นักสืบซัมเมอร์
6) ช่วงสอบปลายภาคของโรม (2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความวางสายเฮียแฟรงค์ไม่นาน โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก คราวนี้หน้าจอขึ้นชื่อว่า “พี่ซูซี่” ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง ชายหนุ่มวัย 20 ปีก็รีบกดรับทันที
“หวัดดีครับพี่ซูซี่” โรมเอ่ยทักทาย
“หวัดดีโรม พี่จะโทร.มาบอกโรมว่า วันที่ 8 พี่ไม่ว่างนะ ตอนบ่ายอ่า พอดีพี่ต้องเตรียมตัวไป แคตติ้งที่กรุงเทพฯ น่ะโรม” สาวประเภทสองอธิบายด้วยน้ำเสียงดัจริตว่าทำไมไปค่ายชมรมฯไม่ได้ โรมฟังแล้วก็รู้สึกไม่ชอบนิดหนึ่ง แต่ก็ต้องทนคุยด้วย
“อ้าว แล้วใครจะไปแสดงแม่มดให้ผมล่ะพี่” โรมเอ่ยขึ้น เพราะกำหนดการตามที่จะไปออกค่ายคือต้องแสดงละครเจ้าหญิงสโนไวท์ตอนบ่าย
“แล้วจะให้พี่ทำยังไงล่ะโรม พี่ไม่ว่างจริงๆนี่นา” พี่ซูซี่อธิบายด้วยน้ำเสียงเหมือนเด็กๆ ไม่รู้ไม่ชี้ ออกกวนตีนเขานิดหนึ่ง
“งั้นเปลี่ยนมาแสดงตอนเช้าได้ไหมล่ะพี่ เดี๋ยวผมให้คนออกมาส่ง” โรมพูดเชิงขอร้อง เพราะเขาคิดว่าไม่มีใครที่จะเหมาะสมเท่าพี่ซูซี่แล้ว ที่จะรับบทแม่มด และบอกว่าจะให้คนมาส่งถึงหอพักถ้าแสดงเสร็จวันนั้นแล้ว
“ได้ๆโรม โอเคตามนี้” สาวประเภทสองพูด สายตามีเลศนัย โดยที่โรมไม่รับรู้เล่ห์กลของสาวประเภทสองคนนี้แต่อย่างใด
“โอเคนะพี่ ซ้อมวันที่ 6 บ่ายโมงที่อาคารพละนะครับ อย่าลืมล่ะ เดี๋ยวผมขับมอเตอร์ไซด์ไปรับ โอเคนะครับ” โรมพูดย้ำ
"จ้าโรม งั้นแค่นี้ก่อนนะ บายๆ” สาวประเภทสองเอ่ยลาโรมแล้ววางสายไป
พอวางสายพี่ซูซี่ปุ๊บ แพนด้าที่ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนสนิทที่สุดคนหนึ่งของโรมในเวลานี้ ก็โทร. มาหาเขาอีก จนเขาแบบขี้เกียจรับโทรศัพท์มากวันนี้ เพราะมันทำให้เขาไม่ได้อ่าหนังสือ....ทำไมมีแต่คนโทรมาวะ วันนี้....เขาบ่นพรึมพรำในใจ แต่ก็ต้องจำใจรับ...
“โรมๆ ทำไรอยู่ เค้ามีอะไรจะขอโทษแกว่ะ” แพนด้ารีบพูดด้วยความร้อนรน
“อะไรแพนด้าพูดช้าๆก็ได้ พอดีเค้าทำแฟลตไดส์แกหายอ่าดิ เค้าขอโทษ เค้านี่มันไม่ดีจริงๆ ให้เค้าทำอะไรก็ได้เพื่อเป็นการลงโทษเค้าในความผิดครั้งนี้ว่ะเพื่อน”แพนด้าขอโทษเขาพร้อมทั้งละล่ำละลักออกมา เพราะว่าทำผิดจริงๆ เพราะในแฟลตไดส์นั้นจะมี งาน และ การบ้าน ข้อมูลอะไรต่างๆที่สำคัญมากมายในนั้น
ทันใดนั้นก็มีพระสุรเสียงของพระเจ้าตรัสแก่โรมว่า
อย่ารักโลกและสิ่งของในโลกถ้าผู้ใดรักโลก
ความรักต่อพระบิดาก็ไม่ได้อยู่ที่นั่น
พระสุรเสียงของพระเจ้าประโยคนี้ตรงกับพระคัมภีร์ใบเบิ้ล ในพระธรรม 1 ยอห์น บทที่ 2 ข้อ 15ทำให้โรมไม่รู้สึกที่จะโกรธแพนด้าแต่อย่างใด แต่กลับหัวเราะและพูดไปว่า
“ไม่เป็นไรแพนด้า แค่แฟลตไดส์หายเอง แต่เธอน่ะจะเป็นอะไรไม่ได้นะแพนด้า ของหายอ่าซื้อใหม่ได้ แต่คนซื้อใหม่ไม่ได้นะ เค้าไม่ลงโทษตัวเองหรอก” โรมพูดกับแพนด้าด้วยความจริงใจ
ซึ่งจากเหตุการณ์ครั้งนี้แต่ก่อนโรมอาจจะทำแบบนี้ไม่ได้เลย ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้เข้า เขาต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแน่ๆ และต้องพูดอะไรออกไปให้เพื่อนได้รู้สึกนึกถึงความโง่และความผิดของเขาเป็นแน่ เป็นเพราะพระเจ้าสอนเขาให้เราทุกคนบนนี้รักคนมากกว่าสิ่งของอันใดบนโลกใบนี้ เพราะว่าเราไม่ได้เอาอะไรเข้ามาในโลกฉันใด เราก็เอาอะไรออกไปจากโลกมาได้ฉันนั้น(1 ทิโมธี บทที่ 6:7) เขาจึงไม่โกรธแพนด้า เพราะเขาเชื่อว่าพระเจ้าสามารถให้สิ่งของทดแทนแก่เราได้ถ้าเรารักคนมากกว่าสิ่งของ แต่ถ้าเรารักสิ่งของมากกว่าคน เราอาจต้องสูญเสียคน ซึ่งไม่มีอะไรทดแทนได้
“ความเมตตา”เป็นความรักในลักษณะหนึ่ง การสำแดงความเมตตาเป็นสิ่งที่ดีเสมอ เพราะคงมีสักวันที่เราอาจต้องการความเมตตาจากคนอื่นเช่นกัน
แพนด้าอึ้งไปนานกับคำพูดของโรม จนเธอขอบคุณโรมทั้งน้ำตา และเธอบอกว่า เธอจะพยายามทำข้อมูลที่หายไปกับการหายไปของแฟลตไดส์ของเขาให้กับเขาแทน ซึ่งชายหนุ่มก็บอกว่า
“ไม่เป็นไร เราทำใหม่เองได้ ไม่เป็นไรจริงๆนะ แพนด้าอย่าซีเรียสเลยนะ สักวันหนึ่งเค้าคงทำผิดกับแพนด้าเหมือนกัน แพนด้าก็ควรให้อภัยเค้าได้นะ”โรมเอ่ยขึ้นเชิงสอนเพื่อน
“จ๊ะโรม ขอบใจแกมาก แกนี่ดีจริงๆนะ เค้าดีใจว่ะที่ได้เป็นเพื่อนกับแก” แพนด้าพูดทั้งน้ำตาจากใจจริงของเธอ ทำให้เขาดีใจที่อย่างน้อยก็มีคนเห็นส่วนดีในตัวของเขา และมีคนเห็นเขาเป็นเพื่อนอยู่บ้าง
“จ้าแพนด้า ไม่เป็นไรจริงๆนะ รีบๆอ่านหนังสือนะ” โรมพูดกับเพื่อนจากใจจริง
“จ๊ะเพื่อน แค่นี้นะ”แพนด้าเอ่ยจบแล้ววางสายไป
จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เขาดีใจมากที่เขาสามารถใช้ความรักของพระเจ้าในตัวของเขาชนะความโกรธแค้นได้ ....เขายิ้มและก้มหน้าอ่านหนังสือต่อไป....
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ