Turning Point.
10.0
2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ในขณะที่สองสาวเพื่อนซี้ยืนชมธรรมชาติรอบๆตัวอยู่นั้น
แจ่มใส เอ่ยกับกำไลเบาๆ "ไล..ตัวรู้มั๊ย เราแอบชอบนัท"
กำไลที่รู้อยู่แล้วแม้เพื่อนไม่บอก เธอก็พอมองออกว่าเพื่อนมีใจให้เพื่อนชายคนนี้มาแต่แรก แต่ที่นึกสงสัยเพียงอย่างเดียวคือ ทำไมเพื่อนของเธอไม่เคยเอ่ยบอกกับเธอเลยปล่อยให้ทุกอย่างผ่านมาตั้ง6ปีแล้วตั้งแต่เรียนแพทย์มาด้วยกันใหม่ๆหรืออย่างน้อยช่วงปีสองหลังก็ยังดูว่าควรบอกได้ แต่เธอเก็บไว้ทำไม
"เหรอ..เธอรู้สึกแบบนี้มานานหรือยังแจ่ม"
กำไลถามแบบพาซื่อ เหมือนเธอไม่รู้อะไรมาก่อนเพื่อดูทีท่าของเพื่อน
แจ่มใสถอนหายใจ..ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆเหมือนใบหน้าที่เธอมี .."นานแล้วล่ะไล" .. ใบหน้าที่มองดูสะอาดตาน่าพิศไม่มีเครื่องประทินโฉมใดๆมาเกี่ยวข้อง ดวงตาที่สุกใสไร้มายา ปากอิ่มเอิบสีชมพูตามธรรมชาติ ผิวพรรณนวลดูอ่อนเกือบขาวอมชมพูพอดีๆ ของวัย25ด้วยชาติตระกูลที่เธอมีบ่งบอกได้จากสิ่งเหล่านี้หากยังไม่รวมนิสัยที่มองโลกในแง่ดีเกินไป อาจรวมความได้ว่าวัยเธออ่อนกว่านี้มากมายนัก เพียงแต่สีหน้ามั่นคงไม่มีความรู้สึกใดๆเท่านั้นที่แยกแยะเธอได้ในขณะนี้ "อื้ม..แล้วตัวไม่สบายใจเหรอตอนนี้น่ะ" กำไลถามต่อเพื่อเพิ่มความมั่นใจของเธอเอง แจ่มใสก้มหน้าเสมองทางเท้าที่ทั้งสองเดินคุยกัน...
เหมือนกำแพงทุกอย่างพังทลายแจ่มใสโผกอดเพื่อนสาวแสนสนิทแล้วปล่อยโฮออกมาอย่างไม่เก็บอีกต่อไป...กำไลปล่อยให้เพื่อนเธอกอดและนิ่งเงียบ อ้อมแขนเกี่ยวโอบเพื่อนสาวไว้อย่างปลอบโยน
เป็นเวลากว่าสิบนาที ก่อนที่แจ่มใสจะปล่อยการบีบรัดอ้อมกอดแห่งความอัดอั้นใจของเธอ ..น้ำตาที่ไหลพรากจากความรู้สึกของเธอยังเอ่อท้นท่วมนัยตา ขอบตาที่เริ่มส่อเค้าของการรัดกระชับของกล้ามเนื้อรอบดวงตาสำแดงเดชด้วยเริ่มบวมปูด ดวงตาแดงกล่ำด้วยเส้นเลือดแดงฝอยกระจาย ปลายจมูกแดงด้วยเลือดสูบฉีดจากการทั้งอัดทั้งอั้นลมหายใจเป็นเวลานาน ตอนนี้ไม่ต้องบอกใครก็รู้ว่าเธอเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
"แจ่ม แจ่มต้องเก็บอาการหน่อยนะ เรามาเที่ยวกัน เดี๋ยวพวกนั้นจะไม่สนุกไปด้วย" กำไลเอ่ยน้ำเสียงนุ่มนวล พลางเกลี่ยนิ้วไล้ใต้ตาเพื่อนเบาๆพลางเตือนสติให้เพื่อนไปด้วย
การที่เรียนหนัก และฝึกหนักมานาน รวมถึงการเข้าถึงประชาชนที่กำลังทุกข์ใจด้วยความเจ็บป่วยหรือสูญเสียที่หลากหลาย ทำให้อนุสามัญสำนักของแจ่มปรับได้เกือบทันที และด้วยความช่วยเหลือทางอ้อมของเพื่อนรัก ที่ปล่อยให้เธอปลดปล่อยจนสาแก่ใจในนาทีที่ผ่านมา ทำให้แจ่มใสเหมือนถึงกับพร้อมจะทันทีทันใด ที่จะกลับไปรวมตัวกับเพื่อนๆเพื่อช่วยกันทำอาหารมื้อเย็น แต่ด้วยความรอบคอบของไล จึงได้ชะงักมือที่กำข้อแขนเธอเตรียมมุ่งเดินไปทางเพื่อนๆอีกห้าคนที่ต่างคุยโวกเวกกันพอได้ยินเสียง ไว้ก่อน
"เดี๋ยวสิแจ่ม ตาตัวแดงอยู่นะ ไปล้างหน้าก่อนดีกว่า"
แจ่มใสพยักหน้าอย่างว่าง่าย เดินตามเพื่อนที่จูงมือเธอเดินอีกทางในช่วงพระอาทิตย์จวนลับฟ้าพอดิบพอดีและทิศทางนั้นเป็นทางไปห้องน้ำรวม สำหรับผู้ที่มากางเต้นท์พักค้างคืนที่วนอุทยานแห่งนี้
" อ้าวแล้วแจ่มล่ะ ...??" เสียงของต้นที่เป็นคุณหมอหน้าตี๋คนใหม่ของอำเภอปาย ที่ทุกคนในกลุ่มต่างลงความเห็นว่า เป็นคนที่โชคดีที่สุด ...เอ่ยถามกำไลเพื่อนสาวที่สนิทกัน .....
โปรดติดตามต่อไปค่ะ......
แจ่มใส เอ่ยกับกำไลเบาๆ "ไล..ตัวรู้มั๊ย เราแอบชอบนัท"
กำไลที่รู้อยู่แล้วแม้เพื่อนไม่บอก เธอก็พอมองออกว่าเพื่อนมีใจให้เพื่อนชายคนนี้มาแต่แรก แต่ที่นึกสงสัยเพียงอย่างเดียวคือ ทำไมเพื่อนของเธอไม่เคยเอ่ยบอกกับเธอเลยปล่อยให้ทุกอย่างผ่านมาตั้ง6ปีแล้วตั้งแต่เรียนแพทย์มาด้วยกันใหม่ๆหรืออย่างน้อยช่วงปีสองหลังก็ยังดูว่าควรบอกได้ แต่เธอเก็บไว้ทำไม
"เหรอ..เธอรู้สึกแบบนี้มานานหรือยังแจ่ม"
กำไลถามแบบพาซื่อ เหมือนเธอไม่รู้อะไรมาก่อนเพื่อดูทีท่าของเพื่อน
แจ่มใสถอนหายใจ..ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆเหมือนใบหน้าที่เธอมี .."นานแล้วล่ะไล" .. ใบหน้าที่มองดูสะอาดตาน่าพิศไม่มีเครื่องประทินโฉมใดๆมาเกี่ยวข้อง ดวงตาที่สุกใสไร้มายา ปากอิ่มเอิบสีชมพูตามธรรมชาติ ผิวพรรณนวลดูอ่อนเกือบขาวอมชมพูพอดีๆ ของวัย25ด้วยชาติตระกูลที่เธอมีบ่งบอกได้จากสิ่งเหล่านี้หากยังไม่รวมนิสัยที่มองโลกในแง่ดีเกินไป อาจรวมความได้ว่าวัยเธออ่อนกว่านี้มากมายนัก เพียงแต่สีหน้ามั่นคงไม่มีความรู้สึกใดๆเท่านั้นที่แยกแยะเธอได้ในขณะนี้ "อื้ม..แล้วตัวไม่สบายใจเหรอตอนนี้น่ะ" กำไลถามต่อเพื่อเพิ่มความมั่นใจของเธอเอง แจ่มใสก้มหน้าเสมองทางเท้าที่ทั้งสองเดินคุยกัน...
เหมือนกำแพงทุกอย่างพังทลายแจ่มใสโผกอดเพื่อนสาวแสนสนิทแล้วปล่อยโฮออกมาอย่างไม่เก็บอีกต่อไป...กำไลปล่อยให้เพื่อนเธอกอดและนิ่งเงียบ อ้อมแขนเกี่ยวโอบเพื่อนสาวไว้อย่างปลอบโยน
เป็นเวลากว่าสิบนาที ก่อนที่แจ่มใสจะปล่อยการบีบรัดอ้อมกอดแห่งความอัดอั้นใจของเธอ ..น้ำตาที่ไหลพรากจากความรู้สึกของเธอยังเอ่อท้นท่วมนัยตา ขอบตาที่เริ่มส่อเค้าของการรัดกระชับของกล้ามเนื้อรอบดวงตาสำแดงเดชด้วยเริ่มบวมปูด ดวงตาแดงกล่ำด้วยเส้นเลือดแดงฝอยกระจาย ปลายจมูกแดงด้วยเลือดสูบฉีดจากการทั้งอัดทั้งอั้นลมหายใจเป็นเวลานาน ตอนนี้ไม่ต้องบอกใครก็รู้ว่าเธอเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
"แจ่ม แจ่มต้องเก็บอาการหน่อยนะ เรามาเที่ยวกัน เดี๋ยวพวกนั้นจะไม่สนุกไปด้วย" กำไลเอ่ยน้ำเสียงนุ่มนวล พลางเกลี่ยนิ้วไล้ใต้ตาเพื่อนเบาๆพลางเตือนสติให้เพื่อนไปด้วย
การที่เรียนหนัก และฝึกหนักมานาน รวมถึงการเข้าถึงประชาชนที่กำลังทุกข์ใจด้วยความเจ็บป่วยหรือสูญเสียที่หลากหลาย ทำให้อนุสามัญสำนักของแจ่มปรับได้เกือบทันที และด้วยความช่วยเหลือทางอ้อมของเพื่อนรัก ที่ปล่อยให้เธอปลดปล่อยจนสาแก่ใจในนาทีที่ผ่านมา ทำให้แจ่มใสเหมือนถึงกับพร้อมจะทันทีทันใด ที่จะกลับไปรวมตัวกับเพื่อนๆเพื่อช่วยกันทำอาหารมื้อเย็น แต่ด้วยความรอบคอบของไล จึงได้ชะงักมือที่กำข้อแขนเธอเตรียมมุ่งเดินไปทางเพื่อนๆอีกห้าคนที่ต่างคุยโวกเวกกันพอได้ยินเสียง ไว้ก่อน
"เดี๋ยวสิแจ่ม ตาตัวแดงอยู่นะ ไปล้างหน้าก่อนดีกว่า"
แจ่มใสพยักหน้าอย่างว่าง่าย เดินตามเพื่อนที่จูงมือเธอเดินอีกทางในช่วงพระอาทิตย์จวนลับฟ้าพอดิบพอดีและทิศทางนั้นเป็นทางไปห้องน้ำรวม สำหรับผู้ที่มากางเต้นท์พักค้างคืนที่วนอุทยานแห่งนี้
" อ้าวแล้วแจ่มล่ะ ...??" เสียงของต้นที่เป็นคุณหมอหน้าตี๋คนใหม่ของอำเภอปาย ที่ทุกคนในกลุ่มต่างลงความเห็นว่า เป็นคนที่โชคดีที่สุด ...เอ่ยถามกำไลเพื่อนสาวที่สนิทกัน .....
โปรดติดตามต่อไปค่ะ......
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ