Angel's quest Part I Staff of angel
18) Staff of angel บทที่18 บลู เฟร์รี่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความAngel Fantasy
บทที่18
อาทีน่าซ่อนตัวอยู่ที่มุมลึกของสุสานในดีเชโน่ แม้ว่าเวลานี้เป็นกลางวันแต่ดวงตะวันก็ส่องแสงมาไม่ถึงที่นี่ อาทีน่าค้นพบที่นี่นานแล้ว และเล็งไว้เผื่อจะหลบหนีออกมาจากสถาบัน เธอจะได้มาที่นี่ อาทีน่าแน่ใจว่าไม่มีใครหาเธอเจอเพราะ สุสานแห่งนี้ทุกคนแทบจะลืมมันไปแล้ว ทิ้งไว้แค่ว่าบรรพบุรุษได้นอนหลับอย่างยาวนานที่นี่เท่านั้น อาทีน่าแทบจะไม่มีเสียงลอดออกมาจากความเหน็ดเหนื่อยที่ต้องใช้วิชาที่ใช้พลังกายเยอะพอสมควร แล้วยังใช้มากครั้งด้วย อาทีน่าหลังพิงขวาเธอเหนื่อยหอบซึ่งไม่ค่อยได้เกิดนัก
เธอคว้าบางอย่างในกระเป๋าพก มันเป็นวัตถุสีดำคล้ายๆกับอัญมณี เธอจุมพิตลงบนสิ่งนั้น แล้วก็บางอย่างเกิดขึ้น วัตถุนั้นส่องแสงสีดำวาบไปทั่วบริเวณ อาทีน่ายิ้มก่อนจะกลืนมีลงไป
“ชั้นคงต้องใช้มันแล้ว ขอโทษนะท่านพ่อ”
เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงกับตัวเธอ อาทีน่ากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เสียงราวกับคนโดนหักแขนหักขา เสียงกรีดร้องของเธอน่ากลัวเกินกว่าจะบรรยาย ไม่นานเสียงของอาทีน่าก็เงียบไป มีบางอย่างงอกมากลางหลังเธอ มันเริ่มขยายใหญ่ขึ้นจนดูออกว่ามีสองอัน มันเริ่มจะเป็นรูปร่าง เสียงของอาทีน่าดังขึ้นอีกรอบ สิ่งนั้นค่อยๆงอกงามต่อไปกันดูออก มันเติบโตอย่างรวดเร็วจนคล้ายปีกค้างคาวสีดำ ในที่สุดเสียงของอาทีน่าก็หยุดพร้อมกับปีกสองข้างที่งอกสำเร็จ อาทีน่าตรวจดูมันแล้วยิ้มอย่างพอใจ
“ข้าคงอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแล้ว เดสโฟรข้าจะไปอยู่กับท่าน”
อาทีน่าพูดแล้วก้าวออกจากที่ซ่อน เธอลองกระพือปีกดู มองได้ผล อาทีน่าสามารถควบคุมมันได้แล้ว เธอเริ่มกระพือปีกหนักหน่วงขึ้น ในที่สุดอาทีน่าก็ลอยขึ้นไปสองสามฟุตแล้วหล่นลงยืนบนพื้น
“เอาละงั้น ไปกัน”
อาทีน่ากระโดดขึ้นไปบนอากาศเธอลอยตัวสูงอย่างเคยแล้วกระพือปีกทั้งสองข้าง อาทีน่าพุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้า เป็นจุดสีดำถ้าดูจากสถาบันสอนผู้วิเศษณ์ อาทีน่ายิ้มอย่างพอใจ เธอมุ่งหน้าสู่เทือกเขาแบล็กไวท์ อันเป็นสถานที่ซ่อนถ้ำลับของเผ่าดาร์ก อาทีน่าร่อนบนฟ้าอย่างเสรี ผ่านทุ่งนากว้างใหญ่ ชาวนาต่างทำนากันอย่างขยันขันแข็ง มีบางคนที่มองขึ้นบนฟ้าแต่ก็คิดว่าอาทีน่าเป็นแค่นกเท่านั้น เพราะเธอลอยอยู่สูงมาก ขณะเดียวกันความเหน็ดเหนื่อยเมื่อครู่ก็หายไปเพราะสิ่งที่เธอเพิ่งกินเข้าไป อาทีน่าสังเกตเห็นสิ่งแปลกๆที่อยู่บนเมฆ มันเป็นจุดดำๆที่มุ่งหน้ามาทางเธออย่างรวดเร็วแทบไม่น่าเชื่อ
“มันคืออะไร”
อาทีน่าทำปากขมุบขมิบ เธอยังไม่ทันดึงมีดพกจากฝักที่สะเอว วัตถุนั้นก็ถึงตัวเธอ มันคล้ายกับนกตัวใหญ่สีดำที่มีคนขี่อยู่ อาทีน่าโดนโฉบขึ้นไปสูงกว่าเดิม เธอรู้สึกตัวอีกที เธออยู่บนนกยักษ์นั่นพร้อมคนขี่ของมัน
“หนีมาทำไม”
“เดสโฟร..”
อาทีน่าอุทานอย่างดีใจ เธอรู้สึกตื้นตันใจมาก มากพอที่จะอยู่กับเขาที่นี่ตลอดไป อาทีน่ายิ้มกว้างก่อนประคองกายในขณะที่วินด์ดอนบินสูงขึ้น
“มันจับได้ มันรู้ว่าข้าเป็นใคร”
“แล้วไปทำเอาท่าไหน”
“ข้ากำลังจะฆ่าอัศวินนั่นแล้วแท้ๆ”
“แต่เจ้าก็พลาด ข้าบอกแล้วไง อย่าเพิ่งวู่วาม รอโอกาสก่อน”
“ข้าทนเห็นมันเดินไปเดินมาไม่ไหว”
เดสโฟรปล่อยมือจากอาทีน่า ซึ่งเธอได้หุบปีกเป็นที่เรียบร้อนแล้ว อาทีน่าเกือบพลัดตกแต่ก็ยังประคองตัวได้อยู่
“มันเพิ่งมาได้แค่ 2 วันเองนะอาทีน่า”
“แต่...”
“เอางี้ ข้าจะพาเจ้าไปหาท่านฟลอริกซ์ ท่านผู้นั้นอาจจะช่วยเจ้าได้นะ อาทีน่า”
“ท่านพูดว่า ข้า ได้กลับบ้านแล้วหรือ”
“ใช่”
“แต่การกลับไปครั้งนี้มันไม่สบายเหมือนครั้งก่อน”
“ยังไงซะ ถ้ามีท่านอยู่ ข้าก็ไม่มอะไรจะห่วง”
“งั้นก็ดี”
วินด์ดอนถลาลมร่อนสู่เทือกเขาแบล็กไวท์ อาทีน่าทั้งตื่นเต้นที่ได้กลับบ้านและดีใจที่ได้อยู่กับเดสโฟร วันนี้เธอมีทั้งความทุกษ์และความสุขมากจริงๆ
บ่ายวันเดียวกัน วายุอยู่กับครูใหญ่แร็กทิวเพียงแค่สองคนในห้องครูใหญ่ เขาก้มหน้านิ่งเพราะทั้งชั่วโมงต่างคนต่างเงียบไม่พูดกัน ครูอลิซออกไปก่อนแล้วเมื่อชั่วโมงก่อน เธอพาพวกเอลไปตามคำสั่งของครูใหญ่แร็กทิว เขาบอกครูอลิซว่ามีธุระจะคุยกับวายุแต่นี่ก็ชั่วโมงแล้วเขายังไม่ได้ปริปากออกมาซักที วายุเองก็เริ่มจะเบื่อแล้วกับการเล่นบทเงียบ เขาอยากจะออกไปจากห้องนี้มากๆแต่ทำอะไรไม่ได้เมื่อสายตาของแร็กทิวจ้องเขายังกับจะดื่มเลือด
“ครูมีอะไรกับผม”
เสียงวายุดังขึ้นจากความรู้สึกเหมือนว่าจะทนไม่ไหวอีกแล้ว เพราะในเมื่อครูใหญ่แร็กทิวไม่ยอมปริปาก ของก็ต้องเป็นฝ่ายเริ่มเอง
“ครูละอายใจที่ดูแลเธอไม่ดี เธอชื่อวายุใช่ไหม”
“ใช่ครับ”
ครูใหญ่แร็กทิวถอนหายใจยาวๆ เขาคว้ากล่องสีฟ้าขนาดเท่ากล่องใส่แหวนออกมาจากชายผ้าคลุมสีเขียวมรกต เขายื่นให้วายุโดยการตั้งบนโต๊ะทำงาน
“นี่คือสิ่งที่จะคุ้มครองเธอ ชั้นยกให้เพราะชั้นเชื่อว่าเธอคงเป็นคนที่มาจากคำทำนาย”
“ครูเชื่อจริงหรอครับ แล้วครูรู้ได้อย่างไรว่าผมเป็นใคร ครูอลิซบอกครูงั้นหรอครับ”
“ชั้นรู้ตั้งแต่เธอเข้ามาที่นี่ครั้งแรกแล้วายุ พลังของเธอแตกต่างจากพวกเรา ชั้นเลยรู้ว่าเธอมาจากอีกโลก”
“แล้วพลังผมเป็นอย่างไรครับ ผมอาจจะเป็นพวกฮิวแมน(เผ่ามนุษย์ ครูอลิซบอกวายุ)”
ครูใหญ่ส่ายหน้าเชิงปฏิเสธ เขาเชื่อว่าวายุไม่ได้เป็นฮิวแมนแน่นอน เพราะเขาสามารถเห็นพลังของคนอื่นได้ และเขาใช้พลังแบบเดียวกับที่รู้ว่าอาทีน่าเป็นดาร์ก
“เธอไม่ใช่ฮิวแมน แต่แค่ลักษณะภายนอกที่คล้าย พลังของเธอที่มีอยู่ไม่สามารถนำออกมาใช้ได้ แต่ต้องมีอุปกรณ์ที่สามารถทำให้เธอใช้มันได้ ในกล่องนั้น”
วายุหันมองกล่องสีฟ้าอันเดิม มันไร้พิษสงอะไร เขาคิดอย่างไม่แน่ใจ มองภายอนกแล้วมันเหมือนกล่องทั่วๆไปแต่ที่จริงภายในมีสิ่งที่เขาเองก็คาดไม่ถึงอยู่
“เธอลองเปิดมันออกมาแล้วก็ท่องคาถา”
“คาถาหรอครับ”
“ใช่ เธอต้องท่องว่า ‘ข้าขอปลดผนึกเจ้า ผู้พิทักษ์ข้า ....’ แล้วตามด้วยชื่อที่เธอจะตั้งให้มัน”
“แล้วในกล่องนี้มีอะไรหรอครับ ผมจะได้ตั้งชื่อมันถูก”
“เฟร์รี่สีฟ้า”
“เฟร์รี่ สี ฟ้า หรอ ครับ”
วายุนึกทวนคำพูดของครูแร็กทิว เขารู้จักแฟร์รี่ แต่ว่ามันเป็นแค่นิยายสำหรับเขา และบางเกมส์ก็มีแฟร์รี่เหมือนกัน เขาแทบนึกไม่ออกเลยว่าชีวิตจริงมันจะเป็นยังไง
“เอาสิ เธอจะตั้งชื่อมันว่าอะไร”
“เฟร์รี่สีฟ้า สีฟ้าอังกฤษว่า บลู ผมตั้งชื่อว่าบลู”
“อืมดี ชื่อแปลกดี งั้นพูดสิ ‘ข้าขอปลดผนึกเจ้า ผู้พิทักษ์ข้า บลู’ เอาเลย”
วายุหยิบกล่องบรรจุแฟร์รี่สีฟ้าออกมา เขาเปิดกล่องออก มันเป็นแหวนสีทองที่ประดับอัญมณีสีฟ้าไว้กลางหัวแหวน เขาใส่มันที่นิ้วนางด้านซ้ายัมนทำให้เขาใชรู้สึกเย็นไปทั้งตัว
“พูดสิ”
“ข้าขอปลดผนึกเจ้า! ผู้พิทักษ์ข้า! บลู!”
แสงสีฟ้าจ้าทั่วห้องครูใหญ่ มีบางอย่างพุ่งออกจากแหวน มันบินว่อนไปทั่วบริเวณ วายุตื่นเต้นกับมันมาก ในที่สุดแสงสวยงามก็หมดไป มีเพียงแฟร์รี่สีฟ้าที่ชื่อ”บลู”บินอยู่ข้างๆเขา
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ