พันธะหัวใจ...ดวงใจรักซาตาน

10.0

เขียนโดย RATH

วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 23.22 น.

  12 chapter
  53 วิจารณ์
  96.16K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) บทที่ 5 ผมอยากเป็นพ่อของลูกพี่ (บทจบ)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

http://www.keedkean.com

 


บทที่ 5

 

 

 

 

ผมอยากเป็นพ่อของลูกพี่ (บทจบ)

 

 

 

 

โรงแรมหรูห้าดาวกลางใจเมืองยามนี้ มันคือยามค่ำคืนอันมืดมิดแต่แสงสว่างยังคงเหมือนยามรุ่งอรุณแดดอ่อนอุ่นสบาย แสงสีจากแสงไฟสว่างไสวไล่ระดับแสงเงาระยิบระยับเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า เศษแก้วคริสตัลจากทุกมุมห้องของโรงแรม ถูกวางประดับไว้ส่งเส้นสายลายแสงเงามากมายหลากหลายเฉดสีสะท้อนแสงจากโคมไฟห้อยระย้าระรานตา หญิงสาวนามว่าเมทินี ในชุดราตรีสีน้ำเงิน เดินจูงมือเด็กหญิงน่ารักในเสื้อผ้าสีครีมชุดสวย พร้อมเด็กชายหน้าตาคมเข้มเดินเคียงคู่จูงมือน้องสาวพร้อมปกป้องคุ้มครอง อยู่ในชุดเสื้อสูทผูกไทหูกระต่าย ทำหน้าที่เป็นชายหนุ่มเกินอายุคอยปกป้องคุ้มครองทุกคนในครอบครัว    

 

“แม่จ๋า แก้วตรงนั้นสวยจังเลยคะแม่...” 

 

เมทินีมองตรงไปยังจุดที่ลูกสาวตัวน้อยชี้นิ้วไป มันคือแก้วคริสตัลลักษณะเหมือนดวงดาวจัดเรียงกันไว้หลากหลายขนาดหลายสีและหลายรูปทรง  เมทินีคิดว่ามันจะสวยและงดงามเป็นที่สุดก็คงเป็นที่โรงแรมแห่งนี้เท่านั้น หากนำเศษแก้วคริสตัลพวกนั้นออกไปจากโรงแรมมันก็จะเป็นได้เพียงแ่ค่เศษแก้วบางใส ลดคุณค่าน้อยลง มันจะมีคุณค่ามากกว่าหากได้อยู่ในแสงไฟหลากหลายเฉดสีในโรงแรมแห่งนี้..

 

ครั้งแรกที่เธอมาที่โรงแรมแห่งนี้เธอยังคงจำได้เช่นกัน คำแรกที่ได้พูดกับมารดาก็เป็นเช่นเดียวกันกับที่ลูกสาวตัวน้อยได้พูดกับเธอ  วันนั้นมารดาตอบคำถามเธอด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ไม่ได้ให้ความสนใจเธอมากนัก แต่ผู้ที่คอยเอาใจใส่เธอคือบิดา และพี่ชายต่างมารดา.

 

“เธออยากได้มั้ย...เม พี่จะไปเอามาให้เธอเอง” 

 

แล้วพี่ชายก็วิ่งหายไป แล้วกลับมาอีกครั้งก็มีของขวัญติดมือมาให้เธอเป็นคริสตัลรูปดวงดาวส่งแสงระยิบระยับ...พร้อมมีการ์ดใบเล็กเขียนติดไว้กับกล่องสี่เหลี่ยม... 

 

“สุขสันต์วันเกิด...น้องสาวที่น่ารักของพี่” 

 

มันคือครั้งแรกที่เธอได้มาฉลองวันเกิดพร้อมกันกับบิดา มารดา และพี่ชาย แม้มันจะเป็นการฉลองวันเกิดที่อึดอัด ไม่มีความสุขมากนัก แต่ในวันนั้นเธอดีใจและมีความสุขมากเพราะมันคือวันที่บิดาได้ประกาศให้ทุกคนได้รู้ว่าเธอก็คือลูกคนหนึ่งของท่าน และเธอก็มีพี่ชายต่างมารดาที่ยอมรับเธอเป็นดังน้องสาวคนหนึ่งด้วยเช่นกัน เหตุการณ์ในวันนั้นสำหรับเธอมันคือความสุข แต่ในวันถัดมามันคือความทุกข์สำหรับมารดาและตัวเธอเอง... 

 

“คุณองอาจ คุณทำกับฉันอย่างนี้ได้อย่างไร คุณพาเมียน้อย พร้อมเด็กเหลือขอออกไปโชว์ตัว โอ้อวดชาวบ้าน คุณเห็นแก่หน้าฉันบ้างมั้ย ฉันเป็นเมียตบ เมียแต่ง ก็ได้แต่เฝ้าบ้านเหี่ยวแห้ง คุณทำกับฉันอย่างนี้ได้อย่างไร” 

 

บิดาเธอไม่ได้พูดโต้ตอบสิ่งใด เดินออกจากบ้านหลังเล็ก และขึ้นรถคันหรูขับหายไป ท่านปล่อยให้มารดาเธออยู่เผชิญหน้ากับผู้หญิงสองคนคนแรกคือภรรยาผู้ถือใบทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องและลูกสาวอายุห่างจากเธอสามปีมีชื่อว่าวิมลวรรณ 

 

“แกคิดจะแย่งพ่อฉันมาใช่มั้ย ยัยเม นี้อะไรพ่อฉันซื้อให้แกใช่มั้ย” 

 

มันคือของขวัญวันเกิดที่เพิ่งได้รับมาจากพี่ชาย เธอยังไม่ทันได้พูดสิ่งใดวิมลวรรณคว้าแก้วคริสตัลจากมือเธอ แล้วปามันตรงไปยังกำแพงของบ้านแตกแยกชิ้นส่วนจนไม่สามารถนำมาประกอบให้เป็นชิ้นเดียวกันใหม่ได้ จากเหตุการณ์ในวันนั้นเธอและมารดาก็ไม่มีโอกาสไปไหนกับบิดาอีกเลยสำหรับเธอยอมรับเหตุผลได้ แต่สำหรับมารดาเธอการที่จะทนอยู่กับบิดาต่อไปก็ไม่สามารถทำได้ ไม่นานมารดาเธอก็เดินทางจากไปและแต่งงานกับชายชาวต่างชาติและไปอาศัยอยู่ยังต่างประเทศ คำพูดสุดท้ายที่ได้ยินจากมารดาของเธอก็คือ... 

 

“เมอยู่กับพ่อก่อนนะลูก   อีกไม่นานแม่จะกลับมาพาลูกไปอยู่ด้วย” 

 

จากวันนั้นจนวันนี้มารดาเธอก็ยังไม่ได้ติดต่อกลับมาหาเธออีก เธอเหลือแต่พี่ชายต่างมารดาที่พออาศัยคอยดูแลยามเธอมีความทุกข์และเจ็บไข้ แต่เหตุการณ์ ดีๆ ของวันดีๆ ก็อยู่กับเธอได้ไม่นานพี่ชายของเธอตกหลุมรักผู้หญิงสาวสวยที่ไม่มีวันมอบความรักตอบแทนพี่ชายได้สุดท้ายความรักของพี่ชายของเธอก็เหมือนยาขม เจ็บปวด ทุกข์ใจ สถาพร่างกายและจิตใจอ่อนแอ หมดพลังชีวิตที่จะอยู่ต่อไป พี่ชายเธอทุกข์ใจและเศร้าใจมากจึงหายตัวเป็นเกือบหนึ่งปี กลับมาหาเธออีกครั้งพร้อมลูกชายอายุได้ขวบปีเดียว 

 

“เมพี่ฝากลูกไว้ก่อนนะ ลูกพี่ชื่อว่านาวิณ อีกไม่นานพี่จะกลับมารับลูก แต่ตอนนี้พี่ขอเวลาทำใจก่อน” 

 

จากวันนั้นจนวันนี้พี่ชายเธอและมารดาของเธอก็เป็นเช่นเดียวกัน ไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย เธอดูแลลูกชายของพี่ชายอยู่ได้ไม่นาน วิมลวรรณพี่สาวต่างมารดาก็มาพบเธอที่บ้าน เมื่อเห็นเธออยู่กับเด็กชายก็เข้าใจว่าเธอมีลูกชาย..

 

“ยัยเม นี้ลูกของแกใช่มั้ย แกไม่ต้องปฏิเสธฉันหรอก ฉันจะไม่บอกพ่อ แต่แกต้องให้ฉันอยู่ด้วยสักพัก จนกว่าฉันจะคลอดลูก” 

 

วิมลวรรณโกหกบิดาว่าถูกส่งตัวไปทำงานต่างประเทศ แต่แท้จริงแล้ววิมลวรรณท้องแก่ใกล้คลอดลูก เมื่อถึงกำหนดวันคลอดลูกมันก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่วิมลวรรณโกหกบิดาไว้ต้องกลับบ้านพอดี เมทินีจึงต้องคอยเป็นธุระพาวิมลวรรคไปคลอดลูก และส่งวิมลวรรณกลับบ้านตามกำหนดเวลาที่ได้โกหกบิดาไว้..

 

“เมเธอเขียนใบเกิดของลูกฉันให้หน่อยได้มั้ย” 

 

“เมฉันขอร้องเธอรับเป็นแม่ของเด็กแทนฉันได้มั้ย ฉันขอร้อง” 

 

มันเป็นครั้งแรกที่วิมลวรรณขอร้องเธอ ด้วยน้ำตา ที่เศร้าเสียใจ ในยามนั้นเธอไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแค่ว่าอีกไม่นานเมื่อวิมลวรรณเลิกเศร้าเสียใจก็คงจะกลับมารับลูกไปเลี้ยงเอง แต่เธอคิดผิด จากวันนั้นจนวันนี้วิมลวรรณหายตัวไป แล้วบิดาของเธอก็หายไปด้วยอีกคนโดยไม่ทราบสาเหตุ เธอส่งจดหมายไปหาบิดาแต่ไม่มีคนรับ ไม่นานเธอถึงได้รู้ว่าทุกคนย้ายไปทำธุรกิจและอาศัยอยู่ยังต่างประเทศ ทิ้งให้เธอใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังคนเดียว...จากวันนั้้นจนวันนี้เป็นเวลาห้าปีแล้วที่เธอต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง ด้วยหัวใจที่เจ็บปวด และไม่มีวันให้อภัยบิดา มารดา พี่ชาย พี่สาว...เสียงของลูกสาวเธอดังเข้ามาในความคิดเธออีกครั้ง เธอหยุดคิดเรื่องในอดีตแล้วกลับมาสนใจลูกสาวตัวน้อยทั้งสองคนของเธอ

 

 

…………………………………..

 


“แม่จ๋า แก้วคริสตัลสวยจังเลยนะจ๊ะแม่...” 

 

“จ๊ะลูกมันสวยมาก...” 

 

“กระต่าย กระแต อยากได้หรือเปล่าพี่จะไปเอามาให้...” 

 

“จริงหรือพี่นาวิณ พวกหนูอยากได้...” 

 

นาวิณลูกชายของเธอวิ่งตรงไปยังจุดที่วางขายคริสตัลเศษแก้วแห่งความทรงจำของเธอในอดีตที่พี่ชายของเธอเคยซื้อให้หรือพูดอีกอย่างก็คือลูกชายของเธอในยามนี้เขาถอดแบบและนิสัยของผู้เป็นบิดามาเฉกเช่นเดียวกันไม่มีผิดเพี้ยน  ไม่นานลูกชายของเธอก็วิ่งกลับมาพร้อมกับของขวัญสองชิ้น พร้อมการ์ดใบเล็กวางไว้บนกล่องสี่เหลียมมีโบว์สีชมพูผูกติดไว้ ลูกสาวทั้งสองคนของเธอหยิบการ์ดใบเล็กออกมาอ่านเสียงดังพร้อมกัน... 

 

“สุขสันต์วันเกิด กระต่าย กระแต สัตว์เลี้ยงที่น่ารักของพี่...นาวิณ” 

 

“พี่นาวิณ หนูขอบใจมาก” 

 

กระต่าย กระแต ลูกสาวของเธอเดินตรงไปหอมแก้มพี่ชายคนละข้างอย่างน่ารัก พี่ชายยิ้มแจ่มใสอย่างดีใจ เธอมองลูกๆ ของเธอแสดงความน่ารักอย่างมีความสุข ดีใจและภาคภูมิใจ แม้เธอจะเหนื่อยแสนเหนื่อย ยากแสนยาก ในเวลานี้ เมื่อได้เห็นลูกๆ มีความสุข เธอก็ได้รับรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำเพี่อพวกลูกๆ มันคุ้มค่าและไม่เสียเปล่า เธอจะไม่มีวันทอดทิ้งพวกเขา อย่างเช่นบิดา มารดาและทุกคนทอดทิ้งเธอ  วันนี้เธอมาฉลองวันเกิดอายุห้าขวบให้แก่ลูกสาวทั้งสองคน ยังสถานที่ครั้งหนึ่งเธอเคยมากับบิดามารดา เธอจองโต๊ะไว้มันคือโต๊ะตัวเดิมที่เธอเคยมานั่งทานกับบิดามารดาและพี่ชาย ในวันนี้เธอมานั่งทานกับลูกชายและลูกสาวสองคนแต่ความรู้สึกของความสุขยังคงเหมือนกับครั้งเก่าก่อน  อาหารสำหรับมื้อเย็นที่แสนอร่อยวางไว้เต็มโต๊ะ เธอเดินจูงมือลูกสาวไปนั่งยังเก้าอี้ที่จองไว้   วันนี้ไม่ใช่วันหยุดแต่ก็น่าแปลกใจที่โต๊ะอาหารถูกจองเต็มทุกโต๊ะ ผู้คนมากมายในชุดเสื้อผ้าที่แสนสวยงามละลานตาทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ชายหนุ่ม หญิงสาว ต่างวัยต่างอายุ แก่เฒ่าวัยชรา ต่างก็มาพร้อมสมาชิกในครอบครัวในชุดหรูหรา ฟูฟ่า เครื่องประดับสีเงินเหมือนคริสตัลคล้ายประกายเพชร ทั้งของจริงและของปลอม แยกกันไม่ออก..

 

 

เมทินี ลูกสาว ลูกชาย นั่งลงที่โต๊ะที่จองไว้เรียบร้อย ต่างยังไม่สนใจอาหารบนโต๊ะต่างจ้องมองตรงขึ้นไปยังบนเวที มีนักร้องในชุดราตรีสีดำเลี่ยมเพชรพลอยส่องประกาย แข่งขันกันกับแสงไฟและโคมไฟในห้องสวยงามน่าชม เสียงบทเพลงที่ร้องก็แสนไพเราะเหมาะที่จะนั่งฟังและทานอาหารไปด้วย ลานกว้างหน้าเวทีนักร้องจะเว้นไว้สำหรับเต้นรำมีตั้งแต่คู่เด็กเล็ก คู่รักวัยหนุ่มสาว จนกระทั้งคู่วัยเฒ่าคนชรา ก็จับคู่เต้นรำ แสดงความรักไม่เขินอายต่อสายตาสมาชิกที่ร่วมรับประทานอาหารเลยแม้แต่น้อย... 

 

 “แม่จ๋า กระต่าย กระแต และพี่นาวิณ ไปเต้นรำด้วยได้มั๊ยจ๊ะ” 

 

เธอหัวเราะขำลูกสาว ในความแก่แดดแก่ลมเธอเลี้ยงลูกตามใจไม่ได้บังคับ หากลูกต้องการจะทำสิ่งใดเธอจะสนับสนุนเต็มที่ ลูกสาวและลูกชายเธอจึงกลายเป็นนักเต้น นักร้อง เป็นศิลปินเต็มตัวชอบเล่นดนตรีไม่จำกัดชนิด หากลูกสาวและลูกชายต้องการอยากจะลองเล่นเครื่องดนตรีที่ลูกสาวทั้งสองคนชอบเล่นมากที่สุดก็น่าจะเป็นเปียโน ไวโอลิน เช่นเดียวกันกับลูกชายของเธอมีความสนใจในเครื่องดนตรีแบบเดียวกันกับน้องสาวฝาแฝดทั้งสอง...

 

“แม่จ๋ากระต่าย กระแตและพี่นาวิณ ชนะได้รับรางวัลอีกแล้ว แม่ดูสิคะ” 

 

ลูกสาวและลูกชายจะได้รับรางวัลจากทางโรงเรียนเป็นประจำ บางรางวัลโรงเรียนจะส่งไปประกวดตามงานต่างๆ ลูกชายและลูกสาวก็จะได้รับรางวัลติดไม้ติดมือกลับมา มากบ้างน้อยบ้างเธอไม่สนใจมากนัก ขอแต่ทำให้ลูกๆ เธอมีความสุขก็พอ..

 

 “แม่จ๋าหนูถามแม่ว่าหนูจะออกไปเต้นรำได้มั้ย...แม่ไม่เห็นตอบหนูเลย” 

 

“วันนี้เป็นวันสำคัญของลูก แม่ตามใจทุกอย่าง อยากทำอะไรก็ทำ อยากเต้นรำก็เต้น อยากร้องเพลงก็ร้อง อยากทานอาหารก็ทาน...ดีมั๊ยจ๊ะลูกจ๋า” 

 

“ดีจ่ะ แม่จ๋า...ใช่มั้ย กระแต พี่นาวิณ” 

 

ลูกชายและลูกสาวส่งรอยยิ้มด้วยความดีใจมอบให้ เธอส่งรอยยิ้มตอบรับแล้วพยักหน้าแล้วมองไปที่ลานกว้างหน้าเวทีเต้นรำอันหมายความว่าอยากเต้นก็ออกไปเต้นได้ ลูกน้อยทั้งสามคนของเธอเดินออกไปเต้นรำวนเวียนกันจับคู่เต้นรำอย่างสนุกสนาน เธอนั่งทานอาหารและนั่งดูลูกเธอเต้นรำอย่างมีความสุข เธอมีความรู้สึกแปลกประหลาดเหมือนว่ามีใครหลายคนกำลังจ้องมองเธอและลูกๆ อยู่ เธออาจจะคิดมากไปเองก็ได้..

 

 

........................................................ 

 

ภาคีนัยและพี่ชาย พร้อมบิดามารดาของเขากำลังนั่งจ้องมองหญิงสาวแสนสวยที่มีชื่อว่าเมทินี ที่ได้พาลูกๆ ของเธอมาทานอาหารและเต้นรำ วันนี้เธอดูโดดเด่นงามสง่ามากกว่าใครในห้อง ไม่ได้มีแต่เขาคนเดียวที่กำลังจ้องมองเธอผู้ชายนับสิบ นับร้อยต่างก็จ้องมองเธอไม่ละสายตา เขาเองรู้สึกอึดอัดใจมันคล้ายกับอาการหึงหวง เร่าร้อนแม้แต่พี่ชายเขาเองก็ไม่อยากให้จ้องมองเธอด้วยสายตาชื่นชมเช่นนั้น 

 

“นั้นใช่มั้ยนัย ลูกสาวฝาแฝด ของพี่ชายแก่”

 

“ครับคุณพ่อ ผมสืบมาแน่นอนแล้ว เป็นเด็กฝาแฝดสองคนนั้นจริงๆ”

 

วิมลวรรณส่งรูปเด็กน้อยฝาแฝดมาให้พี่ชายเขาหวังจะแบล็คเมล์ ให้ภาคีนัยแต่งงานด้วย แต่วิมลวรรณทำผิดพลาดอย่างมากมายที่ส่งรูปผู้หญิงแนบมาด้วยจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะตามหาในเมื่อเธอคนที่เขาต้องออกตามหาก็อยู่ใกล้กับเขามาโดยตลอดเวลา ดังนั้นเขาจึงให้นักสืบตามสืบประวัติไม่นานก็ได้รู้ความจริงทุกๆอย่าง...ได้รู้ว่าเมทินีรับเลี้ยงเด็กฝาแฝดเป็นเหมือนลูกของตัวเอง แต่ที่เขายังไม่รู้ก็คือเด็กชายหน้าตาคมสันที่เธอเรียกว่าลูกชายเป็นลูกจริงๆ ของเธอหรือเธอรับมาเลี้ยงเหมือนเช่นหลานสาวฝาแฝดของเขากันแน่ เขาไม่เคยพบเจอผู้หญิงคนไหนมีความซับซ้อนซ่อนอารมณ์ได้มากมายเท่ากับผู้หญิงที่ชื่อเมทินีอีกแล้ว...อย่างนี้ใช่มั้ย เขาถึงได้นึกชอบเธอแต่แรกพบ จนในเวลานี้เขารู้ตัวแล้วว่าได้ตกหลุมรักผู้หญิงที่ไม่สนใจเขา แต่มีหรือผู้ชายอย่างภาคีนัยจะยอมแพ้ อะไรที่เขาอยากได้ เขาจะต้องได้มาครอบครองให้ได้...

 

“เธอสวยอย่างนี้นี่เองลูกชายของคุณถึงมาถามเรา ว่าอยากแต่งงาน ฉันก็คิดว่าเขาพูดเล่น พอได้มาเห็นกับตาถึงรู้ว่าแม่หม้ายเรือพ่วง สวยโดดเด่นผิดผู้หญิงทั่วไป...คุณปิยะ...”

 

บิดาของเขาไม่ตอบคำถามมารดาของเขาแต่หันหน้ามาจ้องมองเขาแทน วันนี้เขาไม่คิดจะปรับแต่งสีหน้าเฉยชาอีกต่อไป เขาพร้อมจะเปิดเผยทุกอย่างผ่านสีหน้าและแววตาให้บิดาและมารดาเขาคาดเดาความรู้สึกของเขาได้ตามสบาย...

 

“วันนี้ลูกชายคุณมันส่งสายตาแวววาวเหมือนปลากัดเลยคุณ...สงสัยมันจะอยากแต่งงานจริงๆ คุณดวงสมร"

 

“อุ๊ย ! ไม่มีทางหรอกคะ คุณปิยะ...ถึงแม่หม้ายเรือพ่วงนั้นจะสวยงามสง่าโดดเด่น แต่ก็เป็นแม่หม้ายนะคะคุณ ฉันอายชาวบ้านเขาคะ ฉันคุยไว้เยอะมากใครถามฉันก็บอกเขาไปหมดแล้วสะใภ้ของฉันต้องเลือกนานหน่อยถึงจะได้ลูกสะใภ้ดีมีราคา แล้วฉันจะไปบอกพวกเพื่อนฉันได้อย่างไร ว่าฉันได้ลูกสะใภ้กระดังงาล้นไฟเป็นแม่หม้ายเรือพ่วง...ไม่มีวันฉันไม่ให้ลูกชายฉันแต่งด้วยเด็ดขาด”

 

“ผมจะแต่งครับ คุณพ่อ คุณแม่ ผมจะทำหน้าที่เป็นพ่อให้ลูกสาวของพี่ภพครับ”

 

“แก่ไม่ต้องมาอ้างเรื่องของพี่แก่เลยนะนัยลูกแม่ ถึงไม่มีเรื่องพี่แก่ก็คิดจะแต่งกับแม่หม้ายเรือพ่วงนั้นอยู่แล้ว”

 

“โธ่ คุณแม่ครับ ถ้าผมไม่แต่งแล้วหลานของแม่ละครับจะทำอย่างไร แม่จะพาหลานเข้าไปอยู่ในบ้านได้หรือครับ  คุณกานดาเธอจะได้ฆ่าหลานตายกันพอดี หากผมแต่งงานผมก็จะพาเมียผมเข้าไปอยู่ด้วยกันในบ้าน คุณพ่อคุณแม่ก็จะได้เจอหลานทุกวัน พี่ภพก็จะได้อยู่ใกล้ๆ ลูกด้วย และไม่ต้องกลัวคุณกานดามาฆ่าหลานๆ ด้วย เพราะผมเป็นพ่อจะคอยคุ้มครองลูกของผมและหลานของคุณพ่อคุณแม่เองครับ...นะครับคุณแม่ให้ผมแต่งงานนะครับ”

 

“โอ้โฮ นัยลูกพ่อ พูดซะคุณแม่ของลูกอึ้งจนอ้าปากไม่ออกเลย”

 

“คุณปิยะ คุณจะเข้าข้างฉันหรือเข้าข้างลูกกันแน่ คุณอยากได้แม่หม้ายเป็นสะใภ้อย่างนั้นหรือ”

 

“คุณดวงสมรคุณได้ยินแต่ลูกเราบอกจะแต่งงานกับผู้หญิงเขา แล้วเคยได้ยินหรือยังละว่าผู้หญิงเขาอยากแต่งงานกับลูกเราหรือเปล่า เท่าที่สามีเธอคนนี้สังเกตดูมันไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกนะ จริงมั้ยนัยลูกพ่อ”

 

ภาคีนัยไม่ตอบคำถามบิดา เพราะอย่างไรเขาก็จะต้องแต่งงานให้ได้แม้เมทินี จะยังไม่มีความรู้สึกรักชอบกับเขาก็ตามอย่างน้อยก็เพื่อพี่ชายของเขา และหลานสาวฝาแฝดของเขา ภาคีนัยจึงจะต้องแต่งให้ได้...ภาคีนัยคิดหาข้ออ้างเข้าข้างตัวเอง

 

“อย่างไรผมก็จะแต่งงานครับ คุณพ่อคุณแม่”

 

“โธ่ ลูกแม่ถ้าผู้หญิงเขา ไม่รักลูกก็อย่าแต่งเลยนะจะลูก”

 

“คุณดวงสมรพูดเบาๆ หน่อยอายโต๊ะข้างๆ เขาบ้าง

 

 

......................................................

 

จบบทที่ 5 ต่อบทที่ 6 โต๊ะข้างๆ คือมาวิณ



 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา