หัวใจใส่ถุง

6.2

เขียนโดย Mawmeaw

วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 18.12 น.

  11 ตอน
  9 วิจารณ์
  20.50K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน พ.ศ. 2562 10.50 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ศึกชิงนาง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
“มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ คุณ เอ่อ…คุณ”
 
เสียงถามไถ่ดังมาจากใครคนหนึ่ง พัสรียาเงยหน้าขึ้นมามองช้าๆ ชายหนุ่มนิรนามคนหนึ่งยืนกอดอกอยู่ไม่ห่างจากหล่อนมากนัก เขาส่งรอยยิ้มกรุ้มกริ่มมาให้เธอโดยไม่มีปิดบัง
 
“อ้อ ขอโทษทีนะครับคุณผู้หญิงที่ผมเสียมารยาทกับคุณ คุณอาจจะตกใจและแปลกใจกับการมาของผม ผม ‘ธนรัฐ’ เรียกผมว่า รัฐ ก็ได้ครับ ถ้าคุณไม่รังเกียจ ผมอยากจะขอนั่งเป็นเพื่อนคุณจะได้มั้ยครับ”
 
พัสรียา มองหน้าชายหนุ่มผู้มาใหม่นิ่งสักครู่ ก่อนเอ่ยขึ้นว่า
 
“หากคุณไม่ได้ประสงค์อย่างอื่น นอกจากเพียงแค่อยากนั่งเป็นเพื่อนดิฉัน ดิฉันก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรังเกียจคุณหรอกค่ะ”
 
“อืม หน้าตา กิริยา ท่าทาง คำพูดคำจาของคุณดูเข้าท่ากว่าผู้หญิงทุกคนของไอ้ก้องที่ผมเคยรู้จัก คุณอาจจะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ไอ้ก้องจะต้องเสียใจ ถ้ามันจะเห็นคุณเป็นแค่คู่ควงเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ผ่านมาของมัน”
 
“ฟังจากที่คุณพูดมา ดิฉันเดาว่าคุณคงจะรู้จักคุณก้องเกียรติดีมิใช่น้อย ถูกต้องมั้ยคะ”
 
ธนรัฐยักคิ้วให้หล่อนทีนึง ก่อนจะถือวิสาสะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ ของหญิงสาว ก่อนพูดขึ้นว่า
 
“คุณเข้าใจถูกต้องแล้วล่ะครับ ผมเป็นเพื่อนสนิทของนายก้องเกียรตินั่นแหละครับ อ้อ แต่เดี๋ยวก่อนนะครับ ได้โปรดอย่าเพิ่งเหมารวมว่าผมกับไอ้เจ้าก้องจะต้องเหมือนกันไปหมดซะทุกอย่างเชียวนะครับ ถ้าหากคุณมองผมแบบนั้น ผมคงจะต้องเสียใจมากแน่ๆ เชียว”
 
พัสรียายิ้มนิดๆ บนใบหน้า ก่อนพูดว่า
 
“อ้อ ดิฉันคงไม่บังอาจคิดอย่างนั้นได้หรอกนะคะ เพราะเท่าที่ดิฉันรู้จักคุณในวันนี้ ดิฉันว่าคำพูดของคุณดูจะมีเลศนัยเคลือบแฝงมากกว่าคุณก้องหลายเท่าตัวนักเชียวค่ะ”
 
ธนรัฐหัวเราะเบาๆ เขารู้สึกถูกใจหญิงสาวตรงหน้าคนนี้อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน หล่อนเป็นผู้หญิงที่แปลกกว่าผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยรู้จักมา หล่อนสามารถใช้วาจาเป็นอาวุธเพื่อประหัตประหารหรือปลอบประโลมฝ่ายตรงข้ามได้ชะงัดนักแล เขาแอบนึกในใจ
 
“ผู้หญิงแบบนี้สิ ถึงจะดูเป็นคู่แข่งบนสนามประลองที่สมน้ำสมเนื้อกับแบดบอยอย่างแก ไอ้ก้อง แต่ตอนนี้ชั้นชักอยากเปลี่ยนใจไปเข้าข้างเธอเสียแล้วสิ”
 
พัสรียาชำเลืองมองหน้าชายหนุ่มสักพักด้วยความแปลกใจที่จู่ๆ ชายหนุ่มก็มองหน้าหล่อนและหัวเราะออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
 
“ไม่ทราบว่าคุณขำอะไรนักหนาคะ คุณธนรัฐ หน้าดิฉันเหมือนตัวตลกในหนังที่คุณชอบดูหรือยังไงคะ”
 
“อ้อ เปล่าๆ ครับ ผมแค่รู้สึกว่า วันนี้ผมรู้สึกดีจริงๆ ที่ได้คุยกับคุณ เอ่อ แล้วคุณจะบอกผมได้หรือยังครับว่าคุณชื่ออะไร และทำไมพ่อแม่ของเจ้าก้องถึงยอมให้คุณเข้ามาอยู่ในบ้านมันได้ล่ะครับ”
 
“เธอชื่อ ‘พัสรียา’ ที่พ่อกับแม่ชั้นยอมให้เธอเข้ามาที่นี่ได้ก็เพราะเธอเป็นคู่หมั้นของชั้น แล้วเธอก็กำลังจะเข้ามาเป็นสะใภ้ของเกียรติการุณย์เร็วๆ นี้ด้วย ได้ยินชัดมั้ยวะ ไอ้รัฐ”
 
ธนรัฐยักไหล่ไม่ใส่ใจอาการขึงขังจริงจังในคำตอบเน้นย้ำของเพื่อนเกลอเท่าใดนัก อาการเช่นนั้นสร้างความหงุดหงิดไม่พอใจให้ก้องเกียรติได้ไม่น้อยเลย เขาเพียงแค่ตอบทีเล่นทีจริงตามแบบฉบับของเขาไปว่า
 
“เฮ้ย! ใจเย็นๆ สิเพื่อน ทำไมต้องโมโหขนาดนั้นด้วยวะ ปกติแกไม่เคยเป็นอย่างนี้นี่หว่า วันนี้แกต้องกินยาผิดสำแดงแน่ๆเลยว่ะไอ้ก้อง”
 
“นี่ไอ้รัฐ แกไม่ต้องชวนฉันออกนอกเรื่องเลยนะ แล้วแกมาหาฉันที่นี่มีอะไรก็ว่ามา วันนี้ที่บ้านฉันยุ่งๆ ฉันคงจะออกไปดื่มกับแกไม่ได้ว่ะ”
 
“เฮ้ย! อะไรกันเนี่ยก้อง วันนี้แกมาแปลกว่ะ ปกติฉันมาชวนแกทีไร แกไม่เคยปฏิเสธฉันซักครั้ง แถมยังเป็นคนนัดแนะฉันก่อนอีกแน่ะ อย่างนี้มันต้องมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับเพลย์บอยเจ้าสำราญอย่างแกแน่ๆ”
 
“แกจะบ้าใหญ่แล้ว ไอ้รัฐ อย่ามาหาเรื่องกันหน่อยเลย วันนี้ชั้นแค่ไม่มีอารมณ์ดริ๊งค์แค่นั้นเอง ไม่มีอะไรอย่างที่แกคิดหรอก”
 
“อ้าว เฮ้ย! รีบปฏิเสธเชียวนะแก อย่างนี้มันกินปูนร้อนท้องนี่หว่า ไอ้ผู้ร้ายปากแข็งเอ๊ย ฉันว่าที่แกเป็นอย่างนี้ เพราะว่า…”
 
พูดจบธนรัฐก็บุ้ยปากไปทางหญิงสาวหนึ่งเดียวที่นั่งเงียบๆอยู่ในวงสนทนาโดยไม่ปริปากอะไรมาได้สักพักแล้ว แต่ในที่สุดหญิงสาวก็ขยับตัวลุกจากเก้าอี้ และเอ่ยขึ้นว่า
 
“ขอโทษนะคะ ดิฉันคิดว่าดิฉันเห็นจะต้องขอตัวก่อน ดูเหมือนว่าพวกคุณคงมีเรื่องที่ต้องพูดกันอีกยาว และดิฉันก็ไม่มีความจำเป็นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องที่จะต้องอยู่ร่วมในวงสนทนานี้”
 
พูดจบพัสรียาก็ขยับเตรียมจะหมุนตัวเดินออกไป แต่ทว่าโดยมิได้นัดหมาย ทั้งก้องเกียรติและธนรัฐกลับฉวยข้อมือนุ่มเรียวเล็กของหญิงสาวเอาไว้คนละข้างอย่างกะทันหัน และแทบจะร้องห้ามพร้อมกันว่า
 
“เดี๋ยวก่อน/เดี๋ยวครับคุณพัส”
 
หญิงสาวชะงักไปนิดนึง ก่อนจะสะบัดข้อมือออกจากมือของชายหนุ่มทั้งสอง ดูเหมือนว่าบรรยากาศในสวนด้านนอก ณ ตอนนี้ดูไม่แตกต่างจากภายในบ้านเท่าไหร่
 
การปรึกษาหารือของผู้ใหญ่ทั้งสี่ภายในห้องโถงใหญ่ กำลังตึงเครียดไม่น้อยเลยทีเดียว ทุกคนกำลังนั่งครุ่นคิดแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกันอย่างคร่ำเคร่ง โดยไม่มีโอกาสจะรู้เลยว่าภายในสวนด้านนอกตัวบ้านหวิดจะเกิดศึกชิงนางขึ้นเสียแล้ว
 
พัสรียามองหน้าชายหนุ่มทั้งสองสลับไปมาอย่างเงียบๆ โดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา สีหน้าของหล่อนเรียบเฉยไม่บ่งบอกความรู้สึกใดๆ แม้แต่น้อย
 
“เอ่อ! ขอโทษครับคุณพัส ผมไม่ได้ตั้งใจ”
 
ธนรัฐตัดสินใจโพล่งขึ้นทำลายความเงียบเป็นคนแรก และตามด้วยชายหนุ่มฉายาเพลย์บอยเจ้าสำราญอีกคน ซึ่งเป็นการพูดกันคนละประเด็นอย่างสิ้นเชิง
 
“นี่พัสรียา เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะเดินหนีไปดื้อๆ ทั้งๆที่คู่หมั้นของเธอก็ยืนอยู่ตรงนี้ เธอนี่มันจริงๆเลย ให้ตายสิ”
 
“ขอโทษนะคะ คุณคงลืมไปแล้วว่า คุณไม่ปรารถนาที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับดิฉันตั้งแต่ทีแรกอยู่แล้ว และดิฉันก็มีสิทธิ์ของความเป็นคนเต็มที่ที่จะทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องได้รับการอนุญาตจากใคร เพราะดิฉันไม่ใช่ทาสของใครทั้งนั้น”
 
เสียงปรบมือและอาการหัวเราะชอบใจจากชายหนุ่มนามธนรัฐดังขึ้นทันที หลังจากพัสรียาพูดจบลง
 
“เยี่ยมจริงๆ ครับคุณพัส ผมเห็นด้วยกับคุณเป็นอย่างยิ่ง คุณเป็นผู้หญิงที่ห้าวหาญจริงๆ นานๆ ผมจะได้เจอผู้หญิงแบบคุณสักทีหนึ่ง ผู้หญิงที่ไม่ยอมตกอยู่ภายใต้อำนาจเงินของเจ้าแบดบอยก้องเกียรตินี่หายากนะครับ ผมว่าคุณเป็นผู้หญิงที่รักศักดิ์ศรีและทระนงตนพอสมควร แต่ถึงอย่างไร ผมก็ชอบนะครับแบบนี้”
 
คำพูดทีเล่นทีจริงของธนรัฐทำเอาก้องเกียรติรู้สึกชาวูบไปทั้งตัวทีเดียว โดยเฉพาะประโยคสุดท้ายที่แฝงนัยสำคัญทิ้งท้ายเอาไว้
 
“...ผมก็ชอบนะครับแบบนี้”
 
พัสรียารู้สึกอยากปลีกตัวออกไปจากวงสนทนาอันยืดเยื้อนี้เต็มทนแล้ว ไม่มีอะไรดีมากไปกว่าการยุติการสนทนานี้ให้จบลงโดยเร็วที่สุด แต่หล่อนจะทำอย่างไรดีหนอ?
 
จู่ๆ เหมือนเสียงฟ้าเสียงสวรรค์ที่มาช่วยหล่อนไว้ได้ทันเวลาพอดี เมื่อเสียงๆ หนึ่งดังขึ้นเบื้องหลังคนทั้งสาม
 
“พัสๆๆ นี่เราเองนะ วิทย์ วิทยาไง แหมมากรุงเทพฯไม่เห็นบอกเราสักคำเลย นี่ถ้าเราไม่โทรหาคุณน้าแพท เราก็คงจะไม่รู้ว่าเธออยู่ที่นี่ แต่เอ! ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอคงยังไม่สะดวกที่จะคุยกับเราเท่าไหร่ งั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวเราจะรอ…”
 
วิทยาพูดยังไม่ทันจะจบประโยคดี เพื่อนสาวคนสนิทที่เขาแอบประทับใจเธออยู่เงียบๆ มาตั้งแต่สมัยเรียนก็ปรี่เข้ามาฉุดแขนเขาและลากออกไปนอกบ้านอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่เขาเองยังตั้งตัวไม่ติดเสียด้วยซ้ำ ภายในสวนหลังบ้านเหลือเพียงสองหนุ่มที่ต่างก็มีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นในใจนับตั้งแต่รู้จักกับเธอ “พัสรียา”...
 
( โปรดติดตามตอนต่อไป )

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา