เจ้าชายขบถ...รักษ์

9.5

เขียนโดย RATH

วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 เวลา 12.49 น.

  9 chapter
  35 วิจารณ์
  24.62K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) บทที่ 7 แฝงกายลอบสังหาร (บทแรก)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

http://www.keedkean.com

 

 

บทที่ 7

 



แฝงกายลอบสังหาร (บทแรก)

 



ณ บริเวณชายแดนประเทศไทยและชายแดนประเทศมหภาคเดือนตะวันมันคือจุดเชื่อมต่อของทั้งสองประเทศ ที่ต่างเกิดการกระทำความผิดในสิ่งที่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศร่วมกันอย่างมากมายที่สุดอีกแห่งหนึ่งอันได้แก่ การซื้อขายสินค้าอย่างผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด อาวุธปืนอาวุธสงคราม และสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญาชนิดต่างๆ แต่ในวันนี้สิ่งที่ทางการประเทศไทยกำลังพากันปวดหัวและหาคำตอบไม่ได้อยู่ก็คือ ซากศพไร้วิญญาณ ที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ ซากศพที่ไม่มีใบหน้า ไม่มีลายนิ้วมือ ไม่มีแม้บัตรประจำตัวประชาชน จึงไม่สามารถระบุประวัติความเป็นมาของซากศพนิรนามได้ ทุกคนไม่สามารถลงความเห็นได้ว่าซากศพที่นอนตาย เป็นคนชนชาติใดสัญชาติใดกันแน่ เป็นคนไทยหรือคนของประเทศมหภาคเดือนตะวัน ดังนั้นทางการไทยจึงต่างพากันลงความเห็นว่าซากศพนิรนามเป็นเพียงแค่กลุ่มโจรในพื้นที่ต่างขัดแย้งกันในผลประโยชน์จึงต่างพากันเข่นฆ่ากันเองและทิ้งซากศพอันไร้วิญญาณให้เป็นซากศพนิรนามไว้เช่นนี้... สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ต่างร่วมกันลงความเห็นกันเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะ ณ จุดหรือบริเวณแห่งนี้มักจะเกิดเหตุการณ์กลุ่มโจรเข่นฆ่ากันตายและทิ้งซากศพไว้เช่นนี้อยู่ตลอดเวลาอยู่เสมอนั้นเอง

 

สารวัตรขจร นายตำรวจไทยนั่งนิ่งจ้องมองสำรวจสภาพซากศพอย่างละเอียดอีกครั้ง เริ่มจากศีรษะของซากศพระหว่างกลางหน้าผากมีรูของรอยกระสุนปืนเจอะเข้าบริเวณกลางหน้าผากหรือหัวกะโหลกพอดี สารวัตรขจรเริ่มมีความสนใจและสงสัยเพิ่มมากขึ้น มากเกินกว่าที่เจ้าที่คนอื่นๆต่างลงความเห็นเบื้องต้นไว้แล้ว ซากศพที่ต่างพากันลงความเห็นเมื่อแรกเริ่มว่าเป็นเพียงแค่กลุ่มโจรธรรมดาที่เข่นฆ่ากันตายเพราะสาเหตุมาจากความขัดแย้งกันในผลประโยชน์ ณ เวลานี้ก็อาจจะไม่ใช้เช่นนั้นแล้วก็ได้

 

เหตุการณ์ในวันนี้ มันช่างเหมือนกันหรือคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสองเดือนที่แล้ว ณ หน้าสถานกงสุลอเมริกา ในเหตุการณ์เกิดขึ้นวันนั้นหน้าสถานกงสุลอเมริกาต่างก็มีคนตายมากมาย จนกระทั้งถึงบัดนี้ยังไม่มีใครสามารถสืบหรือค้นหาสาเหตุของเหตุการณ์จริงๆ ได้ว่าสาเหตุเบื้องลึกเบื้องหลังมีความเป็นมาเช่นไร ไม่มีใครสามารถระบุได้ว่ากลุ่มคนที่ตายเหล่านั้นเป็นใครหรือผู้ใด มาจากไหนกันแน่ ทุกคนที่ตายต่างก็เป็นซากศพนิรนามด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นทุกคน ทุกซากศพต่างก็มีประวัติความเป็นมาที่คลุมเครือต่างไม่แน่ชัดด้วยกันทั้งหมดและ ไม่สามารถลงรายละเอียดได้ว่า ประวัติความเป็นมาของซากศพใดเป็นประวัติความเป็นมาของจริงหรือ ประวัติซากศพใดที่ปลอมแปลงขึ้นอย่างผิดกฎหมาย จากวันนั้นจน ณ วันนี้เหตุการณ์อย่างเดียวกันก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ซากศพที่พบเจอในวันนี้ต่างก็มีอะไรๆที่เหมือนๆกันกับซากศพที่พบเมื่อสองเดือนที่ผ่านมาแล้ว

 

สารวัตรขจรเอาฝามือใหญ่ที่สวมถุงมือหนังสีขาวแตะที่หน้าผากของซากศพ แล้วใช้คีมเล็กๆเจอะเข้ากลางหน้าผากตามรูของหัวกระสุนของหัวกะโหลกนิรนามแล้วทำการคีบเอาหัวกระสุนปืนออกมาจากกลางรูหัวกะโหลก สารวัตรขจรทำการจ้องมองอย่างสำรวจรายละเอียดของหัวกระสุนปืนจนมั่นใจได้อย่างแน่ชัดว่ามันคือหัวกระสุนปืน 11 มม. หรือ .45 ทางการไทยเรียกว่าปพ.86 ขนาด .45 มันเป็นหัวกระสุนปืนที่ไม่พบกันบ่อยนักกับซากศพนิรนามโดยทั่วไป และมันยังเป็นหัวกระสุนปืนชนิดเดียวกันกับที่พบบนซากศพจำนวนมากที่ตายไปเมื่อสองเดือนที่แล้วอีกด้วย หรือว่าเหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์มันจะเป็นเสมือนเหตุการณ์หรือเรื่องเดียวกันเพียงแต่ว่าต่าง วัน เวลา และสถานที่กันเท่านั้น สารวัตรขจรลุกขึ้นยืนตัวตรงแล้วดึงถุงพลาสติกเล็กๆออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วสะบัดเปิดปากถุงให้กางออกหย่อนหัวกระสุนปืนลงไปในถุงพลาสติกแล้วปิดปากถุงด้วยเทปกาวอย่างแน่นหนา เพื่อนำเอาไปเป็นหลักฐานในการสืบสวนต่อไป...

 

สารวัตรขจรถอนลมหายใจออกมาจากริมฝีปากเสียงดังอย่างรู้สึกหนาวๆในบรรยากาศรอบข้างและมองตรงไปยังจุดเชื่อมต่อของของทั้งสองประเทศ แต่สายตาของสารวัตรขจรจับจ้องมองเลยต่อไปยังประเทศบ้านเกิดเมืองนอนมันคือประเทศมหภาคเดือนตะวัน ประเทศอันเป็นเสมือนบ้านพี่เมืองน้องกันกับประเทศไทย แต่ในวันนี้เหตุการณ์ในประเทศมหภาคเดือนตะวันมันไม่ได้สงบสุขอย่างเช่นเดียวกันกับประเทศไทยเลยแม้แต่น้อย อาจจะเป็นเพราะนโยบายทางการเมืองของประเทศมหภาคเดือนตะวันที่มุ่งเน้นการปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบก็อาจเป็นไปได้ จึงทำให้บ้านเมืองเกิดร้อนระอุด้วยไฟสงครามและการเข่นฆ่าแย้งชิงผลประโยชน์ซึ่งกันและกันภายในประเทศอย่างมากมายจนเพิ่มขึ้่้นและเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ

 

สารวัตรขจรหวังว่าประเทศมหภาคเดือนตะวันจะเริ่มมีความสงบสุขเกิดในเร็ววัน และหวังว่าซากศพที่พบเจอในวันนี้ จะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับประเทศมหภาคเดือนตะวันเช่นกัน หากมันต้องเกี่ยวข้องโยงใยกันขึ้นมาจริงๆ สารวัตรขจรคิดว่าอีกไม่นาน คาดว่าต้องเกิดเหตุการณ์ใหญ่โตที่คาดไม่ถึงขึ้นมาจริงๆอย่างแน่นอน มือสังหารที่ลงมือเข่นฆ่าคนบริสุทธิ์หรือศพนิรนามที่นอนไร้วิญญาณอยู่นี้ไม่ใช่มือสังหารธรรมดาเลยแม้แต่นิดเดียว มันเป็นมือสังหารอาชีพที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีหรืออาจจะเป็นมือสังหารผู้ชำนาญการเฉพาะด้านโดยแท้จริง มันสามารถแอบแฝงกายของมันเองได้อย่างแนบเนียนไร้ซึ่งตัวตนที่แท้จริง มันเป็นดังมือสังหารมัจจุราชในเงามืดผู้สวมรอยเป็นใครหรือผู้ใดก็ได้ มือสังหารผู้แฝงกายในเงามืดดังมัจจุราชผู้นี้เป็นใครหรือผู้ใดกันแน่นะ...

 

สารวัตรขจรต้องการอยากจะรับรู้ถึงตัวตนของมันจริงๆ และมากพอๆ กับที่ต้องการอยากจะรับรู้ว่าซากศพนิรนามที่นอนตายแน่นิ่ง ไร้ซึ่งตัวตน ไร้ซึ่งหลักฐาน ไร้ซึ่งพยานรู้เห็น เหลือทิ้งไว้แต่ดวงวิญญาณและโครงกระดูกเน่าๆ อยู่ด้านหน้าเขานั้นเป็นใครหรือผู้ใดกันแน่...และทำไมมือสังหารในเงามืดถึงต้องเข่นฆ่าเหยื่อโดยไม่ทิ้งหลักฐานอะไรไว้เลยนอกจากหัวกระสุนปืน เพียงนัดเดียวและทำไมถึงได้เข่นฆ่ากันตายได้อย่างง่ายดาย ไร้ซึ่งเหตุผลเช่นนี้กันด้วยนะ...สารวัตรขจรคิดที่จะหาคำตอบให้กับความสงสัยของตัวเองให้จงได้...

 

“ส่งรายละเอียดผลชันสูตรทุกอย่างไปให้สายลับของประเทศมหภาคเดือนตะวันด้วย คาดว่าเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับประเทศมหภาคเดือนตะวันโดยตรงอย่างแน่นอน”

 

“ครับสารวัตร...”

 

“และจัดเตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้ให้ด้วย ฉันจะไปเยี่ยมเยือนเพื่อนเก่าเพื่อนแก่เสียหน่อย”

 

“ครับสารวัตร...”

 


http://www.keedkean.com


.........................................................................

 



ตึกรัฐสภาของประเทศมหภาคเดือนตะวันถือเป็นจุดยุทธศาสตร์อย่างดีอีกจุดหนึ่งของประเทศมหภาคเดือนตะวันเลยที่เดียว สภาพเนื้อที่โดยรอบหรืออาณาบริเวณโดยรอบตัวตึกรัฐสภา ประมาณการว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 500 ไร่ เมื่อขับรถยนต์ผ่านเข้าสู่เขตประตูของกำแพงอิฐขนาดใหญ่ จากประตูทางเข้าด้านนอกจนถึงหน้าลานกว้างของขั้นบันไดขึ้นสู่ตัวตึกรัฐสภาจะใช้เวลาโดยประมาณทั้งสิ้น 15-20 นาที ตัวตึกรัฐสภาพจะถูกล้อมรอบด้วยกำแพงอิฐสีขาวความสูงของกำแพงจะเท่ากับความสูงของช้างสารตัวใหญ่ๆหนึ่งตัว ในแต่ละด้านแต่ละจุดของกำแพงอิฐจะมีทหารและตำรวจคอยเฝ้าคุ้มกันภัยปกปักษ์พิทักษ์ผ่องภัยอันตรายอยู่โดยตลอดเวลา ทั้งด้านในและด้านนอกของกำแพงอิฐขนาดใหญ่...

 

โดยเฉพาะในวันนี้จะมีทหารและตำรวจอยู่รวมกันทั้งด้านนอกและด้านในไม่ต่ำกว่า 200 นาย ต่างก็ถืออาวุธกันครบมือทั้งปืนสั้นและปืนยาว คอยเดินตรวจตราสลับสับเปลี่ยนกันไปมา ประตูเข้าและออกของตึกรัฐสภาจะมีด้วยกันทั้งหมดสี่จุดหรือสี่ด้าน ประตูจะอยู่ตามจุดกึ่งกลางของเส้นตรงในแต่ละจุดแต่ละด้านของกำแพงอิฐสี่เหลี่ยมจัตุรัส ดังนั้นประตูแต่ละด้านจึงได้รับการคุ้มกันและคอยตรวจสอบอย่างแน่นหนาจากทั้งตำรวจและทหาร ทุกคนที่เข้าออกต้องแสดงบัตรผ่าน ที่ได้รับการอนุมัติโดยตรงจากรัฐสภาแล้วเท่านั้น..

 

“ฉันผ่านเข้ามาด้านในได้แล้วเสือดำ...”

 

“ดีมากกระต่ายดำ รายงานเหตุการณ์ด้านในมาโดยละเอียดด้วย กระต่ายดำ”

 

“รับทราบเสือดำ...ขณะนี้เจ้าชายสิงหราชได้มาถึงด้านหน้าตัวตึกรัฐสภาแล้วพร้อมกำลังคุ้มกันอย่างแน่นหนา ฉันยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปใกล้ได้มากกว่านี้ ส่วนเป้าหมายที่สองของเรายังมาไม่ถึงคาดว่าคงอีกไม่นานท่านนายกกษิณ ก็น่าจะเดินทางตามเข้ามาในเร็วๆนี้...”

 

“ดีมากกระต่ายดำ ตอนนี้เธอยังไม่ต้องทำอะไร คอยรายงานความเคลื่อนไหวและสภาพภายในต่อไป”

 

“รับทราบเสือดำ”

 

การสนทนาผ่านเครื่องส่งสัญญาณระยะไกลที่แอบซ้อนไว้ของกระต่ายดำ มันคือเครื่องส่งสัญญาณขนาดเล็กถึงเล็กมากๆ เช่น กระดุมเสื้อ ต่างหู สร้อยคอ นาฬิกาข้อมือ ปากกา  แหวนวงเล็กๆ  แต่ในวันนี้สิ่งที่เหมาะสมสำหรับภารกิจของเธอกระต่ายดำมากที่สุดก็คือแว่นสายตาอันบางใส มันมีคุณสมบัติเป็นได้ทั้งเครื่องรับและส่งสัญญาณเพื่อพูดคุยสนทนากันได้และมันยังมีคุณสมบัติพิเศษอันคล้ายคลึงกับกล้องขนาดเล็กที่สามารถส่งภาพที่เธอมองเห็นไปยังจอมอนิเตอร์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย แต่ขณะนี้กระต่ายดำยังไม่มีโอกาสได้เปิดกล้องส่งภาพที่เธอมองเห็นไปให้แก่ใครหรือผู้ใดได้ เพราะเธออาจจะถูกตรวจจับสัญญาณการรับและส่งได้ก่อนที่เธอจะเริ่มทำภารกิจเข่นฆ่าผู้คนบริสุทธิ์ ดังนั้นเธอจึงระมัดระวังตัวในการส่งข้อมูลข่าวสารทุกสิ่งทุกอย่างออกไปด้านนอกหากมันไม่ได้จำเป็นในภารกิจที่ได้รับมอบหมายจริงๆ ดังนั้นขณะนี้เธอจึงไม่ได้เปิดเครื่องรับส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่สายลับประจำตึกรัฐสภาสามารถตรวจสอบสัญญาณรับส่งของเธอได้โดยเด็ดขาด

 

ขณะนี้กระต่ายดำกำลังแฝงกายสวมบทบาทเป็นนักข่าวหญิงผู้คอยติดตามสัมภาษณ์บุคคลสำคัญทางการเมือง เธอก้าวมวยผมและสวมแว่นสายตาอันเหมาะสมกับบุคลิกของนักข่าวสาวสวยแต่เชยๆเช่นเธอ เธออยู่ในชุดเสื้อสูทสั้นแขนกุดและกระโปรงสั้นแหวกข้างเหนือเข่าเล็กน้อย ตามร่างกายของเธอไม่สามารถเก็บซ้อนอาวุธชนิดใดไว้ได้แม้แต่เข็มหรือมีดเล็กๆสักเล่ม เธอก็ไม่สามารถเก็บซ้อนไว้ตามร่างกายได้เพราะมันได้ถูกตรวจสอบและตรวจค้นก่อนที่เธอจะเดินทางผ่านเข้าประตูของรัฐสภาเข้ามา ขณะนี้อาวุธชนิดเดียวของเธอก็คือความสวยสดงดงามของวงหน้าเธอเท่านั้น มันคือเสน่ห์ที่สามารถดึงดูดสายตาของหมูหมากาไก่ที่กำลังล้อมรอบตัวเธออยู่ในขณะนี้ เสน่ห์อันเหนียวแน่นและแสนจะอึดอัดสุดจะทานทนได้อีกต่อไปแล้ว

 

“โอ๊ย!!!...พวกหล่อนๆๆ ทั้งหลายได้โปรดเขยิบ..ขะเหฺยิบ...ขยับไปให้ห่างๆฉันอีกหน่อยได้มั้ย ฉันร้อนตับจะแตกตายอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องตะบี้ตะบันเบียดเสียดกันเข้ามาจนใกล้ชิดแนบเนื้อขนาดนี้ก็ได้ ขยับออกไปอีกหน่อยนะพวกหล่อนๆๆ ทั้งหลาย...”

 

“จริงด้วยพวกเธอๆๆ ข้างหลังนะ ขยับออกไปด้านหลังอีกหน่อยเถอะฉันจะเป็นลมแดดตายอยู่แล้ว..”

 

“ยี้!!!ๆๆ..เธอก็พูดได้สิย่ะ ก็เธอมันเกาะรั้วกั้นอยู่ด้านหน้า พวกฉันอยู่ด้านหลัง พวกฉันๆ ก็อยากได้ข่าวได้รูปสวยๆเหมือนกัน ถ้าพวกเราไม่ดันไม่แทรกเข้าไปด้านในพวกเราจะได้ข่าวได้รูปดีๆสวยๆหรือไงย่ะ พวกเธอนั้นแหล่ะเห็นแก่ตัวที่สุดเลย จะเกาะกอดไอ้รั้วกั้นบ้าๆนั้นไป จนถึงเมื่อไหร่ อีกนานแค่ไหนกันล่ะย่ะ เปลี่ยนให้พวกเราได้ไปยืนข้างหน้าได้เก็บข่าวเก็บรูปภาพสวยๆ บ้างสิย่ะ..”

 

“ใช่..ใช่...ๆๆ...เปลี่ยนให้พวกเราไปยืนข้างหน้าบ้างสิ พวกเราอยู่ด้านหลังไม่ได้ข่าวได้รูปอะไรเลย”

 

“อ้าย!!...มันจะอะไรกันนักกันหนานะ พวกหล่อนๆทั้งหลาย พวกหล่อนๆก็แหกขี้ตาตาดูสิย่ะ มันมีข่าวมีภาพอะไรดีๆ น่าเก็บน่าสะสมแล้วเอาไปทำข่าวบ้างล่ะย่ะ พวกหล่อนเห็นใครหรืออะไรเดินผ่าน เดินเข้า เดินออก มาแล้วบ้างล่ะย่ะ... ไว้ให้พวกหล่อนๆเห็นอะไรดีๆ แล้วค่อยดันค่อยแทรกกันเข้ามาก็ได้นี้ย่ะ นี้อะไร นก หมา สักตัวก็ยังไม่มีเคยเห็นเดินผ่านมาเลยสักตัว ยังจะตะบี้ตะบันเบียดเสียดแทรกซึมกันเข้ามาอยู่นั้นล่ะ...อย่าให้ฉันเห็นใครหน้าไหนเบียดเสียดกันเข้ามาอีกนะย่ะ ฉันจะจับตบไม่เลี้ยงเลยจริงๆด้วย”

 

“อ้าย!!!...แค้น แค้นมาก หล่อนเป็นใครมาจากไหนไม่ทราบ ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน หล่อนร้ายมากนะย่ะ ถ้าหล่อนแน่จริงเข้ามาตบกันซึ่งๆหน้าเลยดีกว่า เอามั้ยล่ะย่ะ...ยัยแว่น... เข้ามาเลย แน่จริงเข้ามาได้เลย เข้ามาตอนนี้เลย”

 

“โอ๊ยๆ !!! พวกหล่อนเป็นบ้าลมแดดหรือไงย่ะ เรื่องอะไรฉันจะตบตีหล่อนอวดโชว์ให้ชาวบ้านเขาดูกันด้วยล่ะย่ะ เดี๋ยวฉันก็จะถูกเชิญออกไปข้างนอกกันพอดี เอาอย่างนี้ดีมั้ยล่ะย่ะพวกหล่อนๆ... พวกเราทั้งหมดนี้แหล่ะออกไปตบตีกันข้างนอกแล้วคอยพากันกลับเข้ามาข้างในกันใหม่ ใครชนะก็ได้ไปยืนเกาะไอ้รั้วกั้นบ้าๆนั้นไปจนตลอดทั้งวัน  ส่วนคนแพ้ก็ไม่จำเป็นกลับเข้ามาอีก แหกตูดเน่าๆ เดินทางกลับบ้านไปหายาทา ยารักษา วันหลังค่อยกลับเข้ามาตบตีกันใหม่ดีมั้ยล่ะย่ะ...พวกหล่อนๆ”

 

“ยัยแว่น...แกมันปากหมาได้โล่จริงๆ วันนี้ฉันไม่ขอทำข่าวการเมืองสักวันก็ได้หวะ!!...เอาข่าวนักข่าวหญิงประจำทำเนียบรัฐสภารุมตบตีอีปากหมาได้โล่ส่งขายสักวันก็ดีเหมือนกันล่ะหว่ะ!!...พวกเราแบ่งกลุ่มกันเลยดีกว่าดูสิใครจะมีคนมากกว่ากัน...ไม่ต้องออกไปตบตีกันข้างนอกให้เสียเวลาเอามันตรงนี้ที่นี้ละกัน.. มันจะได้เป็นข่าวใหญ่และข่าวดังพอจะเอาไปขายได้บ้างจริงมั้ยพวกเรา...”

 

“จริงจ๊ะ...ถ้าออกไปตบตีกันข้างนอกก็มีแต่เสียกับเสีย งานการก็ไม่ได้แถมเจ็บตัวกันฟรีอีก ตังหากและต้องเสียเงินเสียทองโดยใช่เหตุด้วย ถ้าจะตบตีก็ตบกันก็เอาแบบมันได้เงินและได้งานไปพร้อมๆกันเลยดีกว่า จริงมั้ยพวกเรา...”

 

“มันก็จริงอย่างที่เธอว่ามาจริงๆนั้นแหล่ะ เจ็บตัวแต่ได้ข่าวใหญ่ไปขายมันก็ดีเหมือนกัน ฉันเอาด้วยคน พวกเธอล่ะว่าไง..”

 

“มันก็เป็นความคิดที่ดีเหมือนกัน แต่จะให้ดีพวกเราน่าจะจับคู่ตบตีกันจะดีมากกว่า ไอ้แบบรุมตบหนึ่งต่อสอง หรือสองต่อหนึ่งนะ ฉันว่ามันไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไร จริงมั้ยพวกเรา”

 

“อ้าย!!..ๆ พวกหล่อนเป็นบ้าลดแดดกันไปจริงๆใช่มั้ย พวกเราตบตีกันมีเหตุผลอย่างเดียวเท่านั้นคือไม่ชอบหน้ากันอย่างรุนแรงก็เท่านั้น ไม่มีเรื่องอื่นโดยเด็ดขาด นี้อะไร พวกหล่อนยังสวมวิญญาณนักข่าวไม่เลิกอยู่อีกหรือไง พวกหล่อนๆทิ้งวิญญาณนักข่าวไปสักนาทีแล้วมาตบตีกันแบบจริงๆจังๆสักวันฉันว่ามันน่าจะดีกว่า จริงมั้ยพวกเรา ...ดูสินี้อะไร แม้จะตบตีกันพวกหล่อนๆก็ยังคิดที่จะเอาไปทำข่าวขายกันได้อีก พวกหล่อนเป็นบ้าไปแล้วจริงๆใช่มั้ย...บ้าๆๆ บ้าที่สุดเลย ฉันรับไม่ได้ ...ฉันรับไม่ได้จริงๆ”

 

“อุ๊ย.!! ยัยแว่น...มันพูดมามันก็มีเหตุผลเหมือนกันนะย่ะว่ามั้ย ...พวกเราจะตบจะตีกันก็ไม่น่าจะมีเหตุผลอย่างอื่น เอาแค่เหตุผลอย่างเดียวเท่านั้นอย่างที่ยัยแว่นมันพูด ...พวกเราไม่ชอบหน้ากันอย่างแรงถึงตบตีกัน.. ส่วนเรื่องอื่นๆถึงพวกเราไม่อยากจะให้เป็นข่าวอย่างไรเสียมันก็ไม่มีทางหลีกเลี้ยงได้อยู่แล้ว รับรองว่างานนี้ดังอย่างแน่นอนฉันรับรองได้เลยว่าอย่างน้อยต้องได้สองเด้ง..”

 

“สองเด้ง..แด-ดี่-แอน-ม่าม้า...เธอสิ...หากเรื่องนี้เอาไปขายข่าวไม่ได้ ฉันขอถอนตัวเชิญพวกเธอแบ่งกลุ่มตบตีกันเองแล้วกัน..”

 

“ฉันด้วย...ฉันด้วย..ๆๆๆๆ”

 

“โอ๊ย!!ๆๆ พวกหล่อนถอนตัวกันไปหมดอย่างนั้นก็เหลือแต่ฉันกับ...ยัยแว่น...ปากหมาได้โล่กันแค่สองคนนะสิย่ะ ...เธอจะเอาอย่างไรยัยแว่น ยังสนใจจะตบกับฉัน ต่อไปอยู่อีกมั้ย”

 

“ได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา ทุกสถานที่ บอกมาได้เลย ยัยกุ้งแห้ง...”

 

“น๊อยๆ นอย..น๋อย..แค้น แสนแค้น...”

 

“เอาเลยพี่ เดี๋ยวพวกหนู ดูลาดลาวให้ไม่มีใครเห็นหรอก ตบยัยแว่นให้ตาหลุดไปเลย แล้วพวกเราจะได้ไปเสียบตำแหน่งแทนที่มัน”

 

“จริงนะ”

 

“จริงสิพี่ ไม่มีใครเห็นหรอก ตบมันเลย”

 

“ได้ตามคำขอ หมั่นใส่มันมานานมากแล้ว ขอสักทีเถอะยัยแว่น ปากหมาได้โล่...”

 

กระต่ายดำผู้กำลังแฝงกายเป็นนักข่าวสาวสุดสวยขณะนี้เธอกำลังถูกเพื่อนสาวนักข่าวหญิงเช่นเดียวกันกับเธอ กึ่งวิ่งกึ่งเดินตรงปรี่เข้ามาใส่เธออย่างรวดเร็วด้วยความรู้สึกแค้นฝังหุ่นของฝ่ายตรงข้าม เธอเตรียมตัวตั้งรับการจู่โจมด้วยศิลปะการต่อสู่ระดับมือสังหาร อย่างผู้เคยผ่านสมรภูมิสงครามในอิรักมาแล้ว แต่ถึงเธอจะเก่งกาจเคยผ่านสมรภูมิสงครามมามากมายสักเพียงใดก็ต้องมีข้อผิดพลาดกันได้เช่นกัน

 

เธอถูก...ยัยกุ้งแห้ง...ตบเข้าที่ขาแว่นสายตาเครื่องมือสื่อสารชิ้นสำคัญของเธอ เข้าอย่างพอดิบพอดี จนแว่นสายตาของเธอหลุดกระเด็นออกจากใบหน้าอันแสนสวยของเธอ มันกระเด็นเข้าไปอยู่ใกล้ๆกับปลายรองเท้าหลากหลายเฉดสี ที่กำลังล้อมรอบเป็นวงกลมมุงดูเหตุการณ์การต่อสู่ของเธอกันอยู่...ณ ขณะนี้เธอสติขาดเป็นเสี่ยงๆ จนหลงลืมภารกิจหลักที่ได้รับมอบหมายมาเสียจนหมดสิ้น เธอมุ่งตรงปรี่เข้าใส่...ยัยกุ้งแห้งนั้นเช่นกัน เริ่มด้วยหมัดหรือกำปั้นแรกเข้าที่กลางใบหน้า และหมัดที่สองเข้าที่กลางจมูกอันชูชัน จนฝ่ายตรงข้ามล้มลงไปนอนกองแน่นิ่งไร้สติการรับรู้ใดๆ ริมฝีปากอันมีสีแดงสดสวยด้วยลิปสติกได้รับการตกแต่งใหม่จากพื้นดินข้างเพื่อนๆนักข่าวที่ต่างพากันมุงดูเหตุการณ์การต่อสู่

 

ทุกคนที่ล้อมวงกลมมุงดู ต่างจดจ้องมองเธออย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา เมื่อทุกคนตั้งสติได้ต่างพากันวิ่งตรงไปคุกเข่าดูอาการเพื่อนสาวนักข่าวผู้ไม่ได้สติ แต่สำหรับเธอสิ่งที่เธอกำลังมองหาก็คือแว่นสายตาอันเป็นเครื่องมือสื่อสารเพียงชิ้นเดียว ที่เธอสามารถลักลอบนำมันเข้ามาได้ ณ บัดนี้มันถูกรุมเหยียบจนแตกและหักปี้แบนไปเรียบร้อยแล้ว...

 

“โอ้!!! พระเจ้าแล้วภารกิจเข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ของเธอเล่า สุดท้ายก็คงจะต้องล้มเหลวอย่างแน่นอนใช่มั้ย สาเหตุเป็นเพราะยัยกุ้งแห้งนักข่าวไร้ชื่อเสียงเรียงนามคนนั้นคนเดียวแท้ ไม่อยากจะเชื่อ ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ...แล้วต่อไปเธอจะทำอย่างไรดีจะติดต่อสื่อสารกับเสียดำได้อย่างไร บ้าๆๆ ฉันรับไม่ได้ ฉันรับไม่ได้จริงๆ”

 

“นี้หล่อน เธอเก่งมาก นะย่ะ”

 

“ขอบใจ”

 

“ย่ะ”

 

“ไปๆ พวกเราแยกย้ายกันไปทำมาหากินได้แล้ว...เอ๊าๆๆ นั้นเบียดเสียดกันเข้าไปอีกสิเธอ ..มันยังไม่แน่นพอเลย ยังหายใจออกอยู่ไม่ใช่รึไง ..เอ๊าๆ...เบียดเสียดกันให้แน่นๆ เข้าไปอีก เบียดกันเข้าไปเลย....เอ๊า เบียดเสียดเอาให้มันตายกันไปข้างหนึ่งเลย”

 

“นี้ยัยแว่น เธอจะนั่งอยู่ที่นี้อีกนานมั้ย ท่านนายกรัฐมนตรีกษิณมาถึงแล้วนะเธอ รีบๆ ลุกขึ้นมาทำงานเก็บข่าวเก็บภาพได้แล้ว”

 

“ไม่ล่ะ ฉันไม่มีแรงอีกแล้ว พวกเธอไปทำงานกันต่อเถอะ”

 

“มันก็จริง เธอเพิ่งผ่านสมรภูมิการสู่รบแย่งชิงพื้นที่จุดยุทธศาสตร์มาสดๆร้อนๆ ตอนนี้ก็ควรต้องพักผ่อนเอาแรงไปก่อน ...โอ้!!...มันยอดจริงๆจ๊อด.. ตัดตัวปัญหาทิ้งไปได้สองตัว....เอ๊า...เบียดกันเข้าไปอีกเบียดกันเข้าไป๊เลย..พี่น้อง”

 

ขณะนี้เป้าหมายในภารกิจที่จะต้องคอยติดตามและลอบสังหารก็พากันมาจนครบเรียบร้อยดีแล้วทั้งสองคน แต่กระต่ายดำผู้แฝงกายคอยรายงานสถานการณ์ภายในกับไม่สามารถสื่อสารติดต่อกับบุคคลภายนอกได้เลย ในขณะนี้ เธอได้แต่จับจ้องนั่งมองดูสถานการณ์อย่างกลัดกลุ้มใจและจนด้วยปัญญาที่จะหาทางติดต่อกับบุคคลภายนอกได้โดยรวดเร็วและปลอดภัย...

 


................................................................



จบบทที่ 7 ต่อบทที่ 8 แฝงกายลอบสังหาร (บทสอง)

 

.............................

ก้านบัวบอกลึกตื้น              ชลธาร
มารยาทส่อสันดาน             ชาติเชื้อ
โฉดฉลาดเพราะคำขาน      ควรทราบ
หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อ  บอกร้ายแสลงดิน

 

..............................

 

ส่งท้ายบทกลอนเพราะๆ

...............................................

 



 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา