เสียงกระซิบของ (ชายฉกาจ )

บทที่ 1
ตอน  การสันนิษฐาน   
                เสียงโทรศัพได้ดังขึ้นจากสำนักงานตำรวจนครบาล  กิ๊ง กิ๊ง กิ๊ง กิ๊ง
                    “ฮัลโหล” ผมร้อยตำรวจเอก นรินัน แสงไกล ฝ่ายกองกำกับการพิสูตรหลักฐานคับ  หลังจากรายงานตัวเสร็จสิ้น ก็ได้มีเสียงพูดแหลมๆซึ้งฟังดูแล้วไม่เหมื่อนผู้ชายซะเท่าไหร่ตอบกับมาจากทางโทรศัพ 
               “ผู้กองเรื่องคดีของนายสน นักโทษฉกาจ ชันสูตรศพไปถึงไหนแล้ว” ตอนนี้ยังไม่มีปัญหาอะไรคับ ก็ดีแล้วผู้กอง ซะพักเสียงพูดของผู้กองนรินันฟังดูเปลี่ยนไป     แต่ว่า ผู้กำกับ คับ ผมว่าคดีนี้มันยังไงๆ อยู่นะคับ ผู้กำกับซึ้งได้ฟังผู้กองนรินันถึงกับ ตกใจ! อย่างไม่คาดคิด อ่าวแล้วไหนผู้กองบอกว่าไม่มีปัญหาอะไร เสียงผู้กำกับฟังดูเหมื่อนกำลังโมโหให้กับผู้กองนรินัน ซึ่งเค้าได้รับตำแหน่งผู้กองฝ่ายพิสูตรหลักฐานได้ไม่นานมานี้เอง ผมแค่สงสัยเท่านั้นคับ ว่าจากการตายของนายสน  ท่านายสนเค้าคิดจะฆ่าตัวตายจิงๆ แล้วทำไมถึงกับต้องลงมือทำขั้นตอนของตัวเองที่เอาไว้สังหารเหยื่อด้วยคับ   
                      ผู้กำกับถึงกับ งง ในข้อสันนิษฐานของผู้กองหนุ่มนรินัน   อยู่พักใหญ่……..   หรืออาจจะมีฆาตกรอีกคนคับ!
                      “เสียงตะโกนดังขึ้นจากทางโทรศัพ”    !มันก้อต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วซิผู้กอง   เสียงอันแหลมๆของผู้กำกับตอบกับแบบทันควัน   ทำให้ผู้กองนรินันหยุดพูดไปกระทันหันจากเสียงตะโกนที่ได้ยินของผู้กำกับ      ………..   
                       อ่าวผู้กองแล้วคุณจะเงียบทำไมล่ะ      พูดต่อไปซิ…      เสียงแหลมๆของผู้กำกับก็ได้จบลงเมื่อได้ต่อว่าผู้กองนรินันเสร็จ……. 
                     ขอโทษคับ!   ท่าอย่างนั้นผมขอพูดต่อนะคับ….   อื้ม…     เร็วๆด้วยล่ะนี่มันก็ดึกมากแล้วด้วย    ได้คับ…..   หลังจากผู้กำกับได้เงียบเสียงลงผู้กองนรินันจึงได้ทำการสันนิษฐานต่อ…
                     ท่าเกิดมีฆาตกรอยู่จิง      ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนขึ้นมาอีก………..   เอ๊ะ!  ผู้กองคุณจะเอายังไงกับผมนี่  ซึ้งนั้นก็เป็นเสียงของผู้กำกับที่ได้ต่อว่าผู้กองนรินันนั้นเอง ท่ามันไม่มีฆาตกรอยู่จิงแล้วใครมันจะเป็นคนฆ่า ไอสน  ฆาตกรต่อเนื่องรายนี้กัน   เสียงโมโหที่ต่อว่าผู้กองนรินันสุดแรงของผู้กำกับ  แต่ดูเหมื่อนว่าผู้กองนรินันจะไม่สนใจเรื่องตำแหน่งของผู้กำกับ   เลยในตอนนั้นและอารมที่โมโหสุดๆของเค้า     จึงตอบกับไปแบบไม่ทันคิดเลยก็ว่าได้ …..   แต่ว่าคดีนี่มันก็ยังไม่มีใครสามารถปิดมันลงได้เลยนะคับ….   ผมแค่สันนิษฐานเฉยๆ   
                     ฟู่ …..  เสียงถอดหายใจที่ฟังดูเหมื่อนจะเริ่มรู้สึกรำคาญผู้กองนรินันของผู้กำกับแต่ดูเหมื่อนจะทำให้เค้าในตอนนั้นเริ่มค่อยๆใจเย็นลงไปบ้าง    กับการเถียงของผู้กองนรินันซึ้งมันอาจจะดูไม่เข้าท่าเอาซะเลย ที่จะต่อปากต่อคำกับผู้ที่มีตำแหน่งและประการณ์สูงมากกว่าตัวเอง 
                    งั้นเชิญผู้กอง….      พูดต่อไปซิ…     
                    ได้คับ  งั้นผมพูดต่อนะคับ  อื้ม….  ผู้กำกับจึงได้เงียบเสียงของตัวเองลงแล้วได้มาตั้งใจฟังการสันนิษฐานของผู้กองนรินันจิงๆจังๆซะที ผู้กองหนุ่มไม่สนใจจึงถึงเรื่องนั้น จึงได้พูดต่อแบบว่าไม่มีท่าทีจะเกิดอะไรขึ้นในเมื้อสักครู่นี้……     
                   ท่าหากเกิดมีฆาตกรอยู่จิงแล้วทำไมเค้าต้องสังหาร นายสน ด้วยวีธีของ นายสนเอง ซึ้งข้อสันนิษฐานนี่ ผมคิดว่าอาจจะเป็นคนใกล้ตัวหรือคนรู้จักของเค้าก็ว่าได้คับ  แต่ว่า...     ทำไมต้องสังหาร นายสนด้วย หรือเค้าต้องการที่จะปกปิดความลับอารายบ้างอย่าง     …………………………………………………
                     “ผู้กอง”    ผู้กอง …..  เสียงแหลมๆของผู้กำกับที่ส่งผ่านมายังทางโทรศัพ      ทำให้ผู้กองนรินันถึงกับตกใจ!เสียงของผู้กำกับ   ที่อยู่ๆเค้าก็หยุดพูดไปสักครู่หนึ่ง    คับ!!!     
                                    
                     ผู้กองคุณจะเงียบทำไมล่ะ   ขอโทษคับ   คือว่าผมกำลังคิดอะไรนิดหน่อยเกี่ยวคดีคับ  ไหนผู้กองลองสันนิษฐานมาอีกซิ    ได้คับ เสียงกับตอบจากผู้กองหนุ่มนรินัน     ท่ายังไงผมขอพูดต่อนะคับ    อื้ม…..    
         หรือในอีกแง่มุมหนึ่ง นายสนคิดจะทำสัญลักษณ์บนร่างกายและอวัยะของตัวเอง   แต่ทำไม! นายสนถึงกับต้องลงมือสังหารตัวเอง   เพื่ออะไรกัน   หรือว่าเค้าต้องการจะบอกใบ้อะไรบ้างอย่างให้กับทางเรา หรือป่าวคับ ทันทีที่ผู้กองได้สันนิษฐานในข้อนี้เสร็จ ผู้กำกับได้แต่เงียบซึ้งอาจจะดูเหมื่อนไม่มีมารายาทในการฟังเอาซะเลย
                      “ผู้กำกับ  ผู้กำกับคับ”  อื้ม…  ผู้กำกับได้ฟังที่ผมพูดไหมคับ  อื้มผมฟังผู้กองอยู่ว่า                 ต่อไปซิ……..
                       อีกอย่างคับ  นายสน  ถึงได้ว่า   เป็นอาชญากรที่ชื่นชอบความรุนแรงและมีสมองอันอัจฉริยะซึ้ง   เค้าไม่น่าจะใช้ความเป็นอัจฉริยะมาเป็นอาชญากรเลย   
ไม่นานก็มีเสียงตอบกับจากผู้กำกับ  ก็เจ้าหมอนี้มันชอบคิดปริศนาและรูปคดีที่มีความเป็นไปไม่ได้    : แต่น่าจะเป็นไปได้สูง :  อยู่ซิผู้กอง  คับ ผมก็คิดแบบนั้นอยู่เหมื่อนกันคับ
                       แต่ท่าเกิด! นายสน เค้าไม่ตายล่ะคับ รูปคดีมันน่าจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือก็ได้นะคับ  แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะผู้กอง  ทั้งๆที่ศพฝ่ายพิสูตรหลักฐานก็ได้ยืนยนว่าเป็นศพของนายสนจิงแล้วนิ 
                       ผมแค่ลองสันนิษฐานขึ้นมาคับ  ไหนลองบอกข้อสันนิษฐานข้อนี้ของผู้กองมาซิ   ได้คับ  ท่าเกิดนายสนเค้ายังไม่ตายจิงๆ  แต่ได้นำศพที่มี  ทั้ง DNA และรูปร่างคล้ายคลึงกับเค้ามาทั้งหมด  เพื่อจะอำพรางคดีในการหลบหนีของตัวเค้าเอง   และสร้างรูปคดีอันน่าสะพรึงกลัวให้กลับผู้พบเห็น  และความสับสนให้กับทางกรมตำรวจ  ซึ้งมันไม่น่าจะเป็นไปได้  และท่าเป็นจิงจากข้อสันนิษฐานนี่ของผม         นายสนเค้าใช้วิธีการหลบหนีรูปแบบไหน แล้วเหยื่อที่เค้าๆได้สังหารไป เป็นใครกันแน่!!!!    จากที่ผู้กองนรินันได้ทำการสันนิษฐานข้อนี่เสร็จ ก็ได้มีเสียงตอบกับจากทางโทรศัทแบบทันควัน                                                                                        
                       ผู้กอง ผมคิดว่าการสันนิษฐานในข้อนี้ของผู้กอง ซึ้งมันอาจจะเป็นไปไม่ได้ซะเท่าไหร่  เพราะหลังฐานทั้งหมดก็ได้ยืนยนว่าเป็นศพของ นายสนจิงทั้งหมด ทั้งรูปรักภายนอก DNA แล้วชิ้นส่วนอวัยวะ  แต่ท่ามันเป็นจิงกับการสันนิษฐานของผู้กอง นายสนจะนำศพที่มีอวัยวะทุกอย่างเหมื่อนเค้ามาได้ยังไงกัน ผมว่ามันน่าจะมีเปอร์เซ็นน้อยไปซะหน่อยนะ
                     
                       แต่ท่า นายสน คิดจะสร้างคดีนี่ขึ้นมาจิงๆล่ะก็ แล้วศพที่นอนตายอยู่ในห้องชันสูตรของผู้กองละ มันเป็นใครกัน! ทั้งที่ท่าฝ่ายผู้กองก็ได้บอกว่าเป็นศพของนายสนจิง หรือผีนายสนมันได้กับมาจัดรูปคดีใหม่ให้กับทางเรา   ล่ะผู้กอง  ทันทีที่ผู้กำกับพูดจบ ผู้กองหนุ่มนรินันได้ยิบเอกสารรูปถ่ายในคดีขึ้นมาดูทั้งหมด
                      
                       ผู้กำกับคับ  แล้วไอกำแพงที่มีสัญลักษณ์รูปกากบาทสามตัว  กับชิ้นส่วนขากับแขนที่เต็มไปด้วยตัวอักษรล่ะคับ  ผมว่าฆาตกรต้องการจะสื่อความหมายหรือบอกใบ้ให้กับเราก็ได้นะคับ มันก็ไม่แน่นะผู้กอง ยังไงคืนนี้ก็พักผ่อนก่อนแล้วกัน ตอนนี่มันดึกมากแล้ว ส่วนข้อสันนิษฐานของผู้กองผมจะกับไปคิดดูอีกที