Red Rose เสน่ห์ร้ายปิดคดีรัก

9.0

เขียนโดย ออยล์

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 เวลา 10.01 น.

  1 ตอน
  3 วิจารณ์
  5,624 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) พ่อหนุ่มน้อย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
แสงแดดยามเช้าต้อนรับวันใหม่ นักเรียนต่างทยอยกันเดินเข้ามาในโรงเรียนเซนจูเนียร์ ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนชื่อดังระดับต้นๆ ของประเทศไทยที่มีค่าเทอมแพงหูฉี่ นักเรียนส่วนใหญ่จึงเป็นพวกลูกนักธุรกิจพันล้าน นักการเมืองหรือไม่ก็ดาราไฮโซชั้นแนวหน้าทั่วไป ส่วนนักเรียนที่สอบชิงทุนเข้าเรียนที่นี่ได้นับว่าสุดยอดเชียวล่ะ เพราะข้อสอบชิงทุนแต่ละครั้งช่างโหดและยากนัก กว่าใครจะผ่านได้ก็เล่นเอาปวดหัวไปหลายวันแน่ะ
 
และทุกเช้านักเรียนที่เดินผ่านหน้าประตูโรงเรียนเข้ามาจะพบชายหนุ่มร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีดำทับเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด เนกไทสีส้มและกางเกงขายาวสีเทาเหมือนนักเรียนคนอื่น แต่เข็มกลัดสีทองบนอกเสื้อด้านซ้ายผิดกับเข็มกลัดสีเงินของคนอื่นกับสายรัดสีแดงที่ไหล่ซ้ายบอกถึงตำแหน่งบางอย่างที่ทำให้ใครหลายคนต่างเกรงกลัว
 
ชายหนุ่มปัดเส้นผมสีดำสนิทที่ปรกหน้าออกอย่างลวกๆ ขณะที่นัยน์ตาสีสนิมคมดุคู่สวยจ้องมองนาฬิกาข้อมือแบรนดังสลับกับนักเรียนที่เร่งเดินเข้ามาในโรงเรียนไปมานิ่งๆ ก่อนจะแสยะรอยยิ้มมาดร้ายแล้วเอ่ยเสียงนับเลขถอยหลังช้าๆ จนคนที่เดินผ่านมาใกล้ได้ยินเข้าถึงกับหน้าซีดเผือดรีบเร่งเดินหนีหายเข้าไปในตึกเรียนโดยด่วน
 
“....5”
 
“....4”
 
“....3”
 
บรื้นนนน~!!
 
และระหว่างที่เขากำลังนับเลขถอยหลังอย่างนึกสนุกอยู่นั้น รถบีเอ็มสปอร์ตสีแดงคันหนึ่งก็แล่นเข้ามาในโรงเรียนและผ่านหน้าเขาไปด้วยความเร็วสูงเล่นเอาชายหนุ่มถึงกับผงะถอยหลังไปก้าวหนึ่งเพราะกลัวถูกรถเฉี่ยว ก่อนนัยน์ตาสีสนิมคู่สวยจะหันขวับไปจ้องเจ้าของรถที่เพิ่งก้าวลงจากรถคันนั้นหลังนำรถไปจอดนิ่งอยู่ในลานจอดรถหน้าอาคารเรียนตึกหนึ่งอย่างโกรธเคือง
 
“วันนี้เขายังมาทันเวลาเหมือนเคยนะคะ ท่านสารวัตร” น้ำเสียงกลั้วหัวเราะของหญิงสาวข้างๆ ยิ่งทำให้สารวัตรนักเรียนหนุ่มต้องเบ้ปากอย่างไม่พอใจ
 
“แค่เร็วกว่าประตูปิดนิดเดียวเองน่า” สารวัตรนักเรียนหนุ่มมาดดุบ่นพึมพำอย่างไม่พอใจ ก่อนหันไปกดรีโมทปิดประตูโรงเรียนหลังเด็กนักเรียนสองคนสุดท้ายวิ่งเข้ามาทันพอดี  
 
“พวกเธอไปตามจับตาดูนักเรียนมาสายที่ริมรั้วให้ดีๆ ล่ะ” สารวัตรนักเรียนหนุ่มหันไปสั่งสารวัตรนักเรียนอีกหกคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเสียงเข้ม
 
“ค่ะ/ครับ”
 
“ส่วนฉัน...จะไปจับคนชอบแหกกฎโรงเรียนมาลงโทษเสียให้เข็ด” สารวัตรนักเรียนหนุ่มมาดดุหักมือคลายกล้ามเนื้อเล็กน้อยก่อนจะสาวเท้าเดินตรงไปยังอาคารเรียนที่เจ้าของรถสปอร์ตสีแดงเพิ่งเดินหายเข้าไปเมื่อครู่พร้อมรอยยิ้มมาดร้ายชวนขนลุก
 
“ท่าทางเจ้าโดมจะเอาจริงนะนั่น” หนุ่มร่างสูงโปร่งผู้มีเส้นผมสีส้มอ่อนเอ่ยขึ้นอย่างระอา ขณะที่สายตามองตามแผ่นหลังสารวัตรนักเรียนหนุ่มมาดดุที่เดินหายเข้าไปในอาคารเรียน
 
“เฮ้อ หวังว่าโดมคงไม่ถูกลอบยิงนะ”
 
โป๊ก!
 
“เจ้าบ้า! พูดจาเพ้อเจ้ออีกแล้วนะ แก” หนุ่มผมส้มแจกลูกมะนาวไปประดับบนหัวคนปากเสียหนึ่งลูกอย่างหมั่นไส้
 
“เจ็บนะ~” หนุ่มร่างเล็กผู้มีเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนนุ่มยาวระต้นคอเช่นเดียวกับนัยน์ตากลมโต ลูบหัวป้อยๆ ดูน่าสงสารจนเพื่อนผู้หญิงหลายคนนึกอยากเข้าไปกอดปลอบประโลมเขาด้วยความเอ็นดู
 
“นายไม่กลัวโดมจะถูกฆ่าบ้างหรือไง” พาสต้า หนุ่มร่างเล็กท่าทางอ้อนแอ้นเหมือนผู้หญิงเอ่ยขึ้นเสียงฉุน
 
“นายยังข้องใจเรื่องที่เจ้านั่นแอบพกปืนมาโรงเรียนอีกเหรอ” คิล หนุ่มผมส้มส่ายหน้าระอากับความไร้สาระของเพื่อน “ฉันเคยบอกแกกี่พันครั้งแล้วว่าตอนนั้นแกตาฝาดไปเองน่ะ”
 
“ฉันไม่ได้ตาฝาดนะ!!”
 
“ตัวเล็กแล้วยังสายตาไม่ดีอีก”
 
“เลิกเรียกฉันว่า ‘ตัวเล็ก’ สักทีได้ไหม เจ้าบ้า!!” พาสต้าตวาดเสียงลั่นใส่เพื่อนอย่างโกรธเคือง เขาไม่ชอบให้ใครมาเรียกเขาว่า ‘ตัวเล็ก’ เพราะมันคือจุดด้อยของผู้ชายอย่างเขา และยิ่งเป็นคำพูดที่ออกมาจากหมอนี่ เขายิ่งไม่ชอบใจใหญ่เลย
 
“ตะกี้แกเรียกใครว่า ‘เจ้าบ้า’ นะ ไอ้เตี้ย!” คิลเองก็หงุดหงิดที่ถูกเพื่อนหาว่า ‘บ้า’ เช่นกันจึงหันไปแยกเขี้ยวทำท่าจะกระโจนใส่เจ้าตัวเล็ก
 
“ว่าแกนั่นแหละ เจ้าโย่ง!”
 
 “ตายซะเถอะ ไอ้เตี้ย @$@%%^&”
 
และขณะที่คนร่างสูงกับคนตัวเล็กกำลังทะเลาะกันอยู่นั้น ทางด้านโดมหรือสารวัตรนักเรียนหนุ่มมาดโหดกำลังเดินมองหาเจ้าของรถบีเอ็มสปอร์ตสีแดงไปตามทางเดินหน้าชั้นเรียนจนมาถึงชั้นสาม แต่ก็ยังไม่พบวี่แววของเจ้าตัวเลย นัยน์ตาสีสนิมคมดุคู่สวยกวาดตามองหาอีกรอบก่อนจะถอนใจอย่างเซ็งๆ แล้วตัดสินใจจะหมุนตัวกลับไปทางเดิม ทว่า
 
กริ๊ก!
 
“ตามหาฉันอยู่เหรอ ท่านสารวัตร”
 
“.......!!”
 
เสียงนุ่มทุ้มของใครบางคนกับสิ่งของบางอย่างที่จี้อยู่ที่เอวทำให้โดมต้องชะงักหยุดนิ่งไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหน  แม้ไม่หันไปมองเขาก็รู้ว่าใครคนนั้นเป็นใคร ชายหนุ่มเหยียดยิ้มมุมปากก่อนจะค่อยๆ หันมาหาเจ้าของเสียง ทว่า
 
“น... นายอยู่ไหนน่ะ” ดวงตาสีสนิมคมดุคู่สวยเบิกตากว้างตกใจเมื่อหันมาไม่พบใครนอกจากอากาศธาตุ ไม่ว่าเขาจะลองหันซ้ายหันขวามองหายังไงก็ไม่พบวี่แววของเจ้าของเสียงปริศนานั่นเลย  
 
“ฉันอยู่นี่”
 
“....!!”
 
โดมสะดุ้งโหยงตกใจหันขวับไปทางต้นเสียง พบหนุ่มหล่อร่างสูงยืนยิ้มขำอยู่ด้านหลัง เส้นผมสีทองอร่ามยาวระต้นคอสะท้อนแสงส่องระยิบจับตากับนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเรียวคมคู่สวยส่องประกายขบขันยามเห็นสีหน้ามึนงงของเขา ชายหนุ่มทำตาดุใส่อย่างไม่พอใจที่ถูกเขาแกล้งปั่นหัวแต่เช้า
 
“ชอบทำตัวเป็นผีนักหรือไง” โดมว่าเสียงฉุน
 
“ฮะๆ แกล้งนายแล้วมันสนุกดีน่ะ”
 
“ชางมิน!!”
 
“คร้าบบบ~” ชางมินแกล้งขานรับเสียงใสเหมือนเด็กตอบรับอาจารย์ นั่นทำให้ชายหนุ่มยิ่งอารมณ์เสียสุดๆ
 
ชางมิน หนุ่มหล่อลูกครึ่งไทย – เกาหลีที่สาวๆ คนไหนเห็นเป็นต้องหลงเสน่ห์เขาจนโงหัวไม่ขึ้น ทั้งสาวเล็กสาวใหญ่แม้แต่พวกอาจารย์ผู้หญิงก็เป็นไปกับเขาด้วย เขาไม่รู้ว่าหมอนี่มีดีอะไรผู้หญิงถึงได้ชอบเขากันนัก ทั้งๆ ที่ชางมินเป็นนักเรียนใหม่ที่เข้ามาไม่ถึงเดือนก็แหกกฎโรงเรียนไปหลายข้อ อาทิ มีเรื่องชกต่อยกับนักเลงชายไปทั่วแถมยังเป็นเหตุทำให้ผู้หญิงต้องมาทะเลาะวิวาทกันเองเพราะเขาคนเดียว เป็นต้น
 
และวันนี้ชางมินก็ยังทำผิดกฎเช่นเคย เพราะนักเรียนที่นี่ห้ามใครคนไหนนำรถหรือยานพาหนะมาโรงเรียนเด็ดขาด!!
 
“ฉันเคยบอกนายกี่หนแล้วว่าห้ามให้นักเรียนนำรถมาโรงเรียน” โดมว่าเสียงเข้ม
 
“อืมมม~ กี่ครั้งกันนะ” ชางมินแกล้งตีหน้าครุ่นคิดนึกจำนวนครั้งที่หัวหน้าสารวัตรนักเรียนหนุ่มเคยพูดเรื่องกฎข้อนี้ซ้ำไปซ้ำมาอย่างเคร่งเครียด “เอ่อ ฉันไม่ได้นับด้วยสิ แต่ถ้านายตอบได้ก็ช่วยบอกหน่อยนะ เพราะฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่านายต้องเสียเวลาบ่นเรื่องกฎข้อนี้กับฉันกี่หนแล้ว”
 
“นายหาว่าฉันขี้บ่นรึ” โดมกระตุกยิ้มมุมปากอย่างโกรธเคือง เมื่อก่อนเขาเคยใจเย็นกว่านี้ แต่พอได้รู้จักกับชางมิน นิสัยเขาก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเพราะคำกวนประสาทของหมอนี่!!
 
“อ้าว แล้วตะกี้ฉันพูดว่าอะไรล่ะ”
 
“ชางมิน!!”
 
“เลิกตะโกนเหอะ ฉันว่านายควรเก็บเสียงไปอบรมนักเรียนที่มาสายดีกว่านะ”
 
“อยากมีเรื่องกับฉันแต่เช้าหรือไงกัน” โดมว่าเสียงต่ำพลางขยับมือคลายกล้ามเนื้อเหมือนต้องการข่มขู่คนตรงหน้าให้รู้ว่าถ้าทำให้เขาเกิดสติหลุดเมื่อไหร่เป็นอัน....ได้ต่อยกันตายไปข้างหนึ่งแน่!!
 
“ใครบอกว่าฉันอยากมีเรื่องกับนายกัน” ชางมินแกล้งยกมือยอมแพ้ “ถ้าเกิดฉันมีเรื่องกับนายจริง ฉันก็คง... ไม่อยากสู้กับนายอยู่ดี”
 
“ทำไม”
 
“เพราะนายไม่ใช่ ‘คนคนนั้น’ ไงล่ะ”
 
“หมายความว่าไง” คำพูดของเขาทำให้โดมต้องขมวดคิ้วยุ่งสงสัยและเอ่ยถามเพื่อคลายความข้องใจ แต่คำตอบที่ได้คือรอยยิ้มปริศนาที่ดูลึกลับน่าค้นหาและชวนหัวใจเต้นระทึก เมื่ออยู่ๆ ชางมินก็ก้าวเข้ามาหาเขา แถมยังยื่นหน้าเข้ามาเสียใกล้จนปลายจมูกของเขาทั้งสองแทบจะชนกัน
 
“เพราะว่า....”
 
“.........” เสียงพูดแผ่วเบากับลมหายใจร้อนอุ่นของชางมินที่เป่ารดใบหน้าเขาทำให้ชายหนุ่มขยับเขยื้อนถอยห่างไปไหนไม่ได้ราวกับถูกบางอย่างสะกดให้หยุดนิ่งเช่นเดียวกับหัวใจที่แทบจะหยุดเต้นเหมือนวันแรกที่เขาได้สบตากับชางมินไม่ผิด
 
เขาไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงไม่กล้าผลักคนตรงหน้าออกไปราวกับใจหนึ่งต้องการให้ชางมินยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีก...เพื่อที่จะ...
 
อ๊ากกกก!! นี่เขากำลังคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย! 
 
ความคิดบางอย่างเมื่อครู่ทำให้โดมเกิดอาการหน้าแดงก่ำราวกับลูกตำลึงสุก เขาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรถึงได้นึกภาพบ้าๆ นั่นออกมาได้ แต่ตอนนี้เขาต้องการถอยห่างจากใบหน้าเนียนใสของชางมินให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนที่หัวใจเขาจะหยุดเต้น!  
 
“....ถอยไปนะ” โดมเอ่ยเสียงเบาหวิวจนแทบไม่ได้ยิน
 
“........”
 
เจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มคมคู่สวยจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีสนิมคมดุที่ส่องแววหวาดหวั่นคล้ายกับเขากำลังกลัวอะไรบางอย่าง นั่นทำให้ชางมินเกิดนึกอะไรได้บางอย่างก่อนเหยียดยิ้มมุมปากแล้วค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากไปกระซิบข้างหูของสารวัตรนักเรียนหนุ่มที่เวลานี้กลายเป็นมนุษย์หินหน้าแดงก่ำไปถึงใบหูด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ
 
“หึ อ่อนไหวเหลือเกินนะ พ่อหนุ่มน้อย” ว่าแล้วชางมินก็กดริมฝีปากกับแก้มเนียนใสของสารวัตรนักเรียนหนุ่มมาดเข้มเบาๆ
 
“......!!” โดมเบิกตากว้างตกใจกับการกระทำนั่นของเขา และก่อนที่เขาจะตั้งสติได้ ชางมินก็ถอยห่างจากเขาไปพร้อมรอยยิ้มทะเล้นชวนกวนประสาทอวัยวะเบื้องล่างเสียแล้ว
 
“น นะ นาย!! ตะกี้เล่นบ้าอะไรน่ะ” โดมถามเสียงรัวเร็วพลางลูบจับใบหน้าร้อนผ่าวราวกับน้ำเดือดของตัวเองไปมา แถมหัวใจที่หยุดเต้นไปเมื่อครู่กลับมาเต้นแรงอีกครั้งและเป็นจังหวะที่เขาไม่อยากเชื่อว่าจะเกิดขึ้นระหว่างเขากับหมอนี่!    
 
“ฮะๆ นายนี่... น่ารักจังเลยนะ” ชางมินหัวเราะขำขันกับอาการเขินจัดของสารวัตรนักเรียนหนุ่ม (น้อย)
 
“หระ หรือว่า... นายจะเป็น เป็น.!!” โดมหน้าซีดเผือดพลางชี้นิ้วสั่นไปที่ชายหนุ่มผมทองซึ่งกำลังหัวเราะขำกับท่าทีหวาดหวั่นของเขา
 
“อย่าบอกนะว่า...นายเป็น!!”
 
“ฮ้า~ แล้วแต่คุณจะคิดครับ”
 
สิ้นคำ ชางมินก็ขยิบตาส่งยิ้มหวานให้เขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินฮัมเพลงจากมาอย่างเริงรื่น ปล่อยให้สารวัตรนักเรียนหนุ่มยืนขาสั่นหน้าซีดเผือดราวกับเผือกต้มสุกอยู่ตรงนั้นคนเดียว
 
“มะ... มะ ไม่จริง ตะกี้นายแค่... แกล้งฉันเล่นใช่มั้ย!!”
 
อย่าบอกนะว่าหมอนั่น... จะเป็น!!!   
ติดตามตอนต่อไป

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา