รอยแค้นลิขิตรัก
3) เบื้องลึกเบื้องหลัง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“เรื่องที่ฉันให้แกไปจัดการไปถึงไหนแล้ว”
ยูเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทเกี่ยวกับเรื่องที่เขาสั่งให้เรียวตะจัดการโดยที่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้นอกจากเขาและลูกน้องคนสนิทคนนี้เท่านั้น
“เอ่อ นายครับเรื่องนี้มันเกิดค่อนข้างนานแล้ว อีกอย่าง....เอ่อ อีกอย่างแค่เลขทะเบียนนั้นแค่อย่างเดียวก็ทำให้คนของเราสืบเรื่องนี้ได้ช้ามากๆครับ”
เรียวตะลูกน้องคนสนิทของเขาตอบคำถามเจ้านายอย่างรู้กับคำตอบที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะเรียวตะรู้ดีว่าสิ่งที่เจ้านายเขาได้ยินนั้นต้องทำให้เขาโกรธมากแน่ๆ
“บัดซบ”
ชายหนุ่มโกรธจัดจากสิ่งที่เพิ่งได้ยินพร้อมกับหันหน้ากลับมาหลังจากยืนหันหลังสนทนากับลูกน้องคนสนิทด้วยสายตาที่น่ากลัวซึ่งส่งผลให้เรียวตะถึงกับก้มหน้าลดต่ำลงจากเดิมเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาที่น่ากลัวนั้น
“แกก็รู้ว่าเรื่องนี้สำคัญกับฉันมาก”
ชายหนุ่มพูดพร้อมยืนหน้าเข้ามาใกล้เรียวตะมากขึ้น
“ฉันให้เวลาพวกแกอีก5 วัน ถ้าไม่มีอะไรคืบหน้า แกก็รู้นะว่าจะเป็นยังไง”
คำพูดทิ้งท้ายของยูทำให้เรียวตะถึงกับขาสั่นเนื่องจากเขารู้ดีว่ายูนั้นเป็นคนที่จริงจังกับคำพูดแค่ไหน
“ครับ ผมจะพยายามเต็มที่”
เรียวตะตอบรับ
“ไม่ใช่แค่เต็มที่ แต่ต้องสำเร็จ”
หลังจากสั่งการลูกน้องเสร็จยูก็ไปยืนอยู่ริมหน้าต่างของห้องทำงานของเขา เขายกมือข้างขวาเท้าที่ขอบหน้าต่างมองออกไปด้านนอกซึ่งเป็นเมืองใหญ่เมืองหนึ่งของญี่ปุ่นเมื่อเขามองลงไปก็เห็นแสงไฟจากตึกต่างๆรวมถึงรถรามากมายเบียดเสียดกันที่อยู่บนท้องถนนที่มีแต่ความวุ่นวายแต่ภายในจิตใจของเขานั้นแท้จริงวุ่นวายกว่าความวุ่นวายในเมืองใหญ่นี้เสียอีก เป็นเวลากว่า 17 ปีแล้วซึ่งความทรงจำในวันนั้นยังหลอกหลอนเขาอยู่ทำให้เขาไม่เคยจะหลับสนิทได้เลยซักวัน
17 ปีที่แล้ว
“วัฒน์.... วัฒณ์ ลูก เสร็จหรือยังลูก พ่อเขาเช็คลมยางเสร็จแล้วนะไปกันเถอะ”
เสียงหวานของแม่ทำให้ภานุวัฒณ์หรือวัฒณ์รีบยัดหมวกใบเท่ห์และกางเกงตัวเก่งของเขาลงในกระเป๋าเป้ขนาดไม่ใหญ่มากนักด้วยความรีบร้อน วันนี้เขาพร้อมพ่อกับแม่จะไปเที่ยวด้วยกันที่กระบี่หลังจากที่ปีนี้ร้านค้าเล็กๆของครอบครัวขายได้กำไรเกินคาด
“ครับบบ ครับแม่รอแปปนึงครับ”
เด็กชายวัย 13 ปีร้องบอกแม่ของเขาก่อนจะหันมองรอบๆห้องเพื่อเช็คดูความเรียบร้อยก่อนจะรีบวิ่งลงไปหาพ่อกับแม่ และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้มองห้องของเขาในบ้านที่เขารัก
“ช้าจริงๆเลยเราเดี๋ยวก็ถึงช้ากว่าเดิมหรอก”
พ่อบอกเขาพร้อมเปิดประตูรถและนั่งประจำที่คนขับ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยรถเก๋งคันเล็กก็มุ่งหน้าสู่จังหวัดกระบี่โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาไม่มีทางไปถึงกระบี่แน่ เอี๊อดดดดดด โครม รถของพวกเขาเสียหลักขณะวิ่งมาได้ซักพักเนื่องจากมีหินก้อนใหญ่พุ่งเข้าหากระจกอย่างแรงโดยที่มันเหมือนรู้ทิศทางเพราะมันพุ่งเข้าหาศีรษะของพ่อเขาโดยตรงก่อนที่พ่อจะสลบไปพ่อของเขากดเบรคเต็มแรงทำให้รถหมุนเป็นวงกลมกลางถนนก่อนจะเซลงข้างถนนด้วยความแรงไม่มากนัก ภัควัฒณ์ที่นั่งอยู่ที่เบาะหลังบาดเจ็บเล็กน้อย แม่ของเขาถูกอัดอยู่กับถุงลมนิรภัยด้านหน้ารถ แต่ยังมีสติอยู่ก่อนที่จะรีบหันมามองเขา เมื่อเห็นว่าเขาปลอดภัยก็รีบหันไปที่พ่อของเขาแต่ดูเหมือนท่านจะอาการสาหัสกว่าใครศีรษะนั้นเลือดไหลอยู่ตลอดเวลารวมถึงพ่อก็ไม่ได้สติด้วย
“คุณ ๆๆ คะ”
เสียงแม่เรียกพ่อดังสนั่นลั่นรถแต่ไม่มีปฏิกิริยาใดๆของพ่อตอบโต้กลับมา
“ฮือๆๆ”
แม่และเขาเริ่มร้องไห้ แต่ไม่ทันไรก็มีชายคนหนึ่งเดินมาเปิดประตูรถด้านที่แม่ของเขานั่งพร้อมทั้งกระชากแม่ให้ลงจากรถไปพร้อมกับมัน ลุงศักดิ์!!! เด็กชายจำเขาได้ดีเนื่องจากลุงศักดิ์จะแวะมาหาพ่อและโดยเฉพาะกับแม่ของเขาเป็นประจำ โดยจะไม่ได้พูดคุยกับพ่อและแม่มากนั้นแต่ดูพ่อจะอารมณ์ไม่ดีทุกครั้งที่ลุงศักดิ์มาที่บ้านแต่เขาก็ไม่รู้ว่าทำไม อาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทำให้แม่สู้แรงลุงศักดิ์ไม่ไหวทำให้ลุงศักดิ์กระชากแม่ไปได้อย่างง่ายดาย แม่ทั้งร้องไห้ทั้งดิ้นรนสุดกำลังแต่ก็ไปไม่สามารถกลับมาหาเขาได้
“วัฒณ์ๆๆๆลูก ม่ายยย กรี๊ดดดด ปล่อยฉัน คุณคะคุณช่วยฉันด้วย กรี๊ดดด ไม่นะพี่จะพาฉันไปไหน ปล่อยฉันนะ ปล่อย”
เสียงร้องของแม่ยังดังอยู่ในหูเขาจนถึงทุกวันนี้
“แม่ๆๆครับ แม่จะไปไหน พ่อช่วยแม่ด้วยพ่อ ตื่นๆๆ ฮือๆๆ”
เขาร้องเรียกพ่อและแม่อยู่ภายในรถซึ่งถูกล็อคอย่างแน่นหนาจากอุบัติเหตุ แม่ของเขาถูกลุงศักดิ์พาไปที่ไหนจนถึงทุกวันนี้เขาก็ยังไม่รู้ ส่วนพ่อเสียชีวิตคาที่จากอุบัติเหตุ ส่วนตัวเขานั้นตำรวจพาไปสถานสงเคราะห์เนื่องจากเขาไม่มีญาติที่ไหน เขาอยู่ที่นั้นได้ 2 ปีก็มีผู้มาอุปการะเขาและพาเขามาอยู่ที่นี่ ประเทศญี่ปุ่น เหตุการณ์ในวันนั้นเขายังจำได้ดีจนถึงทุกวันนี้ไม่เคยลืมเลือนสิ่งที่เขารู้จากตำรวจคือมีคนปาหินเข้ามาในรถของพวกเขาซึ่งเขาคิดว่าน่าจะเป็นลุงศักดิ์ที่พาแม่เขาไปในวันนั้น และสิ่งที่เขาจำได้แม่นยำอีกอย่างก็คือเลขทะเบียนรถยนต์ของลุงศักดิ์ 8752 คือเลขทะเบียนรถของลุงศักดิ์และมันเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้เขาอาจจะได้เบาะแสของแม่รวมถึงการแก้แค้นที่เขารอมานาน เขาคาดหวังเรื่องคดีของพ่อกับแม่ให้ตำรวจจับคนร้ายมาลงโทษไว้มากแต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาตำรวจก็มาสามารถจับคนร้ายมาลงโทษได้ จนถึงทุกวันนี้วันที่เขาพร้อมจะจัดการเรื่องนี้ให้จบลงด้วยมือของเขาเอง
“พวกมันต้องได้รับสิ่งที่ทำอย่างสาสมครับพ่อ แม่”
ยูพูดกับตัวเองเบาๆพร้อมทั้งหยดน้ำตาบนหน้าเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เขายกมือขึ้นปาดน้ำตาแล้วขบกรามแน่นจนนูนเป็นสัน เขารอการแก้แค้นนี้มานานและมันต้องจบลงในอีกไม่ช้า.
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ