แผนลับ กับ คนอัจฉริยะ ( The secret plan )

              เจมส์  สมิท และดิ๊นเดินขึ้นไปจนกระทั่งถึงชั้นที่  29 ของโรงแรม  เดินขึ้นบันไดหนีไฟเพื่อหลีกเลี่ยงจากผู้คน  ใช้เวลาเดินกว่า 10  นาที   พวกเขานั่งพักเหนื่อยครู่หนึ่ง  พวกเขาทั้ง 3 พากันไปยืนที่จุดๆหนึ่งบนชั้นที่ 29 ของโรงแรม  ดิ๊นชี้ไปยังตึกๆหนึ่งที่อยู่ห่างกันไม่มากนัก   เขาหยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นมาหนึ่งอัน  ดิ๊นมองตรงไปยังตึกนั้น  ตึกที่สูง 30 ชั้น  ทั้งชั้นที่ 28  29  และ 30 ของตึกนั้นไม่สามารถมองเข้าไปได้เลย   มันถูกปิดด้วยม่านบังแดดเพื่อไม่ต้องการให้ใครเห็นสภาพด้านใน  มันแตกต่างจาก 27 ชั้นแรกของตึก  ซึ่งถูกทำเป็นสำนักงานบังหน้าไว้  3  ชั้นบนสุดถูกทำให้เป็นสถานที่ลับ   กระจกหนาที่ไม่มีทางทำให้แตก  “ตึกนี้มีชื่อว่า DL-Tower  ลิฟท์เป็นทางเดียวที่พวกมันใช้ขึ้นลง   พวกมันมีลิฟท์เฉพาะที่จะวิ่งแค่ ฉันที่ 1  28 29  และ 30 เท่านั้น   ไม่มีใครที่จะขึ้นไปชั้น 28  29 และ30 ได้นอกจากดวงตา  และนิ้วมือของเขาจะยืนยันการเป็นสมาชิกของเขา”  ดิ๊นพูด
             “ DAFEL ดาเฟว  ที่นายว่ามันอยู่ที่นั่นงั้นหรอดิ๊น” เจมส์ถามดิ๊นอย่างสงสัย“ ใช่  มันอยู่ในชั้นที่ 29”  ดิ๊นตอบเจมส์   สมิทหยิบกล้องส่องทางไกลจากมือดิ๊น  เขามองไปยัง ชั้น 29 ของตึกนั้น   “ เราจะรู้ได้ไงว่ามันอยู่ส่วนไหนของตึกนั่น  เราไม่เห็นอะไรเลย  ในนั้นมีกี่คน  กล้องวงจรปิดกี่ตัว  ทุกๆอย่างที่ต้องรู้ แต่พวกเราไม่รู้เลย” สมิทหนักใจกับสิ่งที่เขาเห็น  “ถ้าเราไม่รู้อะไรข้างในนั่น  เราก็เหมือนกับกำลังจะเดินเข้าเขาวงกรต” เจมส์พูดขึ้น   “ซุนวูพูดไว้ว่า รู้เขารู้เรา  รบร้อยครั้ง  ชนะร้อยครั้ง”  ดิ๊นพูดกับทั้งเจมส์และสมิทเพื่อบอกว่าเขาจะไม่เข้าไปในนั้นเด็ดขาดถ้าเกิดเขาไม่รู้ว่าข้างในนั้นมีอะไร
                สมิทถามดิ๊นว่า นายรู้อะไรเกี่ยวกับตึกนั่นบ้าง   แต่ดิ๊นรู้เพียงแค่ โครงสร้างเดิมของอาคาร   แต่ 3 ชั้นบนสุดถูกทำขึ้นมาใหม่  พวกเขาจ้างวิศวกรฝีมือดีมาทำ  เพื่อไม่ให้ใครรู้โครงสร้างภายในนั้น  “ ตอนนี้พวกเขาอยู่ไหน” สมิทต้องการรู้ว่าวิศวกรเหล่านั้นยังคงมีชีวิตอยู่หรือไม่  ถ้าวิศวกรเหล่านั้นยังอยู่   พวกเขาจะมีโอกาสได้ขอ้มูลโครงสร้าง ของ  3 ชั้นบนสุดของตึกนั่น  “ อาจปีนต้นงิ้วอยู่  หรืออาจจะโดนหนอนชัยตามรูก้นก็เป็นได้” ดิ๊นหมายความว่าพวกเขาถูกฆ่าตายหมดแล้ว  ดิ๊น  เจมส์  และสมิทต้องหาข้อมูลด้วยตัวพวกเขาเอง
              “รู้แค่ว่าพวกมันแทบจะไม่ลงมาจากที่นั่นกันเลยถ้าไม่มีธุระอะไรสำคัญ” ดิ๊นให้ข้อมูลเพิ่มเติม   ดิ๊นมองไปที่นั่นอีกครั้ง  มองตั้งแต่ชั้นบนสุดของตึกลงไปจนถึงชั้นล่างสุดของตึกนั่น  มองไปรอบๆอาคาร   ดิ๊นทบทวนแผนการที่เขาได้ท่องจำมา   ดิ๊นนิ่งไปชั่วครู่   ไม่นานเขาก็พูดขึ้นว่า  “ในนั้นคงมืดน่าดูถ้าพวกเขาปิดม่านทั้งหมด  และพวกเขาคงร้อนน่าดูเลยถ้าพวกเขาไม่เปิดหน้าต่าง” ดิ๊นพูดเป็นปริศนา  ทำให้เจมส์และสมิทไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาจะสื่อ   “ แกคิดว่าพวกนั้นไม่มีไฟฟ้าใช้หรือไงวะ  และพวกมันก็คงมีแอร์มากพอที่พวกมันจะนั่งและนอนได้อย่างเย็นสบายไม่เหมือนพวกเราหรอก” เจมส์สวนกลับในสิ่งที่ดิ๊นพูดทันที   “ ตอนนี้พวกเขามีไฟฟ้า  แต่นายจะทำให้พวกเขาไม่มีไฟฟ้าใช้  จริงไหมเจมส์” ดิ๊นคิดแผนการบางอย่างออก
“ นายหมายความว่าไงดิ๊น  แกคิดว่าฉันเป็นเจ้าของโรงงานไฟฟ้าหรือไง”  เจมส์พูดประชดดิ๊น  แต่เขาเองก็รู้ว่าเขาต้องทำอย่างไร  แต่เจมส์ไม่กล้าเสี่ยงที่จะทำงานนี้  การอยู่บนท้องถนนจะทำให้เจมส์ต้องเสี่ยงกับตำรวจ  “ เรามีเวลาไม่ถึงเจ็ดวัน  ถ้าเราไม่รู้อะไรในนั้น  เราก็เข้าไปตายชัดๆ”ดิ๊นบอกให้กับเจมส์และสมิทได้รู้ว่าเวลาเหลืออีก 7 วันเท่า นั้น  แต่ดิ๊นไม่ได้บอกว่าถ้าเกิน 7 วัน  ลูกชายของเขาจะต้องตาย   เจมส์ไม่มีทาเลือก  เขาต้องยอมทำตามที่ดิ๊นสั่ง   เจมส์เดินลงไปชั้นล่างสุดเพื่อทำบางอย่างเพื่อให้ตึกนั้น  ไม่มีไฟฟ้าใช้   ดิ๊นสั่งให้สมิทไปยังอีกตึกอีกแห่งเพื่อสังเกตการตึก DL-Tower  จากมุมอื่น  สมิทเดินลงไปหลังจากเจมส์ได้ลงไปสักพัก   กระทั่งเมื่อ สมิท พร้อมยังจุดที่จะสามารถมอง DL-Tower  ได้อย่างชัดเจน  สมิทก็ส่งสัญญานให้กับเจมส์ เพื่อทำให้ไฟดับ