เล่ห์กลรักเงาอสูร
-
6) บทที่ 2 ข่าวหน้าหนึ่ง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเล่ห์กลรักเงาอสูร
บทที่ 2 ข่าวหน้าหนึ่ง
มันคือรายการทอล์คโชว์ยามดึกก่อนจะถึงเที่ยงคืน และมันคือรายการเกี่ยวกับดาราคนดังหรือบุคคลสำคัญในแวดวงสายงานอาชีพต่างๆ ที่กำลังเกิดเป็นข่าวดัง หรือเรื่องราวกำลังเป็นที่ได้รับความสนใจของชาวเมืองเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่างเรียกกันอย่างติดปากว่า ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ รายการทอล์คโชว์เริ่มเปิดรายการมาด้วยเสียงเพลงประกอบรายการเพราะๆ ที่มีท่วงทำนองตื่นเต้นเร้าใจ เมื่อเสียงเพลงเปิดรายการสิ้นสุดลงพิธีกรหนุ่มรูปหล่อและบุคลิกหน้าตาดี ก็ก้าวเดินออกมากล่าวสวัสดีเปิดรายการ อย่างเป็นทางการอีกครั้ง พร้อมเริ่มบอกเล่าเนื้อหาย่อๆ สำคัญๆ ในรายการเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้รับชมให้นั่งรอคอยติดตามรับชมรายการกันต่อไป จนกว่าจะจบรายการ พิธีกรดำเนินรายการเป็นชายหนุ่มรูปหล่อในเสื้อสูทยี่ห้อดังและราคาแพง เริ่มต้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล นุ่มลึกอย่างน่าฟัง
“สวัสดีครับ ผู้ชมที่น่ารัก เรากลับมาพบกันอีกครั้งกับ รายการตีกันตายรายวัน...” ผู้ชมพากันหัวเราะชอบใจในมุกตลกของพิธีกรหนุ่มหน้าตาย ผู้ชอบล้อเล่นเป็นประจำ แต่ท่วงท่าลีลาในการดำเนินรายการ กับสดใสและแปลกใหม่ เพราะหยอดมุกตลกๆ ขำๆ ได้อย่างกลมกลืนได้ใจผู้ชมทั้งในห้องส่งและจากผู้ชมทางบ้าน
“ไม่ใช่ ใช่ไหมครับ โอเค รายการของเรามีชื่อเรียกสั้นว่า..” พิธิกรยื่นไมล์ลอยออกไปข้างหน้าอย่างตรงๆ โดยยื่นส่งให้ผู้ชมในห้องส่งช่วยกันแหกปากตะโกนเสียงดัง ออกมาให้จนสุดเสียง
“ ราย-การ-ตี-สิบ-เอ็ด” ผู้ชมในห้องส่งร้องตะโกนเสียงดังอย่างรับมุกของพิธีกรอย่างพร้อมเพียงกัน
รายการตีสิบเอ็ดถือเป็นรายการลอกเลียนแบบรายการทอล์คโชว์ ของรายการหนึ่งแต่อยู่กันคนละช่องแลคนละสถานี มีข้อแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยนั้นก็คือหมายเลข 10 กับหมายเลข 11 เท่านั้น รายการตีสิบเอ็ดคือรายการเล่าข่าวผสมความบันเทิง และแขกผู้ได้รับเชิญในวันนี้ก็คือโรสิลีและเหล่ากลุ่มเพื่อนพ้องนักท่องเที่ยวในยามราตรีของเธอ เสียงพิธีกรเริ่มพูดเปิดรายการต่อไป
“วันนี้เราจะมาสัมภาษณ์ นางเอกสาวสวยและยังเป็นนางแบบสุดเซกซี่ชื่อดังของเมืองไทยอีกด้วย” พิธีกรทำท่าทางประกอบให้ดูลึกลับและน่าสนใจ และผู้ชมเองต่างแกล้งพากันกลั้นลมหายใจอย่างรอรับฟังชื่อแขกรับเชิญในรายการ
“เชิญพบกับ คุณโรสิลี พฤษาพันธ์ พวกเรามาตบมือตอนรับเธอกันหน่อยครับ” ผู้ชมในห้องส่งต่างพากันลุกขึ้นยืน พร้อมกับพากันโห่ร้องและตบมือตอนรับกันอย่างเสียงดังสนั่นหวั่นไหว โรสิลีก้าวเดินออกมาในชุดราตรีสีชมพูอันสดใส เหมาะสมกับบุคลิกอันเรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้ของเธอ แฟนคลับต่างพากันโห่ร้องเสียงดังอย่างดีใจ บางคนกำลังเช็ดน้ำตาที่ไหลรินเพราะความดีใจที่ได้พบเห็นและเจอะเจอกับไอดอลผู้เป็นเสมือนแม่แบบ อย่างตัวเป็นๆ โรสิลีก้าวเดินออกมาโชว์ตัวอย่างกับนางพญาของเหล่านางฟ้า เธอสะสวยงดงามเมื่ออยู่ในชุดราตรีสีชมพูและใบหน้าที่ตบแต่งเอาไว้ด้วยเฉดสีเดียวกัน ริมฝีปากของโรสิลีทาทับเอาไว้ด้วยลิบมันสะท้อนแสง มันจึงทำให้ริมฝีปากของเธอดูอิ่มเอิบ น่าจุมพิต โรสิลีหยุดยืนสงบนิ่ง โชว์ความสวยงามอยู่ข้างๆ กับพิธีกรหนุ่มรูปหล่อ และเริ่มกล่าวคำทักทายผู้ชมด้วยรอยยิ้มอันน่ารักอย่างเช่นรอยยิ้มของนางสาวไทย
“สวัสดีค่ะ คุณวีรยุทธ” เธอกล่าวสวัสดีพิธีกรดำเนินรายกา แล้วจึงหันไปกล่าวสวัสดีผู้ชมและแฟนคลับของเธอ ทุกคนโห่ร้องและตบมือตอนรับเธออีกครั้ง แล้วพิธีกรหนุ่มก็เริ่มรับช่วงดำเนินรายการต่อจากโรสิลีอีกครั้ง
“สวัสดีครับ คุณโรส คุณสวยงามมากเลยครับ” มันคือคำชมที่ออกจากจิตใจจริงๆ ของพิธีกรและมันก็คือคำพูดแสดงความเป็นกันเอง อย่างเช่นคนที่เคยรู้จักสนิทสนมกันเป็นอย่างดีมาก่อน โรสิลียิ้มรับอย่างรู้สึกขอบคุณในคำชมอีกครั้ง และพิธีกรหนุ่มก็ยิ้มตอบรับรอยยิ้มของโรสิลีด้วยเช่นเดียวกัน จนต้องลืมการดำเนินรายการไปเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ช่วงหนึ่งเลยที่เดียว แต่พอนึกออกมาได้ว่า มันเป็นรายการถ่ายทอดสด หากไม่รีบดำเนินการรายต่อไปในทันที พอจบสิ้นรายการ อาจจะไม่มีเงินไปจ่ายให้กับทางสปอนเซอร์ ที่ให้การสนับสนุนรายการหรือช่องสถานีอยู่ก็ได้
“เข้าเรื่อง กันเลยนะครับ ผู้ชมทุกท่านทั้งที่อยู่ทางบ้านและในห้องส่ง วันนี้เราจะมาสัมภาษณ์ดาราสาวสุดสวย ที่ติดหนึ่งในสิบของเมืองไทย ในหัวข้อข่าวที่ลงหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์รายวันติดๆ กันมาร่วมหนึ่งสัปดาห์ และกำลังเป็นที่สนใจของใครหลายๆ คน บ้างก็ว่าคุณโรสิลีต้องการอยากจะสร้างกระแสให้กับตัวเธอดัง เพื่อให้เป็นข่าว และเพื่อจะรอรับงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเธอด้วย หรือบ้างก็ว่าเธอพยายามจะโปรโมตละครเรื่องใหม่ของ กับพระเอกหนุ่มรูปหล่อคนใหม่ของช่อง ถึงขนาดยอมลงทุนไปว่าจ้างกลุ่มนักเลงมาไล่ชุดไล่ปล้ำเธอกลางเมืองกรุง กลางผับกันเลยที่เดียว เรื่องไหนคือเรื่องจริง เรื่องไหนคือเรื่องเท็จ วันนี้เตรียมตัวรอรับฟังคำตอบกันได้จาก ปากของเธอตรงๆ กันได้เลยนะครับ โดยผ่านการสัมภาษณ์สดๆ จากผม วีรยุทธ พิธีกรและผู้ดำเนินรายการตีสิบเอ็ด ครับ” หลังจากแนะนำรายการเสร็จสิ้นลงก็ตัดเข้าสู่รายการโฆษณาสินค้าประจำรายการ อีกประมาณสิบกว่านาทีแบบกระชากจิตใจของผู้ชมที่ตั้งหน้า ตั้งตารอรับชมรับฟัง ทั้งในห้องส่งและผู้ชมจากทางบ้าน รวมถึงธเนศ เกียรติภูมินต์ และมินตรา เจ.คลาส ด้วยเช่นเดียวกัน
.............................
“แฟนดาราของคุณ เธอสวย และเรียบร้อยอย่างกับนางในวรรณคดีเลยนะค่ะ คุณธเนศ” หากเธอไม่เคยได้เห็นพฤติกรรมอันหลุดโลกของโรสิลีมาก่อน เธอก็คงจะเชื่อหลงเชื่อภาพลวงตาที่กำลังจับจ้องมองอยู่ในจอทีวีขณะนี้อย่างแน่นอน
“ครับ” ธเนศตอบรับเป็นเพียงแค่คำสั้นๆ อย่างไม่ต้องการอยากจะยกยอคู่หมั้นของเขาเองกับผู้หญิงสวยแปลกหน้าอีกคน ที่น่าจะสวยกว่าคู่หมั้นของเขาเสียอีก
“ดูคุณจะมั่นใจในคำพูดของคุณจังเลยนะคะ” ธเนศเป็นคนฉลาดอย่างหาตัวจับยากในหลายๆ เรื่อง แต่กับเรื่องง่ายๆ ใกล้ๆ ตัว ทำไมเขาถึงได้จับจ้องมองไม่ออกกัน เธองุนงง และหงุดหงิดกับพฤติกรรมของโรสิลีมาครั้งหนึ่งแล้ว ในเวลานี้ยังต้องมางุนงงกับพฤติกรรมอันแปลกๆ ของธเนศ เกียรติภูมิน เข้าไปอีกคน มันจะอะไรกันนักกันหนานะ กับคู่รักหลุดโลกคู่นี้
“ผมคบกับโรสิลีมานาน จนเราสองคนต่างรับรู้นิสัยใจคอของกันและกันเป็นอย่างดี เธอชอบทำอะไรหรือไม่ชอบทำอะไร เธอนอนกี่โมง เธอตื่นกี่โมง ผมจะรับรู้จนหมดสิ้นล่ะครับ” ท่าทางธเนศ จะอาการหนัก เกินกว่าที่เธอจะคิดเอาไว้พอสมควร ในยามที่เธอจับจ้องมองเข้าไปภายในแววตาอันเชื่อมั่น และเชื่อใจ ของธเนศที่มีต่อโรสิลี มันทำให้เธอบังเกิดความรู้สึกอิจฉาริษยาผู้หญิงผู้โชคดีคนนั้น แต่เธอก็ยังคงมีข้อให้ต้องสงสัยอยู่ว่าระหว่างผู้หญิงสาวสวยหลุดโลกในผับที่เธอได้ไปพบปะเจอะเจอมา กับผู้หญิงสาวสวยเรียบร้อยอีกคน อย่างเช่นในจอทีวีข้างหน้าของเธอในเวลานี้ ธเนศ เกียรติภูมินต์ จะหลงรักใครมากกว่ากัน หรือว่าจะรักได้ในทั้งสองแบบ ทูอินวัน สองคนในร่างเดียวกัน ผู้ชายแปลกๆ กับผู้หญิงยิ่งแปลกมากกว่า เธอเริ่มจะงุนงง และหงุดหงิดมากยิ่งขึ้นมาอีกแล้ว
“ถ้าหากฉันบอกว่า แฟนของคุณเป็นคนสวย แต่ไม่เรียบร้อยอย่างที่คุณกำลังมองเห็น และไม่ได้จะใกล้เคียงกับนางในวรรณคดีเลย สักนิดคุณจะเชื่อฉันไหมค่ะ” เธอยิ้มแย้มเมื่อพูดจนจบประโยค แต่ธเนศกับกำลังทำหน้าบึงตึงและกำลังโกรธ โมโหเธออย่างเห็นได้เด่นชัด ใบหน้าอันหล่อเหลาของธเนศดูดุดันและน่าสะพรึงกลัวเพิ่มมากขึ้นในฉับพลัน
“เธอนั่นสิ เป็นยายมารร้าย ไปกล่าวให้ร้ายคนอื่น มองดูตัวเองเสียบ้างเถอะ” แววตาแห่งความดุดันและน่าสะพรึงกลัวของธเนศ บ่งบอกกับเธอเป็นคำพูดเช่นนั้นจริงๆ แต่เธออยากจะรับฟังสิ่งที่ธเนศกำลังคิดอยู่ภายในจิตใจจริงๆ ไม่ใช้ภายใจแววตาเช่นนี้เลย
“คุณไม่มี ญาติพี่น้องที่ไหนเลยหรือครับ” ธเนศก้าวเดินเข้ามาจนชิดติดข้างเตียงของผู้ป่วย หรือเตียงที่เธอกำลังใช้นอนพักรักษาบาดแผลโดยยิง
“คุณยังไม่ตอบคำถามของฉันเลย” การตอกย้ำให้ธเนศตอบคำถาม มันก็เหมือนกับการยิงลูกกระสุนปืนนัดที่สองเข้าไปใส่หัวใจของปีศาจร้ายจากขุมนรก ที่กำลังพยายามจะระงับอารมณ์ความโกรธเอาไว้อย่างมิดชิด หากธเนศยังคิดที่จะบ่ายเบี่ยงไม่ยอมที่จะคำตอบอย่างง่ายๆ ของเธออยู่อีก เธอก็จะตอกย้ำคำถามเดิมๆ ไปเรื่อยๆ จนกว่าธเนศจะกลับกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาด ไอ้มนุษย์ตัวสีเขียวหรือปีศาจร้ายจากขุมนรกที่พร้อมจะไล่ล่าเข่นฆ่าเธอ เลยทีเดียว
“ง่ายจะตาย แค่ตอบว่า เชื่อหรือไม่เชื่อ มันจะยากตรงไหนกัน” แววตาของเธอกำลังส่งตรงความหมาย เข้าสู่แววตาของธเนศที่กำลังจับจ้องมองเธออยู่ด้วยความโกรธและโมโห
“บอกมาเลยว่าไม่เชื่อ” แววตาของเธอส่งตรงความหมายเดิมๆ ต่อไปอีกครั้ง
“ผมไม่เชื่อ โรสิลีของผมเป็นคนดี และเรียบร้อยมาก ไม่ก็เลวร้ายเหมือนอย่างผู้หญิงบ้างคนหรอกครับ”
“โรสิลีของผม” พูดออกมาอย่างเชื่อมั่น และเชื่อใจเลยนะย่ะ คุณธเนศ
“ไม่เลวร้ายเหมือนอย่างผู้หญิงบ้างคนหรอกครับ” ทำไมเวลาพูดถึงได้จับจ้องมองมาที่เธอตรงๆ อย่างนั้นกันล่ะค่ะ หรือว่ากำลังเหน็บแนมเธออยู่กันคะ แต่ก็ช่างเถอะเธอไม่คิดจะถือสาหาความ กับคำพูด ของบุคคลที่กำลังมืดบอดเพราะความรักบดบังตาอยู่หรอกค่ะ
“คุณได้โปรดบอกฉันมาหน่อยสิค่ะ ว่าคุณหลงรักเธอมากแด่ไหน”มันเป็นคำถามส่วนตัวมากจนเกินไปธเนศคงจะไม่คิดจะตอบคำถามเธออย่างแน่นอน เธอจึงไม่คิดจะคาดคั้นเอาคำตอบ เธอจึงลองถามคำถามอย่างต่อเนื่องต่อไป อีกครั้งสักคำถามอย่างสุ่มๆ ในทันที
“รักเท่าฟ้า หรือท้องทะเลเจ็ดคาบมหาสมุทรได้ไหมคะ”ความหมายในแววตาของธเนศตอบรับคำถามของเธอ เป็นคำพูดซึ่งมีความหมายในแววตาของปีศาจจอมขี้โมโหดั่งต่อไปนี้
“ใช่ ผมรักเธอมากกว่าพื้นฟ้า มากกว่าท้องทะเลเจ็ดคาบมหาสมุทรเสียอีก” เมื่อได้รับฟัง มันทำให้ความรู้สึกของเธอก่อเกิดอิจฉาริษยาขึ้นมาอีกครั้ง จนเธออยากจะทำลายความรักของคนทั้งคู่เสียให้มันสิ้นซาก จมลงสู่ก้มมหาสมุทรเลยทีเดียว ความคิดอันเลวร้ายของเธอมาพร้อมกับการกระทำที่หลงลืมตัว...
“คุณจะแต่งงานกับฉันได้ไหมค่ะ คุณธเนศ” ความเงียบแห่งกาลเวลารอบข้างต่างหยุดลงไปชั่วขณะ ธเนศหยุดหยิบจับสิ่งของเล็กๆ รอบข้างเตียงผู้ป่วย อย่างกับกำลังถูกเวทย์มนต์สะกดให้กลับกลายเป็นก้อนหินไปในระยะเวลาสั้นๆ แล้วสักพักกาลเวลาที่หยุดเดินก็หวนกลับคืนมาสู่สภาวะปกติใหม่อีกครั้ง ธเนศเหมือนจะไม่เคยได้ยิน ได้ฟังคำถามขอแต่งงานจากปากของเธอมาก่อน หรืออาจจะได้ยินบ้างแต่อาจจะไม่ได้คิดที่จะให้ความสนใจ เธอเองก็ไม่สามารถจะคาดเดาจิตใจของปีศาจร้ายขี้โมโหอย่างเช่นธเนศได้เช่นกัน
“ผมถามคุณว่า ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเลยหรือครับ คุณยังไม่ได้ตอบคำถามของผมเลย” เธอไม่คิดอยากจะตอบคำถามของธเนศ เพราะมันจะทำให้เธอหวนกลับไปนึกถึงความเจ็บปวดมารดาที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว และมันยังทำให้เธอหวนกลับมานึกถึงความอาฆาต พยาบาทของมารดา จนแม้แต่เธอเองยังรู้สึกนึกหวาดกลัว
“พวกมันทำร้ายแม่ พวกมันโกงแม่ มินตรา พวกมันทุกคนทำร้ายแม่”
“ไอ้พวกตระกูลเกียรติภูมินต์ ลูกชายของมันบอกว่ามันรักแม่ มันฆ่าพ่อของลูก แม่ไม่น่าหลงเชื่อมันเลย”
“ฉันอยากจะนอนพักผ่อนแล้ว ถ้าคุณอยากจะดูแฟนคุณ ออกรายการทีวีต่อไปก็ตามใจ” เธอกลับเข้ามาอยู่ในโหมด หรือสภาวะปกป้องคุ้มครองตัวเองใหม่อีกครั้ง อย่างไม่ต้องการอยากจะให้ธเนศก้าวเดินเข้ามาอยู่ใกล้ๆ เธอได้อีกต่อไป
หลังจากช่วงพักโฆษณาขายสินค้าของรายการทอล์คโชว์ตีสิบเอ็ด ในเบรกแรกสิบนาทีสิ้นสุดลง รายการสัมภาษณ์สดก็เริ่มต้นขึ้นมาใหม่ เสียงโห่ร้องและเสียงตบมือหวนกลับคืนมาอีกครั้ง พร้อมกับรอยยิ้มอันน่ารักของโรสิลีดารานางแบบสาวสวยด้วยเช่นกัน
...........................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ