หัวใจใส่ถุง

6.2

เขียนโดย Mawmeaw

วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 18.12 น.

  11 ตอน
  9 วิจารณ์
  20.48K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน พ.ศ. 2562 10.50 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     รถสปอร์ตคันหรูค่อยๆเคลื่อนตัวเข้ามาจอดภายในบ้านอย่างเงียบเชียบ ก้องเกียรติก้าวออกมาจากตัวรถ เหตุการณ์เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ลึกๆ แล้วเขาเองก็รู้สึกเจ็บปวดอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน แต่ด้วยทิฐิอันแรงกล้าของเขา เขาจึงตัดสินใจก้าวเข้ามายืนอยู่ข้างหน้าตึกใหญ่ได้โดยไม่ลังเล

 

ชายหนุ่มรีรออยู่พักหนึ่ง ก่อนตัดสินใจก้าวเข้าไปยืนตรงหน้าประตูห้องโถงใหญ่ซึ่งเป็นห้องรับแขกของตัวบ้าน แต่บรรยากาศภายในกลับไม่เป็นอย่างที่เขาคิด ภายในห้องมีบุคคลนั่งอยู่บนโซฟาด้วยกัน 5 คน

 

แน่นอนว่าสองในห้าคือคนที่เขารู้จักเป็นอย่างดี นั่นก็คือ พ่อกับแม่ของเขาเอง แต่อีกสามคนนี่สิ เขาไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้าคร่าตามาก่อนเสียด้วยซ้ำ ทุกคนกำลังคุยกันอย่างถูกคอ

 

ยกเว้นเพียง “หล่อน” คนเดียวเท่านั้น หญิงสาวท่าทางสงบเสงี่ยมที่นั่งเงียบๆ ด้วยใบหน้าเรียบเฉย ดูราวกับว่าเธอไม่มีอารมณ์ร่วมกับวงสนทนาเอาเสียเลย

 

สักพักใหญ่ๆ หล่อนก็ขอแยกตัวออกมา โดยไม่รู้สักนิดเลยว่า “ลูกชายเจ้าของบ้าน” ได้กลับเข้ามาและเขาแอบลอบสังเกตการณ์ทุกคนในบ้านอยู่นานแล้ว

 

พัสรียาขอตัวออกมาด้วยว่าผู้ใหญ่ทุกคนคุยกันอย่างออกรสออกชาติเพื่อหาหนทางที่จะดัดนิสัยจอมเกเรของลูกชายแห่งบ้านเกียรติการุณย์ได้แล้ว ทั้งๆที่ความเดือดร้อนใจทั้งหมดกลับตกมาอยู่ที่ “หล่อน” เพียงคนเดียวแท้ๆ

 

หญิงสาวเดินออกมาจากตัวบ้านเรื่อยๆ เธอเดินมาตามทางเดินในสวน ที่มีแสงไฟจากโคมไฟประดับรอบๆสวนอันสวยงาม ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่ใกล้ๆกับลานน้ำพุกลางสวนแห่งนี้และปล่อยใจให้ล่องลอยไปตามสายน้ำเบื้องหน้าอย่างเลื่อนลอย

 

“นี่เธอ เป็นใคร เข้ามาในบ้านและในสวนส่วนตัวของฉันได้ยังไง”

 

หญิงสาวสะดุ้งตื่นจากภวังค์ ด้วยน้ำเสียงแสดงความไม่พอใจที่ปรากฏขึ้นเบื้องหลังของเธอ หญิงสาวหันหน้ากลับไปมอง แสงจากโคมประดับเผยให้เห็น รูปหน้าชายหนุ่มวัยไล่เลี่ยกับเธอคนหนึ่ง  สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำ ใบหน้าของเขาบ่งบอกความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

 

“เอ่อ! ขอโทษค่ะ ดิฉันไม่ทราบว่านี่เป็นสวนส่วนตัวของคุณ ดิฉันจะกลับออกไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ”

 

ดูจากท่าทางและการแสดงออกของเขาแล้ว หล่อนเดาได้ไม่ยากเลยว่าเขาคือใคร หลังจากพูดจบหญิงสาวก็เตรียมที่จะสาวเท้าก้าวออกไปจากสวนแห่งนั้นโดยไม่รอช้า แต่ทว่าชายหนุ่มกลับจงใจก้าวมายืนขวางทางเธอเอาไว้ ก่อนพูดขึ้นว่า

 

“เดี๋ยวก่อน เธอคิดว่าเธอเข้ามาในที่ส่วนตัวของฉัน แล้วจะออกไปได้ง่ายๆงั้นรึ”

 

พูดจบ เขาก็ยิ้มเยาะ เป็นรอยยิ้มที่มีเลศนัยและดูเหมือนจะน่ากลัวยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดในเวลานี้สำหรับพัสรียายิ่งนัก

 

“คุณ…ต้องการอะไร”

 

“ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอกำลังกลัวฉันอยู่นะ”

 

“คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ มีเหตุผลอะไรที่ดิฉันต้องกลัวคุณ ในเมื่อดิฉันไม่ได้ทำอะไรให้คุณเดือดเนื้อร้อนใจ หรือถ้าหากมีดิฉันก็ได้ขอโทษไปแล้ว และคิดว่าคุณคงจะไม่ถือสาเอาความอะไรกับดิฉัน เพราะดิฉันคิดว่าคุณคงจะมีมนุษยธรรมมากพอ”

 

“เธอกล้ามากนะ ตกลงว่าเธอเป็นใครกันแน่ นานๆทีฉันจะได้รู้จักคนที่กล้าต่อปากต่อคำกับฉันโดยไม่กลัวเกรงเจ้าของบ้านอย่างฉันสักทีหนึ่ง”

 

“ดิฉันเป็นแต่เพียงแขกของคุณท่านกับคุณหญิงเป็นการชั่วคราวเท่านั้น ดิฉันต้องขอโทษด้วยที่มารบกวนพื้นที่ส่วนตัวของคุณอีกครั้ง อย่างนั้นดิฉันขอตัวค่ะ”

 

พูดจบพัสรียาก็สาวเท้าเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ราวกับกลัวว่าขืนช้ากว่านั้นชายหนุ่มอาจจะบันดาลโทสะทำร้ายเธอเอาได้ ก้องเกียรติมองตามหลังหญิงสาว หล่อนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาไม่อาจละสายตาจากเธอไปได้

 

พัสรียาเดินเข้ามานั่งแหมะอยู่ที่โซฟาตัวเดิม เธอไม่ได้ปริปากเล่าเรื่องที่ไปประสบพบเจอมากับใคร ด้วยวิสัยที่เธอไม่เห็นความจำเป็นอันใดที่จะเอะอะโวยวายทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่

 

เพียงครู่เดียวก้องเกียรติก็เข้ามาปรากฏกายต่อหน้าทุกคนในห้องโถง เขาไล่มองไปทีละคนทุกคนดูเหมือนจะชะงักงันไปกะทันหัน

 

ยกเว้น “หล่อน” เท่านั้น หล่อนไม่มีท่าทีสะทกสะท้านใดๆ ต่อการมาของเขาเลยแม้แต่น้อย นั่นแหละจึงเป็นสาเหตุให้สายตาของเขาลอบดูพฤติกรรมของเธออย่างสนอกสนใจเป็นอย่างยิ่ง

 

“อ้าวก้อง กลับมาแล้วเหรอลูก มาๆ มานี่เร็ว แม่จะแนะนำให้รู้จักแขกพิเศษที่จะมาพักที่บ้านเรา พวกเค้าเป็นเพื่อนรักสมัยเรียนของพ่อกับแม่เองจ้ะ”

 

ดูเหมือนคุณหญิงกัลยาณีจะคิดแก้ไขสถานการณ์ที่ดูเหมือนเริ่มจะตึงเครียดให้ผ่อนคลายลงได้เป็นคนแรก เธอเดินไปจูงแขนบุตรชายเพียงคนเดียวเข้ามานั่งที่โซฟา แม้ว่าเขาจะทำท่าทีปฏิเสธก็ตาม

 

“นี่คุณพิชัยเพื่อนรักของคุณพ่อจ๊ะ ส่วนนี่ก็คุณพัชราเป็นเพื่อนรักของแม่เองจ้ะ”

 

ก้องเกียรติยกมือไหว้บุคคลที่เป็นแขกพิเศษของครอบครัวในค่ำคืนนี้อย่างเสียไม่ได้ ก่อนจะลอบชำเลืองไปที่หญิงสาวอีกคนที่นั่งสงบเสงี่ยมอยู่ข้างๆคุณพัชรา

 

“แล้วนี่ก็…พัสรียา เธอเป็นคู่หมั้นของลูก และว่าที่ลูกสะไภ้ของแม่ในอนาคตจ้ะ”

 

“อะไรนะครับแม่ นี่มันเรื่องจริงเหรอครับ เธอ…เป็นคู่หมั้นของผม ไม่จริง ไม่มีทางเป็นไปได้ ผมไม่เชื่อหรอก”

 

เมื่อพูดจบคุณหญิงกัลยาณีหันไปมองหน้าหญิงสาวผู้เป็นว่าที่ลูกสะใภ้อย่างนึกกังวลใจยิ่งนัก ถ้าเธอไม่ทำเช่นนี้ก็ไม่รู้ว่าเธอจะแก้ปัญหานี้อย่างไรดี

 

เธอรู้สึกผิดต่อหญิงสาวที่ต้องใช้วิธีนี้กับหล่อนและบุตรชายของเธอเอง แม้ว่ามันจะเป็นวิธีที่เห็นแก่ตัวไปหน่อยก็ตามที

 

 “เอ่อ! ขอโทษนะคะ ดิฉันขอตัวก่อนค่ะ”

 

หญิงสาวโพล่งขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ก่อนที่เธอจะรีบผลุนผลันออกไปทันที

 

“ผมก็ขอตัวนะครับพ่อ แม่ แล้วเรื่องนี้เราจะมาว่ากันอีกที มันยังไม่จบง่ายๆหรอกครับ ผมไม่ยอมแน่”

 

ก้องเกียรติเดินตามพัสรียาออกมาจนทัน เขาพูดขึ้นข้างหลังเธอว่า

 

“เห็นหน้าตาหงิมๆใสๆซื่อๆแบบนี้ ไม่คิดว่าจะคิดรวยทางลัด ด้วยการจับผู้ชายรวยๆ ไอ้ที่เห็นว่าใสซื่อ บริสุทธิ์ ที่แท้ก็แค่เปลือกนอกเท่านั้นเอง”

 

หญิงสาวหยุดเดินและหันกลับมาเผชิญหน้า ก้องเกียรติเตรียมจะเอามืออุดหูอยู่แล้วเชียวด้วยคิดว่าเธอต้องโต้กลับชุดใหญ่จากคำพูดเสียดสีของเขา แต่เขากลับผิดคาด เมื่อหญิงสาวเพียงแต่ยิ้มน้อยๆและเอ่ยเรียบๆว่า

 

“ขอโทษนะคะ ดิฉันไม่อาจรับเอาคำพูดของคุณเมื่อสักครู่นี้มาใส่ใจได้  เพราะดิฉันไม่เคยแม้แต่จะคิดทำสิ่งที่คุณพูดเลยแม้สักอย่างเดียว”

 

“อ้อ เธอกำลังจะบอกฉันล่ะสิว่าที่เธอแอบอ้างเป็นคู่หมั้นของฉัน เพราะเธอประสงค์อย่างอื่นที่มันร้ายกว่าที่ฉันคิดไว้เสียอีกใช่มั๊ย”

 

“ดิฉันคิดว่า ถึงจะพูดอะไรออกไปตอนนี้ ดิฉันก็ไม่วายตกเป็นผู้ต้องสงสัยของคุณอยู่ดี เพราะฉะนั้นดิฉันจะไม่ขอแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น ดิฉันบอกได้แต่เพียงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ถ้าคุณจะเปิดใจให้กว้างกว่านี้อีกสักนิด คุณก็จะเข้าใจในความหวังดีและห่วงใยของคุณพ่อคุณแม่ของคุณที่มีต่อลูกชายเพียงคนเดียวของท่านอย่างสุดซึ้ง”

 

“นี่เธอ พูดอะไรของเธอพัสรียา อย่าทำเป็นบังอาจมาสั่งสอนคนอย่างฉันเชียวนะ”

 

“ขอโทษนะคะ นี่ก็ดึกมากแล้ว ดิฉันต้องขอตัวไปนอนแล้วล่ะค่ะคุณก้องเกียรติ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”

 

ชายหนุ่มมองตามหลังหญิงสาวด้วยความฉงนใจ นี่เธอยังใจเย็นอยู่ได้อย่างไรกัน อีกทั้งใบหน้าอันเรียบเฉยไม่สะทกสะท้านต่อคำพูดจาเสียดสีก้าวร้าว ประชดประชันของเขา ทั้งๆที่หากเป็นคนอื่นอาจจะกระโดดกัดคอเขาไปแล้วด้วยซ้ำ

 

แต่กับหญิงสาวนาม “พัสรียา” คนนี้เธอแปลก แปลกมากจริงๆ แปลกจนเขาบรรยายไม่ถูก แต่ก็นั่นแหละมันทำให้เขารู้สึกสนุกและท้าทายกับการทำสงครามประสาทกับเธออย่างช่วยไม่ได้เสียแล้วสิ...

 

( โปรดติดตามตอนต่อไป )

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา