บทเพลงรักสะกิดใจ นายสุดฮอต!!

8.8

เขียนโดย Namizz

วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 20.37 น.

  27 chapter
  129 วิจารณ์
  42.03K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558 09.57 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

19) ~ 19 ~

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

     แสงแดดอ่อนๆ ยามเย็นส่องมายังระเบียบทางเดินของตึก 5 ดุจดั่งระฆังที่ตีบอกเวลาเลิกเรียน ที่นักเรียนทุกคนสมควรจะแยกย้ายกันกลับบ้าน แต่กลับยังมีชายหนึ่งหญิงหนึ่งที่ยังคงอยู่ในห้องประจำของตน...

 

 

“ในที่สุดก็เสร็จสักที...เหนื่อยชะมัด” ฉันจับไม้กวาดในมือแล้วเดินเอาไปเก็บที่หลังห้อง

 

 

“ทำแค่นี้ทำเป็นบ่น ไม่ได้เรื่องเลย” โพทส์เอ่ยเปรยๆ ทำให้ฉันสะดุดกับงานตรงหน้า

 

 

“ถ้าอยากได้เรื่องนักก็บอกมาสิ!” ฉันสวนกลับทันทีที่สบตากับโพทส์ และฉันก็ต้องหลบสายตาก่อน เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเราจ้องกันนานเกินไปแล้ว

 

 

“เรื่องวันนั้น...ขอบใจมากที่เธอช่วยและ ต้องขอโทษด้วยที่พูดจาไม่ดีกับเธอ” โพทส์พูดพร้อมกับยื่นถุงเสื้อผ้าให้ฉัน...ฉันจึงรีบคว้ามาถือไว้ทันที

 

 

“เอ่อ...อืม...ไม่เป็นไรหรอก...ฉันก็แค่อยากช่วย...คนที่กำลังลำบากน่ะ แล้ววันนั้นทำไมนายต้อง...”

 

 

“ก็แค่คนโดนทิ้งน่ะ...ไม่มีอะไรหรอก” โพทส์เอ่ยขึ้นอย่างเรียบๆ แต่คำพูดของโพทส์ทำให้ฉันถึงกับอึ้ง! โดนทิ้งงั้นเหรอ หมายความว่าไง

 

 

“เธอคงไม่เข้าใจหรอก เธอมันก็แค่คนอื่น...แล้วฉันจะพูดเรื่องส่วนตัวให้เธอฟังทำไมเนี่ย ” คำว่า ‘คนอื่น’ มันทิ่มแทงจิตใจของฉันเข้าอย่างจังแต่ฉันก็พยายามที่จะเก็บความรู้สึกของตัวเองไว้ เพื่อที่จะสนใจความรู้สึกของคนที่อยู่ตรงหน้า

 

 

“กะ...ก็เพราะว่าฉันเป็นผู้มีพระคุณกับนายยังไงล่ะ โฮะๆๆโฮะๆๆ” เสียงหัวเราะของฉันดังขึ้น แต่คนตรงหน้ากลับเงียบลง

 

 

“เอาน่า...เรื่องแค่นี้ไม่เห็นจะต้องทำหน้าอย่างนั้นเลย...อย่างมากก็เจ็บ...” ฉันเดินไปที่หน้ากระดานแล้วหยิบชอล์กขึ้นมาเขียนว่า

 

 

‘ ลุกขึ้นยืนให้ได้นะ...โพทส์จังสู้สู้!’

 

 

“หึ...คนอย่างเธอคงไม่เข้าใจเหรอกว่าความรักมันเป็นยังไง มันทรมานแค่ไหนที่เราต้องเสียเขาไปทั้งๆที่...”

 

 

“ทำไมฉันจะไม่เข้าใจ!!...ถึงแม้ว่านายจะเสียเขาไป แต่นายยังมีคนรอบข้างที่เป็นห่วงนาย...ยังรักนาย และถึงแม้ว่าใครก็ช่างที่ไม่เห็นความสำคัญของนาย...ฉันเนี่ยแหละที่จะอยู่เคียงข้างนายตลอดไป...” สิ้นคำพูดโพทส์หันมามองฉันด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ ตายล่ะ! นี่ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย แย่แล้วทำไงดี...

 

 

“คะ...คือ ฉันหมายถึง...เพื่อนๆทุกคนก็จะอยู่เคียงข้างนายไง” ฉันรีบแก้ตัวเป็นพัลวัน ก่อนที่เรื่องมันจะไปกันใหญ่ และเมื่อโพทส์ฟังคำแก้ตัวอันแสนโง่เง่าของฉัน เขาก็เงียบลงทันที...นี่ฉันคงจะไม่ได้พูดอะไรที่มันเอ่อ...อ่านะ...

 

 

“เราไปกันเถอะ” โพทส์เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น

 

 

“หา! ไปไหนอ่ะ”

 

 

“ก็จะไปส่งเธอไง...หรือว่าเธออยากนอนเฝ้าโรงเรียนล่ะ” โพทส์เดินนำออกไป ซึ่งฉันตอนนี้ยังคงทำอะไรไม่ถูก

 

 

“ระ...รอด้วยสิ เฮ้! เดี๋ยว...” เสียงของฉันไม่ได้ทำให้โพทส์หยุดขายาวๆของเขาเลยให้ตายสิ ขาฉันยิ่งสั้นๆ จะให้ฉันไปวิ่งตามนายได้ยังไงล่ะ โห ~ ~ ~

 

 

     ร่างทั้งสองได้เดินเคียงคู่กันออกไปโดยที่ไม่ได้รับรู้ว่ามีชายหนุ่มอีกคนยืนมองอยู่ เขาได้แต่มองตามร่างคนทั้งสองไปด้วยสีหน้าเย็นชาและแววตาที่ยากจะคาดเดาความรู้สึกได้

 

 

     เสียงเพลงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือดังอยู่ที่ในกระเป๋า ส่วนตัวเจ้าของนั้นกำลังเพลิดเพลินกับการเมาส์กับเพื่อนๆอย่างเมามัน ส่งผลให้คนข้างๆที่อ่านหนังสืออยู่ทนไม่ไหวจึง

 

 

     ป้าบ ~ ~ ป้าบ! (2 ที)

 

 

“โอ้ย! แกจะตบฉันทำไมเนี่ยฮะ ไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่” เสียงโวยวายของคนที่ยังไม่สำนึกผิดดังขึ้น พลางลูบหัวตัวเองไปด้วย

 

 

“ถ้าไม่ตบแล้วแกจะรู้ไหมว่าโทรศัพท์ดังอยู่...รีบๆรับสักทีดิ หนวกหูชะมัด” เฟิร์นพูดสวนกลับมา ทำให้ฉันพึ่งรู้สึกตัว

 

 

“ฮัลโหล...ใครอ่ะ...หา! นายเอาเบอร์ฉันมาจากไหน แล้วโทรมามีอะไร...อืม...หลังเลิกเรียนเหรอ อืมได้แต่ฉันคงไปช้าหน่อยนะเพราะว่าต้องทำเวรก่อน แต่ฉันจะส่งนักไวโอลินไปก่อนละกัน...เออน่า...ไม่เบี้ยวหรอก...แค่นี้แหละบาย” ฉันกดวางสายโทรศัพท์ทันทีก่อนที่จะมองหาเพื่อนสาวคนหนึ่ง

 

 

“ลูกปลาๆ...เย็นนี้เธอไปที่ห้องดนตรีก่อนฉันเลยนะ เพราะฉันต้องทำเวรก่อนน่ะ เดี๋ยวฉันตามไป” ลูกปลาพยักหน้ารับรู้และก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ฉันจึงวิ่งไปหาโซดาที่หน้าห้องเหมือนเดิม

 

 

“อย่าลืมสัญญา” เฟิร์นเอ่ยขึ้น หลังจากที่เพื่อนของเธอวิ่งออกไปแล้ว

 

 

“มันเรื่องของฉัน” ลูกปลาลุกออกจากตรงนั้นทันที โดยที่ไม่หันมามองเพื่อนของเธอเลย

 

               

 

     ท้องฟ้าภายนอกในตอนนี้เริ่มเป็นสีส้มอมแดง ในขณะที่ลูกปลายืนหยุดอยู่หน้าห้องดนตรี หญิงสาวเริ่มคิดว่าเป็นเวลานานเท่าไหร่แล้ว ที่เธอไม่ได้พบหน้าคนที่อยู่ข้างในนั้นอย่าใกล้ชิด แต่วันนี้ เวลานี้ เขาคนนี้อยู่ใกล้แค่เอื้อม หญิงสาวคิดพลางตรวจสอบตั้งแต่หัวจรดเท้าของตัวเอง และจึงตัดสินใจผลักประตูเข้าไป

               

 

     หัวใจที่กำลังพองโตก็ต้องเหี่ยวเฉาลง เมื่อภายในห้องนั่นมีแต่ความว่างเปล่า หญิงสาวเดินเข้ามาด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย สมองของลูกปลากำลังหวนไปนึกถึงเรื่องราวในอดีต ก่อนที่เธอจะไปหยิบไวโอลีนสีขาวซึ่งเป็นตัวที่เธอชอบเล่นมากที่สุดแต่เธอก็ไม่ได้จับมันมาเป็นปีแล้ว คิดได้แค่นั้นลูกปลาก็เริ่มบรรเลงเครื่องดนตรีที่อยู่ในมือ...

               

 

     ในขณะเดียวกัน เต็งหนึ่งก็กำลังเดินมาที่ห้องดนตรี แล้วเขาก็ต้องนึกแปลกใจ ที่ได้มีคนเข้าไปในห้องก่อนเขา และเมื่อยิ่งเดินเข้าไปใกล้ เพลงที่เขาไม่ได้ยิบมานานก็ดังเข้าไปอยู่ในโสตประสาทของเขา ใช่...เพลงนี้เป็นเพลงที่สำคัญ..สำคัญมากสำหรับเบียร์...เพื่อนรักของเขา ใครกันนะที่มาเล่นเพลงนี้หรือว่า...เมื่อคิดถึงผู้หญิงที่เขารัก..เจ้าตัวก็ผลักประตูเข้าไปทันที...

               

 

      เจ้าของเสียงไวโอลินที่ไพเราะต้องหยุดชะงักทันที เพราะตกใจกับเสียงประตูที่เปิดเข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่พอหญิงสาวเห็นบุคคลที่เป็นต้นเหตุก็ต้องยิ่งตกใจ...ทั้งสองคนยืนเผชิญหน้ากันถึงแม้ว่าระยะห่างของทั้งสองจะห่างกัน แต่สายตานั้นก็ยังสามารถรับรู้สิ่งที่สะท้อนออกมาจากดวงตาของฝ่ายตรงข้ามได้

               

 

"สวัสดีค่ะ...พี่เต็ง ยินดีที่ได้พบพี่อีกครั้ง หลังจากที่เรา..ไม่ได้พบกันนาน"ลูกปลาเอ่ยทำลายความเงียบพลางส่งยิ้มที่สดใสที่สุดไปให้อีกฝ่าย

               

 

"ดะ....เดี๋ยวค่ะ คือ..ที่ลูกปลามาที่นี่เพราะนียาเธอบอกให้ช่วย..."ลูกปลารีบร้องทักขึ้นเพราะเต็งหนึ่งกำลังหันหลังเพื่อจะเดินออกจากห้อง

               

 

"กลับไปซะ...ฉันไม่จำเป็นต้องให้คนอย่างเธอมาช่วย ออกไป!" เสียงตวาดดังขึ้นแต่คนพูดก็ยังคงยืนนิ่งหันหลังให้อีกฝ่าย...สรรพนานที่เขาเรียกมันช่างดูห่างไกลเหลือเกิน...ทำไม...ทั้งที่อยู่ใกล้กันเพียงแค่นี้ ทำไมมันถึงได้ไกลจากความเป็นจริงนัก...ลูกปลายกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้งก่อนที่เธอจะวิ่งเข้าไปกอดเต็งหนึ่งทางด้านหลัง ส่งผลให้อีกฝ่ายตกใจ ทำอะไรไม่ถูก เพราะถ้าจะสะบัดทิ้งก็ไม่ได้ คำว่าลูกผู้ชายมันยังอยู่ในสายเลือด แต่ถ้ายอมปล่อยให้เป็นอย่างนี้ เขาก็ต้องเป็นฝ่ายลำบากใจ

               

 

"ลูกปลาขอโทษ ลูกปลาผิดเองที่ทำให้พี่เบียร์ต้องเป็นแบบนั้น...ลูกปลาผิดเองที่ทำให้ทุกคนเสียใจ..." ลูกปลาซุกหน้าลงกับแผ่นหลังของเต็งหนึ่งแล้วเริ่มพูดในสิ่งที่เก็บไว้มานาน

               

 

"ตั้งแต่ม.ต้น ลูกปลามักจะโดดเดี่ยวอยู่เสมอ เพื่อต้องการเป็นที่หนึ่งทำให้ลูกปลาสนใจแต่การเรียนและไวโอลิน จนในที่สุดก็ไม่มีใครเห็นความสำคัญของลูกปลา แต่ผู้ชายคนหนึ่งก็ทำให้โลกของลูกปลาเปลี่ยนไป เขาให้ความสำคัญกับลูกปลา เขาทำให้ลูกปลารู้ว่าลูกปลายังคงมีค่าต่อเขา และเขาทำให้ลูกปลารู้จักคำว่า'รัก' แต่แล้ววันหนึ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เวลาผันผ่านทำให้เราไม่ได้พบกัน ลูกปลาคิดว่าลูกปลากับขาคงไม่ได้เจอกันอีก แต่ว่า...ในตอนนี้มันไม่ใช่ ตอนนี้ลูกปลาได้อยู่กับเขาคนนั้นและลูกปลาก็กำลังกอดเขาอยู่...ผู้ชายคนนั้นก็คือพี่ยังไงล่ะ...เต็งหนึ่ง" ลูกปลาพรั่งพรูเรื่องราวที่อัดอั้นในใจออกมา น้ำเสียงของเธอทำให้เต็งหนึ่งรู้สึกผิดต่อเธอ..ผิดต่อเบียร์...ถ้าวันนั้นเขาไม่รับปากว่าจะช่วย..เรื่องทั้งหมดก็คงไม่เป็นแบบนี้ เต็งหนึ่งรู้สึกลำบากใจเพราะไม่อยากทำร้ายความรู้สึกของหญิงสาว และก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นเลยจริงๆ

               

 

"ลูกปลา...ฟังนะ  ก่อนอื่นลูกปลาต้องยอมรับความจริงว่าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่พี่...และพี่ก็ไม่ได้รัก...."

               

 

"ลูกปลา!!"เสียงเรียกของผู้มาใหม่ดังขึ้น ทำให้ทั้งคู่ผละออกจากกันทันที เต็งหนึ่งถอยออกมายืนทำสีหน้าเรียบ  ส่วนลูกปลาเมินหน้าหันไปมองทางอื่น ไม่มีร่องลอยของความอ่อนแอหรือเศร้าหมองเมื่อครู่ให้เห็น

               

 

"นี่มันอะไร...." ฉันอ้าปากค้างและก็ต้องค้างต่อไป

               

 

"เอ่อ..ฉันรอเธอตั้งนานและตอนนี้ฉันก็หิวแล้วด้วย ซ้อมกันไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวฉันมา..."ลูกปลาวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วจนฉันตั้งตัวไม่ติด

               

 

"เมื่อกี้นายทำ...."

               

 

     โป๊ก!!~~

               

 

"นายมาเขกหัวฉันทำไมเนี่ย" โอ๊ย..เจ็บนะตาบ้า! นึกว่าตัวเองเป็นใครกันถึงบังอาจมาทำร้ายฉันเนี่ย เจ็บนะเฟ้ย~~~

               

 

"ต่อไปนี้เธอต้องเรียกฉันว่าพี่...เหมือนที่เมื่อก่อนเธอเคยเรียก...ไม่งั้นเธอจะโดนแบบนี้เพื่อเตือนความจำ เข้าใจไหม"

               

 

"เอ่อ...เมื่อก่อนเหรอ..ตอนไหนล่ะ" พูดยังไม่ทันขาดคำก็...

               

 

     โป๊ก!!~~

               

 

"โอเคแล้วคร้า~~พี่เต็งหนึ่ง..." ฉันตอบออกไปทันทีเมื่อเจอกำปั้นของเขา

               

 

"อ่อ..นอกจากจะเรียกฉันว่าพี่แล้วเธอก็ต้องปฏิบัติให้อ่อนน้อมด้วย ในฐานนะที่ฉันอายุมากกว่าเธอ รู้ไว้ซะ.. ไม่งั้น ฉันจะเขกสมองเบ๊อะๆของเธอให้มันแหลกกระจุยเลย เข้าใจ๋??"

               

 

"ว่างไงนะ!นายมัน..." ฉันยกมือขึ้นชี้หน้าเต็งหนึ่งอย่างมาดมั่น แต่ก็ต้องรีบเอาลงเพราะนายนั่นทำท่าจะเขกหัวฉันเป็นรอบที่สาม

               

 

"เข้าใจแล้วค่ะ...พี่เต็งหนึ่ง..T0T" เสียงตอบรับอย่างนอบน้อมถ่อมตน

               

 

"ดีมาก...เอาล่ะ เรามาซ้อมกันเลยดีกว่า พรุ่งนี้ก็จะถึงวันแสดงจริงแล้ว วันนี้เธอห้ามดื้อ ต้องเชื่อฟังฉันทุกอย่าง เข้าใจไหม" ฮึย!เจ็บใจๆๆๆๆ นายไม่รู้หรือไงย่ะ ว่าฉันไม่เต็มใจ และยังไม่พร้อมที่จะซ้อม

               

 

"ไม่ค่ะ...เราต้องรอลูกปลาก่อน"ฉันพูดไปอย่างถือดี

               

 

"ไม่ต้องรอ" เต็งหนึ่งเอ่ยขึ้น

               

 

"ต้องรอค่ะ"

               

 

"ไม่ต้องรอ"

               

 

"ต้องรอสิค่ะ"

               

 

"ก็ได้" เฮ้ยย..ได้ผล ในที่สุด นายก็ยอมแพ้ฉันแล้วสินะ อิอิ ...แต่แล้วเขากับทำเหตุการณ์ที่ทำให้ฉันถึงกับเหวอไปเลย...

               

 

"นี่..พี่จะทำอะไรคะ!อุ๊บ!" อยู่ๆ เต็งหนึ่งก็คว้ามือฉันและดึงเข้าไปใกล้...ก่อนที่จะ...จับหน้าฉันไว้ไม่ให้หนีไปไหนแล้วก็ประกบริมฝีปากลงที่ปากฉันอย่างแผ่วเบาและเริ่มรุนแรงขึ้นจนฉันแทบหายใจไม่ออก...

               

 

     ฉันได้แต่ดิ้นและพยายามผลักเขาออกแต่ก็ไม่เป็นผล น้ำตาได้ไหลออกมาอย่างไม่อาจหยุดยั่ง เต็งหนึ่งเห็นเข้าจึงหยุดการกระทำของเขาทันที

               

 

"ฉันขอโทษนะ...ฉันไม่ได้ตั้ง...."

               

 

     เพี๊ยะ!!

               

 

"นี่!!! สำหรับที่นายเห็นฉันเป็นของเล่น ฉันไม่ใช่เครื่องมือที่นายจะเอามาบำเรอความต้องการของนาย ได้โปรดเถอะ...เต็งหนึ่ง..อย่าทำให้ฉันเกียจนายไปมากกว่านี้เลย...ฉันขอร้อง " ฝ่ามือของฉันกระทบเข้ากับหน้าใสๆของเต็งหนึ่งอย่างแรง จึงทำให้หน้าของเขาหันไปตามแรงทันที ...ก่อนที่เขาจะหันมาเผชิญหน้ากับฉันอีกครั้ง

               

 

"ที่ฉันทำไป...ก็เพราะว่าฉันรักเธอ...รักมาตั้งนานแล้ว แล้วเธอก็รักฉัน...นึกให้ออกสินียา เธอต้องนึกให้ออกว่าเราเคย..."

               

 

"พอทีเถอะ!! คำว่ารักของนาย มันไม่มีค่าเลยสำหรับฉัน....เชิญเก็บไว้พูดกับคนที่นายรู้สึกจริงๆเถอะ...แล้วฉันก็ไม่เคยรู้จักนาย เราไม่เคยมีความสัมพันธ์อะไรทั้งนั้น และที่สำคัญฉัน..ไม่ได้รักนาย..." ฉันไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมต้องเสียใจมากมายขนาดนี้ แทนที่จะรู้สึกสะใจแต่ความรู้สึกในหัวใจมันกลับตรงกันข้าม นี่ฉันทำถูกแล้วใช่ไหม....

               

 

"และหลังจากเสร็จงานนี้ นายกับฉัน...เราไม่มีอะไรติดค้างกันอีกและอย่าได้รู้จักกันอีกเลย...เรื่องของวันนี้ ฉันจะคิดว่า..มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น..."ฉันเอ่ยขึ้นแต่สายตาก็ยังคงมองเขาอย่างไม่วางตา...เต็งหนึ่งยืนนิ่ง สีหน้าของเขาเฉยชามาก เขาไม่รู้สึกอะไรเลยงั้นเหรอ...

               

 

"ถ้าเธอต้องการอย่างนั้น..ก็ได้..แต่อยากให้เธอรู้ไว้..ความรัก ถ้าไม่แอบชอบมานานก็คงไม่เกิดขึ้น...และถ้าไม่เคยรู้จักกันจริงๆก็คงจะไม่ชอบ...และถ้าไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนก็คงจะไม่ปลื้ม...เธอคือทุกอย่างของฉันนะนียา...ไม่ว่าเธอจะเลือกยังไงก็ช่าง...ฉันจะยืนอยู่ตรงนี้ อยู่ที่เดิมไม่ไปไหน..ฉันจะรอ..รอจนกว่าเธอจะจำฉันได้.."รอยยิ้มของเต็งหนึ่งมันช่างเศร้าเหลือเกิน...สายตาของเขาเหมือนจะบอกฉันว่าเขาพูดเรื่องจริง

               

 

"งานพรุ่งนี้...ฉันรู้ว่าเธอต้องทำได้..." พูดจบร่างสูงก็เดินออกจากห้องไปทันที ซึ่งก็เหลือฉันเพียงคนเดียวที่จมอยู่กับความสับสนในใจ...ฉันเอามือกุมขมับ เข่าทั้งสองข้างอ่อนลงนั่งกองกับพื้นทันที...เหตุการณ์ทั้งหมดได้อยู่ในสายตาของลูกปลา ร่างบางบีบแก้วน้ำอัดลมที่พึ่งซื้อมาด้วยแรงที่มี ก่อนที่จะทิ้งของพวกนั้นลงกับพื้น แล้ววิ่งหายออกไปจากตึกทันที

 

 

===============

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา