ดาบสะท้านยุทธภพ
2) รักแรกของเหลียงจิ้ง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเช้าวันใหม่กับโลกใบใหม่
“เหลียงจิ้งตื่นยังลูก”
แม่ของเหลียงตะโกนเรียกให้เหลียงจิ้งตื่นเหมือนทุกวัน
“พรุ่งนี้เป็นวันครบรอบ 10 ปีที่พ่อเจ้าตายนะ แม่จะพาลูกไปกราบไหว้พ่อนะ”
แม่ของเหลียงจิ้งพูดด้วยท่าทีเศร้านิดๆ
“ครับแม่ ได้ครับ”
เหลียงจิ้งตอบตกลง
เหลียงจิ้งก็เดินไปที่ห้องครัว
“ท่านแม่มีอะไรกินบ้าง”
“ไม่มีหลอกลูกวันนี้แม่ต้องไปทำงานก่อนนะเงินอยู่บนโต๊ะนะไม่หากินเองละกัน”
แม่ของเหลียงจิ้งรีบมากเพราะกลัวไปทำงานสาย
‘วันนี้วันเสาร์ไม่ใช่หรอแม่ไปทำงานทำไม’
เหลียงจิ้งถามตัวเอง
‘ชั่งเหอะไปหาอะไรกินดีกว่า’
เหลียงก็เดินไปที่โต๊ะแล้วหยิบเงินแล้วก็เดินออกจากบ้านไป
‘กินร้านไหนดี ร้านไหนดี’
‘ร้านนั้นดีกว่า’
เหลียงจิ้งก็เดินเข้าไปในโรงเตียบ
“พี่ชายขอกระเพราไข่ดาว 2 จาน”
เหลียงจิ้งสั่งอาหารในโลกปัจจุบัน
“ท่านจอมยุทธน้อยโรงเตียบเราไม่มีอะไรแบบนั้นหลอกท่าน”
เสี่ยวเอ้อในโรงเตียบตอบกลับ
‘จริงสิมันไม่ใช่โลกปัจจุบันแล้วหนินา’
“แล้วมีอะไรบ้าง”
“มีเนื้อวัวทอด ผัดกุ้งกับเนื้อวัวแผ่น เนื้อจิ้มจุ่มหม้อไฟ ปลาซีหูเปรี้ยวหวาน ผัดเผ็ดเต้าหู้คุณยาย ผัดกุ้งแช่ชาหลงจิ่ง ขาหมูนึ่งซีอิ๊ว ไก่ผัดเผ็ด พระกระโดดกำแพง เป็ดปักกิ่ง.............และก็”
“พอแล้วๆ เอาอะไรก็ได้ที่อร่อยที่สุดในร้าน”
เหลียงจิ้งสั่งไปโดยไม่ทันคิด
“ครับนายท่าน”
เสี่ยวเอ้อตอบรับแล้วก็เดินไปที่ห้องครัว
“นายท่านอาหารที่สั่งได้แล้ว ทานให้อร่อนนะนายท่าน”
แล้วเสี่ยวเอ้อก็เดินไปต้อนรับลูกค้าคนอื่นต่อ
“หน้ากินจังเลย กินละน้ะ”
เหลียงจิ้งไม่รอช้ารีบกินจนหมดจานเลย
“นายท่านทั้งหมด 50 อีแป๊ะ ครับนายท่าน”
เสี่ยวเอ้อเห็นเหลียงจิ้งกินหมดแล้วจึงเดินเข้ามาบอกราคา
“อื่ม”
เหลียงจิ้งตอบรับแล้วรีบเอาเงินที่แม่ของเขาให้มาออกมา
“อะ”
เหลียงจิ้งเอาเงินวางไว้บนโต๊ะแล้วก็กำลังจะเดินออกจากร้านไป
“นายท่านเดียวก่อน นี่แค่ 1 อีแป๊ะเองนะท่าน”
เสี่ยวเอ้อเรียกเหลียงจิ้งที่เอาเงินให้ไม่ครบ
“อะไรกันนั้นตั้ง 1 ตำลึงไม่ใช่หรอ”
เหลียงจิ้งตอบโต้ไปทันที
“นายท่านดูดีๆสิ”
เสี่ยวเอ้อก็เอาเงินให้เหลียงจิ้งดูชัดๆตา
“งานเข้าแล้วเรา”
เหลียงจิ้งพูดออกมาเบาๆ
“อะไรนะนายท่าน”
เสี่ยวเอ้อตอบกลับมา
“ อ อ ไว้วันหลังข้าค่อยเอามาใช้นะ”
เหลียงจิ้งไม่รู้ทำไงจึงตอบแบบนั้น
“อย่างนี้แสดงว่ากินแล้วไม่ยอมจ่ายหนิ”
เสี่ยวเอ้อตะโกนดังทั่วร้าน
“ข้าไม่ได้ว่าข้าไม่จ่ายแต่บอกว่าวันหลังจะเอามาจ่ายไง”
เหลียงจิ้งตอบกลับ ทุกคนในร้านต่างมองมาที่เหลียงจิ้งคนเดียวเลย
“เฒ่าแก่มันไม่ยอมจ่ายครับ”
เสี่ยวเอ้อฟ้องเฒ่าแก่ทันที
“เซียวอี่หลิงไปดูสิ”
ชายแก่อายุ 60 กว่าปี บอกให้หลานของเขาไปจัดการ
“ค่ะท่านปู่”
หญิงสาวหน้าตางดงามตอบรับ แล้วก็เดินไปหาเหลียงจิ้ง
“ไหนใครกินแล้วไม่จ่าย”
หญิงสาวตะโกนไปทั่วร้าน ลูกค้าในร้านต่างขาสั่นกันหมด
“ก็บอกแล้วไงไม่ได้ไม่จ่ายแต่ไว้วันหลังจะเอามา...”
เหลียงจิ้งพูดได้แค่นี้ก็
“เซียวอี้หลิงเจ้าเองหรอ จำข้าได้มั้ย คนที่ช่วยเจ้าเมื่อวานนี้ไง”
เหลียงจิ้งเห็นหญิงสาวจึงรีบพูดไปทันที
“อ่าวเหลียงจิ้งใช่มั้ย”
เซียวอี่หลิงตอบกลับทันทีที่เห็นหน้าเหลียงจิ้ง
“อื่มใช่ข้าเอง”
“เราไม่ได้จะไม่จ่ายเงินนะแต่เราแค่เอาเงินมาไม่พอ”
เหลียงจิ้งรีบแก้ตัวทันที
“ฮ่าๆ ไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อย ที่จริงไม่ต้องจ่ายก็ได้”
หญิงสาวยิ้มให้เหลียงจิ้งแล้วพูดออกมาเบาๆ พร้อมตบไหล้เหลียงจิ้ง
“ก็เจ้าช่วยข้าไว้หนิ แค่นี้เรื่องเล็ก”
“หรอนั้นวันหลังข้าจะเอามาจ่ายนะ”
“ได้สิมาจ่ายวันไหนก็ได้”
เซียวอี้หลิงดีใจมากที่ได้เจอเหลียงจิ้ง
“นี่ เด็กใหม่ คนนี้เพื่อนข้า วันหลังพูดดีๆนะเข้าใจมั้ย”
เซียวอี้หลิงทำเสียงดุใส่เสี่ยวเอ้อ
“ครับนายหญิง”
เสี่ยวเอ้อรีบตอบทันที
“ไปๆ จะไปไหนก็ไป”
เซียวอี้หลิงรีบไล่เสี่ยวเอ้อทันที
“แล้วๆ แผลที่หัวไหล่เจ้า หายแล้วหรอ”
เหลียงจิ้งรีบถามด้วยความเป็นห่วง
“หายแล้วล่ะ กินยาสมานแผลและคูณปู่ช่วยใช้กำลังภายในรักษาให้ด้วย”
เซียวอี้หลิงตอบและพร้อมจับมือของเหลียงจิ้งมาจับที่หัวไหล้เธอดู
“เห็นมั้ยไม่รู้สึกเจ็บเลย”
“อย่างนั้นหรอ”
เหลียงจิ้งตกใจมากทำไมแผลถึงได้หายไวอย่างนี้
‘กำลังภายในมันคืออะไรนะ’
เหลียงจิ้งยิ่งคิดก็ยิ่งอยากรู้
“เซียวอี้หลิงข้อขออะไรเจ้าย่างได้มั้ย”
“ได้สิถ้าข้าทำให้ได้จะรีบทำให้เลย”
เซียวอี้หลิงรีบตอบทันทีด้วยความเต็มใจ
“ช่วยสอน ไอ่กำลังภายในอะไรนั้นอะ ให้ข้าหน่อยได้มั้ย”
เหลียงจิ้งรีบขอทันที
“อ่อ ได้สิเรื่องแค่นี้เอง มาข้าจะสอนให้ แต่ต้องไปหลังบ้านนะ ข้าฝึกวรยุทธที่นั้นทุกวันเลย”
“อื่มได้”
แล้วเซียวอี้หลิงก็จูงมือของเหลียงจิ้ไปที่หลังบ้าน ทุกคนในร้านต่างอิจฉาเหลียงจิ้งที่ได้รับมือเซียวอี้หลิงสาวสวย พอถึงที่หลังบ้านแล้วเซียวอี้หลิงไม่รอช้ารีบสอนให้เหลียงจิ้งทันที
“ก่อนอื่น เจ้าต้องทำจิตให้สงบ แล้วเจ้าจะรู้สึกถึงพลังในตัวของเจ้าเอง ส่วนมากมันจะรวมตัวกันอยู่ที่ท้องเล็ก”
เซียวอี้หลิงรีบอธีบายทันที เหลียงจิ้งจึงทำตามที่เซียวอี้หลิงบอก
“ข้ารู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างอุ่นอยู่ที่ท้องเล็กของข้ามันคือลมปราณหรือเปล่า”
เหลียงจิ้งพูดออกมาตามความรู้สึกที่ตัวเองเจอ
“ใช่แล้วนั้นก็คือ ลมปราณ หรือกำลังภานในของเจ้าไง”
เซียวอี้หลิงรีบบอกให้เหลิยงจิ้งรู้ทันทีว่ามันคืออะไร
“รองพยายามควบคุมมันให้ไหลไปที่ส่วนต่างๆของเจ้าดูสิ”
เหลียงจิ้งตั้งสมาธิแล้วก็ควบคุมมันให้ไหลไปที่ส่วนต่างของร่างกายทีละนิดทีละนิด เหลียงจิ้งจึงคิดถึงที่อาจารย์สอนวิชาตัวเบาให้เขา รวบรวมลมปราณไว้ที่ มือ เท้า หน้าท้อง เหลียงจิ้งจึงทำตามทันที เมื่อรู้สึกว่ากำลังภายในของตนไปที่ส่วนที่ต้องการได้แล้วเหลียงจิ้งก็ลองกระโดดดู
“ฮ่าๆ ๆ ข้าทำได้แล้ว”
เหลียงจิ้งตะโกนออกมาด้วยความดีใจที่เขาสามารถกระโดดได้สูงกว่า 200 ศอก
เซียวอี้หลิงที่กำลีงหลับตาเดินลมปราณอยู่ตกใจเสียงตะโกนของเหลียงจิ้งจึงลืมตาขึ้นมาดู เมื่อเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นถึงกับช็อคเลยทีเดียว
“เหลียงจิ้ง”
เซียวอี้หลิงตะโกนเรียนเหลียงจิ้งทันทีเมื่อเห็นเหตุการณ์
เหลียงจิ้งตกใจไม่สามารถควบคุมลมปราณของตัวเองได้จึงตกลงมาไม่เป็นท่าเลยโชคยังดีที่ตกลงมากลางสระน้ำไม่นั้นได้จัดงานศพแน่ๆ
“เหลียงจิ้งเป็นอะไรมั้ย”
เซียวอี้หลิงงรีบตะโกนหาเหลียงจิ้งทันที
“ข้าไม่เป็นไร”
เหลียงจิ้งตะโกนตอบ แล้วก็รีบว่ายน้ำขึ้นมาทันทีเลยเพราะอากาศมันหนาวมากๆ เซียวอี้หลิงถอนหายใจทันทีที่เหลียงจิ้งไม่เป็นไรแล้วเธอก็ช่วยเหลียงจิ้งขึ้นมาจากบ่อน้ำ
“เจ้าทำได้ยังไงข้ากระโดดได้สูงสุดแค่ 50 ศอกเองนะ แต่เจ้า 200 กว่าศอกเลย ข้าก็เลยตกใจ”
เซียวอี้หลิงใช้มือทั้งสองของตัวเองจับที่หัวไหล่ทั้งของของเหลียงจิ้งแล้วสบตากับเหลียงจิ้งแล้วพูดออกมาเบาๆ เหลียงจิ้งที่ได้เข้าใกล้นางขนาดนั้นถึงกับหน้าแดงแล้วทำอะไรไม่ถูกเลย จึงเผลอพูดความในใจของตัวเองออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ข้ารักเจ้าเซียวอี้หลิง”
พอเซียวอี้หลิงได้ยินจึงรีบหลบหน้าแล้วหันหลังให้ทันที
“เจ้าจะรักข้าได้ยังไง ข้ากับเจ้ารู้จักกันได้แค่ 2 วันเองนะ”
เซียวอี้หลิงรีบตอบกลับทันที
“ทำไมจะรักใครต้องใช่เวลาด้วยหรอ”
เหลียงจิ้งรีบสวนกลับ
“ที่จริงข้ามีคู่หมั้นแล้ว”
เซียวอี้หลิงก้มหน้าแล้วพูดออกมาเบามากๆที่จริงเธอไม่อยากพูดออกมาด้วยซ้ำ เพราะว่าเธอไม่ได้รักคู่หมั้นของเธอ แต่เธอรักเหลียงจิ้งเหมือนกันเธอก็ตกหลุมรักเหลียงจิ้งตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเช่นกัน
“ข้าขอโทษนะเหลียงจิ้ง”
เหลียงจิ้งได้ยินสิ้งที่เซียวอี้หลิงพูดถึงกับใจสลายทันทีน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด
“ไม่ ไม่ ไม่เป็นไร ข้าเข้าใจ ข้าเข้าใจ”
เหลียงจิ้งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เศร้ามากๆ
“อ่าวทำไรกันอยู่หรอ”
เสียงของชายหนุ่มอายุพอๆกันเหลียงจิ้งเดินออกมาจากประตูหลังบ้านแล้วทักทายทั้งสองคน
เซียวอี้หลิงเห็นชายหนุ่มคนนั้นจึงพูดออกมาเบาๆว่า
“เขาคือคู่หมั้นของข้าเอง ชื่อ ไป่พอ”
เซียวอี้หลิงพูดออกมาอย่างลำบากใจพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมา เซียวอี้หลิงเกิดมาก็หมั้นกับไป่พอลูกมหาเศรษฐีแล้ว
“ไป่พอ”
เหลียงจิ้งพูดทวนชื่อ ไป่พอเบาๆ
“อ่าวเหลียงจิ้งรู้จักเซียวอี้หลิงด้วยหรอ”
ไป่พอเดินเข้ามาใกล้พอสมควรแล้วพูดกับเหลียงจิ้ง
“อ่อ ใช่เรารู้จักกันได้ 2 วันเอง”
เหลียงจิ้งรีบเช็ดน้ำตาแล้วตอบกลับไป
คู่หมั้นของนางก็คือไป่พอเพื่อนสนิทของเหลียงจิ้งนี่เอง
“อ่อ ลืมไปเลยข้ามีงานต้องทำอีกขอตัวก่อนนะ”
เหลียงจิ้งรีบแต่งเรื่องเพื่อหลบหน้าเพื่อนของเขา
“เดี๋ยว ๆ ก่อนสิเหลียงจิ้งไม่อยู่เล่นด้วยกันก่อนหรอ”
ไป่พอพยายามเรียกเหลียงจิ้ง แต่เหลียงจิ้งก็วิ่งออกไปไม่สนใจเลย
‘อะไรของเขานะเพิ่งเจอกันก็ไปซะละ’
ไป่พอคิดในใจ
“เซียวอี้หลิงเป็นอะไร ร้องให้หรอ”
ไป่พอเดินเข้ามาหาเซียวอี้หลิงแล้วถามเซียวอี้หลิง
“ไม่ได้ร้อง ฝุ่นเข้าตาน่ะ”
เซียวอี้หลิงรีบหลบหน้าแล้วก็หาข้อแก้ตัวทันที
“หรอ”
“ข้าว่าเข้าบ้านดีกว่านะข้างนอกอากาศหนาวเดียวจะเป็นหวัดเอา”
ไป่พอเดินเข้ามาแล้วเอาผ้าคลุมของเขามาให้เซียวอี้หลิงใส่ แล้วทั้ง 2 ก็เดินเข้าบ้านไป
ส่วนทางด้วนเหลียงจิ้งก็ต้องผิดหลังกับความรักแล้วเดินกลับบ้านไปพร้อมกับความเศร้า
โปรคติดตามตอนต่อไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ