Sonia เจ้าหญิงกับความรัก
5.3
2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ณ อาณาจักรโซเนีย
รถม้าคันใหญ่แล่นผ่านประตูปราสาทไปอย่างรวดเร็วโดยมีทหารหน้าปราสาทยืนโค้งคำนับพร้อม ๆ กันรวมถึงทหารหรือสาวใช้ในปราสาทที่พบเห็นต่างโค้งคำนับเพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าใครมาเมื่อมองไปบนรถม้าซึ่งมีพระราชาแห่งเมืองโอดัชกับบุตรชายของเขา เจ้าชายอาสการ์ แห่งเมืองโอดัช นั่งเด่นตระหง่านตาบนรถม้าอย่างน่าเกรงขาม
" ถึงแล้วลูกพ่อ " พระราชากล่าวบอกบุตรชายของตนพร้อมด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างแปลกประหลาด เจ้าชายสังเกตุว่าท่านพ่อจะกรุ้มกริ่มยิ้มตลอดการเดินทางมาที่
" ครับท่านพ่อ " เจ้าชายตอบเสียงนุ่มกjอนจะมีอีกเสียงดังขึ้น
" ยินดีต้อนรับพระราชาโอดัช " เสียงชายชราซึ่งเป็นพระราชาแห่งเมืองโซเนียกล่าวยิ้มต้อนรับพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้และหยุดลงตรงหน้า เจ้าชายและบิดา
" เป็นอย่างไรบ้างเล่า เมืองของข้าเจ้าชาย อาสการ์ " ชายชราทักทายหนุ่มอีกนซึ่งเป็นว่าที่ลูกเขยของเขาในเร็วนี้ด้วยสีหน้าดีใจและปรีติ
" น่าตื่นตาตื่นใจมากครับท่าน " ชายหนุ่มตอบตามมารยาท
" เรียกข้าว่าท่านพ่อจะดีกว่าเพราะข้าเองก็รุ่นราวคราวเดียวกับพ่อของเจ้าชาย "
" ครับท่านพ่อ " สิ้นเสียงเจ้าชายตอบทำเอาสองชายชราที่ยืนอยู่มองหน้ากันและหัวเราะอ่างชอบใจ
" ถ้าอย่างนั้นข้าขอเชิญท่านกับเจ้าชายเข้ามาในปราสาทเลยดีกว่า " พระราชาแห่งเมืองโซเนียชักเชิญพระราชาโอดัชและเจ้าชายอาสการ์บุตรชายของผู้มายืนเข้าในปราสาทและไม่รีรอที่จะเดินท้าวก้าวนำหน้าไป
บริเวณห้องรับแขกในปราสาทโซเนีย สาวใช้สองนางนำถ้วยชามาเสิร์ฟและขนมคุ๊กกี้อีกหนึ่งจานใหญ่ก่อจะเดินออกไปทางประตูใหญ่ทางเข้าห้องจนหายลิบไปทางด้านหลังซึ่งเป็นห้องครัวขนาดใหญ่ที่มีกุ๊กและคนทำอาหารฝีมือดีมากมายคอนทำของว่างอยู่ไม่ขาด
" ตกลงท่านพ่อมีกิจอันใดเล่าจึงให้ข้าตามมา " ชายหนุ่มกระซิบบิดาซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะได้รับเสียงตอบกลับ
" ใจร้อนไปใยลูกชายข้า ฮ่าๆๆๆ " ชายผู้เป็นพ่อตอบพร้อมกับตบไหล่ลูกชายเบา ๆ
" นั่นไง โซเนีย ลูกสาวของข้าเดินมานั่นแล้ว " เสียงของเจ้าของปราสาทซึ่งนั่งบนโซฟาใหญ่หรูหราชี้ไปทางเข้าห้องโดยมีหญิงสาวร่างระหงอรชรในชุด สีส้มพริ้วเป็นกระโปรงยาวปะหัวเข่าโชว์เรียวขาสวยและเสื้อโชว์ไหล่งามให้เห็นผิวสีน้ำนมกลมกลืน เดินทอดน่องมาใกล้จนหยุดลงที่โซฟาข้างบิดาของนางเองพร้อมกับกล่าวสวัสดี
" สวัสดีค่ะ พระราชาโอดัช และ สวัสดีเจ้าชาย " พระราชาผู้มาเยือนกล่าวทักทายกลับ
" นี่โซเนียลูกสาวคนเดียวของตระกูลข้า " พระราชาแห่งโซเนียกล่าว
" หนูช่างงามยิ่งนัก โซเนีย " พระราชาโอดัชกล่าวและหันไปมองบุตรชายของตนแต่ทว่าร่างสูงกลับทำหน้านิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
" สวัสดีเจ้าหญิง " เจ้าชายผู้หล่อเหลากล่าวทักทายพร้อมยิ้มเย็นใสโซเนียเหมือนแค่ทักทายคนทั่วไป ชายชราผู้เป็นเจ้าบ้านเห็นสถานะการณ์อึดอัดจึงกล่าวขึ้น
" โซเนีย ลูกพาเจ้าชายไปชมรอบๆปราสาทก่อนพ่อมีธุระจะคุยกันหน่อยตามประสาคนแก่ " บิดาบอกบุตรสาว
" ค่ะ ท่านพ่อ งั้นลูกขอตัวนะคะ " สาวน้อยกล่าวกับบิดาและไม่ลืมที่จะหันไปบอกผู้ใหญ่ที่มาเยือน
" ขอตัวนะคะพระราชา " พระราชายิ้มและพยักหน้าให้ก่อนจะกล่าวต่อ
" เรียกข้าว่าท่านพ่อเถิด " สาวน้อยยิ้มเขิน ๆ แต่ก็ตอบกลับไปด้วยมารยาท
" ค่ะ ท่านพ่อ "
ร่างบางเดินออกไปจากห้องโดยมีชายหนุ่มผู้หล่อเหลาเดินตามไป สองชายชรามองทั้งสองราวกับมองเด็กสองคนพึ่งหัดเดินอย่างไม่ระสายตาและพลียิ้มอย่างชอบใจยิ่งนักกับภาพที่เห็น สองร่างเดินมาจนถึงหลังปราสาทซึ่งมีศาลากว้างตั้งตระหง่านอยู่ ภายในศาลามีช่อดอกไม้จัดเรียงบนโต๊ะเหล็กสีขาวรวดรายระเอียดงดงาม โซเนียเดินไปนั่งลงและตามด้วยเจ้าชายอาสการ์ ทั้งคู่นั่งเงียบจนเจ้าชายเมื่อมองเห็นต้นแอปเปิ้ลหลังปราสาทของโซเนีย ก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้เขามีนัดกับสาวน้อยแสนสวยที่คุ้นตากันอยู่มุกวันจึงทำน่าเคร่งเครียด
" เป็นอะไรรึป่าวคะเจ้าชาย " โซเนียกล่าวทำลายความเงียบก่อนเจ้าของร่างหนาจะหันมาสบตาโซเนียแว็บนึงก่อนจะหันกลับไปทางต้นแอปเปิ้ลตามเดิม ทำเอาหญิงร่างบางที่นั่งอยู่ตรงหน้านิ่วหน้าและเบ้ปากอย่างไม่พอใจ เพราะไม่เคยมีชายหนุ่มคนไหนทำตัวเย็นชาแบบนี้กับนางมาก่อน ถึงไม่ชอบนางก็น่าจะรักษามารยาทบ้าง ทันใดนั้นเองร่างหนากลับหันหน้าควับมาจังหวะเดียวกับที่โซเนียเบ้ปาก
" น่าเกลียดที่สุด " หนุ่มหน้าขึมพูดเสียงเรียบแกรมหงุดหงิดเพราะคิดถึงเรื่องของ เจนิส ซึ่งเป็นหญิงชาวโอดัชที่มีความสัมพันธ์กับเขาเพราะในเวลานี้เขาควรจะอยู่กับนางแต่ทว่าเขากับอยู่กับหญิงสาวซึ่งเป็นใครที่ไม่คุ้นเคยกันเลยแล้วยังมาทำท่าทางให้เขาไม่ประทับใจเสียอีก เจ้าชายอาสการ์เป็นชายหนุ่มซึ่งเย็นชาที่สุดแต่ทว่าเขากลับนุ่มนวลอ่อนไหวกับ เจนิส สาวธรรมดาๆคนนึงเพราะนางคอยเอาใจเขาตลิดเวลาตั้งแต่พบกัน หญิงสาวนั่งอยู่ข้างๆได้ยินคำอุทานของคนร่างหนาจึงหันขวับไปถลึงตาใส่และกล่าวอย่างลืมตัว
" ถึงข้าจะยอมให้ท่านพ่อของข้าและพระราชาโอดัชบิดาของเจ้าชายให้สมรสกับเจ้าชาย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าข้าจะหลงรักหรือพิศวาสเจ้าชายแต่อย่างใด อย่ามัวรุ่มหลงแต่จะเข้าข้างตัวเองอยู่เลย " เสียงใสแหว ทำเอาหนุ่มหน้าคมขใวดคิ้วด้วยความงุนงง
" เจ้าว่าอะไรนะ สมรสกับข้างั้นหรือ " เจ้าชายอาสการ์ถามด้วยความตกใจ
" ใช่สิ แล้วเจ้าชายอย่าคิดว่าข้าจะคิดพิศวาสอันใดเล่า ข้าไม่แม้แต่จะคิดเพราะฉนั้นอย่าทำบึ้งตึงใส่ข้าเหมือนดูถูกข้าไม่มีผิด " หญิงสาวแหวอยู่ฝ่ายเดียวทั้งๆที่ชายหนุ่มอยู่เบื้องหน้าตะลึงงันกับคำพูดที่ได้ยินเมื่อครู่นี้ก่อนจะชงักกึกและมองต้นแอปเปิ้ลด้วยแววตาจริงจังอีกครั้งและผละหันกลับมาที่หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า
" ข้าขอตัว " เจ้าชายกล่าวและโค้งคำนับตามมารยาทเหมือนเป็นการกล่าวลาก่อนร่างสูงจะหายลับไปกับประตูด้านหลังที่ทั้งสองเดินมาเหลือแต่หญิงสาวที่ยืนงงๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด่วยใบหน้าชาไปถึงหู
" คิดว่าตัวเองเป็นใครกันจึงมาทำกับข้าแบบนี้ " สาวน้อยพูดกับตัวเองด้วยความโกรธจัดจนหูแดงที่ซึ่งถูกชายหนุ่มแปลกหน้าที่จะมาเป็นสวามีในเร็วนี้อีกฉีกหน้านางอย่างเยือกเย็น ไร้มารยาทและความเป็นสุภาพบุรษ ในใจนางรู้สึกขุ่นเคืองและเจ็บใจมากทั้งๆที่นางก็ไม่เคยทำอะไรให้เขามาก่อน พบกันครั้งแรกเขาก็ฉีกหน้านางต่อหน้าสาวใช้ที่นั่งเคยรับใช้อยู่แบบนี้นางจะต้องเอาคืนเขาในไม่ช้าแน่ !
บริเวณหน้าปราสาทซึ่งมีรถม้าจอดเด่นอยู่ซึ่งก่อนร่างสูงสองร่างจะก้าวขึ้นพร้อมกล่าวลา โซเนียกับพระราชาบิดาของนาง และรถม้าก็แล่นจากไปโดยที่เจ้าชายไม่หันกลับมากล่าวลาโซเนียสักนิด แต่ถึงกระนั้นนางเองก็ไม่มองน่าเจ้าชายอยู่แล้วเช่นกัน ผู้เป็นบิดาเห็นความผิดแปลกจึงเอ่ยปากถามร่างบาง ...
" เป็นอย่างไรบ้างลูกพ่อ เจ้าชายอาสการ์ถูกใจเจ้าไหม " ผู้เป็นพ่อถามบุตรสาว
" ก็ดีค่ะท่านพ่องั้นข้าต้องขอตัวก่อนนะคะอยากข้าต้องการจะพักผ่อนนี่ก็ใกล้มืดแล้วค่ะ " หญิงสาวกล่าวตัดบทราวกับไม่สบอารมณ์กับเจ้าของชื่อที่บิดากล่าวถึงก่อนจะเดินจากไปราวกับไม่ต้องการรอฟังคำพูดต่อไป พระราชาได้แต่มองตามร่างน้อยอย่างงงๆก่อนจะเดิมเข้าปราสาทไปอีกคน
2.1 ณ เมืองโอดัช
รถม้าแล่นกลับเข้าสู่ปราสาทที่คุ้นตาของร่างสันทัดสองร่างที่อยู่บนรถม้าจนกระทั่งจอดลงที่รลานน้ำพุตามเดิมโดยมีพระราชาโอดัชก้าวท้าวลงก่อนและตามด้วยบุตรชายของเขาเจ้าชายอาสการ์ และเมื่อมาถึงเจ้าชายก็รีบสาวท้าวเดินไปตามทางด้านข้างปราสาทซึ่งหากเป็นกลางวันจะเห็นดอกไม้สีสันแตกต่างงามตาแต่ทว่าตอนนี้ตะวันก็ลับขอบฟ้าไปแล้วจึงมีแสงสีนวลเปล่งไปตามทางโดยโครมไฟรอบปราสาท พระราชาโอดัชรู้ดีว่าลูกชายของตนเดินไปตรงนั้นเพราะอะไร เขาได้แต่ถอนหายใจยิ้มแผ่วๆก่อนจะเดินเข้าปราสาทไป ส่วนเจ้าขายร่างสูงกวาดสายตาไปรอบๆซึ่งตอนนี้เขายืนอยู่หลังปราสาทของตนเองสายตายังคงกวาดมองต่อไปราวกับต้องการพบใครสักคนและเขาก็ต้องหยุดเมื่อสายตาสะดุดเข้ากับหญิงสาวในชุดสีขาวและนั่นคือ เจนิส ร่างระหงหันมาพบว่ามีคนมองอยู่ตนเองและทันที่ที่นางเห็นเจ้าชายนางก็คลี่ยิ้มออกอย่างดีใจเมื่อพบว่าคนที่นางรอมาแล้ว เจ้าชายเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวและจับมือบางด้วยความปราณีตขึ้นมาประทับจูบอย่างแผ่วเบาราวกับกลัวมือน้อยจะกร่อนสลาย
" เจ้ารอข้าหรือ " ร่างหนาถามด้วยแววตารู้สึกผิด
" ใช่ค่ะ แต่ก็ไม่นานนักข้าพึ่งมาเมื่อครู่ข้าทราบดีว่าท่านมีงานด่วนกับพระราชาทหารหน้าปราสาทบอกข้าแล้ว ข้าจึงกลับไปก่อนและเมื่อครู่นี้เองข้าตัดสินใจกลับมารอท่านที่นี่เพราะข้ารู้ดีว่าดวงใจข้าจะกลับมา "
" ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องรอ เจนิส แต่ข้าเองมีกิจจำเป็นต้องไปหับท่านพ่อเพราะท่านพ่อเองก็บอกข้ากระชั้นชิดเมื่อช้าวนี้ ข้าจึงไม่ได้บอกเจ้า " เจ้าชายอาสการ์กล่าวด้วยกลัวว่าหญิงสาวจะน้อยใจ
" ข้าเข้าใจท่านดี อาสการ์ " เสียงสาวซึ่งยืนอยู่เบื้องหน้าตอบ
" เพราะเจ้าน่ารักแบบนี้ไงข้าจึงรักเจ้านัก " ชายหนุ่มพูดกระซิกเอาใจ ก่อนจะกระชับมือบางที่เขาจับอยู่ขึ้นมาจูบเบาๆอีกครั้ง
" วันนี้ท่าทางท่านจะเหนื่อยมากแล้วไปพักผ่อนเสียเถิด ข้าเองก็เพียงรอได้เห็นหน้าท่านจึงมารอท่านที่นี่ " เจนิส กล่าวพร้อมสายตาแสนอ่อนโยน
" แต่ข้าพึ่งจะได้พบเจ้าแปปเดียวเอง " เสียงทุ้มออดอ้อนราวกับเด็ก
" เดี๋ยวพรุ่งนี้ท่านก็พบข้าอีก และวันต่อๆไปท่านก็ยังเห็นข้า ข้าไม่ได้หนีไปไหนสักหน่อย " เจนิสตอบระคนขำหนุ่มร่างหนาที่อยู่เบื้องหน้าซึ่งตอนนี้หดลงเหมือนดอกไม้หุบเลยทีเดียว
" ตกลง แต่ว่าพรุ่งนี้เจ้าต้องมาให้ข้าชื่นใจซะให้พอเลย " เจ้าชายกล่าว
" ค่ะ ข้าสัญญา " เจนิสกล่าวพร้อมคลี่ยิ้มหวานให้เจ้าชายและและเจ้าชายก็ปล่อยมือบางช้าอย่างอาวลัยอาวรก่อนร่างบางของเจนิสจะค่อยๆไกลออกไปจนหายลิบไปกับต้นไม้ใหญ่ด้านหลังปราสาทซึ่งมีประตูเหล็กหนาช่องเล็กๆที่เจ้าตัวบางลอดผ่านเข้ามาเป็นประจำจนทหารหลังปราสาทเคยชิน
เจ้าชายเดินเข้าไปในปราสาททางประตูด้านหลังและกำลังจะผ่านห้องรับแขกไปเพื่อขึ้นบรรไดแต่ทว่ากลับมีเสียงหนึ่งในห้องกล่าวท้วงขึ้น
" พ่อมีเรื่องจะคุยกับเจ้า อาสการ์ " ชายที่ซึ่งเหมือนจะนั่งรออยู่ทักขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
" ครับท่านพ่อ " เจ้าชายหันไปตอบก่อนจะเดินเข้าไปนั่งลงโซฟาใหญ่ตรงข้ามกันกับบิดา
" อีกสองวันข้าและพระราชาแห่งโซเนียร่วมกันจัดงานพิธีสมรสให้เจ้าและหนูโซเนีย พ่อได้ตกปากรับคำตกลงกับท่านไว้แล้ว เพราะฉนั้นเจ้าไม่มีสิทธิ์จะประฎิเสธได้เพื่อหน้าตาของพ่อและพระราชาแห่งโซเนีย " เสียงชายชรากล่าวด้วยสีหน้าเอาจริงเอาจัง
" แต่ท่านพ่อเองก็รู้ว่าข้ารักกับ เจนิส และข้าหวังนักที่จะแต่งงานกับนาง " ดวงตาสีน้ำเงินเข้มวาววัยเมื่อกล่าวถึงความรักระหว่างตนกับหญิงสาวผูชื่อ เจนิส
" ข้ารู้แต่เรื่องระหว่างเจ้า กับนางมิอาจจะเป็นที่ยอมรับได้ " ผู้เป็นบิดาตอบอย่างอ่อนใจกับสิ่งที่ได้ยิน เนื่องด้วยในยุคสมัยนั้น ผู้ยิ่งใหญ่กับคนธรรมดายังไม่เป็นที่ยอมรับในการสมรสหรือครองรักกันแต่ถึงกระนั้นเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายกับเจนิสก็เป็นที่รู้กัน แต่ไม่มีใครกล้าที่จะกล่างหรือแม้แต่ซุบซิบเพราะเจ้าชายหวงแหนและให้เกีรยตินางมากทุกคนจึงไม่กล้ากล่าวหรือพูดถึงนางใดๆ ร่างสันทัดมองหน้าบิดาซึ่งเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและนึกถึงเมื่อครั้งเขายังเด็ก หากแต่สิ่งใดที่เขาต้องการบิดาก็หามาให้จงได้กับสิ่งนั้นและเมื่อคิดไปว่า เพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านี้จะไม่ยอมทำตามที่ท่านขอเลยหรือไร
" ตกลงครับท่านพ่อ ข้าจะสมรสกับโซเนีย แต่นั่นเพราะทั่นพ่อขอร้อง ข้าเองมิได้คิดพิศวาสอันใดเจ้าหญิงตัวแสบนั่น ในใจข้าตอนนี้มีเพียงเจนิสเท่านั้น " เสียงเรียบตอบแต่แฝงไปด้วยความจริงใจ
พระราชามองหน้าบุตรชายด้วยความเอือมระอาก่อนจะลึกขึ้นจากโซฟาใหญ่ครงข้ามใจชายและเดินไปตบไหล่เจ้าชายที่โซฟาอีกตัวเบาๆเป็นเชิงปลอบใจและกล่าวขึ้น
" เจ้าไปพักผ่อนเถิดส่วนพ่อเตรียมเรื่องต่างๆให้เจ้าเรียบร้อยแล้วไม่ต้องห่วง " จบประโยคสนทนาของคืนนี้เจ้าชายยิ้มให้บิดาที่พึ่งเดินออกจากห้องและขึ้นบรรใดใหญ่ไปด้วยความเหนื่อยใจแต่หากเทียบกับสิ่งที่บิดามอบให้ตนแล้ว มิจเทียบได้เขาจึงตัดสินใจที่จะสมรสกับ โซเนีย สาวน้อยที่พึ่งจะมีกลิ่นของความหึ่งบนโฉมหน้าเมื่อกลางวั้นนี้..
เจ้าชายอาสการ์เดินขึ้นบรรไดไปอย่างช้าๆด้วยการเดินทางของวันนี้ทำให้เขาเหนื่อยล้านักจึงจะไปแช่น้ำในอ่างที่ห้องนอนและหลับอย่างสบายกายในราตรีนี้ที่แสนเงียบเหงาดุจใจที่แตกร้าวเริ่มหล่นหายไปเป็นเศษเสี้ยวน้อยนิด ระหว่างทางเดินไปตามระเบียงซึ่งเบื้อหลังทีประตูห้องไม้เงาวับเป็นห้องๆไปจนมาหยุดอยู่ที่ห้องมุมซ้ายสุดของชั้นสองในปราสาท เจ้าชายหมุนลูกบิดประตูและเปิดเข้าไป ไฟในห้องค่อยๆติดทีละดวงเพราะระบบอัตโนมัติแสนหรูหรา เจ้าชายปิดประตูห้องอย่างเบามือและนั่งฟุบลงที่ปลายเตียง ใบหน้าคมมองออกไปนอกหน้าต่างซึ่งในยามนี้มีพระจันทร์เปล่งประกายกว่าดาวดวงใดตรงกับหน้าต่างบานใหญ่ของห้องพอดี ในใจเขาอยากจะคิดถึง เจนิส สาวผู้เป็นที่รักแต่ทว่า.. ใบหน้านวลขาวผ่องกับแว็บเข้ามาให้ตกใจ ชายหนุ่มสะบัดหัวแรงๆซ้ายขวาด้วยความตกใจและใช่ เขาคิดถึงหน้าของโซเนียสาวพี่พึ่งเจอกันในวันนี้และจะเข้าพิธีสมรสกันอีกไม่กี่วันที่จะมาถึง ในใจเขาเต็มไปด้วยความสับสนเขาคิดถึงนางได้อยางไรกันทั้งที่แม้แต่ตอนพบกันเขาไม่เคยคิดจะจดจำใบหน้าของนางด้วยซ้ำ แต่หน้านางกลับแว็บเข้ามาในหัวเขาและเด่นเกินกว่าจะลบเลือนไป เขาถามตัวเองว่าทำไมจนกระทั่งเผลอหลับไปและหลุดเข้าสู่ห่วงนิทรา ...
รถม้าคันใหญ่แล่นผ่านประตูปราสาทไปอย่างรวดเร็วโดยมีทหารหน้าปราสาทยืนโค้งคำนับพร้อม ๆ กันรวมถึงทหารหรือสาวใช้ในปราสาทที่พบเห็นต่างโค้งคำนับเพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าใครมาเมื่อมองไปบนรถม้าซึ่งมีพระราชาแห่งเมืองโอดัชกับบุตรชายของเขา เจ้าชายอาสการ์ แห่งเมืองโอดัช นั่งเด่นตระหง่านตาบนรถม้าอย่างน่าเกรงขาม
" ถึงแล้วลูกพ่อ " พระราชากล่าวบอกบุตรชายของตนพร้อมด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างแปลกประหลาด เจ้าชายสังเกตุว่าท่านพ่อจะกรุ้มกริ่มยิ้มตลอดการเดินทางมาที่
" ครับท่านพ่อ " เจ้าชายตอบเสียงนุ่มกjอนจะมีอีกเสียงดังขึ้น
" ยินดีต้อนรับพระราชาโอดัช " เสียงชายชราซึ่งเป็นพระราชาแห่งเมืองโซเนียกล่าวยิ้มต้อนรับพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้และหยุดลงตรงหน้า เจ้าชายและบิดา
" เป็นอย่างไรบ้างเล่า เมืองของข้าเจ้าชาย อาสการ์ " ชายชราทักทายหนุ่มอีกนซึ่งเป็นว่าที่ลูกเขยของเขาในเร็วนี้ด้วยสีหน้าดีใจและปรีติ
" น่าตื่นตาตื่นใจมากครับท่าน " ชายหนุ่มตอบตามมารยาท
" เรียกข้าว่าท่านพ่อจะดีกว่าเพราะข้าเองก็รุ่นราวคราวเดียวกับพ่อของเจ้าชาย "
" ครับท่านพ่อ " สิ้นเสียงเจ้าชายตอบทำเอาสองชายชราที่ยืนอยู่มองหน้ากันและหัวเราะอ่างชอบใจ
" ถ้าอย่างนั้นข้าขอเชิญท่านกับเจ้าชายเข้ามาในปราสาทเลยดีกว่า " พระราชาแห่งเมืองโซเนียชักเชิญพระราชาโอดัชและเจ้าชายอาสการ์บุตรชายของผู้มายืนเข้าในปราสาทและไม่รีรอที่จะเดินท้าวก้าวนำหน้าไป
บริเวณห้องรับแขกในปราสาทโซเนีย สาวใช้สองนางนำถ้วยชามาเสิร์ฟและขนมคุ๊กกี้อีกหนึ่งจานใหญ่ก่อจะเดินออกไปทางประตูใหญ่ทางเข้าห้องจนหายลิบไปทางด้านหลังซึ่งเป็นห้องครัวขนาดใหญ่ที่มีกุ๊กและคนทำอาหารฝีมือดีมากมายคอนทำของว่างอยู่ไม่ขาด
" ตกลงท่านพ่อมีกิจอันใดเล่าจึงให้ข้าตามมา " ชายหนุ่มกระซิบบิดาซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะได้รับเสียงตอบกลับ
" ใจร้อนไปใยลูกชายข้า ฮ่าๆๆๆ " ชายผู้เป็นพ่อตอบพร้อมกับตบไหล่ลูกชายเบา ๆ
" นั่นไง โซเนีย ลูกสาวของข้าเดินมานั่นแล้ว " เสียงของเจ้าของปราสาทซึ่งนั่งบนโซฟาใหญ่หรูหราชี้ไปทางเข้าห้องโดยมีหญิงสาวร่างระหงอรชรในชุด สีส้มพริ้วเป็นกระโปรงยาวปะหัวเข่าโชว์เรียวขาสวยและเสื้อโชว์ไหล่งามให้เห็นผิวสีน้ำนมกลมกลืน เดินทอดน่องมาใกล้จนหยุดลงที่โซฟาข้างบิดาของนางเองพร้อมกับกล่าวสวัสดี
" สวัสดีค่ะ พระราชาโอดัช และ สวัสดีเจ้าชาย " พระราชาผู้มาเยือนกล่าวทักทายกลับ
" นี่โซเนียลูกสาวคนเดียวของตระกูลข้า " พระราชาแห่งโซเนียกล่าว
" หนูช่างงามยิ่งนัก โซเนีย " พระราชาโอดัชกล่าวและหันไปมองบุตรชายของตนแต่ทว่าร่างสูงกลับทำหน้านิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
" สวัสดีเจ้าหญิง " เจ้าชายผู้หล่อเหลากล่าวทักทายพร้อมยิ้มเย็นใสโซเนียเหมือนแค่ทักทายคนทั่วไป ชายชราผู้เป็นเจ้าบ้านเห็นสถานะการณ์อึดอัดจึงกล่าวขึ้น
" โซเนีย ลูกพาเจ้าชายไปชมรอบๆปราสาทก่อนพ่อมีธุระจะคุยกันหน่อยตามประสาคนแก่ " บิดาบอกบุตรสาว
" ค่ะ ท่านพ่อ งั้นลูกขอตัวนะคะ " สาวน้อยกล่าวกับบิดาและไม่ลืมที่จะหันไปบอกผู้ใหญ่ที่มาเยือน
" ขอตัวนะคะพระราชา " พระราชายิ้มและพยักหน้าให้ก่อนจะกล่าวต่อ
" เรียกข้าว่าท่านพ่อเถิด " สาวน้อยยิ้มเขิน ๆ แต่ก็ตอบกลับไปด้วยมารยาท
" ค่ะ ท่านพ่อ "
ร่างบางเดินออกไปจากห้องโดยมีชายหนุ่มผู้หล่อเหลาเดินตามไป สองชายชรามองทั้งสองราวกับมองเด็กสองคนพึ่งหัดเดินอย่างไม่ระสายตาและพลียิ้มอย่างชอบใจยิ่งนักกับภาพที่เห็น สองร่างเดินมาจนถึงหลังปราสาทซึ่งมีศาลากว้างตั้งตระหง่านอยู่ ภายในศาลามีช่อดอกไม้จัดเรียงบนโต๊ะเหล็กสีขาวรวดรายระเอียดงดงาม โซเนียเดินไปนั่งลงและตามด้วยเจ้าชายอาสการ์ ทั้งคู่นั่งเงียบจนเจ้าชายเมื่อมองเห็นต้นแอปเปิ้ลหลังปราสาทของโซเนีย ก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้เขามีนัดกับสาวน้อยแสนสวยที่คุ้นตากันอยู่มุกวันจึงทำน่าเคร่งเครียด
" เป็นอะไรรึป่าวคะเจ้าชาย " โซเนียกล่าวทำลายความเงียบก่อนเจ้าของร่างหนาจะหันมาสบตาโซเนียแว็บนึงก่อนจะหันกลับไปทางต้นแอปเปิ้ลตามเดิม ทำเอาหญิงร่างบางที่นั่งอยู่ตรงหน้านิ่วหน้าและเบ้ปากอย่างไม่พอใจ เพราะไม่เคยมีชายหนุ่มคนไหนทำตัวเย็นชาแบบนี้กับนางมาก่อน ถึงไม่ชอบนางก็น่าจะรักษามารยาทบ้าง ทันใดนั้นเองร่างหนากลับหันหน้าควับมาจังหวะเดียวกับที่โซเนียเบ้ปาก
" น่าเกลียดที่สุด " หนุ่มหน้าขึมพูดเสียงเรียบแกรมหงุดหงิดเพราะคิดถึงเรื่องของ เจนิส ซึ่งเป็นหญิงชาวโอดัชที่มีความสัมพันธ์กับเขาเพราะในเวลานี้เขาควรจะอยู่กับนางแต่ทว่าเขากับอยู่กับหญิงสาวซึ่งเป็นใครที่ไม่คุ้นเคยกันเลยแล้วยังมาทำท่าทางให้เขาไม่ประทับใจเสียอีก เจ้าชายอาสการ์เป็นชายหนุ่มซึ่งเย็นชาที่สุดแต่ทว่าเขากลับนุ่มนวลอ่อนไหวกับ เจนิส สาวธรรมดาๆคนนึงเพราะนางคอยเอาใจเขาตลิดเวลาตั้งแต่พบกัน หญิงสาวนั่งอยู่ข้างๆได้ยินคำอุทานของคนร่างหนาจึงหันขวับไปถลึงตาใส่และกล่าวอย่างลืมตัว
" ถึงข้าจะยอมให้ท่านพ่อของข้าและพระราชาโอดัชบิดาของเจ้าชายให้สมรสกับเจ้าชาย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าข้าจะหลงรักหรือพิศวาสเจ้าชายแต่อย่างใด อย่ามัวรุ่มหลงแต่จะเข้าข้างตัวเองอยู่เลย " เสียงใสแหว ทำเอาหนุ่มหน้าคมขใวดคิ้วด้วยความงุนงง
" เจ้าว่าอะไรนะ สมรสกับข้างั้นหรือ " เจ้าชายอาสการ์ถามด้วยความตกใจ
" ใช่สิ แล้วเจ้าชายอย่าคิดว่าข้าจะคิดพิศวาสอันใดเล่า ข้าไม่แม้แต่จะคิดเพราะฉนั้นอย่าทำบึ้งตึงใส่ข้าเหมือนดูถูกข้าไม่มีผิด " หญิงสาวแหวอยู่ฝ่ายเดียวทั้งๆที่ชายหนุ่มอยู่เบื้องหน้าตะลึงงันกับคำพูดที่ได้ยินเมื่อครู่นี้ก่อนจะชงักกึกและมองต้นแอปเปิ้ลด้วยแววตาจริงจังอีกครั้งและผละหันกลับมาที่หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า
" ข้าขอตัว " เจ้าชายกล่าวและโค้งคำนับตามมารยาทเหมือนเป็นการกล่าวลาก่อนร่างสูงจะหายลับไปกับประตูด้านหลังที่ทั้งสองเดินมาเหลือแต่หญิงสาวที่ยืนงงๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด่วยใบหน้าชาไปถึงหู
" คิดว่าตัวเองเป็นใครกันจึงมาทำกับข้าแบบนี้ " สาวน้อยพูดกับตัวเองด้วยความโกรธจัดจนหูแดงที่ซึ่งถูกชายหนุ่มแปลกหน้าที่จะมาเป็นสวามีในเร็วนี้อีกฉีกหน้านางอย่างเยือกเย็น ไร้มารยาทและความเป็นสุภาพบุรษ ในใจนางรู้สึกขุ่นเคืองและเจ็บใจมากทั้งๆที่นางก็ไม่เคยทำอะไรให้เขามาก่อน พบกันครั้งแรกเขาก็ฉีกหน้านางต่อหน้าสาวใช้ที่นั่งเคยรับใช้อยู่แบบนี้นางจะต้องเอาคืนเขาในไม่ช้าแน่ !
บริเวณหน้าปราสาทซึ่งมีรถม้าจอดเด่นอยู่ซึ่งก่อนร่างสูงสองร่างจะก้าวขึ้นพร้อมกล่าวลา โซเนียกับพระราชาบิดาของนาง และรถม้าก็แล่นจากไปโดยที่เจ้าชายไม่หันกลับมากล่าวลาโซเนียสักนิด แต่ถึงกระนั้นนางเองก็ไม่มองน่าเจ้าชายอยู่แล้วเช่นกัน ผู้เป็นบิดาเห็นความผิดแปลกจึงเอ่ยปากถามร่างบาง ...
" เป็นอย่างไรบ้างลูกพ่อ เจ้าชายอาสการ์ถูกใจเจ้าไหม " ผู้เป็นพ่อถามบุตรสาว
" ก็ดีค่ะท่านพ่องั้นข้าต้องขอตัวก่อนนะคะอยากข้าต้องการจะพักผ่อนนี่ก็ใกล้มืดแล้วค่ะ " หญิงสาวกล่าวตัดบทราวกับไม่สบอารมณ์กับเจ้าของชื่อที่บิดากล่าวถึงก่อนจะเดินจากไปราวกับไม่ต้องการรอฟังคำพูดต่อไป พระราชาได้แต่มองตามร่างน้อยอย่างงงๆก่อนจะเดิมเข้าปราสาทไปอีกคน
2.1 ณ เมืองโอดัช
รถม้าแล่นกลับเข้าสู่ปราสาทที่คุ้นตาของร่างสันทัดสองร่างที่อยู่บนรถม้าจนกระทั่งจอดลงที่รลานน้ำพุตามเดิมโดยมีพระราชาโอดัชก้าวท้าวลงก่อนและตามด้วยบุตรชายของเขาเจ้าชายอาสการ์ และเมื่อมาถึงเจ้าชายก็รีบสาวท้าวเดินไปตามทางด้านข้างปราสาทซึ่งหากเป็นกลางวันจะเห็นดอกไม้สีสันแตกต่างงามตาแต่ทว่าตอนนี้ตะวันก็ลับขอบฟ้าไปแล้วจึงมีแสงสีนวลเปล่งไปตามทางโดยโครมไฟรอบปราสาท พระราชาโอดัชรู้ดีว่าลูกชายของตนเดินไปตรงนั้นเพราะอะไร เขาได้แต่ถอนหายใจยิ้มแผ่วๆก่อนจะเดินเข้าปราสาทไป ส่วนเจ้าขายร่างสูงกวาดสายตาไปรอบๆซึ่งตอนนี้เขายืนอยู่หลังปราสาทของตนเองสายตายังคงกวาดมองต่อไปราวกับต้องการพบใครสักคนและเขาก็ต้องหยุดเมื่อสายตาสะดุดเข้ากับหญิงสาวในชุดสีขาวและนั่นคือ เจนิส ร่างระหงหันมาพบว่ามีคนมองอยู่ตนเองและทันที่ที่นางเห็นเจ้าชายนางก็คลี่ยิ้มออกอย่างดีใจเมื่อพบว่าคนที่นางรอมาแล้ว เจ้าชายเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวและจับมือบางด้วยความปราณีตขึ้นมาประทับจูบอย่างแผ่วเบาราวกับกลัวมือน้อยจะกร่อนสลาย
" เจ้ารอข้าหรือ " ร่างหนาถามด้วยแววตารู้สึกผิด
" ใช่ค่ะ แต่ก็ไม่นานนักข้าพึ่งมาเมื่อครู่ข้าทราบดีว่าท่านมีงานด่วนกับพระราชาทหารหน้าปราสาทบอกข้าแล้ว ข้าจึงกลับไปก่อนและเมื่อครู่นี้เองข้าตัดสินใจกลับมารอท่านที่นี่เพราะข้ารู้ดีว่าดวงใจข้าจะกลับมา "
" ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องรอ เจนิส แต่ข้าเองมีกิจจำเป็นต้องไปหับท่านพ่อเพราะท่านพ่อเองก็บอกข้ากระชั้นชิดเมื่อช้าวนี้ ข้าจึงไม่ได้บอกเจ้า " เจ้าชายอาสการ์กล่าวด้วยกลัวว่าหญิงสาวจะน้อยใจ
" ข้าเข้าใจท่านดี อาสการ์ " เสียงสาวซึ่งยืนอยู่เบื้องหน้าตอบ
" เพราะเจ้าน่ารักแบบนี้ไงข้าจึงรักเจ้านัก " ชายหนุ่มพูดกระซิกเอาใจ ก่อนจะกระชับมือบางที่เขาจับอยู่ขึ้นมาจูบเบาๆอีกครั้ง
" วันนี้ท่าทางท่านจะเหนื่อยมากแล้วไปพักผ่อนเสียเถิด ข้าเองก็เพียงรอได้เห็นหน้าท่านจึงมารอท่านที่นี่ " เจนิส กล่าวพร้อมสายตาแสนอ่อนโยน
" แต่ข้าพึ่งจะได้พบเจ้าแปปเดียวเอง " เสียงทุ้มออดอ้อนราวกับเด็ก
" เดี๋ยวพรุ่งนี้ท่านก็พบข้าอีก และวันต่อๆไปท่านก็ยังเห็นข้า ข้าไม่ได้หนีไปไหนสักหน่อย " เจนิสตอบระคนขำหนุ่มร่างหนาที่อยู่เบื้องหน้าซึ่งตอนนี้หดลงเหมือนดอกไม้หุบเลยทีเดียว
" ตกลง แต่ว่าพรุ่งนี้เจ้าต้องมาให้ข้าชื่นใจซะให้พอเลย " เจ้าชายกล่าว
" ค่ะ ข้าสัญญา " เจนิสกล่าวพร้อมคลี่ยิ้มหวานให้เจ้าชายและและเจ้าชายก็ปล่อยมือบางช้าอย่างอาวลัยอาวรก่อนร่างบางของเจนิสจะค่อยๆไกลออกไปจนหายลิบไปกับต้นไม้ใหญ่ด้านหลังปราสาทซึ่งมีประตูเหล็กหนาช่องเล็กๆที่เจ้าตัวบางลอดผ่านเข้ามาเป็นประจำจนทหารหลังปราสาทเคยชิน
เจ้าชายเดินเข้าไปในปราสาททางประตูด้านหลังและกำลังจะผ่านห้องรับแขกไปเพื่อขึ้นบรรไดแต่ทว่ากลับมีเสียงหนึ่งในห้องกล่าวท้วงขึ้น
" พ่อมีเรื่องจะคุยกับเจ้า อาสการ์ " ชายที่ซึ่งเหมือนจะนั่งรออยู่ทักขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
" ครับท่านพ่อ " เจ้าชายหันไปตอบก่อนจะเดินเข้าไปนั่งลงโซฟาใหญ่ตรงข้ามกันกับบิดา
" อีกสองวันข้าและพระราชาแห่งโซเนียร่วมกันจัดงานพิธีสมรสให้เจ้าและหนูโซเนีย พ่อได้ตกปากรับคำตกลงกับท่านไว้แล้ว เพราะฉนั้นเจ้าไม่มีสิทธิ์จะประฎิเสธได้เพื่อหน้าตาของพ่อและพระราชาแห่งโซเนีย " เสียงชายชรากล่าวด้วยสีหน้าเอาจริงเอาจัง
" แต่ท่านพ่อเองก็รู้ว่าข้ารักกับ เจนิส และข้าหวังนักที่จะแต่งงานกับนาง " ดวงตาสีน้ำเงินเข้มวาววัยเมื่อกล่าวถึงความรักระหว่างตนกับหญิงสาวผูชื่อ เจนิส
" ข้ารู้แต่เรื่องระหว่างเจ้า กับนางมิอาจจะเป็นที่ยอมรับได้ " ผู้เป็นบิดาตอบอย่างอ่อนใจกับสิ่งที่ได้ยิน เนื่องด้วยในยุคสมัยนั้น ผู้ยิ่งใหญ่กับคนธรรมดายังไม่เป็นที่ยอมรับในการสมรสหรือครองรักกันแต่ถึงกระนั้นเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายกับเจนิสก็เป็นที่รู้กัน แต่ไม่มีใครกล้าที่จะกล่างหรือแม้แต่ซุบซิบเพราะเจ้าชายหวงแหนและให้เกีรยตินางมากทุกคนจึงไม่กล้ากล่าวหรือพูดถึงนางใดๆ ร่างสันทัดมองหน้าบิดาซึ่งเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและนึกถึงเมื่อครั้งเขายังเด็ก หากแต่สิ่งใดที่เขาต้องการบิดาก็หามาให้จงได้กับสิ่งนั้นและเมื่อคิดไปว่า เพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านี้จะไม่ยอมทำตามที่ท่านขอเลยหรือไร
" ตกลงครับท่านพ่อ ข้าจะสมรสกับโซเนีย แต่นั่นเพราะทั่นพ่อขอร้อง ข้าเองมิได้คิดพิศวาสอันใดเจ้าหญิงตัวแสบนั่น ในใจข้าตอนนี้มีเพียงเจนิสเท่านั้น " เสียงเรียบตอบแต่แฝงไปด้วยความจริงใจ
พระราชามองหน้าบุตรชายด้วยความเอือมระอาก่อนจะลึกขึ้นจากโซฟาใหญ่ครงข้ามใจชายและเดินไปตบไหล่เจ้าชายที่โซฟาอีกตัวเบาๆเป็นเชิงปลอบใจและกล่าวขึ้น
" เจ้าไปพักผ่อนเถิดส่วนพ่อเตรียมเรื่องต่างๆให้เจ้าเรียบร้อยแล้วไม่ต้องห่วง " จบประโยคสนทนาของคืนนี้เจ้าชายยิ้มให้บิดาที่พึ่งเดินออกจากห้องและขึ้นบรรใดใหญ่ไปด้วยความเหนื่อยใจแต่หากเทียบกับสิ่งที่บิดามอบให้ตนแล้ว มิจเทียบได้เขาจึงตัดสินใจที่จะสมรสกับ โซเนีย สาวน้อยที่พึ่งจะมีกลิ่นของความหึ่งบนโฉมหน้าเมื่อกลางวั้นนี้..
เจ้าชายอาสการ์เดินขึ้นบรรไดไปอย่างช้าๆด้วยการเดินทางของวันนี้ทำให้เขาเหนื่อยล้านักจึงจะไปแช่น้ำในอ่างที่ห้องนอนและหลับอย่างสบายกายในราตรีนี้ที่แสนเงียบเหงาดุจใจที่แตกร้าวเริ่มหล่นหายไปเป็นเศษเสี้ยวน้อยนิด ระหว่างทางเดินไปตามระเบียงซึ่งเบื้อหลังทีประตูห้องไม้เงาวับเป็นห้องๆไปจนมาหยุดอยู่ที่ห้องมุมซ้ายสุดของชั้นสองในปราสาท เจ้าชายหมุนลูกบิดประตูและเปิดเข้าไป ไฟในห้องค่อยๆติดทีละดวงเพราะระบบอัตโนมัติแสนหรูหรา เจ้าชายปิดประตูห้องอย่างเบามือและนั่งฟุบลงที่ปลายเตียง ใบหน้าคมมองออกไปนอกหน้าต่างซึ่งในยามนี้มีพระจันทร์เปล่งประกายกว่าดาวดวงใดตรงกับหน้าต่างบานใหญ่ของห้องพอดี ในใจเขาอยากจะคิดถึง เจนิส สาวผู้เป็นที่รักแต่ทว่า.. ใบหน้านวลขาวผ่องกับแว็บเข้ามาให้ตกใจ ชายหนุ่มสะบัดหัวแรงๆซ้ายขวาด้วยความตกใจและใช่ เขาคิดถึงหน้าของโซเนียสาวพี่พึ่งเจอกันในวันนี้และจะเข้าพิธีสมรสกันอีกไม่กี่วันที่จะมาถึง ในใจเขาเต็มไปด้วยความสับสนเขาคิดถึงนางได้อยางไรกันทั้งที่แม้แต่ตอนพบกันเขาไม่เคยคิดจะจดจำใบหน้าของนางด้วยซ้ำ แต่หน้านางกลับแว็บเข้ามาในหัวเขาและเด่นเกินกว่าจะลบเลือนไป เขาถามตัวเองว่าทำไมจนกระทั่งเผลอหลับไปและหลุดเข้าสู่ห่วงนิทรา ...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ