บทเพลงรักสะกิดใจ นายสุดฮอต!!
เขียนโดย Namizz
วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 20.37 น.
แก้ไขเมื่อ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558 09.57 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) EDITORIAL ~ 1 ~
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
============================
Editorial...
ในการเดินทาง
คงไม่มีนักเดินทางคนไหนที่รู้ว่า
วันใดคือวันที่สุดท้าย
เรามีเวลาที่ยังเหลือสักเท่าไร ที่ฉันเคยมองเห็นในตัวเอง และวันนี้ ฉันมีสิ่งนี้ที่มอบไว้แทนความรัก และคอยดูแลเธอคนนี้ด้วยหัวใจ เพื่อตอบแทน เรื่องราวดี ๆ ที่เวลาของเรา.
ที่จะได้ใช้ชีวิตร่วมกัน
ได้อยู่กับคนที่เรารัก
และเธอคนที่ทำให้นักเดินทางอย่างฉันพบว่า
จุดหมายในชีวิตคืออะไร
ด้วยดินแดนที่เธอสร้างไว้ ที่มีชื่อว่าความรัก
* เมื่อชีวิตของคนเรา มันสั้นนัก
สิ่งทีันพอจะทำ ในช่วงเวลาที่ยังหายใจ
คือการดูแลเธอให้ดี จากนี้ไป
เพื่อตอบแทนเรื่องราวดี ๆ
ก่อนที่เวลาของเราจะหมดลง
ปมด้อยใด ๆ ที่ตัวฉันนั้นเคยมีอยู่
แต่แล้วเมื่อพบเธอ
เธอทำให้ฉันกลับมองข้ามไป
จากคนเดิม ๆ ที่ไม่มีค่าอะไร
สุดท้ายเธอก็เปลี่ยน
ให้ฉันกลับกลายเป็นคนสำคัญ
เธอทำให้ฉันได้รู้ว่าฉันมีค่ามากกว่า
มันนานแค่ไหน
อีกไกลเท่าไร จะยืนข้างเธอ
>>ฉันจะดูแลเธอให้ดีที่สุด<<
มีคนหลายคนมักบอกว่า “ความรัก”ทำให้คนเรามีความสุขและความรักทำให้คนเราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้... เอ๊ะ! จริงรึเปล่า? ที่เขาว่ากันว่า การที่เรารักใครสักคนมากๆ มันทำให้รู้สึกใจหวั่นๆ สั่นๆ ตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา เมื่อได้พบกับใครคนนั้น...แต่ฉันคิดว่าอาการแบบนี้มันคือต้นเหตุหรือลางสังหรณ์บางอย่าง (เว่อร์ซะ) ของคนที่กำลัง “เริ่ม” ที่จะชอบใครสักคนนั้นแหละ ^_^ แต่ก่อนอื่น ก่อนที่คนทุกๆคน จะเริ่มสนใจคนๆนั้นคำว่า “ปลื้ม” ก็เป็นจุดเริ่มต้นของความรู้สึกดีๆ (จริงอ่ะเปล่า) คำว่าปลื้มในที่นี้หมายถึง การที่เราแอบชอบหรือภูมิใจคนๆนึงที่เราคิดว่าเขาเป็นคนดี ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่เคยคุยกันสักครั้ง ไม่เคยรู้จักกัน ไม่เคยทักทายกันและไม่เคยคิดแม้แต่จะรักกัน.....
คนทุกคนเกิดมาบนโลกนี้ ไม่มีใครเกิดมาพร้อมกับคำว่า สมบูรณ์แบบ แต่ก็ยังมีคนอีกหลายคนที่ต้องการทำให้ชีวิตของตนเอง สมบูรณ์แบบให้ได้ ไม่ว่าวิธีการที่จะทำนั้นจะถูกต้องหรือไม่ถูกต้องก็ตาม แต่มีสิ่งหนึ่งที่สามารถจะมาทดแทนส่วนที่ไม่สมบูรณ์แบบได้ นั่นก็คือ “ความรัก” หากวันหนึ่งคุณมีความสุขกับความรัก คุณก็ควรเผื่อใจไว้ด้วยส่วนหนึ่ง เพราะความรักอาจทำให้คุณทุกข์ใจได้เช่นกัน ใครหลายคนอาจจะเจอกับรักที่สมหวัง แต่ก็นั่นแหละนะ นั่นคือสิ่งที่ฟ้าได้ชะตาลิขิตไว้แล้ว ไม่มีใครสามารถที่จะแก้ไขได้ก็เหมือนกับว่า วันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรกับชีวิตเราก็ไม่มีใครสามารถรู้ล่วงหน้า ดังนั้น ถ้าคุณคิดจะทำอะไรเพื่อตัวคุณเองหรือเพื่อคนที่คุณรัก จงอย่ารอ...อย่ารอให้ถึงเวลาในวันที่สาย เพราะเมื่อใดที่คุณไม่มีโอกาส..คุณก็จะเสียใจไปทั้งชีวิต ซึ่งเหมือนกับเรื่องราวของฉัน....
Chapter 1
~ ~ ติ้งต่อง~ ~
เสียงกริ่งหน้าบ้านทำให้ฉันละสายตาจากหน้าจอทีวี ฉันลุกขึ้นยืนจากโซฟาเพื่อเดินไปเปิดประตูหน้าบ้านและบุคคลที่ยืนอยู่หลังประตูนั้นก็ไม่ใช่ใคร แม่ของฉัน นั่นเอง
“อืม... น้องนอนหลับหรือยัง”
“คะ?... อ้อ แพทหลับไปตั้งนานแล้วล่ะค่ะ แม่ทานอะไรมาหรือยังคะ”
“เรียบร้อยแล้วล่ะ เอ่อ นียา... ลูกจบม.3แล้วใช่ไหม”
อยู่ดีๆแม่ก็ถามฉันขึ้นมากะทันหัน ทำไมเหรอ.. มีอะไรหรือเปล่านะ สีหน้าของแม่เหมือนกำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่าง
“ค่ะ แม่… พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายที่ต้องไปรับใบประกาศจบการศึกษา แม่ถามทำไมคะ?”
“ดีแล้วล่ะ แม่ได้เตรียมโรงเรียนใหม่ไว้ให้นียาแล้วนะ แต่มีข้อแม้ว่า ลูกต้องไปสอบให้ติดโรงเรียนนั้นให้ได้ เข้าใจใช่ไหม”
ตอนนี้ฉันรู้สึกงงไปหมดแล้ว จู่ๆ แม่ก็มาบอกให้ฉันไปสอบเข้าที่โรงเรียนที่ท่านได้เตรียมให้ โฮ่! เซ็งเลย งั้นฉันก็อดไปอยู่กับยายที่ต่างจังหวัดน่ะสิ อุตส่าห์ว่าจะขอไปเรียนต่อที่นั้น มันคงไม่มีหวังแล้วล่ะ...นียาน้อยเอ๋ย
“เข้าใจแล้วค่ะ...แล้วโรงเรียนที่แม่ว่า มันอยู่ที่ไหนเหรอคะ ชื่อโรงเรียนอะไร นียาเคยรู้จักหรือเปล่า”
“ก็โรงเรียน สุขเกษตรนี่ไง อยู่ใกล้ๆบ้านเราด้วย ทางไป-กลับก็สะดวก นั่งรถเมล์ต่อเดียวก็ถึงแล้ว ประตูโรงเรียนก็อยู่ติดถนนใหญ่ ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะ...” ฉันแทบคลั่ง! เมื่อได้ยินชื่อโรงเรียน นี่มันอะไรกันเนี่ย!!
“มะ...ไม่นะคะ นียาไม่ยอมไปเรียนที่นั่นเด็ดขาด แม่ทราบไหมคะ ว่าที่นั่นมันมีชื่อเสียงย่ำแย่ขนาดไหน นียาไม่ยอมหรอกค่ะ...”
พูดจบแค่นั้น แม่ฉันก็มีสีหน้าเหี้ยมโหดขึ้นมาทันที โอ้ว~ ~ไม่นะ ฉันกำลังจะตายหรือนี่ ฮือออๆๆๆ ทำไงดี ฉันกำลังจะไปเกิดใหม่...
“ไม่ได้! ยังไงลูกก็ต้องไปเรียนที่นั่น เพราะ...โรงเรียนนี้พ่อเขาเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญ แกต้องทำให้ครอบครัวเรามีหน้ามีตา ทำให้คนอื่นๆ เขาเชื่อใจและเชื่อถือในฐานะที่แกเป็นลูกสาวคนโตของตระกูล!”
โอ้ววววว....ฉันอยากจะบ้าตายนี่มันวันอะไรกันเนี่ย ทำไมมันถึงได้ซวยเยี่ยงนี้ พอแม่พูดจบ ก็หันหลังเดินขึ้นไปบนห้องแล้วปิดประตูเสียงดัง ปัง! นี่คือคำสั่งประกาศิตที่ฉันไม่อาจปฎิเสธได้สินะ เฮ้อ...... มันจะมีอะไรที่มันแย่ไปกว่านี้อีกไหมนะ.......
~ ~ ติ้งต่อง~ ~
~ ~ ติ้งต่อง~ ~
~ ~ ติ้งต่อง~ ~
“นียา! นียา! ไอ้นียา! ตื่นหรือยัง เปิดประตูสิโว๊ยยย ”
“เออๆๆๆๆ...ตื่นแล้วโว๊ย จะกดทำซากอะไรนักหนาวะ เป้ย... มันเปลืองไฟนะโว๊ย ดีนะที่แม่ฉันออกไปทำงานแล้วอ่ะ ไม่งั้น แกตายยย แน่ ”
ฉันยืนตะโกนด่าเป้ย เพื่อนที่ฉันสนิทที่สุดในหมู่บ้าน...เป้ยเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารักคนหนึ่งมีผิวสองสี ตากลมโตสีน้ำตาลเข้ากับผมที่สีน้ำตาลเช่นเดียวกัน รูปร่างผอมเพรียวบ่งบอกถึงสิ่งที่เธอถนัดและชอบเป็นชีวิตจิตใจ ก็เพราะว่าเป้ย เป็นนักเต้นของโรงเรียนน่ะสิ เธอคว้ารางวัลมามากมายจากการประกวดต่างๆ นี่ก็เป็นสิ่งการันตีได้เลยว่า ฝีมือนั้นเยี่ยมยอดขนาดไหน และที่เป้ยมาในวันนี้ ก็เพื่อที่จะมารับฉันไปสอบที่โรงเรียนของเธอ...ใช่แล้ว...เป้ยเรียนที่นั่น...โรงเรียนสุขเกษตร...ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าเป้ยอยู่ที่นั่นไปได้ยังไง แต่ที่แน่ๆ วันนี้ฉันต้องฝากชีวิตไว้กับมัน เพราะฉันไม่เคยไปเหยียบที่นั่นเลยสักครั้ง
“จร้าๆๆๆ ทราบแล้วล่ะค่ะ คุณนียา แล้วไม่ทราบว่าเมื่อไหร่จะเริ่มเสด็จจากที่ประทับล่ะเจ้าคะ นี่มันก็สายมากแล้ว เกรงว่าคุณนียาจะเข้าห้องสอบไม่ทัน”
“ฉันน่ะเสร็จตั้งนานแล้ว...เออๆๆๆๆ ไม่ต้องมาพูดประชดแดกดันฉันเลย รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวไม่ทันอย่างที่พูดแล้วจะแย่ ”
“ฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆเลยนะ นียา ว่าทำไมแกต้องไปสอบเข้าด้วย ทั้งๆที่พ่อก็เป็นหุ้นส่วนสำคัญ ถ้าใช้เส้นยัดเข้า ป่านนี้สบายไปตั้งนานแล้ว เออ! แล้วน้อง แพท สุดหล่อของฉันไปไหนล่ะ ”
“นายนั่นน่ะเหรอ เหอะ! ไปโรงเรียนตั้งนานแล้ว อย่าไปสนใจเลย ไปกันเหอะ”
ฉันรีบฉุดมือเป้ยออกมาจากบริเวณบ้านทันทีก่อนที่เธอจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ เฮ้อออ พูดมากจริงเพื่อนฉัน ‘ถ้าใช้เส้นยัดเข้า ป่านนี้สบายไปตั่งนานแล้ว’ ใช่...คำถามนี้ฉันเคยถามแม่เหมือนกัน แต่คำตอบที่ได้นั้นคือ ‘แม่ต้องการทดสอบความสามารถของนียาน่ะ’ หึหึหึ... ได้เล้ยย อยากจะทดซงทดสอบกันนักใช่ไหม นียา....สาวน้อยคนนี้นี่แหละ จะทำข้อสอบให้เข้าโรงเรียนนี้ไม่ได้เอง!!! โฮะๆๆๆๆ
ตอนนี้ได้เวลาสอบแล้ว อาจารย์คุมสอบเริ่มแจกกระดาษข้อสอบและกระดาษคำตอบแล้ว ตื่นเต้นจังแหะ! แต่พอมานึกดูอีกทีจะตื่นเต้นไปทำไม ฉันไม่ต้องการมาสอบเข้าโรงเรียนนี้สักหน่อย หุหุ ^0^ ในขณะที่กำลังคิดอะไรเพลินๆฉันก็รู้สึกว่า เหมือนกำลังมีใครจ้องมองมาทางฉันอยู่ ฉันไม่ได้คิดไปเองนะ จริงๆๆ ตอนแรกๆฉันก็ไม่สนใจหรอก แต่นี้มันนานแล้วนะ จะมองอะไรกันนักกันหนา อย่าให้รู้นะว่าใคร...ในที่สุดฉันก็ทนไม่ไหว...ไม่ไหวแล้วนะโว๊ย! สายตากลมโตกวาดไปรอบๆห้องและก็ต้องไปสะดุดกับสายตาอันเรียวคมคู่หนึ่งผู้ชายคนนั้น... กำลังมองมาทางฉัน มองทำไมนะ รู้อยู่หรอกว่าฉันสวย ไม่ต้องมองขนาดนั้นก็ได้ แต่ฝ่ายที่ต้องหลบก่อนก็คือฉันเองแหละ ก็ฉันมันคนขี้ขลาดนี่หน่า ทำไงได้ ถึงจ้องไปนานๆฉันก็บอกหวยเขาไม่ได้หรอก เหอะๆๆ อันที่จริงที่ต้องหลบตาเขาก่อนก็เพราะว่า แพ้สายตาคนหล่อง่ะ กำจริงๆๆ.....
เวลาทำไมมันถึงเดินช้าจังนะ ที่บ่นเนี่ย ก็เพราะฉันทำข้อสอบเสร็จแล้วล่ะ เก่งใช่ไหมล่ะ หึหึ...เปล่าหรอก กระดาษข้อสอบฉันแทบจะไม่ได้แตะต้องเลย พูดง่ายๆ ฉันทำมั่วแหละ ภูมิใจจัง ได้ทำเรื่องเลวเนี่ย >_0 (เปล่าหรอก)และไม่รู้ว่าฉันตาฝาดไปหรือเปล่านะ ก่อนที่นายนั้นกำลังจะเดินออกจากห้อง เขาได้หันมายิ้มให้ฉัน...รอยยิ้มที่อบอุ่น สายตาที่ .....อ่อนโยน.....
===============
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ