บทเพลงรักสะกิดใจ นายสุดฮอต!!

8.8

เขียนโดย Namizz

วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 20.37 น.

  27 chapter
  129 วิจารณ์
  42.04K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558 09.57 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

22) ~ 22 ~

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

     กริ๊งๆๆ กริ๊งๆๆ !!

 

 

     ร่างบางสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น...ฉันรีบยกหลังมือปาดน้ำตาทิ้ง ก่อนปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติแล้วเดินไปรับโทรศัพท์เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

 

“ฮะ...ฮัลโหล...สวัสดีค่ะ”

 

 

‘ฮัลโหลนียาเหรอ...นี่เฟิร์นนะ...แกเป็นอะไรมากหรือเปล่า ทำไมแกไม่มางานโรงเรียน แล้วทำไม...’

 

 

“แกจะให้ฉันตอบคำถามไหนก่อน...ฉันแค่ปวดหัว ก็เลยไม่อยากไปงานน่ะ”

 

 

‘แล้วกินยาหรือยัง...รู้ไหมว่าเพื่อนๆทุกคนเป็นห่วง...แล้วคืนนี้แกจะมาปาร์ตี้หรือเปล่า’

 

 

“เรื่องยาไม่ต้องเป็นห่วง...ส่วนคืนนี้...ฉันคงไปไม่ได้ แรงจะยืนยังไม่มีเลย ยังไงพวกแกก็สนุกเผื่อฉันบ้างละกัน”

 

 

‘เอางั้นเหรอ...ถ้างั้นก็พักผ่อนให้มากๆนะ วันจันทร์เจอกัน บาย’

 

 

“จ้ะ...บาย”

 

 

     ฉันวางโทรศัพท์ แล้วจึงเดินไปหยิบถุงเสื้อผ้าขึ้นมามองได้สักพัก ก่อนจะที่ทิ้งมันลงไปในถังขยะห้องนั่งเล่น แววตาที่เคยอ่อนแอกลับมามุ่งมั่นอีกครั้ง...

 

 

 

     น่าแปลกที่ฉันสามารถทำใจได้ภายในเวลาไม่นาน...ฉันนั่งคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆมากมายตั้งแต่ที่ฉันย่างก้าวเข้าไปในโรงเรียนนั้น...ครั้งแรกที่ฉันพบโพทส์ ฉันก็ปลื้มเขาทันที..อยากเจอหน้า อยากพูดคุย แต่ก็ไม่เคยคิดที่อยากจะครอบครอง ถึงแม้จะรู้สึกเสียใจที่เห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนนั้น...แต่ความเสียใจนั้นได้ผ่านเข้ามา และก็ผ่านออกไปอย่างรวดเร็ว เหมือนกับว่ามันเป็นเพียงลมมรสุมเล็กๆที่พัดผ่านเข้ามาและก็ผ่านออกไป...ผิดกลับผู้ชายอีกคน...ภาพของเต็งหนึ่งซ้อนทับความคิดของฉัน...แต่ก็คิดได้ไม่นาน ฉันก็เข้าสู่ห้วงนิทราพร้อมกับภาพของเขา...เต็งหนึ่ง

               

               

 

"นียาว่าไงมั่งว่ะ เฟิร์น" โซดาถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนวางสายแล้ว

               

 

"มันบอกว่าไม่ค่อยสบาย...ปวดหัวน่ะ" เฟิร์นพูดแบบหงอยๆ

               

 

"อ่าว...งั้นคืนนี้มันก็ไม่มาน่ะดิ" โซดาพูดขึ้น

               

 

"ไม่มา...มันบอกว่าแรงจะยืนยังไม่มีเลย..น่าเสียดายแทนมันจัง" เฟิร์นลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ

               

 

"นั่นดิ  อดเห็นนางฟ้าอีกคนเลยงานนี้...เฮ้ออ เซ็งงงๆๆๆ" ปากบอกว่าเซ็ง แต่มือนี่ยัดขนมเข้าปากเต็มที่ และโดยที่ทั้งสองคนไม่ได้สังเกต...หญิงสาวที่เงียบอยู่นาน ได้เผยรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิ  รอยยิ้มแห่งชัยชนะ!

               

 

     เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยดังเซ็งแซ่ไม่ขาดสายของนักเรียนมัธยมปลายที่ตอนนี้อยู่ในหอประชุมกันเป็นส่วนมาก แต่ละคนแต่งตัวอวดโฉมความงามความหล่อกันเต็มที่ ไม่เว้นแม้กระทั่งประธานนักเรียของเรา ซึ่งวันนี้มาในมาดคุณชายกลางแห่งบ้านทรายทอง(ไม่เอาชายน้อยก็บุญแล้ว)แว่นกรอบทองที่เคยเห็นเป็นประจำบัดนี้ ไม่มีให้เห็นอีกแล้วเพราะเขาหันมานิยมคอนแทคเลนส์แทน....

               

 

"เฮ้! โจ...นายดู..เปลี่ยนไปนะ" เฟิร์นเอ่ยขึ้นสายตายังคงมองคนตรงหน้าอย่างตะลึงงัน

               

 

"มันดีขึ้นหรือแย่ลงล่ะ" โจหลิ่วตาถาม

               

 

"ดีขึ้นสิ...รู้ไหมว่าฉันจำนานแทบไม่ได้..หล่อมั๊กมาากกกๆๆ" โซดาได้ทีแล้วเอาใหญ่

               

 

"แล้วนี้อยู่กันแค่สองคนเองเหรอ..คนอื่นๆหายไปไหนกันล่ะ" โจหันซ้ายหันขวาเหมือนมองหาใครบางคน

               

 

"นียาไม่สบายน่ะเลยมาไม่ได้ ส่วนลูกปลา พวกฉันก็กำลังยืนรอมันอยู่เนี่ย....ว้าวววว! นั่นไงมานู้นแล้ว" เฟิร์นยกมือชี้ไปทางด้านหลังโจ ทั้งหมดจึงต้องหันตามไปมอง...แล้วหัวใจของโจก็ต้องเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อเขาได้เจอคนที่เขาอยากพบมากที่สุด...

               

 

     ลูกปลา...ในชุดราตรีเกาะอกสีไข่มุกยาวลากพื้น ท่อนบนประดับด้วยผ้าลูกไม้และไข่มุกสีขาวสวยสง่า เผยให้เห็นเนินอกขาว..หนุ่มๆไม่ว่าใครที่อยู่ในงานนี้ต้องหันมามองตามลูกปลากันเหมือนถูกมนต์สะกด แต่ทว่าหนุ่มๆพวกนั้นคงได้แต่ชะเง้อมองกันตาละห้อยเพราะหญิงสาวเดินเคียงคู่มาพร้อมกับหนุ่มฮอตรุ่นพี่...ทั้งสองพบกันโดยบังเอิญที่หน้าประตูทางเข้า ลูกปลาจึงชวนเขาให้เข้ามาในงานพร้อมกัน ชายหนุ่มก็ต้องทำตามเพราะไม่อยากเสียมารยาทกับรุ่นน้อง...ซึ่งเขาที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เต็งหนึ่งนั่นเอง....

               

 

"โอ้โหๆๆๆ  ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมคนในหอประชุมถึงได้ฮือฮากันใหญ่ ที่แท้ เพราะแกกับพี่เต็งหนึ่งนี่เอง" โซดาเดินถือจานของว่างที่อยู่ในมือเข้ามาหาเพื่อนๆพร้อมเอ่ยแซวขึ้น

               

 

"วันนี้เธอ..สวยมากเลยลูกปลา ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่ยืนอยู่ตรงนี้คือเธอจริงๆ" โจพูดอย่างตกตะลึงกับสิ่งที่เขาเห็น.. และคนที่มีความคิดเดียวกับโจก็คือเฟิร์น...แต่หญิงสาวไม่ได้กระตืนรือร้นหรอกนะ... เธอมองพิจารณาเพื่อนตั้งแต่หัวจรดเท้า ตั้งแต่ที่เคยคบกับมา เฟิร์นไม่เคยเห็นลูกปลาแต่งตัวได้วาบหวิวขนาดนี้เลย...เธอเปลี่ยนไป...ลูกปลา..มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ...หญิงสาวได้แต่คิดเงียบๆและไม่เอ่ยอะไรออกมา...ไม่แม้แต่จะอ้าปากเอ่ยชมเพื่อนของตัวเอง....

               

 

"หลังจากที่จับกลุ่มคุยกันอย่างสนุกสนาน พิธีกร(ไม่ใช่โซดา)ก็ออกมากล่าวปราศรัยสั้นๆ...เพื่อเป็นการเปิดงาน...และเมื่อเสียง  ไชโย!!~ ดังติดต่อกันสามครั้ง เสียงปรบมือก็ดังขึ้น แสงไฟจากด้านบนเพดานได้ฉายลงมายังกลางฟอร์ (เขียนไง) เต้นรำ....ไม่นานดนตรีในจังหวะวอลซ์ ก็เริ่มขึ้น...นักเรียนชายหญิงต่างทยอยกันจับคู่กันออกไปเต้นรำ....

               

 

"เพลงเพราะจังเลยเนอะ" เฟิร์นเอ่ยเบาๆ ขณะนี้มีหนุ่มสาวจับคู่เต้นรำราวสิบกว่าคู่แล้ว...ทว่ารุ่นพี่ที่ยืนอยู่ในกลุ่มกลับไม่ได้สนใจในเสียงเพลงหรือสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแม้แต่น้อย เขาพยายามชะเง้อหน้ามองไปที่หน้าประตูทางเข้า เผื่อบางครั้งเขาอาจจะเห็นเธอคนนั้นกำลังเดินเข้ามา....

               

 

     ลูกปลามองท่าทางของเต็งหนึ่งอย่างไม่ค่อยพอใจ...เธอยังสวยสง่าไม่พอหรือไง ทำไมเขาไม่หันมาสนใจเธอบ้าง...ที่เธอยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองขนาดนี้ ก็เพื่ออยากให้เขาหันมาสนใจเธอบ้าง...สักนิดก็ยังดี...หญิงสาวเหมือนตกอยู่ในภวังค์ สายตาของเธอดูแข็งกร้าวขึ้นเมื่อนึกถึงคนที่เต็งหนึ่ง...อยากจะพบ...

               

 

"เต้นรำกันสักเพลงดีไหมคะ" ลูกปลาเดินตรงไปหาเต็งหนึ่งอย่างถือตัว

               

 

"ไม่ล่ะ...พี่ไม่ชอบเต้นรำ" เต็งหนึ่งตอบอย่างขอไปที สายตาของเขายังคงมองไปทางด้านหน้าประตู..และเมื่อลูกปลาเห็นอย่างนั้นยิ่งทวีความไม่พอใจ

               

 

"ลองดูหน่อยเถอะ"

               

 

     ลูกปลาถือวิสาสะจูงมือเต็งหนึ่งไปยังพื้นที่ว่างเบื้องหน้า มือขวาจับมือซ้ายชายหนุ่มเหยียดออกไปด้านหน้า เธอจับมือขวาของเขามาโอบเอวตนเองไว้หลวมๆ หลายคนมองมาทางคู่ของลูกปลาด้วยความสนใจ บางคนคิดว่าทั้งสองเหมือนคู่รักกัน แต่บางคนก็คิดว่าแค่รุ่นพี่กับรุ่นน้อง แล้วแต่ใครจะคิด....

               

 

     โจยืนพิงเสามองทั้งคู่อยู่ห่างๆ...

               

 

"เป็นอะไรไป ทำไมมายืนหงอยคนเดียวอย่างนี้ล่ะ" เฟิร์นเดินมาหยอกล้อ  โจปรับสีหน้าทันที

               

 

"จะบ้าเหรอ...ฉันป่าวหงอยสักหน่อย...แต่ว่าดูลูกปลากับพี่เต็งหนึ่งแล้ว ฉันว่าเขาเหมาะกันดี..." โจยังคงเฝ้ามองลูกปลาที่กำลังเต้นรำเข้าจังหวะอย่างสนุกสนาน(แต่ไม่ได้ดูหน้าคู่เต้นเล้ยยย-_-!)

               

 

"ความสมบูรณ์แบบมักอยูในพื้นฐานของความไม่สมบูรณ์แบบ..." เฟิร์นเอ่ยขึ้น

               

 

"งั้นเหรอ...." โจเงียบลงสักพัก ก็พูดต่อ

               

 

"เบื่อใช่ไหม...งั้นมาเต้นรำกับฉัน" โจยิ้มปรี่ เฟิร์นหัวเราะคิก

               

 

"ก็ได้...นายนี่ยังตาถึงนะ"

               

 

     ทั้งสองคนเริ่มเคลื่อนไหวสอดแทรกจนในที่สุดทั้งคู่ก็อยู่ตรงกลางของโดมพอดี...ร่างท้วมของโซดา เมื่อเดินกลับมาจากการล่าเหยื่อ(หาของกิน)ก็ต้องงุนงง เพราะที่ๆเพื่อนของเธอเคยอยู่...ตอนนี้ไม่หลงเหลือใครอีกแล้ว...เมื่อสายตาได้เหลือบไปยังกลางฟอร์ก็ต้องเข้าใจ เพื่อนของเธอทั้งสองคนกำลังเต้นรำอย่างมีความสุข....(คนละแบบ)

               

 

"มีความสุขกันไป...งั้นฉันขอไปกินต่อล่ะนะ"

               

 

     การเคลื่อนไหวในการเต้นรำของเต็งหนึ่ง..ทำให้ลูกปลาอดคิดไม่ได้ว่า ขนาดไม่ชอบเต้นยังเต้นได้ดีอย่างนี้ แล้วถ้าเขาชอบ...จะเต้นเก่งขนาดไหน

               

 

"พี่เต็งไม่ชอบเต้นรำ...แล้วพี่ไปหัดฝึกเต้นมาจากไหนคะ" หญิงสาวเอ่ยขึ้นในจังหวะที่ต้องหมุนตัว และสับเปลี่ยนตำแหน่งซึ่งเป็นจุดยากสำหรับจังหวะวอลซ์ เพราะถ้าเต้นผิดก็จะไปชนกับคนอื่นหรือเหยียบเท้าฝ่ายตรงข้ามได้ง่ายๆ

               

 

"พี่เคยเรียนตอนประถม...แต่นั่นก็นานมากแล้วล่ะ ถ้าพี่พลาด พี่ต้องโทษด้วยนะ" เต็งหนึ่งตอบด้วยสีหน้านิ่งเฉย ไม่แม้แต่ที่จะสบตากับหญิงสาวตรงหน้า...ลูกปลาชักทนไม่ไหวเมื่อได้เห็นปฏิกิริยาของเขา เธอจึงทำในสิ่งที่เขาไม่คาดคิด

               

 

"อยู่กับลูกปลา...พี่เต็งยังต้องการใครอีก...ลูกปลาทุ่มเทเพื่อพี่ทุกอย่าง...แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความเฉยชา...ลูกปลาอยากให้พี่หันมาสนใจ อยากให้พี่รัก..."ในขณะที่กำลังเต้นรำ ลูกปลาสะบัดมือที่เหยียดตรงในท่าเต้นรำ เปลี่ยนมาเป็นสวมกอดคนตรงหน้าทันที...หญิงสาวเกยคางไว้บนไหล่ของเขา พลางพูดในสิ่งที่อัดอั้นในใจออกมา...แต่ทว่า เต็งหนึ่งเอื้อมมือไปแกะมือของลูกปลาออก และเขาก็หันหลังให้หญิงสาวทันที....

               

 

"อย่าพูดแบบนั้นอีกเลย...พี่ไม่อยากให้เบียร์มันเข้าใจผิด" เขาเอ่ยขึ้นเบาๆ แต่ทันใดนั้น ลูกปลาก็วิ่งเข้ามากอดเต็งหนึ่งเอาไว้ ร่างของหญิงสาวสั่นระริกมือสองข้างกระชับแน่นราวกับจะไม่ยอมให้เต็งหนึ่งไปไหนเด็ดขาด...ทุกคนในหอประชุมเริ่มหยุดเต้น ต่างพากันจับกลุ่มซุบซิบนินทรา.. เฟิร์น โซดา และโจ ก็วิ่งฝ่าฝูงคนเข้ามากลางวง แต่เมื่อเห็นภาพตรงหน้าก็ต้องตกใจ..เมื่อเพื่อนสาวของพวกเธอ กำลังยืนกอดรุ่นพี่อย่างหน้าไม่อาย....เต็งหนึ่งไม่แสดงท่าทางขัดขืน เขาพูดขึ้นอย่างอ่อนโยน

               

 

"ปล่อยพี่เถอะ ลูกปลา...."

               

 

     ตรงกันข้าม ลูกปลายิ่งกอดรัดเขาแน่นกว่าเดิม ดวงตาเอ่อคลอด้วยน้ำตา พูดเสียงแข็ง

               

 

"ไม่! ไม่เด็ดขาด...ฉันจะไม่ให้พี่ไปหานียาหรอก เพราะว่า ฉันรักพี่...." ทุกคนที่อยู่ในที่นี้และทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวหยุดชะงักนิ่ง...มีเพียงความสงบที่ยังคงดำรงอยู่

               

 

"ฉันจะ... จะทำทุกอย่างเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นเล่นไวโอลิน  เล่นเปียโน  ร้องเพลง....ฉันทำได้หมด พี่ต้องการอะไรฉันให้ได้ทั้งนั้น ขอร้องล่ะ อย่าทิ้งฉันไปเลยนะ ขอร้อง..." ลูกปลากอดเต็งหนึ่งแน่นพูดเสียงสั่น...เธอรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังตกอยู่ในเป้าสายตาของทุกคน...แต่เพื่อให้เขา...ไม่จากเธอไป...เธอยอมทำทุกอย่าง!!

               

 

     เต็งหนึ่งรู้สึกสงสารและเห็นใจลูกปลา เขาคิดจะหันหลังกลับไปปลอบเธอ ทว่า...เขาก็ไม่ทำแบบนั้น แม้ว่าอาจจะทำให้เธอต้องเจ็บปวด แต่ก็ยังดีกว่าที่จะให้เธอมาเจ็บภายหลัง เต็งหนึ่งตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว คำพูดนี้อาจจะร้ายสำหรับเธอ แต่เขาก็ต้องพูดมันออกมา

               

 

"ขอโทษนะ  ลูกปลา... พี่ไม่อาจรับความรู้สึกของเธอไว้ได้...หัวใจของพี่...มีแต่นียา...คนเดียวเท่านั้น" เต็งหนึ่งพูดอย่างเด็ดขาด เขาสลัดแขนให้ลูกปลาหลุดออก เปิดประตูหอประชุมวิ่งจากไปทันที ลูกปลาใจหายวาบ เธอร่ำไห้แต่ก็ไม่อาจหยุดเขาไว้ได้แล้ว

               

 

"พี่เต็งอย่าไป... อย่าไป...อย่าไป ฮือ ฮือ" 

               

 

     ลูกปลาร้องไห้สะอึกสะอื้น แต่ฝีเท้าเต็งหนึ่งจากไปไกลแล้ว หญิงสาวทรุดร่างลงกับพื้นท่ามกลางวงล้อมของทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์  น้ำตามากมายรินไหลราวกับสายฝนโปรยปราย มันจบสิ้นแล้วใช่ไหม...ทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้น...เธอไม่เคยอยู่ในสายตาเขาเลยงั้นเหรอ

               

 

"ละ...ลูกปลา"

               

 

"ไปให้พ้น!! ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน!" ลูกปลาตะโกนขึ้นเมื่อเฟิร์นเรียกชื่อ...หญิงสาวลุกขึ้นยืนและวิ่งฝ่าฝูงคนออกไปอย่างรวดเร็ว

               

 

"ปล่อยให้มันอยู่คนเดียวสักพัก...อาจจะดีขึ้นก็ได้" โซดาเดินเข้ามาตบบ่าเฟิร์นอย่างปลอบใจ...เฟิร์นได้แต่มองตามหลังเพื่อนของเธอไปอย่างเจ็บปวด... เพราะเธอรู้เรื่องทุกอย่างดีกว่าใคร...เธอจึงต้องมาแบกรับความเจ็บปวดไว้แบบนี้.....

 

               

 

     แสงจันทร์ส่องสว่างทาบไปกับถนน แมลงกลางคืนส่งเสียงร้องเบาๆเป็นระยะๆ บรรยากาศดูเงียบวังเวง ตึกรามบ้านช่องล้วนดับไฟเกือบหมดแล้ว ทว่ายังมีชายคนหนึ่งกำลังวิ่งอยู่กลางถนนที่ว่างเปล่า...วิ่งโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง

               

 

     เต็งหนึ่งวิ่งเข้ามาในซอยที่เขา...คุ้นเคย อย่างไม่ลืมความเหน็ดเหนื่อย... ตั้งแต่ที่เขาย้ายบ้านไป ก็ไม่ได้แวะมาที่นี่...อีกเลย

 

               

'ฮือออๆๆๆ ฮือออ....ฮึกๆๆๆ ฮืออ... พี่เต็งจะไปจริงๆเหรอคะ นียาไม่อยากให้พี่ไปเลย ฮึกก ฮือออๆๆ’

               

 

'อย่างอแงสิ... งั้น..เดี๋ยวพี่ไม่รักเรานะ'

               

 

‘แงๆๆๆๆๆ ฮือออๆๆๆ ไหนพี่สัญญาแล้วไงว่าจะอยู่กับนียาตลอดไป  พี่สัญญาแล้วไงว่าจะสอนนียาร้องเพลงทุกวัน พี่สัญญาแล้ว ฮือออ '

               

 

'ใช่...พี่สัญญาว่าพี่จะอยู่เคียงข้างนียา ไม่ว่านียาจะอยู่ที่ไหนพี่จะอยู่...ในใจของนียาเสมอ...  แต่ตอนนี้พี่ต้องไปแล้วนะคนดี'

               

 

'ไม่อาวววว....แงๆๆๆ ฮือออ อย่าไปเลยนะ อยู่ที่นี่กับนียานะ...'

               

 

'ไม่ได้หรอกนียา...ถึงไม่มีพี่สอนร้องเพลง นียายังมีพี่กีตาร์ไงล่ะ...พี่กีตาร์เขาก็เก่งจะตาย ใช่ไหมว่ะกีตาร์...'

               

 

'ใช่แล้ว...ต่อไปนี้พี่จะดูแลนียาเอง พี่สัญญานะ'

               

 

‘ไม่อาวววววอ่ะ ฮือออๆๆๆๆ’

               

 

'งั้นเอางี้ พี่จะมาหาเราทุกอาทิตย์พร้อมกับดอกทานตะวันดอกใหญ่ๆที่เราชอบไง ดีไหม...'

               

 

'จริงนะ...เอาดอกใหญ่ๆเลยนะ'

               

 

'จริงสิ...พี่สัญญา...'

               

 

     เต็งหนึ่งคิดถึงเรื่องราวในอดีตอย่างเลื่อนลอย...คิดถึงคำสัญญาที่เขารักษาไม่ได้...ไม่ใช่เพราะว่าลืม แต่ไม่สามารถทำได้เท่านั้น...การสอบเข้าโรงเรียนดุริยางคศิลป์ของประเทศไม่ใช่เรื่องง่ายของเด็กอายุ12ปี... เต็งหนึ่งต้องหมกมุ่นอยู่กับการอ่านหนังสือและฝึกร้องเพลง เล่นดนตรี ... เป็นเวลาสองปี...ที่เขาได้แต่ส่งดอกไม้ไปให้เธอ....เท่านั้น... แต่วันเวลาผ่านไป...เต็งหนึ่งได้พบกับกีตาร์...เขาจึงได้รู้ข่าวที่คาดไม่ถึง...กีตาร์กับนียาเป็นแฟนกัน...ทั้งสองรักกันมาก...นี่สินะ คือเหตุผลว่าทำไม...นียาถึงไม่ติดต่อกลับมา....หลังจากนั้นเต็งหนึ่งก็ไม่ได้ส่งดอกทานตะวันไปให้นียาอีกเลย...เขาเลือกที่จะไม่เข้าไปยุ่งกับชีวิตของนียา...เขาเลือกที่จะเป็นแค่ดอกหญ้า...จะคอยอยู่เคียงข้างดอกทานตะวัน.....  แค่เธอมีความสุข...เขาก็ดีใจแล้ว.... ถ้าหากเขารู้...ว่าสิ่งที่เขาเลือกมันผิด...นียาต้องมาเสียใจเพราะเพื่อนของเขา.. เขาจะไม่มีวันปล่อยให้นียาเสียใจอย่างนี้แน่.... และต่อจากนี้ไป เขาก็จะไม่ยอมให้เธอไปไหนอีกเด็ดขาด....

               

 

     ชายหนุ่มมัวแต่คิดอะไรจนเพลิน โดยที่ไมรู้ตัวเลยว่าได้มาหยุดยืนยังสถานที่แห่งหนึ่ง บ้านของนียานั่นเอง....แสงไฟภายในบ้านยังไม่ดับ...เสียงโหวกเหวกภายในบ้านดังออกมาจนคนที่ยืนอยู่ข้างนอกได้ยิน...

               

 

"แพท!เห็นถุงยาพี่ไหม มันวางอยู่ที่โต๊ะกินข้าวอ่ะ หยิบขึ้นมาให้พี่หน่อยสิ"

               

 

"จะกินยา...พี่กินข้าวแล้วเหรอ...อย่างน้อยน่าจะมีอะไรลองท้องหน่อยนะ"

               

 

"จร้า~~พี่กินข้าต้มไปแล้ว กินยาเสร็จพี่ก็จะขึ้นนอนเลย อย่าลืมปิดประตูบ้านนะ"

               

               

 

     ร่างสูงเผยรอยยิ้มออกมาจากมุมปาก...แค่ได้ยินเสียงของเธอ...เขาก็มีความสุขแล้ว และยิ่งไม่มีอะไรต้องห่วงอีก เมื่อหญิงสาวได้ขึ้นนอนแล้ว...เต็งหนึ่งมองดูห้องชั้นบนของบ้านที่ยังไม่ปิดไฟอย่างเหม่อเลย...แล้วไม่นาน แสงไฟจากห้องก็ดับลง ซึ่งก็หมายถึงคนที่อยู่ในห้องนั้นได้เข้านอนแล้ว....

               

 

"ฝันดีนะ... ทานตะวัน" เต็งหนึ่งพูดขึ้นเบาๆ เขาหันหลังก้าวเดินจากไป...แต่แล้ว ขณะที่กำลังเดินอยู่นั้น เขาได้เอามือกดขมับตัวเองเอาไว้ เต็งหนึ่งนิ่วหน้ารู้สึกปวดแปล๊บที่ขมับราวกับถูกแทง...เสียงหัวใจเต้นแรงจนได้ยินออกมาข้างนอก...

               

 

"อีกแล้วเรอะ"

               

 

     เขาพูดพลางเอามือกุมขมับตัวเองไว้...เขารู้สาเหตุของมันดี...เขารู้  แต่เขาไม่คิดที่จะให้ใครรู้...แม้กระทั่งครอบครัวของเขาเอง...เต็งหนึ่งพยายามรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีและเริ่มเดินอีกครั้ง...

 

 

===============

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา