เจ้าชายขบถ...รักษ์

9.5

เขียนโดย RATH

วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 เวลา 12.49 น.

  9 chapter
  35 วิจารณ์
  24.62K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) บทที่ 6 พระสุบินร้ายหรือดี

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

http://www.keedkean.com

 

 

บทที่ 6

 


พระสุบินร้ายหรือดี

 

 


ภาพเหตุการณ์ช่วงหนึ่งของค่ำคืนที่เจ้าชายสิงหราชทรงพระสุบินและพบเห็นวงหน้าราชองครักษ์ภาวิต และวงหน้าของขบถสาวสวยที่องค์สิงหราชไม่รู้ว่าเธอมีชื่อเสียงเรียงนามเช่นไรกันแน่ พระองค์จะเรียกเธอติดพระโอษฐ์ว่า...ขบถ อยู่ตลอดเวลา ในค่ำคืนของพระสุบินร้ายที่พระองค์พอจะจดจำได้มันเริ่มต้นขึ้นจากการที่พระองค์เริ่มก้าวเดินตรงไปยังเตียงพระบรรทมแล้วทรงล้มพระองค์เองลงนอนแน่นิ่งอย่างคนไร้ซึ่งชีวิตจิตใจและทุกข์ตรม พระองค์ทรงหาทางออกให้แก่ความรู้สึกของพระองค์เองไม่ได้ ดังนั้นภาพเหตุการณ์ของพระสุบินร้ายๆ จึงเริ่มเกิดขึ้นกับพระองค์ มันเป็นเหมือนเหตุการณ์จริงๆ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่พระสุบินไปเองเท่านั้น แม้แต่เพลานี้พระองค์ก็ยังทรงตราตรึงคิดคำนึงถึงภาพเหตุการณ์สุบินร้ายๆเหล่านั้น พระองค์ไม่สามารถลืมเลือนหรือลบเลือนมันได้เลย พระองค์ทรงนึกถึงเมื่อไรก็จะทำให้ขนตามพระวรกายลุกขึ้นพากันเต้นอย่างร้อนๆ หนาวๆเมื่อนั้น แต่พระองค์ก็ทรงหยุดที่จะคิดคำนึงถึงมันไม่ได้จริงๆ เพราะบ้างทีมันอาจจะไม่ใช้พระสุบินร้ายอย่างที่พระองค์ทรงคิดต่อต้านไว้จริงๆ ก็ได้ ภาพเหตุการณ์สุบินร้ายเริ่มเข้ามาสู่พระหทัยของพระองค์อีกครั้งอย่างช้าๆ อย่างลำดับภาพแต่ละฉ๊อดแต่ละซีน อย่างในหนังในละคร....

 

เมื่อพระองค์ล้มองค์เองลงบรรทมแน่นิ่งบนเตียงพระบรรทมทรงปิดพระดวงเนตรลงนอนอย่างวุ่นวายใจและเมื่อทรงเปิดพระดวงเนตรขึ้นอีกครั้ง ปรากฏว่าราชองครักษ์ภาวิตหนุ่มน้อยหน้าตางดงามสะสวยเยี่ยงอิสตรีก็ยืนยิ้มแย้มน่ารักอยู่เคียงข้างเตียงพระบรรทมของพระองค์ ภาวิต ยืนจ้องมองพระองค์อย่างมีบางอย่างจะพูดคุยด้วย พระองค์จึงนอนแน่นิ่งจ้องมองอย่างต้องการอยากที่จะรับรู้ว่าราชองครักษ์มีสิ่งใดจะพูดคุยกับพระองค์กันแน่ ไม่นานราชองครักษ์หนุ่มก็แย้มริมฝีปากสีชมพูน่ารักพูดกับพระองค์ขึ้นมาก่อนจริงๆ

 

“เจ้าชายสิงหราช พระองค์ทรงคิดถึงหม่อมฉันอยู่ใช่หรือไม่ ถึงได้ทรงพระบรรทมไม่หลับเช่นนี้”

 

“ไม่ใช่ ข้าไม่ได้คิดถึงเจ้าเลยภาวิต ที่ข้านอนไม่หลับเพราะข้ามีเรื่องต้องคิดมากมาย มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเจ้าเลย แม้แต่นิดเดียว”

 

“เจ้าชายสิงหราช ท่านโกหก...ข้ารับใช้ท่านมาหลายวันมีรึ ที่ข้าจะไม่รู้ยามใดท่านกำลังพูดความจริง ยามใดที่ท่านกำลังพูดโกหกอยู่ และยามนี้ข้าก็รับรู้ว่าท่านกำลังโกหกข้าอยู่ และท่านก็กำลังคิดถึงข้าอย่างมากมายด้วย จริงหรือไม่เจ้าชายสิงหราช”

 

“ไอ้ภาวิต เจ้าถือดีอย่างไรมากล่าวหาว่าข้าโกหก พรุ่งนี้ข้าจะจับเจ้าไปลงโทษให้สาแก่ใจข้า ที่เจ้าอวดสู่รู้มากล่าวหาข้า ไอ้ภาวิต ไอ้ไม่เจียมตัว”

 

“ท่านจะลงโทษข้ารึ เจ้าชาย ท่านจะลงโทษข้าเพราะสาเหตุที่ข้าพูดความจริงแต่ท่านกับพูดโกหกอย่างนั้นรึ ท่านคิดว่ามันยุติธรรมแล้วจริงๆอย่างนั้นหรือเจ้าชายสิงหราช”

 

“ไอ้ภาวิตแก่หยุดพูดเดียวนี้นะ ไม่อย่างนั้นข้าจะลงโทษเจ้าตอนนี้เลย ไม่ต้องรอให้ถึงพรุ่งนี้แน่”

 

“เอาเลย เจ้าชายท่านจงลงโทษข้าเลย ข้ากำลังรอท่านอยู่แล้ว ข้าได้จัดเตรียมอุปกรณ์ทรมานไว้ให้แก่ท่านแล้วนี้อย่างไรกันล่ะเจ้าชายสิงหราช”

 

เจ้าชายสิงหราชจ้องมองตรงไปยังฝามือทั้งสองข้างของราชองครักษ์ภาวิตมันมีอุปกรณ์ทรมานอยู่เต็มสองมือได้แก่ แส้ ที่ใช้สำหรับเฆี่ยนหรือตีนักโทษ เชือก ที่ใช้สำหรับมัดหรือจูงวัวควายออกไปไถ่นาปลูกข้าว และอย่างสุดท้าย มันคือ กุญแจมือ ที่ตำรวจใช้สำหรับไว้จับโจรผู้ร้าย เจ้าชายสิงหราชจ้องมองอุปกรณ์ทรมานแล้วรู้สึกเร่าร้อน ขนตามพระวรกายเริ่มลุกขึ้นเต้นอย่างร้อนๆ หนาวๆ

 

“ไอ้ภาวิตเจ้าบ้าไปแล้วหรือ ข้าไม่คิดที่จะใช้อุปกรณ์พวกนั้นทรมานใครแน่ๆ แม้แต่กับเจ้าเอง เจ้ากำลังคิดอะไรของเจ้าอยู่เนี๊ยะภาวิต ข้าเพียงจะจับเจ้าไปขังคุกให้สำนึกผิดแค่วันสองวันแล้วก็จะปล่อยตัวเจ้าเท่านั้น ข้าไม่คิดที่จะทรมานเจ้าเลย ภาวิต”

 

“ท่านเป็นคนดีจริงๆ เจ้าชายสิงหราช แต่ที่ข้านำอุปกรณ์ทรมานมาด้วยก็ไม่คิดว่าจะให้ท่านใช้ทรมานข้าหรอกนะ แต่ในทางกลับกันข้าคิดว่าจะนำมาใช้ทรมานท่านต่างหากล่ะ องค์สิงหราช ข้าจะทรมานท่านในความผิดที่ท่านชอบพูดโกหก ปากไม่ตรงกับใจ ข้าจะทรมานท่านจนกว่าท่านจะยอมพูดความจริงกับข้า องค์สิงหราช”

 

“อย่าภาวิต เจ้าอย่าทรมานข้าเลย ข้าเป็นเจ้าชาย ข้าเป็นเจ้านายของเจ้านะภาวิต เจ้าจะทรมานข้าไม่ได้ และข้าจะไม่มีวันพูดความจริงอย่างเด็ดขาดแม้เจ้าจะทรมานข้ามากมายแค่ไหนก็ตาม”

 

“อย่างนั้นเราก็มาลองดูกันสักตั้งเจ้าชายสิงหราช ดูสิท่านจะยังปากแข็งไปได้อีกนานแค่ไหนกัน”

 

ภาวิตเดินตรงเข้ามาหาพระองค์พร้อมกับอุปกรณ์ทรมานครบมือ พระองค์พยายามจะลุกขึ้นจากเตียงพระบรรมทมเพื่อต่อต้านและต่อสู้กับอุปกรณ์ทรมานที่ภาวิต จัดเตรียมมาใช้กับพระองค์ แต่เหมือนพระองค์จะไม่มีเรี่ยวแรงหลงเหลืออยู่พอที่จะต่อต้านได้เลย พระวรกายของพระองค์แข็งแน่นิ่งเหมือนดังขอนไม้ ไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวได้เลยแม้แต่น้อยเหมือนพระองค์กำลังถูกพันธนาการด้วยลิ่มเสียบแทงตามพระวรกายจนไม่สามารถขยับช่วยเหลือพระองค์เองได้

 

“เจ้าชายสิงหราช ท่านอย่าได้ทรงพยายามต่อต้านเลย ท่านไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แน่นอน ข้าได้ลอบวางยาชาใส่ไว้ในน้ำจัณฑ์ให้แก่ท่านก่อนที่ท่านจะทรงเข้าบรรทมแล้ว ขณะนี้ยาชามันเริ่มจะออกฤทธิ์แล้วอย่างแน่นอน องค์สิงหราช”

 

“ไอ้ภาวิตแกมัน ไอ้ชั่วร้าย แกคิดวางแผนการเลวร้ายนี้มาตั้งแต่ต้นแล้วใช่มั้ย แกทำอย่างนี้กับข้าได้อย่างไร ข้าอุตสาไว้วางใจเชื่อใจเจ้ามาโดยตลอด แต่เจ้ากับรอบวางยาชาข้า เจ้าอย่าได้ให้ข้าหลุดรอดออกไปได้โดยเด็ดขาด ข้าจะต้องสั่งประหารชีวิตเจ้าอย่างแน่นอน ไอ้ภาวิต”

 

“เจ้าชายท่านคิดว่าจะเอาผิดแกข้าได้จริงๆ อย่างนั้นหรือ เมื่อข้าวางยาชาท่านได้ ข้าก็สามารถวางยาพิษให้ท่านได้เช่นหัน ท่านจะหลงลืมเหตุการณ์ในค่ำคืนนี้อย่างหมดสิ้นเช่นกัน และข้าจะหวนกลับคืนมาทรมานท่านทุกๆค่ำคืน แล้วก็จะจากไป แล้วก็จะกลับมาอีกในค่ำคืนต่อไปๆ ท่านไม่มีทางหาหลักฐานมาลงโทษข้าได้แน่ องค์สิงหราช จนกว่าท่านจะยอมพูดความจริงเมื่อนั้นขาดถึงจะยอมปลดปล่อยท่านไป องค์สิงหราช”

 

“ไอ้ภาวิต ข้ายอมเจ้าแล้วอย่าได้ทรมานข้าเลย”

 

“หากท่านไม่ต้องการให้ข้าทรมานท่าน องค์สิงหราช ท่านจงพูดออกมาเดี๋ยวนี้... ท่านจงพูดสาเหตุที่ท่านทรงพระบรรทมไม่หลับเพราะพระองค์ทรงคิดถึงข้าภาวิตผู้นี้อยู่ใช้หรือไม่ เจ้าชายสิงหราช”

 

“ไม่ข้าพูดไม่ได้ เจ้าอย่าได้บังคับข้าเลยภาวิต”

 

“ท่านต้องพูด และต้องพูดเดี๋ยวนี้  ...เจ้าชายทรงพระบรรทมไม่หลับเพราะทรงคิดถึงข้าภาวิตอยู่ใช่หรือไม่”

 

“ไม่ข้าไม่ยอมพูดเด็ดขาด แม้ข้าจะต้องตายข้าก็จะไม่มีวันยอมพูด เรื่องอะไรข้าจะต้องยอมรับด้วยว่าข้ามีใจให้ผู้ชายเช่นเจ้า ไอ้ภาวิต ...ข้าไม่ได้วิปริตผิดปกติทางเพศเสียหน่อย”

 

“อย่างนั้นท่านก็จงเตรียมพระองค์เอง รับการทรมานจากข้าราชองครักษ์ที่ท่านไม่ต้องการจะยอมรับว่าคิดถึง แม้ยามหลับ และยามตื่น องค์สิงหราช”

 

“อย่าภาวิต อย่าทรมานข้า”

 

“อย่าขอร้องให้ยาก องค์สิงหราช”

 

ภาวิตก้าวขึ้นมายังเตียงพระบรรทมแล้วนั่งค้อมพระวรกายพระองค์ไว้จนพระองค์รู้สึกทรงเจ็บหน้าท้องและแน่นหน้าอก รู้สึกอึดอัดไปทั่วพระวรกายพระองค์พยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากการพันธนาการแต่ก็ไม่สามารถทำได้ ภาวิตหัวเราะชอบใจที่สามารถทรมานพระองค์ให้เจ็บปวดอย่างสมบูรณ์แบบได้ ภาวิตเริ่มขยับจากหน้าท้องของพระองค์แล้ววางเครื่องมือทรมานไว้ข้างๆ วรกายของพระองค์แล้วหัวเราะชอบใจ หลังจากนั้นไม่นานภาวิตก็ทำการหยิบกุญแจมือเครื่องทรมานชิ้นแรกขึ้นมาแล้วทำการหมุนวนเหมือนกับกงจักรอวดโชว์ใกล้ๆดวงพระเนตรของพระองค์อย่างกระหยิ่มยิ้มย่องในความเหนือชั้นกว่าพระองค์ให้พระองค์รู้สึกโกรธและทรมาน  ภาวิตจับข้อมือด้านซ้ายของพระองค์ขึ้นมาแล้วทำการสับกุญแจมือล็อคข้อมือติดไว้กับกุญแจมือในทันทีแล้วสายตาของภาวิตก็มองตรงไปยังหัวเตียงพระบรรทมแล้วทำการล็อคกุญแจมือล็อคติดกับหัวเตียงไว้เช่นเดียวกันกับข้อมือของพระองค์ แล้วภาวิตก็จับข้อมือด้านขวาของพระองค์ทำเช่นเดียวกันกับข้อมือด้านซ้ายขณะนี้ข้อมือทั้งสองข้างของพระองค์ขาดอิสระภาพในการช่วยเหลือพระองค์เองทุกอย่างโดยสมบูรณ์แบบแล้ว พระองค์เป็นเหมือนลูกนกตัวน้อยๆ ที่กำลังรอคอยความตายอย่างช้าๆ ในเวลานี้พระองค์รู้สึกโกรธและโมโหอย่างมากมายจนหาคำมาบรรยายไม่ได้...

 

“ไอ้ภาวิตแกไอ้ชั่ว แกบังอาจใส่กุญแจมือข้า หากข้าหลุดรอดไปได้ข้าจะสับเจ้าเป็นหมื่นๆชิ้นเจ้าคอยดูแล้วกัน”

 

“ฮ่าๆๆๆ ฝันไปเถอะองค์สิงหราช อย่างที่ข้าได้บอกท่านไว้แล้วท่านไม่มีวันจดจำสิ่งที่ข้าทำในวันนี้ได้แน่นอน....ข้าจะทรมานท่านได้เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น ท่านไม่มีวันทำอะไรกลับคืนให้แก่ข้าได้อย่างแน่นอนองค์สิงหราช”

 

“อ่าๆๆๆ ข้าไม่ยอม ข้าจะต้องแก้แค้นคืนกลับให้แกเจ้าให้จงได้ ไอ้ภาวิต”

 

“อย่างนั้นรึ องค์สิงหราช อย่างนั้นดูสิว่าท่านมีความสามารถจริงรึเปล่า”

 

ภาวิตเริ่มหยิบเครื่องทรมานชิ้นที่สองขึ้นมามันคือเชือกเส้นยาวสีดำขนาดใหญ่ที่ม้วนไว้เป็นวงกลมแล้วทำการหมุนวนอวดโชว์ใกล้ๆดวงพระเนตรพระองค์อย่างกระหยิ่มยิ้มย่องอีกครั้ง..

 

“แกจะทำอะไรฉันไอ้ภาวิต...”

 

ไม่นานพระองค์ก็ได้คำตอบ ภาวิตลุกคลานตรงไปยังข้อเท้าด้านซ้ายของพระองค์เริ่มทำการเอาเชือกเส้นยาวมัดข้อเท้าด้านซ้ายของพระองค์ไว้แล้วลากเชือกเส้นยาวไปมัดติดกับเสาเตียงไว้อย่างแน่นหนาจนพระองค์ไม่สามารถขยับข้อเท้าได้อีกต่อไป ไม่นานภาวิตก็ทำอย่างเดียวกันกับข้อเท้าด้านขวาของพระองค์เหมือนดังกับข้อเท้าด้านซ้ายทุกประการ ในขณะนี้พระองค์ถูกพันธนาการแขนและขาไว้ด้วยกุญแจมือและเชือกจนไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวสิ่งใดได้อีกต่อไป อารมณ์โกรธ โมโหของพระองค์จึงเป็นสองเท่าทบทวีคูณ พระวรกายเร่าร้อนดังภูเขาไฟใกล้จะระเบิด...

 

“ไอ้ภาวิตปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ นี้คือคำสั่งหากเจ้าปล่อยข้าตอนนี้ ข้าจะถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเราสองคน ข้าจะลืมมันไปซะ และไม่เอาโทษอะไรกับเจ้า ...ไอ้ภาวิตปล่อยข้าเดี๋ยวนี้”

“ไม่มีทางองค์สิงหราช ไม่จนกว่าท่านจะยอมรับว่าท่านคิดถึงข้า ท่านหลงใหลข้า ท่านเสน่หาข้า อย่างอิสตรีเช่นหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่ง ท่านยอมรับมาเสียเดี๋ยวนี้แล้วข้าจะปลดปล่อยท่าน องค์สิงหราช”

 

“ไม่ข้าไม่ยอมรับ ข้าไม่ยอมรับ ข้าไม่ยอมพูดเด็ดขาด แม้ข้าจะต้องตายข้าก็ไม่มีวันพูด ไอ้ภาวิต เจ้าฝันไปเถอะ”

 

“อย่างนั้นรึ องค์สิงหราช ดูสิว่าท่านจะทนได้อีกนานแค่ไหน”

 

“เจ้าจะทำอะไรข้าอีกภาวิต หยุดเดี๋ยวนี้นะภาวิต ปลดปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ นี้คือคำสั่ง”

 

“ฝันไปเถอะองค์สิงหราช ดิ้นรนขัดขืนไปก็เท่านั้น ท่านไม่มีวันทำได้สำเร็จแน่ ข้าล็อคและมัดท่านอย่างดีต่อให้ท่านมีกำลังเท่าช้างสารก็ไม่มีทางดิ้นหลุดรอดออกไปได้...ฮ่าๆๆ”

 

“ไอ้ภาวิตเจ้าจำไว้ ต่อให้ต้องตามเจ้าไปจนสุดขุมนรก ข้าจะต้องตามแก้แค้นเจ้าให้จงได้”

 

“ฮ่าๆๆๆ ดูสิว่าท่านจะปากดีไปได้อีกนานแค่ไหนองค์สิงหราช”

 

ภาวิตหยิบเครื่องทรมานอย่างที่สามขึ้นมามันคือ*แส้แมวเก้าหางที่ใช้สำหรับเฆี่ยนตีนักโทษมันมีลักษณะเป็นแส้ซึ่งมีหนึ่งด้ามจับแต่มีหลายหางหากเฆี่ยนหนึ่งครั้งจะเกิดรอยช้ำทั้งหมดเก้ารอยมันจึงถูกเรียกว่าแส้แมวเก้าหาง..

 

“ไอ้ภาวิตแกจะเฆี่ยงตีข้าจริงๆอย่างนั้นรึ”

 

“ท่านคิดว่าอย่างไรล่ะ องค์สิงหราช ท่านคิดว่าข้าแค่เอามาขู่ท่านอย่างนั้นรึไง”

 

“อย่านะไอ้ภาวิต เจ้ารู้หรือไม่ มันเจ็บมากเลยนะหากโดนตีเพียงครั้งเดียวก็เหมือนกับโดนตีถึงเก้าครั้งเลยทีเดียว”

 

“ข้ารู้อยู่แล้วองค์สิงหราช นาทีนี้มันคือโอกาสสุดท้ายของท่านที่จะยอมรับกับข้ามาตรงๆท่านยอมสารภาพความในใจของท่าน กับข้ามาเสียเดียวนี้เลยไม่อย่างนั้นข้าจะเฆี่ยนตีท่าน จนพระวรกายของท่านช่ำไปทั้งหมดทั่วพระวรกายพระองค์เลย องค์สิงหราช”

 

“อย่า...อ..ย่า ...อย่าเลยภาวิต เจ้าเป็นราชองค์รักษ์ที่ซื่อสัตย์และน่ายกย่อง เจ้าอย่าทำเช่นนี้เลย เจ้าจะทำร้ายนายของเจ้าเช่นนี้ไม่ได้”

 

“ทำไมจะไม่ได้ ข้าเป็นราชองครักษ์ที่ซื่อสัตย์และน่ายกย่อง แต่ท่านเล่าทำไมไม่เป็นเช่นเดียวกับข้าท่านโกหกและไม่ซื่อสัตย์กับหทัยตัวเอง ดังนั้นข้าถึงได้ทำเช่นนี้อย่างไรเล่า ทำให้ท่านเป็นคนดี ซื่อสัตย์และน่ายกย่องเช่นเดียวกันกับข้า  องค์สิงหราช”

 

“อย่า  อ..อย่า ภาวิตอย่าทำกับข้าเลย”

 

“ถ้าไม่ต้องการเจ็บปวดก็ยอมรับมาเดี๋ยวนี้ องค์สิงหราช”

 

“ไม่ข้ายอมรับไม่ได้ ไอ้ภาวิต ไอ้ชั่ว ข้ายอมรับไม่ได้ ข้าเป็นถึงเจ้าชาย เป็นชายชาตรีเรื่องอะไรจะมารักชอบผู้ชายด้วยกันเอง ไอ้ภาวิตหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ ข้าบอกให้เจ้าหยุด”

 

“ฝันไปเถอะ องค์สิงหราช ท่านจงรับการเฆี่ยนตีจากข้า ณ บัดนี้”

 

“อ..ย่..ย่า....อย่า....ปล่อยข้าไป ไอ้ภาวิต  ปล่อยข้าไป”

 

ภาวิตไม่ยอมฟังเสียงร้องขอความเมตตาก้าวเดินตรงกลับขึ้นไปยังเตียงพระบรรทมอีกครั้งทำการถอดชุดนอนผ้าไหมของเจ้าชายออกจากพระวรกายจนเปลือยเปล่า พระวรกายที่งดงามพยายามดิ้นรนหาทางหลุดพ้นการเครื่องพันธการอย่างสุดชีวิตจิตใจแต่ก็ไร้ผล...พระองค์ได้แต่ส่งเสียงร้องเพื่อขอความเมตตาแต่เหมือนว่าน้ำเสียงของพระองค์จะส่งไปยังจักรวาลอันว่างเปล่าแห่งอื่นซึ่งไม่มีใครสามารถได้ยินเสียงของพระองค์ได้ จนพระองค์เริ่มเหนื่อยและอ่อนแรงจึงหยุดและยอมรับการลงโทษจากแส้ของราชองครักษ์ภาวิตอย่างจนซึ่งปัญญาจะดิ้นรนหนีได้ เมื่อภาวิตถอดฉลองพระองค์ออกจนพระวรกายพระองค์เปลือยเปล่าแล้วก็ลุกก้าวเดินลงไปอยู่ริมรอบเตียงพร้อมแส้เส้นยาวในมืออย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง แล้วการลงมือเฆี่ยนตีครั้งแรกก็เริ่มขึ้นเสียงการลงแส้สู่พระวรกายของพระองค์ยังตราตรึงแม้ยามทรงตื่นจากพระสุบินแล้วก็ไม่สามารถลืมเลือนได้...

 

“ฟิ้วว......วววว....ฟิ๊วววววว”

 

“อ่า....อ่า...ข้าเจ็บบบ”

 

“เป็นอย่างไรองค์สิงหราชท่านทรงชอบหรือไม่พะยะค่ะ”

 

“ไอ้ภาวิต หากข้าเฆี่ยนเจ้าเช่นนี้บ้างเจ้าจะชอบหรือไม่เล่า”

 

“ข้าอาจจะชอบก็ได้ หากท่านเป็นคนเฆี่ยนข้าเองกับมือ องค์สิงหราช”

 

“ไอ้ภาวิต แกมันไอ้โรคจิต วิปริตผิดปกติทางเพศ”

 

“อย่านั้นรึ องค์สิงหราช แต่ข้าคิดว่าท่านต่างหากคือไอ้โรคจิต วิปริตผิดปกติทางเพศ องค์สิงหราช ไม่ใช่ข้าแน่นอน”

 

“ไม่จริง ข้าไม่เป็นเช่นนั้นแน่ ภาวิต”

 

“แต่ท่านเป็นอย่างแน่นอน องค์สิงหราช”

 

“ไม่จริงเจ้ามีหลักฐานอะไรมากล่าวหาข้า ไอ้ภาวิต ไอ้ชั่วร้าย”

 

“ท่านต้องการหลักฐานจริงๆ อย่างนั้นรึ องค์สิงหราช”

 

“ใช่ข้าต้องการหลักฐานมายืนยัน เจ้าอย่าได้มากล่าวหาข้าโดยไม่มีหลักฐานเช่นนี้ ไอ้ภาวิต”

 

“ฮ่า...ฮ่าๆๆๆ ข้าจะเอาหลักฐานมายื่นยันกับท่านอย่างแน่นอน องค์สิงหราช แต่ท่านต้องยอมให้ข้าเฆี่ยนตีต่อไปอีกสักเก้าครั้ง ท่านจะยอมรับหรือไม่องค์สิงหราช”

 

“อย่าข้าไม่ยอมรับ ข้าไม่ยอมรับอะไรทั้งนั้น ข้าไม่ยอมรับว่าข้าชอบเจ้า และข้าก็ไม่ยอมรับที่จะให้เจ้าเฆี่ยนตีข้าด้วยไอ้ภาวิต ไอ้ชั่ว ไอ้โรคจิต  หยุดเดี๋ยวนี้อย่าทำร้ายข้า  หยุดๆๆได้แล้ว”

 

“ฝันไปเถอะ องค์สิงหราช ข้าจะเฆี่ยนตีท่านไปเรื่อยๆ จนกว่าท่านจะยอมพูดความในใจออกมา โปรดรับการเฆี่ยนตีครั้งแต่ไป ณ บัดนี้ องค์สิงหราช”

 

“อย่าได้โปรด...ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย  ....ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย.....”

 

“สายลับผู้แข็งแกร่งและกล้าหาญผู้ไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อความชั่วและความ อยุติธรรม ท่านเรียกร้องหาข้าให้ข้ามาช่วยเหลือท่านอย่างนั้นรึ”

 

“ขบถ...นั้นเจ้าจริงๆใช่มั้ย ข้าติดตามหาเจ้าไม่เคยลืมเลือนเลยแม้แต่วันเดียวสุดท้ายเจ้าก็เป็นฝ่ายติดตามหาข้าจนพบ  เจ้าได้โปรดช่วยเหลือข้าอีกสักครั้งด้วยเถอะ ไอ้ภาวิตมันเป็นราชองครักษ์โรคจิต มันคิดคดทรยศ ขบถต่อข้า มันพันธนาการข้าด้วยกุญแจมือ และเชือก แล้วมันยังเฆี่ยนตีข้าด้วยแส้สำหรับเฆี่ยนตีนักโทษอีกด้วย เจ้าได้โปรดจับกุมมันแล้วปลดปล่อยข้าจากเครื่องพันธนาการนี้ด้วย ได้โปรดเถอะ...ขบถ...ข้าขอร้องเจ้าอีกสักครั้ง”

 

“ตกลง ข้าจะช่วยท่าน สายลับผู้แข็งแกร่งและกล้าหาย...”

 

“อย่างนั้นเจ้าลงมือจับกุมไอ้ภาวิตให้แก่ข้าได้เลย...ขบถ”

 

“เดี๋ยวก่อนสายลับผู้แข็งแกร่งและกล้าหาย ก่อนที่ข้าจะช่วยเหลือท่าน ท่านจงรับปากข้าอย่างหนึ่งเสียก่อน”

 

“ตกลงข้ารับปากเจ้าทุกอย่าง บอกข้ามาได้เลย...ขบถ”

 

“อย่างนั้นท่านได้โปรดรับเลี้ยงกระต่ายน้อยสองตัวนี้ให้แก่ข้าได้มั้ย สายลับผู้แข็งแกร่ง...”

 

“กระต่ายอะไร...ขบถ...ไหนเอามันมาใกล้ข้าหน่อยสิ ข้าไม่สามารถลุกออกไปจากเตียงพระบรรทมของข้าได้ ไอ้ภาวิตมันพันธนาการข้าไว้อย่างนักโทษแลทาสโรคจิตของมัน”

 

“กระต่ายสองตัวนี้อย่างไรกันเล่า สายลับผู้กล้าหาญและแข็งแกร่ง มันเป็นกระต่ายตัวสีดำและกระต่ายตัวสีขาว กระต่ายทั้งสองตัวมันเป็นเหมือนดังพี่น้องกัน มันสามารถที่จะตายแทนกันได้เลยล่ะ...สายลับผู้แข็งแกร่ง”

 

“เรื่องแค่นี้เองรึ...ขบถ...ข้ารับปากเจ้าข้าจะดูแลกระต่ายดำและกระต่ายขาวทั้งสองตัวนี้เป็นอย่างดี ข้าสัญญาด้วยเกียรติแลศักดิ์ศรีของข้าเจ้าชายแห่งมหภาคเดือนตะวัน เจ้าจงเชื่อใจข้าได้...ขบถ”

 

“ท่านอย่าได้ลืมสัญญาล่ะ สายลับผู้แข็งแกร่ง หากท่านลืมสัญญาข้าจะกลับมาเอาชีวิตท่านๆจงจดจำเอาไว้ให้ดี”

 

“ข้าจะจดจำไว้เป็นอย่างดี...ขบถ...เจ้ารีบจับกุมไอ้ภาวิตให้แก่ข้าเถอะ เดี๋ยวมันจะหนีไปเสียก่อน เจ้าจงระวังตัวด้วยไอ้ภาวิตมันเป็นโรคจิต มันสามารถทำได้ทุกอย่าง เจ้าดูสภาพข้าก็น่าจะรู้แล้ว..ขบถ”

 

“ไม่มีใครสามารถรอดพ้นจากปืนในมือของข้าไปได้หรอกสายลับผู้แข็งแกร่ง นอกจากองครักษ์ของท่านจะเป็นดังแมวเก้าชีวิตตายไม่เป็นเท่านั้น”

 

“นังขบถปากเสียบังอาจมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของข้าภาวิตคนนี้ เจ้าต้องได้รับโทษเช่นเดียวกันกับเจ้าชายสิงหราช”

 

“แก่เองรึภาวิต ไอ้องครักษ์โรคจิต บังอาจมายุ่งเกี่ยวกับสายลับผู้แข็งแกร่งและกล้าหาญ ผู้เสียสละชีวิตเพื่อชาติบ้านเมือง ข้าจะจับกุมเจ้าให้แก่สายลับผู้กล้าหาญได้ลงโทษในความผิดของเจ้า”

 

“อย่างนั้นก็เข้ามาเลย มาสู่กันให้รู้แพ้ รู้ชนะกันไปข้างหนึ่ง...ไอ้ขบถขายชาติขายแผ่นดิน”

 

เสียงการต่อสู่กันระหว่างภาวิตและขบถสาวสวยก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายการต่อสู่ของทั้งสองคนก็จบลงอย่างรวดเร็ว พระองค์ทรงจ้องมองตรงไปยังภาวิตและขบถสายสวยทั้งสองคนต่างนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง หรือว่าทั้งสองคนต่างสู่กันจนตายกันไปจนหมดสิ้นแล้ว... โอ้พระเจ้า...แล้วพระองค์จะทรงทำเช่นกันกันเล่า  ...พระเจ้า!! ช่วยชีวิตพญาราชสีห์เช่นข้าองค์สิงหราชผู้นี้ด้วย...ข้าถูกพันธนาการไว้ด้วยกุญแจมือและเชือกอย่างแน่นหนา พรุ่งนี้เช้าข้าจะมีหน้าไปพบเจอใครได้...

 

“ภาวิต...ขบถ..พวกเจ้าลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้น่ะ มาปลดปล่อยข้าก่อน...ไอ้ภาวิต แกจะมาตายตอนนี้ไม่ได้นะลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลย...ขบถเจ้ารู้สึกตัวหรือไม่...ลุกขึ้นมาช่วยข้าก่อน”

 

 

“สายลับผู้แข็งแกร่งข้าต้องขอโทษท่านด้วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือท่านให้หลุดพ้นจากเครื่องพันธนาการตัวของท่านไปได้ แต่ข้าก็ได้จัดการกับไอ้ภาวิต ไอ้โรคจิตให้แก่ท่านได้แล้ว...ท่านจงอย่าได้ลืมสัญญาระหว่างเรา ได้โปรดเลี้ยงดูกระต่ายดำและกระต่ายขาวสองตัวนี้ให้แก่ข้าด้วย...ข้าขอลาก่อน...สายลับผู้แข็งแกร่งและกล้าหาญ”

 

“ม้ายย...อย่าเพิ่งตาย...ช่วยข้าออกจากเครื่องพันธนาการนี้ก่อน..อ..ย่า...เ..พิ่..ง ..ต ..ตา..ย...ตอนนี้...”

 


.............................................................

 

 

“องค์สิงหราช เราถึงรัฐสภาแล้วพะยะค่ะ..ท่านทรงคิดถึงเรื่องอะไรอยู่พะยะค่ะเจ้าชาย...เหมือนท่านจะพระพักตร์ซีดๆ นะพะยะค่ะ องค์สิงหราช”

 

“ไม่มีอะไรไผท...ข้าฝันร้ายมากๆเมื่อคืนนี้...วันนี้จึงเก็บเอามาคิดเล่นๆก็เท่านั้นเอง”

 

“องค์สิงหราช โบราณว่าฝันร้ายจะกลายเป็นดี นะพะยะค่ะ วันนี้พระองค์ต้องพบแต่สิ่งดีๆแน่ๆเลย”

 

“ไผท หากเจ้าฝันเช่นข้า เจ้าจะไม่คิดเช่นนั้นแน่นอน”

 

“มันน่ากลัวมากหรือองค์สิงหราช”

 

“ฮ่าๆๆ ...มันน่ารักเสียมากกว่าไผท...”

 

“น่ารักหรือองค์สิงหราช...อย่างไรกัน”

 

“ก็ข้าฝันเห็นกระต่ายสีดำและกระต่ายสีขาวสองตัว..มันจะไม่น่ารักได้อย่างไรกัน”

 

“เออ..วันนี้กระหม่อมคงต้องระวังตัวเพิ่มขึ้นเสียแล้วล่ะองค์สิงหราช โบราณว่าฝันดีจะกลายเป็นร้าย”

 

“ฮ่าๆๆๆ .....ไอ้ไผท...แกมันไปติดโรคกวนๆแบบนี้มาจากไอ้ภาวิตใช่มั้ย...”

 

“พะยะค่ะ...องค์สิงหราช”

 

“ออ..ไผทหากวันนี้เจ้าสามารถจับกระต่ายสีดำหรือกระต่ายสีขาวได้ อย่าได้เข่นฆ่ามันจับมันเป็นๆมาส่งให้แก่ข้าด้วย”

 

“กระต่ายดำและกระต่ายขาว ข้าจะไปจับมันจากไหนมาให้แก่ท่านได้ องค์สิงหราช”

 

“ฮ่าๆๆๆ ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันไผท...เมื่อคืนนี้ในความฝันของข้า ข้าได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับผู้หญิงคนหนึ่งไว้ว่าจะช่วยนางเลี้ยงดูกระต่ายดำและกระต่ายขาวให้เป็นอย่างดี ดังนั้นวันนี้ข้าจึงคิดว่าน่าจะรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับนางในความฝันของข้าเสียหน่อยนะ... ไผท”

 

“องค์สิงหราช....ท่านเอาความฝันมาร่วมกับเรื่องจริงหรือนี้”

 

“ฮ่าๆๆใช่แล้วไผท...อย่างนั้นเจ้าก็จงทำความฝันของข้าให้เป็นเรื่องจริงด้วย...ไผท...ฮ่า...ๆๆ”

 

“องค์สิงหราชทรงเสียพระสติไปแล้ว....”

 

……………………………………………………..

จบบทที่ 6 บทที่ 7 แฝงกายลอบสังหาร

..............................................................

http://www.keedkean.com

*Cat O' nine tail
แส้แมวเก้าหาง
เป็นชื่อแส้ชนิดหนึ่งซึ่งมีหนึ่งด้ามแต่มีหลายหางโดย ทั่วไปก็มีเก้าหาง ดังนั้นเวลาฟาดหนึ่งทีก็จะทิ้งรอยแส้ไว้เก้ารอย สร้างความเจ็บปวดรวดร้าวให้ผู้ที่โดนเป็นอย่างมาก นิยมใช้ในการลงโทษเฆี่ยนนักโทษในกิจการของราชนาวีอัง กฤษโบราณ
ค.ศ.1702 ราชนาวีอังกฤษไม่อนุญาตให้กัปตันเฆี่ยนนักโทษได้เกิน 12ครั้งยกเว้นจะได้รับอนุญาตเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่ค่อยมีใครยึดถือปฏิบัติตามกันมากนักแล้ว
การใช้แส้เฆี่ยนนักโทษได้ถูกยกเลิกไปในปี1879 ดังนั้นการใช้แส้แมวเก้าหางนี้ก็หมดไปจากราชนาวีอังกฤษ


...................................................................................


เปิบข้าวทุกคราวคำ จงสูจำเป็นอาจิน
เหงื่อกูที่สูกิน จึงก่อเกิดมาเป็นคน
ข้าวนี้ นะมีรส ให้ชนชิม ทุกชั้นชน
เบื้องหลังสิทุกข์ทน และขมขื่น จนเขียวคาว

 

..............................

 

ส่งท้ายบทกลอนเพราะๆ

...............................................

 


 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา