นิยายไร้เรื่อง
1) ความทรงจำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทนำ
"เมี๊ยว เมี๊ยว เจ้าเหมียวลงมานี่มา มาหาฉันนี่"
เด็กหญิงผมเปียใช้มือเหนี่ยวกิ่งไม้ไว้ข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างพยายามเอื้อมมือไปคว้าลูกแมวที่ร้องเหมียวๆอยู่บนกิ่งไม้เหนือศรีษะเธอ แต่ดูเหมือนเจ้าเหมียวจะหวาดกลัวเกินกว่าจะขยับมาหาเธอ เธอจึงพยายามไต่สูงขึ้นไปอีก
" ทำอะไรนะเธอ นี่มันเวลาเรียนนะ" เสียงตวาดจากเบื้องล่างทำให้เด็กหญิงตกใจปล่อยมือจากกิ่งไม้หล่นลงมาดัง "ตุบ"
" โอ้ย จะบ้าเหรือเนี๊ยะ มาเงียบๆตกใจหมด อู๊ย เจ็บชะมัดเลย" เด็กหญิงบ่นกระปอดกระแปดพลางพยายามยันตัวลุกขึ้น
" ก็ใครใช้ให้เธอนึกพิเรนทร์ มาปีนต้นไม้ทั้งที่ยังอยู่ในชุดนักเรียนอย่างนี่กันเล่า"
คนตัวโตกว่าบ่นพลางมองคนตัวเล็กด้วยแววตากึ่งสมน้ำหน้ากึ่งเป็นห่วง เขาได้ยินแต่เสียงบ่นงึมงำจับความไม่ได้ จึงได้แต่ถอนหายใจในความซนของเด็ก พลางก้มลงหวังประคองเด็กหญิงให้ลุกขึ้นจึงไม่ทันตั้งตัวเมื่ออีกฝ่ายลุกพรวดขึ้นมาเป็นเหตุให้ศรีษะคนตัวเล็กชนกับจมูกของอีกฝ่ายอย่างจัง
" เธอ นี่ฉันตั้งใจจะช่วย ยังมาทำร้ายกันอีกหรอ" คนตัวโตดุเสียงเข้มพร้อมกับกุมจมูกที่เริ่มแดงก่ำ น้ำตาเอ่อคลอ
"ก็คนจะลุก มายืนขวางเอง เอาน่า ถือว่าเจ๊ากัน พี่ทำหนูตกต้นไม้ หนูชนพี่เจ็บนิดหน่อย ถือว่าหายกันน่า อย่ามาทำสำออยน้ำตาร่วงหน่อยเลย" เด็กหญิงแกล้งปลอบเมื่อเห็นอีกฝ่ายน้ำตาเล็ด
" น้อยๆหน่อยเถอะ เราร้องไห้ที่ไหนกัน น้ำตามันเอ่อของมันเองต่างหาก แล้วเรานะชื่ออะไร เรียนอยู่ชั้นไหน" จากเครื่องแบบนักเรียนดูก็รู้ว่าเป็นเด็กมอต้นแต่จะห้องไหนชั้นไหนนั้นมันเกินคาดเดา
" นี่เป็นคำถามจากคณะกรรมการนักเรียนนะ" คนตัวโตขู่สำทับเมื่อเห็นอีกฝ่ายยื่นหน้ามุ่ย ไม่ยอมตอบ
" ชื่ออังสุมาลี เรียนชั้นมอหนึ่งห้องหนึ่งค่ะ รุ่นพี่เมฆา " เด็กหญิงเหลือบมองป้ายชื่ออีกฝ่ายตอบคำถามเสียงห้วน ก่อนสะบัดหน้าเดินกะเผลกจากไป
" ยัยเด็กบ้า เป็นน้องเป็นนุ่งจะตีซะให้เข็ด" คนตัวโตยืนบ่นก่อนพาตัวเองเดินไปอีกทาง
เจ้าแมวน้อยยังคงร้องเหมียวอยู่บนต้นไม้ ได้แต่มองคนสองคนเดินแยกไปคนละทางตาปริบๆบางทีมันอาจจะพูดกับตัวเองว่า
"รู้อย่างนี้ โดดลงไปตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ไม่น่าเลยเรา"
...........................................
" เย้ ในที่สุดชั่วโมงพละก็มาถึงจนได้" มนันยา หรือที่เพื่อนๆเรียกกันว่ายาเอ่ยขึ้นมาอย่างดีใจ
"ฉันไม่ยักกะรู้ว่าแกชอบเรียนพละนะยัยยา" วิลาวัลย์ เพื่อนสาวสุดห้าวประจำกลุ่มขัดคอ
" ใครว่ามันชอบเรียนพละละวิ แกก็รู้นี่นาว่าชั่วโมงเรียนพละเรามันตรงกับชั่วโมงเรียนของพี่มอหก ยัยยามันก็ฝันถึงพี่เมฆค่ะ พี่เมฆขา ของมันนะซิ" ดลนภากล่าวเสริม จึงโดนสายตาเพื่อนยาค้อนขวับ
" อย่ามาทำเป็นว่าให้ฉันหน่อยเลยยัยดล หรือแกไม่ปลื้มไปกะฉันฮ่ะ แกก็เหมือนกันยัยวิ ฉันเห็นแกไปตามติดดูพี่เขาเวลาแข่งบาสทุกทีแหละ"
" เฮ้ย ฉันดูเพราะพี่เขาเล่นบาสเก่ง ฉันไม่ได้เพ้อเหมือนพวกหล่อน หรือยัยแมนนี่นะเว้ย " วิลาวัลย์เอ่ยเสียงหลง
"อะไรกันยะ พวกหล่อน ฉันได้ยินชื่อฉันแว่วๆ" วีรภาพหรือแมนเดินเข้ามาหากลุ่มสาวน้อยที่จัดของไว้ใต้โต๊ะเรียบร้อยแล้ว
" เรากำลังพูดถึงพี่เมฆ สุดที่รักของยัยอังอยู่นะ" มนันยากระเซ้าคนที่นั่งเงียบทำปากเบ้ตั้งแต่ได้ยินหัวข้อสนทนา เพราะในกลุ่มต่างรู้กันดีว่า ทั้งเมฆาและอังสุมาลีนั้นเป็นคู่กัดกันมาตลอด เจอกันเมื่อไหร่เป็นต้องมีเรื่องให้ทะเลาะกัน ไม่ว่าจะเป็นงานกีฬาสีเมื่อเดือนก่อนตอนที่เมฆาลากตัวเพื่อนสาวถูลู่ถูกังไปบนเวทีวิ่งผลัดมหัศจรรย์เพื่อไปเป็นคู่เต้นไก่ย่าง หรือตอนเพื่อนสาวตั้งใจตบลูกปิงปองใส่รุ่นพี่จนรุ่นพี่หัวโนเมื่อชั่วโมงพละชั่วโมงก่อนหน้า
" อย่าเอาฉันมายุ่งยะ ไปยัยแมน" อังสุมาลีคล้องแขนเพื่อนชายที่แอบสาวเดินนำออกจากห้อง ปล่อยให้เพื่อนสาวที่เหลือหัวเราะคิกคักกันตามสบาย
.................................
" เมฆ จบงานอำลาวันนี้แล้วแกจะไปเมกาเลยเหรอ" ภาวี ถามเพื่อนชายที่นั่งเหม่อมองออกไปนอกห้องเรียน
" อืม ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เห็นพ่อเราว่างั้นนะ เพราะเราเองก็ต้องไปปรับภาษาด้วย" เมฆาตอบโดยไม่หันมามอง
" แกมองอะไรว่ะ" ภาวีสงสัยจึงเดินไปยืนข้างเพื่อน
" อ้อ แอบมองยัยกระป๋องของแกนี่เอง ได้ยินมาว่า งานเลี้ยงอำลาพี่มอหกวันนี้ ยัยกระป๋องของนายทำงานหนักเชียวนะเว้ย"
" คิดมากละไอ้วี ยัยกระป๋องของเราที่ไหน แต่อย่างว่านะ ได้ยินแว่วๆมาเหมือนกัน"
" ยัยกระป๋องแกนี่อ่า แม้จะดูไม่สนโลก เฉิ่มๆเชยๆ แต่ความสามารถเยอะจริง แกว่าไม๊ ไม่ว่าจะดนตรี สารพัดกลอนกับเรียงความ ยัยดลน้องเราบอกว่าผลการเรียนติดอยู่อันดับต้นๆของห้องด้วยนะเว้ย" ภาวียังคงพูดต่อจนเมฆาหันมามองอย่างข้องใจ
" แล้วยังไง เด็กมันเก่งแล้วไง แกมาพูดให้ฟังทำไมว่ะ "
" อ้าว ก็เห็นแกกะน้องเขาชอบพอกันดี ก็นึกว่าแกอยากจะบอกอะไรทิ้งท้ายไว้ให้น้องเขาบ้าง" ภาวีพูดไม่ทันจบดีก็ต้องรีบหลบวงสวิงขาของเพื่อนเสียก่อน
" ไอ้เพื่อนบ้า" เมฆาได้แต่บ่นกับตัวเองเพราะเขาชินเสียแล้วกับการถูกเพื่อนล้ออย่างนี้เสมอนับจากมีเรื่องมีราวกับยัยผมเปีย แม้แต่อาจารย์บางท่านที่เขาสนิทด้วยก็หยอกเขาเรื่องนี้
" ลาก่อนยัยเปียกระป๋อง หวังว่าเราคงไม่ได้เจอกันอีก" เมฆาพูดกับตัวเองเบาๆก่อนเดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อนคนอื่นๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ