The inflict War : สงครามพิฆาต หน่วยรบถล่มโลกันต์

เครื่องเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮ็อกที่ถูงส่งมารับอแลนด์ ทันทีที่โดนแรงปะทะจากหัวรบก็ทำให้ลำตัวเครื่องนั้นระเบิดแตกออกเป็นเสี่ยงๆ อแลนด์ที่เกาะอยู่ที่บนใดที่ปล่อยลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ ก็โดนแรงเหวี่ยงที่เกิดจากแรงระเบิดทำให้ร่างของเขากระเด็นไปห่างจากจุดตกของเครื่องหลายร้อยเมตร
                “ท่านครับ เครื่องแบล็กฮ็อกที่ถูกส่งถูกยิงตกแล้วครับ”เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์บัญชาการรายงานต่อผู้บังคับบัญชาที่นั่งอยู่ไม่ไกลนักหลังจากสัญญาณของเครื่องแบล็กฮ็อกหายไปจากหน้าจอ
                “บ้าจริง!! เช็คสถานผู้รอดชีวิตดูก่อนสิมีใครยังรอดอยู่ไหม”นายพลโทนี่ผู้บัญชาการประจำศูนย์ กล่าวออกมาด้วยความเจ็บใจก่อนจะ สั่งการขั้นต่อไปเพื่อเตรียมการรองรับผลที่เกิดขึ้น
            “จากศูนย์เรียกผู้รอดชีวิต.... จากศูนย์เรียกผู้รอดชีวิต”เสียงดังออกมาจากเครื่องสื่อสารทางไกลของอแลนด์ ที่นอนหมดสติอยู่ ได้ยินเสียงและรีบตอบกลับไป
                “อแลนด์เรียกศูนย์ ยืนยันสถานะผู้รอดชีวิตเปลี่ยน”อแลนด์ตอบกลับไป ตัวของเขาในขณะนี้เต็มไปด้วยบาดแผลเต็มไปหมด ถึงแม้จะไม่เป็นแผลที่สาหัสมากนัก แต่ก็ทำให้เลือดออกมาเยอะพอสมควร ขาของเขาถูกกระแทกอย่างแรงจากแรงเหวี่ยงทำให้เขาเดินได้ลำบากมากกว่าเดิม
                “มีผู้รอดชีวิตหนึ่งรายครับท่าน”เจ้าหน้าที่ที่ติดต่อกับอแลนด์รายงานต่อนายพลโทนี่
                “ติดต่อหน่วยที่ใกล้ที่สุดให้เข้าไปรับสิบเอกอแลนด์ ภารกิจAC2075จะล้มเหลวไม่ได้เด็ดขาด”
                “ทราบแล้วครับ”เจ้าหน้าที่ตอบรับแล้ว ก้มหน้าลงไปเช็คข้อมูลในระบบ เวลาผ่านไปสามนาทีเจ้าหน้าที่ก็รายงานกลับมา “เรือบรรทุกเครื่องบิน USS 734 อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุมากที่สุดครับ จะให้ส่งคำสั่งไปเลยไหมครับท่าน”
                “อืม สั่งการได้เลย”
                “ครับ”
เรือ USS734 เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดกลางที่ทำหน้าที่ลาดตระเวนอยู่ในแถบแอตแลนติก ประกอบไปด้วยทหารเรือ นาวิกโยธิน และทหารราบที่สังกัดหน่วย AC อยู่บนเรือด้วย
                “รับทราบจะรีบดำเนินการให้เดี๋ยวนี้”ผู้การเรือรับคำสั่งจากศูนย์ “ติดต่อหน่วยรบของผู้กองเวสท์ให้ที”ผู้การเรือหลังจากวางสายจากศูนย์บัญชาการก็สั่งการไปยังลูกน้อง ไม่นานนักก็มีทหาร 9 คนมาเข้าแถวรอที่ชั้นล่างของเรือซึ่งเป็นสถานที่เก็บเรือเร็วที่ใช้ในการทำภารกิจย่อยของเรือ
                “ผู้กองเวสท์ผมมีงานให้คุณทำเป็นคำสั่งจากศูนย์บัญชาการ ภารกิจของพวกคุณคือช่วยเหลือผู้รอดชีวิตที่บริเวณพิกัด LP-1 พวกคุณมีเวลา 3 ชั่วโมงในการทำภารกิจนี้ พวกคุณจะต้องคุ้มกันสิบเอกแลนด์ เทลให้กลับมาที่นี่อย่างปลอดภัย ระวังเรื่องศัตรูเอาไว้ด้วย เพราะว่าเครื่องแบล็กฮ็อกก็ถูกยิงตกพวกศํตรูคงจะกระจายกำลังค้นหาอย่างแน่นอน”ผู้การเรือแจงรายละเอียดภารกิจให้กับไวท์ฟัง
                “รับทราบครับ”ผู้กองไวท์รับคำสั่งแล้วนำคนของเขาขึ้นเรือและแล่นออกจากใต้ท้องเรือ USS734 มุ่งหน้าไปตามพิกัดที่แสดงผลในเครื่อง GPRS
                “ไม่ได้ลุยแบบนี้มานานแล้วนะผู้กอง”จ่าสิบเอกเคิร์ก ที่นำหน้าที่คุมหางเสือเรืออยู่พูดขึ้น พร้อมด้วยสีหน้าที่ดูอารมณ์ดี
                “อะไรกันจ่าทำเป็นวัยรุนเลือดร้อนไปได้”สิบโทรอสพูดขัดขึ้นมา
                “พูดดีไปเถอะแกน่ะเจ้าบรอส”เคิร์กหันมาพูดโต้ตอบกับบรอส
                “เอาล่ะ ทุกคนเงียบก่อน พวกเรามีเวลา 25 นาทีก่อนถึงพื้นที่เป้าหมาย พวกเราต้องมาวางแผนก่อน ครอสกับฟรอส นายสองคนหลังจากลงเรือแล้วให้แยกไปทางซ้าย ดอร์จกับจอร์นแยกไปทางซ้ายพร้อมกับฉัน เจมส์ แซม และจ่าเคิร์ก ให้ทำการตรวจสอบพื้นที่ และเตรียมพร้อมรับการบุกของศัตรู และสุดท้าย พอลล์นายเฝ้าเรือ”เวสท์แบ่งงานให้กับลูกน้องในหน่วย
อีกทางด้านหนึ่งหน่วยของศัตรูได้ทำการส่งทหาร SEF เข้าพื้นที่เพื่อจับตัวผู้บุกรุก
                “พวกเราตรวจเช็คซากเฮลิคอปเตอร์แล้วครับ พบผู้เสียชีวิตสองนาย คาดว่าจะเป็นนักบิน และผู้ช่วยนักบินครับผู้กอง แต่ว่าน่าจะมีคนอื่นด้วยครับ เพราะว่ามีบันใดตกอยู่ใกล้ๆคาดว่าน่าจะมีคนอื่นหลงเหลืออยู่ครับ”ทหารหน่วย SEF รายงานผลต่อหัวหน้าหน่วยรบของเขา
                “งั้นเหรอ ถึงอย่างไงก็ยังวางใจไม่ได้ สั่งตรึงกำลังในพื้นที่ ส่งสุนัขทหารลงพื้นที่”ผู้กองชาร์ก ชี ราฟ หัวหน้าหน่วยรบประจำพื้นที่ สั่งการลงไป ทหารในสั่งกัดของเขาก็เร่งทำตามคำสั่งอย่างฉับพลัน