน้องอีก”ธนาต้องงอนน้องสาวอยู่นาน
“ไม่รู้ไม่ชี้...”สายธารแกล้งงอนธนาอยู่นาน มีนาเห็นภาพนั้นเธอเอาแต่ยิ้มและหัวเราะ เพราะมันเกิดขึ้นบ่อยๆ จนชินตา แต่มันก็เป็นภาพที่น่ารักและดูอบอุ่นสมกับเป็นครอบครัวจริงๆ
ตลอดเวลา 3 วันที่แม่กาญดาอยู่ที่เชียงใหม่มีนา และครอบครัวของธนาเอาใจใส่และดูแลเป็นอย่างดี แม่กาญดาสังเกตเห็นว่าธนาจะเอาใจใส่มีนา สายตาที่มองมันดูมากเกินแค่คนที่รู้จักหรือสนิทสนมเกินกันธรรมดา
“มีนา..แม่รู้สึกว่าหนูโตเป็นสาวแล้วนะ”แม่กาญดาพูดขึ้นเมื่อเดินมาที่นอกระเบียงที่มีนากำลังยืนมองดาวอยู่
“ไม่หรอกค่ะ อยากไงซะหนูก็ยังเป็นเด็กในสายตาของแม่เสมอ” มีนากอดผู้เป็นแม่
“มีนาแน่ใจหรือว่าตอนนี้ยังไม่มีหนุ่มที่ไหนมาจีบเรา แม่ว่าเรากำลังปิดบังแม่อยู่หรือเปล่า”แม่กาญดาถาม
“โธ่แม่จ๋า ใครจะกล้ามาจีบหนูกันหละไม่มีหรอกค่ะ”มีนาพูดด้วยท่าทีเขินอายเล็กน้อย
“แต่แม่เห็นนะ หนูคิดอย่างไงกับพี่ธนาเขาหละ แม่เห็นสายตาของเขาเหมือนจะห่วงลูกมากเป็นพิเศษ” มีนาดูมีท่าทางตกใจเล็กน้อย แต่เมื่อเธอคิดถึงเรื่องของธนา สายตาและสีหน้านั้นก็เศร้าลงทันที
“ไม่หรอกค่ะเขามีแฟนแล้ว แฟนเขาสวย น่ารัก ดูเป็นผู้ใหญ่สมกันดีทุกอย่างค่ะ”มีนาพูดเธอพยายามฝืนยิ้มให้ผู้เป็นแม่ ที่พอจะรู้ว่าลูกสาวรู้สึกอย่างไงตอนนี้
“แล้วมีนาหละ มีนาคิดกับเขาอย่างไง”แม่กาญดาอดสงสารลูกสาวที่ฝืนยิ้มแต่แววตากับเศร้ายิ่งนัก
“ไม่เหรอแม่ มีนานะเหรอจะรู้จักความรู้สึกแบบนั้น แม่ถามยังกับไม่รู้จักว่าลูกสาวของแม่ ว่ารักอิสระแค่ไหน”มีนา ยิ้มแล้วผู้เป็นแม่
“ไปกันเถอะค่ะ มีนาง่วงนอนแล้วหละ”เธอเปลี่ยนเรื่องคุยเพราะเธอรู้ดีว่าถ้าพูดต่อไปแม่ของเธอคงรู้ความจริงแน่นอน เพราะเธอโกหกไม่เก่งนัก แต่เธอก็พยายามที่จะไม่คิด และทำไม่สนใจความรู้สึกแบบนั้น ถ้าเธอไม่คิดไม่สนใจสักวันความรู้สึกแปลกๆ นั้นมันก็คงหายไปเอง มีนาหลอกตัวเองอย่างนั้น
เปิดเทมอวันแรกมีนาและสายธารเดินกำลังมองหามินทร์ตาขณะเดินไปที่ม้านั่งประจำของพวกเธอ
“นั่นไง อยู่ตรงนั้นเอง”มีนาดีใจ และชี้ให้สายธารมองตามเธอ
“ขอนั่งด้วยคนได้ไหมค่ะ”สายธารและมีนาเดินมาทางด้านหลังและแกล้งถามมินทร์ตา
“มีคนนั่งแล้วค่ะ”มินทร์ตาตอบทั้งๆ ที่สายตากำลังมาหาอะไรบางอย่างอยู่ ทั้งสองยิ้มก่อนจะสะกิดเธออีกครั้ง
“มีนา! น้อง..ฉันกำลังมองหาพวกเธออยู่ นี่พวกเธอแกล้งฉันงั้นเหรอ”มินทร์ตาดีใจและโผเข้ากอดเพื่อนทั้งสอง ก่อนจะค้อนใส่เมื่อนึกได้ว่าถูกแกล้ง
“โธ่..ก็รักหรอกถึงหยอกเล่น”มินทร์ตาแกล้งงอนเพื่อนทั้งสอง อยู่พักใหญ่ความสนุกสนามเริ่มขึ้นอีกเทอมแล้ว
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป มีนารู้สึกแปลกใจที่เจนจิตรยังไม่มาเรียน แม้แต่เพื่อนๆ ของหล่อนด้วย มีแต่แอนนา ที่ตั้งหน้าตั้งตาเรียนหนังสืออย่างขมักเขม้น เมื่อหมดวิชาเรียนมีนาดักรอแอนนา หญิงสาวที่แต่งตัวเฉยๆ แว้นตาหนา ผมเปี่ยหน้าม้า เดินดุ่มๆ ผ่านมุมตึดมา มีนาเดินมาขวางทางหล่อนทำให้เธอตกใจ
“เธอรีบไปไหน..”มีนา มองท่าทางลุกลี้ลุกลนของแอนนา เจ้าหล่อนรีบหลบตาก่อนจะเดินกลับหลัง แต่ก็ต้องหยุด
“น้อง! มินทร์ตา! ปล่อยฉันไปเถอะนะ เดี๋ยวพวกเจนเขารอนาน ฉันจะโดนเล่นงานเอา”แอนนาอ้อนวอน
“พวกเจนจิตร ทำไมไม่มาเรียน”มีนาถาม แอนนาส่ายหน้าเธอดูจะกลัวจนตัวสั่น ก่อนที่หาทางเลี่ยงหนีไปได้
“ช่างเขาเถอะมีนา ฉันว่าอย่าสนใจเลยนะ พวกนั้นคงกำลังคิดจะทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับเรา”มินทร์ตาพูด
“แต่ฉันว่ามันแปลกๆ นะ ฉันต้องรู้ให้ได้”มีนายังคงตั้งใจที่จะค้นหาคำตอบนั้นต่อไป
ธนาเดินเข้ามาในพลับแห่งหนึ่ง ถึงเขาจะไม่ชอบมาที่นี่มากนัก แต่เพราะโทรศัพท์ของนิษาเขาจึงจำต้องมา ธนาเดินเข้ามาและมองหานิษา แต่กลับมีอีกกลุ่มหนึ่งที่ดูจะสนใจในตัวเขาไม่น้อย
“นี่..เจน นั่นใช่พี่ธนาของเธอหรือเปล่า”ดาวล้อมสะกิดให้เพื่อนสาวที่กำลังดื่มอยู่ เจนจิตรดีใจเมื่อเห็นธนา
“พี่ธนาจริงๆ ด้วย เดี๋ยวฉันมานะ”เจนจิตรวางแก้วและตรงเข้าไปหาธนาทันที
“พี่ธนา มาที่แบบนี้ด้วยหรือค่ะ เจนไม่เห็นรู้ว่าพี่ชอบมา”เจนจิตรดึงแขนธนาเขามาโอบกอดไว้ จนเขาตกใจ
“เจน..! เข้ามาที่แบบนี้ได้อย่างไง มันไม่เหมาะสมกับเด็กอย่างเราหรอกนะ”ธนาตกใจเมื่อเห็นเจนจิตร
“ก็ที่แบบนี้ มันเป็นที่ของวัยรุ่นอย่างเจนนี่ค่ะ”เธอตอบและดูพูดจาไม่รู้เรื่อง เพราะอาการเมาของเธอ
“ไปเถอะ เดี๋ยวพี่จะพาไปส่ง”ธนาดึงแขนเจนจิตร หล่อนสบัดมือออกจากธนา
“ไม่ค่ะ..! พี่ธนาเจนไม่ใช่เด็กสักหน่อย อ้อเพราะพี่เห็นเจนเป็นเด็กใช่ไหม ถึงไม่ยอมสนใจเจน”เจนจิตรโวยวาย
“เมามากขนาดนี่เชียวเหรอ”ธนาไม่ใส่ใจที่เจ้าหล่อนพูดและพยายามดึงเธอออกจากผู้คนที่เบียดเสียดกันมากมาย
“ธนา นี่คุณมาทำอะไรตรงนี้ ฉันรอคุณอยู่นานแล้วนะ”นิษากระชากตัวธนา และพบว่าธนาอยู่กับผู้หญิงอีกคน
“นิษา!...วันหลังค่อยคุยกันนะ เดี๋ยวผมขอตัวไปส่งเพื่อนยายน้องกลับบ้านก่อน”ธนาพูดจนก็ดึงเจนจิตรออกมานอกร้าน นิษารู้สึกโกรธและเสียหน้านักเธอจึงตามออกไปหมายจะพูดกันให้รู้เรื่อง
“ธนา...หยุดนะ”เสียงเพลงดังจนเสียงที่เธอตะโกนออกไปนั้น ไม่มีผลทำให้เขาหยุดได้ เธอจึงเดินกระฟัดกระเฟียดตามธนาออกมาจนถึงหน้าร้าน นิษามองหญิงที่เกาะติดกับธนาด้วยท่าทีรังเกียจและหมั่นไส้สุดๆ
“ปล่อยได้แล้ว...ที่เธอกำลังเกาะอยู่นี่แฟนฉันนะ”นิษาผลักเจนจิตรที่เมาไม่ได้สติเกือบล้ม ธนาดึงไว้ไม่ทันแต่เพื่อนๆ ของเจนจิตรวิ่งตามมาช่วยได้ทันเวลา ดาวล้อมจโมโหหล่อนผลักนิษาจนล้มไปกับพื้น
“โอ้ย!!” นิษาร้องเสียงหลง ธนาตกใจและรับพยุงนิษาลุกขึ้นยืน
“นี่..เธอเป็นใครฉันไม่สนหรอกนะ แต่ที่เธอผลักนะเพื่อนฉัน”ดาวล้อมและเพื่อนๆ จ้องหน้านิษาอย่างไม่พอใจ
“นิษา ผมว่าอย่ามีเรื่องกันเลยนะ.. พวกเธอก็พอได้แล้วพาเจนจิตรกลับบ้านก่อนเถอะ”ธนาพูด
“คุณดูเด็กพวกนี่สิ คุณยังจะมาห้ามฉันอีกเหรอ แค่เด็กเหลือขอ ไม่มีใครสั่งสอน แค่พวกวัยรุ่นชอบทำตัวเป็นปัญหาของสังคม”นิษาได้ที เธอก็ตำหนิและต่อว่า จนเจนจิตรส่างเมา เดินเข้ามาตบหน้านิษาเต็มแรง จนธนาตกใจ
“เด็กเหลือของั้นเหรอ เธอคิดว่าตัวเองเป็นใครจะมาสั่งสอนฉัน”เจนจิตรกำลังจะตบซ้ำแต่ธนาดึงตัวเอาไว้
“ผู้หญิงปากสนัขไม่รับประทานอย่างนี้เหรอค่ะ ที่พี่ธนาลดตัวลงไปคบด้วย”เจนจิตรพูด นิษาง้างมือหมายจะตบคืน แต่เพื่อนๆ ของเจนจิตร ง้างมือขึ้นบ้างนับๆ แล้วก็ประมาณ 3 ต่อ 1 เธอดึงธนามองบังเอาไว้
“พอเถอะเจน พาเพื่อนๆ กลับบ้านเถอะขอให้เรื่องมันจบลงตรงนี้นะ”ธนาพูดจบเขาดึงมือนิษาเดินจากไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ