สาวกับสาว

7.6

เขียนโดย วนิดา

วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554 เวลา 14.57 น.

  10 ตอน
  12 วิจารณ์
  22.56K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) ความจริงที่ไม่ใครรู้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ร่างอลินถูกเข็นเข้าโรงพยาบาลเป็นการด่วน

จ๋าได้แต่นั่งรออยู่ภายนอกด้วยความเป็นห่วง

หลังจากที่จ๋าเข้าไปทำประวัติอลินแล้ว พยาบาลก็สอบถามอาการของอลินเป็นการใหญ่

 

"ไม่ทราบว่าคนไข้มีอาการอย่างไรบ้างคะก่อนที่จะมาถึงที่นี่"

"อ๋อค่ะเธอมีไข้สูง อาเจียนและปวดศีรษะค่ะ

"โอเคค่ะ ขอบคุณมากค่ะที่ให้ความร่วมมือนะคะ"

 

ร่างอลินถูกสั่งให้ admit เป็นการด่วนและถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน

คุณหมอห้องฉุกเฉินคนนึงมาดูอาการและแสดงสีหน้าวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด

"มีอะไรหรอคะคุณหมอ จ๋าถามด้วยความกังวล"

"ผมว่าคนไข้มีอาการที่หนักกว่าคนทั่วไป เห็นทีผมจะต้องสั่งเจาะเลือดว่าเป็นไข้เลือดออกหรือเปล่าน่ะครับ"

"ได้ค่ะ"

 

ร่างของอลินถูกย้ายเข้าสู่ห้องพิเศษที่มีความสะดวกสบายขึ้นกว่าเดิม โดยที่จ๋าเป็นคนจ่ายกำลังทรัพย์ทั้งหมดเพื่ออลินแล้วจ๋ายอมทำทุกอย่าง

ร่างของอลินดิ้นด้วยความเจ็บปวดตอนที่เธอโดนเจาะเลือด แขนของอลินตบกับเบาะโรงพยาบาลด้วยสีหน้าเจ็บปวด จนทำให้จ๋าเกือบจะทนไม่ไหวที่เห็นเพื่อนของเธอต้องเจ็บถึงเพียงนี้

ร่างของอลินในชุดคนไข้มีสายระโยงระยางเต็มไปหมดทั้ง สายน้ำเกลือ และ สายให้อาหาร เพราะว่าคนไข้ไม่สามารถทานอาหารที่หนักได้ เธออาจจะอาเจียนออกจนหมด

 

ผลการตรวจเลือด ไม่พบว่าอลินเป็นไข้เลือดออกแต่อย่างไร คุณหมอแปลกใจเล็กน้อย

คุณหมอจึงสั่งให้เจาะเลือดของอลินไปตรวจอีกครั้งนึงเพื่อความแน่ใจ

จ๋ากลับหอไปขนเอาสัมภาระมากมาย เพื่อมาอยู่เฝ้าไข้อลิน

อลินนอนอยู่ที่ชั้นสอง ตึกใหญ่ในโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง จ๋าเป็นผู้ออกค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด

หลังจากที่อลินนอนหลับไปสองวันอาการของเธอก็ยังไม่ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย

อลินนอนซึมอยู่บนเตียงโดยที่ยังไม่ฟื้นเลย

พยาบาลต้องคอยเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้า และพลิกตัวให้อย่างสม่ำเสมอ

 

ตอนเช้า จ๋าลงไปทานข้าวที่ชั้นล่างที่ห้องอาหารของโรงพยาบาลแห่งนี้

ในจานเป็นข้าวผัดกุ้งที่ดูน่ากิน แต่เธอกับรู้สึกว่ามันไม่อร่อยเลยแม้แต่นิดเดียว

 

ทันใดนั้น

กริ๊งๆ กริ๊งๆ กริ๊งๆ

จ๋าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู

"มีอะไรหรอคะ นั่นใครพูดคะ"  จ๋าพูด

"อ๋อครับ นี่ผมเป็นคุณหมอประจำตัวของคุณอลินนะครับ คือว่าผมมีเรื่องจะบอกคุณครับ เกี่ยวกับอาการของคุณอลินที่แปลกประหลาดครับ"

อ๋อค่ะ เดี๋ยวจะรีบขึ้นไปเลยนะคะ

จ๋าวิ่งกระหืดกระหอบไปที่ชั้นสองที่ห้องพักแพทย์ ของแพทย์ที่รักษาอลินด้วยของที่พะรุงพะรังเต็มไปหมด เธอค่อยๆวางกระเป๋าของเธอบนโต๊ะคุณหมอ มือถือเธอร่วงกระจายลงกับพื้น

"มีอะไรหรอคะ ยัยลินเป็นอะไรหรอคะ"

"อย่าเพิ่งตกใจไปนะครับ คือว่ามีบางอย่างเกี่ยวกับตัวคุณอลินที่ผมอยากจะบอก"

"คือว่าคุณอลินเป็นไข้หวัดใหญ่ครับ แต่ว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ที่หนักกว่าคนอื่น"

"เพราะว่าอะไรหรอคะ" จ๋าทำสีหน้าตกใจ เธอหยิบยาดมขึ้นมาดมในทันทีที่ได้ยินคุณหมอพูด

"เพราะว่า คณอลินเป็นโรคอย่างนึงที่ร้ายแรงครับ แต่อย่าเพิ่งตกใจนะครับ ทำใจเย็นๆก่อน"

"ค่ะ ฉันกำลังรอฟังค่ะ"

"คุณอลินเป็นโรคเอ่อ เป็นโรคที่น่ากลัวโรคนึงครับ"

"โรคอะไรหล่ะคะ"

"โรค โรค เอ่อ โรค ฟังชัดๆนะครับ

"โรคเอ่อ โรค"

"อะไรหล่ะคะ"

"โรคภูมิคุ้มกันบกพร่องครับ" ชัดเจนไหมครับ

"ตายแล้วยัยจ๋า ทำไมเธอถึงโชคร้ายแบบนี้นะ เป็นโรคอะไรไม่เป็น" จ๋าอึ้งไปสักครู่แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลยว่าเพื่อนรักของเธอจะเป็นโรคนี้

ร่างจ๋าทรุดฮวบลงไปนอนกับพื้น

"ใจเย็นๆก่อนสิครับถึงแม้ว่าจะเป็นโรคที่ไม่หายขาด แต่ว่าปัจจุบันมียาต้านไวรัสที่จะช่วยให้คุณอลินดีขึ้นได้ครับ หากว่า เธอไม่"

"เธอไม่เป็นโรคแทรกซ้อนต่างๆ ที่จะทำให้อาการของเธอหนักขึ้นได้"

"เช่นโรค ปอดอักเสบ โรควัณโรค ที่ร้ายแรงติดได้แม้แต่ทางลมหายใจ ซึ่งเป็นโรคที่อันตรายได้ หรือว่าโรคมะเร็งปอด เพราะว่าเชื้อโรคจะไปกินปอด จนในที่สุดปอดจะหยุดทำงาน จนทำให้เธอเสียชีวิตได้"

แต่ทว่ายัยจ๋าทรุดลงไปกับพื้นแล้วโดยที่คุณหมอไม่ทันสังเกต

"พยาบาลๆ พยาบาลอยู่ที่ไหน มาช่วยพาคุณคนนี้ไปนอนบนเตียงทีซิ"

เหล่าพยาบาลช่วยกันอุ้มยัยจ๋าขึ้นไปนอนบนเตียงและเข็นเข้าห้องไป

 

ยัยจ๋าถูกadmit ไปอยู่ยังเตียงข้างๆกับอลิน จ๋านอนอยู่ห้องพิเศษห้องเดียวกับอลินเนื่องจากห้องมีขนาดใหญ่และคุณหมอต้องการให้จ๋าคอยปลอบใจอลินด้วยอีกทาง

"คุณหมอได้สั่งยาต้านไวรัสให้อลิน และขอให้ทุกคุณปิดเรื่องที่อลินเป็นโรคอะไรไว้เป็นความลับ"

"ได้ค่ะ" พยาบาลทุกคนบอก

 

จ๋าลืมตาขึ้นมา แววตากังวลคิดทบทวนเรื่องที่คุณหมอบอก เธอกรี๊ดเสียงดัง รู้สึกช๊อคไปทันใด

"นี่เพื่อนเราเป็นโรคต้องห้ามหรอนี่ ไม่ ๆ" จ๋าทำสีหน้าหวาดกลัวสุดๆ เธอตกใจจนช๊อคไป

จ๋าเหลือบตามองดูอลินซึ่งนอนอยู่เตียงข้างๆแล้วแอบน้ำตาซึม

"ไม่นะ อลิน เธอต้องไม่เป็นแบบนั้น ไม่ๆ " พยาบาลได้แต่คอยปลอบใจอยู่ข้างๆและค่อยๆให้จ๋ายอมรับความจริงให้ได้ว่าเพื่อนของเธอเป็นโรคนี้

 

อดีต

"โอ๊ยอย่าทำฉันนะ"  ยัยพาแม่ของอลินวิ่งหนีผู้ชายแปลกหน้าสี่คนที่วิ่งตามพามาหลังจากที่เธอกลับจากการไปเด็ดผักบุ้งที่หลังสวน

มีผู้ชายสี่คนหลบอยู่ใต้ต้นไม้ และหวังจะปลกปล้ำหญิงที่เดินมายังที่เปลี่ยวเพื่อตอบสนองราคะของตน

"โอ๊ยอย่าทำฉัน" ชายสองคนจับมือของยัยพาไพล่หลังและมัดแขนมัดขาจนแน่น

แล้วชายคนแรกก็เริ่มปลุกปล้ำ และ ขืนใจ พาขวัญอย่างหนำอกหนำใจ เลือดของพาขวัญไหลออกมาเป็นทางยาว

และก็ตามอีกทีละคน จนครบสี่คน ช่องคลอดของเธอบวมเปิ่งและช้ำ

และผู้ร้ายทั้งสี่คนก็วิ่งหนีไป

ทิ้งให้พาขวัญเดินขึ้นบ้านพร้อมเสื้อผ้าที่ขาดวิ่น

การกระทำครั้งนี้ของพวกผุ้ชายเหล่านั้นได้ทิ้งรอยปวดร้าวให้ยัยพาได้จดจำไปจนวันตาย

 

ห้าเดือนผ่านไป  ท้องของยัยพาโตขึ้นทุกๆทีๆ

ตาเชิดสามีของยัยพาดีอกดีใจมากที่ยัยพาจะผลิตลูกคนแรกให้กับเขา

"ฉันจะพาเธอไปตรวจที่อนามัยนะว่าลูกของเราแข็งแรงดีหรือเปล่า"

"ดีจริงๆเลยแม่พาที่เราจะมีลูกแล้ว เธอรู้ไหมว่าฉันน่ะเฝ้ารอเวลานี้มานานเหลือทนแล้ว หลังจากที่เราแต่งงานกันมาสี่ปีแล้วไม่เคยมีลูกสักทีเลย"

"ฉันดีใจที่สุดเลยพา เธอนี่น่ารักจริง" พูดพลางไปหอมแก้มพาขวัญ

แต่พาขวัญกลับรู้สึกสะอิดสะเอี้ยนท้องของเธอเต็มที เพราะว่าเธอรู้อยู่เต็มอกเกี่ยวกับความจริงเรื่องลูกของเธอ

ตาเชิดดีใจสุดๆ จริงๆแล้วตาเชิดเป็นหมันไม่สามารถมีลูกได้โดยที่เจ้าตัวไม่เคยรู้มาก่อน

ตาเชิดคอยนับวันที่ลูกของเขาจะคลอดออกมาด้วยความดีใจ

 

สี่เดือนผ่านไป

"โอ๊ย ฉันไม่ไหวแล้ว" ยัยพาร้องโอดครวญ หลังจากที่น้ำเดิน 

และปากช่องคลอดค่อยๆเปิดออก

ในระหว่างที่ตาเชิดพาพาขวัญนั่งตุ๊กๆเพื่อพาไปคลอดที่อนามัย

"โอ๊ย ฉันไม่ไหวแล้ว"

"ใจเย็นๆนะ แม่พา อีกนิดเดียว ก็จะถึงอนามัยแล้ว ทนหน่อยนะแม่"

น้ำคล่ำแตกออกเป็นทางยาว

ร่างของยัยพาถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็วโดยที่

ตาเชิดเฝ้าคอยอยู่นอกห้องฉุกเฉินด้วยความลุ้นและรู้สึกตื่นเต้น

 

ที่อนามัย

พยาบาลมามุงดูการทำคลอดของยัยพา

ช่องคลอดของยัยพาถูกกรีดออกอย่างช้าๆจนเป็นแผลใหญ่

พยาบาลช่วยกันดึงหัวของเด็กออกมา

หัวเด็กค่อยโผล่ออกมาท่ามกลางความดีใจของทุกๆคนที่คอยลุ้นอยู่

"ออกมาแล้วค่ะ เป็นเด็กผู้หญิง แข็งแรงดี ครบ 32 ค่ะ"

เด็กคลอดออกมาอย่างแข็งแรงทุกอย่างและเป็นลูกผู้หญิง

ตาเชิดกับยัยพารู้สึกดีใจอย่างเป็นที่สุด

ตาเชิดอุ้มเด็กอุ้มชูขึ้นอยู่หลายรอบ ด้วยความเห่อที่จะมีลูกแล้ว

"ฮุ้ยเล่ฮุ่ย ลูกพ่อ พ่อดีใจที่สุดเลยที่ได้เจ้ามา"

แต่แล้วก็มีเรื่องเศร้าเมื่อคุณหมอมากระซิบยัยพาว่า หลังจากการตรวจเลือดเด็กคนนี้เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องแต่กำเนิด

ยัยพาได้แต่เก็บความขมขื่นไว้ในใจโดยทีไม่กล้าบอกใคร

ตาเชิดกับยัยพาเลี้ยงดูเด็กคนนี้เป็นอย่างดีจนเติบใหญ่

ตาเชิดกับยัยพาเฝ้าดูแล ป้อนข้าว ป้อนน้ำ อาบน้ำ แต่งตัวไปโรงเรียน จนเติบใหญ่ 

 

7 ปีผ่านไป

อลินเด็กหญิงเติบโตขึ้นทุกๆวัน เด็กหญิงเป็นเด็กน่ารัก ร่าเริงแจ่มใส

และมีมุขตลกทำให้ทุกๆคนขำเสมอ และช่วยพ่อกับแม่ทำงานทุกอย่าง เป็นเด็กที่กตัญญู

วันนี้ขณะที่เธอกำลังจะไปเก็บผักบุ้งกับแม่เธอสะดุดก้อนหินหกขะล้ม ทำให้เป็นแผลที่หัวเข่า เลือดไหลซิบๆ

"อลิน จำได้ไหมว่าถ้าลูกหกล้มจนมีเลือดออกต้องทำอย่างไรจ๊ะ"

"จำได้จ้าแม่ ว่าหนูจะหกล้มเลือดออกบาดเจ็บแค่ไหน แต่ห้ามไม่ให้มีใครเห็นเลือดของหนูเด็ดขาด หนูต้องทำแผลด้วยตัวเองจ้า"

เด็กหญิง หยิบแอลกฮอล์และยาแดงมาป้ายที่แผลก่อนที่จะหยิบปาสเตอร์ในกระเป๋ามาปิดแผลอย่างรวดเร็ว

"ดีมากลูก"

"โอ๊ย เจ็บจัง โอ๊ย"

"ทำไมหล่ะจ๊ะ แม่ ทำไมหนูต้องทำแผลด้วยตัวเองหล่ะจ๊ะ ทำไมคนอื่นถึงทำให้ไม่ได้หล่ะจ๊ะ"

 

"เพราะว่าถ้าให้คนอื่นทำแผลให้ก็จะผิดกฎสวรรค์ซิจ๊ะ นรกจะกินหัวนะลูก"

"จ้าแม่"

อลินยังเด็กนักเธอเข้าใจคำพูดที่แม่พูดมาโดยตลอดว่าเป็นความจริง

 

5ปีผ่านไป

อลินเป็นเด็กเรียนเก่งเมื่อเทียบกับเด็กรุ่นเดียวกันในแถบบ้านนอกหลังจากที่เธอสอบติดมัธยมที่กรุงเทพที่โรงเรียนที่มีชื่อเสียงแล้ว

อลินก็จากพ่อกับแม่มาอยู่ในเมืองกรุง ต้องใช้ชีวิตตามลำพัง

"แม่หนูไปก่อนนะ แล้วหนูจะส่งเงินมาให้นะแม่"

"ไปดีๆนะลูกเมืองกรุงมันอันตรายนัก"

"จ้า พ่อหนูไปนะ"

"อืมคุณพระคุณเจ้าคุ้มครองเอ็งนะลูก แล้วเอาใบปริญญามาฝากพ่อด้วยนะ"

"จ้า"

พอมาอยู่ที่โรงเรียนการเรียนของเธอย่ำแย่มากเพราะว่าคนอื่นๆมีแต่ไปเรียนพิเศษทั้งนั้น

จนเธอมาสนิทกับจ๋า ซึ่งเป็นเพื่อนรักของเธอ และตัดสินใจมาอยู่คอนโดด้วยกัน

เพราะว่าที่บ้านเธอยากจนเธอจึงไม่มีเงินที่จะส่งเสียให้พ่อกับแม่ของเธอ

เพราะว่าพ่อแม่ของเธอทำงานรับจ้างไปวันๆไม่อาชีพและรายได้ที่แน่นอน ซึ่งต่างจากเด็กคนอื่นเธอจึงได้แต่อิจฉาเด็กคนอื่นๆไปวันๆ

ในที่สุดเธอกับจ๋าจึงตัดสินใจที่จะไปทำงานอย่างว่าที่ผับเพื่อที่จะส่งเสียเงินไปทางบ้าน

 โดยที่ที่ผ่านมาเธอไม่เคยรู้เลยว่าเธอเป็นโรคต้องห้าม

และเธอกำลังเหมือนยัยตัวร้ายที่คอยแพร่เชื้อเอดส์ให้กับลูกค้าทุกคนที่นอนกับเธอทุกครั้งไป

หญิงสาวนอนหลับอยู่บนเตียงโดยทีไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่าชีวิตของเธอกำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว

อลินผู้น่าสงสาร

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา