คดีจำเป็น ตอน คดีปลาซิวซิ่วปลาแดก
10.0
1) เปิดตัวทนายความโคนัน อิ๊อิ๊
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"แอร๊ยยยยยยยย" ไม่รู้สิ วันนี้เป็นอะไรหนอ หลังจากที่ผมได้รับงานจากท่านตำรวจนายหนึ่ง ยัยหยินนอนครอกกกก หลังจากที่เมาเต้นลำยองกลางวง นอนแบบ.... ไร้ความเป็นกุลสตรี นังหยอน เอ้ย หยินเอ๊ย สภาพหยิน แหกแข้งแหกขา แหกเข้าไป แล้วแขกผมก็มาดูสภาพนางลายเสือด้วย สั้นแทบแก้ผ้าให้ชาวบ้านดูแล้ว โอ๊ยยย นังหยิน มือยังถือขวดเหล้าอยู่เลย เพล้ง แตก อีหยินนนนนนนนนนนนนนนนนน
เอ้า ไปเมาท์มอยเรื่องหยินเสียนาน ปล่อยนางนอนตายไปเถอะ นานๆถี่ นางได้ปาร์ตี้
"โอ้ววววว นี่ คนนี้คือดอกเตอร์เหรอ ดูท่าทาง กุลสตรีไม่มีเลยนะ" นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งพูด ผมเห็นด้วย
"ผมก็ว่างั้นครับ" มันไม่มีมาตั้งแต่เกิดอยู่แล้ว
ผมกับท่านคุยกันเรื่องงานนักสืบ เพราะท่านเล็งเห็นความสามารถของผมตอนม.ต้น ว่าผมสามารถสืบหาสร้อยของคุณนายวิรินทร์ได้ และคุณนายคนนั้น ตบรางวัลให้ผมอย่างงาม
"เอ่อ.....ท่านครับ" ผมเริ่มซีเรียสมากขึ้น หลังจากที่ท่านนำคดีเป้งๆ มาให้ผมทำ งานประจำของผมมันก็เยอะอยู่แล้ว แล้วไอ้งานเป้ง ดักสืบโรงงานตุ๊กตาอะไรนั่นน่ะ บอกตรงๆ นู๋ทำไม่ได้ อ่ะ ฮือๆๆๆๆๆ
"เฮ้ยยยย คิดเสียว่า เป็นงานหมูๆ" อร๊างงงงงงง เป็นงานหมูๆ
"เอ่อ...ท่านครับ ผมว่าคนอื่นดีกว่านะครับ หากผิดพลาดไป ยังแก้ได้ทัน" ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ฟังผมเลย แถมยังต่ออีกว่า
"เอางี้ไหมล่ะ เดี๋ยวผมหาผู้ช่วยมาให้คุณ"
"ผมมีของผมอยู่แล้วครับ" ผมปฏิเสธเสียงแข็ง
"เป็นตำรวจเหรอครับ" แว้กกกกก ผมเลยเสียงอ่อน
"ไม่ใช่หรอกครับ" ผมจ๋อยคิดอะไรไม่ออก เขาก็เสริมต่ออีกว่า
"คดีนี้ งานหมูก็จริง แต่ก็ถึงขนาดที่ว่าเอาชีวิตกันได้ ผมก็เลยต้องจัดหาผู้ช่วยที่เป็นตำรวจมาให้คุณยังไงล่ะครับ" ผมก็ไม่ได้มีเพื่อนเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ถึงมีก็แค่ยศจ่าง่ะ และมันก็ติ๊งต๊องเหมือนผมด้วย ผมเลยนึกถึง ไอ้หยงขึ้นมาตะหงิดๆ เพราะไอ้หยงเป็นเพื่อนสมัยมัธยมต้น ผมกับมันลุยกันมามาก ผมนึกถึงเพื่อนคนนี้
"งั้นนน ขอเป็น ไอ้หยงแล้วกันครับ" ท่านหัวเราะทันที
"หยง ผมให้เขาทำอย่างอื่นแล้วสิ แต่ไม่เป็นไร ผมจะเรียกตัวหยงมาช่วยคุณ" เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆ
"แต่.....ผมเสริมมาด้วยอีกคน" เอ๋ กลับตาลปัตรแล้วซี
"เอ่อ..." ยังไม่ทันแย้ง ทั่นก็สรุปฉับพลัน
"เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ ผมจะหาคนเก่งๆ มีฝีมือมาให้คุณ เพราะถ้าให้หยงรับภาระนี้เพิ่ม ผมเกรงว่า หยงเค้าจะไม่มีเวลาพักผ่อน หมดภาระของผมแค่นี้แล้วล่ะ ผมต้องกลับก่อน" อร๊างงงงงงงงงงง ทำไมถึงทำกับช้านนนนนด้ายยยยยยย
หลังจากที่ผมไปส่งท่านตำรวจเรียบร้อยแล้ว นังหยินก็ตื่นมาพอดี มันถามผมว่า
"มีอะไรเหรอ ภีม ใครมาวะ"
"ก็ นายตำรวจ ชื่อไรว๊าาาาา กรูจำไม่ได้ว่ะ หยิน" หยินก็เกาบ๊อบตัวเอง แถมดันชุดเกาะอกนางเสือดาวสั้นรัดรูปให้สูงขึ้นไปอีก ผมเลยแขวะมัน
"ไม่แก้ผ้าไปเลยล่ะ อีบ๊อบส้นสูง 4 นิ้ว"
"ก็อยากอยู่หรอก" แอร๊ยยยยยยยยย หล่อนกล้านะนี่ นังชะนีขี้เมาดวดหนัก แถมอมควันอีกตางหาก นางเริ่มมีวิญญาณบุหรี่เข้าสิง นางสูบกรองทิพย์ยันมาเบลโล ไม่ต่ำกว่า 3 ซอง
"ห้องสูบบุหรี่อยู่ด้านนอก อีปลากะโห้"
"เออ รู้ อีกาฬทวีป" มันเอาภูมิศาสตร์เข้าช่วยเว้ย อีนางกระเทยดอกเตอร์เอ๊ย
ผมละจากนางหยิน ไปยังร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ตอนแรกผมจะชวนนางไปด้วยอยู่หรอก นางบอกว่า นางไม่อยากไปไหน นางอยากกลับบ้าน ปล่อยนางไป
เมื่อมาถึงเคาน์เตอร์ ผมถามพนักงานว่า
"ขอโทษครับ เอ่อ... ไม่ทราบว่า เพื่อนผมที่ชื่อว่า ป้อม โต๊ะ จองที่โต๊ะไหนครับ" PR สะดุดกึก หลังจากได้ยินในสิ่งที่ผมถาม จึงถามกลับ
"คุณมีเพื่อนชื่ออัสนี-วสันต์เหรอคะ" นางยิ้มอย่างตื้นตันใจ ผมแทบหน้าเสีย ปฏิเสธให้ไว
"ไม่ใช่ครับ ผมหมายถึงเพื่อนผมครับ ไม่ใช่อัสนี-วสันต์"
"ได้ยังไงคะ" นางแย้งต่อ "ก็เพื่อนของคุณเป็นนักร้องดัง ก็..." และนางก็ไปค้นเอากระดาษ ปากกา "เอาไปให้เพื่อนคุณหน่อยค่ะ และขอปิ๊กเยอะๆนะคะ" ฮว๊ากกกกกกกกกก จะบ้าเหรอ ผิดคนแล้วย่ะ หล่อน เอ้ย ทำไงดีวะ
"เอ่อ..... ชื่อธารากับธัชชัยครับ" นางอึ้งในบัดดล นางแนะนำเลย
"โต๊ะ 420 ค่ะ"
"ขอบคุณครับ" ผมรีบจากนางออกมาเลย ชักจะเพี้ยนไปแล้ว
420 ไอ้ป้อม นักบินเต็มยศ กวักมือเรียกผม
"ทางนี้เว้ย ไอ้ภีม" ผมนั่งลงข้างไอ้โต๊ะ ซึ่งเมามันส์ในการซัดทาโกะยากิอยู่ พอมันเห็นผม มันก็ด่าเช็ดเม็ดกระจาย
"ไอ้หน้าเม็ด เมิงไปไหนมาเนี่ย กรูกะไอ้ป้อมรอเมิงแทบแย่ อีหยินก็อีกคน พอเมาแล้วก็หายเข้ากลีบเมฆ"
"กรูมีธุระว่ะ อีหยินก็กลับบ้านไปแล้ว" ผมซีเรียส
"วะ อีหยินนี่" โต๊ะสบถ ทุบโต๊ะเสียงดัง
"เอ๊า อีหยิน" ป้อมอุทาน สักพัก ป้อมตบบ่าผม "เออ ว่าแต่ มีอะไรบอกกรูสิ ไอ้ภีม" ตบบ่าเสร็จ ก็งาบเกี๊ยวซ่า
"คือตำรวจใหญ่นั่น จะเอาคู่หูมาให้กรูเว้ย" ไอ้โต๊ะงาบทาโกะยากิ แล้วพูดว่า
"คู่หูนั่น ใคร"
"เอ้า แล้วกรูจะไปรู้ได้ยังไง ตัวกรูยังไม่เห็นเลย" ป้อมตอบแทนผม
"เขาแค่จะ โต๊ะ" โต๊ะพยักหน้างาบทาโกะต่อ
"มันเก่งรึเปล่า กรูยังไม่รู้เลย แบบนี้ มัดมือชกกรูชัดๆ" ป้อมใช้ตะเกียบคีบกะหล่ำปลีฝอยตักใส่ปากมัน แล้วพูดว่า
"ทำไงได้ แ_ด อยากเป็นนักสืบเอง" อีป้อมมมมมม พูดอย่างงี้ เมิงมาตบกรูเลยดีกว่าาาาาาาาา
"นั่นดิ กรูเห็นด้วยกะป้อมว่ะ"
"เฮ้ย ไอ้เพื่อนรัก ใจคอพวกเมิงจะเหยียบกรูให้จมธรณีไปเลยหรือไงวะ"
"ถ้ากรูทำได้ กรูจะทำ" ขอบคุณครับ ไอ้ป้อม
"เออ เว้ย วันนี้กูกะว่าจะไปดูหนังเรื่องสุดเขต เสลดปอยเปตซักหน่อย" สุดเขตเสลดเป็ด เออ เอากะไอ้โต๊ะสิ
"ไอ้โต๊ะ ดีๆ หน่อย เมิงจะไปดูหนังเรื่องนี้ที่ปอยเปตรึไง"
"ถ้ากรูทำนะ กรูจะลากคอเมิงไปด้วย ไอ้ป้อม" ไอ้โต๊ะงาบทาโกะยากิต่อ และนึกส้นคัทชูร์อะไรบางอย่างได้จึงพูดว่า
"เฮ้ย"
"ว้ายยยย" เฮ้ย ทั้งผมทั้งไอ้ป้อมร้องว้ายลั่นร้านอ่ะ ดีนะ ยังออกเสียงแบบแมนๆ ถ้าแบบตุ๊ดๆ ล่ะก็ คงอายทั้งร้าน
"กรูนึกออกแล้ว" แล้วไอ้โต๊ะ เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของผม ชูการ์ดงานแต่งของใครมาก็ไม่รู้
"ไปกินกระเพาะปลางานแต่งกันมั้ย" ง่ะ กระเพาะปลางานแต่ง
"เอ้า แล้วใครไปตายในงานแต่งไอ้เก้าล่ะวะ"
"น้อยๆหน่อย ไอ้ภีม ปากเมิงนี่ อัปมงคลเหลือเกิน" กรูว่าเมิงอัปมงคลกว่ากรูอีกนะ "ก็กรูเห็นในงานแต่งมันมีกระเพาะปลาอยู่นะ จานเบอเร่อเลย เสิร์ฟพร้อมกับหูฉลามร้อนๆ บุฟเฟ่ต์ข้าวผัด ผลไม้ มูสช็อค ขนม เต็มโต๊ะ"
"ถ้ามันพูดว่า ใครจะไปกินข้าวต้มงานแต่ง ว่าไปอย่าง" ป้อม เมิงเสริมไม่ทันแล้ว มุกนี้ กรูไม่เก็ท
"เออ เอางี้แล้วกัน กรูเริ่มรำคาญขึ้นมาตะหงิดๆ งั้น สั่งซูชิก่อนกลับดีกว่า" ไอ้โต๊ะตัดบท
"เข้าท่า" สักพักผมไปเรียกเด็กเสิร์ฟ "น้องครับๆ"
หลังจากที่กินเสร็จอะไรเสร็จ ถามเรื่องงานแต่งว่าเริ่มวันเสาร์นี้เรียบร้อยแล้ว ไอ้ป้อมกลับก่อน เพราะมันมีไฟลท์บินตอนสี่ทุ่ม จึงแวะส่งผมกับไอ้โต๊ะไว้ที่ทำงานของผม แล้วมันก็บึ่งรถออกไปเลย ส่วนไอ้โต๊ะก็นั่งแท็กซี่กลับบ้าน ส่วนผมก็นอนครับ นอน ที่ทำงานนี่แหละ
โปรดติดตามตอนต่อไปแล้วกันนะน้องนะ - -
เอ้า ไปเมาท์มอยเรื่องหยินเสียนาน ปล่อยนางนอนตายไปเถอะ นานๆถี่ นางได้ปาร์ตี้
"โอ้ววววว นี่ คนนี้คือดอกเตอร์เหรอ ดูท่าทาง กุลสตรีไม่มีเลยนะ" นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งพูด ผมเห็นด้วย
"ผมก็ว่างั้นครับ" มันไม่มีมาตั้งแต่เกิดอยู่แล้ว
ผมกับท่านคุยกันเรื่องงานนักสืบ เพราะท่านเล็งเห็นความสามารถของผมตอนม.ต้น ว่าผมสามารถสืบหาสร้อยของคุณนายวิรินทร์ได้ และคุณนายคนนั้น ตบรางวัลให้ผมอย่างงาม
"เอ่อ.....ท่านครับ" ผมเริ่มซีเรียสมากขึ้น หลังจากที่ท่านนำคดีเป้งๆ มาให้ผมทำ งานประจำของผมมันก็เยอะอยู่แล้ว แล้วไอ้งานเป้ง ดักสืบโรงงานตุ๊กตาอะไรนั่นน่ะ บอกตรงๆ นู๋ทำไม่ได้ อ่ะ ฮือๆๆๆๆๆ
"เฮ้ยยยย คิดเสียว่า เป็นงานหมูๆ" อร๊างงงงงงง เป็นงานหมูๆ
"เอ่อ...ท่านครับ ผมว่าคนอื่นดีกว่านะครับ หากผิดพลาดไป ยังแก้ได้ทัน" ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ฟังผมเลย แถมยังต่ออีกว่า
"เอางี้ไหมล่ะ เดี๋ยวผมหาผู้ช่วยมาให้คุณ"
"ผมมีของผมอยู่แล้วครับ" ผมปฏิเสธเสียงแข็ง
"เป็นตำรวจเหรอครับ" แว้กกกกก ผมเลยเสียงอ่อน
"ไม่ใช่หรอกครับ" ผมจ๋อยคิดอะไรไม่ออก เขาก็เสริมต่ออีกว่า
"คดีนี้ งานหมูก็จริง แต่ก็ถึงขนาดที่ว่าเอาชีวิตกันได้ ผมก็เลยต้องจัดหาผู้ช่วยที่เป็นตำรวจมาให้คุณยังไงล่ะครับ" ผมก็ไม่ได้มีเพื่อนเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ถึงมีก็แค่ยศจ่าง่ะ และมันก็ติ๊งต๊องเหมือนผมด้วย ผมเลยนึกถึง ไอ้หยงขึ้นมาตะหงิดๆ เพราะไอ้หยงเป็นเพื่อนสมัยมัธยมต้น ผมกับมันลุยกันมามาก ผมนึกถึงเพื่อนคนนี้
"งั้นนน ขอเป็น ไอ้หยงแล้วกันครับ" ท่านหัวเราะทันที
"หยง ผมให้เขาทำอย่างอื่นแล้วสิ แต่ไม่เป็นไร ผมจะเรียกตัวหยงมาช่วยคุณ" เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆ
"แต่.....ผมเสริมมาด้วยอีกคน" เอ๋ กลับตาลปัตรแล้วซี
"เอ่อ..." ยังไม่ทันแย้ง ทั่นก็สรุปฉับพลัน
"เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ ผมจะหาคนเก่งๆ มีฝีมือมาให้คุณ เพราะถ้าให้หยงรับภาระนี้เพิ่ม ผมเกรงว่า หยงเค้าจะไม่มีเวลาพักผ่อน หมดภาระของผมแค่นี้แล้วล่ะ ผมต้องกลับก่อน" อร๊างงงงงงงงงงง ทำไมถึงทำกับช้านนนนนด้ายยยยยยย
หลังจากที่ผมไปส่งท่านตำรวจเรียบร้อยแล้ว นังหยินก็ตื่นมาพอดี มันถามผมว่า
"มีอะไรเหรอ ภีม ใครมาวะ"
"ก็ นายตำรวจ ชื่อไรว๊าาาาา กรูจำไม่ได้ว่ะ หยิน" หยินก็เกาบ๊อบตัวเอง แถมดันชุดเกาะอกนางเสือดาวสั้นรัดรูปให้สูงขึ้นไปอีก ผมเลยแขวะมัน
"ไม่แก้ผ้าไปเลยล่ะ อีบ๊อบส้นสูง 4 นิ้ว"
"ก็อยากอยู่หรอก" แอร๊ยยยยยยยยย หล่อนกล้านะนี่ นังชะนีขี้เมาดวดหนัก แถมอมควันอีกตางหาก นางเริ่มมีวิญญาณบุหรี่เข้าสิง นางสูบกรองทิพย์ยันมาเบลโล ไม่ต่ำกว่า 3 ซอง
"ห้องสูบบุหรี่อยู่ด้านนอก อีปลากะโห้"
"เออ รู้ อีกาฬทวีป" มันเอาภูมิศาสตร์เข้าช่วยเว้ย อีนางกระเทยดอกเตอร์เอ๊ย
ผมละจากนางหยิน ไปยังร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ตอนแรกผมจะชวนนางไปด้วยอยู่หรอก นางบอกว่า นางไม่อยากไปไหน นางอยากกลับบ้าน ปล่อยนางไป
เมื่อมาถึงเคาน์เตอร์ ผมถามพนักงานว่า
"ขอโทษครับ เอ่อ... ไม่ทราบว่า เพื่อนผมที่ชื่อว่า ป้อม โต๊ะ จองที่โต๊ะไหนครับ" PR สะดุดกึก หลังจากได้ยินในสิ่งที่ผมถาม จึงถามกลับ
"คุณมีเพื่อนชื่ออัสนี-วสันต์เหรอคะ" นางยิ้มอย่างตื้นตันใจ ผมแทบหน้าเสีย ปฏิเสธให้ไว
"ไม่ใช่ครับ ผมหมายถึงเพื่อนผมครับ ไม่ใช่อัสนี-วสันต์"
"ได้ยังไงคะ" นางแย้งต่อ "ก็เพื่อนของคุณเป็นนักร้องดัง ก็..." และนางก็ไปค้นเอากระดาษ ปากกา "เอาไปให้เพื่อนคุณหน่อยค่ะ และขอปิ๊กเยอะๆนะคะ" ฮว๊ากกกกกกกกกก จะบ้าเหรอ ผิดคนแล้วย่ะ หล่อน เอ้ย ทำไงดีวะ
"เอ่อ..... ชื่อธารากับธัชชัยครับ" นางอึ้งในบัดดล นางแนะนำเลย
"โต๊ะ 420 ค่ะ"
"ขอบคุณครับ" ผมรีบจากนางออกมาเลย ชักจะเพี้ยนไปแล้ว
420 ไอ้ป้อม นักบินเต็มยศ กวักมือเรียกผม
"ทางนี้เว้ย ไอ้ภีม" ผมนั่งลงข้างไอ้โต๊ะ ซึ่งเมามันส์ในการซัดทาโกะยากิอยู่ พอมันเห็นผม มันก็ด่าเช็ดเม็ดกระจาย
"ไอ้หน้าเม็ด เมิงไปไหนมาเนี่ย กรูกะไอ้ป้อมรอเมิงแทบแย่ อีหยินก็อีกคน พอเมาแล้วก็หายเข้ากลีบเมฆ"
"กรูมีธุระว่ะ อีหยินก็กลับบ้านไปแล้ว" ผมซีเรียส
"วะ อีหยินนี่" โต๊ะสบถ ทุบโต๊ะเสียงดัง
"เอ๊า อีหยิน" ป้อมอุทาน สักพัก ป้อมตบบ่าผม "เออ ว่าแต่ มีอะไรบอกกรูสิ ไอ้ภีม" ตบบ่าเสร็จ ก็งาบเกี๊ยวซ่า
"คือตำรวจใหญ่นั่น จะเอาคู่หูมาให้กรูเว้ย" ไอ้โต๊ะงาบทาโกะยากิ แล้วพูดว่า
"คู่หูนั่น ใคร"
"เอ้า แล้วกรูจะไปรู้ได้ยังไง ตัวกรูยังไม่เห็นเลย" ป้อมตอบแทนผม
"เขาแค่จะ โต๊ะ" โต๊ะพยักหน้างาบทาโกะต่อ
"มันเก่งรึเปล่า กรูยังไม่รู้เลย แบบนี้ มัดมือชกกรูชัดๆ" ป้อมใช้ตะเกียบคีบกะหล่ำปลีฝอยตักใส่ปากมัน แล้วพูดว่า
"ทำไงได้ แ_ด อยากเป็นนักสืบเอง" อีป้อมมมมมม พูดอย่างงี้ เมิงมาตบกรูเลยดีกว่าาาาาาาาา
"นั่นดิ กรูเห็นด้วยกะป้อมว่ะ"
"เฮ้ย ไอ้เพื่อนรัก ใจคอพวกเมิงจะเหยียบกรูให้จมธรณีไปเลยหรือไงวะ"
"ถ้ากรูทำได้ กรูจะทำ" ขอบคุณครับ ไอ้ป้อม
"เออ เว้ย วันนี้กูกะว่าจะไปดูหนังเรื่องสุดเขต เสลดปอยเปตซักหน่อย" สุดเขตเสลดเป็ด เออ เอากะไอ้โต๊ะสิ
"ไอ้โต๊ะ ดีๆ หน่อย เมิงจะไปดูหนังเรื่องนี้ที่ปอยเปตรึไง"
"ถ้ากรูทำนะ กรูจะลากคอเมิงไปด้วย ไอ้ป้อม" ไอ้โต๊ะงาบทาโกะยากิต่อ และนึกส้นคัทชูร์อะไรบางอย่างได้จึงพูดว่า
"เฮ้ย"
"ว้ายยยย" เฮ้ย ทั้งผมทั้งไอ้ป้อมร้องว้ายลั่นร้านอ่ะ ดีนะ ยังออกเสียงแบบแมนๆ ถ้าแบบตุ๊ดๆ ล่ะก็ คงอายทั้งร้าน
"กรูนึกออกแล้ว" แล้วไอ้โต๊ะ เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของผม ชูการ์ดงานแต่งของใครมาก็ไม่รู้
"ไปกินกระเพาะปลางานแต่งกันมั้ย" ง่ะ กระเพาะปลางานแต่ง
"เอ้า แล้วใครไปตายในงานแต่งไอ้เก้าล่ะวะ"
"น้อยๆหน่อย ไอ้ภีม ปากเมิงนี่ อัปมงคลเหลือเกิน" กรูว่าเมิงอัปมงคลกว่ากรูอีกนะ "ก็กรูเห็นในงานแต่งมันมีกระเพาะปลาอยู่นะ จานเบอเร่อเลย เสิร์ฟพร้อมกับหูฉลามร้อนๆ บุฟเฟ่ต์ข้าวผัด ผลไม้ มูสช็อค ขนม เต็มโต๊ะ"
"ถ้ามันพูดว่า ใครจะไปกินข้าวต้มงานแต่ง ว่าไปอย่าง" ป้อม เมิงเสริมไม่ทันแล้ว มุกนี้ กรูไม่เก็ท
"เออ เอางี้แล้วกัน กรูเริ่มรำคาญขึ้นมาตะหงิดๆ งั้น สั่งซูชิก่อนกลับดีกว่า" ไอ้โต๊ะตัดบท
"เข้าท่า" สักพักผมไปเรียกเด็กเสิร์ฟ "น้องครับๆ"
หลังจากที่กินเสร็จอะไรเสร็จ ถามเรื่องงานแต่งว่าเริ่มวันเสาร์นี้เรียบร้อยแล้ว ไอ้ป้อมกลับก่อน เพราะมันมีไฟลท์บินตอนสี่ทุ่ม จึงแวะส่งผมกับไอ้โต๊ะไว้ที่ทำงานของผม แล้วมันก็บึ่งรถออกไปเลย ส่วนไอ้โต๊ะก็นั่งแท็กซี่กลับบ้าน ส่วนผมก็นอนครับ นอน ที่ทำงานนี่แหละ
โปรดติดตามตอนต่อไปแล้วกันนะน้องนะ - -
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ