รอยแค้นลิขิตรัก
6.7
5) คนสวนของฉัน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากชายหนุ่มเดินออกจากห้องไปพุธน้ำบุศย์ก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาทำกับเธอแบบนี้สีหน้าและแววตาของเขาที่ดูรังเกียจเธออย่างกับโกรธแค้นเธอมาแต่ชาติปางก่อน และไม่นานน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาโดยไม่รู้สาเหตุ เธอเป็นคนเข้มแข็งและไม่เคยร้องไห้ง่ายๆแต่กับตอนนี้กับสถานการณ์เช่นนี้กับเรียกความอ่อนแอของเธอมาได้มากทีเดียว เธอได้แต่คิดคนเดียวในใจด้วยความหวังว่าต้องมีการเข้าใจผิดครั้งใหญ่แน่ๆ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เอ่ออ คุ คูณ”
เสียงของเรียวตะที่พยายามจะพูดภาษาไทยเพื่อที่จะได้สื่อสารกับเธอได้แต่ยังตะกุกตะกักด้วยความที่เขาเคยเรียนภาษาไทยมาบ้างแต่ไม่ค่อยได้ใช้เลยทำให้เขาพูดได้ช้า
“ฉันพูดภาษาญี่ปุ่นได้คะ”
พุธน้ำบุศย์บอกกับเรียวตะด้วยความที่เธอเรียนเอกภาษาญี่ปุ่นมาตอนเรียนปริญญาตรีจึงทำให้เธอสามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดีและนั้นก็ทำให้เรียวตะถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ
“คุณครับนายให้ผมมารับคุณไปที่ห้องโถงครับ”
“ไปไหน พวกคุณเป็นใคร จะพาฉันไปไหน ทำไมไม่พาฉันกลับบ้าน”
“ไปเถอะครับเดี๋ยวไปช้ากว่านี้ นายจะโกรธเอา”
เรียวตะบอกกับพุธน้ำบุศย์ด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่สายตาของเขาที่มองไปยังเธอนั้นมีแต่ความสงสารในชะตากรรมของเธอซึ่งเธอกำลังจะได้รับมันจากเจ้านายของเขาเอง
“ไปเถอะครับแล้วคุณก็จะรู้เองว่าคุณมาที่นี่ทำไม”
พุธน้ำบุศย์มองหน้าเรียวตะด้วยความโมโหเช่นกันกับที่เธอโมโหนายของเขาด้วยความที่ไม่มีใครให้คำตอบเธอได้ แต่การที่เธอจะตามเขาไปแล้วทำให้เธอได้คำตอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่นั้น เธอจึงตัดสินใจลุกขึ้นยืนและเดินตามเรียวตะออกจากห้องเพื่อไปยังสถานที่ใหม่ได้ไม่ยาก ระหว่างทางที่พุธน้ำบุศย์เดินไปนั้นเธอเดินผ่านห้องต่างๆในบ้านหลังนี้มากมายแต่สไตล์การตกแต่งนั้นช่างแตกต่างกับประเทศไทยมาก หรือว่า! ที่นี่จะไม่ใช่ประเทศไทย ความตกใจหยุดลงแค่นั้นพร้อมกับฝีเท้าของคนทั้งสองที่ตอนนี้มาหยุดยืนที่หน้าห้องใหญ่ห้องหนึ่งประตูด้านหน้าเป็นประตูไม้สักขนาดใหญ่แกะสลักด้วยลวดลายมังกรทำให้ประตูบานนี้ดูสวยงามแต่แฝงไปด้วยความน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก
ครืด
เสียงประตูไม้สักบานใหญ่ถูกเปิดออกด้วยชายสองคนจากภายในห้องโถงใหญ่นั้น เมื่อประตูบานใหญ่ถูกเปิดออก พุธน้ำบุศย์ถึงกับชะงักเล็กน้อยกับความงดงามภายในห้องแต่ในเวลานี้เธอไม่มีอารมณ์มาตื่นเต้นกับสิ่งสวยงามพวกนี้แน่นอน ภายในห้องนั้นมีชายแต่งกายด้วยสูทชุดดำจำนวนประมาณ 50 คนยืนเรียงแถวกันข้างละประมาณ 25 คนทุกคนเอามือไพร่หลังและทำตัวตรงโดยพวกเขาเปรียบเหมือนรั้วตลอดทางที่เธอกำลังเดินผ่านไปบนพรมสีแดงสดเพื่อไปยังกลุ่มคนเป้าหมายที่รอเธออยู่
“อ้อยอิ่ง”
เสียงว่าเหน็บแนมของยูดังขึ้นเมื่อพุธน้ำบุศย์เดินเข้ามายืนต่อหน้าเขา หญิงสาวหันขวับกลับมามองหน้าเขาทันทีหลังจากที่เขาพูดจบ
“คุกเข่า”
เสียงเข้มของเขาดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับคำสั่งที่ให้หญิงสาวคุกเข่าลง
“ทำไม ฉันต้องทำตามคำสั่งของคุณ”
น้ำเสียงเขียวขุ่นซึ่งออกกอาการโกรธจัดของพุธน้ำบุศย์เปล่งออกไปพร้อมกับสีหน้าและแววตาซึ่งจ้องมองไปยังผู้ออกคำสั่งอย่างไม่พอใจ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องคุกเข่าต่อหน้าคนมากมายพวกนี้ด้วย
“คุกเข่าลงเถอะครับทุกอย่างจะได้จบเร็วๆ คุณอยากอยู่แบบนี้นานๆเหรอ”
น้ำเสียงของเรียวตะที่ฟังดูอ่อนโยนกับเธอที่สุดในเวลานี้เรียกน้ำตาเธอให้เอ่อขึ้นมาบริเวณดวงตาได้ เธออยากปล่อยให้น้ำตาไหลแต่ก็ไม่อยากให้ใครดูถูกว่าเธออ่อนแอได้ เธอจึงได้แต่ก้มหน้ายอมรับกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
“ฮึ แค่นี้ก็สิ้นเรื่องไม่รู้จะเรื่องมากทำไม”
ยูเอ่ยขึ้นหลังจากที่เธอคุกเข่าลงเรียบร้อยแล้ว
“เธอชื่อพุธน้ำบุศย์ครับท่านจะมาอยู่ที่นี่กับผมในฐานะคนสวนของผม”
ยูรายงานเรื่องเธอกับคาบะผู้ซึ่งปกครองอาณาจักรแห่งนี้ด้วยความรีบร้อน เขาไม่อยากให้เธออยู่ท่ามกลางสายตาผู้ชายมากมายในห้องนี้ โดยเฉพาะตอนนี้ ริว กำลังจ้องมองเธอตาเป็นมัน ซึ่งประวัติของริวเรื่องผู้หญิงนั้นไม่เป็นสองรองใครอยู่แล้วไม่รู้ทำไมเขาถึงอยากพาเธอออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
“เธอจะมาอยู่ที่นี่.....กับผม”
ยูพูดจบก็หันกลับมามองหน้าเธอเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปพูดต่อว่า
“ตลอดไป”
คำพูดของยูสร้างความตกใจกับหญิงสาวเป็นอย่างมาก ทำไมเธอต้องมาอยู่ที่นี่กับเขาและเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องการเข้าใจผิดอย่างที่เธอคิดไว้แต่แรกแล้วเพราะเขา.......เขารู้จักเธอ.........
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ