พันธะหัวใจ...ดวงใจรักซาตาน

10.0

เขียนโดย RATH

วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 23.22 น.

  12 chapter
  53 วิจารณ์
  95.92K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

12) บทที่ 12 วิมลวรรณย่ำกลองรบ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

http://www.keedkean.com

 

แจ้งเตือนบทนี้สำหรับบุคคลที่บรรลุนิิติภาวะแล้ว...ผู้เขียนให้ ฉ.18+ ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำหากยังไม่ถึง 18 + ได้้โปรดอย่าได้เปิดอ่าน..

 

 

บทที่ 12

 

 

 

วิมลวรรณย่ำกลองรบ

 

 

 

ณ ห้องพิเศษ โรงแรมระดับห้าดาว ขณะที่หลายๆคนกำลังมีปัญหาให้ต้องแก้ไข ทั้งปัญหาใหญ่และเล็กแตกต่างกัน ดังเช่นภาคีนัย ชายหนุ่มผู้กำลังสิ้นหวังในความรักแต่ก็พยายามจะช่วงชิงความรักที่เหมือนดังกับแสงของหิงห้อยกลับคืนมาให้จงได้ ส่วนประภพพี่ชายก็ต้องคอยเฝ้าดูแลพยาบาลภรรยาผู้สติไม่ดีและกำลังสลบไสลไม่รู้สึกตัวจากฝามืออันหนาใหญ่ของมาวิณที่ตบภรรยาของประภพจนสลบในการตบเพียงครั้งเดียว บิดามารดาของภาคีนัยและประภพก็ต่างเป็นทุกข์ในปัญหาของสมาชิกในครอบครัวทุกคนและยังปัญหาของหลานสาวฝาแฝดที่ไม่รู้ว่าพวกเขาจะสามารถแก้ไขปัญหาที่คาราคาซังจนสามารถรับหลานสาวทั้งสองมาเลี้ยงดูได้หรือไม่ ปัญหาของครอบครับภาคีนัยยังไม่สามารถแก้ไขได้อย่างง่ายๆ ปัญหาของครอบครัวมาวิณก็ต่างเป็นเช่นเดียวกัน ยังคงไม่สามารถแก้ไขได้เฉกเช่นเดียวกันเพราะปัญหาทุกๆ ปัญหาต่างก็พอจะสามารถสรุปได้มันคือปัญหาอย่างเดียวกันไม่สามารถแยกออกจากกันได้หรือแก้ปัญหาของใครของมันได้...

 

ทุกคนจึงตกอยู่ในวังวนของชะตากรรมอย่างเดียวกันต่างก็มีความเครียดแตกต่างกัน สาเหตุของปัญหาน่าจะมาจากทุกคนต่างไม่รู้ว่าจะไปเริ่มต้นแก้ปัญหาที่จุดใดหรือที่ไหนดี... ยิ่งขณะนี้ในห้องพิเศษของโรงแรมหรูหราระดับห้าดาว ยังมีหนึ่งหญิง หนึ่งชายผู้กำลังจะช่วยสร้างปัญหาเป็นดังวังวนไม่รู้จบ จนปัญหาที่ง่ายๆ จะยิ่งยากมากยิ่งขึ้น และเพิ่มความสลับสับซ้อนมากยิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว บุคคลทั้งสองมีนามว่าวิมลวรรณและจิมมี่ หนึ่งบุรุษกับหนึ่งสุภาพสตรีผู้กำลังหลงใหลอยู่ในเกมแห่งตัณหาราคะ จนหน้ามืดตามัว ยากจะถอดถอนตัวเองออกมาจากเกมอันเสียวซ่านสุดแสนความกำหนัดได้....

 

สองหนุ่มสาวต่างจ้องมองเรือนกายของฝ่ายตรงข้ามอย่างเสน่หาแห่งความกำหนัดของกลิ่นกายเนื้อหนังมังสาสุดแสนหอมหวนของฝ่ายตรงข้าม มันคือกลิ่นอารมณ์เพศที่เร่าร้อนสุดรุนแรงเสมือนดังทั้งสองต่างถูกชโลมหรือดื่มกินดำผุดดำว่ายอยู่ในแอ่งฟีโรโมนบริสุทธิ์ ทำให้บุคคลทั้งสองต่างถูกดึงดูดความต้องการของกันและกัน อย่างเช่นสัตว์ป่าสัญชาตญานเดรัจฉานที่ต่างดำรงชีวิตอยู่เพื่อการเสพสมสืบพันธุ์และขยายเผ่าพันธุ์เท่านั้น ขณะนี้จิตใจ วิญญาณและการรับรู้ของวิมลวรรณและจิมมี่ ต่างก็ถูกควบคุมด้วยสัญชาตญานเดรัจฉานของสัตว์ป่าอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ต่างกระโดดเข้าจู่โจมหากันเหมือนดังถูกตั้งโปรแกรมคำสั่งที่ไม่มีโปรแกรมคำสั่งใดหรือโปรแกรมของไวรัสชนิดใดสามารถแก้ไขได้ เสมือนดังพระเจ้าเป็นผู้เขียนโปรแกรมการเสพสมสืบพันธุ์ขยายเผ่าพันธุ์ให้แก่บุคคลทั้งสองอย่างสมบูณ์แบบ และคาดว่าโปรแกรมที่พระเจ้าเป็นผู้ลงมือเขียนและออกแบบเองกำลังจะติดไวรัสอย่างหาโปรแกรมอื่นมารักษาให้หายไม่ได้อีกแล้ว…

 

“กลิ่นตัวคุณหอมมากเลยคุณมล ผมจะบ้าตายอยู่แล้ว คืนนี้ขอให้ผมเป็นทาสรับใช้คุณมลเถอะนะครับ”

 

วิมลวรรณไม่สามารถตอบรับคำขอของจิมมี่ได้เพราะริมฝีปากของเธอถูกครอบครองโดยสมบูรณ์แบบแล้ว จิมมี่ใช้ลิ้นเกี่ยวพันหยอกล้อหารสหวานจากลิ้นในช่องปากเธอ ลิ้นของเธอถูกจิมมี่เกี่ยวพันธนาการไว้อย่างสมบูรณ์เหมือนดังกำลังถูกมัดตึงกับหลักเสาประหารชีวิตและกำลังเหมือนจะถูกปืนสั้นกำลังจ่อยิง วิมลวรรณไม่สามารถจะช่วยเหลือตัวเองได้อีกต่อไป จิมมี่สุดแสนจะเร่าร้อน วิมลวรรณไม่สามารถจะยับยั้งความต้องการของจิมมี่ไว้ได้อีกต่อไป จิมมี่ดูดกลืนชีวิตและลมหายใจของวิมลวรรณไปจนเกือบหมดสิ้น วิมลวรรณพยายามผลักดันจิมมี่ออกให้ห่างเพื่อเธอจะขอสูดลมหายใจเข้าให้เต็มปอดอีกครั้ง แต่จิมมี่รุกล้ำดูดกลืนชีวิตและลมหายใจสุดท้ายของวิมลวรรณต่อไป

 

“จิ...ม....มี ...มี่...ฉั...น....ต้อง...การ..อากาศ...หายใจ...”

 

จิมมี่ไม่รอฟังเสียงยกร่างกายอ่อนแรงแสนบอบบางของวิมลวรรณขึ้นไว้ในวงแขนแล้วเดินตรงไปยังเตียงติดสปริงในห้องสุดหรูด้วยแสงไฟจากโคมห้อยระย้าที่กำลังส่องแสงนวลตาจับที่ร่างกายเกือบเปลือยเปล่าของวิมลวรรณ  จิมมี่โยนร่างอ่อนแรงที่กำลังไร้เรี่ยวแรงต่อสู่หรือขัดขืนใดๆ ของวิมลวรรณลงบนเตียงติดสปริงจนล้มกลิ้งหน้าคะมำอย่างตุ๊กตาของเล่น จิมมี่ไม่รอช้าจับชุดตาข่ายเนื้อผ้าบางเบาอย่างขนนกสีขาวที่วิมลวรรณสวมใส่ไว้...ไม่ใช่เพื่อปิดบังเรือนร่างแสนสวยจากจิมมี่แต่เพื่อโชว์เรือนร่างอันสวยงามของวิมลวรรณภายใต้เนื้อผ้าบางเบานั้นแก่จิมมี่เพื่อทำให้ชายหนุ่มกลัดมันลุ่มหลงคลั่งไคลและมันก็สามารถทำให้จิมมี่ขาดสติการรับรู้ได้จริงๆ  จิมมี่ไม่คิดจะถอดชุดตาข่ายที่วิมลวรรณสวมใส่อยู่ให้เสียเวลาเพราะจิมมี่กำลังเร่าร้อนจนสุดจะควบคุมไว้ได้อีกต่อไป จิมมี่ใช้สองมือหนาใหญ่จับชุดตาข่ายนั้นเพียงเบาๆ อย่างกำลังของชายหนุ่มกลัดมันชุดตาขายสีขาวสุดบางเบาก็ขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้อย่างไม่ยากเย็นอะไรและไม่ต้องออกแรงมากมายอะไรด้วยเลย

 

“ แคว๊กกก...แคว๊กกก....แคว๊กก”

 

“จิ...ม...มี...มี่มมม...มันขาดหมด...แล้ว”

 

จิมมี่ไม่รอฟังว่าวิมลวรรณกำลังจะพูดหรือต้องการอะไร ขณะนี้ชุดตาข่ายบางเบาสีขาวของวิมลวรรณก็ขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนหมดสิ้นแล้ว มีแต่เศษชิ้นเล็กยังติดอยู่ที่ฝามือของจิมมี่ ...จิมมี่ไม่รอช้าปาเศษชิ้นผ้าเล็กๆทุกชิ้นทิ้งทันที สายตาแวววาวอย่างสัตว์ป่าจับจ้องมองเรือนร่างขาวนวลของวิมลวรรณอย่างกระสันในความกำหนัด จิมมี่ลุกขึ้นยืนตัวตรงปลดเข็มขัดกางเกงออกกองลงที่พื้นเตียงแล้วใช้เท้าเกี่ยวหนีบโยนลงที่พื้นข้างเตียงร่างกายท่อนบนคงเหลือแต่เสื้อเชิ้ตสีขาวที่ติดกระดุมไว้หลายเม็ด จิมมี่ไม่คิดจะแกะเม็ดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกที่ละเม็ด จิมมี่ใช้เพียงแค่สองมือใหญ่ดึงเสื้อเชิ้ตเพียงครั้งเดียวเม็ดกระดุมหลุดกระเด็นออกจากตัวเสื้อต่อหน้าต่อตาจนหาไม่เจอยกเว้นแต่แม้บ้านคนทำความสะอาดเท่านั้นถึงจะหามาคืนให้แก่จิมมี่ได้ ขณะนี้เสื้อที่สวมใส่ที่จิมมี่สวมใสอยู่ก็ขาดเป็นชิ้นๆ เช่นกันกับวิมลวรรณ ร่างกายของจิมมี่ไม่แตกต่างอะไรจากของวิมลวรรณ ทั้งสองมนุษย์กลัดมันแสนร้อนเร่าต่างก็อยู่ในชุดวันเกิดเหมือนเพิ่งคลอดออกมาจากครรภ์มารดา แต่มันต่างออกไปเพราะทั้งสองคนต่างก็มีรูปร่างสูงใหญ่ไม่ใช่เด็กเล็กๆอีกต่อไปแล้วเครื่องเพศอันเป็นสัญลักษณ์การสืบพันธุ์จึงใหญ่โตและเจริญวัยตามรูปร่างของทั้งสองคนไปด้วยเช่นกัน

 

“จิ...ม...มี...มี่มมม”

 

“เดี๋ยวเราคอยคุยกัน  เมื่อผมเสร็จธุระกับคุณมลแล้วนะครับ”

 

เรือนร่างเปลือยเปล่าของจิมมี่ขณะยืนตัวตรงมันได้โชว์เอ็นเนื้อแข็งแกร่งของอาวุธประจำกายแก่สายตาแวววาวของวิมลวรรณจนวิมลวรรณไม่สามารถจะพูดสิ่งใดหรือคิดอ่านอะไรได้อีกต่อไป ได้แต่รับฟังคำขอของจิมมี่เท่านั้น จิมมี่จ้องมองสายตาแวววาวอันเร่าร้อนของวิมลวรรณที่กำลังต้องการความกระสันเสียวซ่านจากรสชาดการเสพสมอย่างสัตว์ป่าเยี่ยงสัตว์ป่าจากจิมมี่ รอยยิ้มอย่างเหี้ยมเกียมด้วยความดีใจกึ่งภาคภูมิใจที่ได้เห็นแววตาของความพึงพอใจจากวิมลวรรณที่เธอไม่คิดว่าความบ้าคลั่งรุนแรงจากอารมณ์กลัดมันของจิมมี่เป็นสิ่งผิดบาปและทานทนไม่ได้อย่างน้อยจิมมี่ก็เห็นแววตาพึ่งพอใจในลีลาก่อนการร่วมรักแสนบ้าคลั่งอย่างสัตว์ป่าของเขาเป็นเรื่องดี ถูกใจ พอใจ และเป็นที่ปรารถนาของวิมลวรรณเช่นกัน  สายตาเรียกร้องส่งมาถึงจิมมี่อีกครั้งจิมมี่ไม่รอช้าก้มลงจับสองขาเรียวงามของวิมลวรรณประทับไว้ที่หัวไหล่ทั้งสองของตัวเองทันที ...เอ็นเนื้อเครื่องเพศของจิมมี่กำลังแข็งตัวชูชันอย่างเรียกร้องอยู่ระหว่างมุมสามเหลี่ยมระหว่างขาหนีบทั้งสองข้างของวิมลวรรณอย่างหยอกล้อเล่นก่อนจะค่อยๆกลืนหายเข้าไปสู่ตัวของวิมลวรรณอย่างรวดเร็วเร่าร้อนและรุนแรง เสียงกระแทกกระทันดังขึ้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอซึ่งมาพร้อมกับเสียงของความกระสันอย่างเสียวซ่านพึงพอใจ...

 

“จิ...ม...มี...มี่มมม...ได้โปรด”

 

“ได้โปรดอะไรคุณมล ขอผมมาได้เลย ผมพร้อมยอมเป็นทาสรับใช้เสมอ”

 

“จิ...ม...มี...มี่มมม...ได้โปรด”

 

“ไม่ต้องตอบผมก็ได้ ผมรู้แล้วว่าคุณมลต้องการจะขอสิ่งใดเพิ่มจากผม...หึ หึ”

 

จิมมี่ก้มลงเอาริมฝีปากของตัวเองประกบริมฝีปากวิมลวรรณขณะที่กำลังของขอความเมตตาจากจิมมี่อยู่ จิมมี่ดูดดื่มความหวานอย่างรุนแรงเร่าร้อน พร้อมเร่งเครื่องโยกย้ายสายสะโพกเป็นจังหวะของเพลงร็อคที่ป่าเถื่อนรุนแรงสม่ำเสมอมันไม่ได้เป็นเช่นจังหวะเพลงไทยเดิมหรือเพลงสุนทราภรณ์อีกต่อไปแล้ว เสียงการกระทบกระทันกันของเนื้อหนังมังสาระหว่างขั่วบวกและขั่วลบมันได้ปลดปล่อยกระแสไฟฟ้าแรงสูงล้อมรอบบุคคลทั้งสองไว้อย่างสมบูรณ์แบบบุคคลทั้งสองตอบรับจังหวะของกันและกันได้อย่างไม่มีจุดบกพร่องมันสมบูรณ์แบบเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์

 

“จิ...ม...มี...มี่มมม...ขอบคุณมาก คุณรู้ใจฉันจริงๆ”

 

“วัวเคยค้า ม้าเคยขี่....ผมกับคุณมลเราขับขี่กันมาจนได้ใบรับรองความปลอดภัยแล้วครับ ประสบกาณ์ทำให้ผมรู้ว่าเกียร์ไหนควรขับขี่อย่างรุนแรง หรือผ่อนหนักเบาเมื่อถนนขรุขระ จนเวลานี้ผมรู้แล้วว่าถนนสายไหนควรผ่อนเกียร์ ถนนสายไหนควรเร่งเครื่องเร่งเกียร์ให้รุนแรงยิ่งขึ้น และตอนนี้ผมก็รู้แล้วแล้วเมื่อล้อรถสึกหรอเราก็ควรเปลี่ยนยางล้อรถเสียใหม่ จริงมั้ยครับ หึ หึ”

 

 เมื่อจิมมี่พูดพรรณถึงความสามารถของตัวเองเสร็จเรียบร้อยขณะอยู่ในระหว่างการขับขี่และกระแทกกระทั้นอย่างสม่ำเสมอและรุนแรง จิมมี่ถือสิทธิของผู้ขับขี่และผู้ถือกุญแจรถหรูราคาแพงจิมมี่จ้องมองเรือนร่างแสนนุ่มนวลและอ่อนแรงที่กำลังกระหายน้ำมันหล่อลื่นจากเอ็นเนื้อจิมมี่เพิ่มมากขึ้น จิมมี่จึงคิดเปลี่ยนเกียร์และยางล้อที่กำลังจะสึกหรอเพื่อเพิ่มการหล่อลื่นและความกระสันให้มากยิ่งขึ้น... จิมมี่ใช้สองมือหนาใหญ่จับร่างอ่อนแรงนุ่มนิมของวิมลวรรณเปลี่ยนแปลงท่วงท่าลีลาการเสพสมแบบใหม่ในทันที วิมลวรรณถูกพลิกตัวตามแรงยกของสองมือหนาใหญ่ของจิมมี่ให้อยู่ในลักษณะเช่นม้าไม้ที่กำลังถูกลากจูงและขับขี่เข้าจู่โจมข้าศึกในสงครามเมืองทรอย*… แต่ในครั้งนี้วิมลวรรณเป็นได้แค่ม้าเพศเมียธรรมดาที่กำลังถูกจู่โจมจากข้าศึกอย่างหนักหน่วงและรุนแรงและสุดท้ายม้าศึกกำมะลอเช่นวิมลวรรณก็จะต้องพ่ายแพ้ต่อข้าศึกที่กำลังรุกลานเธออยู่ในขณะนี้อย่างแน่นอน….

 

“ผมขอเปลี่ยนยางล้อที่สึกหรอ หน่อยนะครับคุณมล การขับขี่ของเราจะได้นุ่มนวล วิ่งเร็วแรงและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น”

 

“ฉันให้คุณเป็นคนขับ ฉันย่อมตามใจคุณทุกอย่างอยู่แล้ว แต่เมื่อคุณขับขี่จนถึงจุดหมายปลายทางแล้ว คุณก็อย่าได้ลืมสัญญาระหว่างเราที่มีร่วมกัน...หากคุณไม่คิดหักหลังฉันคุณก็จะเป็นเพียงคนเดียวที่ได้ถือกุญแจรถหรูราคาแพงคันนี้ตลอดไป...แต่หากคุณคิดหักหลังฉัน ถึงแม้ว่าคุณจะระมัดระวังในการขับขี่ให้ปลอดภัยมากแค่ไหน ฉันก็จะพาคุณแหกโค้งร้อยศพตายอย่างอเนจอนาถร่วมกัน คุณว่าเป็นอย่างไรบ้างคะจิมมี่..”

 

“ผมคิดว่าเป็นแบบนี้ดีกว่าครับ คุณมล”

 

จิมมี่จับกุมเส้นผมสีดำดังนิลที่แข็งแรงจากการบำรุงรักษาอย่างดีขึ้นมาไว้จนเต็มกำมือ จนลำคอและใบหน้าของวิมลวรรณแงนเงยขึ้นมองเพดานดังม้าศึกที่กำลังถูกลงแซ่เคียนตีเพื่อให้สามารถวิ่งให้เร็วและต่อสู่กับข้าศึกที่มารุกรานได้มากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกันกับวิมลวรรณหญิงสาวที่คิดว่าจะสามารถควบคุมผู้ขับขี่ได้แต่ความจริงเธอต่างหากที่กำลังถูกผู้ขับขี่ลงแซ่เคียนตีและกำลังจะหมดสิ้นเรียวแรงและสุดท้ายวิมลวรรณก็จะถูกศัตทุ่มแทงด้วยอาวุธอันแหลมคมเข้าใส่อย่างต้องการให้วิมลวรรณยอมพ่ายแพ้ในเกมที่เธอไม่สามารถมีวันชนะได้ ทั้งจากผู้ขับขี่และข้าศึกที่มารุกรานเธอด้วยเช่นกัน...เสียงกระแทกกระทั้นจบลงใบหน้าที่แงนเงยและเส้นผมสีดำดังนิลถูกคายออกร่างอันหมดแรงของม้าศึกไม่สามารถพยุงตัวอยู่ได้ล้มลงกองกับพื้นเตียงนอนติดสปริงอันหนานุ่มอย่างไม่สามารถลุกเดินได้อีกต่อไป

 

“ผมขับถึงจุดหมายปลายทางแล้วครับคุณมล ผมขอขอบคุณในเครื่องยนต์ที่ดีและสตาดส์ติดง่ายของคุณมลมากนะครับ ผมสัญญาจะยอมเป็นทาสและคนขับขี่ที่ดีของคุณมลต่อไป ไม่มีวันหักหลังคุณมลแน่ แต่คุณมลต้องสัญญากับผมว่าผมคือผู้ถือกุญแจรถเพียงคนเดียว หากคุณมลคิดจะสำรองกุญแจไว้ให้แก่คนอื่นอีก ผมก็ไม่ขอรับประกันว่าการขับขี่ของเราจะปลอดภัยต่อไปเช่นกัน คุณมลคิดว่าเป็นอย่างไรบ้างครับ”

 

“ดี...เยี่ยมยอดมาก จิมมี่ คุณมันสุดยอดจริงๆ ฉันไม่มีวันปั๊มกุญแจสำรองไว้แน่ หากคุณยังเป็นผู้ขับที่ดีอย่างนี้ตลอดไป”

 

“อะไหล่เครื่องยนต์อย่างผม...รับรองว่าจะทำให้คุณมลวิ่งได้ดีได้คล่องไปอีกนานครับ”

 

“ฉันก็คิดเช่นนั้นเหมือนกันจิมมี่....เรื่องระหว่างฉันกับคุณมันสตาดส์ติดเร็วอยู่แล้ว แต่เรื่องงานที่ฉันให้คุณไปทำ คุณทำไปถึงไหนแล้ว จิมมี่”

 

จิมมี่ล้มตัวลงนอนเคียงข้างวิมลวรรณอย่างหมดเรี่ยวแรงเช่นกัน ผู้ขับขี่เช่นจิมมี่ต่างก็ต้องการการหยุดพักเพื่อเรียกกำลังกลับมาเช่นเดียวกันกับม้าศึกหรือรถยนต์ราคาแพงที่ต้องการน้ำหรือน้ำมันเพื่อหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์จะได้สามารถเดินทางต่อไปได้อีกนานๆ...จิมมี่ยังคงไม่ตอบคำถามของวิมลวรรณฝามือหนาใหญ่ล้อเล่นคลอเคียยอดปทุมถันสีชมพูสองข้างของวิมลวรรณอย่างหยอกล้อเล่นให้วิมลวรรณโกรธและโมโหเล่น...วิมลวรรณนึกโกรธที่จิมมี่ไม่ยอมตอบคำถามเธอแต่กับมาหยอกล้อเล่นกับยอดปทุมถันสีชมพูแสนนุ่มนวลของเธอเล่นแทน...

 

“จิมมี่ตอบคำถามฉันมา คุณทำงานไปถึงไหนแล้ว อย่ามัวบีบขยี้นมฉันเล่นอยู่เลย ฉันไม่ชอบ”

 

“จริงหรือที่คุณมลไม่ชอบ  ผมว่าคุณมลน่าจะชอบเสียมากกว่า  ผมจะพิสูจน์ให้ดู”

 

จิมมี่คายฝามือหยาบกร้านออกจากปทุมถันทั้งสองข้างของวิมลวรรณ แล้วขยับวงหน้าเข้าประชิดยอดปทุมถันสีชมพูอีกครั้ง แล้วขยับริมฝีปากเปื้อนรอยยิ้มหยอกล้อเล่นกับวิมลวรรณก่อนจะค่อยๆใช้ลิ้นอันสากและหนาอันร้อนแรงแสนอบอุ่นสะกิดเลียหยอกล้อเล่นที่เนินปทุมถันสีชมพูจนวิมลวรรณตัวเกร็งและสั่นน้อยๆอย่างเสียวกระสันและหิวกระหาย..

 

“เห็นมั้ย ผมบอกแล้วว่าคุณมลต้องชอบ”

 

เมื่อจิมมี่เอ่ยปากพูดล้อเล่นเป็นประโยคสุดท้ายจบลง ปากอันหนาใหญ่ก็อ้ากว้างพร้อมกับลิ้นอันสากร้อนอบอุ่นก็ประกบแนบชิดดูดกลืนยอดปทุมถันจนเต็มคำอย่างกำลังกัดกินลูกซาลาเปาสีขาวขนาดใหญ่อย่างเอร็ดอร่อย วิมลวรรณร้องเสียงดังอย่างยอมพ่ายแพ้ต่อสิ่งที่ได้ที่ได้ทำผิดไปเธอโกรธและโมโหจึงใช่อารมณ์ต่อจิมมี่โดยไม่ได้คิด...

 

“จิมมี่ฉันยอมรับ ฉันยอมรับแล้วว่าฉันชอบ ฉันยอมรับแล้ว”

 

จิมมี่คายลูกซาลาเปาขนาดใหญ่ออกแล้วยิ้มอย่างภาคภูมิใจในความสามารถของตัวเอง ที่สามารถทำให้วิมลวรรณยอมพ่ายแพ้ได้ในเวลาอันสั่น...

 

“ครั้งหน้าหากผมต้องการจะทำอะไรคุณมล อย่าได้บอกไม่ชอบอีกนะครับ ไม่เช่นกันผมจะพิสูจน์ความสามารถของผมให้คุณมลได้เห็นอีก”

 

“ตกลงจิมมี่ฉันตกลง  คุณจะทำอย่างไรกับฉันก็ได้ ฉันจะไม่ขัดใจคุณอีก ฉันสัญญา”

 

“หึ หึ...ดีมาก และขอบคุณ ผมสัญญาว่าจะรับใช้คุณมลอย่างซื่อสัตย์ ส่วนงานที่คุณมลให้ผมไปทำมันเรียบร้อยดีครับ เป็นไปตามแผนทุกอย่าง ตอนนี้โรสิตาตกอยู่ในกำมือผมแล้วครับ ผมได้เกาะกุมความลับบางอย่างของโรสิตาไว้แล้ว ไม่นานเธอต้องตกเป็นทาสความรักและความเสน่หาของผมแน่นอน คุณมลไม่ต้องห่วงเลยครับ ส่วนภาคีนัยผมไม่แน่ใจนักว่าคุณมลจะสามารถควบคุมผู้ชายมากรักคนนี้ได้หรือเปล่า ผู้ชายเจ้าชู้มากรักดังเช่นคุณภาคีนัย ต่อให้พระเจ้าก็ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงเปลี่ยนใจได้ง่ายๆหรอกจะครับและยิ่งไม่ยอมตกเป็นทาสรักความเสน่หาของใครง่ายๆ อย่างเช่นผมจิมมี่ทาสผู้ซื่อสัตย์คนนี้อย่างแน่นอนครับ คุณมลคงต้องใช้ความพยายามและแผนการที่เลวร้ายชั่วช้ากว่านี้หรือให้มากยิ่งขึ้นแล้วละครับ และผมจิมมี่จะคอยอยู่ช่วยเหลือในแผนการชั่วร้ายของคุณมลตลอดไปครับ..”

 

“ขอบคุณมากจิมมี่ ฉันขอบคุณคุณมาก ขอบคุณมากจริง”

 

“ถ้าขอบคุณผมอย่างนั้นคุณมลก็ต้องพิสูจน์สิครับ”

 

“ฉันพิสูจน์ไปแล้ว คุณยังไม่พออีกหรือ จิมมี่”

 

“ครั้งแรกแค่อุ่นเครื่องครับ ครั้งที่สองเครื่องผมเริ่มหล่อลื่นพุ่งแรงมากยิ่งขึ้นอีกแล้วครับ ผมพร้อมจะขับขี่อย่างรวดเร็วและรุนแรงอีกครั้งแล้วครับคุณมล”

 

“แต่ฉันยังไม่พร้อม ฉันต้องได้น้ำมันเครื่องเสียก่อนถึงจะไปต่อได้”

 

“อย่างนั้นผมเติมให้คุณมลเองครับ คุณมลชอบแบบปลอดสารพิษใช่มั้ยครับ”

 

“ไม่ ฉันยังไม่อยากได้น้ำมันตอนนี้ อย่าเพิ่งเติมให้ฉัน”

 

จิมมี่ไม่รอฟังเสียงเอ็นเนื้อแข็งตัวอีกครั้งความยาวใหญ่ของเอ็นเนื้อกำลังจะเข้าต่อเติมน้ำมันเครื่องให้แก่วิมลวรรณในครั้งที่สองจิมมี่จับลากสองขาของวิมลวรรณเข้ามาใกล้สายยางเพื่อเติมน้ำมันเครื่องในการขับขี่ต่อไป แม้วิมลวรรณพยายามขัดขืนก็ไร้ผล เอ็นเนื้อแข็งเกร็งรุกล้ำเข้าไปสู่ตัวของวิมลวรรณเรียบร้อยแล้ว แล้วเสียงการกระแทกกระทั้นอย่างต่อเนื่องก็ส่งเสียงดังต่อไป และค่ำคืนของราตรีอันมืดมิดแห่งห้วงตัณหาราคาของคนทั้งสองต่อดำเนินต่อไปอย่างไม่จบสิ้น...และในวันรุ่งขึ้นสองหนุ่มสาวผู้มีความคิดที่ชั่วร้ายที่ต้องการจะสร้างความเจ็บปวดแสนเศร้าตรม พร้อมปัญหานานาชนิดแก่บุคคนอื่นอีกมากมาย แม้จะยังไม่ทราบแน่ชัดว่าบุคคลแสนโชคร้ายผู้นั้นเป็นใครหรือผู้ใดกันแน่ แต่มีบุคคลหนึ่งบุคคลเดียวที่เป็นบุคคลในความนึกคิดของวิมลวรรณ ที่เธอต้องการและคิดดำนึงถึงอย่างมากมายเขาผู้นั้นมีนามว่าภาคีนัย...ผู้ชายที่วิมลวรรณจะต้องได้มาครอบครองให้จงได้ แม้ต้องต่อสู่จนตัวตายก็ยอม...

 

“ภาคีนัย...ภาคีนัย...”

 

“ผมชื่อจิมมี่ ครับคุณมล”

 


 .........................................................................................................................................

จบบทที่ 12 ต่อบทที่ 13   ชะตากรรมที่เจ็บปวดและการแก้แค้น

 

 ..........................................................................................................................................

 

ม้าไม้เมืองทรอย


 

 

http://www.keedkean.com

 

 

 

.................................................................................................................................................

*เมืองทรอย (Troy) ที่มีชื่อเสียงมาแต่ในอดีตที่ถูกสร้าง ขึ้นมาประมาณ 4,000 ปีมาแล้ว ซึ่งในอดีตผู้คนส่วนมากคิดว่าเป็นนิยายที่แต่งขึ้นมาและนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ แต่ในศตวรรษที่19 ได้มีการขุดค้นและพบซากเมืองโบราณที่เป็นเมืองทรอยในอดีต

 

 

เครดิตจาก:http://travel.thaiza.com/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2TROY_1212_137976_1212_.html

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา