เพียงใจที่ผูกพัน

-

เขียนโดย น้ำปั่น

วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14.12 น.

  4 ตอน
  2 วิจารณ์
  10.01K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

4)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่  4

ภูผาวิ่งมาเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง  ถึงตอนนี้น้ำตาของเขาก็ยังไม่หยุดไหล  เขาไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไป  ความรู้สึกที่อ้างว้างและโดดเดี่ยวเหมือนอยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้  ถึงแม้ว่าเขาจะมีแม่และน้องสาวเหลืออยู่ก็ตามที  แต่ภายในจิตใจกลับรู้สึกว่าเขาไม่เหลือใครเลย ไม่มีใครที่รักห่วงใยและเข้าใจเขาเลย  ถึงแม้ภูผาอยากจะระบายสิ่งที่มันอัดอั้นตันใจให้ออกมาสักเพียงใดก็ตาม  แต่ก็ทำไม่ได้มีเพียงน้ำตาเท่านั้นที่ไหลออกมาบอกให้รู้ถึงความรู้สึกของเขาตอนนี้ว่ามันเศร้าแค่ไหน  นิศายังคงวิ่งตามหลังภูผามาอย่างกระชั้นชิด  แต่ดูเหมือนว่าภูผาจะไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครวิ่งตามเขามา  นิศาไม่กล้าที่จะเรียกให้ภูผาหยุดวิ่งเธอเข้าใจความรู้สึกของภูผาดีว่าในตอนนี้เขาคงจะเสียใจและรู้สึกแย่มากแค่ไหน   เธออยากจะช่วยแบ่งเบาความรู้สึกที่แสนจะเจ็บปวดนั้นจากเขา   ตอนนี้นิศารู้สึกปวดใจที่เห็นภูผาเป็นแบบนี้  เธอเป็นห่วงพี่ชายของเธอมากถึงแม้ว่าเธอจะรู้ดีอยู่แก่ใจแล้วก็ตาม  ว่าเธอกับเขาไม่ได้เป็นพี่น้องกันจริงๆ เป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าที่บังเอิญได้มาเจอกันได้มารู้จักกันในฐานะพี่น้องต่างสายเลือดเพียงเท่านั้นแต่เธอก็รักเขามาก  ตั้งแต่ครั้งแรกที่นิศาได้เจอกับภูผาทันทีที่เธอได้เห็นแววตาคู่นั้นของเขา  เธอรับรู้ได้ทันทีถึงความเศร้าที่อยู่ภายในจิตใจของเขา  เธอพอจะเดาออกว่าภูผาต้องผ่านเรื่องร้ายๆ มามากเขาถึงดูเป็นคนเย็นชาไม่ค่อยจะสนใจอะไรอย่างนี้  เธอไม่เคยโกรธที่เขามักจะเย็นชาใส่เธอเสมอทุกทีที่เจอกัน  แต่เธอกลับเข้าใจเขาเธอคิดว่าเธอต้องทำทุกทาง  เพื่อลบล้างความเจ็บปวดภายในจิตใจของเขาให้ได้สักวันหนึ่ง  มาถึงวันนี้เธอยิ่งเห็นใจเขามากยิ่งขึ้น  เขาจะรู้สึกอย่างไรที่แม่และน้องสาวของเขาไม่เข้าใจเขาเลย  มิหนำซ้ำยังทำร้ายจิตใจของเขาให้ต้องปวดร้าวอย่างนี้    ภูผาหยุดวิ่งเมื่อมาถึงที่สวนสาธารณะเขาทรุดตัวนั่งลงแล้วแหงนหน้ามองดูท้องฟ้าน้ำตาของเขาเจิ่งนองไปทั่วใบหน้า  เขารู้สึกว่าตอนนี้เขาไม่มีเรี่ยวแรงทีจะทำอะไรได้อีกเลย เขาอยากจะกลั้นใจตายให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยด้วยซ้ำ  นิศาวิ่งมาหยุดอยู่ข้างหลังภูผาทันทีที่เห็นเขาหยุดวิ่ง  นิศาร้องไห้ที่เห็นเขาต้องเสียใจอย่างนี้  ภูผาเริ่มรู้สึกตัวว่ามีใครสักคนกำลังมองเขาอยู่  เขาหันหลังไปมองเห็นนิศายืนร้องไห้ในขณะที่ดวงตาของเธอก็กำลังจดจ้องเขาอยู่  เขาแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองกับภาพตรงหน้าที่เขาเห็น  

นี่ฉันไม่รู้ตัวเลยเหรอว่านิศาวิ่งตามมาแล้วทำไมเธอต้องเป็นห่วงฉันถึงเพียงนี้ เธอช่างแสนดีจริงๆนะนิศา  เขาคิด

“พี่ภูพี่ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยนิศาเป็นห่วงพี่มากรู้ไหม”  นิศาพูดพลางสะอื้นพร้อมน้ำตาที่ไหลเอ่อออกมา ภูผาสบตาเธอก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นยืน

“เธอตามพี่มาทำไม”  ภูผาพูดขึ้นเขาแสร้งทำหน้าเย็นชาใส่เธอทั้งๆที่ภายในใจของเขาอยากจะกล่าวคำขอบคุณเธอสักเพียงใดก็ตาม

“นิศาเป็นห่วงพี่มากนะเรากลับบ้านกันเถอะพี่ภู ดูสิแผลของพี่ก็ยังไม่หายดีเลยพี่ต้องพักผ่อนมากๆนะค่ะ เดี๋ยวถ้ากลับบ้านไปนิศาจะทำโจ๊กร้อนๆให้พี่กินนะแล้วพี่ก็จะได้กินยาด้วย”  นิศาพูดขึ้นพร้อมกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมามากกว่านี้

“นี่เธอเป็นห่วงพี่ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ”  ภูผาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆพร้อมแววตาอันอ่อนโยนที่มองดูเธอผิดกับทุกครั้งที่เขามักจะทำหน้าเย็นชาใส่เธอเสมอ

“พี่เป็นพี่ชายของนิศานะ นิศารักและเป็นห่วงพี่มาก”  นิศาพูดพร้อมกับจับมือทั้งสองข้างของเขาขึ้นมาแทนความหมายว่าฉันจะอยู่เคียงข้างพี่เสมอ

ภูผารู้สึกซาบซึ้งใจมากเขาดึงตัวเธอเข้ามากอดอย่างลืมเธอ  ถึงตอนนี้เขากำลังกอดเธออยู่เขารู้สึกอบอุ่น รู้สึกดีและรู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก  นิศาอึ้งไปสักพักที่ภูผาดึงเธอเข้ามากอดแบบนี้  แต่ไม่นานเธอก็กอดเขากลับ  เธอรู้สึกอบอุ่นใจที่ได้กอดและได้ใกล้ชิดเขาถึงเพียงนี้  เธอรับรู้ถึงความเจ็บปวดของเขาได้ดีไม่ต่างกันกับภูผาที่เขาก็สามารถรับรู้ได้ว่าเธอรัก  เป็นห่วง และปรารถนาดีกับเขามากมายแค่ไหน  

ภูผาเริ่มรู้สึกตัวและคิดได้ว่าเขาไม่ควรกอดนิศาแบบนี้เขาจึงปล่อยมือที่กอดเธอออก แล้วเดินถ่อยหลังมาสามก้าวก่อนจะแสร้งทำหน้าเย็นชาใส่เธออีกครั้ง

“มันไม่ใช่เรื่องของเธอกลับบ้านไปซะ”  ภูผาพูดกับนิศาอย่างเย็นชา แต่นิศาก็เข้าใจเขาดี  เพราะภูผาไม่อยากให้ใครเห็นเขาในสภาพที่อ่อนแอเช่นนี้เขาจึงต้องทำทีท่าเย็นชาใส่เธอ

“พี่นี่ดื้อจริงๆเลยนะถ้าพี่เป็นเด็กละก็นิศาจะตีพี่ให้ก้นลายไปเลยดูซิจะยังดื้ออีกมั้ย”  นิศาพูดติดตลกเธออยากจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้นบ้าง ภูผายิ้มที่นิศาพูดแบบนั้นแต่เขาก็ต้องแกล้งทำหน้าเย็นชาใส่เธอต่อไปอีก

 

ดูเหมือนว่าฝนกำลังจะตกนิศากับภูผาแหงนหน้าไปมองบนท้องฟ้าพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย  จู่จู่ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว  ภูผาจับมือนิศาอย่างลืมตัวแล้วพาเธอวิ่งไปหลบฝนใต้ต้นไม้ใหญ่  นิศาก็วิ่งตามเขาทันทีโดยสัญชาตญาณ  เมื่อมาถึงใต้ต้นไม้ใหญ่ภูผาก็ปล่อยมือนิศาออก  ทั้งสองคนยืนนิ่งไม่พูดไม่จาอะไรกันอยู่เป็นเวลานานภูผาแอบมองนิศาอยู่โดยที่นิศาเองก็ไม่รู้ตัว   เขารู้สึกดีกับเธอมากเขาไม่เคยคิดว่าในชีวิตนี้จะมีใครรักและเป็นห่วงเขามากมายแบบนี้มาก่อน  ขนาดแม่และน้องสาวของเขาเองยังไม่เคยทำให้เขารู้สึกเช่นนี้เลย   แต่นิศาสาวน้อยผู้แสนดีคนนี้กลับทำให้เขาได้รู้สึกแบบนี้  ความรู้สึกที่เขาโหยหามาตลอดทั้งชีวิตที่เขาหวังว่าจะมีสักคนที่รักและเป็นห่วงรวมถึงเข้าใจเขา  และถึงตอนนี้เขาก็เจอคนๆนั้นแล้วนั้นก็คือนิศาน้องสาวต่างสายเลือดของเขานั้นเอง  

 

เมื่อฝนหยุดตกภูผาก็พูดขึ้นหลังจากที่ทั้งสองเงียบไปเป็นเวลานาน

“เรากลับบ้านกันเถอะนะ”  ภูผาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ยังคงทำหน้าตาเย็นชาเช่นเดิม นิศาแทบจะไม่เชื่อหูตัวเองที่ภูผาพูดออกมาแบบนั้นเธอดีใจมากที่เขาจะยอมกลับบ้าน

“ค่ะพี่ภู”  นิศาพูดอย่างดีใจแววตาของเธอดูมีความสุขเธอยิ้มออกมาอย่างลืมตัว   ภูผามองดูเธอเขารู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นไม่เป็นจังหวะ   และค่อยๆเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยที่เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้  ทั้งสองคนเดินกลับบ้านอย่างไม่รีบร้อน  โดยที่มีภูผาเดินนำหน้าส่วนนิศาเองก็กำลังเดินตามหลังเขามาอย่างกระชั้นชิด  นิศามองดูแผ่นหลังของภูผาเธออยากตรงเข้าไปกอดเขา  เธอไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงคิดอะไรแบบนั้น  เมื่อเดินมาถึงบ้านภูผาก็ไม่ได้พูดอะไรกับนิศาอีกเขาเดินตรงขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านและเข้าไปยังห้องนอนของเขาในทันที  นิศามองตามเขาไปจนเขาขึ้นไปถึงชั้นสองของบ้านเธอจึงตรงเข้าไปในครัว  นมแย้ม  ชื่น  แจ่ม  และนายโชคต่างนั่งกระวนกระวายใจกันอยู่ภายในครัวเมื่อทั้งสี่เห็นนิศาทุกคนดีใจเป็นอย่างมากต่างตรงเข้ามาหานิศาด้วยความเป็นห่วง

“คุณหนูของนมกลับมาแล้วเหรอค่ะ  นมเป็นห่วงคุณหนูมากรู้มั้ย นมอยากจะตามไปหาคุณหนูแต่คุณอนงค์เธอห้ามไว้ไม่ให้ใครตามไป นมกลุ้มใจมากเลยนะค่ะ เป็นห่วงคุณหนูกับคุณภูผากลัวว่าจะเป็นอะไรกันไป”

นมแย้มพูดพร้อมกับกอดนิศาอย่างเป็นห่วงและร้องไห้อย่างดีใจที่เห็นนิศาปลอดภัย โดยที่มี ชื่น  แจ่ม  และนายโชคมองดูอยู่น้ำตาคลอเบ้าด้วยความเป็นห่วงนิศาเช่นกัน

“นิศาไม่เป็นอะไรหรอกค่ะไม่ต้องเป็นห่วงนิศานะค่ะ ส่วนพี่ภูก็ปลอดภัยดีค่ะ นมแย้ม พี่ชื่น พี่แจ่ม แล้วก็

น้าโชคไปนอนกันได้แล้วนะค่ะ ดึกมากแล้วเดี๋ยวจะพากันไม่สบายเปล่าๆ”  นิศาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

“เฮ้อ!  จะว่าไปก็สงสารคุณภูผาเหมือนกันนะค่ะ ทั้งแม่ทั้งน้องไม่มีใครสนใจคุณเค้าเลย”   แจ่มถอนหายใจก่อนพูดขึ้น

“ใช่ใช่ ดูสิไม่ห่วงคุณภูผากันบ้างหรือไงนะ นอนกันไปหมดแล้วทั้งคุณอนงค์ทั้งคุณเนตรดาว” ชื่นเสริม

“หรือว่า...คุณภูผาจะไม่ใช่ลูกของคุณอนงค์จริงๆ”  นายโชคพูดออกมาอย่างสงสัย

“จะเอาใหญ่แล้วนะแกไอโชคพูดอะไรหัดคิดซะก่อนสิ” นมแย้มปราม

“ขอโทษจ๊ะคุณนมแย้ม” นายโชคขอโทษพลางยิ้ม

“คุณหนูนิค่ะไปนอนได้แล้วนะดึกมากแล้ว” นมแย้มพูดขึ้น

“เดี๋ยวนิว่านิจะทำโจ๊กให้พี่ภูก่อนค่ะ พี่ภูยังไม่ได้กินอะไรเลยพี่ภูจะได้กินยาด้วย”  นิศาพูดขึ้น

“ใช้สิตายแล้วคุณหนูนิก็ยังไม่ได้ทานอะไรเลยนะค่ะ”  ชื่นพูดขึ้นอย่างตกใจ

“นิไม่หิวหรอกค่ะ ทุกคนไปนอนกันได้แล้วนะไม่ต้องห่วงนิค่ะ”  นิศาพูดไม่ให้ทุกคนเป็นห่วงทั้งๆที่ตอนนี้ท้องของเธอเริ่มจะร้องเพราะความหิวแล้ว

“คุณหนูค่ะเดี๋ยวพี่แจ่มทำโจ๊กให้คุณภูผาเองนะค่ะคุณหนูจะได้ไม่เหนื่อย”  แจ่มอาสา

“ใช่ค่ะคุณหนูให้แจ่มกับชื่นมันทำเถอะค่ะคุณหนูนิไม่ต้องทำหรอกนะค่ะ”  นมแย้มเสริมแต่นิศาก็ยังยืนยันที่จะทำโจ๊กให้ภูผาเองจนทุกคนคิดว่ายังไงก็คงห้ามไม่ได้แน่ๆ เลยต้องพากันไปนอนตามที่นิศาบอกและปล่อยให้นิศาทำโจ๊กเองเพียงลำพัง

 

ก๊อก  ก๊อก  ก๊อก!!!

“พี่ภูค่ะนอนหรือยังค่ะ นิศาต้มโจ๊กมาให้พี่ภูค่ะ”  นิศาเคาะประตูก่อนจะเรียกเขาแต่เธอก็ไม่ได้ยินเสียงภูผาตอบกลับ   หรือว่าพี่ภูนะหลับไปแล้วนะเธอคิด  แต่เธอก็ยังคงไม่ละความพยายามเธอยังคงเคาะประตูและเรียกเขาต่อไป  แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าภูผาจะส่งเสียงตอบกลับมาเลย  เธอจึงลองเปิดประตูห้องดูปรากฎว่าประตูไม่ได้ล๊อค  เธอจึงค่อยๆ เดินถือถาดโจ๊กเข้าไปภายในห้องของภูผา  เมื่อเดินไปถึงภายในบริเวณห้องเธอเห็นภูผานอนหลับอยู่บนเตียงนอน

“แม่เคยเห็นผมดีในสายตาของแม่บ้างมั้ย  หรือว่าผมไมใช่ลูกของแม่”  ภูผาละเมอขึ้น

“พี่ภู”  นิศาเผลอเรียกชื่อเขาออกมาเบาเบาน้ำตาของเธอค่อยๆซึมออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว  นิศายิ่งรู้สึกสงสารและเห็นใจภูผามากยิ่งขึ้น

“พี่คงจะเสียใจมากใช่ไหมพี่ภูผา”  นิศาพูดเบาๆกับตัวเอง ภูผาหลับอยู่โดยไม่รู้ตัวว่าตอนนี้นิศากำลังยืนมองเขาอยู่ 

“หนาว... หนาว... หนาวจังเลย”  ภูผาละเมอออกมาอย่างไม่รู้ตัว  นิศาได้ยินดังนั้นเธอจึงค่อยๆวางถาดโจ

ลงบนโต๊ะใกล้ๆเตียงนอนก่อนที่เธอจะค่อยๆดึงผ้าห่มมาห่มให้ภูผาอย่างอ่อนโยน  หลังจากนั้นเธอก็เอามือของเธอไปสัมผัสบริเวณหน้าผากของเขา 

“พี่ภูตัวร้อนจี๋เลย  สงสัยไข้ขึ้นแน่ๆ”  นิศาพูดคนเดียวเบาๆ ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูชุบน้ำแล้วนำมาเช็ดตามเนื้อตัวของภูผาเพื่อหวังจะให้ไข้ลดลง  หลังจากเช็ดตัวให้ภูผาเสร็จแล้วเธอหันไปเห็นยาของภูผาที่หมอจัดให้เมื่อตอนเย็นที่ภูผาไปหาหมอ  เธอจึงหยิบมาทาให้เขาตรงบริเวณบาดแผลตามร่างกาย่หลังจากที่เธอทายาให้เขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว  เธอมองหน้าเขาก่อนจะพูดขึ้น

“หลับฝันดีนะค่ะพี่ชาย”  เธอพูดจบเธอก็เดินไปปิดไฟก่อนจะออกไปจากห้อง

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา