Mental Power Heroes

9.8

เขียนโดย NOXIV

วันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554 เวลา 15.59 น.

  3 chapter
  14 วิจารณ์
  7,625 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) คาบแรก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter 2 : คาบแรก

 

ณ สนามต่อสู้ โซนทุ่งหญ้า

“ เอ้าๆๆ..นักเรียนทุกคนเข้าแถวตอนเรียง 10 ทั้งหมดปฏิบัติ!! ”

“ ครับ…ผม!! ”  

                      นักเรียนทั้งหมดในห้องรวมทั้งผมด้วยต่างพากันวิ่งกรู่กันมาเข้าแถว พร้อมทั้งผลักกันไปผลักกันมา สงสัยจะเป็นความซวยของผม  ผมโดนผลักมาอยู่หน้าสุดเลย ทางด้านซ้ายเป็นผู้หญิง อืม…รู้สึกเธอจะชื่อ เรเชล เธอเป็นคนรูปร่างหน้าตาน่ารัก เป็นเด็กอายุ 13 จะว่าไปเธอก็จัดอยู่ในขั้นเรียกเก่งเลยทีเดียว ได้เลื่อนระดับทุกครั้งที่มีการสอบ แถมสามารถทำคะแนนในแต่ละครั้งได้ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว แถมเธอถูกคาดหวังว่าจะได้ติดอันดับในศึก ‘ไซคิก วอร์’ซึ่งเป็นศึกภายในของแต่ละระดับ จะจัดขึ้นเพื่อเฟ้นหานักเรียนสุดยอดของแต่ละระดับที่จะได้รับสิทธิพิเศษ ในการเลื่อนระดับอีก 1ขั้น ในตอนสิ้นเทอม จากภายนอกแล้วดูเธอน่าจะเป็นคนเรียบร้อยมากทีเดียว ดูจากลักษณะแล้วออกจะคล้ายผมที่ไม่ชอบสุงสิงกับใคร พอมองมาทางขวาของผม เอ๊ะ! ใครหว่าจำชื่อไม่ได้แหะ โดยปกติแล้วผมยิ่งเป็นพวกไม่จำชื่อใครซะด้วย ถ้าไม่เด่นดังจริงๆผมแทบไม่รู้จักใครเลยด้วยซ้ำ

“ นี้นาย นายว่าไหม การเรียนกับอาจารย์ผู้ชายนี้มันชั่งน่าเบื่อซะจริงเลยนะ ”

“………..” ผมหันมามอง

“ถ้าเลือกได้อยากเรียนกับอาจารย์ที่ ขาว สวย เซ็กซี่  โอ้ววว แบบตูมๆอะไรเงี้ยเนอะๆ นายว่าไหม”

“อ่า…อืม…..” ไอ้หมอนี้ดูถ้าจะบ้ากามวะ หื่นไม่เว้นกับอาจารย์

“ ฉัน กูน…กูนลอฟ ธันโรเยอร์ ผู้หล่อฉกาจบาดใจสาว  ฮ่าๆ”

“ อ่อ อืม.. ฉัน ซิก…ซิก เทลอส ”

“เฮ้ย… ตรงนั้นนะ  มั่วคุยอะไรกันอยู่หาาาา เธอ 2 คนนะ ออกมานี้เลยมาแสดงตัวอย่างให้เพื่อนดูเลย

“ คร้าบบบ ฮ่าๆ ได้โอกาสโชว์ความเท่ให้สาวกรี้ดดแล้วว ฮ่าๆๆๆ ” กูน หันมาพูดกับผม

“ เฮ้อ….”  ซวยจริงๆเลย สงสัยวันนี้จะเป็นวันซวยของผมจริงๆ อาจารย์ไบกันยิ่งเป็นประเภทให้ทำอะไรยากๆซะด้วย

                ผมและกูน เดินออกมายื่นคนละข้างกับอาจารย์ไบกัน  เพื่อเตรียมรอรับผลกรรมที่ทำไว้ตั้งแต่ชาติปางไหนก็ไม่รู้ นี้เป็นครั้งแรกซะด้วย ที่ผมโดนเรียกออกมาสาธิตให้เพื่อนดู ผมรู้สึกว่าขาผมมันสั่นไม่หยุดเลยนับตั้งแต่ก้าวออกมา

“ เอ้า นักเรียน วันนี้เราจะมาเรียนการใช้ เชน หรือ การเปลี่ยนMTPให้มีคุณสมบัติของต่างๆ ให้นักเรียนลองจิตนาการถึงสิ่งที่ต้องการจะเปลี่ยน เช่น ถ้าต้องการเปลี่ยน พลังMTP ให้กลายเป็นเปลวไฟ สิ่งแรกที่เราต้องคิดถึงคืออะไร ไฟ มันต้องร้อนใช่ไหม สีละมันเป็นสีอะไร พอนึกได้แล้วให้เก็บความคิดนั้นเอาไว้พยายามลองสร้างมันออกมา แล้วปลดปล่อยมันออกไป โจมตีกับหุ่นฟาง ให้แหลก ผู้ที่ทำได้ก็ถือว่าผ่าน สำหรับคนที่ทำไม่ได้ ต้องโดนทำโทษ พร้อมทั้งต้องฝึกจนสามารถใช้ได้ภายในวันนี้ ย้ำ! ว่าวันนี้  ในเมื่อฟังคำอธิบายจบแล้ว เอ้า… เธอ 2คน เตรียมพร้อมได้แล้ว โชว์ให้เพื่อนๆดู ”

“ อาจารย์…..ให้ผมก่อนนะ ให้ผมก่อนนะคร้าบบบบ ” ผมคิดในใจไอ้นี้มันจะคึกอะไรกันนักกันหนาวะ ใช้ว่าจะเป็นเรื่องง่ายดูดิ จะให้ยื่นตรงนี้แล้วให้โจมตีหุ่นฟาง ตลกแล้ว นี้มันไกลร่วม 10 เมตรเลยนะ ไอ้เชนเนี่ยแค่รวบรวมสมาธิให้อยู่กับตัวก็ยากพอแล้วนี้ต้องปล่อยออกไปโจมตีอีก แถมตั้ง 10 เมตรอีก

“ เอาเลย เธอก่อนก็ได้ โชว์ให้เพื่อนดูหน่อย ”

“ คร้าบ ขอบคุณครับอาจารย์ ” พอสิ้นสุดคำพูดของกูน  บรรยากาศรอบข้าง กลับเงียบสงบ ได้ยิ่นเสียงเพียงลมที่พัดพาใบไม้ให้ปลิวว่อนไปในอากาศ ฉับพลันปรากฏแสงสีเหลือง มากมายรอบๆตัวของกูนพร้อมทั้งส่งเสียงที่ฟังดูเหมือนเสียงไฟฟ้าช็อต ใช่แล้ว ความสามารถของเค้าคือ การเปลี่ยนMTP เป็นสายฟ้า ปรากฏออกมาเป็นก้อนสายฟ้าขนาดเท้าลูกบาส 2 ลูก

“ เอาละนะ ย้ากกกกก  ธันเดอร์บอล แลนช์!!!  ” ลูกบอลสายฟ้าทั้ง 2 ลูก นั้นค่อยๆเปลี่ยนรูปร่าง โดยยื้นผิวสายฟ้าด้านหน้าออกมาข้างหน้าเป็นคล้ายๆหอกแหลมออกมา พร้อมทั้งพุ่งไปอย่างรวดเร็วแบบไม่น่าเชื่อ

                ตู้มมมมมมม…….เกิดแสงสีเหลืองส่องจ้าไปทั่วบริเวณ และ กลุ่มควันที่พวยพุ่งออกมาจากหุ่นฟาง นักเรียนส่วนใหญ่ตกตะลึงตาค้างกันแทบทั้งนั้น สักพักพอควันเริ่มจางลงนักเรียนต่างพากันยื่นหน้ามองที่เป้าหมาย ปรากฏว่า ไม่มีแล้ว หุ่นฟางหายไป เหลือเพียงแต่หญ้าไหม้ๆและประกายสายฟ้าเล็กๆ ที่อยู่ณ บริเวณนั้น  ผมหันมามองกูน  กูนทำเสียงอ่ะแฮ่มๆพร้อมตบอก เชิงว่าเป็นไงละผลงานชั้น

“ เยี่ยมมาก ถือว่าคาบนี้เธอสอบผ่าน จะไปทำอะไรกับเวลาที่เหลือก็ไป ”

“คร้าบบบ ” กูนตอบด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างออกแนวทะเล้น ผมสังเกตุเห็นพวกผู้หญิงบางคนแอบกรี้ดกร๊าดดกันใหญ่ เออใช้สิมันทั้งเก่งทั้งหล่อนี้หว่า

“ เอาละต่อไปตาเธอแล้วซิก โชว์หน่อย ”

“ อ่ะ ครับๆ ” ผมตอบอย่างกระอักกระอ่วน แถมบรรยากาศเริ่มกลับมาเงียบอีกครั้ง ผมเริ่มรวบรวมสมาธิและจิตนาการ สิ่งที่ผมจินตนาการคือ คาไมทาจิ หรือ ที่เรียกกันว่า เคียวสายลมนั้นเอง ถ้าพูดถึงคาไมทาจิ ต้องคิดถึงสายลม คิดถึงสภาพที่แปลี่ยนMTPให้กลายเป็นลม อัดอากาศจนแน่นแต่เรียบบาง ทำให้เกิดเป็นเคียว ที่สามารถตัดเฉือดเฉือนสิ่งของได้

“ ฮึ่ม……. ” ผมเปล่งพลังMTPออกมาเต็มที่ พร้อมทั้งพยายามเปลี่ยนมันให้กลายเป็นคาไมทาจิ ผมคิดในใจ ‘เอาวะลองดูสักตั้ง 1 2 3…. ’

“ย้ากกกก…..  คาไมทาจิ ซอร์ด !!!” ก่อเกิดคลื่นพลังMTPสีเทา ที่เปลี่ยนสภาพกลายเป็นเคียวสายลมพุ่งเข้าไป แต่ว่า

“ ทำไมมันเล็กขนาดนั้น แถมยังช้าอีกตั้งหาก สงสัยจะไปไม่ถึงหุ่นฟางนะเนี่ย ”อาจารย์ไบกันพูด

 ใช่แล้ว… มันแลดูเหมือนพระจันเสี้ยวขนาดที่เล็กเอามากๆ เล็กเหมือนไม้บรรทัดอันเล็กๆเลย แถมสปีดนั้น ช้าจนเหมือนเต่า        ฉึ่บบ…..!!  คาไมทาจิที่ผมสร้างมันไปไม่ถึงหุ่นฟาง มันดันตกก่อนซะงั้น เท่าที่ผมกะระยะจากสายตาแล้วดูเหมือน จะไปได้ไม่ถึง5เมตรด้วยซ้ำ จากบรรยากาศความเงียบก่อนหน้านี้ค่อยๆมีเสียงหัวเราะที่ละนิด จนตอนนี้มีแต่เสียงหัวเราะดังระง่มไปทั่วบริเวน แม้แต่อาจารย์ก็ยังอดอมยิ้มไม่ได้เลย

“ เอ้า ไม่เป็นไรๆของยังงี้มันต้องฝึกอาจารย์ไม่คิดว่าเธอจะทำได้ตั้งแต่ครั้งแรกด้วยซ้ำ  ”อาจารย์พูดไปยิ้มไป ถึงตอนนี้ก็ยังมีนักเรียนบางคนแอบขำกันอยู่บ้าง

“ งันจากนี้ไป ให้นักเรียนทุกคนแยกย้ายกันฝึก ใครที่คิดว่าพร้อมแล้วก็ให้มาทดสอบได้เลย ” สิ้นเสียงของอาจารย์ นักเรียนทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไปฝึก ผมก็ไปหาที่สงบๆใต้ต้นไม้นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยพร้อมทั้งสังเกตรอบข้างไปด้วย จากที่ผมสังเกต ไม่มีใครอ่อนไปกว่าผมแล้ว อย่างน้อยคนอื่นเค้าครั้งแรกก็สามารถสร้างพลังได้นะระดับที่ค่อนข้างใหญ่และพุ่งไปได้ไกลกว่าผมทั้งนั้น ส่วนกูนนะหรอ ผมเห็นมันไปคอยสอนแต่นักเรียนสาวๆมีแต่สาวล้อมหน้าล้อมหลังเลยก็ว่าได้ ผมมองไปรอบๆ ผมดันเหลือบไปเห็น เรเชล กำลังนั่งเล่นตุ๊กกระบอกอยู่ใต้ต้นไม้อีกฝั่งหนึ่งของทุ่งหญ้า ผมเผลอมองเธอนานไปหน่อย เธอหันมามองทางผมพร้อมทั้งส่งสายตาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อใส่ผม ผมจึ่งรีบหันหน้าหนี ส่วนตัวผม ผมไม่คิดจะไปฝึกอะไรกับเค้าหรอก รู้ว่ายังไงก็ทำไม่ได้อยู่แล้ว ไว้โดนทำโทษ และไปทดสอบทีหลังดีกว่า เวลาพลาดจะได้ไม่ต้องอายใครด้วย

                ในเวลาต่อมา นักเรียนก็เริ่มเข้ามาทดสอบที่ละคนๆ จนตอนนี้เหลืออยู่แค่ 2 คน คือผมกับเรเชล ผมสังเกตุเห็นเรเชล ลุกออกมาจากใต้ต้นไม้พร้อมทั้งจัดแจงเสื้อผ้าและปัดฝุ่นไปด้วย ผมเห็นงันจึงรีบลุกแล้วค่อยๆเดินมาหาอาจารย์ไบกัน เพราะคิดได้ว่าถ้าเรเชลสอบเสร็จ อาจารย์คงหงุดหงิดเป็นแน่ ถ้าไม่เห็นผมมาเตรียมตัวรอทดสอบต่อ

“ อืม.. เธอ เรเชล ซินะไหนลองโชว์หน่อยสิ ว่าที่อาจารย์เค้าพากันคาดหวังในตัวเธอจะมีความสามารถแค่ไหน ” เรเชลหันมามองอาจารย์ด้วยสายตาที่เรียบเฉย พร้อมยกนิ้วขึ้นมา 1 นิ้วแล้วชี้ไปทางหุ่นฟางพร้อมทั้งพูดว่า

“ ดอลล์ มาสเตอร์  เท็นดอนคัตเตอร์!! ” พอสิ้นเสียงของเธอ ร่างของหุ่นฟาง ก็ฉีกออกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนโดนของมีคมที่มองไม่เห็นบาดซะจนไม่เหลือชิ้นดี  ผมมองอย่างตกตะลึงตาค้างซะยิ่งกว่าตอนกูนซะอีก

“ทำได้ดีมาก เธอทดสอบผ่าน” พออาจารย์ไบกันพูดเสร็จ เธอก็เดินออกไปเหมือนไม่สนใจอะไรเลย

“เอ้าตาเธอแล้วนะ ซิก” อาจารย์หันมาพูดกับผม

“ อ่ะ ครับๆ ” ผมตกปากอย่างรีบร้อน

                ตามคาดผมก็ทำไม่ได้อีกตามเคย แถมครั้งนี้ คาไมทาจิ ที่ผมสร้างยังไปไม่ถึงหุ่นฟางเสียยิ่งกว่าเดิมซะอีก ทำไงได้ละเจอเรเชลทำไปซะขนาดนั้น ใครมันจะไปมีกระจิตกระใจจะทำต่อละ ว่าแล้วผมก็โดนทำโทษอีกตามเคย อาจารย์ไบกันสั่งให้วิ่งรอบสนามต่อสู้ 5 รอบ กลายเป็นว่าวันนี้ ผมต้องวิ่งรอบสนามต่อสู้ถึง 15 รอบ ผมคิดในใจ งานนี้กลับบ้านไป ขอหลับยันชาติหน้าเลยก็แล้วกัน จะว่าไปนี้ก็ถึงเวลาไปกินข้าวแล้ว ว่าแล้วผมก็รีบเดินไปโรงอาหาร ไม่งั้นเดียวจะหมดเวลาพักซะก่อน

                โรงอาหารที่โรงเรียนนี้ค่อนข้างใหญ่โตทีเดียว มันตั้งอยู่ตรงด้านหลังของตึกระดับ3และ4 ภายในโรงอาหาร มีอาหารค่อนข้างหลากเลยทีเดียว มีทั้ง ข้าว ซูชิ เสต็ก แฮมเบอร์เกอร์ ขนมจีบ ซาลาเปา และอื่นๆอีกมากมาย โต๊ะอาหารถูกจัดไว้ค่อนข้างเป็นระเบียบ ส่วนใหญ่มีนักเรียนจับจองที่นั่งกันไว้เรียบร้อยแล้ว ผมกำลังมองๆว่า เรียว จะนั่งอยู่ตรงไหนสักพัก

เพี๊ยะ……..

“ ไอ้ซิกมองหาอะไรอยู่วะ ”

“ ไอ้เรียวเราะ…แก…เอาอีกแล้วนะโว้ยยย ” ใช่แล้วครับ มันตบหัวผมดังเพี๊ยะ หน้าโรงอาหารกันเลยทีเดียว คนหันมามองกันให่พรึ่บ พร้อมกันนั้น ผมรีบกำมัดแล้วต่อยเข้าไปที่หน้ามัน

พรึ่บ….. “เฮ้ย…หายไปไหนแล้ววะ”

“อยู่นี้..” ผมรีบหันไปมองตามเสียง เฮ้ยมันหลบมาอยู่หลังผมตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย

“ เอาน่า อย่าโกรธไปเลยนะเพื่อน เดียวเลี้ยงข้าวก็แล้วกัน ”

“ เออ ก็ได้เว้ย ” ผมก็ไปเดินเลือกซื้ออาหารกับมัน โดยอาหารที่ผมกิน จะว่าเป็นของโปรดผมเลยก็ว่าได้ มันคือ โอโคโนมิยากิ ที่ที่เรียกกันว่าพิซซ่าญี่ปุ่น มันอร่อยมากกินได้ทุกวันเลย พอผมเดินมาถึงโต๊ะ ผมก็รีบจัดแจงกินอย่างไม่เกรงใจใคร

“ เบาๆก็ได้ซิก อายคนเค้า ”

“ได้ข่าวว่าวันนี้ …มีทดสอบMTPเรื่อง เชน มาหรอ ฮ่าๆๆๆ ได้ข่าวว่าปล่อยไก่ตัวเบ่อเร้อเลยนี้” ผมหันมามองมัน

“ เออ แล้วจะทำไม” ผมพูดพร้อมทำสายตาหงุดหงิดใส่มัน

“ ฮ่าๆๆๆ อย่าโกรธๆ กะว่าเดียวตอนเย็นจะไปช่วยเทรนให้ไง ”

“เออ เอางันก็ได้ งันเดียวเรียนช่วงบ่ายเสร็จแล้ว มาเจอกันที่สนามต่อสู้โซนทุ้งหญ้านะ” ไอ้เรียวก็พยักหน้ารับ และแล้วสักพัหนึ่งผมกับเรียวก็กินข้าวกันจนเสร็จ ก็ได้เวลาเตรียมตัวขึ้นไปเรียนช่วงบ่ายกันต่อ

                ช่วงนี้บ่ายนี้ ผมไม่มีเรียน เนื่องจากว่า อาจารย์ที่จะสอนวิชา โทรจิต ยังเดินทางมาไม่ถึง ช่วงบ่ายผมก็เลยว่างยาวเลย ดี ผมจะได้นอนพักผ่อน หลังจากที่ช่วงเช้าผมต้องวิ่งรอบสนามต่อสู้ถึง 15 รอบ ผมนอนฟลุบอยู่กับโต๊ะ ใช้เวลาไม่นานนักผมก็คลอยหลับไป….

“ซิกๆๆ ตื่นๆๆ” ผมได้ยินเสียงเหมือนคนเรียก ผมจึ่งตื่นแล้วพยายามรี่ตามองว่าใคร

“เรียว…..มีอะไร อ้าว!!! คุณ รี่ นี้น่า” ผมตกใจป่นงงนิดๆว่าทำไมเรียวถึงมากับรี่ได้

“ก็วันนี้ฉันจะไปเทรนเรื่อง เชน ให้นายไง เนี่ยฉันพารี่มาด้วย เค้าก็ถนัดการใช้ เชน เหมือนกัน ว่าแต่นายรู้จักเธอตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย”

“ก็ เมื่อเช้าไง คุณรี่เป็นคนช่วยฉันตอนโดนทำโทษเมื่อเช้า” ผมรีบตอบทันควัน แล้วรี่ก็หันมาหาผมแล้วพูดว่า

“ฉันว่า จากนี้ไป ซิกก็เรียกฉันว่า รี่ เฉยๆก็ได้นะ ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรหรอก ถือซะว่าได้เป็นเพื่อนกันก็แล้วกัน  ”

“อ่า อืมๆ” ผมรีบตอบ

“แล้วเราจะไปฝึกกันได้รึยัง ห๊า.. เมื่อแต่เขิลหน้าแดงอยู่นั้นและ” ผมคิดในใจ ไอ้ซิกมันจะพูดอย่างงี้ทำไมวะ เขิลอะไร ใครเขิลกันห๊ะ

“เออๆ ไปๆ”

                และแล้วผม เรียว แล้วก็รี่ ก็ได้เดินจนมาถึงสนามต่อสู้โซนทุ้งหญ้า ณ เวลานี้แทบไม่มีนักเรียนหลงเหลืออยู่ในโรงเรียนแล้ว เพราะมันก็เย็นมาก บอกตรงๆผมไม่อยากเชื่อว่าผมจะหลับไปได้นานขนาดนี้

“เริ่มแรก ฉันจะแสดงตัวอย่างให้ดูก่อนละกัน เอ้า… ตามทฤษฏี แล้วเราต้องจิตนาการ แล้วพยายามนึกเป็นมโนภาพถึงสิ่งที่เราต้องการจะสร้างเอาไว้ในหัว เอาละนะ ” พอพูดจบซิกก็ยื่นมือออกมาหนึ่งข้าง พร้อมกับพูดว่า

“สปิริตออฟไฟล์ ออน แฮนด์” ปรากฏเป็นดวงไฟดวงใหญ่กำลังโหมกระหน่ำอยู่บนมือของเรียว จากนั้นมันค่อยๆเปลี่ยนไปปลายเป็นลูกบอลไฟขนาดเท่าลูกบาส

“เอาละนะ คอยดูที่หุ่นฟางไว้ให้ดี 1 2 3!!  ไฟบอลลลล ชู้ตตต!!” ลูกไฟลอยไปด้วยความเร็วสูงกระทบกับหุ่นฟาง ก่อเกิด เปลวไฟขนาดใหญ่ลูกท่วมทั้งตัวหุ่นฟาง จนไหม้เป็นจุล

“เป็นไง พอไหวไหม ซิก สิ่งที่สำคัญเลยคือจินตนาการและความเข้มแข็งของจิตใจ ทั้ง2อย่างจะเป็นตัวแปรกับพลังของนายว่าจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน” เรียวพูด

“เอาซิก เธอลองทำตามดูสิ  ต้องตั้งจินตนาการ ไม่ต้องรีบนะค่อยๆเป็นค่อยๆไปก็ได้ ลองทำให้เสมือนพลังMTPเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของเธอดู ”  รี่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม

“โอเค ฉันจะลองดู ”  จิตตนาการ ผมต้องตั้งจินตนาการ  คาไมทาจิ ลม อากาศ คมมีด ความดันลม ใช่แล้ว!!! สิ่งที่ผมต้องทำคือ เปลี่ยนมันออกมาเป็นรูปลักษณ์บนฝ่ามือก่อน แล้วค่อยอัดMTPเข้าไปให้มันมีพลังทำลายมากขึ้น ในระหว่างที่ผมคิดนั้นก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

ตู้มมมมมมมม!!!!! ก้อนหินยักษ์ล้อมรอบด้วยเปลวไฟดวงใหญ่ลอยมาจากอีกฝากหนึ่งของลานต่อสู้ สิ้นเสียงระเบิด ผมเห็นร่างของเรียวลอยไปไกลร่วม 10 เมตร

“ เรียวววววววววว ” ผมกับรี่ร้องเสียงหลงออกมาพร้อม

เบื้องหน้าปรากฏเงาดำร่างยักษ์ ดูจากรูปร่างแล้วคนๆนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่

เรื่องราวจะเป็นยังต่อเชิญติดตามต่อได้ในบทหน้านะครับ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา