Turning Point.
10.0
6)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เป็นเวลาเกือบบ่ายกว่าทั้งหมดจะรู้สึกดีขึ้น
กำไลได้น้ำจากชาวบ้านที่เข้ามาแอบหาของป่า
แต่ยังมีน้ำใจช่วยเอากระบอกไม้ไผ่ที่มีน้ำอยู่เต็ม
มาส่งให้ แดดที่ร้อนอบอ้าวบวกกับความอ่อนเพลียและโหยหิว เพราะอาหารไม่ได้ตกถึงท้องตั้งแต่เย็นวาน ทำเอาฑีและแห้งต่างอ่อนแรงไปตามๆกัน ต้นช่วยพยุงแห้งให้เดินได้ตรงตามทาง ที่ชาวบ้านพูดภาษาที่พวกตนไม่เข้าใจชี้สุ่มส่งให้ ระหว่างทางเดินฑีส่งส่ายสายตามองหาผลไม้ป่าที่พอจะกินได้บ้าง มีแต่กล้วยป่า ซึ่งกินแทบไม่ได้เพราะเม็ดเยอะเหลือเกิน หน่อไม้พอมีบ้างให้พวกเขาขุดด้วยไม้ ก่อไฟเผากินได้บ้างขณะที่นั่งล้อมกองไฟเล็กๆที่เผาหน่อไม้อยู่นั้น ต้นตั้งข้อสังเกตุว่า
"ควันพิษใช่มั๊ย ที่พวกเราโดน" พลางหันหน้าไปทางกำไลเชิงขอความเห็น
"เราคิดว่าใช่นะ ใครเป็นคนหาฟืนล่ะ แล้วแห้งอยู่ใต้ลมด้วย เลยหนักกว่าคนอื่นอีก" กำไลพูด
"ไอ้นัทกับศจี หายไปไหนก้อไม่รุ..."แห้งบ่น
"นี่ล่ะปัญหาล่ะ " ฑีเอ่ยขึ้นบ้าง "เราว่าศจีดูแปลกๆ เหมือนไม่ค่อยเป็นคนธรรมชาติเท่าไหร่เลย พูดอะไรก็ดูเหมือนจะอ้อนไอ้นัทที เราล่ะไม่อยากนึกว่า...." ฑีหยุดเพียงเท่านั้น เพราะหากพูดมากไปก็ดูเหมือนว่าเขาเป็นคนปากไม่ดีนินทาผู้หญิง
แต่เพื่อนๆทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย และเข้าใจที่ ฑีพูดทุกคำ "หากเป็นศจีจริง และมีแผน เขาทำทำไมล่ะ ทำเพื่ออะไร? คบกันตั้งนานแล้วด้วย"กำไลขอความเห็นจากเพื่อนๆบ้าง ....
" เอ่อ..จริงสิ.. เรามีเรื่องจะถามแห้งล่ะ.."กำไลเอ่ยพลางมองหน้าแห้ง แห้งพยักหน้า พลางเขี่ยหน่อไม้ออกมาจากกองไฟ แกะดูว่าสุกพอกินได้หรือยัง?
" แกชอบศจีเหรอแห้ง!."
"เฮ้ย!..จะบ้าเหรอ!..ชั้นนี่นะชอบศจี ถึงจะสวยนะ แต่ไม่ใช่แนวชั้นโว้ย!." แห้งเอะอะตอบ
"เก๊าะเราเห็นในไดอารี่แกเขียนไว้นี่" กำไลว่าต่อ "เราเก็บได้ตอนที่ช่วยกันกางเต้นท์น่ะ เลยเก็บไว้ก่อน ยังไม่มีเวลาถามว่าของใคร แต่อ่านแล้ว เราจำได้ว่าเป็นลายมือของแกนะ" กำไลพูดพลางมองหน้าแห้ง แห้งหัวเราะก้องป่าแบบประชดประชัน
"ไดอารี่นี่นะ.. แค่ชารท์ผู้ป่วยชั้นยังขี้เกียจเขียนด้วยซ้ำแม่คู๊ณ .. เอาแรงไว้ก่อนเหอะ หน่อไม้กินได้แล้ว รองท้องก่อน ค่อยเดินกลับที่พักไปคุยไปแล้วกัน." แห้งตัดบท แล้วทุกคนก็จัดแจงแกะหน่อไม้กินด้วยความหิว ......
ภายในถ้ำที่ทั้งมืดทั้งอับชื้นแจ่มใสยังถูกมัดมือและเท้าอยู่ แต่ปลายเท้าของเธอได้ชี้ไปทางที่นัทนอนอยู่พอดี แจ่มใสใช้เท้าเขี่ยปลุกนัทให้ตื่น ผลของยาสลบอย่างแรงที่นัทได้รับทำให้เขาทั้งอ่อนแรงและอาเจียรอย่างหนัก นัทงัวเงียสะลึมสะลือส่งเสียงอืออาไม่ได้ศัพย์
"ตื่นได้แล้วนัท..ตื่นเร็วๆ" แจ่มใสส่งเสียงเตือนสติเพื่อนไม่ดังมากนัก เพราะเธอไม่แน่ใจว่าไอ้พวกที่จับเธอมา มันพากันไปอยู่ซอกมุมใดในถ้ำนี้
"เกิดอารายขึ้นนน..เหยออออ.." เสียงของนัทยังอู้อี้ในฤทธิ์ยา
"พวกเราโดนจับมารุป่าว เร็วๆ มาช่วยแก้มัดเราที เธอสลบหนักจนไม่มีใครอยากมามัดแล้ว เหม็นหึ่งทั้งคืนเลย ทั้งบุ๋งทั้งอ้วก..ชั้นจะบ้าตาย."
นัทค่อยๆคลานแบบไม่ค่อยเต็มสตินักมาช่วยแก้มัดให้แจ่มใส จนแจ่มใสหลุดพ้นพันธนาการ
"แม่แฟนตัวดีเธอ เป็นสายโจรรุไว้ซะไอ้นัท"
แจ่มใสโพล่งออกมาอย่างเหลืออด เพราะผู้หญิงคนนี้ทำให้เธอต้องโดนจับตัวมา แถมไอ้เจ้าตัวหนุ่มนักรักก็พลอยโดนมาด้วยอีก แล้วคำที่ว่า "ฆ่ามันนี่" พวกนั้นจะฆ่าใครนะ แจ่มใสคิดนึกถึงคำพูดที่เธอได้ยินมาจากการพูดคุยของพวกมัน แล้วเพื่อนๆที่เหลือล่ะ อยู่ที่ไหน ทำอะไรกันอยู่ รู้หรือยังว่าเธอโดนลักพาตัวมาแบบนี้ และความรู้สึกที่มีต่อนัทในตอนนี้ของแจ่มใส ช่างแตกต่างจากเมื่อก่อนเหลือเกิน นัทคนนี้เหรอ ที่เธอแอบชอบมาตั้งนาน ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะหลงรักผู้ชายที่ไม่ได้ความคนนี้
นัทส่ายหน้าคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อคืนตอนที่เพื่อนๆต่างกรูวิ่งไปทางห้องน้ำเพื่อนหาแจ่มใส เขากลับยอมให้อำนาจทางต่ำมาบงการการกระทำตนเอง เพื่อที่จะได้อยู่กับศจีสองต่อสองและทำตามการเรียกร้องธรรมชาติ ก็ศจีเองล่ะที่เผยส่งความหมายลึกซึ้งให้เขาเอง จนตัวเขาเองได้มาเจอเรื่องยุ่งยากแบบนี้ แถมยังทำให้เพื่อนต้องมาตกที่นั่งลำบากเพราะคนที่เขารักอีก "เราจะพาเธอออกไปนะแจ่ม ไม่ต้องห่วง" นัทพูดกับแจ่มใสและอยากรับผิดชอบขึ้นมาอย่างจริงๆจังๆ เพราะรู้ตัวว่าตนเองผิดจริงๆ "ที่ๆเรามาเที่ยวมันมีถ้ำกี่แห่ง เธอรู้หรือเปล่านัท?" แจ่มใสถามอย่างพยายามช่วยนึกวาดภาพป่าแห่งนี้ในความจำที่เคยดูแผนที่คร่าวๆก่อนมากับกำไล เท่าที่พอจะนึกออก เพราะแม้จะเที่ยวด้วยกันทุกปีมาติดต่อกันสองปีแล้ว แต่ที่แห่งนี้เพิ่งมาเป็นครั้งแรก เพราะนัทบอกว่ามีที่แห่งใหม่น่าเที่ยวและธรรมชาติมากกว่าที่เดิม "อื้ม..ไม่รู้สิ เพราะศจีเป็นคนชวนให้มาที่นี่น่ะ เราไม่ค่อยรู้หรอก แต่ติดเขตชายแดนพม่าล่ะ" นัทตอบ
"เราก็คิดว่างั้น เพราะลำพังสมองเธอคงรู้แค่ ที่ซอยทองหล่อกับเอกมัยล่ะม้าง" แจ่มใสอดค่อนขอดนัทไม่ได้ แต่แทนที่นัทจะตอบโต้ คราวนี้เขากลับนิ่งไป ซึ่งผิดวิสัยเขาเหลือเกิน ทำให้แจ่มใสอดตำหนิตัวเองไม่ได้ ที่ในสถานะการณ์เช่นนี้เธอยังไม่วายพูดตอกย้ำเอากับเพื่อนไม่ได้ นัทลุกขึ้นยื่นมือมาให้แจ่มใสจับพยุงตัวลุก พลางก้าวย่างออกไปทางที่มีแสงสว่างอยู่ลิบๆข้างหน้า
ศจีจัดการซื้อชิมเบอร์ใหม่ และปลี่ยนชิมเข้าเครื่องมือถือ กดหมายเลขที่ต้องการแล้วยื่นให้ชายวัย47ปีหน้าเหี้ยม กรอกเสียงที่ฟังเหมือนพูดภาษาไทยไม่ชัดลงไปแต่จับใจความได้ว่า
"บ้านนายพล..........ใช่มั๊ย?...บอกมันด้วยว่าลูกสาวกับเพื่อนๆทุกคนอยู่ในความดูแลของเรา ถ้าไม่อยากให้เกิดอะไรร้ายๆ ก็รวมหัวกันหาเงินมาคนละสิบล้าน แล้วจะโทรฯมาบอกอีกที."
เสียงที่บอกมาทำเอาคุณหญิงที่เป็นผู้รับสายเองกับมือ ถึงกับเข่าอ่อน ใช่สิลูกสาวเพิ่งมาขอไปเที่ยวกับเพื่อนๆกลุ่มเดิมเมื่อวันก่อนนี่เอง แล้วเรื่องนี้มันจริงหรือ เธอร้อนใจจนต้องค้นหาหมายเลขโทรฯของบ้านเพื่อนๆลูกสาวทุกคนที่ไปด้วยกันและโทรฯสอบถาม ...ซึ่งทุกบ้านได้รับสายและประโยคเดียวกันถ้วนหน้า ร้อนถึงท่านนายพล.ต้องติดต่อกับบรรดาพ่อแม่ของเพื่อนๆลูกสาวทั้งห้าครอบครัวที่ไม่ได้อยู่ใกล้กันเลย "ต้องไปจังหวัดที่พวกเขาไปเที่ยวกันแล้วล่ะครับ" ท่านบอกกับทุกคนไปเช่นนั้น พลางนัดแนะกันที่ตัวจังหวัดนั้นในวันรุ่งขึ้น แต่ในใจท่านก็ยังหวังว่าลูกสาวและเพื่อนๆของลูกทุกคนต้องปลอดภัย ยิ่งกับกำไล ท่านยิ่งมั่นใจ....
หลังจากทำงานร้ายๆในตัวอำเภอเรียบร้อยแล้วศจีกับกลุ่มผู้หวังความร่ำรวยทางลัดที่อุสาห์ตีสนิทเสียเวลาตั้งสองปี กับเงินก้อนหนักๆใหญ่ๆแสนสุดคุ้มแม้จะหักส่วนแบ่งแล้วก็ตาม ต่างเตรียมซื้อข้าวของเป็นการใหญ่ เพราะต่อไปนี้พวกเธอจะต้องหลบซ่อนตัวไม่ต่ำกว่าหกเดือนในป่า หรือจนกว่าจะหนีข้ามเขตไปได้ ท้ายรถกะบะอัดแน่นไปด้วยของกินของใช้ที่มากมายเกินคนสองคนจะใช้ได้หมด ตำรวจทางหลวงตรวจสอบตามปกติ ศจียิ้มหวานหยดย้อยก่อนตอบเป็นภาษาพื้นเมืองว่า ของทุกอย่างนำไปขาย และโดนปล่อยมาอย่างง่ายดาย
"มันตรวจทำไมวะแค่นี้เอง..." เสียงหนุ่มใหญ่พูดอย่างเย้ยเยาะ "ก้อตรวจให้เราสะดุ้งเล่นๆไง" ศจีตอบบ้าง ต่างขำกับความละเลยของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง "เร็วๆหน่อยเถอะน้า..เดี๋ยวมันฟื้นขึ้นมาแล้วจะยุ่ง" ชายหน้าเหี้ยมปรายตามองแว๊ป "..มึงจะกลัวทำไม..ไหนบอกว่ายาแรงไม่ใช่รึ? แถมไอ้พวกนั้นก็เฝ้าอยู่ตั้งสองคน" พูดพลางอมยิ้มมุมปาก
"ก็จริง แต่ต้องหาอีกสี่คนนะ ยังเอาตัวมันมาไม่ได้ แต่ไปเรียกเงินล่วงหน้าแล้ว เฮ้อ!..หัวใสนะเนี้ยะ.. เสียดายแต่ไอ้ฑีที่ต้องตาย ใครใช้ให้บ้านมันจนล่ะนะ ว่ามั๊ยน้า.. เผลอๆป่านนี้ตายกันหมดแล้วมั๊ง ท่อนไม้พญาล้างนี่มันพิษมากไม่ใช่เหรอน้า?"
คำสุดท้ายศจีหันไปถามน้าหัวหน้าโจรหน้าดุ "เออ..เจอเข้าเต็มๆก็ตายล่ะวะ พิษไม้ตัวนี้นะสมัยก่อนเขาเอามาเผาเอาขี้เถ้าผสมอาหารวางยากัน หรือไม่ก็ใช้ควันรมพิษเหมือนห้องรมแก๊สนั่นล่ะ แต่ไม่แน่ใจโว้ย เพราะมันเป็นที่โล่ง ไม่ใช่ห้องทึบผลมันอาจไม่ได้ตายปุบปับ แต่อาจค่อยๆตายว่ะ.."
เจ้าแหว่งกับไอ้ลำที่ถูกใช้ให้เฝ้าถ้ำ ต่างนึกหิว ก่อนออกมาหายิงกระรอกย่างกินรองท้อง รอหัวหน้าที่เข้าไปตัวอำเภอ ได้แอบเข้าไปดูคนสองคนที่นอนหมดสติในถ้ำแล้ว ก่อนตัดสินใจออกมาหาอาหาร "อ่อนแอไม่รู้ทางแบบนี้ หนีไปไหนไม่ได้หรอก พวกเราไปแปปเดียวเอง หัวหน้าไม่รู้แน่ ไปกันเถอะ...นี่คือความคิดของพวกมัน ทำให้แจ่มใสที่แกล้งเป็นสลบไสลกับนัทมีโอกาสหลุดรอดออกมาได้ แต่จับทิศทางไม่ถูกเลย นัทแหงนหน้ามองฟ้า ก่อนจะเดินนำหน้าแจ่มใสไปทางที่เงาทอดตัวไปทางซ้ายมือนิดๆ
ส่วนทางกำไล ต้น ฑี และแห้ง หลังจากที่มีแรงจากหน่อไม้เผาแล้ว ก็เริ่มเดินดุ่มไปขวามือที่ชาวหาของป่าชี้บอกต่อไป. " เราควรทำเครื่องหมายอะไรไว้มั๊ย? ต้นถามขึ้น "ก็ดีนะ งั้นหักกิ่งไม้ไปทางที่เราเดินหน้าไปแล้วกัน"ฑีตอบ กำไลจึงเริ่มหักกิ่งไม้ระดับสะโพกตัวเองเป็นคนแรก
โปรดรอตอนจบค่ะ.จวนแล้วตอนหน้าจบแน่ๆ ตอนนี้ขอคิดก่อนค่ะ อิอิ...
กำไลได้น้ำจากชาวบ้านที่เข้ามาแอบหาของป่า
แต่ยังมีน้ำใจช่วยเอากระบอกไม้ไผ่ที่มีน้ำอยู่เต็ม
มาส่งให้ แดดที่ร้อนอบอ้าวบวกกับความอ่อนเพลียและโหยหิว เพราะอาหารไม่ได้ตกถึงท้องตั้งแต่เย็นวาน ทำเอาฑีและแห้งต่างอ่อนแรงไปตามๆกัน ต้นช่วยพยุงแห้งให้เดินได้ตรงตามทาง ที่ชาวบ้านพูดภาษาที่พวกตนไม่เข้าใจชี้สุ่มส่งให้ ระหว่างทางเดินฑีส่งส่ายสายตามองหาผลไม้ป่าที่พอจะกินได้บ้าง มีแต่กล้วยป่า ซึ่งกินแทบไม่ได้เพราะเม็ดเยอะเหลือเกิน หน่อไม้พอมีบ้างให้พวกเขาขุดด้วยไม้ ก่อไฟเผากินได้บ้างขณะที่นั่งล้อมกองไฟเล็กๆที่เผาหน่อไม้อยู่นั้น ต้นตั้งข้อสังเกตุว่า
"ควันพิษใช่มั๊ย ที่พวกเราโดน" พลางหันหน้าไปทางกำไลเชิงขอความเห็น
"เราคิดว่าใช่นะ ใครเป็นคนหาฟืนล่ะ แล้วแห้งอยู่ใต้ลมด้วย เลยหนักกว่าคนอื่นอีก" กำไลพูด
"ไอ้นัทกับศจี หายไปไหนก้อไม่รุ..."แห้งบ่น
"นี่ล่ะปัญหาล่ะ " ฑีเอ่ยขึ้นบ้าง "เราว่าศจีดูแปลกๆ เหมือนไม่ค่อยเป็นคนธรรมชาติเท่าไหร่เลย พูดอะไรก็ดูเหมือนจะอ้อนไอ้นัทที เราล่ะไม่อยากนึกว่า...." ฑีหยุดเพียงเท่านั้น เพราะหากพูดมากไปก็ดูเหมือนว่าเขาเป็นคนปากไม่ดีนินทาผู้หญิง
แต่เพื่อนๆทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย และเข้าใจที่ ฑีพูดทุกคำ "หากเป็นศจีจริง และมีแผน เขาทำทำไมล่ะ ทำเพื่ออะไร? คบกันตั้งนานแล้วด้วย"กำไลขอความเห็นจากเพื่อนๆบ้าง ....
" เอ่อ..จริงสิ.. เรามีเรื่องจะถามแห้งล่ะ.."กำไลเอ่ยพลางมองหน้าแห้ง แห้งพยักหน้า พลางเขี่ยหน่อไม้ออกมาจากกองไฟ แกะดูว่าสุกพอกินได้หรือยัง?
" แกชอบศจีเหรอแห้ง!."
"เฮ้ย!..จะบ้าเหรอ!..ชั้นนี่นะชอบศจี ถึงจะสวยนะ แต่ไม่ใช่แนวชั้นโว้ย!." แห้งเอะอะตอบ
"เก๊าะเราเห็นในไดอารี่แกเขียนไว้นี่" กำไลว่าต่อ "เราเก็บได้ตอนที่ช่วยกันกางเต้นท์น่ะ เลยเก็บไว้ก่อน ยังไม่มีเวลาถามว่าของใคร แต่อ่านแล้ว เราจำได้ว่าเป็นลายมือของแกนะ" กำไลพูดพลางมองหน้าแห้ง แห้งหัวเราะก้องป่าแบบประชดประชัน
"ไดอารี่นี่นะ.. แค่ชารท์ผู้ป่วยชั้นยังขี้เกียจเขียนด้วยซ้ำแม่คู๊ณ .. เอาแรงไว้ก่อนเหอะ หน่อไม้กินได้แล้ว รองท้องก่อน ค่อยเดินกลับที่พักไปคุยไปแล้วกัน." แห้งตัดบท แล้วทุกคนก็จัดแจงแกะหน่อไม้กินด้วยความหิว ......
ภายในถ้ำที่ทั้งมืดทั้งอับชื้นแจ่มใสยังถูกมัดมือและเท้าอยู่ แต่ปลายเท้าของเธอได้ชี้ไปทางที่นัทนอนอยู่พอดี แจ่มใสใช้เท้าเขี่ยปลุกนัทให้ตื่น ผลของยาสลบอย่างแรงที่นัทได้รับทำให้เขาทั้งอ่อนแรงและอาเจียรอย่างหนัก นัทงัวเงียสะลึมสะลือส่งเสียงอืออาไม่ได้ศัพย์
"ตื่นได้แล้วนัท..ตื่นเร็วๆ" แจ่มใสส่งเสียงเตือนสติเพื่อนไม่ดังมากนัก เพราะเธอไม่แน่ใจว่าไอ้พวกที่จับเธอมา มันพากันไปอยู่ซอกมุมใดในถ้ำนี้
"เกิดอารายขึ้นนน..เหยออออ.." เสียงของนัทยังอู้อี้ในฤทธิ์ยา
"พวกเราโดนจับมารุป่าว เร็วๆ มาช่วยแก้มัดเราที เธอสลบหนักจนไม่มีใครอยากมามัดแล้ว เหม็นหึ่งทั้งคืนเลย ทั้งบุ๋งทั้งอ้วก..ชั้นจะบ้าตาย."
นัทค่อยๆคลานแบบไม่ค่อยเต็มสตินักมาช่วยแก้มัดให้แจ่มใส จนแจ่มใสหลุดพ้นพันธนาการ
"แม่แฟนตัวดีเธอ เป็นสายโจรรุไว้ซะไอ้นัท"
แจ่มใสโพล่งออกมาอย่างเหลืออด เพราะผู้หญิงคนนี้ทำให้เธอต้องโดนจับตัวมา แถมไอ้เจ้าตัวหนุ่มนักรักก็พลอยโดนมาด้วยอีก แล้วคำที่ว่า "ฆ่ามันนี่" พวกนั้นจะฆ่าใครนะ แจ่มใสคิดนึกถึงคำพูดที่เธอได้ยินมาจากการพูดคุยของพวกมัน แล้วเพื่อนๆที่เหลือล่ะ อยู่ที่ไหน ทำอะไรกันอยู่ รู้หรือยังว่าเธอโดนลักพาตัวมาแบบนี้ และความรู้สึกที่มีต่อนัทในตอนนี้ของแจ่มใส ช่างแตกต่างจากเมื่อก่อนเหลือเกิน นัทคนนี้เหรอ ที่เธอแอบชอบมาตั้งนาน ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะหลงรักผู้ชายที่ไม่ได้ความคนนี้
นัทส่ายหน้าคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อคืนตอนที่เพื่อนๆต่างกรูวิ่งไปทางห้องน้ำเพื่อนหาแจ่มใส เขากลับยอมให้อำนาจทางต่ำมาบงการการกระทำตนเอง เพื่อที่จะได้อยู่กับศจีสองต่อสองและทำตามการเรียกร้องธรรมชาติ ก็ศจีเองล่ะที่เผยส่งความหมายลึกซึ้งให้เขาเอง จนตัวเขาเองได้มาเจอเรื่องยุ่งยากแบบนี้ แถมยังทำให้เพื่อนต้องมาตกที่นั่งลำบากเพราะคนที่เขารักอีก "เราจะพาเธอออกไปนะแจ่ม ไม่ต้องห่วง" นัทพูดกับแจ่มใสและอยากรับผิดชอบขึ้นมาอย่างจริงๆจังๆ เพราะรู้ตัวว่าตนเองผิดจริงๆ "ที่ๆเรามาเที่ยวมันมีถ้ำกี่แห่ง เธอรู้หรือเปล่านัท?" แจ่มใสถามอย่างพยายามช่วยนึกวาดภาพป่าแห่งนี้ในความจำที่เคยดูแผนที่คร่าวๆก่อนมากับกำไล เท่าที่พอจะนึกออก เพราะแม้จะเที่ยวด้วยกันทุกปีมาติดต่อกันสองปีแล้ว แต่ที่แห่งนี้เพิ่งมาเป็นครั้งแรก เพราะนัทบอกว่ามีที่แห่งใหม่น่าเที่ยวและธรรมชาติมากกว่าที่เดิม "อื้ม..ไม่รู้สิ เพราะศจีเป็นคนชวนให้มาที่นี่น่ะ เราไม่ค่อยรู้หรอก แต่ติดเขตชายแดนพม่าล่ะ" นัทตอบ
"เราก็คิดว่างั้น เพราะลำพังสมองเธอคงรู้แค่ ที่ซอยทองหล่อกับเอกมัยล่ะม้าง" แจ่มใสอดค่อนขอดนัทไม่ได้ แต่แทนที่นัทจะตอบโต้ คราวนี้เขากลับนิ่งไป ซึ่งผิดวิสัยเขาเหลือเกิน ทำให้แจ่มใสอดตำหนิตัวเองไม่ได้ ที่ในสถานะการณ์เช่นนี้เธอยังไม่วายพูดตอกย้ำเอากับเพื่อนไม่ได้ นัทลุกขึ้นยื่นมือมาให้แจ่มใสจับพยุงตัวลุก พลางก้าวย่างออกไปทางที่มีแสงสว่างอยู่ลิบๆข้างหน้า
ศจีจัดการซื้อชิมเบอร์ใหม่ และปลี่ยนชิมเข้าเครื่องมือถือ กดหมายเลขที่ต้องการแล้วยื่นให้ชายวัย47ปีหน้าเหี้ยม กรอกเสียงที่ฟังเหมือนพูดภาษาไทยไม่ชัดลงไปแต่จับใจความได้ว่า
"บ้านนายพล..........ใช่มั๊ย?...บอกมันด้วยว่าลูกสาวกับเพื่อนๆทุกคนอยู่ในความดูแลของเรา ถ้าไม่อยากให้เกิดอะไรร้ายๆ ก็รวมหัวกันหาเงินมาคนละสิบล้าน แล้วจะโทรฯมาบอกอีกที."
เสียงที่บอกมาทำเอาคุณหญิงที่เป็นผู้รับสายเองกับมือ ถึงกับเข่าอ่อน ใช่สิลูกสาวเพิ่งมาขอไปเที่ยวกับเพื่อนๆกลุ่มเดิมเมื่อวันก่อนนี่เอง แล้วเรื่องนี้มันจริงหรือ เธอร้อนใจจนต้องค้นหาหมายเลขโทรฯของบ้านเพื่อนๆลูกสาวทุกคนที่ไปด้วยกันและโทรฯสอบถาม ...ซึ่งทุกบ้านได้รับสายและประโยคเดียวกันถ้วนหน้า ร้อนถึงท่านนายพล.ต้องติดต่อกับบรรดาพ่อแม่ของเพื่อนๆลูกสาวทั้งห้าครอบครัวที่ไม่ได้อยู่ใกล้กันเลย "ต้องไปจังหวัดที่พวกเขาไปเที่ยวกันแล้วล่ะครับ" ท่านบอกกับทุกคนไปเช่นนั้น พลางนัดแนะกันที่ตัวจังหวัดนั้นในวันรุ่งขึ้น แต่ในใจท่านก็ยังหวังว่าลูกสาวและเพื่อนๆของลูกทุกคนต้องปลอดภัย ยิ่งกับกำไล ท่านยิ่งมั่นใจ....
หลังจากทำงานร้ายๆในตัวอำเภอเรียบร้อยแล้วศจีกับกลุ่มผู้หวังความร่ำรวยทางลัดที่อุสาห์ตีสนิทเสียเวลาตั้งสองปี กับเงินก้อนหนักๆใหญ่ๆแสนสุดคุ้มแม้จะหักส่วนแบ่งแล้วก็ตาม ต่างเตรียมซื้อข้าวของเป็นการใหญ่ เพราะต่อไปนี้พวกเธอจะต้องหลบซ่อนตัวไม่ต่ำกว่าหกเดือนในป่า หรือจนกว่าจะหนีข้ามเขตไปได้ ท้ายรถกะบะอัดแน่นไปด้วยของกินของใช้ที่มากมายเกินคนสองคนจะใช้ได้หมด ตำรวจทางหลวงตรวจสอบตามปกติ ศจียิ้มหวานหยดย้อยก่อนตอบเป็นภาษาพื้นเมืองว่า ของทุกอย่างนำไปขาย และโดนปล่อยมาอย่างง่ายดาย
"มันตรวจทำไมวะแค่นี้เอง..." เสียงหนุ่มใหญ่พูดอย่างเย้ยเยาะ "ก้อตรวจให้เราสะดุ้งเล่นๆไง" ศจีตอบบ้าง ต่างขำกับความละเลยของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง "เร็วๆหน่อยเถอะน้า..เดี๋ยวมันฟื้นขึ้นมาแล้วจะยุ่ง" ชายหน้าเหี้ยมปรายตามองแว๊ป "..มึงจะกลัวทำไม..ไหนบอกว่ายาแรงไม่ใช่รึ? แถมไอ้พวกนั้นก็เฝ้าอยู่ตั้งสองคน" พูดพลางอมยิ้มมุมปาก
"ก็จริง แต่ต้องหาอีกสี่คนนะ ยังเอาตัวมันมาไม่ได้ แต่ไปเรียกเงินล่วงหน้าแล้ว เฮ้อ!..หัวใสนะเนี้ยะ.. เสียดายแต่ไอ้ฑีที่ต้องตาย ใครใช้ให้บ้านมันจนล่ะนะ ว่ามั๊ยน้า.. เผลอๆป่านนี้ตายกันหมดแล้วมั๊ง ท่อนไม้พญาล้างนี่มันพิษมากไม่ใช่เหรอน้า?"
คำสุดท้ายศจีหันไปถามน้าหัวหน้าโจรหน้าดุ "เออ..เจอเข้าเต็มๆก็ตายล่ะวะ พิษไม้ตัวนี้นะสมัยก่อนเขาเอามาเผาเอาขี้เถ้าผสมอาหารวางยากัน หรือไม่ก็ใช้ควันรมพิษเหมือนห้องรมแก๊สนั่นล่ะ แต่ไม่แน่ใจโว้ย เพราะมันเป็นที่โล่ง ไม่ใช่ห้องทึบผลมันอาจไม่ได้ตายปุบปับ แต่อาจค่อยๆตายว่ะ.."
เจ้าแหว่งกับไอ้ลำที่ถูกใช้ให้เฝ้าถ้ำ ต่างนึกหิว ก่อนออกมาหายิงกระรอกย่างกินรองท้อง รอหัวหน้าที่เข้าไปตัวอำเภอ ได้แอบเข้าไปดูคนสองคนที่นอนหมดสติในถ้ำแล้ว ก่อนตัดสินใจออกมาหาอาหาร "อ่อนแอไม่รู้ทางแบบนี้ หนีไปไหนไม่ได้หรอก พวกเราไปแปปเดียวเอง หัวหน้าไม่รู้แน่ ไปกันเถอะ...นี่คือความคิดของพวกมัน ทำให้แจ่มใสที่แกล้งเป็นสลบไสลกับนัทมีโอกาสหลุดรอดออกมาได้ แต่จับทิศทางไม่ถูกเลย นัทแหงนหน้ามองฟ้า ก่อนจะเดินนำหน้าแจ่มใสไปทางที่เงาทอดตัวไปทางซ้ายมือนิดๆ
ส่วนทางกำไล ต้น ฑี และแห้ง หลังจากที่มีแรงจากหน่อไม้เผาแล้ว ก็เริ่มเดินดุ่มไปขวามือที่ชาวหาของป่าชี้บอกต่อไป. " เราควรทำเครื่องหมายอะไรไว้มั๊ย? ต้นถามขึ้น "ก็ดีนะ งั้นหักกิ่งไม้ไปทางที่เราเดินหน้าไปแล้วกัน"ฑีตอบ กำไลจึงเริ่มหักกิ่งไม้ระดับสะโพกตัวเองเป็นคนแรก
โปรดรอตอนจบค่ะ.จวนแล้วตอนหน้าจบแน่ๆ ตอนนี้ขอคิดก่อนค่ะ อิอิ...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ