เพียงใจที่ผูกพัน
-
1) สมาชิกใหม่ของครอบครัว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 1 สมาชิกใหม่ของครอบครัว
“ เมื่อไหร่จะมากันสักทีนะ” นิศา บ่นพลางเดินไปมาและหันไปมองที่ประตูทางเข้าบ้านอย่างตื่นเต้น
“ เดี๋ยวก็คงจะมากันแล้วมั้งค่ะคุณหนู” นมแย้มแม่นมของนิศาซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ตอบเมื่อเห็นทีท่าของนิศาดูกระวนกระวายใจ
ปิ๊ด ปิ๊ด ปิ๊ด !!!
“มากันแล้วค่ะ” เสียงชื่นคนรับใช้ของบ้านตะโกนลั่นเมื่อได้ยินเสียงแตรรถดังขึ้น
“พี่ชื่นค่ะ ช่วยไปเปิดประตูให้คุณพ่อทีนะค่ะ” นิศาพูดอย่างดีใจและตื่นเต้นเต็มทีเมื่อเห็นรถของผู้เป็นพ่อแล่นมาจอดอยู่ตรงหน้าประตูรั้วบ้าน
“ค่ะ ค่ะ คุณหนู” ชื่นตอบรับคำพลางวิ่งไปเปิดประตูรั้ว
เมื่อประตูรั้วถูกเปิดออก รถแล่นเข้ามาภายในบริเวณหน้าบ้านเสียงเครื่องยนต์รถดับลง ลุงชัยคนขับรถก็ลงมาจากรถก่อนจะไปเปิดประตูรถให้นายประจวบนักธุรกิจใหญ่ซึ่งเป็นพ่อของนิศา ทันทีที่นายประจวบลงมาจากรถเขาหันไปยิ้มให้นิศาลูกสาวของเขาอย่างเอ็นดู
“นิศา” ประจวบผู้เป็นพ่อเรียกนิศาพลางมองดูลูกสาวด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
ประจวบไม่ทันได้พูดอะไรต่อ อนงค์ พร้อมด้วยลูกลูกของเธอคือ ภูผา และเนตรดาวก็ลงมาจากรถ ซึ่งอนงค์กำลังจะเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ในฐานะภรรยาใหม่ของนายประจวบ โดยที่นิศาเองก็เข้าใจพ่อของเธอดีเธอยอมรับในตัวของอนงค์ เพราะแม่ของนิศาเองก็เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว เธอจึงคิดว่าในฐานะลูกเธอควรจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้พ่อของเธอมีความสุขที่สุด เธอจึงไม่ห้ามเรื่องที่พ่อของเธอจะมีภรรยาใหม่
“นายชัยเดี๋ยวขนของของคุณคุณลงไปเก็บแล้วบอกให้ชื่นกับแจ่มจัดห้องให้อนงค์แล้วก็ลูกๆของเธอด้วยนะ” ประจวบสั่งนายชัย นายชัยรับคำและทำตามที่เจ้านายบอก
“ พ่อค่ะ” นิศาพูดพลางวิ่งไปโผเข้ากอดผู้เป็นพ่อซึ่งประจวบก็กอดนิศาอย่างเอ็นดูโดยที่มี อนงค์และลูกสาวของเธอคือเนตรดาวมองดูด้วยความรู้สึกหมันไส้ แต่ก็แสร้งปั้นหน้ายิ้ม ส่วนภูผาลูกชายของอนงค์ยืนนิ่งไม่สนใจอะไรราวกับว่าเขายืนอยู่ตรงนั้นเพียงแค่คนเดียว
“นิศานี่ไง น้าอนงค์ภรรยาของพ่อที่เล่าให้ฟัง และนี่ลูกๆ ของเธอคือพี่ภูผาพี่เขาอายุมากกว่าหนู 2 ปี ส่วน
พี่เนตรดาวอายุมากกว่าหนู 1 ปี พวกเค้าจะเข้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะสมาชิกใหม่ของครอบครัวเรานะ”
ประจวบอธิบายให้นิศาฟังซึ่งนิศาก็มีสีหน้ายิ้มแย้มอีกทั้งยังดีใจที่เธอกำลังจะมีพี่ อนงค์แสร้งทำเป็นดีใจที่เจอนิศาเธอโผเข้ากอดนิศา และบอกว่าเธอดีใจมากที่จะได้นิศามาเป็นลูกสาวของเธออีกคน เนตรดาวไม่ยอมน้อยหน้าแม่ของเธอทันทีที่แม่ของเธอกอดนิศาเสร็จเนตรก็ทำเป็นเข้ามากอดนิศา เธอแสร้งพูดว่าเธอดีใจที่จะได้นิศามาเป็นน้องสาว ส่วนภูผายังคงยืนนิ่งไม่สนใจใคร นิศาจึงเข้าไปทักทายภูผาเธอจับมือเขาขึ้นมาทั้งสองข้างและมองตาเขาพลางพูดขึ้นว่า
“พี่ชาย....นิศาดีใจนะที่พี่ภูผาจะมาเป็นพี่ชายของนิศา”
ทันทีที่นิศาพูดจบ ภูผาก็หันมาสบตาเธอ เขามองดูเธออย่างไม่กระพริบตา เขารู้สึกประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่รู้ว่ามันคือความรู้สึกอะไรซึ่งเขาก็ไม่สามารถบอกกับตัวเองได้
“คุณอนงค์เดี๋ยวให้พวกเด็ก ๆย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนเดียวกับนิศานะ เวลามีอะไรพวกเด็กๆจะได้คอยช่วยเหลือกัน เดี๋ยวค่าใช้จ่ายผมจะเป็นคนรับผิดชอบเองก็แล้วกัน” นายประจวบพูดขึ้น
“ค่ะ คุณประจวบ” อนงค์รับคำ
ณ ห้องนอนของอนงค์
“แม่ค่ะ” เนตรดาวเรียกแม่ของเธอทันทีที่เปิดประตูห้องเข้ามา เธอวิ่งที่เตียงนอนก่อนจะกระโดดลงไปนอน โดยที่อนงค์ผู้เป็นแม่ก็ยืนมองดูลูกสาวของเธออย่างเอ็นดู
“เป็นไงบ้างลูกบ้านใหม่ของเราชอบมั้ย”
อนงค์ถามเนตรดาวก่อนจะค่อย ๆ นั่งลงบนเตียงนอน เนตรดาวจึงมานอนหนุนบนตักของผู้เป็นแม่
“เนตรชอบที่นี่มากเลยค่ะแม่ สบายกว่าบ้านหลังเก่าตั้งเยอะ ต่อไปนี้เราคงจะไม่ต้องลำบากเหมือนเมื่อก่อนอีกใช่มั้ยค่ะ”
“แม่สัญญาจ๊ะว่าแม่จะทำให้ลูกของแม่มีความสุขและสบายที่สุด แม่จะทำทุกวิถีทางที่เอาสมบัติของไอ้ประจวบมาเป็นของเราให้ได้”
อนงค์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแววตาของเธอดูแข็งกร้าว ก่อนจะลูบหัวเนตรดาวผู้เป็นลูกสาวที่นอนอยู่บนตักด้วยความเอ็นดู
“แต่ว่า...ไอ้แก่นั้นมันมีลูกนะค่ะแม่ มันก็ต้องยกสมบัติของมันให้ลูกสาวของมันสิค่ะ”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นนะลูกแม่จะกำจัดนังเด็กนิศาคนนั้นออกไปให้ได้ สมบัติทุกชิ้นในบ้านหลังนี้ต้องตกเป็นของพวกเราแต่ว่า... ลูกต้องช่วยแม่นะ ”
อนงค์พูดจบเนตรดาวก็ลุกขึ้นมานั่งใกล้ๆแม่ของเธอ เนตรดาวจับมืออนงค์ขึ้นมา เธอลูบมือแม่ของเธอเบาเบาอย่างอ่อนโยน
“แม่ค่ะ...ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลยนะค่ะ ไม่ว่ายังไงเนตรก็ต้องช่วยแม่อยู่แล้ว แต่เนตรว่าพี่ภูรู้เรื่องนี้เขาคงไม่ยอมแน่ๆ ขานั้นนะไม่เคยสนใจอะไรโลกส่วนตัวก็สูง ขรึมก็ขรึมเข้าใจยากชะมัดนี่ถ้าบอกว่าพี่ภูไม่ใช่ลูกของแม่.......”
เนตรดาวพูดไม่ทันจบอนงค์ก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างเสียงดังด้วยอารมณ์ที่โมโหสุดๆ
“ใช่สิ ทำไมจะไม่ใช่ ภูผา เป็น...ลูก...ของ..แม่ จำเอาไว้นะแล้วคราวหน้าคราวหลังอย่าพูดจาอะไรแบบนี้อีกแม่ไม่ชอบ” อนงค์พูดจบก็ลุกขึ้นเดินหนีออกไปนอกห้องทันทีด้วยความโกรธ
“แม่เป็นอะไรเนี้ย พูดแค่นี้ก็ต้องโมโหด้วย ทำยังกับว่ามีความลับอะไร เอ้...หรือว่าพี่ภูจะไม่ใช่ลูกแม่จริงๆ ...เฮ้ย.. ท่าจะบ้าแล้วนะเนี้ยเราคิดอะไรเนี้ย ถ้าพี่ภูไม่ใช่ลูกแม่แล้วจะให้เป็นเป็นลูกใครล่ะ” เนตรดาวบ่นพึมพำกับตัวเองเธอรู้สึกงงปนสงสัยที่แม่ของเธอโมโหถึงขนาดนี้
“ เมื่อไหร่จะมากันสักทีนะ” นิศา บ่นพลางเดินไปมาและหันไปมองที่ประตูทางเข้าบ้านอย่างตื่นเต้น
“ เดี๋ยวก็คงจะมากันแล้วมั้งค่ะคุณหนู” นมแย้มแม่นมของนิศาซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ตอบเมื่อเห็นทีท่าของนิศาดูกระวนกระวายใจ
ปิ๊ด ปิ๊ด ปิ๊ด !!!
“มากันแล้วค่ะ” เสียงชื่นคนรับใช้ของบ้านตะโกนลั่นเมื่อได้ยินเสียงแตรรถดังขึ้น
“พี่ชื่นค่ะ ช่วยไปเปิดประตูให้คุณพ่อทีนะค่ะ” นิศาพูดอย่างดีใจและตื่นเต้นเต็มทีเมื่อเห็นรถของผู้เป็นพ่อแล่นมาจอดอยู่ตรงหน้าประตูรั้วบ้าน
“ค่ะ ค่ะ คุณหนู” ชื่นตอบรับคำพลางวิ่งไปเปิดประตูรั้ว
เมื่อประตูรั้วถูกเปิดออก รถแล่นเข้ามาภายในบริเวณหน้าบ้านเสียงเครื่องยนต์รถดับลง ลุงชัยคนขับรถก็ลงมาจากรถก่อนจะไปเปิดประตูรถให้นายประจวบนักธุรกิจใหญ่ซึ่งเป็นพ่อของนิศา ทันทีที่นายประจวบลงมาจากรถเขาหันไปยิ้มให้นิศาลูกสาวของเขาอย่างเอ็นดู
“นิศา” ประจวบผู้เป็นพ่อเรียกนิศาพลางมองดูลูกสาวด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
ประจวบไม่ทันได้พูดอะไรต่อ อนงค์ พร้อมด้วยลูกลูกของเธอคือ ภูผา และเนตรดาวก็ลงมาจากรถ ซึ่งอนงค์กำลังจะเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ในฐานะภรรยาใหม่ของนายประจวบ โดยที่นิศาเองก็เข้าใจพ่อของเธอดีเธอยอมรับในตัวของอนงค์ เพราะแม่ของนิศาเองก็เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว เธอจึงคิดว่าในฐานะลูกเธอควรจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้พ่อของเธอมีความสุขที่สุด เธอจึงไม่ห้ามเรื่องที่พ่อของเธอจะมีภรรยาใหม่
“นายชัยเดี๋ยวขนของของคุณคุณลงไปเก็บแล้วบอกให้ชื่นกับแจ่มจัดห้องให้อนงค์แล้วก็ลูกๆของเธอด้วยนะ” ประจวบสั่งนายชัย นายชัยรับคำและทำตามที่เจ้านายบอก
“ พ่อค่ะ” นิศาพูดพลางวิ่งไปโผเข้ากอดผู้เป็นพ่อซึ่งประจวบก็กอดนิศาอย่างเอ็นดูโดยที่มี อนงค์และลูกสาวของเธอคือเนตรดาวมองดูด้วยความรู้สึกหมันไส้ แต่ก็แสร้งปั้นหน้ายิ้ม ส่วนภูผาลูกชายของอนงค์ยืนนิ่งไม่สนใจอะไรราวกับว่าเขายืนอยู่ตรงนั้นเพียงแค่คนเดียว
“นิศานี่ไง น้าอนงค์ภรรยาของพ่อที่เล่าให้ฟัง และนี่ลูกๆ ของเธอคือพี่ภูผาพี่เขาอายุมากกว่าหนู 2 ปี ส่วน
พี่เนตรดาวอายุมากกว่าหนู 1 ปี พวกเค้าจะเข้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะสมาชิกใหม่ของครอบครัวเรานะ”
ประจวบอธิบายให้นิศาฟังซึ่งนิศาก็มีสีหน้ายิ้มแย้มอีกทั้งยังดีใจที่เธอกำลังจะมีพี่ อนงค์แสร้งทำเป็นดีใจที่เจอนิศาเธอโผเข้ากอดนิศา และบอกว่าเธอดีใจมากที่จะได้นิศามาเป็นลูกสาวของเธออีกคน เนตรดาวไม่ยอมน้อยหน้าแม่ของเธอทันทีที่แม่ของเธอกอดนิศาเสร็จเนตรก็ทำเป็นเข้ามากอดนิศา เธอแสร้งพูดว่าเธอดีใจที่จะได้นิศามาเป็นน้องสาว ส่วนภูผายังคงยืนนิ่งไม่สนใจใคร นิศาจึงเข้าไปทักทายภูผาเธอจับมือเขาขึ้นมาทั้งสองข้างและมองตาเขาพลางพูดขึ้นว่า
“พี่ชาย....นิศาดีใจนะที่พี่ภูผาจะมาเป็นพี่ชายของนิศา”
ทันทีที่นิศาพูดจบ ภูผาก็หันมาสบตาเธอ เขามองดูเธออย่างไม่กระพริบตา เขารู้สึกประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่รู้ว่ามันคือความรู้สึกอะไรซึ่งเขาก็ไม่สามารถบอกกับตัวเองได้
“คุณอนงค์เดี๋ยวให้พวกเด็ก ๆย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนเดียวกับนิศานะ เวลามีอะไรพวกเด็กๆจะได้คอยช่วยเหลือกัน เดี๋ยวค่าใช้จ่ายผมจะเป็นคนรับผิดชอบเองก็แล้วกัน” นายประจวบพูดขึ้น
“ค่ะ คุณประจวบ” อนงค์รับคำ
ณ ห้องนอนของอนงค์
“แม่ค่ะ” เนตรดาวเรียกแม่ของเธอทันทีที่เปิดประตูห้องเข้ามา เธอวิ่งที่เตียงนอนก่อนจะกระโดดลงไปนอน โดยที่อนงค์ผู้เป็นแม่ก็ยืนมองดูลูกสาวของเธออย่างเอ็นดู
“เป็นไงบ้างลูกบ้านใหม่ของเราชอบมั้ย”
อนงค์ถามเนตรดาวก่อนจะค่อย ๆ นั่งลงบนเตียงนอน เนตรดาวจึงมานอนหนุนบนตักของผู้เป็นแม่
“เนตรชอบที่นี่มากเลยค่ะแม่ สบายกว่าบ้านหลังเก่าตั้งเยอะ ต่อไปนี้เราคงจะไม่ต้องลำบากเหมือนเมื่อก่อนอีกใช่มั้ยค่ะ”
“แม่สัญญาจ๊ะว่าแม่จะทำให้ลูกของแม่มีความสุขและสบายที่สุด แม่จะทำทุกวิถีทางที่เอาสมบัติของไอ้ประจวบมาเป็นของเราให้ได้”
อนงค์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแววตาของเธอดูแข็งกร้าว ก่อนจะลูบหัวเนตรดาวผู้เป็นลูกสาวที่นอนอยู่บนตักด้วยความเอ็นดู
“แต่ว่า...ไอ้แก่นั้นมันมีลูกนะค่ะแม่ มันก็ต้องยกสมบัติของมันให้ลูกสาวของมันสิค่ะ”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นนะลูกแม่จะกำจัดนังเด็กนิศาคนนั้นออกไปให้ได้ สมบัติทุกชิ้นในบ้านหลังนี้ต้องตกเป็นของพวกเราแต่ว่า... ลูกต้องช่วยแม่นะ ”
อนงค์พูดจบเนตรดาวก็ลุกขึ้นมานั่งใกล้ๆแม่ของเธอ เนตรดาวจับมืออนงค์ขึ้นมา เธอลูบมือแม่ของเธอเบาเบาอย่างอ่อนโยน
“แม่ค่ะ...ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลยนะค่ะ ไม่ว่ายังไงเนตรก็ต้องช่วยแม่อยู่แล้ว แต่เนตรว่าพี่ภูรู้เรื่องนี้เขาคงไม่ยอมแน่ๆ ขานั้นนะไม่เคยสนใจอะไรโลกส่วนตัวก็สูง ขรึมก็ขรึมเข้าใจยากชะมัดนี่ถ้าบอกว่าพี่ภูไม่ใช่ลูกของแม่.......”
เนตรดาวพูดไม่ทันจบอนงค์ก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างเสียงดังด้วยอารมณ์ที่โมโหสุดๆ
“ใช่สิ ทำไมจะไม่ใช่ ภูผา เป็น...ลูก...ของ..แม่ จำเอาไว้นะแล้วคราวหน้าคราวหลังอย่าพูดจาอะไรแบบนี้อีกแม่ไม่ชอบ” อนงค์พูดจบก็ลุกขึ้นเดินหนีออกไปนอกห้องทันทีด้วยความโกรธ
“แม่เป็นอะไรเนี้ย พูดแค่นี้ก็ต้องโมโหด้วย ทำยังกับว่ามีความลับอะไร เอ้...หรือว่าพี่ภูจะไม่ใช่ลูกแม่จริงๆ ...เฮ้ย.. ท่าจะบ้าแล้วนะเนี้ยเราคิดอะไรเนี้ย ถ้าพี่ภูไม่ใช่ลูกแม่แล้วจะให้เป็นเป็นลูกใครล่ะ” เนตรดาวบ่นพึมพำกับตัวเองเธอรู้สึกงงปนสงสัยที่แม่ของเธอโมโหถึงขนาดนี้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ