แผนลับ กับ คนอัจฉริยะ ( The secret plan )
16) เริ่มการปล้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความระหว่างที่ป๊อปกำลังมุ่งตรงมายัง DL-Tower ดิ๊นเองก็ต้องเร่งดำเนินการ เวลาบีบให้เขาทั้งสาม ต้องปล้นมาให้ได้ภายในเวลาอันน้อยนิด แต่พวกเขาแทบจะไม่รู้อะไรในนั้นเลย พวกเขาจะเข้าไปอย่างไร พวกเขาจะต้องเจออะไรบ้างข้างในนั้น พวกเขาจะออกมาได้ไหม หลังจากออกมาจะเกิดอะไรขึ้น ลูกชายเขาจะปลอดภัยหรือไม่ ดิ๊นคิดเกือบทุกๆเรื่องในเวลาเดียวกัน ดิ๊นโทรหาเจมส์อีกครั้ง ซึ่งในขณะนั้นเจมส์เองก็กำลังคิดแผนอยู่กับสมิท แต่เป็นแผนการหลังจากที่พวกเขาปล้นมาได้แล้ว พวกเขาจะตัดดิ๊นออกไปได้อย่างไร นั่นคือสิ่งที่เจมส์และสมิทคิด ทั้งที่พวกเขาจะทำงานร่วมกัน แต่พวกเขากลับไม่ได้คิดเรื่องเดียวกันเลย ดิ๊นรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากพวกเขาปล้นมาได้ เจมส์และสมิทต้องหักหลังเขาเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน แต่กระนั่นเรื่องนั้นเป็นเรื่องเล็กไปเลยเมื่อเทียบกับ การจะเข้าไป และออกมาอย่างไร
ดิ๊นสั่งให้เจมส์ไปหาของบางอย่างที่เขาไม่มี ดิ๊นวางโทรศัพท์และบอกสถานที่ที่เจมส์จะต้องไปเอาของผ่านทางเมสเสจ เจมส์ต้องไปหาทุกอย่างที่จำเป็นต้องใช้จากที่นั่น ที่นั่นเป็นร้านของเพื่อนดิ๊นเอง เขามีทุกอย่างที่ไม่ค่อยจะถูกกฏหมายสักเท่าไหร่ และเป็นทุกอย่างที่ดิ๊นและพวกไม่มีในตอนนี้ ผ่านไป เกือบ20 นาที ดิ๊นและพวกได้ทุกอย่างที่ต้องการ ตอนนี้พวกเขายืนอยู่ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินของ DL-Tower แล้ว “พวกนายได้ยินเสียงนั่นไหม” ดิ๊นตกใจกับเสียงที่เขาได้ยิน ดิ๊นได้ยินเสียงไซเลนส์ อย่างแผ่วเบา ตำรวจอาจใกล้เข้ามาแล้ว “ไม่เห็นได้ยินเสียงอะไรเลย” เจมส์พูดขึ้น เพราะเขาไม่ได้ยินเสียงรถตำรวจเลยแม้แต่น้อย สมิทพยักหน้าสนับสนุนสิ่งที่เจมส์พูด เสียงมันหายไปแล้ว ดิ๊นเองก็เริ่มรู้ดี หูเขาไม่ได้เพี๊ยนแน่ๆ เพียงแต่ทำไมเสียงมันหายไป อาจเป็นเพราะรถตำรวจตามจับรถขับฝ่าไฟแดงก็ได้ หรือไม่พวกตำรวจอาจจะไม่ต้องการให้พวกเขาได้ยินเสียงเลยปิดเสียงไซเลนส์ ดิ๊นคิดทั้งในแง่ดีและแง่ร้าย พวกเขารีบเดินไปที่บันไดทางหนีไฟ นั่นเป็นทางเดียวที่พวกเขาจะขึ้นไปได้โดยไม่ต้องผ่านผู้คนมากมาย พวกเขาเดินขึ้นไปจนกระทั่งถึงชั้น 29 ดิ๊นเดาเอาว่า ของสำคัญน่าจะอยู่ในชั้นที่ 29 เพราะชั้น 28 กับ ชั้น 30 เสี่ยงเกินไปที่จะเก็บของสำคัญขนาดนั้นไว้ พวกเขายืนอยู่หน้าประตูทางหนีไฟบนชั้น 29 พวกเขา นับ หนึ่ง สอง สาม ทันใดนั้นเองพวกเขาก็ผลักประตูเพื่อเข้าไปภายในของชั้น 29 แต่แล้ว ประตูนั่นไม่สามารถเปิดได้ มันต้องเปิดจากด้านในเท่านั้น และมันไม่มีลูกบิดหรือกุญแจห้อยอยู่ ทำให้เจมส์เองก็ไม่สามารถเปิดมันได้ พวกเขาเริ่มทรุดตัวลงนั่ง เขาเริ่มเครียดกับสถานการณ์ที่กดดันสุดๆขนาดนี้ สมิทเริ่มเสนอความเห็นให้เข้าทางประตู ลิฟท์ สมิทเห็นในตอนก่อนเดินขึ้นมาว่ามีลิฟท์หนึ่งตัวที่ค้างอยู่ที่ชั้น 29 พอดี ดิ๊นหันหน้าขึ้นเพื่อมองสมิท ดิ๊นยิ้มแย้มให้เห็นฟันขาวเป็นประกาย สมิทยิ้มตามทันที “นายเปิดประตูลิฟท์เมื่อไหร่มันก็ยิงนายทันที” บรรยากาศเริ่มกลับมาเครียดอีกครั้ง ดิ๊นมองนาฬิกาอีกครั้ง ตอนนี้ตำรวจคงมาถึงแล้วแหละ ดิ๊นสั่งให้สมิทไปทำบางอย่าง สมิทเดินลงไปยังชั้นใดสักชั้นหนึ่ง เขาเข้าไปด้านในตัวอาคารที่นั่นมีผู้คนมากมายเต็มไปหมด มันเป็นสำนักงานของบริษัทแห่งหนึ่งนั่นเอง สมิทเดินไปหยิบกระป๋องเหล็กขนาดใหญ่ใบหนึ่ง จากนั้นเข้าก็เดินเข้าห้องน้ำไป ไม่นานสมิทก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เขาเดินกลับขึ้นไปยังชั้น 29 ทางบันไดหนีไฟอีกครั้ง สมิทยังเดินไปไม่ถึงชั้น 29 เลย เสียงสัญญาณไฟไหม้ดังขึ้น สมิทเผาบางสิ่งบางอย่างในกระป๋องนั้นเพื่อให้มีควันขึ้น สัญญาณเตือนไฟไหม้จึงดังขึ้น ดิ๊นต้องการให้ผู้คนลงไปจากอาคารนี้ให้หมดเพื่อให้ตำรวจสับสน และหาพวกเขาไม่เจอ
ทันทีที่สัญญาณดังขึ้น เจมส์และดิ๊นยิ้มเหมือนกับว่าพวกเขาทำสำเร็จแล้วกระนั่นแหละ ดิ๊นมองนาฬิกาอีกครั้ง “อีก 3 นาที จะ ได้เวลาเริ่มงาน” ดิ๊นพูดขึ้นอย่างมั่นใจ สมิทขึ้นมาถึง ชั้น 29 แล้วดิ๊นเริ่มบอกแผนการที่พวกเขาจะทำ มันจะใช้เวลาได้ไม่เกิน 15 นาทีเท่านั้นในการปล้น เมื่อดิ๊นบอกแผนจบทุกคนก็ไปอยู่กันยังจุดต่างๆ ดิ๊นให้อุปกรณ์บางอยากกับทั้งสมิท และเจมส์ ทันใดนั้นเอง เสียงรถดับเพลิงมาถึงแล้ว ผู้คนเกือบทั้งอาคารวิ่งลงจากอาคารกันจ้าละหวั่น มีเพียงนักผจญเพลิงเท่านั้นที่คิดต่างกับคนข้างในตึกนี้ พวกเขาวิ่งเข้ามาโดยไม่สนใจเสียงสัญญาณไฟไหม้กันเลย แต่ทั้งๆที่คนทุกชั้นต่างวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น แต่คนในชั้น 28 29 30 กลับไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ พวกเขาไม่กลัวไฟกันเลยหรืออย่างไร ดิ๊นมองนาฬิกาอีกครั้ง เวลาเหลือน้อยลงทุกทีแล้ว ถ้าเขาทำไม่สำเร็จในเวลา 15 นาทีที่เขากำหนด เขาก็อาจจะไม่ได้มีชีวิตไปเห็นหน้าลูกก็เป็นได้ ไม่ถึงหนึ่งนาทีหลังจากนั้น เริ่มมีการเคลื่นเกิดขึ้น ใน ชั้น 28 29 30 แล้ว มีคนเปิดประตูออกมายังบันไดทางหนีไฟที่ชั้น 29 คนพวกนั้นคงต้องการจะลงไปตรวจสอบว่าข้างล่างเกิดไฟไหม้แน่หรือป่าว แต่ทันทีที่ชายคนนั้นเปิดประตูออกมา สิ่งแรกที่ชายคนนั้นเห็นก็คือปลายกระบอกปืนที่ตรงมายังศรีษะของเขา เจมส์จ่อปืนไปยังศรีษะของชายคนนั้น เจมส์สั่งให้ชายคนนั้นเดินเข้าไปภายในชั้นที่ 29 ชายคนนั้นเดินกลับเข้าไปด้านใน เจมส์เดินตามเขาเข้าไป ระว่างที่เจมส์เดินเข้าไปนั้น เข้าก็ทำของบางอย่างตกลงที่หน้าปากประตู เหมือนว่าเจมส์จะตั้งใจให้มันหล่นลงไปจากตัวเขา ประตูบานนั้นค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆ ภายในนั้นมีชายฉกรรย์ กว่า 10 คน ทุกคนใส่ชุดเหมือนกันหมด เจมส์แยกไม่ออกว่าใครคือคนที่สำคัญที่สุดในนั้น ปลายกระบอกปืนยังอยู่ที่หัวของชายคนนั้น ทันใดนั้นเอง เสียงปืนดังขึ้น ปั๊ง ๆ ๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ