Turning Point.
10.0
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ " ผมกำลังสับสนครับ...ไอ้ที่ว่าจะไปเที่ยวแล้วสนุกสนานกับเพื่อนๆในวันหยุดสุดสัปดาห์ เป็นอันตกไป....
ผมพบเธอแล้ว แม่ของลูกผม..(ในอนาคต)..แต่เธอไม่ได้มาคนเดียว ไอ้บื้อนัทดันมากับเธอ แถมดูวุ่นวายกับเธอจนผมชักเกลียดขี้หน้ามันตะหงิดๆ ถึงมันจะเป็นเพื่อนของผมก็เถอะครับ แต่ตอนนี้ผมเกลียดมัน!...อยากเตะมันไปไกลๆ ไม่อยากให้มันมาอยู่ในกลุ่มผมเลย อยากเลิกคบ..อยากไล่มันเหมือนหมูหมากาไก่ ......."
ไลกำลังจะอ่านต่อ ก็ต้องรีบเก็บพับสมุดไดอารี่ซ่อนใต้กระเป๋าทันที เมื่อมีเสียงที่ดังมาจากข้างหลัง
"ไลๆ..เราไปตรงโน้นกันเถอะ เรามีเรื่องอยากถามความเห็นของเธอน่ะ" คำพูดแบบนี้ล่ะ ที่เธอเบื่อที่สุดในการมาเที่ยวกับเพื่อนๆ
แต่ก็ขัดไม่ได้ เธอต้องเก็บสมุดไดอารี่เล่มนี้ก่อนและต้องเก็บดีๆด้วย
เลยส่งเสียงบอกเพื่อนสาวไปว่า "จ้า...เราขอเก็บของก่อนนะแจ่ม."
ดูเหมือนคำพูดของเธอ ทำให้เพื่อนสาวผู้มากปัญหา แต่ไม่เคยชินกับอะไรสักอย่าง ไม่ได้รีบร้อนอะไร เธอยังคงกวาดตามองรอบๆตัวไปเรื่อยๆ ในมือถือไม้เรียวไผ่เล็กๆหวดหญ้าขวับๆเล่นแก้มือว่างไปแบบไม่ตั้งใจ
กำไล ..เริ่มเก็บของทุกอย่างให้เรียบร้อยอยู่ภายในเต้นท์ซุกสมุดเล่มน้อยลงใต้สุดก้นกระเป๋า แล้วเอาบรรดาของใช้"ส่วนตัวผู้หญิง"วางทับแบบที่เธอเป็นผู้ออกแบบเอง การวางของลักษณะไขว่กันไปมาและให้มีขอบหลืบเหลือมล้ำกันนี้ เธอได้มาจากพ่อของเธอเอง พ่อของเธอเป็นนายทหาร และพยายามสอนลูกสาวเพียงคนเดียวนี้ให้รู้จักการสังเกตุทุกๆอย่างรอบตัวเสมอ "จำไว้นะลูก เวลาไปพักที่อื่น ต้องเอาเทปใสเล็กๆ แปะไว้อย่างนี้เสมอ เราจะได้รู้ว่ามีใครแอบมาเข้าห้องบ้างตอนเราไม่อยู่" .. แล้วท่านก็ทำให้ดูด้วยมือของท่านเอง เทปใสยาวแค่นิ้วฟุตถูกปิดคาดระหว่างบานประตูและขอบประตู หากมีใครมาเปิดเทปใสที่พ่อทำให้ดูก็อ้าออกให้รู้ได้ทันที่ และแน่นอนว่า เธอจะวางใจอะไรไม่ได้ทั้งนั้นหากเห็นว่ามันมีการเปิด
ในคราวนี้ก็เช่นกัน การวางของแบบที่"เรา"เพียงผู้เดียวที่รู้ย่อมดีกว่า และ"ปลอดภัย"กว่าเป็นใหนๆ ในความคิดของเธอ
แจ่มใส เพื่อนสาวผู้แสนน่ารักและบอบบาง เป็นเพื่อนสนิทของเธอเพียงคนเดียวที่มี ยืนยิ้มไร้เดียงสากับอากาศที่เริ่มเย็นมาหน่อยแล้วในต้นเดือนพฤศจิกายนท่ามกลางป่าที่ไม่เชิงป่า เรียกกันว่า
"วนอุทยานแห่งชาติ " ดูเหมือน เป็นธรรมเนียมไปแล้วกับการท่องเที่ยวในกลุ่มนักศึกษาแพทย์รุ่นเธอที่สนิทๆกันไม่กี่คนก่อนปีใหม่ เพราะต่างก็ต้องมีงานรับผิดชอบมากขึ้นในช่วงปีใหม่ที่ไม่มีวันได้พักผ่อนเลย ยิ่งกับเพื่อนๆบางคนที่ยังต้องใช้ทุนคืนอยู่ ....
และหนึ่งในนั้นก็คือตัวเธอเอง แม้คุณพ่อของเธอจะเป็นนายทหารใหญ่
แต่ครอบครัวของเธอยังถือว่าเป็นชนชั้นกลางไม่ได้ยิ่งใหญ่มาจากไหน
และไม่เคยเลยที่จะได้รับอามิสสินจ้างใดๆเกินเงินเดือนที่สมควรได้รับ
จนมีบางทีที่เธอรู้สึกได้ถึงความภาคภูมิใจนี้อย่างถือดีและทรนงเฉกเช่นผู้เป็นพ่อ....
นอกเหนือจากนั้น เธอยังคิดว่าตัวเองเป็นผู้รอบรู้ในเกือบทุกเรื่อง
ที่บางทีเธอรู้ว่า ไม่มีเพื่อนคนใดรู้ได้เท่าเธอเป็นแน่... และปีนี้สำคัญ มากกับการมาเที่ยวในกลุ่มเพื่อนซี๊ทั้ง7คน .. ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นบ้างสิ กำไลคิด และก้าวเดินไปหาแจ่มใส ที่ยืนมองดูดวงอาทิตย์ที่หันหลังเกือบทำให้เงาทั้งสองทอดแนวยาวทาบทับไป....
ผมพบเธอแล้ว แม่ของลูกผม..(ในอนาคต)..แต่เธอไม่ได้มาคนเดียว ไอ้บื้อนัทดันมากับเธอ แถมดูวุ่นวายกับเธอจนผมชักเกลียดขี้หน้ามันตะหงิดๆ ถึงมันจะเป็นเพื่อนของผมก็เถอะครับ แต่ตอนนี้ผมเกลียดมัน!...อยากเตะมันไปไกลๆ ไม่อยากให้มันมาอยู่ในกลุ่มผมเลย อยากเลิกคบ..อยากไล่มันเหมือนหมูหมากาไก่ ......."
ไลกำลังจะอ่านต่อ ก็ต้องรีบเก็บพับสมุดไดอารี่ซ่อนใต้กระเป๋าทันที เมื่อมีเสียงที่ดังมาจากข้างหลัง
"ไลๆ..เราไปตรงโน้นกันเถอะ เรามีเรื่องอยากถามความเห็นของเธอน่ะ" คำพูดแบบนี้ล่ะ ที่เธอเบื่อที่สุดในการมาเที่ยวกับเพื่อนๆ
แต่ก็ขัดไม่ได้ เธอต้องเก็บสมุดไดอารี่เล่มนี้ก่อนและต้องเก็บดีๆด้วย
เลยส่งเสียงบอกเพื่อนสาวไปว่า "จ้า...เราขอเก็บของก่อนนะแจ่ม."
ดูเหมือนคำพูดของเธอ ทำให้เพื่อนสาวผู้มากปัญหา แต่ไม่เคยชินกับอะไรสักอย่าง ไม่ได้รีบร้อนอะไร เธอยังคงกวาดตามองรอบๆตัวไปเรื่อยๆ ในมือถือไม้เรียวไผ่เล็กๆหวดหญ้าขวับๆเล่นแก้มือว่างไปแบบไม่ตั้งใจ
กำไล ..เริ่มเก็บของทุกอย่างให้เรียบร้อยอยู่ภายในเต้นท์ซุกสมุดเล่มน้อยลงใต้สุดก้นกระเป๋า แล้วเอาบรรดาของใช้"ส่วนตัวผู้หญิง"วางทับแบบที่เธอเป็นผู้ออกแบบเอง การวางของลักษณะไขว่กันไปมาและให้มีขอบหลืบเหลือมล้ำกันนี้ เธอได้มาจากพ่อของเธอเอง พ่อของเธอเป็นนายทหาร และพยายามสอนลูกสาวเพียงคนเดียวนี้ให้รู้จักการสังเกตุทุกๆอย่างรอบตัวเสมอ "จำไว้นะลูก เวลาไปพักที่อื่น ต้องเอาเทปใสเล็กๆ แปะไว้อย่างนี้เสมอ เราจะได้รู้ว่ามีใครแอบมาเข้าห้องบ้างตอนเราไม่อยู่" .. แล้วท่านก็ทำให้ดูด้วยมือของท่านเอง เทปใสยาวแค่นิ้วฟุตถูกปิดคาดระหว่างบานประตูและขอบประตู หากมีใครมาเปิดเทปใสที่พ่อทำให้ดูก็อ้าออกให้รู้ได้ทันที่ และแน่นอนว่า เธอจะวางใจอะไรไม่ได้ทั้งนั้นหากเห็นว่ามันมีการเปิด
ในคราวนี้ก็เช่นกัน การวางของแบบที่"เรา"เพียงผู้เดียวที่รู้ย่อมดีกว่า และ"ปลอดภัย"กว่าเป็นใหนๆ ในความคิดของเธอ
แจ่มใส เพื่อนสาวผู้แสนน่ารักและบอบบาง เป็นเพื่อนสนิทของเธอเพียงคนเดียวที่มี ยืนยิ้มไร้เดียงสากับอากาศที่เริ่มเย็นมาหน่อยแล้วในต้นเดือนพฤศจิกายนท่ามกลางป่าที่ไม่เชิงป่า เรียกกันว่า
"วนอุทยานแห่งชาติ " ดูเหมือน เป็นธรรมเนียมไปแล้วกับการท่องเที่ยวในกลุ่มนักศึกษาแพทย์รุ่นเธอที่สนิทๆกันไม่กี่คนก่อนปีใหม่ เพราะต่างก็ต้องมีงานรับผิดชอบมากขึ้นในช่วงปีใหม่ที่ไม่มีวันได้พักผ่อนเลย ยิ่งกับเพื่อนๆบางคนที่ยังต้องใช้ทุนคืนอยู่ ....
และหนึ่งในนั้นก็คือตัวเธอเอง แม้คุณพ่อของเธอจะเป็นนายทหารใหญ่
แต่ครอบครัวของเธอยังถือว่าเป็นชนชั้นกลางไม่ได้ยิ่งใหญ่มาจากไหน
และไม่เคยเลยที่จะได้รับอามิสสินจ้างใดๆเกินเงินเดือนที่สมควรได้รับ
จนมีบางทีที่เธอรู้สึกได้ถึงความภาคภูมิใจนี้อย่างถือดีและทรนงเฉกเช่นผู้เป็นพ่อ....
นอกเหนือจากนั้น เธอยังคิดว่าตัวเองเป็นผู้รอบรู้ในเกือบทุกเรื่อง
ที่บางทีเธอรู้ว่า ไม่มีเพื่อนคนใดรู้ได้เท่าเธอเป็นแน่... และปีนี้สำคัญ มากกับการมาเที่ยวในกลุ่มเพื่อนซี๊ทั้ง7คน .. ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นบ้างสิ กำไลคิด และก้าวเดินไปหาแจ่มใส ที่ยืนมองดูดวงอาทิตย์ที่หันหลังเกือบทำให้เงาทั้งสองทอดแนวยาวทาบทับไป....
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ