Love Hormone สัมผัส(รัก)หน่อยนะ My Darling
-
7) แฝดมหันตภัย1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“นี่ออกัส นายว่าไง”
“ตอนนี้ยังไม่เหมาะหรอก”
“แล้วเอาไงอะ”
“ไม่รู้ดิ ลืมคิดเผื่อเอาไว้”
“โถ่!...ให้ตายเหอะ//^\\... จะใช้แผนขอเข้าห้องน้ำข้างนอกก็ไม่ได้ ใครนะที่เสนอให้สร้างห้องน้ำในห้องโถงนี่นะ เฮอะ!”
“อย่าทำตัวมีพิรุจน์ดิเดี๋ยวก็โดนจับได้กันพอดี”
“หึ!... ฉันรู้แล้วนา//3\\...”
ท่ามกลางความสนุกสุขสรรค์และรื่นเริงของงาน แต่แฝดต้องคำสาปอย่างออร์แกนและออกัสกลับต้องมากระซิบกระซาบกันด้วยความกังวลเพราะต่างก็ยังหาจังหวะที่จะหลบออกไปปฏิภารกิจลับของตนยังไม่ได้เลย เพราะตอนนี้พ่อบ้านแครดิลอสผู้ดูแลใกล้ชิดของพวกเขากำลังจับจ้องมองดูพฤติกรรมของพวกเขาทั้งสองคนอยู่อย่างไม่ให้คลาดสายตา
“ทำไงได้ล่ะ ก็ตาแก่นั่นจ้องซะขนาดนั้น จะหาจังหวะไหนออกไปได้เล่าo\./o!” ทั้งสองพร้อมใจกันแอบเหล่ตาหันไปมองแครดิลอสก่อนจะยิ้มให้อย่างไมตรีกับสายตาของเขาที่กำลังพวกเธออย่างตาเป็นมันวาว!
“อึยชีเอี่ยยยย~” ทั้งสองอุทานขึ้นเบาๆด้วยประโยคเดียวกันหลังจากหันกลับมาอยู่หน้าจานอาหารเช่นเดิม คงจะ...ไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติมให้ชัดเจนว่าพวกเขาพูดว่าอะไรหรอก...ใช่มั้ย?
“ดี! ฉัน ‘เนต’ หัวหน้ากลุ่ม Strangler fig ยินดีที่ได้รู้จัก ฮะๆๆ+นายคงจะรู้แล้วสินะ^0^ โทษทีนะที่มางานของนายด้วยสภาพแบบนี้ พอดีลืมดูตารางเวลานัดน่ะ” ชายหนุ่มวัยเพียง24ในชุดเสื้อผ้าสไตล์HipHopที่ดูไม่เข้ากับแก้วไวท์ที่เขากำลังถืออยู่ เดินเข้าไปทักเฟลอร์ด้วยท่าทางที่เป็นกันเองและนั่นเอง เสียงที่ค่อนข้างจะดังพอสมควรของเขาก็ไปสะกิดเข้ากับใบหูขาวๆของแฝดทั้งสองเข้า
“อือ...เอิ่มมม9.9... ฮะ อย่าไปสนมันเลย”
“เหรอ! นายนี่เป็นคนดีจังเลยนะ^^+” ด้วยดีใจชายหนุ่มจึงโผเข้าจะกอดเฟลอร์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ แต่จังหวะเดียวกันนั้นโชเฟและเจาว์ลอร์กลับเข้ามาหิ้วปีกของเฟลอร์คนละข้างออกมาทันที ทำให้เขาต้องโผเข้ากอดลมและเสียหลักล้มลงไปกองกับพื้นทันที
“เฮ้ยเนต!แกเป็นไรมั้ย”อินฟินิตี้ที่นั่งอยู่ข้างรีบพยุงตัวของเนตขึ้นมาตั้งหลักใหม่อีกครั้ง ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจเหตุผลที่อดีตลูกน้องของเขาทำแบบนี้ลงไปเช่นกัน
“พวกแกเป็นไรวะ วันนี้แปลกๆทั้งวันแล้วนะเว้ย” โชเฟและเจาว์ลอร์วางเฟลอร์ลงยืนกับพื้นก่อนจะยืนในท่าก้มหัวรับผิดตามธรรมเนียม
“เห็นคนอื่นๆเขาเข้ามาทักยังไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย นี่แค่จะกอดทักทายเอง แถมยังเป็นเนตเอง เฟลอร์มันไม่ได้เป็นผู้หญิงนะเว้ยที่ไอเนตมันจะกอดไม่ได้น่ะ” คำว่า ‘ผู้หญิง’ ที่ออกมาจากปากของอินฟินิตี้ทำให้โชเฟและเจาว์ลอร์ถึงกับสะอึกพร้อมกันอีกรอบ เพราะที่อินฟินิตี้พูดมาทั้งหมดคือเหตุผลสำคัญที่พวกเขาไม่อยากให้เนตเข้าไปกอดเฟลอร์
“ช่างเหอะพี่ เป็นธรรมดาน่ะอย่าคิดมากเลย ก็เจ้านี่ยังเด็กล่ะมั้งก็เลยห่วงเป็นพิเศษหน่อย โทษทีนะที่ทำให้ตกใจน่ะเฟลอร์^^” เนตใช้มือข้างหนึ่งขยี้หัวของเฟลอร์อย่างเป็นมิตร ส่วนเฟลอร์นั้นก็เริ่มที่จะมองเขากลับไป และในทันทีที่เขาเห็นรอยยิ้มของเนตสิ่งเดียวเขานึกได้ในทันทีนั้นคือ... ‘แมวเหรอ?’...
มันคงจะไม่แปลกอะไรหากจะแจ้งให้ท่านผู้อ่านทราบว่า สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘แมว’ สำหรับนางเอกของเรามันคือสิ่งที่เขา...ชอบมากรองลงมาจาก...อันนี้อีกไม่นานก็คงจะได้รู้กันเอง...
จึก!... ยืดดดดดดด~
“*w*”
และเพราะความชอบนี้ทำให้หญิงสาวเกิดอาการเคลิ้ม หน้าของเธอแดงระเรื่อและดวงตาที่มั่นคงก็เกิดการเขวขึ้นตอนนี้กลายเป็นดวงตาอันใสวิ้งเหมือนเด็กที่เห็นในสิ่งที่ตัวเองชอบแล้วเกิดอารการอยากได้เข้ามาครอบครอง เธอใช้มือทั้งสองข้างขึ้นไปหยิกแก้มทั้งสองของเนตแล้วจับมันยืดๆหดๆด้วยความเคยชินที่เธอมักจะทำกับแมวทุกตัวที่เธอพบเห็นแล้วคิดว่ามันน่ารัก ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกๆคนที่ให้ความสนใจยังเฟลอร์ในตอนแรกกลับต้องเลิ่กคิ้วเป็นเชิงแปลกใจแตกต่างกับโชเฟและเจาว์ลอร์ที่รู้จุดอ่อนข้อนี้ของเฟลอร์ดีอยู่แล้วตั้งแต่ต้น ทั้งสองได้แต่ถอนหายใจเกี่ยวกับหล่อน เพราะเฟลอร์มักจะทำให้พวกเขาเสียวไส้อยู่ตลอดว่าความลับที่พวกเขาเกือบทั้งแก๊งอุตส่าห์กุมไว้ซะแน่นหนาต้องมาพังลงเพราะตัวเฟลอร์เอง
“นี่ๆ พี่ฮะ พี่ชื่อเฟลอร์ใช่มั้ยฮะ?”เสียงออกัสดังขึ้นมาจากใต้สะเอวของเฟลอร์พร้อมกับดึงชายเสื้อของเธอไว้ หญิงสาวมองลงไปตามเสียงก่อนที่สติของเธอจะกลับคืนมาเมื่อเห็นเด็กหน้าตาบ๊องแบ๊วสองคนมายืนเกาะชายเสื้อของเธออยู่
“ผมชื่อออกัสครับ เป็นแฝดคนน้อง”
“หนูชื่อออร์แกนค่ะ เป็นแฝดคนพี่” ทั้งสองคนยิ้มหวานให้เฟลอร์ แต่เฟลอร์กลับไม่ทำอย่างนั้นกลับไปให้เขาแต่กลับ เขากลับทำตัวนิ่งไปเฉยๆ
“ช...ใช่ เฟลอร์ ชื่อฉันเอง” ‘นี่เหรอเด็กต้องคำสาปอีกสองคน ฝาแฝด?’ เฟลอร์คิดกับตัวเองในใจเพราะถ้าให้พูดถึงเด็กต้องคำสาปที่เหลืออีกสองคนที่อยู่ในห้องนี้ก็มีแค่2คนนี้เท่านั้น
“เหรอฮะ ถ้าอย่างนั้น พี่อยากเดินเที่ยวคฤหาสน์ของเรามั้ยล่ะฮะ^o^+”
“พวกเราจะพาไปเองนะคะ^o^+”
“คงไมไต้องหรอกเจ้าแฝดโลกัน ขืนให้พวกนายออกไปจากห้องแล้วทิ้งพวกเราไว้ที่นี่เหมือนที่ทำกับฉันคราวก่อนๆ มีหวังโดนพวกนายยำระเบิดไปอีกรอบเป็นแน่ อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ว่าพวกนายคิดจะทำการใหญ่น่ะ” เนตพูดพลางทำท่าทางขนลุกและไม่อยากจะเชื่อในความหวังดีของแฝดทั้งสองคน
“อย่าไปเชื่อนะเฟลอร์ เจ้าสองคนนี้เชื่อใจไม่ได้ ส่วนเรื่องชมคฤหาสน์ก็มีคนพาไปอยู่แล้วด้วย นายไม่ต้องห่วงหรอก เฮอะ!อย่าหวังจะได้แอ้มเลยเจ้าเด็กนรก แบร่>9<!”ชายหนุ่มแลบลิ้นใส่เด็กแฝดทั้งสองอย่างสะใจทำให้ทั้งออร์แกนและออกัสเกิดอาการเคืองทันทีเพราะโดนรู้ทัน แต่ไม่วานที่พวกเขาทั้งสองจะทำหน้าบึ้งก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นรอยยิ้มอย่างสะใจแทนหลังจากที่เนตโดนตบบ้องหัวเข้าอย่างจังจากใครคนหนึ่ง
ผัวะ!
“ปากสุนัขกู่ไม่กลับจริงๆเลยนะแกเนี่ย ไม่รู้รึไงว่าสองคนนั้นยังเด็กอยู่”หญิงสาวในชุดราตรีรัดรูปสีแดงเดือดคือเจ้าของมือที่ประทับตราลงบนศีรษะเนต ใบหน้าที่ถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางเข้มๆอย่างเด่นชัดทำให้ใบหน้าของเธอดูเด่นและจัดจ้านดีเป็นทีเดียว หล่อนมีชื่อว่า ‘แคร์’ และเธอก็คือคนเดียวกับ ‘ต้นแคร์’ หัวหน้ากลุ่ม RhododendronHMc(กุหลาบพันปี)ที่เฟลอร์รู้จักจากใบประวัติที่อินซูลินมอบให้แก่เธอได้อ่านนั่นเอง ใช่และเธอก็มักจะอ่อนข้อต่อเด็กๆเสมอเพราะอนาคตเธออยากจะสร้างครอบครัวที่มีแต่เด็กวิ่งเล่นยั้วเยี้ยให้เต็มบ้านแต่ติดอยู่ตรงที่เธอยังหาพ่อของพวกเขาไม่ได้ซักทีนั่นแหล่ะ
“ไรของเจ๊เนี่ย! เด็กบ้าเด็กบออะไรกัน นี่ยังรู้ฤทธิ์ของเจ้าพวกนี้อีกรึไง คราวก่อนที่พวกมันแกล้งดักขาเจ๊กับเส้นเอ็นตอนที่เล่นซ่อนหากันจนต้องตกบ่อน้ำครำหลังสำนักงานตัวเองน่ะจำไม่ได้รึไง มันไม่ใช่เด็กแล้วถ้าใช่ก็ดีผีหรือไม่ก็เด็กปีศาจนั่นแหล่ะ!”
ยืดดดดดดดดดดดดดดด!
แก้มของเนตถูกจับยืดอีกครั้งด้วยฝีมือของแคร์พี่สาวเพียงคนเดียวของเขา และเพราะการเกิดปากเสียงกันระหว่างแคร์กับเนตทำให้ทุกสายตาต่างจับจ้องอยู่กับพวกเขารวมไปถึงพ่อบ้านแครดิลอสก็เช่นกันทำให้โอกาสของออร์แกนและออกัสถูกเปิดขึ้นแล้ว
“ปากนะปากจริงๆเลย ใครบอกให้แกเอาเรื่องนี้มาพูดในที่แบบนี้เนี่ย อุบัติเหตุแบบนี้กับใครก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นไม่ใช่เฉพาะฉันซักหน่อยแกก็โทษเด็กมันไปเรื่อยน่ะแหล่ะ!”
“โห่เจ๊...เป็นเงี้ยประจำ เด็กถูกตลอด เฮอะ!”
“แกนี่วอนประจำเลยทำตัวเป็นเด็กๆอยู่ได้ เมื่อไหร่จะโตเนี่ยฮะ!”
“คำก็เด็กสองคำก็เด็ก ถ้าเด็กจริงไมเจ๊ไม่เข้าข้างผมอะ เจ๊นี่ประจำเลยเฮอะ!”
“แกนี่!”
“พอๆเลิกทะเลาะกันได้แล้วล่ะ”อินเข้ามาแยกทั้งสองคนออกจากกันอย่างหัวเสีย
“พวกนายเลิกทะเลาะกันแล้วหาเจ้าแฝดนั่นให้เจอก่อนจะดีกว่ามั้ย”ชายหนุ่มหน้าตาออกไปทางอเมริกันรุ่นเดียวกับอินฟินิตี้เดินถือแก้วไวท์เข้ามาช่วยเสริม เขาคือ ‘เจคอร์ด’ หัวหน้ากลุ่ม ‘สัตว์’ และCicindela aurulentaHMc (ด้วงเสือ) ผู้มีความคล่องแคล่วว่องไวในการเคลื่อนไหว
“ฮะ! หาเหรอ?” แคร์และเนตหันไปมองหน้าเจคอร์ดก่อนจะอุทานขึ้นพร้อมๆกัน
“ถ้านายคิดว่าเด็กแฝดจะก่อเรื่อง นายก็ต้องรีบหาเจ้าพวกนั้นให้เจอซะแล้วล่ะ ดีนะที่เฟลอร์เห็นเจ้าพวกนั้นย่องออกไปข้างนอกแล้วสะกิดเตือนฉันน่ะ”
“ประมาณว่าสร้างความอลวนในจุดนี้เพื่อเรียกร้องความสนใจแล้วตัวเองรีบย่องออกไปข้างนอกโดยที่ไม่มีใครสังเกตบานประตูเข้าออกของห้องเลยแม้แต่คนเดียวไม่เว้นแม้แต่องคลักษณ์ของพวกเราก็ด้วย”เจคอร์ดอธิบายความน่าจะเป็น(จริง)ของเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังก่อนที่เนตจะเกิดอาการหน้าซีดเผือด เพราะสิ่งที่เด็กแฝดได้เคยทำไว้กับเขานั้นมันน่ากลัวซะยิ่งกว่าการเผชิญหน้ากับศัตรูซะอีก
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เจ้าสองคนนั่นอยู่ไหนล่ะ” หญิงสาวหน้าตาคมเข้มในชุดแซกยาวสีเขียวสว่างหรือ ‘ฟิวส์’ หัวหน้ากลุ่ม Poison Dart FrogHMc (กบลูกดอก) พูดแทรกขึ้นมา ทำให้ทุกคนต่างเริ่มใช้ความคิดเพราะไม่ใช่แค่เนตเท่านั้นที่เคยโดนแฝดทั้งสองทำจนเจ็บปวดถึงทรวงใน อย่างว่าถึงจะพูดไปยังไงความมั่นใจของแคร์ก็ยังไม่สั่นครอนไปแต่อย่างใด
“ยืนบื้ออยู่เหรอทำไมไม่ออกไปหาเล่า ราฟเน่! เคต!”เนตออกคำสั่งไปยังลูกน้องคนสนิทของเขาทั้งสองก่อนที่เจ้าตัวสองคนนั่นทั้งสองจะสะดุ้งและรับคำสั่งตามหน้าที่
“ครับ!!!”
ทั้งสองรีบวิ่งไปที่ประตูเช่นเดียวกับองคลักษณ์คนสนิทของแต่ละคนก็เช่นกันพวกเขาต่างรู้หน้าที่ของตนโดยไม่ต้องถูกออกคำสั่งจากเจ้านายเพราะพวกเขารู้ดีว่าชะตากรรมอาจจะไม่แตกต่างจาก ราฟเน่และเคตซักเท่าไหร่
ครึก!...ตึงๆๆๆๆ!!!
ประตูโดนล็อก...ห้องถูกปิดตาย!
“ฮึ่ย!!!เจ้าเด็กแสบ”เนตกัดฟันพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิด
“เจ้าพวกนั้นก่อเรื่องอีกแล้ว” ออมเล็ตที่เงียบฟังเหตุการมานานพูดขึ้นเบาๆ
“อะไรเหรอคะพี่ออม”
“เฮ้ยออมเล็ต เซ้นฉันว่าวันนี้ให้ระวังฟ้าไว้ดีๆว่ะ รู้สึกแม่งๆไงไม่รู้”
“งั้นฉันว่าเราพาไอซ์ไปหาที่ซ่อนกันก่อนดีกว่าน่าจะดีนะ”ออมเล็ตออกความคิดเห็น
“เออ เห็นด้วยว่ะ...ไอซ์ลุกขึ้นจากตรงนี้เถอะ”
“คะ!?”ไอซ์เกิดอาการแปลกใจเล็กน้อยถึงแม้ว่าเขาพอจะรู้เรื่องบางอย่างแล้วก็ตาม...จะว่าไปก็คงมีแต่ไอซ์ที่ยังไม่เคยโดนเด็กแฝดนั่นแกล้งเพราะเขาเพิ่งจะย้ายกลับมาอยู่เมืองไทยได้ไม่ถึงปี ไอซ์จึงไม่ค่อยได้รู้ฤทธิ์เดชของออร์แกนและออกัสแฝดมหันตภัยสองคนนั้นซักเท่าไหร่นัก
“ลุกขึ้นเถอะ”
“อ๊ะ!”ออมเล็ตและอะตอมค่อยๆยกไอซ์ขึ้นจากเก้าอี้นั่งทำให้เฟลอร์ต้องหันมามองพวกเขาเพราะเสียงการขยับตัว แต่...ไอซ์ไม่สามารถลุกขึ้นจากเก้าอี้ได้เพราะก้นของเธอถูกตรึงไว้กับเก้าอี้นั่งที่ขาของมันถูกติดไว้กับพื้นอย่างหนาแน่น หญิงสาวไม่สามารถทำอะไรได้เลย
“คุณหนู!”ป้าแพรอุทานขึ้นด้วยความตกใจ เป็นความรู้สึกในแบบเดียวกับทุกๆคนที่หันมามองไอซ์เป็นตาเดียวกันในตอนนี้
“ฮะ! อะไร! ไอซ์ลุกไม่ได้! ทำไม!?” หญิงสาวเริ่มลุกลี้ลุกล้น ใจกระวนกระวายนี่เธอเป็นอะไรไป
“เจ้าพวกนั้นเล่นไรเนี่ย!?”อะตอมพูดด้วยท่าทางที่ไม่สู้ดีนัก เขารู้สึกโมโหเด็กแฝดญาติสนิทของตนยิ่งนัก ชักจะแรงเกินไปแล้วสำหรับความคิดของเขา
ให้ว่าก็ว่าไปเถอะถึงยังไงออร์แกนและออกัสก็ไม่รับรู้อยู่แล้ว ทั้งสองคนพอใจมากที่เครื่องมือกับดักวิทยาศาสตร์ของเขาสามารถทำให้คนที่เฝ้ายามอยู่นอกประตูห้องพากันสลบเหมือดไปกองอยู่กับพื้นกันหมด เด็กทั้งสองที่มีหน้ากากกันสารเคมีที่พกติดตัวไว้ก่อนออกจากห้องนั้น พวกเขาหยิบมันขึ้นมาใส่ก่อนจะรีบวิ่งไปยังห้องเก็บของเก่าที่อยู่ติดกับห้องโถงอย่างตื่นเต้นกับกับดักใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จไว้ใช้สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ ออกัสใช้ไฟฉายของตนส่องไปยังปุ่มสั่งการกับดักที่เขากำลังงุ่นทำเมื่อตะกี้อย่างสุขใจ
“เสร็จแน่งานนี้ หึๆ!”
“ออกัส!จะทำอะไรก็รีบๆทำสิฉันได้ยินเหมือนมีคนเดินมาทางด้วย”
“ฮะ!?”ออกัสทำหน้าสงสัยใครกันที่ยังไม่สลบเหมือดไปกับสเปรย์ยาสลบของเขากันนะ!?????
==================================================
เย่!!!!!อัพแล้วววววววววววววว อ่านให้สนุกนะคะ^^ ตอนนี้แต่งแล้วรู้สึกว่านางเอกเริ่มเผยความน่ารักออกมานิดๆแล้วล่ะค่ะ5555!
“ตอนนี้ยังไม่เหมาะหรอก”
“แล้วเอาไงอะ”
“ไม่รู้ดิ ลืมคิดเผื่อเอาไว้”
“โถ่!...ให้ตายเหอะ//^\\... จะใช้แผนขอเข้าห้องน้ำข้างนอกก็ไม่ได้ ใครนะที่เสนอให้สร้างห้องน้ำในห้องโถงนี่นะ เฮอะ!”
“อย่าทำตัวมีพิรุจน์ดิเดี๋ยวก็โดนจับได้กันพอดี”
“หึ!... ฉันรู้แล้วนา//3\\...”
ท่ามกลางความสนุกสุขสรรค์และรื่นเริงของงาน แต่แฝดต้องคำสาปอย่างออร์แกนและออกัสกลับต้องมากระซิบกระซาบกันด้วยความกังวลเพราะต่างก็ยังหาจังหวะที่จะหลบออกไปปฏิภารกิจลับของตนยังไม่ได้เลย เพราะตอนนี้พ่อบ้านแครดิลอสผู้ดูแลใกล้ชิดของพวกเขากำลังจับจ้องมองดูพฤติกรรมของพวกเขาทั้งสองคนอยู่อย่างไม่ให้คลาดสายตา
“ทำไงได้ล่ะ ก็ตาแก่นั่นจ้องซะขนาดนั้น จะหาจังหวะไหนออกไปได้เล่าo\./o!” ทั้งสองพร้อมใจกันแอบเหล่ตาหันไปมองแครดิลอสก่อนจะยิ้มให้อย่างไมตรีกับสายตาของเขาที่กำลังพวกเธออย่างตาเป็นมันวาว!
“อึยชีเอี่ยยยย~” ทั้งสองอุทานขึ้นเบาๆด้วยประโยคเดียวกันหลังจากหันกลับมาอยู่หน้าจานอาหารเช่นเดิม คงจะ...ไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติมให้ชัดเจนว่าพวกเขาพูดว่าอะไรหรอก...ใช่มั้ย?
“ดี! ฉัน ‘เนต’ หัวหน้ากลุ่ม Strangler fig ยินดีที่ได้รู้จัก ฮะๆๆ+นายคงจะรู้แล้วสินะ^0^ โทษทีนะที่มางานของนายด้วยสภาพแบบนี้ พอดีลืมดูตารางเวลานัดน่ะ” ชายหนุ่มวัยเพียง24ในชุดเสื้อผ้าสไตล์HipHopที่ดูไม่เข้ากับแก้วไวท์ที่เขากำลังถืออยู่ เดินเข้าไปทักเฟลอร์ด้วยท่าทางที่เป็นกันเองและนั่นเอง เสียงที่ค่อนข้างจะดังพอสมควรของเขาก็ไปสะกิดเข้ากับใบหูขาวๆของแฝดทั้งสองเข้า
“อือ...เอิ่มมม9.9... ฮะ อย่าไปสนมันเลย”
“เหรอ! นายนี่เป็นคนดีจังเลยนะ^^+” ด้วยดีใจชายหนุ่มจึงโผเข้าจะกอดเฟลอร์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ แต่จังหวะเดียวกันนั้นโชเฟและเจาว์ลอร์กลับเข้ามาหิ้วปีกของเฟลอร์คนละข้างออกมาทันที ทำให้เขาต้องโผเข้ากอดลมและเสียหลักล้มลงไปกองกับพื้นทันที
“เฮ้ยเนต!แกเป็นไรมั้ย”อินฟินิตี้ที่นั่งอยู่ข้างรีบพยุงตัวของเนตขึ้นมาตั้งหลักใหม่อีกครั้ง ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจเหตุผลที่อดีตลูกน้องของเขาทำแบบนี้ลงไปเช่นกัน
“พวกแกเป็นไรวะ วันนี้แปลกๆทั้งวันแล้วนะเว้ย” โชเฟและเจาว์ลอร์วางเฟลอร์ลงยืนกับพื้นก่อนจะยืนในท่าก้มหัวรับผิดตามธรรมเนียม
“เห็นคนอื่นๆเขาเข้ามาทักยังไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย นี่แค่จะกอดทักทายเอง แถมยังเป็นเนตเอง เฟลอร์มันไม่ได้เป็นผู้หญิงนะเว้ยที่ไอเนตมันจะกอดไม่ได้น่ะ” คำว่า ‘ผู้หญิง’ ที่ออกมาจากปากของอินฟินิตี้ทำให้โชเฟและเจาว์ลอร์ถึงกับสะอึกพร้อมกันอีกรอบ เพราะที่อินฟินิตี้พูดมาทั้งหมดคือเหตุผลสำคัญที่พวกเขาไม่อยากให้เนตเข้าไปกอดเฟลอร์
“ช่างเหอะพี่ เป็นธรรมดาน่ะอย่าคิดมากเลย ก็เจ้านี่ยังเด็กล่ะมั้งก็เลยห่วงเป็นพิเศษหน่อย โทษทีนะที่ทำให้ตกใจน่ะเฟลอร์^^” เนตใช้มือข้างหนึ่งขยี้หัวของเฟลอร์อย่างเป็นมิตร ส่วนเฟลอร์นั้นก็เริ่มที่จะมองเขากลับไป และในทันทีที่เขาเห็นรอยยิ้มของเนตสิ่งเดียวเขานึกได้ในทันทีนั้นคือ... ‘แมวเหรอ?’...
มันคงจะไม่แปลกอะไรหากจะแจ้งให้ท่านผู้อ่านทราบว่า สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘แมว’ สำหรับนางเอกของเรามันคือสิ่งที่เขา...ชอบมากรองลงมาจาก...อันนี้อีกไม่นานก็คงจะได้รู้กันเอง...
จึก!... ยืดดดดดดด~
“*w*”
และเพราะความชอบนี้ทำให้หญิงสาวเกิดอาการเคลิ้ม หน้าของเธอแดงระเรื่อและดวงตาที่มั่นคงก็เกิดการเขวขึ้นตอนนี้กลายเป็นดวงตาอันใสวิ้งเหมือนเด็กที่เห็นในสิ่งที่ตัวเองชอบแล้วเกิดอารการอยากได้เข้ามาครอบครอง เธอใช้มือทั้งสองข้างขึ้นไปหยิกแก้มทั้งสองของเนตแล้วจับมันยืดๆหดๆด้วยความเคยชินที่เธอมักจะทำกับแมวทุกตัวที่เธอพบเห็นแล้วคิดว่ามันน่ารัก ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกๆคนที่ให้ความสนใจยังเฟลอร์ในตอนแรกกลับต้องเลิ่กคิ้วเป็นเชิงแปลกใจแตกต่างกับโชเฟและเจาว์ลอร์ที่รู้จุดอ่อนข้อนี้ของเฟลอร์ดีอยู่แล้วตั้งแต่ต้น ทั้งสองได้แต่ถอนหายใจเกี่ยวกับหล่อน เพราะเฟลอร์มักจะทำให้พวกเขาเสียวไส้อยู่ตลอดว่าความลับที่พวกเขาเกือบทั้งแก๊งอุตส่าห์กุมไว้ซะแน่นหนาต้องมาพังลงเพราะตัวเฟลอร์เอง
“นี่ๆ พี่ฮะ พี่ชื่อเฟลอร์ใช่มั้ยฮะ?”เสียงออกัสดังขึ้นมาจากใต้สะเอวของเฟลอร์พร้อมกับดึงชายเสื้อของเธอไว้ หญิงสาวมองลงไปตามเสียงก่อนที่สติของเธอจะกลับคืนมาเมื่อเห็นเด็กหน้าตาบ๊องแบ๊วสองคนมายืนเกาะชายเสื้อของเธออยู่
“ผมชื่อออกัสครับ เป็นแฝดคนน้อง”
“หนูชื่อออร์แกนค่ะ เป็นแฝดคนพี่” ทั้งสองคนยิ้มหวานให้เฟลอร์ แต่เฟลอร์กลับไม่ทำอย่างนั้นกลับไปให้เขาแต่กลับ เขากลับทำตัวนิ่งไปเฉยๆ
“ช...ใช่ เฟลอร์ ชื่อฉันเอง” ‘นี่เหรอเด็กต้องคำสาปอีกสองคน ฝาแฝด?’ เฟลอร์คิดกับตัวเองในใจเพราะถ้าให้พูดถึงเด็กต้องคำสาปที่เหลืออีกสองคนที่อยู่ในห้องนี้ก็มีแค่2คนนี้เท่านั้น
“เหรอฮะ ถ้าอย่างนั้น พี่อยากเดินเที่ยวคฤหาสน์ของเรามั้ยล่ะฮะ^o^+”
“พวกเราจะพาไปเองนะคะ^o^+”
“คงไมไต้องหรอกเจ้าแฝดโลกัน ขืนให้พวกนายออกไปจากห้องแล้วทิ้งพวกเราไว้ที่นี่เหมือนที่ทำกับฉันคราวก่อนๆ มีหวังโดนพวกนายยำระเบิดไปอีกรอบเป็นแน่ อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ว่าพวกนายคิดจะทำการใหญ่น่ะ” เนตพูดพลางทำท่าทางขนลุกและไม่อยากจะเชื่อในความหวังดีของแฝดทั้งสองคน
“อย่าไปเชื่อนะเฟลอร์ เจ้าสองคนนี้เชื่อใจไม่ได้ ส่วนเรื่องชมคฤหาสน์ก็มีคนพาไปอยู่แล้วด้วย นายไม่ต้องห่วงหรอก เฮอะ!อย่าหวังจะได้แอ้มเลยเจ้าเด็กนรก แบร่>9<!”ชายหนุ่มแลบลิ้นใส่เด็กแฝดทั้งสองอย่างสะใจทำให้ทั้งออร์แกนและออกัสเกิดอาการเคืองทันทีเพราะโดนรู้ทัน แต่ไม่วานที่พวกเขาทั้งสองจะทำหน้าบึ้งก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นรอยยิ้มอย่างสะใจแทนหลังจากที่เนตโดนตบบ้องหัวเข้าอย่างจังจากใครคนหนึ่ง
ผัวะ!
“ปากสุนัขกู่ไม่กลับจริงๆเลยนะแกเนี่ย ไม่รู้รึไงว่าสองคนนั้นยังเด็กอยู่”หญิงสาวในชุดราตรีรัดรูปสีแดงเดือดคือเจ้าของมือที่ประทับตราลงบนศีรษะเนต ใบหน้าที่ถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางเข้มๆอย่างเด่นชัดทำให้ใบหน้าของเธอดูเด่นและจัดจ้านดีเป็นทีเดียว หล่อนมีชื่อว่า ‘แคร์’ และเธอก็คือคนเดียวกับ ‘ต้นแคร์’ หัวหน้ากลุ่ม RhododendronHMc(กุหลาบพันปี)ที่เฟลอร์รู้จักจากใบประวัติที่อินซูลินมอบให้แก่เธอได้อ่านนั่นเอง ใช่และเธอก็มักจะอ่อนข้อต่อเด็กๆเสมอเพราะอนาคตเธออยากจะสร้างครอบครัวที่มีแต่เด็กวิ่งเล่นยั้วเยี้ยให้เต็มบ้านแต่ติดอยู่ตรงที่เธอยังหาพ่อของพวกเขาไม่ได้ซักทีนั่นแหล่ะ
“ไรของเจ๊เนี่ย! เด็กบ้าเด็กบออะไรกัน นี่ยังรู้ฤทธิ์ของเจ้าพวกนี้อีกรึไง คราวก่อนที่พวกมันแกล้งดักขาเจ๊กับเส้นเอ็นตอนที่เล่นซ่อนหากันจนต้องตกบ่อน้ำครำหลังสำนักงานตัวเองน่ะจำไม่ได้รึไง มันไม่ใช่เด็กแล้วถ้าใช่ก็ดีผีหรือไม่ก็เด็กปีศาจนั่นแหล่ะ!”
ยืดดดดดดดดดดดดดดด!
แก้มของเนตถูกจับยืดอีกครั้งด้วยฝีมือของแคร์พี่สาวเพียงคนเดียวของเขา และเพราะการเกิดปากเสียงกันระหว่างแคร์กับเนตทำให้ทุกสายตาต่างจับจ้องอยู่กับพวกเขารวมไปถึงพ่อบ้านแครดิลอสก็เช่นกันทำให้โอกาสของออร์แกนและออกัสถูกเปิดขึ้นแล้ว
“ปากนะปากจริงๆเลย ใครบอกให้แกเอาเรื่องนี้มาพูดในที่แบบนี้เนี่ย อุบัติเหตุแบบนี้กับใครก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นไม่ใช่เฉพาะฉันซักหน่อยแกก็โทษเด็กมันไปเรื่อยน่ะแหล่ะ!”
“โห่เจ๊...เป็นเงี้ยประจำ เด็กถูกตลอด เฮอะ!”
“แกนี่วอนประจำเลยทำตัวเป็นเด็กๆอยู่ได้ เมื่อไหร่จะโตเนี่ยฮะ!”
“คำก็เด็กสองคำก็เด็ก ถ้าเด็กจริงไมเจ๊ไม่เข้าข้างผมอะ เจ๊นี่ประจำเลยเฮอะ!”
“แกนี่!”
“พอๆเลิกทะเลาะกันได้แล้วล่ะ”อินเข้ามาแยกทั้งสองคนออกจากกันอย่างหัวเสีย
“พวกนายเลิกทะเลาะกันแล้วหาเจ้าแฝดนั่นให้เจอก่อนจะดีกว่ามั้ย”ชายหนุ่มหน้าตาออกไปทางอเมริกันรุ่นเดียวกับอินฟินิตี้เดินถือแก้วไวท์เข้ามาช่วยเสริม เขาคือ ‘เจคอร์ด’ หัวหน้ากลุ่ม ‘สัตว์’ และCicindela aurulentaHMc (ด้วงเสือ) ผู้มีความคล่องแคล่วว่องไวในการเคลื่อนไหว
“ฮะ! หาเหรอ?” แคร์และเนตหันไปมองหน้าเจคอร์ดก่อนจะอุทานขึ้นพร้อมๆกัน
“ถ้านายคิดว่าเด็กแฝดจะก่อเรื่อง นายก็ต้องรีบหาเจ้าพวกนั้นให้เจอซะแล้วล่ะ ดีนะที่เฟลอร์เห็นเจ้าพวกนั้นย่องออกไปข้างนอกแล้วสะกิดเตือนฉันน่ะ”
“ประมาณว่าสร้างความอลวนในจุดนี้เพื่อเรียกร้องความสนใจแล้วตัวเองรีบย่องออกไปข้างนอกโดยที่ไม่มีใครสังเกตบานประตูเข้าออกของห้องเลยแม้แต่คนเดียวไม่เว้นแม้แต่องคลักษณ์ของพวกเราก็ด้วย”เจคอร์ดอธิบายความน่าจะเป็น(จริง)ของเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังก่อนที่เนตจะเกิดอาการหน้าซีดเผือด เพราะสิ่งที่เด็กแฝดได้เคยทำไว้กับเขานั้นมันน่ากลัวซะยิ่งกว่าการเผชิญหน้ากับศัตรูซะอีก
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เจ้าสองคนนั่นอยู่ไหนล่ะ” หญิงสาวหน้าตาคมเข้มในชุดแซกยาวสีเขียวสว่างหรือ ‘ฟิวส์’ หัวหน้ากลุ่ม Poison Dart FrogHMc (กบลูกดอก) พูดแทรกขึ้นมา ทำให้ทุกคนต่างเริ่มใช้ความคิดเพราะไม่ใช่แค่เนตเท่านั้นที่เคยโดนแฝดทั้งสองทำจนเจ็บปวดถึงทรวงใน อย่างว่าถึงจะพูดไปยังไงความมั่นใจของแคร์ก็ยังไม่สั่นครอนไปแต่อย่างใด
“ยืนบื้ออยู่เหรอทำไมไม่ออกไปหาเล่า ราฟเน่! เคต!”เนตออกคำสั่งไปยังลูกน้องคนสนิทของเขาทั้งสองก่อนที่เจ้าตัวสองคนนั่นทั้งสองจะสะดุ้งและรับคำสั่งตามหน้าที่
“ครับ!!!”
ทั้งสองรีบวิ่งไปที่ประตูเช่นเดียวกับองคลักษณ์คนสนิทของแต่ละคนก็เช่นกันพวกเขาต่างรู้หน้าที่ของตนโดยไม่ต้องถูกออกคำสั่งจากเจ้านายเพราะพวกเขารู้ดีว่าชะตากรรมอาจจะไม่แตกต่างจาก ราฟเน่และเคตซักเท่าไหร่
ครึก!...ตึงๆๆๆๆ!!!
ประตูโดนล็อก...ห้องถูกปิดตาย!
“ฮึ่ย!!!เจ้าเด็กแสบ”เนตกัดฟันพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิด
“เจ้าพวกนั้นก่อเรื่องอีกแล้ว” ออมเล็ตที่เงียบฟังเหตุการมานานพูดขึ้นเบาๆ
“อะไรเหรอคะพี่ออม”
“เฮ้ยออมเล็ต เซ้นฉันว่าวันนี้ให้ระวังฟ้าไว้ดีๆว่ะ รู้สึกแม่งๆไงไม่รู้”
“งั้นฉันว่าเราพาไอซ์ไปหาที่ซ่อนกันก่อนดีกว่าน่าจะดีนะ”ออมเล็ตออกความคิดเห็น
“เออ เห็นด้วยว่ะ...ไอซ์ลุกขึ้นจากตรงนี้เถอะ”
“คะ!?”ไอซ์เกิดอาการแปลกใจเล็กน้อยถึงแม้ว่าเขาพอจะรู้เรื่องบางอย่างแล้วก็ตาม...จะว่าไปก็คงมีแต่ไอซ์ที่ยังไม่เคยโดนเด็กแฝดนั่นแกล้งเพราะเขาเพิ่งจะย้ายกลับมาอยู่เมืองไทยได้ไม่ถึงปี ไอซ์จึงไม่ค่อยได้รู้ฤทธิ์เดชของออร์แกนและออกัสแฝดมหันตภัยสองคนนั้นซักเท่าไหร่นัก
“ลุกขึ้นเถอะ”
“อ๊ะ!”ออมเล็ตและอะตอมค่อยๆยกไอซ์ขึ้นจากเก้าอี้นั่งทำให้เฟลอร์ต้องหันมามองพวกเขาเพราะเสียงการขยับตัว แต่...ไอซ์ไม่สามารถลุกขึ้นจากเก้าอี้ได้เพราะก้นของเธอถูกตรึงไว้กับเก้าอี้นั่งที่ขาของมันถูกติดไว้กับพื้นอย่างหนาแน่น หญิงสาวไม่สามารถทำอะไรได้เลย
“คุณหนู!”ป้าแพรอุทานขึ้นด้วยความตกใจ เป็นความรู้สึกในแบบเดียวกับทุกๆคนที่หันมามองไอซ์เป็นตาเดียวกันในตอนนี้
“ฮะ! อะไร! ไอซ์ลุกไม่ได้! ทำไม!?” หญิงสาวเริ่มลุกลี้ลุกล้น ใจกระวนกระวายนี่เธอเป็นอะไรไป
“เจ้าพวกนั้นเล่นไรเนี่ย!?”อะตอมพูดด้วยท่าทางที่ไม่สู้ดีนัก เขารู้สึกโมโหเด็กแฝดญาติสนิทของตนยิ่งนัก ชักจะแรงเกินไปแล้วสำหรับความคิดของเขา
ให้ว่าก็ว่าไปเถอะถึงยังไงออร์แกนและออกัสก็ไม่รับรู้อยู่แล้ว ทั้งสองคนพอใจมากที่เครื่องมือกับดักวิทยาศาสตร์ของเขาสามารถทำให้คนที่เฝ้ายามอยู่นอกประตูห้องพากันสลบเหมือดไปกองอยู่กับพื้นกันหมด เด็กทั้งสองที่มีหน้ากากกันสารเคมีที่พกติดตัวไว้ก่อนออกจากห้องนั้น พวกเขาหยิบมันขึ้นมาใส่ก่อนจะรีบวิ่งไปยังห้องเก็บของเก่าที่อยู่ติดกับห้องโถงอย่างตื่นเต้นกับกับดักใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จไว้ใช้สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ ออกัสใช้ไฟฉายของตนส่องไปยังปุ่มสั่งการกับดักที่เขากำลังงุ่นทำเมื่อตะกี้อย่างสุขใจ
“เสร็จแน่งานนี้ หึๆ!”
“ออกัส!จะทำอะไรก็รีบๆทำสิฉันได้ยินเหมือนมีคนเดินมาทางด้วย”
“ฮะ!?”ออกัสทำหน้าสงสัยใครกันที่ยังไม่สลบเหมือดไปกับสเปรย์ยาสลบของเขากันนะ!?????
==================================================
เย่!!!!!อัพแล้วววววววววววววว อ่านให้สนุกนะคะ^^ ตอนนี้แต่งแล้วรู้สึกว่านางเอกเริ่มเผยความน่ารักออกมานิดๆแล้วล่ะค่ะ5555!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ