เขียนบทรักให้นายไม่ชอบ
9.4
1) บทที่ 1 ผมไม่ชอบ...คุณโสฯ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 1
ผมไม่ชอบ...คุณโสฯ
เจ้าหน้าที่ *FBI หนุ่มผู้มีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับระบบโปรแกรมของคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี ชายหนุ่มมักจะถูกเรียกว่า ผู้เชี่ยวชาญ หรือ ผู้ชำนาญการ เกี่ยวกับระบบโปรแกรมของคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ก่อนจะเริ่มเข้ามาทำงานให้กับหน่วยงานของรัฐบาล แต่ในวันนี้หนุ่มนักโปรแกรมเมอร์ หนุ่มนักสร้างระบบและนักเจอะระบบ หรือนักจารกรรมข้อมูลของรัฐบาล ไม่คิดที่จะสนใจที่จะทำงานในหน้าที่ของตัวเองหรือรับผิดชอบงานในหน้าที่ของตัวเองเลยแม้แต่เพียงนิดเดียว ชายหนุ่มจ้องมองตรงไปยังจอมอนิเตอร์ที่เปิดทิ้งไว้เบื้องหน้า
ในจอมอนิเตอร์จะปรากฏรูปร่างของหญิงสาวแสนสวย เธอคือหญิงสาวที่ชายหนุ่มตกหลุมรักแต่ไม่กล้าพอที่เปิดเผยความในใจให้แก่หญิงสาวได้รับรู้ เพราะหญิงสาวในจอมอนิเตอร์คือเพื่อนรักและสหายคนสนิท ...
ชายหนุ่มนักโปรแกรมเมอร์จึงไม่กล้าพอที่จะเปิดเผยความรู้สึกในใจ ของหัวใจแห่งรักที่ได้แอบซ้อนเก็บไว้ภายในดวงใจส่วนลึก ชายหนุ่มไม่กล้าพอที่จะทำการเปิดเผยหรือไขล็อคกุญแจหัวใจ แล้วทำการส่งมอบความรู้สึกรักทั้งหมดที่มีในหัวใจของเขา ส่งตรงไปสู่หัวใจของเธอ ให้เธอพอที่จะสามารถจะรับรู้มันได้บ้าง... ส่งมอบไปให้ัยังหญิงสาวที่เขาหลงรัก ณ เวลาีนี้ เขาไม่สามารถส่งมอบความรู้สึกรักทั้งหมดของหัวใจของเขาไปจนถึงใจกลางของหัวใจของเธอได้เลย แม้เขาจะพยายามหรืออยากให้เธอได้ลองสัมผัสความรักของเขามากมายสักเพียงใดก็ตาม...
อาจจะเป็นเพราะเธอคือคู่หูสาวแสนสวยและเป็นสหายรักคนสนิทของเขาด้วยก็ได้... ความรักที่เขาได้แอบซ้อนเก็บไว้ มันจึงเป็นเพียงความรักที่ต้องแอบเก็บซ้อนไว้เพียงลำพังหรือเพียงผู้เดียวมานานแสนนาน เขาไม่สามารถบอกเล่าหรือระบายความรู้สึกทั้งหมดให้แก่ใครหรือผู้ใดได้เข้าใจหรือได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดในหัวใจของเขาได้เลย และเขาไม่เคยให้หญิงสาวคนใดได้ลองเข้ามาสำรวจรักษาบาดแผลภายในดวงใจของเขาได้อีกเลยแม้แต่คนเดียวด้วยเช่นกัน นอกจากเขาอยากจะให้หญิงสาวที่เขาหลงรักเพียงคนเดียวเท่านั่นได้มาลองเข้ามารักษาทายาในหัวใจของเขาดูบ้าง แต่เธอก็ไม่เคยคิดจะลองเข้ามาสำรวจในดวงใจหัวใจของเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว...
ในเวลานี้เธอจึงเป็นเพียงคนเดียวที่มีสิทธิเก็บซ้อนกล่องดวงใจของเขาแล้วทำการใส่กุญแจซ้อนเก็บเอาไว้
ในเวลานี้หัวใจรักของเขาจึงเสมือนถูกเธอสลักด้วยลิ่ม พันธนาการไว้ด้วยความรักอย่างแ่น่นหนา มันถูกพันธนาการไว้ในกล่องแห่งความรักอย่างแน่นหนามานานแสนนานแล้วจริงๆจนเขาเองเริ่มรู้สึกได้ว่า อีกไม่นานเขาอาจจะไม่สามารถทนหรือแบกรับความรู้สึกอันแสนเจ็บปวดนี้ต่อไปได้อีกแล้ว
จนถึง ณ เวลานี้ ดวงใจรักของเขาก็ยังไม่สามารถส่งมอบต่อไปให้แก่ใครหรือหญิงสาวคนใดได้อีกเลย ณ วันนี้ ตัวเขาเองก็ไม่ต้องการจะคิดหรือนึกถึงความอ่อนแอและความขี้ขลาด ความขี้กลัวของตัวเขาเองอีกต่อไปแล้วเช่นกัน...สาเหตุในหัวใจจริงๆของเขาอาจจะเป็นเพราะเขาทราบคำตอบที่ต้องการอยากจะได้ฟังมาโดยตลอดและกลัวคำตอบที่จะได้รับฟังจากปากของหญิงสาวที่ปรากฏอยู่ในจอมอนิเตอร์เบื้องหน้าของเขาเองก็เป็นได้...เธอคงรักเขาได้เพียงแค่ความเป็นเพื่อนเท่านั่น
“จิม นายกำลังแอบติดตาม สอดแนบ โรส...อยู่อีกแล้วใช่มั้ย”
“ฉันก็แค่อยากจะรู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ในตอนนี้ก็เท่านั่น...ไม่มีอะไรมาก”
“ไอ้จิม...ไอ้ที่นายบอกว่าไม่มีอะไรมากมันรวมถึงที่นายแอบเจอะระบบเข้าไปอ่านจดหมายของโรสด้วยหรือเปล่าล่ะหว่ะ!!!...”
“ปี๊...ปีเตอร์...นายอย่าได้พูดจาพล่อยๆ บ้าๆแถวนี้น่ะ...ฉัน...”
“ฉัน...อะไรจิม...นายนี่มันน่ากลัวจริงๆเลย..จิม นั่นมันเรื่องส่วนตัวของเพื่อนร่วมงานของเรานะ..จิม.. เมื่อไหร่นายถึงจะเลิกทำตัวเป็นไอ้โรคจิตชอบแอบสอดแนมโรส เสียที่นะจิมมี่...นายแอบวางแผนปล่อยตัวพ่อค้ายาเสพติดให้หลุดรอดผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมาจนได้ ให้ไอ้พ่อค้ายานั่นสามารถเดินทางกลับมาจนถึงประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย และยังให้การปกป้องคุ้มครองดูแล ช่วยเหลือมันต่างๆ นานาอีก จนเวลานี้มันก็ได้รอดพ้นการจับกุมของเจ้าหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว... ทั้งหมดที่นายทำมันลงไปก็เพื่อที่นายจะได้มีเหตุผลหยุดพักร้อนยาวๆ นานๆ และสิ่งที่สำคัญที่ฉันไม่เข้าใจและอยากจะรับรู้จริงๆก็คือนายพาฉันพ่วงห้อยติดตามมาพักร้อนครั้งนี้ด้วยทำไมกันหว่ะ!!!...จิมมี่”
“ฉัน...”
“ฉันๆๆ...นายไม่ต้องมาพูดอะไรกับฉันอีกแล้ว..จิม นายรับรู้ไว้ตรงนี้เลยนะจิมมี่... ความจริงแล้วฉันเองก็ต้องการอยากจะมาพักร้อนในเมืองไทยครั้งนี้ด้วยเหมือนกัน ฉันถึงได้ยินดีและยินยอมติดตามนายมาพักร้อนด้วย ส่วนเรื่องอื่นๆฉันไม่ขอรับรู้เรื่องราวอะไรด้วยทั้งสิ้น...แล้วแต่นายอยากจะจัดการหรืออยากจะทำอะไรก็ทำไป ...เรื่องทั้งหมดมันก็แล้วแต่นายจะจัดการก็แล้วกัน...จิม หรือนายอยากจะให้ฉันช่วยทำอะไรเล็กๆน้อยๆ นายก็บอกฉันมาแล้วกัน...รวมถึงเรื่องที่เกี่ยวกับโรสด้วย...”
“ปีเตอร์นายไม่อยากจะรับรู้เรื่องราวอะไรเลยจริงๆใช่มั้ย”
“เล่ามาสักนิดก็ดี...เอาแบบเนื้อๆ นะ ฉันไม่อยากจะฟังนายพูดนานๆ มันน่าเบื่อ”
“ก็ได้...นายรับปากแล้วนะ ว่านายจะช่วยฉันทำงานนี้”
“เอ๊อ...ไอ้จิมมี่”
“แต่ก่อนที่ฉันจะเล่าเรื่องอะไรๆให้นายฟังนายลองดูนี้เสียก่อน....”
“โรส...”
..................................................................
ณ สถานบันเทิงในกรุงเทพ มันคือสถานบันเทิงแบบครบวงจร อันได้แก่ บาร์ ผับ ไนต์คลับ ซึ่งให้บริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ชายหนุ่มส่วนใหญ่ที่เข้าไปใช้บริการสถานบันเทิงมักจะเรียกใช้บริการสาวโคโยตี้ สาวนั่งดริ๊งค์ หรือสาวเชียร์เบียร์ ที่หน้าตาสะสวยและได้รับการแต่งเสริมใบหน้าจนน่าดูน่ามองอยู่เสมอ สารวัตรเมฆาจ้องมองตรงไปยังเวทีนักร้องเบื้องหน้า นักร้องสาวสวยในชุดหนังสีดำ กำลังร้องเพลงส่งเสียงดัง พร้อมเต้นเข้าจังหวะตามแดนซ์เซอร์ เซ็กส์ซี่ๆน่ารักๆเบื้องหลัง ชายหนุ่มมากมายจ้องมองหญิงสาวในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยบนเวทีอย่างตาค้างในลีลาท่าเต้น หรือเสียงร้องเพลง สารวัตรเมฆาก็ไม่สามารถแยกมันออกจากกันได้
“เมฆ นายสนใจนักร้องบนเวทีนั่นหรือว่ะ ถ้านายสนใจฉันจะเรียกน้องเขามานั่งดริ๊งค์กับเราด้วย นายว่าดีมั้ยว่ะเพื่อน”
“อย่าเลย...ฉันไม่ชอบ...สาวโคโยตี้ สาวนั่งดริ๊งค์ หรือสาวเชียร์เบียร์ฉันมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วนะยุทธ และอีกไม่นานฉันก็จะแต่งงานแล้วด้วย นายก็เหมือนกัน นายแต่งงานมีลูกมีเมียแล้วก็เลิกยุ่งเกี่ยวกับสาวๆบริการพวกนี้เสียทีเถอะยุทธ...ฉันไม่ชอบให้นายแอบนอกใจเมียนายแบบนี้บ่อยๆเลย เลิกนิสัยแย่ๆแบบนี้ของนายเสียทีเถอะว่ะยุทธ ฉันไม่ชอบเลย...”
“ไอ้เมฆเพื่อนรัก...เมื่อไหร่นายจะเลิกพูดคำว่า ฉันไม่ชอบๆๆ...แบบนี่เสียทีว่ะ วันนี้ฉันขอสักวันเถอะว่ะเพื่อน ถือซะว่าเป็นของขวัญวันเกิดของฉันล่วงหน้าหนึ่งวัน นะเพื่อนนะ”
“ตามใจนายก็แล้วกันนายอยากจะทำอะไรก็ทำ แต่ไม่ต้องทำอะไรเผื่อแพร่ฉันด้วยก็แล้วกัน ฉันอยากนั่งดื่มเงียบๆคนเดียว นายเรียกน้องๆน่ารักๆมาเฉพาะสำหรับนายเพียงคนเดียวก็พอ”
“ขอบใจมากเพื่อนที่เข้าใจหัวอกเพื่อนรักอย่างฉัน ถ้าไม่เพราะนายเมียฉันคงไม่ปล่อยบัตรผ่านมาง่ายๆแบบนี้แน่ๆ...นายนี่เป็นบัตรผ่านสำหรับฉันได้จริงๆเลยว่ะ เมฆเพื่อนรัก... ขอให้บอกกับเมียฉันว่าฉันจะมาเที่ยวกับนายเท่านั่นล่ะ เมียฉันปล่อยบัตรผ่านได้โดยไม่ซักถามอะไรเลยสักคำเดียว ...แหม๊...มันดีจริงๆ เพราะเธอเชื่อในนิสัยใจคอของนายแท้ๆเลยนะ เพื่อนรัก”
“แต่นายก็อย่าได้แอบอ้างชื่อฉันบ่อยๆล่ะยุทธ...เพราะฉันไม่ชอบโกหกเมียนายบ่อยๆเช่นกัน”
“เอ๊อ... ไม่บ่อยหรอกเพื่อนนานๆครั้งเท่านั่นเอง”
“ไอ้ยุทธ...กี่ครั้งแล้วที่นายโกหกเมียนายว่ามาเที่ยวกับฉัน”
“ก็...หลายครั้งอยู่นะเพื่อน”
“ไอ้ยุทธ...นายก็รู้อยู่ว่าเมียนายกับแฟนฉันเขารู้จักกันสนิทกัน... โอ้!!...สงสัยว่าเมียนายจะเล่าอะไรต่อมิอะไรให้แฟนฉันได้รับรู้จนเข้าใจฉันผิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วล่ะ ไอ้ยุทธ”
“เข้าใจผิดก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรมากมายเลยเพื่อนรัก...เราเป็นผู้ชายการมาเที่ยวหาความสุขมันก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา ผู้ชายคนอื่นๆเขาก็ทำกัน มันไม่เห็นแปลกผิดปกติตรงไหนเลย”
“มันต้องแปลกต้องผิดปกติแน่ๆถ้าฉันบอกกับแฟนของฉันว่า ฉันไม่ชอบเที่ยวสถานบริการแบบนี้...และฉันไม่ชอบสาวบริการหรือคุณโสฯ แอบแฝงพวกนี้ด้วย ตอนนี้เธอคงเข้าใจฉันผิดคิดว่าฉันเป็นจอมโกหกหรือเธอคงกำลังคิดว่าฉันเป็นจอมเจ้าชู้คาสโนว่าจอมหลอกลวงอยู่แน่ๆเลย ไอ้ยุทธ”
“อ๊ะๆๆอ่า...โกหกก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรมากมายเลยเพื่อนรัก...”
“พอๆๆ...นายหยุดพูดต่อไปได้แล้ว ฉันจำคำพูดต่อไปของนายได้แล้ว...ไอ้ยุทธ”
“หึๆๆ ดีแล้วที่นายเข้าใจ ต่อไปนี้ เราสองคนก็มาเริ่มต้นสนุกสนานกันแบบผู้ชายๆ แบบหนุ่มโสดๆได้แล้วล่ะ เพื่อนรัก…นี้ๆๆน้องๆๆพี่ขอกระดาษปากกาหน่อย...”
“ครับพี่...”
....................................................
บริกรหนุ่มพนักงานเดินบิลที่กำลังทำหน้าที่คอยจดรายการอาหาร เหล้า เบียร์ หรือคอยยกเหล้า เบียร์ มาเสริฟตามโต๊ะลูกค้า เดินตรงเข้ามาหานายตำรวจสรยุทธหรือเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกันกับสารวัตรเมฆาหรือเมฆ แล้วส่งกระดาษพร้อมปากกาให้แก่นายตำรวจสรยุทธ แล้วยืนรอรับออเดอร์รายการอาหารพร้อมเครื่องดื่มจากชายหนุ่มเบื้องหน้า นายตำรวจสรยุทธใช้เวลาไม่นานนักก็ส่งกระดาษพร้อมปากกาคืนให้แก่บริกรหนุ่มพร้อมแนบแบงก์ร้อยสองแบงก์ไว้ในบิลรายการอาหารและเครื่องดื่มไปด้วย พนักงานบริกรหนุ่มยิ้มแย้มอย่างดีใจพร้อมจ้องมองรายการอาหารพร้อมเครื่องดื่มซึ่งมันมีข้อความบางอย่างแอบแฝงอยู่ด้วย แล้วเริ่มทำการอ่านข้อความแปลกๆในใจอย่างช้าๆโดยไม่ส่งเสียงดังออกมา..
“พี่ขอเด็กนั่งดริ๊งสวยๆ สองคนนะน้อง เอาน่ารักๆ ด้วยล่ะ ถ้าได้นักร้องบนเวทีนั่นมาร่วมนั่งดริ๊งกับพี่และเพื่อนของพี่ด้วยได้ล่ะก็ พี่จะเพิ่มเงินให้น้องอีกสามร้อย”
“ครับพี่...เดี๋ยวผมจัดการให้ครับ”
“ไอ้ยุทธ แกกำลังคิดจะทำอะไรของแกว่ะ ฉันบอกแกแล้วใช่มั้ย ว่าไม่ต้องทำอะไรเผื่อแพร่ฉัน”
“เถอะน่าเพื่อนรัก แค่เลี้ยงเบียร์น้องเขา...สนุกๆกันเท่านั่น ถ้านายไม่พอใจก็ให้เงินน้องเขาสักนิดสักหน่อยเป็นค่าเสียเวลาก็ได้นี้หว่า...จริงมั้ย...ทั้งหมดทั้งมวนนี่ฉันทำเพื่อนายคนเดียวเลยนะเพื่อนรัก...ฉันเห็นนายจ้องมองน้องเขาร้องเพลงและเต้นมันๆจนตาค้างตั้งแต่เดินเข้ามาในร้านแล้ว...จริงมั้ย...อ๊อ..แล้วเวลาน้องเขามาร่วมสนุกสนานนั่งดริ๊งกับเราด้วยนายก็เลิกพูดไอ้คำว่า....ผมไม่ชอบๆๆๆ...หรือพี่ไม่ชอบๆๆๆ...ได้แล้ว...คำเดียวที่นายควรพูดก็คือ ผมชอบน้องมากครับ หรือพี่ชอบน้องมากครับ...เข้าใจนะเพื่อน”
“เอ๊อ...ไอ้ยุทธ กูเข้าใจแล้ว กูจะตามใจมึงวันนี้วันเดียวนะ มึงอยากให้กูทำอะไรก็ว่ามาได้เลย...”
“สิ่ง...ที่...มึง ควรทำนะ เพื่อนรัก...ห้าม..พูด..คำว่าไม่ช๊อบ...โดยเด็ดขาด...ถือว่าเป็นของขวัญ..วัน..เกิ๊ด..ให้กับกู...เพื่อนรักของมึงคนนี้เข้าใจนะเพื่อนรัก”
“เอ๊อๆกูเข้าใจแล้ว ไม่ต้องพูดแน่นทุกคำพูดก็ได้ กูเข้าใจมึงแล้ว...ไอ้ยุทธ”
“ดีมาก...เมฆเพื่อนรัก”
……………………………………………..
บริกรหนุ่มผู้ทำหน้าที่เดินบิลรายการอาหารเดินหายไปไม่นาน เครื่องดื่มและอาหารที่ได้สั่งไปก็ได้เริ่มทยอยนำส่งเข้ามาวางไว้บนโต๊ะที่สองนายตำรวจหนุ่มนอกเครื่องแบบนั่งคอยอยู่ก่อนล่วงหน้าแล้วและถัดจากรายการอาหารบนโต๊ะก็คือสาวนั่งดริ๊งที่นายตำรวจสรยุทธขอไปเธอกำลังเดินถือเหล้านอกราคาแพงยี่ห้อดังและกำลังเดินตรงเข้ามาใกล้ๆโต๊ะที่นายตำรวจสรยุทธนั่งคอยอยู่ก่อนแล้ว นายตำรวจสรยุทธแย้มยิ้มอย่างชายหนุ่มเจ้าชู้ อย่างหนุ่มโสดผู้ไม่เคยมีลูกมีเมียมาก่อน...
“สวัสดีค่ะ คุณพี่ข๊า...สวัสดีค่ะ คุณพี่รูปหล่อด้วยนะค่ะ...แหม๊ วันนี้เป็นโชคของหนูจริงๆเลยที่ได้มาบริการคุณพี่รูปหล่อทั้งสองคน”
“แหม๊...น้องนี่ปากหวานแล้วยังสวยน่ารักอีกต่างหากนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ คุณพี่ข๊า”
“เมฆ...นายก็ทักทายน้องเขาหน่อยสิว่ะ...เร็วๆเพื่อน”
“พี่ชอบน้องมากครับ”
“ไอ้เมฆแกพูดยาวๆกว่านี้ก็ได้นะเพื่อน”
“ก็แกบอกให้ฉันพูดแค่นี้ไม่ใช่รึ...ไอ้ยุทธ”
“เอ๊อๆ...พูดได้แค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้วล่ะเพื่อน...แกพูดแค่นี้ก็พอ ฉันเข้าใจว่ะ...น้องจ๊ะอย่าไปสนใจเพื่อนของพี่เลยนะจ๊ะ มันอารมณ์ไม่ค่อยดี น้องสนใจพี่คนนี่คนเดียวก็พอนะจ๊ะน้อง...”
“คะ คุณพี่ข๊า...น้องขอชงเหล้าให้พี่นะค่ะ....เอาแบบเข้มๆโซดาน้อยๆใช่มั้ยค่ะ”
“จ๊ะน้องคนสวย...”
......................................................
สารวัตรเมฆาจ้องมองตรงไปยังเวทีที่กำลังมีนักร้องสาวสวยกำลังเต้นและร้องเพลงเข้าจังหวะมันๆ ด้วยเสียงเพลงดังๆ แต่เสียงเพลงที่เธอร้องไม่สามารถส่งเสียงดังผ่านเข้ามายังห้องกระจกบานใสในห้องส่วนตัวเล็กๆที่สามารถจุคนได้อย่างน้อยสี่หรือห้าคนห้องนี้ได้เลย หญิงสาวนักร้องนักเต้นกำลังร้องเพลงสุดท้ายจบลงในรอบการร้องของเธอแล้วทำการส่งไมค์ต่อไปให้กับนักร้องคนอื่นๆต่อไป นักร้องคนอื่นๆที่มีคิวต่อจากหญิงสาวก็เดินเข้ามารับหน้าที่ร้องเพลงและเต้นต่อจากเธอต่อไปหรือให้เข้ามาร้องเพลงแทนเธอในบทเพลงต่อไป...
สารวัตรเมฆาจ้องมองหญิงสาวกับบริกรหนุ่มกำลังพูดคุยกันอย่างที่เพื่อนของเขาฝากข้อความฝากไป ความหมายของข้อความก็คงจะเป็นสิ่งที่เพื่อนของเขาเขียนบอกไปกับบริกรหนุ่มน้อยคนนั่นอย่างแน่นอน นักร้องสาวจ้องมองตรงมายังห้องกระจกบางใสที่เขากับเพื่อนกำลังนั่งดริ๊งกันอยู่ เธอรับเศษกระดาษจากมือบริกรหนุ่มแล้วเดินตรงมายังโต๊ะหรือห้องกระจกเล็กๆที่เขาและเพื่อนกำลังนั่งดริ๊งกันอยู่...ขณะนี้เธอยืนอยู่เบื้องหน้าของเขาแล้ว...โอ้พระเจ้าเธอสวยมากจริงๆ...
“พวกคุณชวนฉันมาร่วมนั่งดริ๊งด้วยใช่มั้ยค่ะ...”
“ไอ้เมฆตอบอะไรน้องเขาไปหน่อยสิว่ะ นั่งบื้ออยู่ได้เพื่อนเอ๋ย...”
“พะ...พี่ชอบน้องมากครับ”
“ไอ้เมฆแกพูดยาวๆกว่าครั้งที่แล้วหน่อยสิว่ะ...น้องอย่าไปถือสาอะไรมันเลยนะครับ มันอารมณ์ไม่คอยจะดี...ขอเชิญน้องมาร่วมนั่งดริ๊ง และนั่งร่วมสนุกสนานกับเราด้วยนะครับ”
“แต่เพื่อนของพี่ ไม่คอยอยากจะสนุกสนานสักเท่าไรเลยนะค่ะ อย่างไรหนูขอตัวก่อนนะค่ะ”
“เดี๋ยวๆ จ๊ะ เดี๋ยว ไอ้เพื่อนพี่คนนี่มันก็มีนิสัยอย่างนี่เองล่ะครับ มันชอบให้คนเอาอกเอาใจมัน หนูก็พูดจาอ่อนๆหวานๆ กับมันหรือชวนมันพูดคุยเล่นๆสนุกๆไปชักพัก เดี๋ยวมันก็จะกลายเป็นลูกแมวเชื่องๆเองล่ะจ๊ะ หนูจ้า”
“จริงหรือค่ะพี่”
“จริงครับ...น้องหนูคนสวย”
.....................................................
พิมพ์ดารา หรือ โรส เจ้าหน้าที่ FBI สาวสวยจ้องมองชายหนุ่มผู้มีราคาค่าตัวเป็นจำนวนเงินถึงหนึ่งล้านบาท เธอเริ่มจะสงสัยเสียแล้วล่ะว่า เหตุใดน้องสาวของชายหนุ่มจึงต้องการจะให้พี่ชายเป็นคนเลวหรือคนไม่ดีในสายตาเธอและบิดามารดา เพราะเท่าที่โรสเจ้าหน้าที่ FBI สังเกตลักษณะชายหนุ่มเบื้องหน้าสารวัตรเมฆาก็ไม่ได้มีอะไรดีเกินหรือมากไปกว่าผู้ชายคนอื่นๆที่เธอเคยเจอะเจอหรือรู้จักมาก่อนเลยสักนิดเดียว สงสัยว่าน้องสาวของชายหนุ่มคงจะเสียเงินค่าจ้างให้กับเธอไปเปล่าๆปลี้ๆเสียแล้วล่ะ...แต่เมื่อเธอรับเงินค่าจ้างมาแล้วก็คงต้องทำงานให้สำเร็จอย่างที่ได้สัญญาไว้กับหญิงสาว...
มันคือข้ออ้างที่มีบางอย่างแอบแฝงอยู่ของพิมพ์ดาราหรือโรส เธอมีจุดประสงค์บางอย่างแอบแฝงอยู่ที่ไม่ใช่คำมั่นสัญญาจากน้องสาวของสารวัตรเมฆาที่ต้องการให้พี่ชายเป็นคนเลวหรือคนไม่ดี การเข้ามาเพื่อตีสนิทกับสารวัตรเมฆาโดยใช่เหตุผลจากข้ออ้างง่ายๆ อย่างเช่นเหตุผลจากคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับน้องสาวสารวัตรในยามนี้มันจึงถือเป็นเหตุผลที่ดีที่สุดเพราะ มันสามารถที่จะกลบเกลื่อนจุดประสงค์หลักที่เธอแอบแฝงมากับจุดประสงค์ของคำมั่นสัญญาโง่ๆนั่นได้ การสร้างหลุมพรางและหลุมลวง ของเธอจึงเริ่มต้นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นแล้ว ณ เวลานี้...
......................................................................
จบบทที่ 1 ต่อบทที่ 2 ภาพรัก ลวงตา หลุมพราง ลวงใจ
สำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา[1] หรือ เอฟบีไอ (อังกฤษ: Federal Bureau of Investigation; FBI) เป็นส่วนราชการประเภทกองแห่งสหรัฐอเมริกา มีขอบเขตในการทำงานในแต่ละสมัยแตกต่างกันและไม่ตายตัวไปตามสถานการณ์ขณะนั้น เช่น สมัยสงครามโลกเน้นคดีจารกรรม ยุคถัดมาเน้นคดีอันธพาลครองเมือง ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เน้นคดีเกี่ยวกับลัทธิคอมมิวนิสต์และฟาสซิสต์ ต่อมาเน้นคดีอาชญากรรมด้านการเงิน และปัจจุบันเน้นอาชญากรรมระหว่างประเทศ การก่อการร้าย คดียาเสพติดและการฟอกเงิน
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ